หลายคนอาจไม่คิดว่า application ทำธุรกรรมทางการเงินจะสามารถทำได้มากกว่าการถอน โอน จ่าย แต่ในวันนี้ แอป scb easy สามารถทำได้มากกว่านั้นและทำได้มากกว่าจนหลายคนคาดไม่ถึง
นอกจากการ ถอน โอน จ่าย ตามปกติที่ทราบกันดีว่าแอปนี้ทำได้ ลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์ยังสามารถสมัครบัตรเครดิตผ่อนของจาก scb ดำเนินการขอสินเชื่อ scb และหากจะอ้างอิงข้อมูลจาก scb planet pantip ผู้ใช้ แอปนี้ก็ยังสามารถแลกเงินต่างประเทศในเรทดีเทียบเท่ากับร้านแลกเงินชื่อดังได้อีกด้วย
จากคำแนะนำใน scb planet pantip ผู้ถือบัตร Planet SCB สามารถทำธุรกรรมเกี่ยวกับเงินสกุลต่างประเทศได้หลากหลายแบบ สำคัญที่สุด คือ ผู้ถือบัตรสามารถใช้งานบัตรร่วมกับแอป scb easy เพื่อแลกเงินต่างประเทศได้มากถึง 13 สกุลเงิน ได้แก่ USD, EUR, GBP, JPY, AUD, CHF, SGD, HKD, NZD, CAD, CNY, KRW และ TWD พร้อมรับสิทธิ์ยกเว้นค่าธรรมเนียมและค่าความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศ 2.5% และนี่คือความสามารถของแอป ซึ่งทางธนาคารไทยพาณิชย์พยายามพัฒนาขึ้น เพื่อความสะดวกของลูกค้าทุกคน
หากจะพูดถึงอีกความสามารถหนึ่งซึ่งจะมองข้ามไปไม่ได้ เพราะเป็นอีกหนึ่งบริการที่กำลังกลายเป็นที่นิยม และมีกระแสแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นก็คือการขอ สินเชื่อ scb ผ่านแอป scb easy โดยสินเชื่อที่สามารถสมัครผ่านแอปได้ มีดังนี้
1.   สินเชื่อ SCB Speedy Loan วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาทหรือ 5 เท่าของรายได้
2.   สินเชื่อ SCB Speedy Cash (เพิ่มเติมที่ : https://aommoney.com/stories/ลงทุนศาสตร์/เข้าใจสินเชื่อและวิธีเพิ่มสภาพคล่องด้วยเงินกู้-scb/3126) อนุมัติไวภายใน 1 นาที หรือมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับภายใน 1 ชม. พร้อมส่งบัตรถึงบ้านภายใน 7 วัน เป็นสินเชื่อในรูปแบบของบัตรกดเงินสด วงเงินพร้อมใช้
3.   สินเชื่อส่วนบุคคล Your Loan วงเงินสูงสุด 2 ล้านบาท เลือกผ่อนชำระแบบรายเดือน หรือรายสองสัปดาห์ได้ตามความสะดวก
4.   สินเชื่อในรูปแบบของการเปลี่ยนวงเงินคงเหลือใน บัตร เครดิต scb เป็นเงินสดโอนเข้าบัญชีเงินฝาก
 ในกรณีของการเปลี่ยนวงเงินคงเหลือใน บัตร เครดิต scb เป็นเงินสดโอนเข้าบัญชี ใช้ได้เฉพาะลูกค้าของธนาคารผู้ถือบัตรเครดิตเท่านั้นและสำหรับผู้ต้องการสมัครบัตรเครดิต ก็สามารถทำรายการสมัครบัตรเครดิตผ่านแอปฯได้ทันที จากทุกที่ ตลอด 24 ชม. โดยเปิดแอปฯแล้วกดเลือก สมัครบัตรเครดิตและสินเชื่อ จากนั้นเลือกสมัครบัตรเครดิตที่ต้องการแล้วกรอกข้อมูลตามความเป็นจริง จากนั้นตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดและกดยืนยัน เพียงเท่านี้ขั้นตอนการสมัครก็เสร็จสิ้น รอรับผลอนุมัติและรับบัตรส่งถึงบ้านภายในเวลาไม่กี่วัน

