ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - อัญณา

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 ... 53
1

   
         ประกันสุขภาพ เป็นการประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันกรณีที่ผู้เอาประกันเจ็บป่วยจากโรคหรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ที่ส่งผลให้ผู้เอาประกันต้องเข้ารักษาอาการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ โดย บริษัทประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามความคุ้มครองที่ตกลงไว้

        ประกันสุขภาพมี 2 รูปแบบ คือประกันสุขภาพแบบแยกค่าใช้จ่ายและประกันสุขภาพเหมาจ่าย แต่ก่อนที่จะไปดูว่าประกันสุขภาพแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร เรามาทำความรู้จักคำว่า OPD กับ IPD กันก่อน เพื่อให้เข้าใจเงื่อนไขความคุ้มครอง จากนั้นเราจึงจะมาเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมและคุ้มค่าให้กับตัวเอง

OPD คือ อะไร

          OPD คือ คำเรียกกลุ่มผู้ป่วยนอก ย่อมาจาก Out Patient Department ผู้ป่วยนอก หมายถึงผู้ป่วยที่มาเข้ารับการรักษาแล้วสามารถกลับบ้านได้เลย โดยไม่ต้องนอนพักรักษาที่โรงพยาบาล
          ความคุ้มครองของประกันสุขภาพ OPD ได้แก่ ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยนอก เช่น ค่าพบแพทย์ ค่าทำแผล ค่ายา และค่ารักษาพยาบาลอื่น ๆ สำหรับการรักษาพยาบาลที่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง

IPD คือ อะไร

        IPD คือ คำเรียกกลุ่มผู้ป่วยใน ย่อมาจาก In Patient Department ผู้ป่วยใน หมายถึง ผู้ป่วยที่มาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมากกว่า 6 ชั่วโมง หรือต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล
ความคุ้มครองของประกันสุขภาพ IPD ได้แก่ ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยใน เช่น ค่าแพทย์ ค่าพยาบาล ค่าผ่าตัด ค่ายา ค่าห้อง ค่าอาหาร เป็นต้น

          ดังนั้น ในการเลือกประกันสุขภาพจำเป็นต้องดูความคุ้มครองให้ครอบคลุมทั้ง OPD และ IPD เพราะความเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี ส่วนความเจ็บป่วยหรือการบาดเจ็บรุนแรง หากมีประกันสุขภาพหรืออุบัติเหตุที่ให้ความคุ้มครองอยู่แล้วก็ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้ไม่น้อย
ในส่วนของประกันสุขภาพที่มีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบนั้น มีเงื่อนไขของค่ารักษาพยาบาล ดังนี้

          ประกันสุขภาพแบบแยกค่าใช้จ่าย เป็นประกันสุขภาพที่แยกวงเงินความคุ้มครองในแต่ละรายการ เช่น วงเงินค่าห้องพัก วงเงินค่ารักษา วงเงินค่าการตรวจของแพทย์ เป็นต้น ซึ่งค่าใช้จ่ายแต่ละรายการสามารถเบิกได้ตามจริง แต่ไม่เกินวงเงินที่กำหนดไว้ของรายการนั้น ๆ ซึ่งอาจไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ในขณะเดียวกันก็อาจมีวงเงินบางรายการที่ไม่ได้ถูกใช้ หรือใช้ไปไม่มาก แต่ก็ไม่สามารถนำมาชดเชยค่าใช้จ่ายส่วนเกินของรายการอื่นได้ แต่เมื่อเปรียบเทียบ เบี้ยประกันสุขภาพ แล้ว เบี้ยประกันสุขภาพแบบแยกค่าใช้จ่ายจะต่ำกว่า เบี้ยประกันสุขภาพ แบบเหมาจ่าย

           ประกันสุขภาพเหมาจ่าย เป็นประกันสุขภาพที่เหมารวมค่าใช้จ่ายทุกรายการโดยกำหนดวงเงินสูงสุดต่อปี โดยอาจมีเงื่อนไขวงเงินของบางรายการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแผนประกันสุขภาพนั้น ๆ และถึงแม้ เบี้ยประกันสุขภาพ จะสูงกว่า ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย ก็ยังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1. ยืดหยุ่น เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลไม่ได้จำกัดวงเงินของแต่ละรายการ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการรักษาพยาบาลมากกว่า
2. ครอบคลุม ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายครอบคลุมการรักษาพยาบาลทุกรายการ เพราะจ่ายตามจริงไม่เกินวงเงินสูงสุด แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละกรมธรรม์ด้วย
3. เคลมง่าย เนื่องจากไม่ต้องแจกแจงค่าใช้จ่ายของแต่ละรายการให้ยุ่งยาก เพียงแค่ยอดรวมไม่เกินวงเงินที่กำหนดไว้สูงสุดก็พอ
4. ไม่ซับซ้อน การเหมารวมค่าใช้จ่าย ทำให้ไม่ต้องคอยกังวลว่าต้องจ่ายส่วนต่างในรายการใดบ้าง

        หากคุณสนใจประกันชีวิตสุขภาพ ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ที่มีให้เลือกหลากหลายตามความต้องการ ครอบคลุมการรักษาพยาบาลทั้ง OPD และ IPD สมัครง่าย ได้จริง คลิกเลยที่ https://online.scbprotect.co.th/ คลิกเลยวันนี้ เพื่อรับความคุ้มครองสุขภาพที่ครอบคลุมทุกความต้องการของคุณ



2

   ข้อดีของการมีธุรกิจเป็นของตัวเองคือสามารถกำหนดเวลาทำงานที่เราต้องการ สร้างกฎระเบียบอย่างที่เราต้องการ ได้ใช้ความสามารถที่มีอยู่อย่างเต็มที่ เพราะทำทุก ๆ อย่างด้วยตัวเอง ได้เริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ และทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยสร้างงานให้กับคนอื่น ๆ ด้วย

   การเริ่มต้นธุรกิจในรูปแบบของ SME ที่ใช้เงินลงทุนไม่สูงและจำนวนคนไม่มากเป็นทางเลือกที่ช่วยให้เริ่มต้นธุรกิจได้ง่าย แต่ด้วยขนาดของธุรกิจที่มีข้อจำกัดของเงินทุนและกำลังคน จึงต้องเลือกทำตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือเฉพาะพื้นที่ ซึ่งมีข้อดีคือทำให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย

   ด้วยข้อจำกัดในเรื่องขนาดของธุรกิจตามที่กล่าวมา เมื่อ SME ต้องการ หาแหล่งเงินทุน สินเชื่อเพื่อธุรกิจเพื่อเสริมสภาพคล่องและต่อยอดธุรกิจ เราจะได้เงินทุนหรือสินเชื่อจากที่ไหนได้บ้าง
   เราแบ่งแหล่งที่มาเงินทุน เป็น 2 แหล่งดังนี้ คือแหล่งเงินทุนที่เป็นส่วนของทุน และแหล่งเงินทุนที่เป็นส่วนของหนี้สิน
      
แหล่งเงินทุนส่วนของหนี้สิน
   1. เงินทุนจากการให้เครดิตทางการค้า ซึ่งเกิดจากการที่ผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายสินค้าให้สินค้าหรือบริการมาก่อน และให้เราจ่ายเงินค่าสินค้านั้นในภายหลังตามระยะเวลาที่กำหนด เช่น 30 วัน เป็นต้น เงินทุนจากเครดิตทางการค้า เป็นเงินทุนหมุนเวียนที่เกิดขึ้นอัตโนมัติจากการดำเนินธุรกิจ
   2. เงินทุนจากสินเชื่อเครื่องจักรหรือสินทรัพย์ เป็นการให้สินเชื่อของผู้จำหน่ายเครื่องจักรหรือธนาคารที่ทำให้กิจการได้เครื่องจักรหรือสินทรัพย์เพื่อใช้ในการดำเนินงานมาก่อน และชำระค่าเครื่องจักรหรือสินทรัพย์นั้นโดยการผ่อนชำระเป็นงวด ทำให้กิจการไม่ต้องใช้เงินจำนวนมากในคราวเดียว

      ข้อดีของการ หาแหล่งเงินทุน ที่เป็นส่วนของหนี้สินคือ SME มีความรับผิดชอบเฉพาะเงินต้นและดอกเบี้ยจ่ายเท่านั้น ต่างจากแหล่งเงินทุนที่เป็นส่วนของทุนที่นอกจาก SME ต้องรับผิดชอบส่วนแบ่งกำไรหรือเงินปันผลจากการดำเนินธุรกิจให้ผู้ลงทุนแล้ว ผู้ลงทุนอาจเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารงานด้วย ส่งผลให้ SME มีอิสระน้อยลงจากเดิม

   อย่างไรก็ตาม เมื่อ SME ต้องการ หาแหล่งเงินทุน โดยที่ยังคงต้องการอิสระในการจัดการอย่างที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจ เราขอแนะนำสินเชื่อเพื่อ SME จากธนาคารกรุงไทย ที่กู้ง่าย ผ่อนสบาย และช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปไม่สะดุด ที่สำคัญมีสินเชื่อเพื่อ SME ให้เลือกหลากหลายประเภท สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก ยกตัวอย่างเช่น

         สินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจ ที่กู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ยกเว้นดอกเบี้ย 6 เดือนแรก และพักชำระเงินต้น 6 เดือนแรก โดยมีระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 10 ปี คลิกดูรายละเอียดได้ที่ https://krungthai.com/th/content/personal-loan/softloan

        สินเชื่อเพื่อ EEC ดอกดี ผ่อนชิว เป็นสินเชื่อที่ช่วยต่อยอดธุรกิจของ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด วงเงินกู้สูง ดอกเบี้ยคงที่ปีแรก และผ่อนนานสูงสุด 10 ปี คลิกดูรายละเอียดได้ที่ https://krungthai.com/th/content/sme/loan/sme-eec4

          สินเชื่อกรุงไทยเพื่อธุรกิจเกษตรแปรรูป สินเชื่อธุรกิจ ที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการแปรรูป พืช ผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ ทั้งที่เป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่าย ให้วงเงินสูงสุด 3 เท่าของหลักทรัพย์ ดอกเบี้ยต่ำสุด 4% และผ่อนได้นาน 10 ปี คลิกดูรายละเอียดได้ที่ https://krungthai.com/th/content/sme/loan/agriproduct-processing

   นอกจากสินเชื่อที่ยกตัวอย่างมาแล้ว ยังมีสินเชื่อต่อยอดธุรกิจ อีกหลายประเภทที่ช่วยต่อยอดธุรกิจและยังให้ SME มีอิสระในการบริหารงานต่อไป สอบถามสินเชื่อเพื่อ SME ประเภทต่าง ๆ ได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ หรือคลิกดูรายละเอียดได้ที่ https://krungthai.com/th/content/sme/loan

3
    บัญชี fcd คือบัญชีเงินฝากสำหรับบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ต้องการฝากเงินเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ ฝากเงินต่างประเทศ
สำหรับ บุคคลธรรมดาสามารถเปิดบัญชี FCD ได้ในหลายรูปแบบเช่นเดียวกันกับบัญชีเงินบาท ดังนี้

บัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์
1.1  FCD Saving แบบมีสมุดบัญชี สามารถแลกเงินได้ 11 สกุลเงิน
1.2  Krungthai Global Savings (e-FCD) สามารถแลกเงินได้ 20 สกุลเงิน เหมาะสำหรับลูกค้าที่มีการใช้เงินตราต่างประเทศอยู่เสมอ สามารถฝาก โอน ลงทุน ใช้จ่าย และท่องเที่ยวในสกุลเงินต่างประเทศได้ครบจบในบัญชีเดียว

บัญชีเงินฝากประเภทประจำ ฝากเงินต่างประเทศดอกเบี้ยสูง

สามารถแลกเงินได้ 11 สกุลเงิน
เหมาะสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดา ที่ต้องการรับผลตอบแทนที่สูง ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ

บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน
ไม่มีดอกเบี้ยและไม่มีบริการออกเช็ค

การฝากเงินดอลลาร์ และสกุลเงินอื่นๆ สำหรับบุคคลธรรมดากับธนาคารมี 3 รูปแบบ คือ

บัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์ FCD
1.1  FCD Saving แบบมีสมุดบัญชี จ่ายดอกเบี้ยปีละ 2 ครั้ง (มิถุนายนและธันวาคม)
1.2 บัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์ Krungthai Global Savings จ่ายดอกเบี้ยปีละ 2 ครั้ง (มิถุนายนและธันวาคม)
บัญชีเงินฝากประเภทประจำ FCD
จ่ายดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่กำหนด หากถอนเงินฝากประจำก่อนครบกำหนดจะถูกหักดอกเบี้ย 2% จากอัตราที่กำหนดไว้
บัญชีกระแสรายวัน FCD ไม่มีดอกเบี้ยและไม่มีบริการออกเช็ค



4

       ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างสามารถทำได้ผ่านสมาร์ทโฟน การสมัครสินเชื่อก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีแอปธนาคารที่ช่วยให้คุณสามารถสมัครสินเชื่อได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเดินทางไปยังสาขา ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 5 แอปธนาคารที่มีบริการสมัครสินเชื่อที่สะดวกสบายและรวดเร็ว แอพโอนเงินผ่านโทรศัพท์ทุกธนาคาร

1. แอปธนาคารกรุงเทพ (Bangkok Bank)
แอปธนาคารกรุงเทพเป็นหนึ่งในแอปที่มีความนิยมสูง โดยมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสมัครสินเชื่อส่วนบุคคลได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สาขา คุณสามารถกรอกข้อมูลและแนบเอกสารที่จำเป็นได้ผ่านแอป ทำให้การสมัครสินเชื่อเป็นไปอย่างรวดเร็ว

จุดเด่น
ระบบการตรวจสอบที่รวดเร็ว
มีบริการให้คำปรึกษาออนไลน์
สามารถติดตามสถานะการสมัครได้ตลอดเวลา

2. แอปธนาคารกสิกรไทย (Kasikorn Bank)
แอปธนาคารกสิกรไทยมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้การสมัครสินเชื่อเป็นไปอย่างสะดวกสบาย โดยคุณสามารถเลือกประเภทสินเชื่อที่ต้องการได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลหรือสินเชื่อบ้าน

จุดเด่น
ขั้นตอนการสมัครที่เข้าใจง่าย
มีเครื่องมือคำนวณสินเชื่อให้บริการ
บริการลูกค้าออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง

3. แอปธนาคารไทยพาณิชย์ (Siam Commercial Bank)
แอปธนาคารไทยพาณิชย์มีความสามารถในการสมัครสินเชื่อได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคลที่สามารถสมัครได้ภายในไม่กี่นาที

จุดเด่น
การอนุมัติสินเชื่อที่รวดเร็ว
มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้สมัครใหม่
ระบบรักษาความปลอดภัยที่มีมาตรฐานสูง

4. แอปธนาคารกรุงไทย (Krung Thai Bank)
แอปธนาคารกรุงไทยเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสินเชื่อ โดยมีฟีเจอร์ที่ใช้งานง่ายและสามารถส่งเอกสารได้ผ่านแอปพลิเคชัน

จุดเด่น
มีบริการให้คำปรึกษาออนไลน์
ขั้นตอนการสมัครที่ไม่ยุ่งยาก
สามารถตรวจสอบสถานะการสมัครได้ตลอดเวลา

5. แอปธนาคารออมสิน (Government Savings Bank)
แอปธนาคารออมสินมีบริการสินเชื่อที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินด่วน โดยสามารถสมัครได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน โดยไม่ต้องไปที่สาขา

จุดเด่น
มีสินเชื่อที่หลากหลายตามความต้องการ
การอนุมัติที่รวดเร็วและโปร่งใส
มีการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ตลอดการสมัคร


การสมัครสินเชื่อผ่านแอปโอนเงินธนาคารในปัจจุบันเป็นเรื่องที่สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น คุณสามารถเลือกแอปที่ตรงกับความต้องการของคุณได้จาก 5 แอปธนาคารที่เราแนะนำข้างต้น ไม่ว่าคุณจะต้องการสินเชื่อส่วนบุคคลหรือสินเชื่อประเภทอื่น ๆ หรือผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องไปที่สาขา
หากคุณกำลังมองหาสินเชื่อที่เหมาะกับคุณ อย่ารอช้า! ดาวน์โหลดแอปธนาคารที่คุณสนใจและเริ่มต้นการสมัครสินเชื่อได้ทันที!


5


การสร้างบ้านเป็นหนึ่งในความฝันที่หลายคนต้องการทำให้เป็นจริง แต่การกู้เงินเพื่อสร้างบ้านนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การแข่งขันสูงและเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อเข้มงวดขึ้น ในบทความนี้เราจะมาแชร์เทคนิคที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อกู้ปลูกบ้านให้กับคุณ

 1. เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน

เอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในการขอสินเชื่อกู้ธนาคารสร้างบ้านมีหลายประเภท เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สลิปเงินเดือน หรือเอกสารแสดงรายได้อื่นๆ รวมถึงแผนการสร้างบ้านและงบประมาณที่ชัดเจน การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนจะช่วยให้กระบวนการอนุมัติสินเชื่อเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

 2. ตรวจสอบเครดิตบูโร

เครดิตบูโรเป็นข้อมูลสำคัญที่ธนาคารใช้ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ หากคุณมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี จะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อได้มากขึ้น ดังนั้นควรตรวจสอบเครดิตบูโรของคุณก่อนที่จะยื่นขอสินเชื่อ และหากพบข้อผิดพลาดควรแก้ไขให้เรียบร้อย

 3. วางแผนการเงินที่ชัดเจน

การวางแผนการเงินที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการขอสินเชื่อ ควรคำนวณรายได้และค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถชำระหนี้ได้ในอนาคต นอกจากนี้ การมีเงินออมเพื่อใช้เป็นเงินดาวน์ก็จะช่วยลดภาระหนี้สินและเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ

 4. เลือกธนาคารที่เหมาะสม

แต่ละธนาคารมีเงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน ควรทำการเปรียบเทียบและเลือกธนาคารที่มีเงื่อนไขที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด นอกจากนี้ ควรสอบถามเกี่ยวกับโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษที่อาจช่วยลดค่าใช้จ่ายในการกู้เงินปลูกบ้าน
 5. สร้างความน่าเชื่อถือ

การสร้างความน่าเชื่อถือกับธนาคารเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ คุณสามารถทำได้โดยการแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบทางการเงิน เช่น การมีบัญชีออมทรัพย์ที่มีเงินฝากอยู่เป็นประจำ หรือการมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี

 6. ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ

หากคุณรู้สึกไม่มั่นใจในการขอสินเชื่อ ควรขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหรือที่ปรึกษาสินเชื่อ พวกเขาสามารถช่วยวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเงินของคุณและให้คำแนะนำที่เหมาะสม


การกู้เงินเพื่อสร้างบ้าน กู้เงินซื้อบ้าน ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากคุณมีการเตรียมตัวและวางแผนอย่างรอบคอบ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อได้มากขึ้น อย่าลืมตรวจสอบเอกสารให้ครบถ้วน วางแผนการเงินที่ชัดเจน และเลือกธนาคารที่เหมาะสม เพื่อให้การสร้างบ้านของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือคำปรึกษาเกี่ยวกับการกู้เงินสร้างบ้าน สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินได้ทันที เพื่อให้คุณสามารถทำความฝันในการสร้างบ้านให้เป็นจริงได้ในเร็ววัน!



6


การลงทุนในประเทศไทยมีหลายรูปแบบที่ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถเพิ่มผลตอบแทนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบัญชีฝากประจำปลอดภาษีและกองทุนรวม LTF/RMF ซึ่งเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุน วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างบัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษีและกองทุนรวม LTF/RMF เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บัญชีฝากประจำปลอดภาษี

ความหมายและลักษณะ

บัญชีเงินฝากปลอดภาษีคือบัญชีที่ผู้ฝากเงินสามารถฝากเงินเป็นระยะเวลาที่กำหนด โดยเงินฝากประจําดอกเบี้ยสูงมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป และที่สำคัญคือดอกเบี้ยที่ได้รับจะไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนสามารถเก็บเงินได้มากขึ้น

ข้อดี

1. ปลอดภาษี: ดอกเบี้ยที่ได้รับไม่ต้องเสียภาษี ทำให้คุณได้รับผลตอบแทนเต็มจำนวน
2. ความเสี่ยงต่ำ: เงินฝากในบัญชีนี้มีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากมีการคุ้มครองจากธนาคารแห่งประเทศไทย
3. การเข้าถึงเงิน: ผู้ฝากสามารถถอนเงินได้เมื่อครบกำหนดระยะเวลา

ข้อเสีย

1. อัตราดอกเบี้ยคงที่: อัตราดอกเบี้ยอาจไม่สูงเท่ากับการลงทุนในกองทุนรวม
2. การจำกัดระยะเวลา: ต้องฝากเงินเป็นระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งอาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเข้าถึงเงิน

กองทุนรวม LTF/RMF

ความหมายและลักษณะ

กองทุนรวม LTF (Long Term Equity Fund) และ RMF (Retirement Mutual Fund) เป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์อื่น ๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุนระยะยาว และให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาว

ข้อดี

1. ผลตอบแทนที่สูงกว่า: การลงทุนในกองทุนรวมมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าบัญชีฝากประจำ
2. การกระจายความเสี่ยง: การลงทุนในกองทุนรวมช่วยกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท
3. สิทธิประโยชน์ทางภาษี: นักลงทุนสามารถนำเงินลงทุนใน LTF/RMF ไปหักลดหย่อนภาษีได้

ข้อเสีย

1. ความเสี่ยงสูง: การลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยงสูงกว่าการฝากเงินในบัญชี
2. การเข้าถึงเงิน: ต้องลงทุนเป็นระยะเวลานาน ทำให้ไม่สามารถถอนเงินได้ตามต้องการ

คำแนะนำในการเลือกลงทุน

การเลือกลงทุนระหว่างฝากประจําดอกเบี้ยสูงและกองทุนรวม LTF/RMF ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การลงทุนและระดับความเสี่ยงที่คุณสามารถรับได้ หากคุณต้องการความปลอดภัยและผลตอบแทนที่แน่นอน บัญชีฝากประจำอาจเป็นทางเลือกที่ดี แต่ถ้าคุณต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้นและยอมรับความเสี่ยงได้ กองทุนรวม LTF/RMF จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

การลงทุนเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องเลือกระหว่างบัญชีฝากประจำปลอดภาษีและกองทุนรวม LTF/RMF ควรทำความเข้าใจในข้อดีและข้อเสียของแต่ละประเภท เพื่อให้การลงทุนของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดีที่สุด

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนหรือคำแนะนำทางการเงิน สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเพื่อขอคำปรึกษาได้เลย!