โดยการเลือกสมัครบัตรเครดิต อาจเลือกจากไลฟ์สไตล์ของคุณก็ได้ ไม่ว่าคุณจะเป็น นักช้อป นักชิม นักเดินทาง และยังสามารถเลือกจากสิทธิประโยชน์หลักที่ต้องการ เช่น ต้องการสะสมไมล์ ต้องการสะสมคะแนน ต้องการบัตรที่ยกเว้นค่าธรรมเนียมทั้งหมดและต้องการถือบัตรที่ยิ่งใช้ ยิ่งได้รับเงินคืน ก็สามารถเลือกได้เช่นกัน

จากข้อมูลทั้งหมดข้างต้น จะเห็นได้ว่า SCB Easy Application สามารถใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคารไทยพาณิชย์ได้แทบทุกชนิด รู้อย่างนี้แล้ว ครั้งหน้าถ้าต้องการจะขอสินเชื่อหรือทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ก็ขอให้นึกถึง SCB Easy Application เป็นลำดับแรก เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับชีวิตของคุณ
 

การติดหนี้บัตรเครดิต หรือค้างชำระติดต่อกันหลายงวด ไม่เพียงแต่จะถูกทวงถามและมีภาระค่าปรับและดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาเท่านั้น หากแต่ยังต้องระวังปัญหาใหญ่กว่าที่จะตามมา จากการมีรายชื่อผู้ติดแบล็คลิสหรือติดเครดิตบูโรด้วย
 ติดแบล็คลิสคืออะไร
   ก่อนจะได้คำตอบว่า ติดแบล็คลิสคืออะไร คนที่เคยมีบัตรเครดิตหรือเคยมีภาระหนี้กับสถาบันการเงินต่าง ๆ ต้องรู้ก่อนว่า ในการก่อหนี้ทุกครั้ง จะมีการบันทึกข้อมูลไว้ที่ศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือที่หลายคนเรียกว่า “เครดิตบูโร” ซึ่งที่นี่จะเก็บข้อมูลหนี้สินของแต่ละบุคคลไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น มูลหนี้, หนี้แต่ละประเภท, หนี้ที่ทำไว้กับสถาบันการเงินแต่ละแห่ง รวมไปถึงประวัติและพฤติกรรมการชำระหนี้ว่าตรงเวลาหรือไม่, มีการค้างชำระหนี้ประเภทใด และค้างชำระเป็นเวลานานแค่ไหน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทางสถาบันการเงินจะต้องส่งรายงานให้กับเครดิตบูโร ทราบอย่างต่อเนื่องตามระยะเวลาที่กำหนด
แบล็คลิส สำคัญอย่างไร
   ในการปล่อยสินเชื่อเป็นเงินก้อนใหญ่ ๆ อาทิ สินเชื่อบ้าน และรถยนต์ ทางสถาบันการเงินจะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโรของผู้กู้ก่อน หากเช็คแบล็คลิสแล้วพบว่าผู้ขอกู้มีชื่อติดบัญชีดำหรือแบล็คลิส ทางสถาบันการเงินจะไม่ปล่อยเงินกู้ให้
   ดังนั้นจึงมีข้อกำหนดในการยื่นขอกู้เงิน โดยเฉพาะกรณีการกู้เพื่อซื้อบ้าน ให้ผู้กู้ต้องเช็คแบล็คลิสและนำหลักฐานการตรวจสอบดังกล่าว แนบไปกับเอกสารยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินด้วย
หากมีรายชื่อติดอยู่ในแบล็คลิส จะทำอย่างไร
   เมื่อค้างชำระหนี้ต่าง ๆ เกิน 90 วันและถูกติดในบัญชีแบล็คลิสแล้ว ก็จะต้องเร่งหาทางเคลียร์ภาระหนี้ดังกล่าวกับสถาบันการเงิน ซึ่งอาจต้องมีการเจรจาเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้
จากนั้นเมื่อลูกหนี้ได้ชำระหนี้ให้กับสถาบันการเงินได้ครบหมด แต่รายชื่อก็ยังคงจะอยู่ในบัญชีแบล็คลิสต่อไปอีก 3 ปี นั่นหมายถึงการขอสินเชื่อหรือกู้เงินใหม่ในช่วงนี้จะไม่ได้รับการอนุมัติ แต่ระหว่างนี้หากผู้กู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการชำระหนี้ของตนเองให้ตรงเวลา, เป็นลูกหนี้ที่ดี, ไม่ค้างชำระหรือไม่ทิ้งหนี้ ข้อมูลเหล่านี้ก็จะถูกสถาบันการเงินจัดส่งไปเก็บไว้ในฐานข้อมูลของเครดิตบูโร เป็นข้อมูลใหม่ ซึ่งก็จะทำให้ประวัติการชำระหนี้ดีขึ้น และไม่เกิดปัญหาในการขอกู้เงินก้อนเพื่อซื้อบ้านหรือรถยนต์อีกต่อไป