7



   ถึงแม้เราพยายามดูแลรักษาสุขภาพเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การพักผ่อนให้เพียงพอ และการทำจิตใจให้แจ่มใสแล้ว แต่โรคภัยไข้เจ็บหรืออุบัติเหตุก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นกับเราได้ การมีประกันชีวิตสุขภาพช่วยให้เราอุ่นใจเมื่อเกิดเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ ด้วยการดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้ ทั้ง opd และ ipd รวมถึงชดเชยรายได้ให้เราเมื่อต้องนอนพักรักษาตัวด้วย
   opd คือ คำเรียกกลุ่มผู้ป่วยที่มารักษาที่โรงพยาบาลโดยไม่ต้องนอนพัก สามารถกลับบ้านได้เลย
   ipd คือ คำเรียกกลุ่มผู้ป่วยที่มารักษาที่โรงพยาบาลโดยต้องนอนพักรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาล ไม่สามารถกลับบ้านได้ทันที
   การชดเชยรายได้ คือ ค่าสินไหมทดแทนรายวันเมื่อผู้เอาประกันต้องหยุดงานเพื่อพักรักษาตัว
การเลือกซื้อประกันสุขภาพควรดูให้ครอบคลุมความคุ้มครองทั้งความเจ็บป่วยจากโรคทั่วไปและการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเพื่อความคุ้มค่าของเบี้ยประกันที่เราต้องจ่าย
ประกันสุขภาพมีทั้งแบบเหมาจ่ายและแยกค่าใช้จ่าย ประกันเหมาจ่าย จะกำหนดวงเงินค่ารักษาแบบเหมารวม ในขณะที่ประกันแยกค่าใช้จ่ายจะกำหนดวงเงินค่ารักษาแยกตามรายการ ประกันสุขภาพเหมาจ่าย เมื่อเปรียบเทียบกับแบบแยกค่าใช้จ่ายแล้วมีข้อดีหลายอย่าง ดังนี้
ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้ง opd และ ipd ไม่ต้องกังวลว่าต้องนอนโรงพยาบาล เพราะประกันสุขภาพเหมาจ่ายให้ความคุ้มครองทั้งกรณีที่เป็นผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน
ให้วงเงินค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายเป็นวงเงินสูงสุดของระยะเวลาที่เอาประกัน เนื่องจากไม่มีการกำหนดวงเงินของค่าใช้จ่ายแต่ละรายการ แต่เป็นการกำหนดวงเงินเป็นวงเงินรวมสูงสุด ไม่ต้องคอยตรวจสอบว่าค่าใช้จ่ายรายการใดเกินวงเงินไปแล้วบ้าง
ตรวจสอบวงเงินคงเหลือง่าย เพราะเป็นการเหมาจ่าย เพียงนำยอดที่ใช้จ่ายไปแล้วหักออกจากวงเงินที่ได้รับในระยะเวลาที่เอาประกัน
เคลมง่าย ไม่ต้องแจกแจงค่าใช้จ่ายแต่ละรายการ เพียงแจ้งยอดค่าใช้จ่ายรวมเท่านั้น
ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากเป็น ประกันเหมาจ่าย ที่ไม่แยกรายการค่าใช้จ่าย ทำให้ไม่ต้องเป็นห่วงว่าค่าใช้จ่ายรายการใดจะมีการปรับตัวสูงขึ้นหรือค่าใช้จ่ายใดจะไม่ได้ใช้
ประกันสุขภาพเหมาจ่าย สร้างความอุ่นใจให้กับผู้เอาประกันและครอบครัวด้วยค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย ไม่แยกวงเงินตามรายการ สบายใจเมื่อต้องเข้ารับการรักษา
   ประกันสุขภาพเหมาจ่าย  มีให้เลือกรับความคุ้มครองได้อย่างที่ต้องการ ซื้อง่าย ผ่านออนไลน์ ไม่ต้องตรวจสุขภาพ พร้อมรับสิทธิลดหย่อนภาษี คลิกดูรายละเอียดได้ที่ https://online.scbprotect.co.th/e-health?paymentFrequency=YEARLY ประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองสูงด้วยเบี้ยประกันเบา ๆ ครอบคลุมการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุและความเจ็บป่วยจากโรคทั่วไป ทั้ง opd และ ipd  รวมถึงการชดเชยรายได้เมื่อต้องหยุดงาน
   สบายใจ หายห่วง กับ ประกันเหมาจ่าย คุ้มครองครบ จบในแผนเดียว
   

8

   ในปัจจุบัน แนวโน้มการใช้จ่ายของคนไทยกำลังเข้าสู่สังคมไร้เงินสดมากขึ้น หลายร้านค้าไม่ต้องพกเงินสดเข้าไปก็สแกนจ่ายได้ และถ้าพูดถึงสังคมไร้เงินสด สิ่งที่มีมานานแล้วคือ บัตรเครดิต ซึ่งทุกวันนี้แทบทุกธนาคารก็ให้คุณสมัครบัตรได้แบบง่าย ๆ เพียงมีรายได้ตามที่ธนาคารกำหนด (ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 10000-15000 บาทขึ้นไป) ใช้เพียงแค่บัตรประชาชนและหลักฐานแสดงรายได้ก็ สมัครบัตรเดบิต ได้ทันที แต่สิ่งที่หลายคนสงสัยคือทำบัตรแล้วดีอย่างไร ซึ่งแน่นอนว่ามีข้อดีอย่างน้อย 5 ข้อครับ

1. ใช้ผ่อนสินค้า
   ในบางครั้งการซื้อของบางอย่างก็ยากที่เราจะซื้อได้ด้วยเงินสด แต่หาก สมัครบัตรผ่อนสินค้า เรื่องทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น การผ่อนสินค้าผ่านบัตรมีข้อดีคือหลายครั้งมีโปรผ่อน 0% ทำให้คุณจ่ายค่าสินค้าเท่าราคาเงินสด โดยแบ่งจ่ายรายเดือน ทำให้ใช้จ่ายเงินได้สบายขึ้นเหมือนไม่ได้เป็นหนี้เลย
2. ทดแทนการใช้เงินสด
   หากต้องซื้อของราคาแพง ต่อให้คุณมีเงินซื้อได้ แต่การพกเงินสดไปจำนวนมากคงไม่สะดวกแน่ ปัญหานี้จะหมดไป เพียงแค่คุณตัดสินใจ ทำบัตรเครดิต แม้ว่าบัตร ATM ก็เป็นบัตรเดบิตซื้อของได้ แต่การทำบัตรไว้ใช้แทนเงินสดก็มีข้อดีอื่น ๆ ซึ่งบัตรเดบิทและการสแกนจ่ายไม่สามารถให้คุณได้
3. สะดวกเมื่อต้องการตั้งรายการจ่ายล่วงหน้า
   การผูกบัตรไว้กับค่าใช้จ่ายรายเดือนเช่นค่าโทรศัพท์ ค่าบริการอินเทอร์เน็ต ฯลฯ เมื่อถึงกำหนดต้องจ่าย จะมีการตัดเงินอัตโนมัติทันที ยิ่งทุกวันนี้มีบริการรายเดือนมากมาย การทำบัตรเอาไว้เพื่อเรื่องนี้ก็ยิ่งช่วยทำให้ชีวิตคุณสะดวกสบายขึ้นและไม่พลาดทุกค่าใช้จ่ายสำคัญ
4. ได้ส่วนลดมากมาย
   หากคุณเป็นสายช็อปปิ้งหรือชอบไปกินอาหารนอกบ้านเป็นประจำ คุณคือหนึ่งคนที่ควรรีบ ทำบัตรเครดิต เพราะจะมีโปรโมชั่นส่วนลดมากมายรอคุณอยู่ตลอดทั้งปี
5. ได้เครดิตเงินคืนและสะสมแต้มแลกสิทธิพิเศษ
   หากคุณใช้จ่ายถึงเกณฑ์ที่บัตรกำหนด คุณจะได้เครดิตเงินคืน รวมถึงหากสะสมแต้มได้ตามจำนวนที่กำหนด ก็แลกของรางวัลได้อีกด้วย หากเป็นบัตรที่เน้นการเดินทางท่องเที่ยว ก็จะให้คุณสะสมไมล์เดินทางเพื่อแลกสิทธิพิเศษ ทั้งหมดนี้คือความคุ้มค่าที่คุณไม่ควรพลาด
   มีข้อดีเยอะขนาดนี้ แต่หลายคนก็อาจยังไม่ตัดสินใจสมัครบัตร แม้ว่าแทบทุกธนาคารจะเปิดให้คุณ สมัครบัตรเดบิตออนไลน์ สิ่งที่หลายคนกลัวคือการเป็นหนี้ ซึ่งถ้าพิจารณาให้ดี การได้ผ่อนสินค้าแบบ 0% ก็คล้ายกับว่าคุณเพียงแค่แบ่งจ่ายรายเดือนเท่านั้นโดยไม่ได้เป็นหนี้เพราะไม่ต้องเสียดอกเบี้ย หรือหากคุณกำหนดวงเงินว่าจะใช้จ่ายผ่านบัตรต่อเดือนเท่าไหร่และชำระคืนได้ทันทีโดยไม่ใช่แค่การชำระขั้นต่ำ คุณก็จะไม่ต้องเสียดอกเบี้ย ลักษณะนี้ก็เท่ากับว่าไม่ได้เป็นหนี้เช่นกัน

   คงเห็นแล้วว่าการตัดสินใจ สมัครบัตรเครดิต คุณจะได้รับความคุ้มค่าอย่างไรบ้าง ชีวิตสะดวกสบายขึ้นอย่างไร และที่สำคัญคือหากบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างเป็นระบบ ก็ดูเหมือนคุณไม่ได้เป็นหนี้ด้วย ความคุ้มค่ามากขนาดนี้ ยิ่งสมัครเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีกับคุณมากเท่านั้น เมื่อรวมเข้ากับการสมัครที่ทำได้ผ่านช่องทางออนไลน์ คุณจึงไม่ควรลังเลที่จะมี บัตรเครดิต ไว้ใช้



9
ในยุคดิจิทัลที่การใช้ชีวิตเต็มไปด้วยความเร่งรีบ การเลือก ประกันภัยรถยนต์ ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะ ประกันรถยนต์ ไม่ได้ให้เพียงความคุ้มครองทางกฎหมายหรืออุบัติเหตุเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตอย่างอุ่นใจและมีระบบในทุกวัน

รู้จักตนเองก่อนเลือกประกันที่ใช่

ก่อนจะตัดสินใจทำ ประกันภัยรถยนต์ ควรพิจารณาว่าคุณใช้รถอย่างไร เช่น ใช้ทุกวันไปทำงาน ใช้เฉพาะวันหยุด หรือขับทางไกลเป็นประจำ เพราะพฤติกรรมเหล่านี้จะมีผลต่อการเลือก ประกันรถยนต์ ที่เหมาะกับความต้องการ เช่น คนที่ขับบ่อยควรเลือกแบบที่คุ้มครองทั้งอุบัติเหตุและมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน เพื่อความมั่นใจทุกเส้นทาง

ประเภทของประกันรถยนต์ที่ควรรู้

ประกันภัยรถยนต์ แบ่งออกเป็นหลายระดับ เช่น ชั้น 1, ประกันรถชั้น 2, และชั้น 3 แต่ละแบบให้ความคุ้มครองแตกต่างกัน สำหรับผู้ที่ใช้รถไม่บ่อย ประกันรถชั้น 2 ถือว่าเพียงพอและช่วยประหยัดค่าเบี้ย ในขณะที่คนที่ต้องการความครอบคลุมสูงสุดก็ควรเลือก ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างเต็มที่

ใช้เทคโนโลยีช่วยตัดสินใจง่ายขึ้น

ในยุคที่ทุกอย่างอยู่บนปลายนิ้ว หลายบริษัท ประกันรถยนต์ เปิดให้บริการออนไลน์ สามารถเปรียบเทียบราคาและแผนคุ้มครองได้ทันที การเลือกซื้อ ประกันภัยรถยนต์ ผ่านช่องทางดิจิทัลช่วยประหยัดเวลา และยังเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่เน้นความรวดเร็วและสะดวกสบาย

ประกันที่มาพร้อมบริการเสริมตอบโจทย์ชีวิต

หลายบริษัทออกแบบ ประกันภัยรถยนต์ ให้มีบริการพิเศษ เช่น รถทดแทนระหว่างซ่อม บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. หรือบริการซ่อมถึงบ้าน เหมาะกับคนที่ไม่อยากเสียเวลาและต้องการความพร้อมในทุกสถานการณ์ การเลือก ประกันรถยนต์ ที่มีบริการเหล่านี้ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นมาก

สรุป

การเลือก ประกันภัยรถยนต์ ให้เหมาะกับการใช้ชีวิตควรเริ่มจากการเข้าใจพฤติกรรมการขับรถของตนเองก่อนเสมอ เมื่อรู้ว่าคุณต้องการอะไร ก็จะสามารถเลือก ประกันรถยนต์ ได้ตรงใจ ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถชั้น 2 ที่คุ้มค่า หรือชั้น 1 ที่ครอบคลุมมากกว่า การมีประกันที่เหมาะสมจะช่วยให้ทุกการเดินทางมั่นใจ ปลอดภัย และไร้กังวล

10
โซลาร์เซลล์ (Solar Cell) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ แผงโซล่าเซลล์ เป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์ให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าได้จริง ผ่านหลักการ Photovoltaic Effect เมื่อแสงตกกระทบเซลล์ที่ทำจากซิลิคอน ซึ่งเป็นสารกึ่งตัวนำ อิเล็กตรอนภายในจะเคลื่อนที่และก่อให้เกิดกระแสไฟฟ้าในทันที

สิ่งที่ทำให้โซลาร์เซลล์โดดเด่น คือการผลิตไฟฟ้าได้โดยไม่ต้องใช้เชื้อเพลิง ไม่มีการปล่อยควันหรือมลพิษ เป็นแหล่งพลังงานสะอาด (Clean Energy) ที่เหมาะกับโลกยุคใหม่ ทั้งยังสามารถติดตั้งได้ในบ้าน โรงงาน หรือพื้นที่ธุรกิจต่าง ๆ โดยมีบริการ รับติดตั้งโซล่าเซลล์ จากผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลทุกขั้นตอน

โครงสร้างและการทำงาน

หนึ่งแผ่นโซลาร์เซลล์ประกอบด้วยเซลล์ขนาดเล็กจำนวนมากที่ต่อเข้าด้วยกันเพื่อผลิตไฟฟ้า กระแสตรง (DC) จากนั้นจะส่งผ่านอุปกรณ์ Inverter เพื่อแปลงเป็น กระแสสลับ (AC) สำหรับใช้งานในบ้าน หรือเชื่อมต่อเข้าระบบไฟฟ้าหลักของการไฟฟ้า

ประเภทของโซลาร์เซลล์

Monocrystalline – ประสิทธิภาพสูงที่สุด เหมาะกับพื้นที่ติดตั้งจำกัด

Polycrystalline – ราคาประหยัด เหมาะกับพื้นที่กว้าง

Thin-film – บาง เบา และติดตั้งง่ายบนโครงสร้างที่รับน้ำหนักได้จำกัด

ทำไมโซลาร์เซลล์ถึงสำคัญ?

ในยุคที่ค่าไฟเพิ่มขึ้นและโลกต้องการลดคาร์บอน พลังงานจากแสงอาทิตย์จึงเป็นคำตอบที่ยั่งยืน โซลาร์เซลล์ช่วยให้เจ้าของบ้านลดค่าไฟฟ้าได้ระยะยาว และบางพื้นที่ยังสามารถขายไฟคืนให้การไฟฟ้าได้อีกด้วย

สรุป

การลงทุนใน แผงโซล่าเซลล์ คือการสร้างพลังงานให้กับบ้านของคุณเอง ทั้งประหยัด คุ้มค่า และเป็นมิตรกับโลก การเลือกผู้ให้บริการ รับติดตั้งโซล่าเซลล์ ที่มีคุณภาพคือก้าวแรกสู่ชีวิตพลังงานสะอาดในอนาคต

11
หลายคนอาจมองว่า Travel Insurance เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริง มันคือสิ่งที่สามารถ “เปลี่ยนวิกฤตให้กลายเป็นเรื่องเล็ก” ได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องเดินทางไปต่างประเทศที่มีค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลสูงมาก

Travel Insurance หรือ ประกันเดินทางต่างประเทศ มีจุดเด่นคือการให้ความคุ้มครองรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น

ค่ารักษาพยาบาลและการเคลื่อนย้ายฉุกเฉิน

ค่าชดเชยกรณีเที่ยวบินล่าช้า หรือยกเลิก

ค่าทรัพย์สินสูญหายจากกระเป๋าเดินทาง

บริการสายด่วนช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง

บางประเทศ เช่น กลุ่มเชงเก้น หรือญี่ปุ่น กำหนดให้ผู้เดินทางต้องมี ประกันเดินทางต่างประเทศ ก่อนยื่นขอวีซ่า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการมีความคุ้มครองที่เหมาะสม

ดังนั้น ก่อนออกเดินทาง ควรตรวจสอบรายละเอียดกรมธรรม์ เปรียบเทียบเบี้ยประกันจากหลายบริษัท และเลือกแผนที่ตรงกับจุดหมายปลายทาง เพื่อให้การเดินทางครั้งต่อไปเป็นประสบการณ์ที่ไร้กังวลอย่างแท้จริง

12
บทความนี้ได้รวบรวม 30 menuอาหารคลีน ที่สามารถทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ทั้งอร่อย แคลต่ำ และดีต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับทุกคนที่อยากเริ่มต้นแนวทางการกินแบบคลีน

 อาหารเช้า

โอ๊ตมีลกับผลไม้
ผสมโอ๊ตมีลกับนมอัลมอนด์และผลไม้สด เช่น กล้วยหรือเบอร์รี่ เพื่อเติมไฟเบอร์และพลังงานดี ๆ ให้ร่างกาย

ไข่คนผักโขม
ใช้ไข่ขาวผสมผักโขมและมะเขือเทศ ให้โปรตีนสูงและไขมันต่ำ

โยเกิร์ตธรรมชาติ
เพิ่มผลไม้และถั่วเพื่อเสริมโปรตีนและไฟเบอร์ เหมาะกับเช้าที่เร่งรีบ

สมูทตี้ผักและผลไม้
ผสมผักโขม กล้วย และนมอัลมอนด์ เป็นเครื่องดื่มสุขภาพที่ดื่มง่ายและอิ่มนาน

ขนมปังโฮลเกรนกับอะโวคาโด
ทาอะโวคาโดบนขนมปังโฮลเกรน โรยเกลือและพริกไทยเล็กน้อย เพิ่มไขมันดีให้ร่างกาย

 อาหารกลางวัน

สลัดไก่ย่าง
เนื้อไก่ย่างกับผักสดและน้ำสลัดน้ำมันมะกอก เป็น เมนูคลีน ที่เบาและอิ่มนาน

ข้าวกล้องกับผัดผักรวม
ผัดผักตามชอบ เช่น บรอกโคลี แครอท และเห็ด ได้ไฟเบอร์สูง

ซุปผักรวม
ต้มผักต่าง ๆ เช่น แครอท หอมใหญ่ และคื่นฉ่าย ให้รสชาติกลมกล่อม

ปลาย่างกับสลัดผักสด
ย่างปลาแซลมอนหรือปลากะพง เสิร์ฟคู่กับสลัดน้ำใส

พาสต้าโฮลเกรนกับซอสโหระพา
ใช้พาสต้าโฮลเกรนคู่กับซอสโหระพาจากมะเขือเทศสด ช่วยลดไขมันแต่ยังอร่อยอยู่

 อาหารเย็น

ไก่ย่างสมุนไพร
หมักไก่ด้วยสมุนไพร เช่น โรสแมรี กระเทียม และพริกไทยดำ ก่อนย่างจนสุกหอม

เต้าหู้ผัดพริกไทยดำ
เต้าหู้ให้โปรตีนจากพืช ผัดกับผักหลากสี เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ

ข้าวโพดต้มกับสลัดผัก
ข้าวโพดให้คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่อิ่มนาน เหมาะกับมื้อเย็นเบา ๆ

ปลานึ่งมะนาว
เมนูอาหารคลีนยอดนิยม รสเปรี้ยวสดชื่นจากมะนาวและสมุนไพร

ซุปฟักทอง
ทำจากฟักทองสด ปั่นละเอียด รสชาติหวานธรรมชาติและให้พลังงานต่ำ

 อาหารว่าง

ผลไม้สด เช่น แอปเปิ้ล ส้ม หรือเบอร์รี่ ที่ให้วิตามินสูง

ถั่วอบ เช่น อัลมอนด์หรือวอลนัท ให้ไขมันดีต่อหัวใจ

โยเกิร์ตกับผลไม้ เพิ่มความอิ่มและช่วยระบบขับถ่าย

ข้าวโพดอบ กรอบอร่อยโดยไม่ต้องใช้น้ำมัน

ผักสดกับน้ำจิ้มคลีน เช่น เซเลอรี แครอท จิ้มน้ำสลัดโยเกิร์ต

 ของหวาน

พุดดิ้งชาเขียว ทำจากนมอัลมอนด์และผงมัทฉะ

ผลไม้แช่แข็ง เช่น องุ่นหรือสตรอว์เบอร์รี่ เย็นสดชื่น

บราวนี่ฟักทอง ใช้ฟักทองบดแทนไข่และน้ำตาล

โยเกิร์ตกับน้ำผึ้ง หวานนิด อร่อยมาก

ช็อกโกแลตดำ เลือกโกโก้ 70% ขึ้นไป ได้สารต้านอนุมูลอิสระ

 เครื่องดื่ม

น้ำมะนาวผสมน้ำอุ่น ช่วยดีท็อกซ์ร่างกาย

ชาเขียว ทั้งร้อนและเย็น เพิ่มการเผาผลาญ

น้ำผลไม้คั้นสด เช่น ส้ม แอปเปิ้ล หรือแครอท

สมูทตี้โปรตีน ผสมโปรตีนผงกับผลไม้และนมอัลมอนด์

น้ำสมุนไพร เช่น น้ำใบเตย น้ำขิง หรือน้ำเก๊กฮวย

 สรุป

อาหารคลีนสำหรับคนรักสุขภาพ ไม่ได้ยากอย่างที่คิด การเลือกใช้วัตถุดิบธรรมชาติ ปรุงน้อย ไม่ใส่ผงชูรส และลดน้ำมันลงเล็กน้อย ก็สามารถทำให้เมนูทุกมื้อของคุณกลายเป็น เมนูคลีน ได้ง่าย ๆ

การทำ เมนูอาหารคลีน ด้วยตนเองช่วยให้ควบคุมปริมาณไขมัน น้ำตาล และโซเดียมได้ดีกว่าอาหารทั่วไป เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพและลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน

เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการเลือกเมนูที่ชอบจาก 30 รายการข้างต้น แล้วปรับให้เข้ากับรสชาติของคุณ รับรองว่าการกินคลีนจะไม่ใช่เรื่องจำเจอีกต่อไป!

 แชร์ประสบการณ์ของคุณ

คุณมี เมนูคลีน ที่อยากแนะนำไหม?
คอมเมนต์บอกเราได้เลย! หรือแชร์บทความนี้ให้เพื่อน ๆ ที่อยากเริ่มกินคลีนไปด้วยกัน

13
 การกู้เงินเป็นเรื่องที่หลายคนมักจะมีความกังวลและมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่ในความเป็นจริงแล้ว การกู้เงินสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ หากเรามีการวางแผนที่ดีและเลือกแหล่งกู้ที่เหมาะสมกับตัวเอง ในบทความนี้เราจะพูดถึงวิธีการกู้เงินอย่างชาญฉลาดที่สามารถช่วยให้คุณมีการเงินที่มั่นคงมากยิ่งขึ้น

 ทำความเข้าใจกับการกู้เงิน

การกู้เงินคือการยืมเงินจากแหล่งต่างๆ เช่น ธนาคาร สถาบันการเงิน หรือบุคคลทั่วไป โดยมักจะมีการกำหนดดอกเบี้ยและระยะเวลาการชำระคืน การกู้เงินสามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย เช่น การซื้อบ้าน การลงทุนในธุรกิจ หรือการศึกษาต่อ

 ประโยชน์ของเงินกู้
1. การลงทุนในอนาคต: การกู้เงินเพื่อการศึกษา หรือการลงทุนในธุรกิจสามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงในอนาคต
2. การจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉิน: การมีเงินกู้ในยามฉุกเฉินสามารถช่วยให้คุณมีความมั่นคงทางการเงิน
3. การสร้างเครดิต: การกู้เงินแล้วชำระคืนตามกำหนดสามารถช่วยสร้างประวัติการเงินที่ดี ซึ่งมีผลต่อการขอสินเชื่อในอนาคต

 วิธีการวางแผนการกู้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ

 1. ประเมินความต้องการและวัตถุประสงค์

ก่อนที่คุณจะตัดสินใจกู้เงิน ควรตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ทำไมฉันถึงต้องการกู้เงิน?” การมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณเลือกแหล่งกู้ที่เหมาะสม

 2. ศึกษาแหล่งกู้ที่มีอยู่

มีแหล่งกู้เงินหลากหลาย เช่น ธนาคาร สถาบันการเงิน หรือการกู้เงินออนไลน์ ควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขการชำระคืน เพื่อเลือกแหล่งกู้ที่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ

 3. คำนวณความสามารถในการชำระคืน

การคำนวณความสามารถในการชำระคืนเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถชำระเงินคืนได้ตามกำหนด โดยควรพิจารณารายได้และค่าใช้จ่ายประจำเดือน

 4. อ่านเงื่อนไขและข้อกำหนดอย่างละเอียด

ก่อนที่จะลงนามในสัญญากู้เงิน ควรอ่านเงื่อนไขและข้อกำหนดอย่างละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

การกู้เงินไม่ใช่เรื่องผิด หากคุณมีการวางแผนที่ดีและเลือกแหล่งกู้ที่เหมาะสม การทำความเข้าใจเกี่ยวกับการกู้เงินและการจัดการการเงินอย่างมีระเบียบจะช่วยให้คุณใช้เงินกู้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสร้างอนาคตทางการเงินที่มั่นคง
หากคุณกำลังพิจารณากู้เงิน อย่าลืมใช้วิธีการที่ได้กล่าวถึงในบทความนี้ เพื่อให้การกู้เงินของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกู้เงินและการวางแผนการเงิน สามารถติดตามบทความและแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจในเรื่องนี้ให้มากขึ้น



14


       การประกอบธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ “เงินทุน” เป็นปัจจัยสำคัญตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงขั้นตอนของการดำเนินกิจการ การขยายหรือปรับปรุงกิจการ รวมทั้งยังต้องมีเงินทุนสำรองไว้เสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ ดังนั้นการมองหาแหล่งเงินทุนจึงเป็นสิ่งจำเป็น

        สินเชื่อ SME เป็นแหล่งเงินทุนที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นสินเชื่อที่ถูกออกแบบมาสำหรับธุรกิจ SME โดยเฉพาะ เหมาะกับกิจการขนาดเล็กถึงขนาดกลางรวมทั้งสินค้า OTOP ที่มีสินทรัพย์การลงทุนไม่เกิน 200 ล้านบาท ซึ่งสินเชื่อ SME มีทั้งสินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยผู้กู้จะต้องยื่นหลักฐานการค้ำประกันด้วยอสังหาริมทรัพย์มีข้อดีคือดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติไว ได้วงเงินกู้สูง ระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้นาน และ สินเชื่อ sme ไม่มีหลักทรัพย์ ค้ำประกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการกู้ยืมระยะสั้นเพื่อเสริมสภาพคล่องและนำมาใช้เป็นเงินลงทุนหมุนเวียนในธุรกิจ

        สินเชื่อธุรกิจsmeไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดเล็กและกิจการที่เพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นานซึ่งมีต้นทุนทางธุรกิจไม่สูงสามารถเข้าถึงการขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้นเนื่องจากไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ในการค้ำประกัน ผู้ยื่นกู้จึงต้องมีความน่าเชื่อถือ มีการบริหารเงินที่ดี มีวินัยด้านการเงิน และมีการวางแผนธุรกิจอย่างชัดเจน หากกังวลใจว่าการยื่นขอ สินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ นั้นจะได้รับการอนุมัติตามวงเงินที่ต้องการหรือไม่หนังสือค้ำประกัน สินเชื่อมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือและสร้างความมั่นใจให้กับสถาบันการเงินได้

        หนังสือค้ำประกัน สินเชื่อคือเอกสารที่ใช้เป็นหลักประกันการปฏิบัติตามข้อกำหนดในสัญญารวมทั้งเพื่อประกันการชำระเงินด้วย ผู้ประกอบการสามารถขอหนังสือค้ำประกันได้จากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ บสย. EXIM BANK หรือที่ธนาคารกรุงไทย โดยผู้ขอจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการให้บริการ ซึ่งอัตราการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมคิดเป็นสัดส่วนร้อยละตามมูลค่าของสัญญาและขึ้นอยู่กับประเภทของการค้ำประกันสินเชื่อ เช่น บริการหนังสือค้ำประกัน Krungthai LG มีค่าธรรมเนียมเริ่มต้น 1% ต่อปี ขั้นต่ำ 500 บาท/ฉบับ/ปี สำหรับ บสย. นั้นค่าธรรมเนียมหนังสือค้ำประกันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อาทิ ประเภทของสินเชื่อ ระยะเวลา และวงเงินค้ำประกัน   

           หนังสือค้ำประกันการขอสินเชื่อใช้ได้กับการขอสินเชื่อของผู้ประกอบการ SME เท่านั้น ครอบคลุมทั้งสินเชื่อเงินกู้ระยะยาว สินเชื่อเบิกเงินเกินบัญชี วงเงินตั๋วสัญญาใช้เงิน วงเงินหนังสือค้ำประกัน วงเงินสินเชื่อสำหรับธุรกรรมระหว่างประเทศ เพื่อใช้ในการต่อยอดและเสริมสภาพคล่องทางธุรกิจไม่ว่าจะเป็นกิจการด้านการผลิต ค้าปลีก ค้าส่ง ธุรกิจนำเข้า ส่งออก และธุรกิจด้านการบริการ นอกจากนี้ยังมีการค้ำประกันสินเชื่อ SME เพื่อรับงานภาครัฐ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยให้มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอระหว่างดำเนินโครงการให้แก่ภาครัฐตั้งแต่เริ่มต้นจนแล้วเสร็จ ด้วยความร่วมมือกันระหว่าง บสย. และธนาคารกรุงไทย โดยธนาคารกรุงไทยทำหน้าที่เป็นผู้ปล่อย สินเชื่อ รับเหมาก่อสร้าง และ บสย. เป็นผู้ค้ำประกันในฐานะเครื่องมือรัฐ ซึ่งจะออกหนังสือค้ำประกันให้ภายใน 1 วัน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือค้ำประกันยื่นซองประกวดราคา และหนังสือค้ำประกันการทำสัญญาต่อหน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจ

          สินเชื่อ SME มีหลายประเภทจากหลายสถาบันการเงิน ดังนั้นผู้ประกอบการควรตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่าต้องการเงินทุนไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด แล้วศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบสินเชื่อที่สนใจให้ละเอียด เลือก สินเชื่อsmeดอกเบี้ยต่ำ ที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครบถ้วนเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ธุรกิจ หากต้องการให้การขอสินเชื่อเป็นไปด้วยความราบรื่น รวดเร็ว อย่าลืมว่าหนังสือค้ำประกัน lg เชื่อสามารถช่วยได้ สามารถขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่ บสย.และธนาคารกรุงไทยทุกสาขาใกล้บ้าน


15


ในยุคที่การมีเครดิตดีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการขอสินเชื่อหรือการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ  สินเชื่อพนักงานประจำกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างเครดิตดีอย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจว่าทำไมสินเชื่อพนักงานประจำจึงสามารถช่วยสร้างเครดิตดีได้อย่างไร

สินเชื่อพนักงานประจำคืออะไร?

สินเชื่อพนักงานประจำเป็นสินเชื่อ ที่มอบให้กับพนักงานที่มีรายได้ประจำ โดยทั่วไปแล้วจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อประเภทอื่น ๆ และมีเงื่อนไขการอนุมัติที่ไม่ซับซ้อน เนื่องจากผู้ให้สินเชื่อสามารถตรวจสอบรายได้และสถานะการทำงานของผู้กู้ได้ง่าย

วิธีการสร้างเครดิตดีด้วยสินเชื่อพนักงานประจำ

 1. การชำระหนี้ตรงเวลา

การชำระหนี้ตามกำหนดเวลาเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างเครดิตดี เมื่อคุณขอสินเชื่อพนักงานประจำและสามารถชำระหนี้ได้ตรงเวลา จะช่วยเพิ่มคะแนนเครดิตของคุณอย่างมีนัยสำคัญ การมีประวัติการชำระเงินที่ดีจะทำให้สถาบันการเงินมองเห็นความน่าเชื่อถือของคุณ

 2. การใช้สินเชื่ออย่างมีระเบียบ

การใช้สินเชื่อพนักงานประจำอย่างมีระเบียบและไม่เกินความสามารถในการชำระหนี้ จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมการเงินได้ดีขึ้น และทำให้มีโอกาสสร้างเครดิตดีได้มากขึ้น ควรใช้เงินที่ยืมมาในสิ่งที่จำเป็นและหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

 3. การสร้างประวัติการเงินที่ดี

การมีสินเชื่อพนักงานประจำจะช่วยให้คุณมีประวัติการเงินที่ดี ซึ่งจะถูกบันทึกในเครดิตบูโร การมีประวัติการเงินที่ดีจะช่วยให้คุณมีโอกาสได้รับสินเชื่อในอนาคตได้ง่ายขึ้น และอาจได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่า

 4. การตรวจสอบเครดิตบูโร

การตรวจสอบเครดิตบูโรของคุณเองเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถทราบสถานะเครดิตของตนเอง และสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ การมีเครดิตบูโรที่ดีจะช่วยให้คุณได้รับการอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้นในอนาคต


สินเชื่อพนักงานประจำเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการสร้างเครดิตดี หากคุณสามารถจัดการการเงินและชำระหนี้ได้อย่างมีระเบียบ การมีเครดิตดีจะช่วยให้คุณมีโอกาสในการขอสินเชื่อในอนาคตได้ง่ายขึ้นและได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่า

หากคุณกำลังมองหาวิธีการสร้างเครดิตดี การพิจารณาสินเชื่อพนักงานประจำอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม อย่าลืมศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจ เพื่อให้คุณสามารถใช้สินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างเครดิตดีในระยะยาว




16
การประหยัดภาษีเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสำคัญ แต่หลายครั้งก็อาจมองข้ามเทคนิคที่สามารถช่วยลดภาระภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเทคนิคการประหยัดภาษีที่คุณอาจไม่เคยรู้จักมาก่อน เพื่อให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากกฎหมายภาษีได้อย่างเต็มที่

## 1. ใช้สิทธิประโยชน์จากการลงทุนในกองทุนรวม

การลงทุนในกองทุนรวมที่มีการส่งเสริมการลงทุน (RMF) หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (LTF) เป็นวิธีที่ดีในการประหยัดภาษี โดยคุณสามารถหักลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเงินที่ลงทุน ซึ่งจะช่วยลดฐานภาษีของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

### 1.1 กองทุน RMF

การลงทุนในกองทุน RMF สามารถหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 30% ของรายได้ประจำปี หรือสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการวางแผนการเงินในระยะยาว

### 1.2 กองทุน LTF

สำหรับกองทุน LTF คุณสามารถหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15% ของรายได้ประจำปี หรือไม่เกิน 500,000 บาท โดยการลงทุนในกองทุนเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีเงินออมในอนาคต

## 2. ใช้สิทธิประโยชน์จากการซื้อประกันชีวิต

การซื้อประกันชีวิตไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณมีความคุ้มครองในกรณีฉุกเฉิน แต่ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการประหยัดภาษีได้อีกด้วย คุณสามารถหักลดหย่อนภาษีได้ตามเบี้ยประกันที่จ่าย ซึ่งจะช่วยลดภาระภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

## 3. หักลดหย่อนค่าใช้จ่ายในการศึกษา

หากคุณมีบุตรหลานที่กำลังศึกษาอยู่ คุณสามารถหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายในการศึกษาได้ โดยค่าใช้จ่ายที่สามารถหักลดหย่อนได้รวมถึงค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดภาษีได้มากขึ้น

## 4. ใช้สิทธิประโยชน์จากการบริจาคเงินออนไลน์
การบริจาคออนไลน์ให้กับองค์กรการกุศลหรือมูลนิธิต่าง ๆ ไม่เพียงแต่ช่วยสังคม แต่ยังสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ โดยคุณสามารถหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 10% ของรายได้ประจำปี ซึ่งเป็นวิธีที่ดีในการช่วยเหลือผู้อื่นและประหยัดภาษีไปพร้อมกัน e donation ลดหย่อนภาษี

## 5. วางแผนการเงินอย่างรอบคอบ

การวางแผนการเงินที่ดีจะช่วยให้คุณสามารถประหยัดภาษีได้มากขึ้น คุณควรทำการวิเคราะห์รายได้และค่าใช้จ่ายของคุณอย่างละเอียด เพื่อหาวิธีที่ดีที่สุดในการลดภาระภาษี

เทคนิคการประหยัดภาษีที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่คุณสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือคำแนะนำในการวางแผนภาษี คุณอาจพิจารณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่พลาดโอกาสในการประหยัดภาษีที่มีอยู่

อย่าลืมติดตามข่าวสารและอัปเดตเกี่ยวกับกฎหมายภาษีเพื่อให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่!



17
ในยุคที่ความไม่แน่นอนและอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การมีประกันอุบัติเหตุจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่มีความเสี่ยงจากอุบัติเหตุทางถนนสูง ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “เงินฝากประกันอุบัติเหตุ” และ “ประกันอุบัติเหตุแยก” ว่าควรเลือกซื้อแบบไหนดี

เงินฝากประกันอุบัติเหตุคืออะไร?

เงินฝากประกันอุบัติเหตุ เป็นรูปแบบการประกันที่ช่วยคุ้มครองผู้เอาประกันในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ โดยจะมีการจ่ายเงินชดเชยตามที่ระบุในกรมธรรม์ ในบางกรณีอาจมีการคืนเงินฝากเมื่อหมดอายุกรมธรรม์ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้ผู้เอาประกันรู้สึกมั่นใจในการลงทุน

 ข้อดีของเงินฝากประกันอุบัติเหตุ

1. การคืนเงิน: หากไม่มีการเคลมประกันในระยะเวลาที่กำหนด ผู้เอาประกันจะได้รับเงินคืนตามที่ระบุในกรมธรรม์
2. ความคุ้มครอง: ช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายทางการแพทย์และค่าเสียหายจากอุบัติเหตุ
3. การลงทุน: เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เพราะมีการคืนเงินในกรณีที่ไม่มีการเคลม

ประกันอุบัติเหตุแยกคืออะไร?

ประกันอุบัติเหตุแยก เป็นประกันที่มุ่งเน้นเฉพาะการคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเท่านั้น โดยไม่เกี่ยวข้องกับการคืนเงินฝาก ซึ่งมักจะมีเบี้ยประกันที่ต่ำกว่าเงินฝากประกันอุบัติเหตุ

ข้อดีของประกันอุบัติเหตุแยก

1. เบี้ยประกันที่ต่ำกว่า: ผู้เอาประกันสามารถเลือกซื้อประกันได้ในราคาที่ถูกกว่า
2. ความคุ้มครองที่ชัดเจน: มีการกำหนดความคุ้มครองอย่างชัดเจนในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
3. ความยืดหยุ่น: สามารถเลือกความคุ้มครองได้ตามความต้องการ เช่น ค่ารักษาพยาบาล หรือค่าชดเชยรายได้

ควรเลือกซื้อแบบไหนดี?

การเลือกซื้อประกันอุบัติเหตุระหว่างเงินฝากประกันอุบัติเหตุและประกันอุบัติเหตุแยกนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์ของแต่ละบุคคล

พิจารณาจากความต้องการ

- หากคุณต้องการการลงทุนและความคุ้มครอง: เงินฝากประกันอุบัติเหตุอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะนอกจากจะได้รับความคุ้มครองจากอุบัติเหตุแล้ว ยังมีโอกาสได้รับเงินคืนเมื่อหมดอายุกรมธรรม์
- หากคุณต้องการความคุ้มครองที่เฉพาะเจาะจงและราคาที่ต่ำกว่า: ประกันอุบัติเหตุแยกอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะสามารถเลือกความคุ้มครองได้ตามความต้องการ


การเลือกซื้อประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญ ควรพิจารณาความต้องการและสถานการณ์ทางการเงินของตนเอง เพื่อให้ได้ประกันที่ตอบโจทย์ที่สุด หากคุณยังไม่แน่ใจ สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัย ประกันชีวิต เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม




18


การบริหารการเงินส่วนบุคคลเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถจัดการทรัพย์สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในวิธีที่ช่วยให้การจัดการเงินของคุณมีความยืดหยุ่นมากขึ้นคือการเปลี่ยนบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เป็นบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน ในบทความนี้ เราจะมาดูขั้นตอน วิธีการ และข้อดีของการเปลี่ยนบัญชีนี้

ทำไมต้องเปลี่ยนบัญชีเงินฝาก?

บัญชีเงินฝากออมทรัพย์และบัญชีเงินฝากกระแสรายวันมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน โดยบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เหมาะสำหรับการเก็บเงินระยะยาวและได้รับดอกเบี้ยที่สูงกว่า ในขณะที่บัญชีเงินฝากกระแสรายวันเหมาะสำหรับการทำธุรกรรมประจำวัน เช่น การชำระค่าใช้จ่าย การโอนเงิน หรือการถอนเงินสด

ข้อดีของบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน

1. ความสะดวกสบาย: สามารถทำธุรกรรมได้ง่ายและรวดเร็ว
2. ไม่มีข้อจำกัดในการถอนเงิน: คุณสามารถถอนเงินได้ตามต้องการ
3. การจัดการเงินที่มีประสิทธิภาพ: สามารถติดตามการใช้จ่ายได้ดีขึ้น

ขั้นตอนการเปลี่ยนบัญชี

 1. ตรวจสอบเงื่อนไขของธนาคาร

ก่อนที่คุณจะทำการเปลี่ยนบัญชี คุณควรตรวจสอบเงื่อนไขและข้อกำหนดต่าง ๆ ของธนาคารที่คุณใช้บริการ เพื่อให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนบัญชีจะไม่ส่งผลกระทบต่อเงินฝากหรือการบริการที่คุณได้รับ

 2. เตรียมเอกสารที่จำเป็น

การเปลี่ยนบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เป็นบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน มักจะต้องใช้เอกสารบางอย่าง เช่น บัตรประชาชน หรือเอกสารแสดงที่อยู่ที่ถูกต้อง

 3. ติดต่อธนาคาร

คุณสามารถติดต่อธนาคารของคุณผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น สาขา โทรศัพท์ หรือออนไลน์ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนบัญชี

 4. ดำเนินการเปลี่ยนบัญชี

เมื่อคุณได้รับข้อมูลที่จำเป็นแล้ว คุณสามารถดำเนินการเปลี่ยนบัญชีได้ โดยธนาคารจะช่วยให้คุณกรอกเอกสารและดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนด

 5. ตรวจสอบบัญชีใหม่

หลังจากที่คุณได้เปลี่ยนบัญชีแล้ว ควรตรวจสอบว่าบัญชีใหม่ของคุณสามารถทำธุรกรรมได้ตามปกติ และคุณได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บัญชีอย่างถูกต้อง



- เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย: ก่อนการเปลี่ยนบัญชี ควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมของบัญชีเงินฝากกระแสรายวันจากธนาคารต่าง ๆ
- ใช้บริการออนไลน์: หากธนาคารของคุณมีบริการออนไลน์ ควรใช้บริการนี้เพื่อความสะดวกในการจัดการบัญชี



การเปลี่ยนบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เป็นบัญชีเงินฝากกระแสรายวันเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการจัดการเงิน โดยเฉพาะในยุคที่การทำธุรกรรมออนไลน์เป็นที่นิยม หากคุณมีคำถามเพิ่มเติมหรือสนใจข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนบัญชีเงินฝาก สามารถติดต่อธนาคารของคุณได้ทันที



19


ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การกู้เงินออนไลน์จึงกลายเป็นทางเลือกที่หลายคนหันมาใช้เพื่อแก้ปัญหาทางการเงิน อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจในการกู้เงินออนไลน์นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบ ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการกู้เงินออนไลน์ในมุมมองที่หลากหลาย เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล

## ข้อดีของเงินกู้ออนไลน์

### 1. ความสะดวกสบาย

การกู้เงินออนไลน์ช่วยให้คุณสามารถทำรายการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สถาบันการเงินหรือธนาคาร ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

### 2. กระบวนการที่รวดเร็ว

การพิจารณาอนุมัติเงินกู้ในระบบออนไลน์มักใช้เวลาไม่นาน เพียงไม่กี่ชั่วโมงหรือวันทำการ คุณก็สามารถได้รับเงินเข้าบัญชีได้ทันที

### 3. เอกสารน้อย

หลายๆ แพลตฟอร์มการกู้เงินออนไลน์ไม่ต้องการเอกสารมากมายเหมือนการกู้เงินจากธนาคาร ทำให้ผู้กู้สามารถเข้าถึงเงินทุนได้ง่ายขึ้น

### 4. ตัวเลือกที่หลากหลาย

ในปัจจุบันมีผู้ให้บริการกู้เงินออนไลน์จำนวนมาก ทำให้คุณสามารถเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

## ข้อเสียของการกู้เงินออนไลน์

### 1. อัตราดอกเบี้ยสูง

การกู้เงินออนไลน์มักมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าการกู้เงินจากธนาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีเครดิตไม่ดี ซึ่งอาจทำให้คุณต้องจ่ายเงินคืนมากกว่าที่คาดไว้

### 2. ความเสี่ยงจากการหลอกลวง

เนื่องจากมีผู้ให้บริการจำนวนมากในตลาดออนไลน์ คุณอาจพบกับเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยหรือหลอกลวง ดังนั้นการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการจึงเป็นสิ่งสำคัญ

### 3. ข้อกำหนดที่ไม่ชัดเจน

บางครั้งเงื่อนไขการกู้เงินออนไลน์อาจไม่ชัดเจน เช่น ค่าธรรมเนียมที่ซ่อนอยู่หรือเงื่อนไขการชำระคืนที่เข้มงวด ซึ่งอาจทำให้คุณประสบปัญหาในอนาคต

### 4. ผลกระทบต่อเครดิต

การกู้เงินออนไลน์ที่ไม่สามารถชำระคืนได้ตามกำหนดอาจส่งผลกระทบต่อคะแนนเครดิตของคุณ ซึ่งอาจทำให้การกู้เงินในอนาคตยากขึ้น

การกู้เงินออนไลน์มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจควรทำการวิจัยและเปรียบเทียบผู้ให้บริการต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุด นอกจากนี้ ควรอ่านเงื่อนไขและข้อกำหนดอย่างละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

หากคุณกำลังคิดจะกู้เงินสินเชื่อออนไลน์ ควรพิจารณาความสามารถในการชำระคืนและเลือกผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้การกู้เงินของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย





20


การมีบ้านเป็นความฝันของคนหลายคน แต่เมื่อมีงบประมาณจำกัด การเลือกวิธีการกู้เงินเพื่อปลูกบ้านอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย ในบทความนี้เราจะพูดถึงวิธีการกู้เงินปลูกบ้านที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีงบน้อย พร้อมทั้งแนวทางในการวางแผนการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ

 1. ทำความเข้าใจกับประเภทของการกู้เงิน

ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกวิธีการกู้เงิน ควรทำความเข้าใจกับประเภทของการกู้เงินที่มีอยู่ในตลาด:

 1.1 สินเชื่อบ้าน

สินเชื่อบ้านเป็นทางเลือกที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อหรือปลูกบ้าน โดยปกติแล้วธนาคารจะให้เงินกู้ประมาณ 70-90% ของราคาบ้าน ขึ้นอยู่กับรายได้และเครดิตของผู้กู้

 1.2 สินเชื่อปลูกสร้างบ้าน

สินเชื่อปลูกสร้างบ้านเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีที่ดินแล้วและต้องการเงินทุนสำหรับการก่อสร้างกู้ปลูกบ้าน  โดยธนาคารจะปล่อยเงินกู้เป็นงวดตามความก้าวหน้าของการก่อสร้าง

 1.3 สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย

บางธนาคารมีโปรแกรมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งมักจะมีเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นกว่า เช่น อัตราดอกเบี้ยต่ำ หรือระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานขึ้น

 2. การเตรียมตัวก่อนการกู้เงิน

การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้คุณสามารถกู้เงินได้ง่ายขึ้น:

 2.1 ตรวจสอบเครดิตของคุณ

เครดิตที่ดีจะช่วยให้คุณได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง ควรตรวจสอบประวัติเครดิตของคุณก่อนที่จะยื่นขอสินเชื่อ

 2.2 วางแผนการเงิน

ควรทำงบประมาณเพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถชำระคืนเงินกู้ได้ โดยคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง เช่น ค่าวัสดุ ค่าช่าง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

 2.3 เตรียมเอกสารที่จำเป็น

เอกสารที่จำเป็นสำหรับการขอสินเชื่อรวมถึงบัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน, เอกสารแสดงรายได้ และเอกสารเกี่ยวกับที่ดิน

 3. วิธีการเลือกธนาคารที่เหมาะสม

การเลือกธนาคารที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุด:

 3.1 เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย

ควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากหลาย ๆ ธนาคาร เพื่อหาสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุด

 3.2 ตรวจสอบเงื่อนไขการกู้

แต่ละธนาคารมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เช่น ระยะเวลาการกู้, จำนวนเงินที่สามารถกู้ได้ และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ควรอ่านรายละเอียดให้ชัดเจน

 3.3 สอบถามเกี่ยวกับโปรโมชั่น

บางธนาคารอาจมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสินเชื่อบ้าน ควรสอบถามเพื่อให้ได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด

 4. สรุปและคำแนะนำ

การกู้เงินเพื่อปลูกบ้านเมื่อมีงบน้อยอาจดูเหมือนเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าคุณมีการวางแผนที่ดีและเลือกวิธีการกู้ที่เหมาะสม ก็สามารถทำให้ความฝันในการมีบ้านเป็นจริงได้ หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือคำแนะนำเกี่ยวกับการกู้เงินเพื่อปลูกบ้าน สามารถติดต่อธนาคารหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเพื่อขอคำปรึกษาได้

ให้คุณเริ่มต้นการเดินทางสู่การเป็นเจ้าของบ้านในฝันของคุณวันนี้!