การขอกู้เงิน ทำให้หลายคนมีความกังวลเกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อจำกัดต่าง ๆ ที่ทางธนาคารกำหนดขึ้นมา แต่ความกังวลนี้จะถูกทำให้คลี่คลายลงได้ หากได้ทำความรู้จักกับ สินเชื่อเงินสดจาก scb ที่นำมารีวิวให้พิจารณาต่อไปนี้
1. สินเชื่อ SCB Speedy Loan เป็นเงินกู้ที่อนุมัติไว ได้เงินเร็ว สมัครง่ายผ่านแอป scb easy ในกรณีเร็วที่สุด สามารถรับเงินเข้าบัญชีได้ภายในเวลาเพียง 30 นาที โดยเงื่อนไขของเงินกู้ตัวนี้ ผู้กู้ต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท ต่อเดือน สามารถกู้ได้ 5 เท่าของรายได้ และสามารถขยายระยะเวลาผ่อนชำระได้ตามวงเงินที่กู้ไป ได้แก่
•   วงเงินกู้ 20,000 – 30,000 บาท เลือกผ่อนชำระได้สูงสุด 24 เดือน
•   วงเงินกู้ 30,001 – 99,000 บาท เลือกผ่อนชำระได้สูงสุด 60 เดือน
•   วงเงินกู้ 100,000 – 2,000,000 บาท เลือกผ่อนชำระได้สูงสุด 72 เดือน
2. สินเชื่อ SCB Speedy Cash เรียกได้ว่าเป็น “วงเงินพร้อมใช้” ที่สามารถติดตัวคุณไปได้ตลอดชีพก็ว่าได้ เพราะเมื่อกู้ยืมแล้วชำระคืนปิดหนี้ทั้งหมด วงเงินก็จะยังคงอยู่ สามารถกดใช้หรือเบิกถอนผ่านแอป scb easy ออกมาใช้อีกเมื่อไรก็ได้ วงเงินสูงสุด 1.5 ล้านบาท โดยไม่ต้องมีบุคคลค้ำประกัน
3. สินเชื่อ SCB Your Loan สะดวกเช่นเดียวกับสินเชื่อ 2 ตัวแรก แต่แตกต่างกันที่ Your Loan มีความยืดหยุ่นกว่ามาก โดยผู้กู้ที่มีรายได้ไม่ถึง 15,000 บาท ต่อเดือน แต่มากกว่า 10,000 บาท ต่อเดือน ก็สามารถสมัครสินเชื่อตัวนี้ได้ โดยวงเงินสูงสุด คือ 2 ล้าน เหมือนกับ สินเชื่อ SCB Speedy Loan (https://www.marketingoops.com/news/biz-news/scb-speedy-cash/) แต่สามารถเลือกผ่อนชำระเป็นรายเดือน หรือรายสองสัปดาห์ได้ตามต้องการ
นอกจากการขอกู้เงินแล้ว scb ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์ที่ถือ บัตรเครดิต SCB ของธนาคาร และมีวงเงินในบัตรเหลืออยู่ นั่นคือการเปลี่ยนวงเงินในบัตรเครดิตเป็น สินเชื่อ scb โดยรับเงินสดโอนเข้าบัญชีเงินฝากที่แจ้งความประสงค์ไว้ สามารถทำผ่านแอป scb easy ได้เลยทันที ทุกที่ทุกเวลา นับว่าเป็นความสะดวกที่ทางธนาคารไทยพาณิชย์จัดเตรียมไว้เป็นพิเศษเลย

   อย่างที่ทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่า ‘ย่านพระราม 9 นั้นเป็นหนึ่งในย่านที่คนเป็นจำนวนมากนิยมซื้อและเช่า คอนโดมิเนียมพร้อมเข้าอยู่โดยเฉพาะหนุ่มสาววัยทำงาน เนื่องจากสามารถเลือกใช้บริการรถไฟฟ้า BTS. รถไฟฟ้า MRT. สถานีรถไฟฟ้า Airport link, รถโดยสารประจำทาง, เรือโดยสาร, แท็กซี่ หรือวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างในการเดินทางไปทำงานหรือเชื่อมต่อไปยังสถานที่อื่น ๆ ได้ง่ายมากขึ้นด้วย