21

   ในปัจจุบันเศรษฐกิจประเทศไทยกำลังเข้าสู่ภาวะชะลอตัว เจ้าของธุรกิจทั้งรายใหญ่และรายย่อยหลายรายต้องเจอปัญหาขาดสภาพคล่อง ทำให้จำเป็นต้องหาเงินทุนเพื่อประคับประคองกิจการให้เดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่คุ้นเคยกันดีก็คือ การขอสินเชื่อ กับสถาบันการเงินต่าง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นการจะได้รับอนุมัติสินเชื่อก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีปัจจัยหลายอย่าง สำหรับใครที่อยากรู้ว่า สมัครสินเชื่อไม่ผ่านทําไงดี วันนี้เราก็มี 5 เทคนิคขอสินเชื่อให้ผ่านมาแนะนำกัน

1. เตรียมเอกสารให้พร้อม
   การเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนไปขอสินเชื่อเป็นเทคนิคอันดับแรกของ วิธีขอกู้สินเชื่อให้ผ่าน โดยเอกสารที่ต้องใช้สำหรับสินเชื่อบุคคลธรรมดา ได้แก่ สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาทะเบียนพาณิชย์, สลิปเงินเดือนอย่างน้อย 6 เดือน และเอกสารอื่น ๆ ตามที่ธนาคารกำหนด กรณีที่เราเป็นเจ้าของธุรกิจ อาจจะแนบเอกสารเพิ่มความน่าเชื่อถืออย่างอื่น เช่น สำเนาทะเบียนการค้า และหลักฐานการเสียภาษีเงินได้แต่ละปี ซึ่งจะช่วยเพิ่มเครดิตให้ธนาคารมั่นใจและอนุมัติสินเชื่อง่ายขึ้น ส่วนเอกสารขอสินเชื่อสำหรับนิติบุคคล ได้แก่ สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล, สำเนาใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด, สำเนาบัตรประชาชนของผู้มีอำนาจลงนาม และเอกสารอื่น ๆ ตามที่ธนาคารกำหนด

2. สำรวจหนี้ก่อนยื่นขอสินเชื่อ
   ก่อนยื่นขอสินเชื่อธนาคารให้ลองสำรวจหนี้ว่าเรามีหนี้อะไรอยู่บ้าง เช่น หนี้ค่าผ่อนรถ, ผ่อนบ้าน, ผ่อนบัตรเครดิต ฯลฯ โดยหนี้ทั้งหมดที่เรามีไม่ควรเกิน 30 – 80% ของรายได้ในแต่ละเดือน เพราะหากมากกว่านี้มีโอกาสที่ธนาคารจะมองว่าเรามีมีสภาพคล่องทางการเงินไม่ดีพอ อาจผิดชำระหนี้ได้ ดังนั้น ใครที่รู้ตัวว่าต้องการยื่นขอสินเชื่อ ควรรีบประหยัดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสกู้ผ่าน

3. เลือกสินเชื่อให้เหมาะกับความต้องการของตัวเอง
   ปัจจุบันมีสินเชื่อให้เลือกกู้หลากหลายแบบ การเลือกสินเชื่อให้ถูกประเภทถือเป็นอีกหนึ่ง วิธีขอสินเชื่อให้ผ่าน อย่างเช่น หากเราต้องการเงินสดไปเสริมสภาพคล่องทางการเงินแบบเร่งด่วน เงื่อนไขไม่เยอะ มีอัตราผ่อนชำระเป็นงวด ๆ ชัดเจน ก็อาจจะเลือก ‘สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล’ เพราะไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน มีโอกาสได้วงเงินสูงกว่าหลายรายได้หลายเท่า หรือหากต้องการสินเชื่อเป็นเงินลงทุนจำนวนมากเพื่อขยายธุรกิจ ควรเลือกสินเชื่อที่มีระยะเวลาผ่อนชำระนานขึ้น อาจต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อลดภาระการผ่อนในแต่ละเดือน

4. กะระยะเวลาขอสินเชื่อให้ดี
   การยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารบ่อย ๆ จะทำให้ธนาคารมองว่าเราขาดการบริหารจัดการเงินที่ดี ซึ่งจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ และที่สำคัญคือหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อของธนาคารไม่ได้อยู่ที่จำนวนครั้งที่เรายื่นขอสินเชื่อ แต่อยู่ที่ความสามารถในการชำระหนี้ของเรา ดังนั้น หากอยากให้ธนาคารอนุมัติสินเชื่อแบบง่าย ๆ ควรเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้พร้อม เคลียร์บัญชีหนี้สินให้อยู่ในระดับน่าเชื่อถือ แล้วยื่นขอสินเชื่อเพียงครั้งเดียวก็พอ

5. รักษาเครดิตชำระหนี้ให้อยู่ในเกณฑ์ดีอยู่เสมอ
   ‘เครดิตทางการเงิน’ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธนาคารยอมอนุมัติสินเชื่อ โดยปกติธนาคารจะตรวจสอบประวัติการชำระสินเชื่อต่าง ๆ หรือ ‘เครดิตบูโร’ ดูว่าเราชำระหนี้ตรงเวลาไหม ผิดนัดชำระบ่อยแค่ไหน มีหนี้ค้างชำระหรือไม่ หากประวัติการเงินของเรามีการผิดนัดชำระหรือค้างชำระหนี้ ก็มีโอกาสไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อได้

   ทั้งหมดนี้ก็เป็น 5 วิธีการยื่นขอสินเชื่อที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เราได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากทางธนาคาร อย่างไรก็ตาม ไม่ควรลืมว่าถึงแม้จะได้รับการอนุมัติสินเชื่อแล้ว เราก็ต้องปฏิบัติการเงื่อนไขและชำระหนี้ให้ตรงเวลาอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เครดิตทางการเงินของเราอยู่ในเกณฑ์ดี ง่ายต่อการยื่นขอสินเชื่อครั้งต่อไป


22
การลดหย่อนภาษีเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้ผู้เสียภาษีสามารถลดภาระภาษีที่ต้องจ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในปี 2568 นี้ หลายคนอาจมีคำถามเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถใช้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีได้อย่างเต็มที่ บทความนี้จะตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีในปีนี้

## 1. การลดหย่อนภาษีคืออะไร?

การลดหย่อนภาษีคือการอนุญาตให้ผู้เสียภาษีสามารถหักค่าใช้จ่ายบางอย่างออกจากรายได้ที่ต้องเสียภาษี ซึ่งจะช่วยลดจำนวนเงินที่ต้องจ่ายภาษีในปีนั้น ๆ โดยทั่วไปแล้ว การลดหย่อนภาษีจะมีหลายประเภท เช่น ค่าใช้จ่ายในการศึกษา การบริจาค การประกันชีวิต และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล

## 2. ใครสามารถขอลดหย่อนภาษีได้บ้าง?

ผู้ที่สามารถขอลดหย่อนภาษีได้ ได้แก่ บุคคลธรรมดาที่มีรายได้จากการทำงานหรือกิจการต่าง ๆ รวมถึงผู้ที่มีรายได้จากการลงทุน อย่างไรก็ตาม การลดหย่อนภาษีจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดโดยกรมสรรพากร

## 3. ลดหย่อนภาษีปี 2568 มีอะไรใหม่บ้าง? ในปี 2568 นี้ มีการปรับปรุงกฎเกณฑ์การลดหย่อนภาษีหลายประการ เช่น การเพิ่มวงเงินการลดหย่อนสำหรับค่าใช้จ่ายในการศึกษาและการบริจาคให้กับองค์กรการกุศล e donation ลดหย่อนภาษี และ e donationนอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนการลงทุนในธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยให้ผู้เสียภาษีสามารถลดภาษีได้มากขึ้น

## 4. เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการขอลดหย่อนภาษีคืออะไร?

การขอลดหย่อนภาษีจะต้องมีเอกสารที่แสดงหลักฐานการใช้จ่าย เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบรับรองการบริจาค และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยควรจัดเตรียมเอกสารเหล่านี้ให้ครบถ้วนเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

## 5. วิธีการยื่นขอลดหย่อนภาษีทำอย่างไร?

การยื่นขอลดหย่อนภาษีสามารถทำได้หลายช่องทาง ได้แก่ การยื่นแบบฟอร์มภาษีผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร หรือการยื่นแบบฟอร์มด้วยตนเองที่สำนักงานสรรพากรในพื้นที่ โดยควรตรวจสอบระยะเวลาการยื่นภาษีให้ถูกต้องเพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในการลดหย่อนภาษี

## 6. คำแนะนำในการวางแผนลดหย่อนภาษี

การวางแผนลดหย่อนภาษีอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้คุณสามารถลดภาษีได้มากขึ้น ควรเริ่มต้นด้วยการตรวจสอบค่าใช้จ่ายที่สามารถลดหย่อนได้ และจัดทำงบประมาณการใช้จ่ายในปีถัดไปอย่างรอบคอบ นอกจากนี้ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี

การลดหย่อนภาษีระบบ e-donation ในปี 2568 เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้เสียภาษีในการลดภาระภาษีที่ต้องจ่าย การเข้าใจคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีจะช่วยให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์นี้ได้อย่างเต็มที่ หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษี ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด




23



   ถึงแม้เราพยายามดูแลรักษาสุขภาพเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การพักผ่อนให้เพียงพอ และการทำจิตใจให้แจ่มใสแล้ว แต่โรคภัยไข้เจ็บหรืออุบัติเหตุก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นกับเราได้ การมีประกันชีวิตสุขภาพช่วยให้เราอุ่นใจเมื่อเกิดเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ ด้วยการดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้ ทั้ง opd และ ipd รวมถึงชดเชยรายได้ให้เราเมื่อต้องนอนพักรักษาตัวด้วย

   opd คือ คำเรียกกลุ่มผู้ป่วยที่มารักษาที่โรงพยาบาลโดยไม่ต้องนอนพัก สามารถกลับบ้านได้เลย
   ipd คือ คำเรียกกลุ่มผู้ป่วยที่มารักษาที่โรงพยาบาลโดยต้องนอนพักรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาล ไม่สามารถกลับบ้านได้ทันที

   การชดเชยรายได้ คือ ค่าสินไหมทดแทนรายวันเมื่อผู้เอาประกันต้องหยุดงานเพื่อพักรักษาตัว
การเลือกซื้อประกันสุขภาพควรดูให้ครอบคลุมความคุ้มครองทั้งความเจ็บป่วยจากโรคทั่วไปและการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเพื่อความคุ้มค่าของเบี้ยประกันที่เราต้องจ่าย
ประกันสุขภาพมีทั้งแบบเหมาจ่ายและแยกค่าใช้จ่าย ประกันเหมาจ่าย จะกำหนดวงเงินค่ารักษาแบบเหมารวม ในขณะที่ประกันแยกค่าใช้จ่ายจะกำหนดวงเงินค่ารักษาแยกตามรายการ ประกันสุขภาพเหมาจ่าย เมื่อเปรียบเทียบกับแบบแยกค่าใช้จ่ายแล้วมีข้อดีหลายอย่าง ดังนี้

- ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้ง opd และ ipd ไม่ต้องกังวลว่าต้องนอนโรงพยาบาล เพราะประกันสุขภาพเหมาจ่ายให้ความคุ้มครองทั้งกรณีที่เป็นผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน
- ให้วงเงินค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายเป็นวงเงินสูงสุดของระยะเวลาที่เอาประกัน เนื่องจากไม่มีการกำหนดวงเงินของค่าใช้จ่ายแต่ละรายการ แต่เป็นการกำหนดวงเงินเป็นวงเงินรวมสูงสุด ไม่ต้องคอยตรวจสอบว่าค่าใช้จ่ายรายการใดเกินวงเงินไปแล้วบ้าง
- ตรวจสอบวงเงินคงเหลือง่าย เพราะเป็นการเหมาจ่าย เพียงนำยอดที่ใช้จ่ายไปแล้วหักออกจากวงเงินที่ได้รับในระยะเวลาที่เอาประกัน
- เคลมง่าย ไม่ต้องแจกแจงค่าใช้จ่ายแต่ละรายการ เพียงแจ้งยอดค่าใช้จ่ายรวมเท่านั้น
- ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากเป็น ประกันเหมาจ่าย ที่ไม่แยกรายการค่าใช้จ่าย ทำให้ไม่ต้องเป็นห่วงว่าค่าใช้จ่ายรายการใดจะมีการปรับตัวสูงขึ้นหรือค่าใช้จ่ายใดจะไม่ได้ใช้
- ประกันสุขภาพเหมาจ่าย สร้างความอุ่นใจให้กับผู้เอาประกันและครอบครัวด้วยค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย ไม่แยกวงเงินตามรายการ สบายใจเมื่อต้องเข้ารับการรักษา
   
        ประกันสุขภาพเหมาจ่าย  มีให้เลือกรับความคุ้มครองได้อย่างที่ต้องการ ซื้อง่าย ผ่านออนไลน์ ไม่ต้องตรวจสุขภาพ พร้อมรับสิทธิลดหย่อนภาษี คลิกดูรายละเอียดได้ที่ https://online.scbprotect.co.th/e-health?paymentFrequency=YEARLY ประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองสูงด้วยเบี้ยประกันเบา ๆ ครอบคลุมการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุและความเจ็บป่วยจากโรคทั่วไป ทั้ง opd และ ipd  รวมถึงการชดเชยรายได้เมื่อต้องหยุดงาน
   
   


24

ในยุคที่ความไม่แน่นอนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การมีประกันอุบัติเหตุจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีครอบครัวหรือคนที่คุณรัก การจ่ายเบี้ยประกันหลักร้อยเพื่อคุ้มครองหลักแสนจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและไม่ควรมองข้าม

ทำไมต้องมีประกันอุบัติเหตุ?

ประกันอุบัติเหตุเป็นการคุ้มครองทางการเงินในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพของเราและคนที่เรารัก โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงที่อาจทำให้ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งการเสียชีวิต ประกันอุบัติเหตุจะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น

 ประโยชน์ของประกันอุบัติเหตุ

1. การคุ้มครองทางการเงิน: ประกันอุบัติเหตุช่วยให้คุณมีเงินทุนในการรักษาพยาบาลหรือชดเชยรายได้ในกรณีที่ไม่สามารถทำงานได้
2. ความสบายใจ: การมีประกันช่วยให้คุณรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น เพราะคุณมีการคุ้มครองในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
3. การสนับสนุนครอบครัว: หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีขึ้นกับคุณ คนที่คุณรักจะได้รับการช่วยเหลือทางการเงินจากประกัน

ประกันอุบัติเหตุแบบไหนที่เหมาะกับคุณ?

เมื่อพูดถึงประกันอุบัติเหตุ มีหลายแบบที่คุณสามารถเลือกได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณ

 1.  ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล
เป็นประกันที่คุ้มครองเฉพาะบุคคล หากเกิดอุบัติเหตุจะได้รับเงินชดเชยตามที่ระบุในกรมธรรม์

 2. ประกันอุบัติเหตุครอบครัว

เหมาะสำหรับผู้ที่มีครอบครัว โดยจะคุ้มครองสมาชิกในครอบครัวทั้งหมดในกรมธรรม์เดียว

 3. ประกันอุบัติเหตุกลุ่ม

สำหรับองค์กรหรือบริษัทที่ต้องการให้ความคุ้มครองแก่พนักงาน

 วิธีการเลือกประกันอุบัติเหตุที่เหมาะสม

การเลือกประกันอุบัติเหตุที่เหมาะสมควรพิจารณาหลายปัจจัย เช่น

- ความคุ้มครอง: ตรวจสอบว่าประกันนั้นมีความคุ้มครองที่เพียงพอหรือไม่
- เบี้ยประกัน: ควรเลือกเบี้ยประกันที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ
- เงื่อนไขการจ่ายเงิน: อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการจ่ายเงินชดเชยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ



การมีประกันอุบัติเหตุประกันสุขภาพ  เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและสำคัญสำหรับชีวิตในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อคุณมีคนที่คุณรัก การจ่ายเบี้ยประกันเพียงหลักร้อยเพื่อคุ้มครองหลักแสนเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด ควรพิจารณาเลือกประกันที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของคุณ เพื่อให้คุณและคนที่คุณรักมีความปลอดภัยในทุกสถานการณ์

หากคุณสนใจที่จะทำประกันอุบัติเหตุ สามารถติดต่อบริษัทประกันภัยที่เชื่อถือได้เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมและเปรียบเทียบแผนประกันที่เหมาะสมกับคุณได้เลย!


25


ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างสามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต การเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ก็เป็นอีกหนึ่งบริการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ผู้คนมีเวลาว่างในตอนกลางคืน แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ "เปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ตอนกลางคืนได้ไหม?" ในบทความนี้ เราจะมาหาคำตอบกัน

 1. การเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์คืออะไร?

การเปิดบัญชีออมทรัพย์ธนาคารออนไลน์คือกระบวนการที่คุณสามารถสร้างบัญชีธนาคารใหม่ได้ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของธนาคาร โดยไม่จำเป็นต้องไปที่สาขา ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงิน

 2. เวลาที่สามารถเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ได้

 2.1 ธนาคารที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

หลายธนาคารในประเทศไทยได้พัฒนาระบบให้สามารถเปิดบัญชีออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้คุณสามารถทำรายการได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน อย่างไรก็ตาม คุณควรตรวจสอบว่า ธนาคารที่คุณเลือกนั้นมีบริการเปิดบัญชีออนไลน์ในช่วงเวลาดังกล่าวหรือไม่

 2.2 ข้อจำกัดในการเปิดบัญชี

แม้ว่าธนาคารบางแห่งจะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง แต่การเปิดบัญชีอาจมีข้อจำกัดบางประการ เช่น การยืนยันตัวตนที่ต้องใช้เอกสารหรือข้อมูลที่ต้องกรอกให้ครบถ้วน ซึ่งอาจทำให้คุณไม่สามารถเปิดบัญชีได้ในบางกรณี

 3. ขั้นตอนการเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์

 3.1 การเลือกธนาคาร

ก่อนที่คุณจะเริ่มเปิดบัญชี ควรเลือกธนาคารที่ตรงกับความต้องการของคุณ เช่น ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม อัตราดอกเบี้ย เงินฝากกระแสรายวัน และบริการเสริมอื่นๆ

 3.2 การกรอกข้อมูล

เมื่อเลือกธนาคารแล้ว คุณจะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประชาชน และข้อมูลการติดต่ออื่นๆ โดยควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลที่กรอกถูกต้องและครบถ้วน

 3.3 การยืนยันตัวตน

หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จ คุณจะต้องทำการยืนยันตัวตน ซึ่งอาจรวมถึงการอัปโหลดเอกสาร เช่น บัตรประชาชน หรือการถ่ายรูปตัวเองตามที่ระบบกำหนด

 4. ข้อดีของการเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์

- สะดวกสบาย: สามารถเปิดบัญชีได้ทุกที่ทุกเวลา
- ประหยัดเวลา: ไม่ต้องเดินทางไปที่สาขา
- บริการที่รวดเร็ว: ระบบออนไลน์ช่วยให้การเปิดบัญชีเสร็จสิ้นได้อย่างรวดเร็ว



การเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ตอนกลางคืนเป็นไปได้ในหลายธนาคารที่มีบริการตลอด 24 ชั่วโมง แต่ควรตรวจสอบรายละเอียดและข้อกำหนดของแต่ละธนาคารให้ชัดเจน เพื่อให้การเปิดบัญชีของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีปัญหา

หากคุณต้องการเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ในตอนกลางคืน อย่าลืมเลือกธนาคารที่มีบริการที่ตอบโจทย์และตรวจสอบขั้นตอนการเปิดบัญชีให้ครบถ้วน เพื่อให้การทำธุรกรรมทางการเงินของคุณเป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัย

เรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ของธนาคารที่คุณสนใจ และเริ่มต้นการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างมั่นใจในวันนี้!


26


Mobile Banking ทำให้คุณทำธุรกรรมผ่านแอปธนาคารโดยไม่ต้องเดินทางไปธนาคาร หรือสถานที่จำหน่ายสินค้าหรือให้บริการ และคุณไม่จำเป็นต้องถือเงินสดจำนวนมาก ทำให้ตัวของคุณและเงินของคุณปลอดภัยขึ้น

นอกจากการตรวจสอบยอดเงิน การโอนเงินเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ หรือโอนเงินเข้าบัญชีคนอื่นแล้ว ยังมีบริการอื่นที่คุณสามารถทำผ่านแอปธนาคารด้วยตัวคุณเองได้ง่าย ๆ ยกตัวอย่างเช่น
การจ่ายบิล คุณแค่สแกน Barcode หรือ QR Code ที่อยู่บนใบแจ้งหนี้ คุณก็สามารถจ่ายบิลได้ทันที กรณีที่คุณไม่มี Barcode หรือ QR Code คุณสามารถใช้หมายเลขลูกค้าหรือหมายเลขอ้างอิงได้
การกดเงินไม่ใช้บัตร เมื่อคุณเลือกบริการกดเงินไม่ใช้บัตร คุณเพียงแค่กรอกยอดเงินที่คุณต้องการเบิก แอปธนาคารจะแจ้งหมายเลขเพื่อให้คุณใช้กดเงิน คุณแค่ไปที่เครื่อง ATM ใส่หมายเลขโทรศัพท์ และหมายเลขที่ได้จากแอปธนาคาร หน้าจอของ ATM จะแสดงยอดเงินที่กรอกไว้เพื่อให้คุณยืนยัน เมื่อคุณกดยืนยันก็จะได้เงินสดออกมา
การเติมเงิน คุณสามารถ เติมเงินมือถือ เติมเงิน E-Wallet หรือบริการอื่น ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบได้จากแอปธนาคารของคุณ ขั้นตอนการ เติมเงินออนไลน์ มี 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
เลือกเติมเงิน ในแอปธนาคารจะมีบริการเติมเงินให้คุณเลือก เมื่อคุณเลือก เติมเงิน  บัตรเติมเงินหน้าจอจะแสดงบริการที่คุณสามารถเติมเงินได้ จากนั้นคุณก็เลือกบริษัทให้บริการที่คุณต้องการ
กรอกหมายเลขที่คุณใช้บริการ เช่น ถ้าคุณต้องการเติมเงินมือถือก็ให้กรอกหมายเลขโทรศัพท์มือถือ แต่ถ้าหากคุณต้องการเติมเงิน E-Wallet ให้กรอกหมายเลข E-Wallet เป็นต้น
ระบุจำนวนเงินที่คุณต้องการเติม บางบริการอาจมียอดเงินให้คุณเลือก เช่น การเติมเงินมือถือ มียอดเงินให้คุณเลือกที่ 20 บาท 50 บาท 100 บาท ไปเรื่อย ๆ สูงสุดที่ 800 บาท หรือ 1,500 บาท เป็นต้น ในขณะที่บางบริการ เช่น การเติม E-Wallet กำหนดแค่วงเงินขั้นต่ำและสูงสุดไว้ให้คุณกรอกยอดเงินที่ต้องการเอง เป็นต้น

เปรียบเทียบกับการใช้บริการเติมเงินออนไลน์ต่าง ๆ เช่น การเติมเงินผ่านตัวแทนให้บริการเติมเงินออนไลน์ การเติมเงินผ่านตู้บริการเติมเงิน หรือการ เติมเงินมือถือ จากค่ายมือถือโดยตรงแล้ว การเติมเงินผ่านแอปธนาคารมีข้อดีคือไม่ต้องเดินทางไปใช้บริการ สามารถใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีค่าธรรมเนียม และที่พิเศษกว่าบริการเติมเงินออนไลน์ของที่อื่นก็คือคุณสามารถตั้งวันที่ทำรายการได้ล่วงหน้าโดยกำหนดไว้ครั้งเดียว หรือกำหนดไว้เป็นวันที่เดียวกันของทุกเดือน ซึ่งคุณสามารถตั้งล่วงหน้าได้ถึง 12 เดือน เพื่อให้มั่นใจว่าบริการที่คุณเลือก เติมเงิน สามารถให้บริการคุณได้ต่อเนื่อง หรือเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนของคุณ เป็นต้น

การ เติมเงินออนไลน์ ผ่านแอปธนาคารทำได้ง่าย และช่วยให้คุณได้ใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้นแบบนี้นี่เอง
    

27

   การเลือกซื้อประกันสุขภาพนั้น สิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการมากที่สุดคือ วงเงินค่ารักษาพยาบาลที่คุ้มครองครอบคลุมในทุกส่วนเมื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล เนื่องจากปัจจุบันค่ารักษาในโรงพยาบาลเอกชนได้มีการปรับตัวสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ซึ่งแม้ว่าจะมีทางเลือกใช้บริการโรงพยาบาลของรัฐที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าได้ แต่ถึงอย่างนั้นโรงพยาบาลรัฐก็มีผู้เข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก จึงทำให้คนวัยเรียนวัยทำงานส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้ารับบริการได้อย่างสะดวก ด้วยเหตุนี้ ประกันสุขภาพเหมาจ่ายจึงเป็นหนึ่งในประกันสุขภาพที่หลายคนเลือก แต่ซื้อแล้วคุ้มค่าอย่างไร มาดูเหตุผลต่อไปนี้กัน

วงเงินค่ารักษาพยาบาลสูง
ถ้าอยากได้ประกันสุขภาพที่ให้วงเงินการรักษาต่อครั้งสูง เพื่อจะได้เข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนที่มีทั้งความสะดวกรวดเร็วและให้บริการที่มีคุณภาพกว่าโรงพยาบาลของรัฐ บอกเลยว่า ประกันเหมาจ่าย คือ ประกันสุขภาพที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด เพราะประกันประเภทนี้จะให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่จ่ายตามจริงครอบคลุมทุกหมวดค่าใช้จ่าย ทุกครั้งที่เข้ารับการรักษาพยาบาลไม่เกินวงเงินคุ้มครองสูงสุดต่อปี นอกจากนั้นยังสามารถใช้ร่วมกับประกันกรมธรรม์อื่นเพื่อเพิ่มวงเงินในการรักษาพยาบาลได้อีกด้วย

คุ้มครองหลากหลายโรค
ความคุ้มครองที่ครอบคลุมหลายโรคถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้ ประกันเหมาจ่าย แตกต่างจากประกันแบบอื่น อย่างประกันคุ้มครองโรคมะเร็งก็จะให้ความคุ้มครองเมื่อผู้ทำประกันตรวจพบโรคมะเร็งเท่านั้น แต่กรณีประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายจะให้ความคุ้มครองที่หลากหลายมากกว่า เช่น ประกันสุขภาพออนไลน์ Easy Health Top Up ที่นอกจากจะคุ้มครองในส่วนของการเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลแล้ว ยังคุ้มครองในกรณีป่วยด้วยโรคโควิด-19 การแพ้วัคซีน และโรคมะเร็งด้วย

คุ้มครองทั้งกรณี OPD และ IPD
เวลาทำประกันสุขภาพ แน่นอนว่าเรื่องแรกที่หลายคนให้ความสนใจคือ วงเงินรักษาพยาบาล แต่ถึงอย่างนั้นควรให้ความสำคัญเรื่องเงื่อนไขสถานะผู้ป่วยเวลาเข้ารับการรักษาด้วย เนื่องจากบางกรมธรรม์ให้ความคุ้มครองเฉพาะ ipd คือ กรณีเป็นผู้ป่วยในของโรงพยาบาลจึงจะสามารถใช้สิทธิ์ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ได้ แต่ไม่คุ้มครองในกรณี opd คือ ผู้ป่วยนอก แต่หากทำ ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ก็จะสามารถตัดปัญหาเรื่องนี้ไปได้ เพราะว่า ประกันเหมาจ่าย ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งกรณี OPD และ IPD เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะป่วยน้อยป่วยมาก ถ้ามีประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายอยู่ ก็สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ โดยได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์