นอกจากนั้นพระราม 9 ยังตอบโจทย์ในเรื่องของไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของทุกคน ทั้งห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต โรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร สตรีทฟู้ด และร้านคาเฟ่อินดี้ที่บางแห่งเปิดให้เข้าใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นักลงทุนมือใหม่สนใจคอนโดพระราม 9 เป็นพิเศษ เพราะต่อให้ยัง ขายคอนโด ไม่ได้ในทันที ก็สามารถทำเงินได้จากการปล่อยให้เช่า แต่ตอนนี้จะมีโครงการไหนน่าสนใจบ้างนั้น วันนี้เรามีคำตอบดี ๆ มาฝาก
•    Aspire
โครงการแรกที่นักลงทุนมือใหม่ไม่ควรพลาดเด็ดขาดคือ คอนโดติดรถไฟฟ้า อย่าง โครงการ Aspire พระราม 9 คอนโดแบบ High Rise ซึ่งตั้งอยู่ที่พระราม 9 ซอย 2 ซึ่งจุดเด่นของโครงการนี้อยู่ที่การออกแบบที่เน้นความทันสมัยและความกว้างขวาง ในขณะเดียวกันทางโครงการก็ได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกมาให้อย่างครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำระบบเกลือในร่มที่แยกสระเด็กและสระผู้ใหญ่ ทำให้รู้สึกมีความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยไปพร้อม ๆ กัน ห้องฟิตเนสที่มีเครื่องออกกำลังกายระดับมาตรฐานหลายประเภท โซนล็อบบี้เพื่อให้ลูกบ้านได้นั่งพักผ่อนทั้ง 2 อาคาร สวยลอยฟ้าสำหรับพักผ่อนชมวิวเมือง ห้องซักผ้า และห้องเมลล์บล็อคไว้บริการอีกด้วย
•   Life
โครงการต่อมาคือ โครงการ Life อโศก - พระราม 9 คอนโดติดรถไฟฟ้า อีกแห่งที่น่าสนใจมากสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเจาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความหรูหราอลังการ เพราะโครงการนี้มาพร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่การันตีว่าใหญ่ที่สุดในย่านพระราม 9 โดยจะมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ JACUZZI ส่วนของ Horizon Bay Rooftop Facilities ขนาด 1.5 ไร่ สามารถมองเห็นวิวตลอด 360 องศา พื้นที่ Co-Working และสวนสวยแสนร่มรื่น ซึ่งรับรองว่าจุดเด่นต่าง ๆ นี้ จะทำให้คนที่กำลังต้องการได้ที่พักในย่านนี้ถูกใจแน่นอน
•   Condolette Midst
สำหรับโครงการสุดท้ายคือ โครงการ Condolette Midst พระราม 9 คอนโดพร้อมอยู่ ที่จะให้ผู้อยู่อาศัยทุกคนได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ล็อบบี้ที่มีบริการ Wi-Fi ฟรีครอบคลุมทุกพื้นที่ โซน Rooftop Patio สำหรับทำกิจกรรมให้ลูกบ้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ปิ้งบาร์บีคิว นั่งเล่นชมวิวที่ Sky Garden ดูดาวกับครอบครัวในเวลากลางคืน หรือจัดงานปาร์ตี้เล็กเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างลูกบ้าน แต่ส่วนที่เป็นไฮไลท์ที่สุดคือ สระว่ายน้ำแบบ See Through มองเห็นวิวเมืองได้ทุกมุม เป็นประสบการณ์ใหม่ในการว่ายน้ำที่ไม่ว่าใครก็ต้องชอบ