   ประกันสุขภาพเหมาจ่าย เป็นประกันสุขภาพที่คุ้มค่าและหลากหลาย เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย สำหรับการเลือกซื้อนั้น นอกจากดูเรื่องความคุ้มค่าแล้ว ก่อนตัดสินใจจ่ายค่าเบี้ยประกันต้องพิจารณารายละเอียดความคุ้มครอง ค่าเบี้ยประกันสุขภาพ เงื่อนไขในการเข้ารับการรักษาอย่างละเอียด และที่สำคัญคือ เบี้ยประกันที่เหมาะสมและสามารถจ่ายได้ จะช่วยให้เลือกประกันชีวิตสุขภาพแบบเหมาจ่ายได้ตรงกับความต้องการ ได้รับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลที่มีคุณภาพและสะดวกรวดเร็ว



28


ในยุคที่เศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การขอสินเชื่อเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือการลงทุนในธุรกิจจึงเป็นสิ่งที่หลายคนต้องพิจารณา โดยเฉพาะพนักงานประจำที่มักจะมีรายได้ที่มั่นคง แต่การขอสินเชื่อ ในบางครั้งอาจมีข้อกำหนดที่ทำให้ผู้ขอสินเชื่อรู้สึกกังวล เช่น การต้องมีผู้ค้ำประกัน วันนี้เราจะมาพูดถึงการสมัครสินเชื่อ พนักงานประจำแบบไม่ต้องใช้คนค้ำว่ามีความเป็นไปได้จริงหรือไม่

 สินเชื่อพนักงานประจำแบบไม่ต้องใช้คนค้ำ

 1. ความหมายของสินเชื่อพนักงานประจำ

สินเชื่อพนักงานประจำคือสินเชื่อที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนพนักงานที่มีรายได้ประจำ โดยปกติแล้วจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อทั่วไป และมักมีการอนุมัติที่รวดเร็ว เนื่องจากผู้ให้สินเชื่อสามารถตรวจสอบรายได้และสถานะการทำงานของผู้ขอได้ง่าย

 2. ทำไมถึงไม่ต้องใช้คนค้ำ

การขอสินเชื่อแบบไม่ต้องใช้คนค้ำเป็นทางเลือกที่สะดวกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้บุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องในหนี้สินของตน โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ขอมีรายได้ที่มั่นคงและมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ซึ่งหลายสถาบันการเงินเริ่มมีการพัฒนาสินเชื่อประเภทนี้เพื่อดึงดูดลูกค้า

 3. คุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับการขอสินเชื่อ

การขอสินเชื่อพนักงานประจำแบบไม่ต้องใช้คนค้ำ มักจะมีคุณสมบัติที่ต้องการดังนี้:

- รายได้ประจำ: ผู้ขอสินเชื่อต้องมีรายได้ที่มั่นคงและสามารถพิสูจน์ได้
- ประวัติการชำระหนี้ที่ดี: ผู้ขอควรมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ไม่มีการผิดนัดชำระหนี้ในอดีต
- อายุงาน: บางสถาบันการเงินอาจกำหนดให้ผู้ขอมีอายุงานไม่น้อยกว่า 6 เดือนถึง 1 ปี

 4. ขั้นตอนการขอสินเชื่อ

การขอสินเชื่อพนักงานประจำแบบไม่ต้องใช้คนค้ำ สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้:

1. เลือกสถาบันการเงิน: ควรเลือกธนาคารหรือสถาบันการเงินที่มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ตรงตามความต้องการ
2. เตรียมเอกสาร: เอกสารที่จำเป็นมักจะรวมถึงบัตรประชาชน สลิปเงินเดือน และเอกสารแสดงรายได้
3. ยื่นคำขอ: สามารถยื่นคำขอผ่านช่องทางออนไลน์หรือที่สาขาของสถาบันการเงิน
4. รอการอนุมัติ: หลังจากยื่นคำขอ จะมีการตรวจสอบข้อมูลและอนุมัติสินเชื่อ

 5. ข้อดีและข้อเสียของการขอสินเชื่อแบบไม่ต้องใช้คนค้ำ

ข้อดี:
- ไม่ต้องมีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง
- ลดความยุ่งยากในการจัดเตรียมเอกสาร
- อาจได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า

ข้อเสีย:
- อาจมีการจำกัดวงเงินสินเชื่อ
- ต้องมีคุณสมบัติที่เข้มงวดกว่า

การขอสินเชื่อพนักงานประจำแบบไม่ต้องใช้คนค้ำนั้นเป็นไปได้จริง แต่ผู้ขอสินเชื่อต้องมีคุณสมบัติที่ตรงตามข้อกำหนดของสถาบันการเงิน และควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ หากคุณมีความสนใจในการขอสินเชื่อ ควรศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบเงื่อนไขจากหลายๆ แหล่ง เพื่อให้ได้สินเชื่อที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือคำแนะนำในการกู้สินเชื่อ สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเพื่อขอคำปรึกษาได้ทันที!


29

          มีคนไทยหลายคนรู้สึกว่าการลงทุนเป็นเรื่องที่ซับซ้อน มีความยุ่งยากและใช้เงินจำนวนมาก จึงเลือกที่จะไม่สนใจและศึกษาเพิ่มเติม แต่ในความเป็นจริงการลงทุนไม่จำเป็นต้องใช้เงินมาก สามารถ เปิดบัญชีออนไลน์ เริ่มลงทุนด้วยตนเองได้ง่าย ๆ เพียงแต่หาความรู้เพิ่มเติมก็จะช่วยให้เม็ดเงินที่ลงไปเติบโตขึ้น ถ้าคุณยังไม่รู้จะเริ่มต้นลงทุนอย่างไร ขอแนะนำแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT แอปธนาคารกรุงไทยเพียงหนึ่งเดียวที่ตอบโจทย์นักลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจรมากที่สุดจ่ายค่าไฟ  ชำระค่าไฟ โดยเฉพาะฟีเจอร์เด่นอย่าง Next Invest ที่จะช่วยให้การลงทุนเป็นเรื่องที่ง่าย และนี่คือ 5 เหตุผลที่ทำให้ Krungthai NEXT เป็นเครื่องมือด้านการลงทุนที่สะดวก ใช้งานง่าย เหมาะกับการลงทุน

เริ่มต้นด้วยเงิน 100 บาท ใคร ๆ ก็ทำได้

          เพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่าการลงทุนไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยเงินจำนวนมากเสมอไป เพียงมีเงินแค่ 100 บาท ก็สามารถลงทุนได้แล้ว โดยค้นหากองทุน ดอกเบี้ยฝากประจำ ที่ไม่จำกัดเงินลงทุนขั้นต่ำ อาจเลือกลงทุนแบบทยอยซื้อสะสมด้วยยอดเงินสม่ำเสมอ เพื่อสร้างวินัยการลงทุนให้กับตนเอง หรือจะเลือกซื้อแบบเป็นเงินก้อนโตในทุก ๆ ปีจากเงินโบนัสก็ได้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความต้องการของคุณเอง เนื่องจากการลงทุนผ่านแอป Krungthai Next สามารถลงทุนได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รวมทุกช่องทางการลงทุนแบบครบวงจร จบในแอปเดียว

            ด้วยฟีเจอร์ Next Invest ที่มาพร้อมกับแอป Krungthai NEXT ได้ร่วมมือกับ 9 บริษัทชั้นนำด้านการลงทุน ได้แก่ บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง, บลจ.กรุงไทย,  บลจ.วรรณ, บลจ.กรุงศรี, บลจ.เอ็มเอฟซี , บลจ.แอสเซท พลัส, บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย),  บลจ.พรินซิเพิล และบลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ได้รวบรวมเอาผลิตภัณฑ์การลงทุนทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในหุ้นไทย, หุ้นต่างประเทศ, กองทุนทั้งในและต่างประเทศ ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า บัญชีฝากประจำ มาไว้ภายในฟีเจอร์นี้ฟีเจอร์เดียว เพื่อตอบสนองความต้องการในด้านการลงทุนและเป็นทางเลือกให้นักลงทุนได้พิจารณาถึงผลตอบแทนที่จะได้รับ ซึ่งมีกองทุนให้เลือกมากกว่า 200 กองทุน โดยมีการคัดสรรและแยกกองทุนออกมาให้นักลงทุนได้เลือก เช่น
Popular Fund กองทุนยอดนิยม ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า ดอกเบี้ยฝากประจำ
Fund for You สำหรับคนที่ต้องการผลตอบแทนที่ดีกว่า บัญชีฝากประจำ และเหมาะสมกับความเสี่ยงที่ตนเองรับได้
Tactic Fund เป็นกองทุนที่ได้รับการคัดสรรโดยทีม Krungthai CIO เพื่อเลือกลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดในขณะนั้น

            นอกจากนี้คุณยังสามารถจัดการบริหารรพอร์ตการลงทุนของคุณเองได้ง่าย ๆ ตามสไตล์ของคุณเอง  ซึ่งมีทั้งตราสารหนี้, บัญชีฝากประจำ , พันธบัตรออมทรัพย์, ทองคำและหุ้นกู้ ผ่านหน้าจอแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT เพียงแอปเดียว
โหลด Krungthai NEXT  แอปเดียว ไม่ต้องโหลดเพิ่ม

            ด้วยฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ Krungthai NEXT ที่รวมเอาการลงทุนทุกรูปแบบมาไว้ภายในแอปเดียว ช่วยให้คุณไม่จำเป็นต้องโหลดแอปพลิเคชันเพิ่ม เพื่อให้สมาร์ทโฟนของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมบูรณ์แบบและยังช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล เพียงคุณลงทะเบียนสมัคร เปิดบัญชีออนไลน์ และเริ่มลงทุนใน Krungthai NEXT ด้วยเวลาไม่กี่นาทีสามารถซื้อขายทั้งหุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศได้  นับว่าแอป Krungthai NEXT เป็นเครื่องมือที่สะดวกและง่ายต่อการลงทุนในปัจจุบัน
ศึกษา เรียนรู้ ด้านการลงทุนเพิ่มเติม จากทีม Krungthai CIO

           ฟีเจอร์ Next Invest จาก Krungthai NEXT  มีคลังข้อมูลและความรู้ด้านการลงทุนต่าง ๆ ให้คุณสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองพร้อมอัปเดตข่าวสารและข้อมูลตลอดเวลา เพื่อให้คุณเข้าใจทิศทางและความเคลื่อนไหวของตลาด นอกจากนี้คุณยังสามารถปรึกษา พูดคุยกับทีมงานด้านการลงทุนมืออาชีพจาก Krungthai CIO เพื่อรับคำแนะนำและความรู้เกี่ยวกับการลงทุน เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่มากขึ้น

มีความปลอดภัยมาตรฐานระดับสากล

           ฟีเจอร์  Next Invest ได้รับการพัฒนาจาก บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จำกัด ที่ใช้มาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากลในการพัฒนาแอปพลิเคชัน ด้วยการเลือกใช้ Biometric ในการยืนยันตัวตนแทนการใช้รหัสผ่านและระบบการป้องกันการแคปภาพหน้าจอ มีการอัปเดตฟีเจอร์ความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา ทำให้การทำธุรกรรมการเงินผ่านแอปนี้มีความปลอดภัยสูง

            การลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและมีความรู้ก่อนตัดสินใจลงทุน แต่การไม่ลงทุนอะไรเลยย่อมมีความเสี่ยงมากกว่า ด้วยสภาวะเศรษฐกิจ อัตรา ดอกเบี้ยฝากประจำ และเงินเฟ้อที่นับวันจะยิ่งสูงขึ้น ทำให้มูลค่าของเงินค่อย ๆ หายไป ดังนั้นไม่ว่าจะลงทุนอะไรก็ตามแต่ ควรมีความรู้ในการลงทุนนั้น ๆ เพื่อเพิ่มผลตอบแทนที่จะได้รับอย่างเหมาะสม สำหรับใครที่สนใจ เปิดบัญชีออนไลน์ และข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ www.krungthai.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง



30
 รู้จักประเภทของประกันอุบัติเหตุ – แบบไหนเหมาะกับคุณ?

การประกันอุบัติเหตุ เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยปกป้องคุณจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ไม่ว่าจะเป็นการบาดเจ็บหรือการเสียชีวิต ประกันอุบัติเหตุมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับประเภทของประกันอุบัติเหตุและวิธีการเลือกแบบที่เหมาะสมกับคุณ

 ประเภทของประกันอุบัติเหตุ

 1. ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Personal Accident Insurance)

ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลเป็นประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยจะให้ความคุ้มครองในกรณีที่ผู้เอาประกันได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โดยทั่วไปแล้วจะมีการจ่ายเงินชดเชยตามระดับความรุนแรงของการบาดเจ็บ เช่น การเจ็บป่วยเล็กน้อย การบาดเจ็บที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือการเสียชีวิต

 2. ประกันอุบัติเหตุกลุ่ม (Group Accident Insurance)

ประกันอุบัติเหตุกลุ่มเหมาะสำหรับองค์กรหรือบริษัทที่ต้องการให้ความคุ้มครองแก่พนักงาน โดยจะมีการจ่ายเบี้ยประกันในอัตราที่ต่ำกว่าการทำประกันแบบส่วนบุคคล เนื่องจากมีการรวมกลุ่มผู้เอาประกันหลายคน การทำประกันประเภทนี้ช่วยให้พนักงานมีความมั่นใจในการทำงานมากขึ้น

 3. ประกันอุบัติเหตุสำหรับเด็ก (Child Accident Insurance)

ประกันอุบัติเหตุสำหรับเด็กถูกออกแบบมาเพื่อให้ความคุ้มครองแก่เด็กเล็ก โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่อาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็ก การทำประกันประเภทนี้ช่วยให้ผู้ปกครองมีความอุ่นใจในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดคิด

 4. ประกันอุบัติเหตุเดินทาง (Travel Accident Insurance)

ประกันอุบัติเหตุเดินทางเป็นประเภทที่เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศหรือท่องเที่ยว โดยจะให้ความคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง เช่น การบาดเจ็บหรือการเสียชีวิต โดยจะมีการชดเชยค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลในต่างประเทศ

 วิธีการเลือกประกันอุบัติเหตุที่เหมาะสม

การเลือกประกันอุบัติเหตุที่เหมาะสมกับคุณนั้นควรพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น

1. ความต้องการในการคุ้มครอง: พิจารณาว่าคุณต้องการความคุ้มครองในกรณีใดบ้าง เช่น การบาดเจ็บเล็กน้อย การรักษาในโรงพยาบาล หรือการเสียชีวิต
2. งบประมาณ: ตรวจสอบเบี้ยประกันที่คุณสามารถจ่ายได้ โดยไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
3. เงื่อนไขและข้อกำหนด: อ่านรายละเอียดของกรมธรรม์ให้ชัดเจน เพื่อให้เข้าใจถึงเงื่อนไขการคุ้มครองและข้อยกเว้นต่างๆ


การเลือกประกันอุบัติเหตุที่เหมาะสมกับคุณเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยปกป้องคุณจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ หากคุณยังไม่แน่ใจว่าประกันประเภทไหนเหมาะกับคุณ แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัยเพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสม

การมีประกันอุบัติเหตุไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณมีความมั่นใจในการใช้ชีวิต แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว อย่ารอช้า! เริ่มต้นวางแผนการประกันอุบัติเหตุ  ประกันชีวิตผู้สูงอายุ  ประกันสุขภาพของคุณวันนี้เพื่อความปลอดภัยในอนาคต!



31


ในยุคที่การออมเงินมีความสำคัญมากขึ้น การเลือกบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับนักเรียนหรือนักศึกษา ที่อาจมีรายได้จากการทำงานพิเศษหรือเงินสนับสนุนจากครอบครัว บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงเหมาะกับนักเรียนหรือนักศึกษาอย่างไร

บัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงคืออะไร?

บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง คือ บัญชีที่เสนออัตราดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป ซึ่งมักจะมีข้อกำหนดหรือเงื่อนไขในการเปิดบัญชี เช่น ยอดเงินขั้นต่ำที่ต้องมีในบัญชี หรือจำนวนธุรกรรมที่ต้องทำในแต่ละเดือน การเลือกบัญชีประเภทนี้สามารถช่วยให้เงินออมของคุณเติบโตได้เร็วขึ้น

เหตุผลที่นักเรียนหรือนักศึกษาอาจเลือกบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง

 1. การออมเงิน

การออมเงินเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการจัดการการเงิน นักเรียนหรือนักศึกษาที่เริ่มต้นออมเงินตั้งแต่อายุยังน้อยจะมีโอกาสสร้างฐานะทางการเงินที่มั่นคงในอนาคต การเลือกบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงจะช่วยให้เงินออมของคุณเติบโตได้มากขึ้น

 2. การจัดการงบประมาณ

นักเรียนหรือนักศึกษาอาจมีรายได้ที่จำกัด การใช้บัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงสามารถช่วยให้พวกเขาจัดการงบประมาณได้ดีขึ้น ด้วยการแยกเงินออมออกจากเงินใช้จ่าย การมีบัญชีออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยสูงจะทำให้เงินที่ออมไว้ไม่ถูกใช้จ่ายไปโดยไม่จำเป็น

 3. ความสะดวกในการเข้าถึง

ฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงมักจะมีบริการออนไลน์ที่สะดวกสบาย ทำให้สามารถตรวจสอบยอดเงินและทำธุรกรรมได้ง่าย นอกจากนี้ บางธนาคารยังมีแอปพลิเคชันที่ช่วยให้การจัดการบัญชีเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว

ข้อควรพิจารณาในการเลือกบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง

 1. อัตราดอกเบี้ย

ควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารต่าง ๆ เพื่อเลือกบัญชีที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด

 2. ค่าธรรมเนียม

ตรวจสอบค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับบัญชี เช่น ค่าธรรมเนียมการเปิดบัญชี ค่าธรรมเนียมรายเดือน และค่าธรรมเนียมการถอนเงิน

 3. เงื่อนไขการถอนเงิน

บางบัญชีอาจมีข้อกำหนดในการถอนเงินที่จำกัด ควรอ่านเงื่อนไขให้เข้าใจก่อนตัดสินใจเปิดบัญชี


บัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักเรียนหรือนักศึกษา ที่ต้องการเริ่มต้นการออมเงินและสร้างอนาคตทางการเงินที่มั่นคง อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาเงื่อนไขและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้การออมเงินของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด

หากคุณสนใจที่จะเปิดบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง ควรทำการวิจัยและเปรียบเทียบธนาคารต่าง ๆ เพื่อหาทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ!


32


การเลือกประกันสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะสุขภาพคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต การมีประกันสุขภาพที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้รับการดูแลที่ดีที่สุดเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงคำแนะนำในการเลือกประกันสุขภาพที่คุณควรรู้

## 1. เข้าใจประเภทของประกันสุขภาพ
ประกันสุขภาพมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีความครอบคลุมและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน คุณควรทำความเข้าใจประเภทต่าง ๆ ดังนี้:

### 1.1 ประกันสุขภาพแบบกลุ่ม

ประกันสุขภาพแบบกลุ่มมักจะมีการเสนอโดยนายจ้างหรือองค์กร ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการประกันสุขภาพ แต่คุณอาจมีทางเลือกในการเลือกแผนที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณน้อยกว่า

### 1.2 ประกันสุขภาพแบบรายบุคคล

ประกันสุขภาพแบบรายบุคคลจะให้คุณมีความยืดหยุ่นในการเลือกแผนที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของคุณมากขึ้น คุณสามารถเลือกความคุ้มครองที่ต้องการได้ตามใจชอบ

## 2. พิจารณาความคุ้มครองที่จำเป็น

เมื่อเลือกประกันสุขภาพ คุณควรพิจารณาความคุ้มครองที่คุณต้องการ เช่น:

- **การรักษาในโรงพยาบาล**: ตรวจสอบว่าประกันของคุณครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาในโรงพยาบาลหรือไม่
- **การตรวจสุขภาพประจำปี**: มีความสำคัญในการตรวจสอบสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
- **การรักษาเฉพาะทาง**: หากคุณมีโรคประจำตัว ควรเลือกแผนที่ครอบคลุมการรักษาเฉพาะทาง

## 3. ตรวจสอบเงื่อนไขและข้อยกเว้น

ประกันสุขภาพแต่ละแผนมักจะมีเงื่อนไขและข้อยกเว้นที่คุณควรทราบ เช่น:

- **ระยะเวลารอคอย**: บางแผนอาจมีระยะเวลารอคอยก่อนที่คุณจะสามารถเรียกร้องการรักษา
- **ข้อจำกัดในการรักษา**: ตรวจสอบว่ามีข้อจำกัดใด ๆ ในการรักษาโรคหรือไม่

## 4. เปรียบเทียบราคาและบริการ

การเปรียบเทียบราคาและบริการของบริษัทประกันสุขภาพต่าง ๆ จะช่วยให้คุณได้แผนที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับงบประมาณของคุณ ควรพิจารณา:

- **ค่าเบี้ยประกัน**: ควรเลือกแผนที่มีค่าเบี้ยประกันที่คุณสามารถจ่ายได้
- **บริการลูกค้า**: ตรวจสอบว่าบริษัทมีบริการลูกค้าที่ดีและตอบสนองต่อคำถามของคุณอย่างรวดเร็ว


การอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริงจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงประสบการณ์ของผู้ที่เคยใช้บริการประกันสุขภาพนั้น ๆ ควรค้นหาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น เว็บไซต์ที่มีการตรวจสอบและเปรียบเทียบประกันสุขภาพ
การเลือกประกันสุขภาพที่เหมาะสมเป็นการลงทุนที่สำคัญในชีวิตของคุณ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบตามคำแนะนำที่กล่าวมา เพื่อให้คุณได้รับการดูแลสุขภาพที่ดีที่สุด หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือคำแนะนำเฉพาะทาง สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านประกันสุขภาพได้ เพื่อให้คุณมั่นใจในการตัดสินใจเลือกประกันสุขภาพที่ดีที่สุดสำหรับคุณและครอบครัว




33
ฟรีแลนซ์ พนักงานออฟฟิศ หรือแม่บ้าน...ใครควรมีประกันอุบัติเหตุ

ในยุคที่การทำงานมีความหลากหลายมากขึ้น การเลือกอาชีพที่เหมาะสมกับตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงการประกันอุบัติเหตุที่สามารถช่วยปกป้องคุณจากความเสี่ยงในชีวิตประจำวัน บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจว่าฟรีแลนซ์ พนักงานออฟฟิศ และแม่บ้าน ควรมีประกันอุบัติเหตุหรือไม่ และทำไมถึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณา

 ความสำคัญของประกันอุบัติเหตุ
ประกันอุบัติเหตุเป็นการประกันที่ช่วยคุ้มครองคุณจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น อุบัติเหตุที่อาจทำให้คุณได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยทั่วไปแล้วประกันอุบัติเหตุจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกิดจากอุบัติเหตุ

 ฟรีแลนซ์: ความเสี่ยงที่ควรพิจารณา

ฟรีแลนซ์มักจะทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอน และอาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการทำงานที่บ้านหรือที่อื่น ๆ ที่ไม่ใช่สำนักงาน การไม่มีประกันอุบัติเหตุอาจทำให้คุณต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่สูงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้น การมีประกันอุบัติเหตุจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อปกป้องตัวเองจากความเสี่ยงเหล่านี้

 ข้อดีของการมีประกันอุบัติเหตุสำหรับฟรีแลนซ์

1. การคุ้มครองทางการเงิน: ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
2. ความมั่นใจในการทำงาน: ทำให้คุณสามารถทำงานได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
3. การดูแลสุขภาพ: ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้รวดเร็ว

 พนักงานออฟฟิศ: ความปลอดภัยในที่ทำงาน

สำหรับพนักงานออฟฟิศ แม้ว่าจะทำงานในสภาพแวดล้อมที่ดูปลอดภัย แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การลื่นล้ม หรือการบาดเจ็บจากการทำงานที่ไม่ถูกท่า การมีประกันอุบัติเหตุจึงเป็นการป้องกันที่ดีเพื่อให้คุณได้รับการดูแลเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด

 ข้อดีของการมีประกันอุบัติเหตุสำหรับพนักงานออฟฟิศ

1. การคุ้มครองจากอุบัติเหตุในที่ทำงาน: ช่วยให้คุณได้รับการดูแลเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
2. การลดความเครียด: ลดความกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
3. การสนับสนุนจากบริษัท: บางบริษัทอาจมีการสนับสนุนค่าเบี้ยประกันให้กับพนักงาน

 แม่บ้าน: การดูแลที่บ้าน

แม่บ้านมักจะทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น การทำความสะอาดบ้านหรือการดูแลเด็ก การมีประกันอุบัติเหตุจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อปกป้องตัวเองจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในขณะทำงาน

 ข้อดีของการมีประกันอุบัติเหตุสำหรับแม่บ้าน

1. การคุ้มครองจากอุบัติเหตุที่บ้าน: ช่วยให้คุณได้รับการดูแลเมื่อเกิดอุบัติเหตุในขณะทำงาน
2. ความมั่นใจในการทำงาน: ทำให้คุณสามารถทำงานได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
3. การดูแลสุขภาพ: ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้รวดเร็ว

ไม่ว่าคุณจะเป็นฟรีแลนซ์ พนักงานออฟฟิศ หรือแม่บ้าน การมีประกันอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่สำคัญที่ควรพิจารณา เพื่อปกป้องตัวเองจากความเสี่ยงในชีวิตประจำวัน การทำความเข้าใจในความเสี่ยงและการเตรียมความพร้อมจะช่วยให้คุณสามารถทำงานได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

หากคุณยังไม่มีประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ แนะนำให้คุณพิจารณาเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ เพื่อให้คุณสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจในทุกๆ วัน