เป็นอย่างไรบ้างสำหรับ แนะนำ 3 คอนโดพระราม 9 สำหรับนักลงทุนมือใหม่ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าคอนโดทั้ง 3 แห่งจะมีความโดดเด่นแตกต่างกัน แต่บอกเลยว่าสิ่งที่มีเหมือนกันคือ ความสะดวกสบายในการเดินทาง เพราะห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีพระราม 9 ไปเพียงไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับถนนอีกหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น ทางด่วนศรีรัชฯ เส้นทางไปถนนเพชรบุรี ถนนสุขุมวิท ถนนดินแดง ทำให้เหมาะสมกับทั้งคนที่มีรถส่วนตัวและกลุ่มคนที่จำเป็นต้องใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งเหตุผลนี้จะทำให้เป็นตัวเลือกของกลุ่มคนวัยทำงานได้ไม่ยาก หากท่านมีคอนโดในย่านนี้ จะปล่อยเช่าหรือประกาศ ขายคอนโด ก็มั่นใจได้เลยว่ามีคนสนใจแน่นอน แต่หากยังไม่รู้จะขายหรือซื้อที่ไหน ก็ให้มาดู คอนโดพระราม 9 จาก Plus property รับรองเลยว่าจะได้คำแนะนำดี ๆ แน่นอน

   การทำประกันภัย (เพิ่มเติมที่ https://www.scb.co.th/th/personal-banking/insurance.html ) นับเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบหนึ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สินของผู้ทำสัญญา ซึ่งความคุ้มครองในการทำประกันนั้นมีหลากหลายทั้งความคุ้มครองต่อชีวิต ทรัพย์สิน หรืออสังหาริมทรัพย์ขึ้นอยู่กับรายละเอียดที่สัญญาประกันได้ระบุเอาไว้ รวมถึงจำนวนเงินคุ้มครองที่ทางบริษัทที่ให้บริการทางการเงินจะส่งมอบให้หากเกิดเหตุไม่คาดฝันตามที่อยู่ในรายละเอียดความคุ้มครองของสัญญาประกันภัยด้วยประโยชน์ดังนี้จึงช่วยให้การทำประกันประเภทต่าง ๆ ส่งผลต่อความมั่นคงทางการเงินด้วยประโยชน์ดังต่อไปนี้
1.   ประกันออมทรัพย์ เป็นรูปแบบของการทำสัญญาประกันเพื่อการออมเงินโดยเฉพาะ จึงส่งผลต่อสถานะทางการเงินของผู้ที่ทำสัญญาประกันได้โดยตรง เป็นการออมเงินในลักษณะของสัญญาที่ผู้ทำประกันภัยจะต้องชำระตามที่สัญญาการทำประกันกำหนดเอาไว้ เพื่อที่จะได้ดอกเบี้ยตามที่สัญญาประกันกำหนด โดยการออมเงินในลักษณะนี้จะช่วยสร้างสถานะที่มั่นคงได้ดีกว่าการออมเงินรูปแบบอื่น ๆ เพราะจะมีเงินชดเชยในกรณีที่ผู้ทำประกันเกิดอุบัติเหตุ เกิดการทุพพลภาพหรือรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต เป็นความแตกต่างที่ทำให้ผู้ทำสัญญาหมดห่วงหากเกิดเหตุไม่คาดฝันต่าง ๆ ได้ดีและยังเหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีวินับในการออมด้วย เพราะผู้ทำสัญญาจะต้องส่งเงินมาออมตามระยะเวลาที่สัญญาประกันกำหนดอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง อย่างการทำประกันออมทรัพย์แบบปันผล 15/5 ผลประโยชน์จะเริ่มตั้งแต่เงินคุ้มครองกรณีเสียชีวิตถึง 150% ของวงเงินประกัน จ่ายเบี้ยประกันเพียง 5 ปี แต่จะได้รับปันผลต่อไปอีกนานถึง 15 ปี มากถึง 150% ของเบี้ยประกันเลยทีเดียว ตัวอย่างเช่นจ่ายเงินประกันปีละ 10,000 บาท เป็นเวลา 5 ปี ผู้ทำประกันจะได้เงินคืนถึง 50,000 x 150% เป็นเงิน 75,000 บาท ยิ่งเพิ่มเงินต้นมากก็ยิ่งมีโอกาสทำเงินมาก