34


        พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทำการตลาดเก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องรู้วิธีบริหารเงินและการจัดระเบียบบัญชีกิจการให้ไหลลื่น เพราะระบบการเงินนั้นถือว่าเป็นหัวใจหลักในการทำธุรกิจ คนที่มีหัวการตลาดแต่ทว่า เป็นแม่ค้าหมุนเงินไม่ทัน หรือขาดการวางระบบบัญชีธุรกิจที่ดีก็ไม่อาจประสบความสำเร็จ ยกตัวอย่างร้านค้าที่ขายดีมีออเดอร์เข้านับร้อยราย ได้รับเงินสดเข้ากระเป๋าเป็นหลักหมื่นต่อวัน หักต้นทุนแล้วกำไรเห็น ๆ แต่ทำไปทำมากลับไม่มีเงินหมุนเวียนในร้าน เพราะไม่ได้ทำบัญชีอย่างเป็นระบบและใช้เงินผิดวิธี เมื่อถึงเวลาหนึ่งพบว่า หมุนเงินไม่ทันทำไงดี ดังนั้นก่อนที่คำถามน่าปวดหัวนี้จะเกิดขึ้นเจ้าของกิจการควรตั้งตัวรับมือไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม

วิธีที่จะทำให้การเงินคล่องตัวสามารถทำได้ดังนี้

เปิดบัญชีใหม่เป็นบัญชีร้านโดยเฉพาะ ให้แยกกันกับบัญชีส่วนตัว
วิธีหมุนเงินขายของ จะต้องมีการบันทึกบัญชีรายรับที่ได้จากการขายของและบัญชีต้นทุนต่าง ๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวกับกิจการของร้าน
ไม่นำเงินร้านค้ามาใช้ส่วนตัว จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อตัวเลขที่ได้จากการทำบัญชีของร้านมีผลกำไรและนำเงินที่เป็นกำไรมาใช้เท่านั้น
จัดสรรเงินส่วนหนึ่งไว้เป็นทุนสำรองในกิจการ
การขอสินเชื่อธุรกิจ   SME เป็น วิธีหมุนเงินขายของ อีกทางหนึ่งแต่ต้องเลือกสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่เชื่อถือได้และมีอัตราดอกเบี้ยต่ำ

สินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยหรือ SME มี 2 ประเภทหลัก คือ

- สินเชื่อมีหลักประกัน
- สินเชื่อไม่มีหลักประกัน
ทั้งสองประเภทนี้แตกต่างกันที่อัตราดอกเบี้ย แบบแรกอัตราดอกเบี้ยจะถูกกว่าแต่ผู้ขอกู้จะต้องใช้อสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกันในการยื่นกู้ ส่วนแบบที่สองนั้นไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ใดเป็นหลักประกัน ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะพิจารณาจากความน่าเชื่อถือของตัวผู้กู้เป็นหลัก
เจ้าของกิจการที่กังวลว่าถ้าเปิดร้านมาแล้ว หมุนเงินไม่ทันทำไงดี  สามารถใช้วิธีกู้ทำธุรกิจ จากธนาคาร หากอยากได้เงินด่วนเพื่อหมุนเวียนในกิจการขอแนะนำสินเชื่อแม่ค้า SMEs จากธนาคารกรุงไทย ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายประเภท
สินเชื่อรายย่อย   Krungthai sSME Smart Shop ไม่ต้องมีหลักประกัน ให้วงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาท ไว้หมุนเวียนธุรกิจ
สินเชื่อธุรกิจ Krungthai sSME EEC 4.0 สำหรับ SME ที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับจังหวัดในภาคตะวันออก 5 จังหวัด ดอกเบี้ยต่ำเพียง 4% คงที่ปีแรก หากเลือกประเภทไม่มีหลักประกันให้วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท
สินเชื่อ Krungthai sSME ให้วงเงินสูง 3 เท่าเพื่อให้กิจการมีเงินหมุนเวียน หรือจะกู้เพื่อ Refinance จากสถาบันเดิม อีกทั้งยังให้กู้สำหรับเจ้าของกิจการที่ไม่มีหลักประกันอีกด้วย

ธนาคารกรุงไทยยังมีสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็กอื่น ๆ อีกหลายประเภทสำหรับผู้ที่ เป็นแม่ค้าหมุนเงินไม่ทัน ไม่ว่าลักษณะธุรกิจของคุณจะเป็นแบบไหน สินเชื่อประเภทใดเหมาะกับกิจการของคุณมากที่สุดลองเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://krungthai.com/th/content/sme/loan



35


การลดหย่อนภาษีเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้ผู้เสียภาษีสามารถลดภาระภาษีที่ต้องจ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในปี 2568 นี้ หลายคนอาจมีคำถามเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถใช้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีได้อย่างเต็มที่ บทความนี้จะตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีในปีนี้

## 1. การลดหย่อนภาษีคืออะไร?

การลดหย่อนภาษีคือการอนุญาตให้ผู้เสียภาษีสามารถหักค่าใช้จ่ายบางอย่างออกจากรายได้ที่ต้องเสียภาษี ซึ่งจะช่วยลดจำนวนเงินที่ต้องจ่ายภาษีในปีนั้น ๆ โดยทั่วไปแล้ว การลดหย่อนภาษีจะมีหลายประเภท เช่น ค่าใช้จ่ายในการศึกษา การบริจาค การประกันชีวิต และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล

## 2. ใครสามารถขอลดหย่อนภาษีได้บ้าง?

ผู้ที่สามารถขอลดหย่อนภาษีได้ ได้แก่ บุคคลธรรมดาที่มีรายได้จากการทำงานหรือกิจการต่าง ๆ รวมถึงผู้ที่มีรายได้จากการลงทุน อย่างไรก็ตาม การลดหย่อนภาษีจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดโดยกรมสรรพากร

## 3. ลดหย่อนภาษีปี 2568 มีอะไรใหม่บ้าง? ในปี 2568 นี้ มีการปรับปรุงกฎเกณฑ์การลดหย่อนภาษีหลายประการ เช่น การเพิ่มวงเงินการลดหย่อนสำหรับค่าใช้จ่ายในการศึกษาและการบริจาคให้กับองค์กรการกุศลและบริจาคออนไลน์ e donation นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนการลงทุนในธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยให้ผู้เสียภาษีสามารถลดภาษีได้มากขึ้น

## 4. เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการขอลดหย่อนภาษีคืออะไร?

การขอลดหย่อนภาษีจะต้องมีเอกสารที่แสดงหลักฐานการใช้จ่าย เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบรับรองการบริจาค และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยควรจัดเตรียมเอกสารเหล่านี้ให้ครบถ้วนเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

## 5. วิธีการยื่นขอลดหย่อนภาษีทำอย่างไร?

การยื่นขอลดหย่อนภาษีสามารถทำได้หลายช่องทาง ได้แก่ การยื่นแบบฟอร์มภาษีผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร หรือการยื่นแบบฟอร์มด้วยตนเองที่สำนักงานสรรพากรในพื้นที่ โดยควรตรวจสอบระยะเวลาการยื่นภาษีให้ถูกต้องเพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในการลดหย่อนภาษี

## 6. คำแนะนำในการวางแผนลดหย่อนภาษี

การวางแผนลดหย่อนภาษีอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้คุณสามารถลดภาษีได้มากขึ้น ควรเริ่มต้นด้วยการตรวจสอบค่าใช้จ่ายที่สามารถลดหย่อนได้ และจัดทำงบประมาณการใช้จ่ายในปีถัดไปอย่างรอบคอบ นอกจากนี้ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี

การลดหย่อนภาษีในปี 2568 เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้เสียภาษีในการลดภาระภาษีที่ต้องจ่าย การเข้าใจคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีจะช่วยให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์นี้ได้อย่างเต็มที่ หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษี ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด




36

       สำหรับผู้ที่กำลังมองหา ประกันบ้าน ที่เหมาะกับบ้านทุกหลัง ประกันอัคคีภัยบ้าน ครอบคลุมทุกความกังวล ไม่เฉพาะไฟไหม้บ้านเท่านั้น แต่ยังมีน้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุฝน และผลกระทบจากภัยพิบัติธรรมชาติอื่น ๆ คุ้มครองบ้านแสนรัก ทรัพย์สินภายในบ้าน รวมถึงชีวิตคุณ

       ประกันอัคคีภัย สำหรับบ้านอยู่อาศัยคุ้มครองดูแลให้เรื่องหนักกลายเป็นเรื่องเบา จุดเด่นของประกันบ้านคือเบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 600 กว่าบาทเท่านั้น สำหรับบ้านที่เป็นครึ่งตึกครึ่งไม้ และบ้านผนังคอนกรีต

        ความคุ้มครองหลัก ๆ คือ ปกป้องภัยจากไฟไหม้ ฟ้าผ่า รวมถึงความเสียหายจากอุปกรณ์ไฟฟ้าลัดวงจร ภัยจากระเบิด รถเฉี่ยวชน น้ำฝนสาดเข้าบ้าน ท่อน้ำรั่วไหล แต่ไม่คุ้มครองกรณีภัยจากน้ำท่วมหรือระบบท่อประปาใต้ดินเสียหาย เรียกว่าครอบคลุมมากทีเดียว นอกจากนี้ยังคุ้มครองภัยธรรมชาติ อาทิ น้ำท่วม ลมพายุ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ ลูกเห็บ เป็นต้น

เลือกทำประกันกับบริษัทไหนดี

         ขึ้นอยู่กับรายละเอียดและเงื่อนไขของบริษัทนั้น แม้ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยแตกต่างกันนัก แต่ถ้าใส่ใจรายละเอียดจริง ๆ แล้วจะเห็นว่าการดำเนินงานของบริษัทไหนมีความเป็นมืออาชีพ มีบริการหลังการขายที่ดี ไม่ยุ่งยาก ไม่รอนาน ไม่มีปัญหาเรื่องการเคลม ประกันอัคคีภัยบ้าน สุดท้ายคือบริษัทประกันมีสาขาครอบคลุม สามารถติดต่อสอบถามได้ง่าย มีเจ้าหน้าที่ช่วยประสานงานให้รวดเร็ว หรือว่าจะเลือกทำกับบริษัทที่ทำการกู้บ้าน ก็ได้

ลดหย่อนภาษีได้หรือไม่

        ถ้าเป็นประกันชนิดอื่น เช่น ประกันสุขภาพจะนำเบี้ยประกันมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ นอกจากนี้ยังมีประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ และประกันโรคร้ายแรง ซึ่งนำมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้ หลายคนตัดสินใจทำประกันชีวิตเพื่อใช้เบี้ยประกันชีวิตลดหย่อนภาษี แต่อย่าลืมว่าไม่ใช่ทุกเบี้ยประกันจะนำมาลดหย่อนภาษีได้ทั้งหมด อย่างกรณีการทำ ประกันอัคคีภัย จะใช้เบี้ย ประกัน ลดหย่อนภาษี ไม่ได้ ถามว่าประกันแบบไหนใช้ลดหย่อนภาษีดีที่สุด ขอแนะนำให้ทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่ใช้เบี้ยประกันที่จ่ายแต่ละปีนำไปลดหย่อนภาษีได้ทั้งหมด ในส่วนของการทำประกันเหตุอัคคีภัยแบบคุ้มครอง 2 ปี หรือ 3 ปี จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันถูกลงมาบ้าง

        สำหรับ ประกันบ้าน สามารถนำค่าเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้ แต่ต้องเป็นการทำประกันที่มีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป ส่วนประกันทรัพย์สินภายในบ้าน ประกันภัยโจรกรรม และ ประกันอัคคีภัยบ้าน โดยประกันเหล่านี้นำเบี้ย ประกัน ลดหย่อนภาษี ไม่ได้

         สำหรับประกันบ้านยอดฮิตนอกเหนือจาก ประกันอัคคีภัยบ้าน แล้ว ก็ยังมีประกันทรัพย์สินภายในบ้าน และประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน MRTA ซึ่งเป็นประกัน 3 อย่างที่ควรมีติดไว้ เริ่มจากประกันบ้านเป็นหลักที่ใช้ความคุ้มครองในส่วนของโครงสร้างบ้านเท่านั้น แต่ไม่คุ้มครองเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในบ้าน ส่วนใหญ่เป็นประกันระยะสั้น จ่ายเบี้ยรายปี จึงราคาไม่สูง แต่หากข้าวของในบ้านถูกไฟไหม้ไม่ได้รับเงินชดเชย

         ถ้าต้องการความคุ้มครองเพิ่มขึ้น ก็แนะนำให้ทำประกันทรัพย์สินภายในบ้านที่คุ้มครองครอบคลุมสาเหตุจากไฟไหม้ น้ำท่วม พายุ และโจรขโมยด้วย สุดท้ายคือประกัน MRTA คุ้มครองชีวิตของผู้ทำประกัน หากเกิดเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตระหว่างผ่อนบ้าน ทางประกันก็จะช่วยผ่อนจ่ายหนี้ส่วนที่เหลือต่อไป

หากสนใจทำ ประกันบ้าน จริง ๆ แนะนำว่าให้ศึกษารายละเอียดและเปรียบเทียบราคาให้ดี ก่อนเลือกประกันที่ดีที่สุดสำหรับคุณ


37
ในยุคที่การเงินมีความซับซ้อนมากขึ้น การเลือกวิธีการฝากเงินที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ บัญชีเงินฝากประจำเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย เนื่องจากความปลอดภัยและผลตอบแทนที่ค่อนข้างแน่นอน ในบทความนี้เราจะสำรวจความสำคัญของบัญชีเงินฝากประจำและความปลอดภัยด้านการเงินที่มาพร้อมกับมัน

บัญชีเงินฝากประจำคืออะไร?

บัญชีเงินฝากประจำคือบัญชีที่ผู้ฝากเงินสามารถฝากเงินเป็นระยะเวลาที่กำหนด โดยจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป โดยปกติแล้วผู้ฝากจะต้องฝากเงินในระยะเวลาที่กำหนด เช่น 6 เดือน, 1 ปี หรือ 5 ปี ซึ่งดอกเบี้ยจะถูกคำนวณตามระยะเวลาที่ฝาก

ประโยชน์ของบัญชีเงินฝากประจำ

1. ดอกเบี้ยสูงกว่า: บัญชีเงินฝากประจำมักมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป ทำให้ผู้ฝากได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า
2. ความปลอดภัย: เงินที่ฝากในบัญชีเงินฝากประจำจะได้รับการคุ้มครองจากธนาคาร โดยทั่วไปแล้วเงินฝากจะได้รับการประกันจาก Deposit Protection Scheme
3. การวางแผนการเงิน: การฝากเงินในบัญชีเงินฝากประจำช่วยให้ผู้ฝากสามารถวางแผนการเงินได้ดีขึ้น เนื่องจากมีระยะเวลาที่ชัดเจนในการฝากเงิน

ความปลอดภัยด้านการเงิน

ความปลอดภัยด้านการเงินเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับผู้ฝากเงิน โดยบัญชีเงินฝากประจำมีคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในเรื่องนี้

การประกันเงินฝาก

ในประเทศไทย เงินฝากในบัญชีฝากประจำจะได้รับการประกันจาก Deposit Protection Scheme ซึ่งหมายความว่าหากธนาคารเกิดปัญหาทางการเงิน ผู้ฝากจะได้รับเงินคืนสูงสุดถึง 1 ล้านบาทต่อคนต่อธนาคาร

ความเสี่ยงที่ต่ำ

บัญชีเงินฝากประจำมีความเสี่ยงที่ต่ำมากเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวม ซึ่งอาจมีความผันผวนของราคา การเลือกบัญชีเงินฝากประจำจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงในเงินลงทุน

วิธีการเลือกบัญชีเงินฝากประจำที่เหมาะสม

การเลือกบัญชีเงินฝากประจำที่เหมาะสมควรพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น

1. อัตราดอกเบี้ย: ควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารต่างๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด
2. ระยะเวลาฝาก: เลือกระยะเวลาฝากที่ตรงกับความต้องการทางการเงินของคุณ เช่น ฝากประจำ 3 เดือน
3. ค่าธรรมเนียม: ตรวจสอบค่าธรรมเนียมที่อาจเกิดขึ้นในการเปิดบัญชีหรือถอนเงินก่อนกำหนด

บัญชีเงินฝากประจำเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยและผลตอบแทนที่แน่นอนในยุคที่การเงินมีความซับซ้อน การเลือกบัญชีที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคง หากคุณกำลังมองหาวิธีการออมเงินที่ปลอดภัย บัญชีเงินฝากประจำอาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา


หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชีเงินฝากประจำและการวางแผนการเงิน สามารถติดต่อธนาคารหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้เลย!




38

   ‘กองทุนรวม’ (Mutual Fund) คือการระดมเงินจากนักลงทุนจำนวนมากมาลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ภายใต้การดูแลของ ‘ผู้จัดการกองทุน’ ที่ความเชี่ยวชาญในการลงทุน โดยเราจะได้ประโยชน์จากส่วนแบ่งผลตอบแทนหรือการขายคืนหน่วยลงทุน ซึ่งในอดีตนั้น การ เปิดบัญชีกองทุนรวม มักถูกมองว่าเป็นเรื่องไกลตัวและมีขั้นตอนยุ่งยาก แต่ในปัจจุบันเราสามารถทำผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai Next ในมือถือได้อย่างง่ายดาย แถมยังประหยัดเวลาขึ้นเยอะ ดังนั้น วันนี้เราก็มี 4 ขั้นตอน สมัครกองทุนรวม ผ่านแอปฯ พร้อมเทคนิคเลือกกองทุนให้มีโอกาสได้กำไรมาฝากกัน

ขั้นตอนการเปิดบัญชีเพื่อการลงทุน ผ่านแอปพลิเคชัน
   สำหรับขั้นตอนการ เปิดบัญชีกองทุน และการทำธุรกรรมเกี่ยวกับกองทุนรวมผ่านแอป Krungthai Next สามารถทำได้อย่างสะดวกเพียงแค่ทำตาม 4 ขั้นตอนต่อไปนี้
   1. เปิดหน้าเมนูกองทุนรวม เลือกเมนูกองทุนรวมจากเมนูลัดบนหน้าหลัก (Quick Menu) - เลือกกองทุนรวมจากเมนูบริการ (Services) - เลือกกองทุนรวมจากหน้าบัญชี (Account List)
   2. เปิดหน่วยลงทุนกองทุนรวม กดเปิดบัญชีกองทุนรวม (Open Mutual Funds Account) - กรอกแบบฟอร์ม FATCA กดตอบทุกคำถาม แล้วกดปุ่มถัดไป - กรอก Laser Code แล้วกดปุ่มยืนยัน - กรอกข้อมูลส่วนตัว แล้วกดปุ่มถัดไป (Next) - ตรวจสอบข้อมูล แล้วกดปุ่มยืนยัน (Confirm) - รอการดำเนินการเปิดบัญชีกองทุน แล้วกดเสร็จสิ้น (Done) - รับข้อความผลการเปิดบัญชีกองทุน ผ่าน Publish และ Inbox เพียงเท่านี้ก็จะเริ่มใช้บริการได้ต่อไป
   3. การเลือกซื้อกองทุนรวม เลือกเมนู ‘ซื้อ’ – เลือกกองทุนที่ต้องการซื้อ – กรอกข้อมูล กดยอมรับเงื่อนไข และกดถัดไป (Next) – ยอมรับเงื่อนไข และ/หรือ ความเสี่ยงกองทุน กดถัดไป (Next) – ตรวจสอบข้อมูลการซื้อกองทุน แล้วกดปุ่มยืนยัน (Confirm) - แสดงผลการส่งคำสั่งซื้อ และกดปุ่มเสร็จสิ้น (Done)
   4. การยกเลิกธุรกรรม กด ‘เมนูอื่น ๆ’ เลือกรายการย้อนหลัง (Transaction History) - ตรวจสอบข้อมูล และกดปุ่มยกเลิกรายการนี้ - ยืนยันการยกเลิก และกดปุ่มใช่ - แสดงผลการทำธุรกรรม และกดปุ่มเสร็จสิ้น (Done)

เทคนิคการเลือกกองทุนให้มีโอกาสได้กำไร
   สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่สนใจอยาก เปิดบัญชีกองทุนรวม แต่ไม่มีประสบการณ์ด้านการลงทุนมาก่อน ก่อนอื่นควรศึกษาเทคนิคเบื้องต้นในการลงทุนกับกองทุนรวม เพราะช่วยเพิ่มโอกาสให้การลงทุนของเราได้กำไรกลับมาง่ายขึ้น โดยสามารถทำตาม 3 เทคนิคดังต่อไปนี้
   1. ประเมินตนเองและนโยบายของกองทุน ก่อนตัดสินใจลงทุน อันดับแรกควรสำรวจตัวเราเองว่ารับความเสี่ยงจากการลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน เพราะกองทุนแต่ละประเภทมีความเสี่ยงและผลตอบแทนมากน้อยไม่เท่ากัน เมื่อประเมินตนเองได้แล้วก็ให้ศึกษานโยบายการลงทุนจากหนังสือชี้ชวน (Fund Fact Sheet) ว่ามีนโยบายการลงทุนตอบสนองความต้องการของเราหรือไม่ เช่น หากต้องการผลตอบแทนสม่ำเสมอ ความเสี่ยงระดับต่ำถึงปานกลาง ก็อาจจะเลือกลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ที่กองทุนจะนำเงินค่าเช่ามาจ่ายเป็นเงินปันผลให้กับผู้ลงทุน เป็นต้น
   2. ตรวจสอบผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรตรวจสอบผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน 3 เดือน, 6 เดือน, 1 ปี, 3 ปี เปรียบเทียบกองทุนรวมแต่ละกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนแบบเดียวกัน ว่ากองทุนไหนมีผลการดำเนินงานที่ผ่านมาดีกว่า
   3. ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการลงทุน แต่ละกองทุนมี ‘ค่าธรรมเนียม’ แตกต่างกัน ซึ่งถือเป็นตัวแปรหนึ่งที่อาจทำให้ผลตอบแทนที่เราได้รับน้อยลงกว่าที่ควรจะเป็นเพราะต้องถูกหักค่าธรรมเนียม ดังนั้น ก่อนลงทุนเราจึงควรศึกษาอัตราการเก็บค่าธรรมเนียมของแต่ละกองทุนให้ละเอียด

   เมื่อทุกคนรู้ขั้นตอนการ สมัครกองทุนรวม ผ่านแอป Krungthai NEXT รวมถึงเทคนิคการเลือกกองทุนเบื้องต้นแล้ว ก็สามารถทำธุรกรรมผ่านแอปกันได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขายกองทุน, ดูพอร์ตหรือสับเปลี่ยนกองทุนได้ทันที และที่สำคัญคือมีกองทุนรวมให้เลือกลงทุนหลายประเภท เช่น กองทุนตลาดเงิน, กองทุนตราสารหนี้, กองทุนตราสารทุน, กองทุน RMF และ SSF




39

     เงินทุนหมุนเวียนเป็นสิ่งที่ขาดแคลนไม่ได้สำหรับเจ้าของกิจการ โรงงาน ห้างร้านขนาดเล็กและกลางที่ต้องการก้าวเดินหน้าอย่างมั่นคง  สินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม เป็นเงินทุนหมุนเวียนกู้ทำธุรกิจ ให้ความคล่องตัวในการดำเนินกิจการของธุรกิจสีเขียวที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสามารถต่อยอดธุรกิจได้ทันใจ

       ธุรกิจสีเขียวคือธุรกิจที่มีความใส่ใจต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมที่นับวันทวีความรุนแรงมากขึ้น เช่น ธุรกิจโซลาร์เซลล์ที่สนับสนุนการลดใช้พลังงานไฟฟ้า ธุรกิจพลาสติกที่สร้างจากวัสดุย่อยสลายง่าย ร้านอาหารเดลิเวอรี่ที่ใช้กล่องใส่อาหารแทนแบบใช้ซ้ำหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่แทนกล่องโฟมธรรมดา ร้านค้าแบบรีฟิลให้ลูกค้านำบรรจุภัณฑ์เดิมกลับมาเติมที่ร้าน การลงทุนสีเขียวไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มีความจริงจังมากขึ้นหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 กระตุ้นความกังวลเพิ่มขึ้นว่าธรรมชาติมีผลต่อชีวิตความอยู่ดีที่สุขของชาวโลกมากแค่ไหน

        ด้วยเหตุนี้ หลายธุรกิจที่ก้าวทันเทรนด์รักษ์โลกจัดการธุรกิจให้เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมกำลังได้รับโอกาสกู้เงินง่าย ๆ จากโครงการเงินกู้เพื่อสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็น สินเชื่อเสริมสภาพคล่อง สินเชื่อธุรกิจมีจุดมุ่งหมายให้ธุรกิจนั้นได้เงินทุนก้อนหนึ่งสำหรับสร้างระบบบำบัดขจัดมลพิษและของเสียที่ได้มาตรฐาน ช่วยให้ธุรกิจจัดสรรเงินที่ใช้ในการลงทุนได้อย่างเป็นระบบตามแผนที่วางไว้โดยไม่ต้องสูญเสียสภาพคล่องของตนเองไป