2.   ประกันอุบัติเหตุ เป็นรูปแบบการทำประกันเพื่อคุ้มครองเหตุไม่คาดฝันในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน โดยสัญญาประกันประเภทนี้อาจแตกต่างจากทำสัญญาแบบออมทรัพย์เพราะไม่มีการสะสมเงินประกันและมอบดอกเบี้ยให้ แต่ประกันอุบัติเหตุจะช่วยคุ้มครองทรัพย์สินต่าง ๆ ของผู้ทำสัญญาประกันได้ดี อย่างกรณีที่บาดเจ็บจนต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลก็จะมีค่ารักษาพยาบาลให้ ทำให้ช่วงที่พักรักษาตัวไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม บางสัญญาประกันยังมอบเงินชดเชยให้ด้วย ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินได้ดี เป็น
3.   ประกันสุขภาพ สุขภาพร่างกายก็นับเป็นต้นทุนอย่างหนึ่งที่ต้องบริหารจัดการให้ดี หากเกิดการเจ็บป่วยโดยเฉพาะโรคร้ายอย่างมะเร็ง หัวใจ หรือความดันโลหิตสูงที่มักมีอาการเรื้อรัง และต้องเข้ารับการรักษาทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง หากไม่ต้องการเสียเงินเพื่อสุขภาพมากเกินไปก็ควรทำประกันสุขภาพเสียแต่เนิ่น ๆ เพื่อความมั่นคงทางการเงินที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพนั่นเอง

   การทำประกันคือการทำสัญญากับธนาคารหรือบริษัทที่ให้บริการด้านประกัน เผื่อให้ผู้ทำประกันมีความมั่นคงทางการเงินและพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ได้ดี แต่ในปัจจุบันนอกจากการให้บริการด้านความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินแล้ว การประกันภัยยังเกิดขึ้นมาเพื่อช่วยเริมความมั่นคงทางสถานะการเงินของผู้ทำสัญญาประกันอีกด้วย ซึ่งการทำประกันสามารถสร้างเงินก้อนให้กับผู้ที่สนใจทำสัญญาประกันได้เนื่องจากรายละเอียดต่อไปนี้
ประกันชีวิตลดหย่อนภาษีโดยทางกรมสรรพากรได้กำหนดให้การทำประกันชีวิตลดหย่อนภาษี จะต้องมีระยะเวลาการคุ้มครองมากกว่า 10 ปีขึ้นไป เบี้ยประกันไม่เกิน 15,000 บาท หากมีเงินคืนจำนวนเงินคืนต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยที่ประกันสะสมเอาไว้ ซึ่งเมื่อได้รับการลดหย่อน ภาษี แล้ว ผู้ทำสัญญาก็สามารถนำเงิน ภาษี มาใช้เพื่อการลงทุนหรืออมให้เพิ่มพูนในด้านอื่น ๆ ได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การทำประกันสามารถเพิ่มพูนเงินออมให้กับผู้ทำสัญญาประกันได้ดี
ช่วยในการสะสมเงินออม การทำประกันบางประเภทนั้น หากผู้ทำประกันสามารถทำตามรายละเอียดที่สัญญาประกันระบุเอาไว้ เงินก้อนที่จ่ายเป็นเบี้ยประกันก็จะได้รับการสะสมเอาไว้ ซึ่งเมื่อครบกำหนดตามระยะเวลาที่สัญญาประกันกำหนดเอาไว้ ผู้ทำสัญญาก็จะได้รับทั้งเงินก้อนที่สะสมจากเบี้ยประกันพร้อมกับดอกเบี้ยสะสมอีกด้วย ส่งผลให้เงินออมที่สะสมด้วยการทำสัญญาประกันกลายเป็นเงินก้อนโตในมือได้ไม่ยาก