        เป้าหมายของโครงการ สินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อม ให้กู้เงินเพื่อจัดสร้างระบบบำบัดมลพิษที่เกิดจากการดำเนินกิจการบริษัท โรงงาน หรือห้างร้านของตนเองให้ถูกต้องตามกฎหมาย หรือเป็น สินเชื่อขยายธุรกิจพื่อลงทุนรับจ้างให้บริการสร้างระบบบำบัดขจัดมลพิษและของเสียให้ลูกค้า ผู้ประกอบการซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กหรือธุรกิจเปิดใหม่สามารถขอกู้ได้ง่าย ระยะเวลากู้นานถึง 7 ปี ลดภาระเจ้าของธุรกิจให้ผ่อนนานระยะเวลาปลอดเงินต้นไม่เกิน 2 ปี สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันนี้มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ 2% โดยใช้หลักประกันคือหนังสือค้ำประกันของธนาคารหรือใช้บัญชีเงินฝาก ส่วนอัตราดอกเบี้ย 3% เมื่อใช้หลักทรัพย์อื่น ๆ มาเป็นหลักประกัน

      ธุรกิจที่ได้รับ สินเชื่อหมุนเวียน มีเงินลงทุนอย่างสม่ำเสมอย่อมมีโอกาสเติบโตได้ดี สินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อมที่มีอายุนานถึง 7 ปีถือเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ซึ่งส่วนใหญ่มีวงเงินสูง สำหรับวงเงินกู้เพื่อจัดสร้างระบบบำบัดอากาศ บำบัดน้ำเสีย หรือระบบกำจัดของเสีย จะให้เงินกู้ตามความจำเป็นของธุรกิจลูกค้าแต่ละราย

        สินเชื่อเพื่อการลงทุนขนาดเล็ก sme loan เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับ SME ที่มีความใส่ใจในการลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอยู่แล้ว ผู้ประกอบการในปัจจุบันที่ปรับการดำเนินงานโดยใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จะได้รับโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินกู้ง่ายขึ้น เพียงริเริ่มแผนการลงทุนสร้างระบบบำบัดน้ำเสียจากโรงงาน หรือติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมการปล่อยแก๊สเรือนกระจกและลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ รวมไปถึงระบบกำจัดของเสียเปลี่ยนของเสียเป็นพลังงาน และการนำขยะมาใช้ใหม่ที่สอดคล้องกับนโยบายของธนาคารเจ้าของโครงการเงินกู้เพื่อสิ่งแวดล้อม



40
เมื่อเรา สมัครบัตรเดบิต ธนาคารหลายแห่งยังมักเสนอสิทธิพิเศษเพิ่มเติม เช่น ประกันภัยที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ทำให้บัตรเดบิตไม่ใช่แค่บัตรธุรกรรมทางการเงินธรรมดา แต่ยังช่วยเสริมความอุ่นใจสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อย ๆ ได้อีกด้วย

เดบิตการ์ดพ่วงประกันภัยคุ้มครองอะไรบ้าง

นอกจากฟังก์ชันพื้นฐานเหมือน บัตร atm ที่ใช้เบิกถอนเงินสดหรือรูดจ่ายสินค้าแล้ว บัตรเดบิตพ่วงประกันภัยยังเพิ่มความคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิด เช่น หกล้ม รถชน หรืออุบัติเหตุจากการเดินทาง เงื่อนไขการคุ้มครองขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร เช่น ค่ารักษาพยาบาลไม่จำกัดจำนวนครั้ง ค่าชดเชยรายได้ การคุ้มครองทุพพลภาพถาวร หรือแม้แต่กรณีเสียชีวิต

รวมข้อดีของบัตรเดบิตพ่วงประกันภัย

อุ่นใจยิ่งขึ้น เพราะหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็ยังมีเงินค่ารักษาพยาบาลและเงินก้อนดูแลครอบครัว

ไม่ต้องสำรองจ่าย ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่มักจะสูงในยามเจ็บป่วย

คุ้มค่าและประหยัด แม้จะมีค่าใช้จ่ายมากกว่าบัตรธรรมดาเล็กน้อย แต่เฉลี่ยต่อปีแล้วคุ้มกว่าเลือกทำประกันภัยแยก

ค่าธรรมเนียมบัตรเดบิต กับความคุ้มค่า

หลายคนกังวลเรื่อง ค่าธรรมเนียมของบัตรเดบิต เพราะบัตรที่พ่วงประกันภัยมักมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าบัตรปกติ แต่หากพิจารณาเทียบกับความคุ้มครองที่ได้รับ เช่น ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุหรือการคุ้มครองระหว่างเดินทาง จะเห็นว่าคุ้มค่ากว่าการทำประกันแยกต่างหาก อีกทั้งบางธนาคารยังมีโปรโมชั่นลดค่าธรรมเนียมในปีแรก หรือมอบสิทธิพิเศษด้านการเดินทางเพิ่มเติมให้กับผู้ถือบัตร

สำหรับคนที่ต้องเดินทางบ่อย การทำ บัตรเดบิตพ่วงประกันภัย ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะไม่เพียงช่วยอุ่นใจเรื่องอุบัติเหตุ แต่ยังลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด และหากเลือกบัตรที่มีประกันการเดินทางต่างประเทศ หรือ travel card ที่แลกเปลี่ยนเงินได้ในเรทพิเศษ ก็ยิ่งตอบโจทย์คนรักการท่องเที่ยวมากขึ้น

41
แต่ละขั้นตอนของการทำธุรกิจล้วนแล้วแต่มีความสำคัญ ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกิจการ การวางแผนงาน การผลิต การตลาด ช่องทางการจัดจำหน่าย รวมไปถึงการขนส่ง ทุกขั้นตอนต่างต้องใช้ทั้งสมอง แรงงาน และเงินทุนหมุนเวียน แต่หากธุรกิจเกิดสะดุด ขาดสภาพคล่อง อยากปรับปรุง ขยายกิจการ หรือต้องการปรับโครงสร้างหนี้ สินเชื่อ SME รวมถึง สินเชื่อค้าขาย ที่ออกแบบมาเพื่อพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างและสนับสนุนให้ทุกธุรกิจขับเคลื่อนไปข้างหน้า

ในปัจจุบัน ธนาคารหรือสถาบันการเงินต่าง ๆ มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อ SME, สินเชื่อแม่ค้า, สินเชื่อพ่อค้าแม่ค้า หรือแม้กระทั่ง เงินกู้พ่อค้าแม่ค้า เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ต้องการ กู้เงินทำธุรกิจ ทั้งเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง การลงทุน หรือการขยายกิจการ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการควรพิจารณาเลือกสินเชื่อที่ตรงกับวัตถุประสงค์และความสามารถในการชำระหนี้

ตัวอย่างเช่น หากต้องการขยายกิจการ สร้างอาคาร หรือซื้อเครื่องจักร ควรเลือกสินเชื่อที่ใช้อสังหาริมทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งเหมาะกับการกู้เงินระยะยาว อัตราดอกเบี้ยต่ำ และผ่อนชำระได้นานถึง 30 ปี แต่หากเป็นธุรกิจค้าขายขนาดเล็กที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้น อาจใช้ สินเชื่อค้าขาย หรือสินเชื่อเบิกเกินบัญชี (OD) ที่สามารถเบิกถอนจากบัญชีกระแสรายวัน โดยจะคิดดอกเบี้ยเฉพาะวงเงินที่ใช้จริงและหยุดคิดดอกเบี้ยทันทีเมื่อชำระคืนครบ

จากกรณีนี้จะเห็นได้ว่าการวางเป้าหมายที่ชัดเจนช่วยให้เกิดความคุ้มค่าทั้งในด้านการใช้เงินกู้และการจ่ายดอกเบี้ย นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังควรวางแผนการเงินอย่างเป็นขั้นตอน คำนวณวงเงินที่ต้องการ เตรียมแผนสำรองกรณีการขอ เงินกู้พ่อค้าแม่ค้า หรือ สินเชื่อ SME ไม่ผ่าน และทบทวนให้ดีว่าความจำเป็นเร่งด่วนมีมากน้อยแค่ไหน เพราะเมื่อกู้แล้วก็ต้องรับผิดชอบภาระหนี้ที่เกิดขึ้นด้วย

สิ่งสำคัญอีกประการคือ การจัดทำแผนธุรกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว ไม่ว่าจะขอ สินเชื่อแม่ค้า หรือ สินเชื่อเพื่อธุรกิจ SME สถาบันการเงินต่างต้องการเห็นความชัดเจน ทั้งเป้าหมาย รายได้ ผลกำไร แผนการตลาด ค่าใช้จ่าย และประวัติการชำระหนี้ หากข้อมูลน่าเชื่อถือก็จะช่วยให้อนุมัติได้ง่ายขึ้น

สำหรับเอกสารที่ต้องเตรียมในการยื่นขอสินเชื่อ ได้แก่

เอกสารธุรกิจ เช่น งบการเงิน รายการเดินบัญชีย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน

เอกสารหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น โฉนดที่ดิน (เว้นแต่เป็นสินเชื่อที่ไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน)

เอกสารส่วนบุคคล เช่น สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้านของผู้กู้และคู่สมรส (ถ้ามี)

ความพร้อมด้านเอกสารและเป้าหมายที่ชัดเจน จะช่วยให้การอนุมัติเร็วขึ้น ขณะเดียวกันควรศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย วงเงิน ระยะเวลาผ่อน และเงื่อนไขต่าง ๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ เพื่อให้การกู้เงินทำธุรกิจ SME หรือการขอ สินเชื่อพ่อค้าแม่ค้า คุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด

42



การกู้เงินเป็นเรื่องที่หลายคนต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือแม้กระทั่งการลงทุนในธุรกิจส่วนตัว แต่ก่อนที่คุณจะยื่นขอสินเชื่อ ควรมีการเตรียมความพร้อมและตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นเพื่อให้การกู้เงินเป็นไปอย่างราบรื่น ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเช็กลิสต์เบื้องต้นที่ควรพิจารณาก่อนการยื่นขอสินเชื่อ

 1. ประเมินความต้องการและวัตถุประสงค์ในการขอเงินกู้
ก่อนอื่น คุณควรตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ทำไมถึงต้องการกู้เงิน?” วัตถุประสงค์ในการกู้เงินจะช่วยให้คุณเลือกประเภทสินเชื่อที่เหมาะสม เช่น

- สินเชื่อบ้าน: สำหรับการซื้อบ้านหรือที่ดิน
- สินเชื่อรถยนต์: สำหรับการซื้อรถยนต์
- สินเชื่อส่วนบุคคล: สำหรับค่าใช้จ่ายทั่วไปหรือการลงทุน

การรู้วัตถุประสงค์จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเงินได้ดียิ่งขึ้น

 2. ตรวจสอบเครดิตสกอร์

เครดิตสกอร์เป็นตัวชี้วัดความน่าเชื่อถือในการกู้เงินของคุณ ธนาคารและสถาบันการเงินมักจะพิจารณาเครดิตสกอร์ก่อนอนุมัติสินเชื่อ ดังนั้นคุณควรตรวจสอบเครดิตสกอร์ของตัวเองก่อนที่จะยื่นขอสินเชื่อ

- เครดิตสกอร์สูง: มีโอกาสได้รับสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ
- เครดิตสกอร์ต่ำ: อาจต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้นหรืออาจถูกปฏิเสธการกู้เงิน

 3. คำนวณความสามารถในการชำระเงิน

ก่อนที่จะยื่นขอสินเชื่อ คุณควรคำนวณความสามารถในการชำระเงินของตนเอง เช่น

- รายได้ต่อเดือน
- ค่าใช้จ่ายประจำเดือน
- จำนวนเงินที่สามารถชำระคืนได้

การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณรู้ว่าคุณสามารถกู้เงินได้มากน้อยเพียงใดและสามารถชำระคืนได้หรือไม่

 4. เตรียมเอกสารที่จำเป็น

การเตรียมเอกสารที่ถูกต้องและครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญในการยื่นขอสินเชื่อ เอกสารที่จำเป็นอาจรวมถึง:

- บัตรประชาชน
- สลิปเงินเดือนหรือหลักฐานรายได้
- เอกสารแสดงทรัพย์สินและหนี้สิน

การเตรียมเอกสารให้พร้อมจะช่วยให้การพิจารณาสินเชื่อเป็นไปอย่างรวดเร็ว

 5. เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไข

ก่อนตัดสินใจเลือกสินเชื่อ ควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขจากหลายๆ สถาบันการเงิน เพื่อให้คุณได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด

- อัตราดอกเบี้ย: ควรเลือกอัตราที่ต่ำที่สุด
- ระยะเวลาชำระเงิน: ควรเลือกระยะเวลาที่เหมาะสมกับความสามารถในการชำระคืน

 6. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

หากคุณยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับการกู้เงินหรือมีคำถามเพิ่มเติม การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหรือที่ปรึกษาสินเชื่อจะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเหมาะสม

การกู้เงินไม่ใช่เรื่องที่ควรทำโดยไม่คิดให้รอบคอบ ก่อนที่จะยื่นขอสินเชื่อ ควรมีการเตรียมความพร้อมและตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นตามเช็กลิสต์ที่เราได้แนะนำไป เพื่อให้การกู้เงินของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ


43

         หลายคนอาจคงเคยได้ยิน ประกันชีวิตออมทรัพย์ กันมาบ้างแล้ว และก็อีกหลายคนก็คงเป็นลูกค้ามีกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบ ประกันสะสมทรัพย์ กันแล้วเช่นกัน
ส่วนใครที่กำลังคิดอยากออมเงินเพื่อเป็นหลักประกันในอนาคตหรืออยากมีเงินไว้ใช้สักก้อนในอีก 5-10 ปี ข้างหน้า และเลือกที่จะทำ ประกันชีวิตออมทรัพย์ เรามารู้กันก่อนดีไหมว่า ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ คืออะไร แตกต่างจากการออมทั่วไปอย่างไร มาอ่าน 5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกทำ ประกันสะสมทรัพย์ ในบทความนี้กัน

         ประกันชีวิตออมทรัพย์ คือ ประกันชีวิตรูปแบบหนึ่งที่ผู้ทำประกันจะได้รับความคุ้มครองในกรณีเสียชีวิตเช่นเดียวกับการประกันชีวิตทั่ว ๆ ไป แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการออมทรัพย์ไปในตัวด้วย โดยมีเงื่อนไขว่าผู้เอาประกันจะต้องส่งเบี้ยประกันครบตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เมื่อครบตามระยะเวลาที่กำหนดประกันจะจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้เอาประกัน แต่หากเรามีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินก่อนกำหนด เราก็สามารถเวนคืนกรมธรรม์เอาเงินออกมาก่อนได้ แต่ความคุ้มครองต่าง ๆ ก็จะสิ้นสุดลงด้วยเช่นกัน

ข้อดีของการประกันแบบสะสมทรัพย์มีอะไรบ้าง

- ไม่มีความเสี่ยง การันตีว่าได้รับผลตอบแทนตามจำนวนเงินที่คำนวณไว้ล่วงหน้าแน่นอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและเบี้ยประกันที่ส่งจนครบกำหนด
- นอกจากเป็นการออมเงินแล้ว ในระหว่างการออมก็ยังได้รับการคุ้มครอง เช่น กรณีเสียชีวิต ผู้รับผลประโยชน์ก็จะได้รับเงินตามที่ได้ระบุไว้ในสัญญากรมธรรม์
- มีเงินก้อนไว้ใช้ในอนาคต เป็นหลักประกันให้ครอบครัวได้
- ปลอดภาษีเพราะผลตอบแทนของประกันชีวิตได้รับการยกเว้นจากกรมสรรพากร ไม่ต้องเสียภาษีเหมือนดอกเบี้ยบัญชีออมทรัพย์
- ใช้ลดหย่อนภาษีได้

         ข้อด้อยของประกันแบบสะสมทรัพย์ เมื่อเปรียบเทียบกับการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ก็คือ จะขาดสภาพคล่อง เพราะการออมแบบนี้ไม่สามารถฝาก-ถอนได้เหมือนกับการฝากเงินกับธนาคาร ส่วนทุนประกันและผลตอบแทนก็ไม่สูงมากหากเปรียบเทียบกับการ ประกันอุบัติเหตุ ส่วนบุคคล หรือที่รู้จักกันในชื่อภาษาอังกฤษว่า Personal Accident หรือ ประกันPA หรือประกันชีวิตแบบอื่น ๆ
ตัวเลข 7/10 คืออะไร   ตัวเลขหรือรหัส 7/10 มีความหมายดังนี้

- 7 หมายถึงระยะเวลาหรือจำนวนปีในการส่งเบี้ยประกัน ในที่นี้หมายถึง ส่งเบี้ยประกัน 7 ปี
- 10 หมายถึงระยะเวลาในการคุ้มครอง นั่นก็หมายความว่า แม้จะส่งเบี้ยประกันครบตามกำหนด 7 ปีแล้วก็ตาม แต่ผู้เอาประกันก็ยังคงได้รับความคุ้มครองต่อ จนครบ 10 ปี.

ตัวอย่างแบบประกันอื่น ๆ เช่น 5/10 ปี ก็หมายความว่า ส่งเบี้ยประกัน 5 ปี แต่คุ้มครองยาวถึง 10 ปี เป็นต้น

         ทำประกันอย่างไรให้คุ้มค่า ก่อนจะเลือกออมแบบไหน ก็ต้องเข้าใจรูปแบบการออมชนิดต่าง ๆ หรืออยากจะรู้เลือกออมกับบริษัทไหนดี ก็ต้องลองคำนวณดูโดยการเอาจำนวนเบี้ยที่ส่งไปทั้งหมดมาบวกกันดูว่าส่งไปทั้งหมดเท่าไหร่แล้วมาหักลบกับเงินที่จะได้รับคืน ลองเปรียบเทียบกันดูหลาย ๆ บริษัท ทั้งนี้อย่าลืมดูทุนประกันและระยะเวลาของการส่งเบี้ยประกันด้วย เพราะแต่ละที่จะไม่เท่ากัน เจ้าไหนตรงใจเราที่สุดหรือทำแล้วคุ้มค่าสุดก็ตัดสินใจได้เลย

        ก็พอจะสรุปพอสังเขปได้แล้วว่าการออมแบบทำประกันแบบสะสมทรัพย์นั้น เราจะได้ทั้งออมเงิน ได้การคุ้มครอง มีหลักประกันชีวิตในอนาคต ได้ทั้งลดหย่อนภาษี และค่าตอบแทนก็ไม่ต้องเสียภาษีอีก แม้แต่การประกันชีวิตผู้สูงอายุ แบบสะสมทรัพย์ก็ได้รับผลประโยชน์และการคุ้มครองเช่นเดียวกัน ตัดสินใจได้เลย รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน




44
การบริหารการเงินส่วนบุคคลเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถจัดการทรัพย์สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในวิธีที่ช่วยให้การจัดการเงินของคุณมีความยืดหยุ่นมากขึ้นคือการเปลี่ยนบัญชีออมทรัพย์เป็นบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน ในบทความนี้ เราจะมาดูขั้นตอน วิธีการ และข้อดีของการเปลี่ยนบัญชีนี้

 ทำไมต้องเปลี่ยนบัญชีเงินฝาก?

บัญชีเงินฝากออมทรัพย์และบัญชีเงินฝากกระแสรายวันมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน โดยบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เหมาะสำหรับการเก็บเงินระยะยาวและได้รับดอกเบี้ยที่สูงกว่า ในขณะที่บัญชีเงินฝากกระแสรายวันเหมาะสำหรับการทำธุรกรรมประจำวัน เช่น การชำระค่าใช้จ่าย การโอนเงิน หรือการถอนเงินสด

 ข้อดีของบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน

1. ความสะดวกสบาย: สามารถทำธุรกรรมได้ง่ายและรวดเร็ว
2. ไม่มีข้อจำกัดในการถอนเงิน: คุณสามารถถอนเงินได้ตามต้องการ
3. การจัดการเงินที่มีประสิทธิภาพ: สามารถติดตามการใช้จ่ายได้ดีขึ้น

 ขั้นตอนการเปลี่ยนบัญชี

 1. ตรวจสอบเงื่อนไขของธนาคาร

ก่อนที่คุณจะทำการเปลี่ยนบัญชี คุณควรตรวจสอบเงื่อนไขและข้อกำหนดต่าง ๆ ของธนาคารที่คุณใช้บริการ เพื่อให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนบัญชีจะไม่ส่งผลกระทบต่อเงินฝากหรือการบริการที่คุณได้รับ

 2. เตรียมเอกสารที่จำเป็น

การเปลี่ยนบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เป็นบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน มักจะต้องใช้เอกสารบางอย่าง เช่น บัตรประชาชน หรือเอกสารแสดงที่อยู่ที่ถูกต้อง

 3. ติดต่อธนาคาร

คุณสามารถติดต่อธนาคารของคุณผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น สาขา โทรศัพท์ หรือออนไลน์ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนบัญชี

 4. ดำเนินการเปลี่ยนบัญชี

เมื่อคุณได้รับข้อมูลที่จำเป็นแล้ว คุณสามารถดำเนินการเปลี่ยนบัญชีได้ โดยธนาคารจะช่วยให้คุณกรอกเอกสารและดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนด

 5. ตรวจสอบบัญชีใหม่

หลังจากที่คุณได้เปลี่ยนบัญชีแล้ว ควรตรวจสอบว่าบัญชีใหม่ของคุณสามารถทำธุรกรรมได้ตามปกติ และคุณได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บัญชีอย่างถูกต้อง

 คำแนะนำเพิ่มเติม

- เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย: ก่อนการเปลี่ยนบัญชี ควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมของบัญชีเงินฝากกระแสรายวันจากธนาคารต่าง ๆ
- ใช้บริการออนไลน์: หากธนาคารของคุณมีบริการออนไลน์ ควรใช้บริการนี้เพื่อความสะดวกในการจัดการบัญชี
การเปลี่ยนบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เป็นบัญชีเงินฝากกระแสรายวันเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการจัดการเงิน โดยเฉพาะในยุคที่การทำธุรกรรมออนไลน์เป็นที่นิยม หากคุณมีคำถามเพิ่มเติมหรือสนใจข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนบัญชีเงินฝาก สามารถติดต่อธนาคารของคุณได้ทันที

อย่ารอช้า! เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงการเงินของคุณวันนี้ เพื่อให้การจัดการเงินของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น!



45
รถยนต์ | Car / ข้อควรรู้ก่อนซื้อประกันรถยนต์
« เมื่อ: กันยายน 14, 2025, 09:24:05 AM »
ก่อนตัดสินใจทำ ประกันรถยนต์ หลายคนอาจสับสนกับรายละเอียดที่หลากหลาย การทำความเข้าใจพื้นฐานจะช่วยให้เลือกแผน ประกันภัยรถยนต์ ได้ตรงความต้องการมากขึ้น

ศึกษาประเภทประกัน – ปัจจุบันมีทั้งประกันชั้น 1, ประกันรถชั้น 2, และ ประกันรถชั้น 3 ซึ่งแตกต่างด้านความคุ้มครองและราคา

เปรียบเทียบราคาและบริการ – อย่าเลือกแค่เพราะเบี้ยถูก ควรดูด้วยว่ามีบริการเสริม เช่น รถทดแทนหรือช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงหรือไม่

เลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือ – บริษัทที่มีชื่อเสียงและบริการดี จะช่วยให้มั่นใจว่าเคลมง่าย ไม่ยุ่งยาก

เช็กเงื่อนไขอย่างละเอียด – บางครั้งความคุ้มครองที่คิดว่าได้รับ อาจมีข้อยกเว้นที่ต้องระวัง

เมื่อทำความเข้าใจแล้ว คุณจะสามารถเลือก ประกันภัยรถยนต์ ได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นชั้น 1, ชั้น 2 หรือชั้น 3 ให้ตอบโจทย์ทั้งเรื่องความคุ้มครองและค่าใช้จ่าย

46
ผิวกายก็เป็นอีกเรื่องสำคัญที่เราควรจะดูแลไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าผิวหน้า เพื่อให้เรามีผิวที่ขาวกระจ่างใสดูมีสุขภาพดี ดังนั้นสิ่งที่เราจะต้องให้ความสำคัญอย่างมากก็คือการเลือกหาผลิตภัณฑ์โลชั่นหรือครีมบำรุงผิวดี ๆ สักตัวมาใช้เป็นตัวช่วยคู่ใจในการบำรุงผิว แต่ถ้าหากยังไม่รู้ว่าจะเลือกใช้ครีมยี่ห้อไหนดีและกำลังมองหา ครีมทาผิว ดี ๆ สักตัวอยู่แล้วล่ะก็ วันนี้เรามี 5 ผลิตภัณฑ์ดี ๆ มาบอกต่อ เป็นผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวที่คัดมาแล้วว่าใช้ดีจริง ราคาถูก มั่นใจว่าคุณจะถูกใจจนต้องซื้อซ้ำ

1. เจอร์เกนส์ ออยล์-อินฟิวส์ นูริชชิ่ง ฮันนี่ โลชั่น

ผลิตภัณฑ์โลชั่นบำรุงผิวจากแบรนด์ jergens ที่มีคุณสมบัติช่วยเติมเต็มและรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิว อุดมไปด้วยส่วนผสมของน้ำมันและน้ำผึ้งธรรมชาติอย่าง Orange Blossom Essence ช่วยฟื้นฟูให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน ลดเลือนผิวเหี่ยวย่นให้ยืดหยุ่นยกกระชับ และช่วยคืนสภาพผิวให้กลับมาเนียนนุ่มมากขึ้น สูตร Oil-infused ทำให้ผิวคงความชุ่มชื้นได้ยาวนาน เหมาะกับคนที่มีผิวแห้งมากหรือมีปัญหาผิวแตก เช่น เท้าแตก

2. เซราวี มอยซ์เจอร์ โลชั่น

ผลิตภัณฑ์โลชั่นบำรุงผิว มอยเจอร์ไรเซอร์ Cerave แบรนด์เวชสำอางยอดนิยม ซึ่งมีส่วนผสมของเซราไมด์ที่จำเป็นต่อผิว 3 ชนิด ช่วยเติมเต็มและรักษาระดับเซราไมด์ใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวยืดหยุ่นและชุ่มชื้นขึ้น นอกจากนี้ยังมีไฮยาลูรอนิกแอซิดที่ช่วยกักเก็บน้ำและเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว มาพร้อมเทคโนโลยี MVE ลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นอยู่กับผิวได้ยาวนาน เหมาะกับผิวแห้งลอกและผิวที่มีปัญหาตามข้อศอก เข่า หรือส้นเท้า

3. วาสลีน เฮลธี้ ไบร์ท เดลี่ ซัน รีเฟรชชิ่ง เซรั่ม

ผลิตภัณฑ์ ครีมวาสลีน เนื้อเซรั่มกันแดดสำหรับผิวกายที่มีค่า SPF50 PA++++ ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีเอและยูวีบี ทั้งยังมีนวัตกรรมวาสลีนเจลลี่ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว เนื้อบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ พร้อมด้วยวิตามินบี 3 วิตามินซี และวิตามินอี ช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวเนียนนุ่มและกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

4. แฮนด์ เนชั่น ฟอร์เอฟเวอร์ ยัง แฮปปี้ แฮนด์ครีม

ครีมทามือ Shea Butter 10% ช่วยฟื้นความชุ่มชื้นลดปัญหาผิวแห้งกร้านให้กลับมาเนียนนุ่มน่าสัมผัสมากขึ้น มีสารสกัดจาก Saponaria Pumila จากเทือกเขาแอลป์ ที่ช่วยบำรุงมือและเล็บได้ดี ซึมซาบไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวมือหยาบกร้าน รวมถึงคนที่ต้องการป้องกันไม่ให้ เท้าแตก หรือส้นเท้าแห้ง

5. นีเวีย เอ็กซ์ตร้า ไวท์ โลชั่น คูลลิ่ง โลตัส

โลชั่นบำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นฉ่ำน้ำด้วยเทคโนโลยีลดไอร้อนได้ถึง 2 องศา ทำให้ผิวเย็นสบาย ไม่มันเยิ้ม มาพร้อมวิตามินซีเข้มข้นบริสุทธิ์ 95% ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใส ลดเลือนความหมองคล้ำและสีผิวไม่สม่ำเสมอได้อย่างมีประสิทธิภาพ

✨ หากสนใจอยากหาทั้ง 5 ผลิตภัณฑ์นี้มาใช้บำรุงผิว สามารถเข้าไปเลือกซื้อได้ที่ร้านวัตสันหรือวัตสันออนไลน์ ไม่เพียงแต่จะมีสินค้าคุณภาพดีให้เลือกมากมาย แต่ยังมาพร้อม โปรโมชั่นวัตสัน สุดคุ้ม เช่น โปรวัตสัน 1 แถม 1 โปรซื้อคละ 3 ชิ้น ราคาเดียว หรือโปรซื้อชิ้นที่ 2 ราคา 1 บาท คุ้มขนาดนี้บอกเลยว่าห้ามพลาด!