ช่วยคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สิน การทำประกันภัยคือการสร้างหลักประกันที่มั่นคงต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ทำสัญญา โดยเฉพะในกรณีบ้านที่นับเป็นทรัพย์สินมูลค่าสูงที่เจ้าของบ้านทุกคนห่วงแหน ซึ่งเพื่อความมั่นคงของบ้านจึงควรทำประกันบ้านเอาไว้ด้วย วงเงินในการทำประกันจะอยู่ที่ประมาณ 100,000 บาท ซึ่งหากพิจารณากับความคุ้มครองในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ ระเบิดหรือภัยพิบัติทางธรรมชาติอื่น ๆ ที่ตรงตามกำหนดในเงื่อนไขสัญญาประกัน ก็นับเป็นความคุ้มค่าที่ไม่ควรละเลยแม้แต่น้อย เพราะเจ้าของบ้านจะได้รับเงินก้อนมาใช้ดูแลบ้านให้ยังคงเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าที่ดีได้ต่อไป เป็นการรักษาเงินก้อนในรูปแบบของอสังหาริมทรัพย์ได้เป็นอย่างดี
   ด้วยเหตุผลต่างต่อไปนี้จึงทำให้การทำประกันสามารถสร้างโอกาสทำเงินก้อนโตให้กับผู้ทำประกันได้อย่างเห็นผล นับเป็นวิธีการออมเงินที่ปลอดภัยไม่เสี่ยงเหมือนกับการเล่นหุ้น หรือซื้อกองทุนต่าง ๆ ยิ่งเลือกทำ ประกันชีวิตลดหย่อนภาษี ก็ยิ่งเป็นการสร้างเงินออมได้ตั้งแต่เริ่มทำสัญญาประกันเลยทีเดียว อีกทั้งการทำประกันชีวิต และทรัพย์สินกับธนาคาร SCB ยังเป็นการสร้างความมั่นคงทางการเงินในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝันต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีเพียงพิจารณารายละเอียดในสัญญาให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ

   จุดเด่นของสินเชื่อ scb (อ่านเพิ่มเติมที่ : https://www.marketingoops.com/news/tech-update/scb-business-solutions/ ) ที่เป็นภาพจำของหลาย ๆ คนขณะนี้ คือ สินเชื่อที่สมัครง่าย อนุมัติไว และได้วงเงินสูง นั่นเพราะมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลของผู้กู้ ซึ่งได้แก่เทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) และ Data Analysis จึงทำให้สามารถพิจารณาสินเชื่อได้รวดเร็วและยังเสนอรูปแบบสินเชื่อได้สอดคล้องกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้กู้ได้มากขึ้นด้วย และยังสามารถขอสินเชื่อที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันได้อย่างรวดเร็ว จะมีอะไรบ้าง ลองดู
สินเชื่อที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน คือสินเชื่อประเภทใดบ้าง
1. สินเชื่อบุคคล เป็นสินเชื่อที่ไม่ต้องใช้ทั้งบุคคลและหลักทรัพย์มาค้ำประกันการกู้เงิน แต่ผู้สมัครสินเชื่อแบบนี้จะต้องเป็นผู้ที่มีรายได้ประจำ โดยแยกเป็น 2 รูปแบบได้แก่
•   สินเชื่อ scb speedy cash เป็นสินเชื่อในลักษณะของวงเงินฉุกเฉิน โดยขอวงเงินได้ 5 เท่าของเงินเดือน หรือไม่เกิน 1 ล้าน 5 แสนบาท เมื่อสินเชื่อได้รับการอนุมัติ ก็จะมีการโอนเงินเข้าในบัญชีธนาคาร และเมื่อต้องการใช้เงินก็สามารถใช้บัตรกดเงินสด กดเงินออกมาจากตู้เอทีเอ็มทั่วไปได้ตลอดเวลา โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมกดเงินสด โดยธนาคารจะคิดดอกเบี้ยเฉพาะเงินส่วนที่กดออกมาจากบัญชีเท่านั้น