47

   การเลือกซื้อประกันสุขภาพนั้น สิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการมากที่สุดคือ วงเงินค่ารักษาพยาบาลที่คุ้มครองครอบคลุมในทุกส่วนเมื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล เนื่องจากปัจจุบันค่ารักษาในโรงพยาบาลเอกชนได้มีการปรับตัวสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ซึ่งแม้ว่าจะมีทางเลือกใช้บริการโรงพยาบาลของรัฐที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าได้ แต่ถึงอย่างนั้นโรงพยาบาลรัฐก็มีผู้เข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก จึงทำให้คนวัยเรียนวัยทำงานส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้ารับบริการได้อย่างสะดวก ด้วยเหตุนี้ ประกันสุขภาพเหมาจ่ายจึงเป็นหนึ่งในประกันสุขภาพที่หลายคนเลือก แต่ซื้อแล้วคุ้มค่าอย่างไร มาดูเหตุผลต่อไปนี้กัน

วงเงินค่ารักษาพยาบาลสูง
ถ้าอยากได้ประกันสุขภาพที่ให้วงเงินการรักษาต่อครั้งสูง เพื่อจะได้เข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนที่มีทั้งความสะดวกรวดเร็วและให้บริการที่มีคุณภาพกว่าโรงพยาบาลของรัฐ บอกเลยว่า ประกันเหมาจ่าย คือ ประกันสุขภาพที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด เพราะประกันประเภทนี้จะให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่จ่ายตามจริงครอบคลุมทุกหมวดค่าใช้จ่าย ทุกครั้งที่เข้ารับการรักษาพยาบาลไม่เกินวงเงินคุ้มครองสูงสุดต่อปี นอกจากนั้นยังสามารถใช้ร่วมกับประกันกรมธรรม์อื่นเพื่อเพิ่มวงเงินในการรักษาพยาบาลได้อีกด้วย

คุ้มครองหลากหลายโรค
ความคุ้มครองที่ครอบคลุมหลายโรคถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้ ประกันเหมาจ่าย แตกต่างจากประกันแบบอื่น อย่างประกันคุ้มครองโรคมะเร็งก็จะให้ความคุ้มครองเมื่อผู้ทำประกันตรวจพบโรคมะเร็งเท่านั้น แต่กรณีประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายจะให้ความคุ้มครองที่หลากหลายมากกว่า เช่น ประกันสุขภาพออนไลน์ Easy Health Top Up ที่นอกจากจะคุ้มครองในส่วนของการเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลแล้ว ยังคุ้มครองในกรณีป่วยด้วยโรคโควิด-19 การแพ้วัคซีน และโรคมะเร็งด้วย

คุ้มครองทั้งกรณี OPD และ IPD
เวลาทำประกันสุขภาพ แน่นอนว่าเรื่องแรกที่หลายคนให้ความสนใจคือ วงเงินรักษาพยาบาล แต่ถึงอย่างนั้นควรให้ความสำคัญเรื่องเงื่อนไขสถานะผู้ป่วยเวลาเข้ารับการรักษาด้วย เนื่องจากบางกรมธรรม์ให้ความคุ้มครองเฉพาะ ipd คือ กรณีเป็นผู้ป่วยในของโรงพยาบาลจึงจะสามารถใช้สิทธิ์ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ได้ แต่ไม่คุ้มครองในกรณี opd คือ ผู้ป่วยนอก แต่หากทำ ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ก็จะสามารถตัดปัญหาเรื่องนี้ไปได้ เพราะว่า ประกันเหมาจ่าย ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งกรณี OPD และ IPD เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะป่วยน้อยป่วยมาก ถ้ามีประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายอยู่ ก็สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ โดยได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์

   ประกันสุขภาพเหมาจ่าย เป็นประกันสุขภาพที่คุ้มค่าและหลากหลาย เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย สำหรับการเลือกซื้อนั้น นอกจากดูเรื่องความคุ้มค่าแล้ว ก่อนตัดสินใจจ่ายค่าเบี้ยประกันต้องพิจารณารายละเอียดความคุ้มครอง ค่าเบี้ยประกันสุขภาพ เงื่อนไขในการเข้ารับการรักษาอย่างละเอียด และที่สำคัญคือ เบี้ยประกันที่เหมาะสมและสามารถจ่ายได้ จะช่วยให้เลือกประกันชีวิตสุขภาพแบบเหมาจ่ายได้ตรงกับความต้องการ ได้รับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลที่มีคุณภาพและสะดวกรวดเร็ว



48
เมื่อถึง "วันนั้นของเดือน" แน่นอนว่าสาว ๆ ทุกคนต้องมี ผ้าอนามัย ติดตัวเสมอ เพราะเป็นไอเทมสำคัญที่ช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะไปเรียน ทำงาน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าการใส่ผ้าอนามัยแบบผิดวิธีอาจทำให้เกิดปัญหากับจุดซ่อนเร้นได้ วันนี้เราจะพามาดู วิธีใช้ผ้าอนามัยที่ถูกต้อง และแนะนำ 5 ผ้าอนามัยกลางวันและผ้าอนามัยกลางคืน ที่ตอบโจทย์ทุกสถานการณ์

วิธีใช้ผ้าอนามัยอย่างถูกต้อง เพื่อสุขภาพจุดซ่อนเร้นที่ปลอดภัย

เลือกผ้าอนามัยที่เหมาะสม
การเลือกให้ถูกกับช่วงเวลาและปริมาณประจำเดือนเป็นสิ่งสำคัญ เช่น ใช้ ผ้าอนามัยกลางวัน ที่บางเบาเปลี่ยนง่าย และเลือก ผ้าอนามัยกลางคืน ที่ยาวและซึมซับได้ดีกว่า เพื่อรองรับการนอนหลับยาวหลายชั่วโมงโดยไม่เลอะเปรอะเปื้อน

เปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 3 - 5 ชั่วโมง
สาว ๆ หลายคนอาจใส่นานเกินไป แต่การทำเช่นนี้เสี่ยงต่อการสะสมเชื้อโรค ควรเปลี่ยนบ่อยเพื่อป้องกันความอับชื้นและการระคายเคือง

ทำความสะอาดน้องสาวเสมอ
ทุกครั้งที่เปลี่ยนผ้าอนามัย ควรล้างทำความสะอาดและซับให้แห้งเพื่อรักษาความสดชื่นและป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์

5 ผ้าอนามัยที่อยากแนะนำ

Sofy Cooling Fresh Natural Super Slim
ผ้าอนามัยแบบเย็น มีสารสกัดจากแตงกวา ช่วยให้สดชื่น บางเฉียบ ระบายอากาศดี ไม่อับชื้น

Sofy ผ้าอนามัยแบบกางเกง
ดีไซน์คล้ายกางเกงใน สวมใส่ง่าย กระชับ มั่นใจ ไม่เลอะเปรอะเปื้อน เหมาะกับการนอนกลางคืนหรือวันที่ประจำเดือนมามาก

Laurier Super Ultra Slim Cool
ผ้าอนามัยแบบเย็น ช่วยลดความอับชื้น ให้สัมผัสแห้งสบาย พร้อมป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์

Elis Fairy Wings สำหรับกลางวัน
มาพร้อมนวัตกรรม Active Dot ลดการสัมผัสกับผิว ทำให้สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี

Elis Fairy Wings สำหรับกลางคืน
ยาว 35 ซม. ปกป้องรอบด้าน ซึมซับได้ดีเยี่ยม สวมใส่สบายและมั่นใจตลอดคืน

เคล็ดลับเสริมสุขภาพผู้หญิง

นอกจากการใช้ผ้าอนามัยอย่างถูกวิธีแล้ว การดูแลสุขภาพฮอร์โมนก็สำคัญเช่นกัน สำหรับสาว ๆ ที่อยากควบคุมรอบเดือนหรือบรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน อาจเลือกใช้ ยาคุมฮอร์โมนต่ำ ซึ่งปัจจุบันมีหลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยม คำถามที่พบบ่อยคือ “ยาคุมฮอร์โมนต่ำ มียี่ห้ออะไรบ้าง” ซึ่งสามารถปรึกษาเภสัชกรหรือสูตินรีแพทย์เพื่อเลือกสูตรที่เหมาะสมกับร่างกายและไลฟ์สไตล์ของตนเองได้

49
วันนี้เรามีการจัดอันดับ 5 มาสก์ยอดนิยมแห่งปี 2025 ที่หลายคนไว้วางใจ พร้อมใส่ลิสต์ให้คุณไปช้อปและลองใช้จริง

1. SOME BY MI TEA TREE CALMING GLOW LUMINOUS AMPOULE MASK

แผ่นมาสก์เข้มข้นที่ให้ประสิทธิภาพเสมือนการทาเซรั่มในขั้นตอนเดียว ช่วยลดการอักเสบ ลดสิว และฟื้นฟูผิวที่ระคายเคืองด้วยสารสกัดจากทีทรี ใบบัวบก และดอกดาวเรือง พร้อมสารจิงจูฉ่ายที่ช่วยเสริมเกราะปกป้องผิว ให้ผิวกระจ่างใสและแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

2. REAL BARRIER PORE PURIFYING MASK

แผ่นมาสก์ที่ออกแบบด้วยเทคโนโลยี pH Balance ช่วยฟื้นฟูสมดุลผิว พร้อม MLE ที่เติมความชุ่มชื้นได้อย่างล้ำลึก มีสารสกัดจากวิชฮาเซลและซิงค์ที่ช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน ลดการอุดตัน และทำให้รูขุมขนดูกระชับขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผิวเรียบเนียน สุขภาพดี

3. MEDIHEAL ENERGY ALPHA MASK EX

มาสก์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความยืดหยุ่นผิว ด้วย Energy Alpha Complex ที่อุดมไปด้วยวิตามินอี ผสานสารสกัดจากชาเขียวและใยข้าวโพดที่กักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ ลดความแห้งกร้านได้ดี ที่สำคัญไม่มีแอลกอฮอล์ อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย

4. BANOBAGI VITA GENIC JELLY MASK BRIGHTENING

มาส์ก Banobagi ขึ้นชื่อเรื่องสกินแคร์ที่เข้มข้นและปลอดภัย โดยเฉพาะไลน์มาสก์หน้า สูตรเจลลี่ที่บรรจุสารบำรุงไว้ในแคปซูลไลโบโซมสูงถึง 59,000 ppm เต็มไปด้วยวิตามินบี1 วิตามินซี วิตามินอี กลูต้าไธโอน ซีบัคธอร์น และไฮยาลูรอเนท ช่วยผลัดเซลล์ผิวหมองคล้ำ ฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใส ดูสุขภาพดีขึ้น

นอกจากนี้ ใครที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์จากแบรนด์นี้ ยังมี banobagi sleeping mask ที่ช่วยบำรุงผิวในเวลากลางคืน ตื่นมาพร้อมผิวชุ่มชื้นและกระจ่างใส ถือว่าเป็นไอเทมเสริมที่ไม่ควรพลาด

5. BK ACNE BALANCING MASK

มาสก์เนื้อครีมที่ช่วยปรับสมดุลผิวและลดโอกาสการเกิดสิว ด้วยสาร SEBOCLEAR-MP ที่ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียต้นเหตุสิว มีสารสกัดมัลเบอร์รี่และเห็ดยุโรปตะวันออกที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดเลือนรอยดำ กระ ฝ้า และจุดด่างดำ พร้อมทำให้ผิวเรียบเนียน รูขุมขนดูกระชับ

แนะนำเพิ่มเติม: HER HYNESS MASK

นอกจาก 5 ตัวที่จัดอันดับแล้ว อีกหนึ่งมาสก์ที่น่าลองคือ her hyness mask ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการบำรุงผิวแบบเข้มข้น ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้า เติมความชุ่มชื้น และทำให้ผิวดูโกลว์สุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับคนที่ต้องการดูแลผิวแบบเร่งด่วน

สรุป

ทั้ง 5 ผลิตภัณฑ์มาสก์หน้าในปี 2025 ล้วนตอบโจทย์คนที่อยากให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนปัญหากระ ฝ้า จุดด่างดำ และช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน โดยเฉพาะกลุ่ม Banobagi ที่มีทั้งมาสก์หน้าและ มาสก์ banobagi sleeping ให้เลือกใช้ตามความต้องการ และสำหรับใครที่อยากบำรุงแบบพิเศษก็สามารถลอง มาส์ก her hyness เพิ่มเติมได้เช่นกัน

ใครสนใจสามารถเลือกช้อปได้ง่าย ๆ ผ่าน Watsons Online ที่มาพร้อมโปรสุดคุ้มให้คุณดูแลผิวได้อย่างสบายกระเป๋า

50

สินเชื่อเพื่อการลงทุนขนาดเล็ก SME กรุงไทยวงเงินสูง เป็นโครงการสินเชื่อที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SME กล้าที่จะพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยกรุงไทยจะขอแนะนำสิทธิพิเศษในการขอ สินเชื่อธุรกิจ พร้อมชี้เป้าโครงการสินเชื่อ กู้ทำธุรกิจที่มือใหม่ก็เข้าถึงได้

ประโยชน์ของ สินเชื่อเพื่อธุรกิจ SME
สินเชื่อหมุนเวียน ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กับการทำธุรกิจขนาดเล็กโดยเฉพาะ โดยกรุงไทยจะเป็นตัวกลางในการบริหารสภาพคล่องระหว่างผู้ซื้อและผู้ประกอบการ SME และกรุงไทยจะเป็นผู้รับภาระความเสี่ยงในกรณีที่ผู้ซื้อไม่สามารถชำระเงินตามจำนวนที่ระบุในใบแจ้งหนี้ได้ครบถ้วน โดยผู้ประกอบการ SME จะได้รับการคุ้มครองจากความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้อย่างสมบูรณ์

แนะนำ สินเชื่อเพื่อธุรกิจ SME จากกรุงไทย วงเงินสูง กู้ได้ง่าย ตอบโจทย์ธุรกิจใหม่
สำหรับโครงการสินเชื่อเพื่อธุรกิจ SME ที่น่าสนใจของกรุงไทย แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มธุรกิจยอดขายต่ำกว่า 100 ล้านบาท วงเงินต่ำกว่า 20 ล้านบาท

สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก SME ไซส์เล็ก
สินเชื่อ SME ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ถูกออกแบบมาสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการเงินลงทุนเพื่อขยับขยายกิจการหรือเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในร้าน กู้ได้สูงสุด 3 ล้านบาท กรณีไม่มีหลักประกัน แต่หากมี บสย. ค้ำประกัน กู้เงินทำธุรกิจ ได้สูงสุด 20 ล้านบาท ดอกเบี้ยเงินกู้ เริ่มต้น 3.5% ต่อปี โดยให้ระยะเวลาผ่อนชำระนานถึง 7 ปี สำหรับ สินเชื่อ SME ตัวนี้จัดเป็นสินเชื่อประเภทวงเงินกู้แบบมีกำหนดระยะเวลา วงเงินกู้เบิกเกินบัญชี วงเงินกู้โดยตั๋วสัญญาใช้เงิน และวงเงินหนังสือค้ำประกันไฟฟ้า โดยหลักประกันที่ใช้ในการขอกู้วงเงิน 20 ล้านบาท ได้แก่ สถานประกอบการ ที่พักอาศัย ห้องชุด ที่ดิน และบัญชีเงินฝากประจำ
คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้กู้จะต้องเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย อายุระหว่าง 20 – 65 ปี ดำเนินธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ใช้บริการรับเงินผ่านแอปพลิเคชันถุงเงินหรือเครื่อง EDC กรุงไทย รวมถึงต้องเป็นบุคคลที่ไม่มีประวัติเสียหายทางการเงิน ไม่มีประวัติปรับปรุงโครงสร้างหนี้หรือเป็นบุคคลล้มละลาย

สินเชื่อ SME วงเงินสูง x3
สินเชื่อธุรกิจ ขนาดเล็กออกแบบมาเพื่อเสริมสภาพคล่องสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจ หรือลงทุนเปิดร้านสาขาใหม่ ให้วงเงินกู้สูงถึง 3 เท่าของมูลค่าหลักประกัน แต่ไม่เกิน 20 ล้านบาท กรณีไม่มีหลักประกันก็สามารถขอกู้ได้ โดยวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท ให้ระยะเวลาผ่อนชำระ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 3.5% ต่อปี ซึ่งถือเป็นประเภทสินเชื่อวงเงินกู้แบบมีกำหนดระยะเวลาและสินเชื่อวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี

สำหรับคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้กู้จะต้องเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย อายุระหว่าง 20 – 65 ปี ดำเนินธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี และต้องไม่มีประวัติเสียหายทางการเงิน ไม่อยู่ระหว่างปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หรือมีประวัติเป็นบุคคลล้มละลาย

กลุ่มธุรกิจยอดขายมากกว่า 100 ล้านบาท วงเงินมากกว่า 20 ล้าน

สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ Soft Loan Boost UP
สินเชื่อ SME ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนเงินทุนให้กับผู้ประกอบการ SME ทุกประเภท เพื่อใช้เสริมสภาพคล่องและลงทุนในธุรกิจ ให้วงเงินกู้สูงถึง 40 ล้านบาท (รวมทุกสถาบันการเงิน) อัตรา ดอกเบี้ยเงินกู้ คงที่ 3.5% ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี ซึ่งเป็นประเภทสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้น สินเชื่อตั๋วสัญญาใช้เงิน และสินเชื่อเสริมสภาพคล่องด้วยวงเงินสินเชื่อระยะยาว
คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้กู้คือผู้ที่ทำธุรกิจ SME ทุกประเภท สำหรับเงื่อนไขและหลักเกณฑ์สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา

สินเชื่อ SME จ่ายดี ทวีคูณ
โครงการสินเชื่อที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนเงินทุนให้กับผู้ประกอบธุรกิจ SME ทุกประเภทที่มีข้อจำกัดด้านหลักประกันให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ โดยให้วงเงินกู้สูง 3 เท่าของมูลค่าหลักประกัน ได้แก่ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บยส.) ค้ำประกันร่วม ให้ระยะเวลาผ่อนชำระนาน 10 ปี ซึ่งสินเชื่อตัวนี้เป็นสินเชื่อประเภทวงเงินกู้แบบมีกำหนดระยะเวลา สินเชื่อวงเงินหมุนเวียน และสินเชื่อวงเงินหนังสือค้ำประกันไฟฟ้า

คุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อจะต้องเป็นผู้ประกอบการ SME ที่ดำเนินธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปีขึ้นไป รวมถึงจะต้องผ่านการตรวจสอบเครดิตบูโรแล้วว่าไม่เป็นบุคคลที่มีประวัติเสียหายทางการเงิน ไม่มีประวัติปรับปรุงโครงสร้างหนี้หรือเป็นบุคคลล้มละลาย
สินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน

สินเชื่อธุรกิจเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม
ออกแบบมาเพื่อผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการติดตั้ง Solar Cell Solar Rooftop หรือเครื่องชาร์จไฟฟ้า EV Charger เพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับธุรกิจจากการใช้พลังงานสะอาด โดยให้วงเงินกู้สูงสุดตามใบเสนอราคา แบ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กที่มียอดขายไม่เกิน 100 ล้านบาท ให้วงเงินกู้สูงถึง 3 ล้านบาท และผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางถึงใหญ่ที่มียอดขายเกิน 100 ล้านบาท ให้วงเงินกู้สูงถึง 5 ล้านบาท โดยไม่ต้องใช้หลักประกัน ให้ระยะเวลากู้นาน 7 ปี อัตรา ดอกเบี้ยเงินกู้ เริ่มต้น MRR -0.50% ต่อปี
คุณสมบัติของผู้กู้จะต้องเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ดำเนินธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี มีเอกสารใบเสนอราคาในการติดตั้ง Solar Cell  Solar Rooftop หรือ EV Charger และจะต้องไม่เกี่ยวข้องหรือมีผลประโยชน์กับบริษัทผู้ขาย

สินเชื่อกรุงไทยเพื่อความยั่งยืน (ESG)
สินเชื่อเงินกู้ออกแบบมาเพื่อผู้ประกอบการ SME ที่ทำธุรกิจสีเขียวหรือดำเนินงานเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบด้านสังคมตามแนวทางที่ธนาคารกำหนด โดยให้วงเงินกู้สูงถึง 100% ของมูลค่าการลงทุน ระยะเวลาการผ่อนนาน 10 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 4% ต่อปี

คุณสมบัติของผู้กู้จะต้องเป็นผู้ประกอบการตามแนวทางที่ธนาคารกำหนด ดำเนินธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี และผ่านการตรวจสอบแล้วว่าไม่เป็นบุคคลที่มีประวัติเสียหายทางการเงิน ไม่มีประวัติปรับปรุงโครงสร้างหนี้หรือเป็นบุคคลล้มละลาย

เอกสารประกอบการสมัครขอ สินเชื่อธุรกิจ SME
การเตรียมเอกสารประกอบการสมัครขอสินเชื่อเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ เอกสารที่ต้องเตรียมให้พร้อมสำหรับการแนบประกอบคำขอกู้ ได้แก่
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
สำเนาทะเบียนบ้าน
สำเนาทะเบียนการค้า ทะเบียนพาณิชย์ หรือเอกสารทางราชการอื่น ๆ
กรณียื่นแบบนิติบุคคลต้องแสดงงบการเงินฉบับยื่นสรรพากร 3 ปีย้อนหลัง
สำเนาเอกสารแสดงรายได้ของกิจการ เช่น Statement บิลเงินสด หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นต้น
หลักทรัพย์ค้ำประกันที่ใช้ในการยื่นกู้ ได้แก่ สถานประกอบการ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ห้องชุด ที่ดินเปล่า หรือบัญชีเงินฝากประจำ เป็นต้น

สินเชื่อหมุนเวียน สำหรับผู้ประกอบการ SME จากกรุงไทยตอบโจทย์การทำธุรกิจขนาดย่อมทุกประเภท ให้วงเงินสูง คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ ระยะเวลาผ่อนนาน แม้จะเป็นนักธุรกิจมือใหม่ก็สามารถขอกู้ได้ หากสนใจสามารถสมัครขอสินเชื่อธุรกิจ SME ได้ ที่นี่ หรือสามารถเข้าไปดูผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติมจากกรุงไทยได้ที่ https://krungthai.com



หน้า: [1] 2 3 4 5 6 ... 53