•   สินเชื่อ scb speedy loan เป็นสินเชื่อที่สมัครผ่านช่องทาง scb easy ได้ โดยมีวงเงินให้สูงสุด 5 เท่าของเงินเดือน แต่ไม่เกิน 2 ล้านบาท เมื่อสินเชื่ออนุมัติและธนาคารโอนเงิน ก็จะเริ่มคิดอัตราดอกเบี้ยตามที่ตกลงไว้ทันที ไม่ว่าจะถอนเงินจากบัญชีหรือไม่ก็ตาม สามารถผ่อนชำระเป็นงวด งวดละเท่า ๆ กัน โดยให้เวลาผ่อนชำระนานสูงสุดถึง 72 เดือน
2. บัตรเครดิต เป็นสินเชื่ออีกรูปแบบหนึ่งที่เน้นการไปที่การจ่ายค่าสินค้าและบริการแทนเงินสด โดยมีบัตรเครดิตแยกย่อยหลายประเภทตามไลฟ์สไตล์การใช้จ่าย การสมัครใช้บริการบัตรเครดิต scb นี้ สามารถทำได้ผ่านช่องทาง scb easy โดยไม่ต้องใช้บุคคลหรือหลักทรัพย์ค้ำประกันเช่นกัน
นอกจากสินเชื่อบุคคลและบัตรเครดิตที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันที่ สามารถยื่นสมัครได้ผ่านทาง scb easy แล้ว ความต้องการเงินก้อนหรือ เงินด่วน ในยามฉุกเฉิน จะไม่ใช่เป็นปัญหาสำหรับคนยุคดิจิทัลอีกต่อไป เพียงแค่มีแอปพลิเคชันดี ๆ อย่าง scb easy ติดโทรศัพท์มือถือไว้ จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจได้ทุกสถานการณ์แน่นอน

   อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า บัตรเครดิตมีหน้าที่หลักในการใช้จ่ายแทนเงินสดเมื่อซื้อสินค้าและบริการ แต่รู้หรือไม่ว่าวงเงินบัตรผ่อนสินค้าที่คุณถืออยู่นั้น หากใช้จ่ายอย่างขาดสติก็มีวันหมดได้เหมือนกัน แต่บัตรเครดิตในยุคปัจจุบัน เปิดโอกาสให้คุณสามารถยื่นเรื่องขอเพิ่มวงเงินในบัตรได้โดยการปฏิบัติตามหลักการง่าย ๆ แค่เพียง 3 ขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 คำนวณจำนวนวงเงินที่จะขอเพิ่ม
พิจารณาก่อนว่าคุณมีความจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนเท่าไรหรือต้องการขอวงเงินเพิ่มอีกจำนวนเท่าไรถึงจะเพียงพอ อีกเรื่องที่มักพบถึงความผิดพลาดของการใช้บัตรอีกอย่าง คือการใช้บัตรผิดประเภท เช่น นำบัตรเครดิตที่ใช้เติมน้ำมันมาใช้ซื้อตั๋วเครื่องบินหรือรูดผ่อนสินค้า เราอาจจะเพิ่มอีกสักใบไหมเผื่อจะช่วยให้ไม่ต้องไปรบกวนการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตใบอื่น ๆ

ขั้นตอนที่ 2 พยายามเคลียร์ชำระหนี้บัตรเครดิตที่มีอยู่ให้หมด เพราะหากไม่จัดการจ่ายหนี้เดิมที่คงค้างจะทำให้ธนาคารมองศักยภาพในการชำระเงินของคุณลดต่ำลงและไม่อนุมัติให้เพิ่มวงเงิน

   ขั้นตอนที่ 3 ยื่นเรื่องขอเพิ่มวงเงิน ต้องอธิบายก่อนว่า การขอวงเงินเพิ่มสามารถดำเนินการได้ 2 วิธี คือ ยื่นขอแบบชั่วคราวและยื่นขอแบบถาวร ทั้งสองวิธีจะมีความแตกต่างในเรื่องของระยะเวลา โดยแบบชั่วคราวจะกำหนดให้สามารถใช้ได้เพียง 30 วันเป็นอย่างต่ำ แต่ถ้าใครอยากได้มากกว่านี้ แนะนำให้ทำบัตรเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ เพราะสามารถขอเพิ่มแบบชั่วคราวได้สูงสุด 2 รอบบัญชี และที่สำคัญได้มากกว่า 30 วัน แต่ไม่เกิน 50 วันอีกด้วย ซึ่งวิธีการขอยื่นก็จะมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร มีวิธีการคร่าวๆ ดังนี้
- ขอเพิ่มวงเงินชั่วคราว
1. ติดต่อธนาคารที่ถือบัตร พร้อมแจ้งวงเงินที่ต้องการขอเพิ่ม
2. รอผลการอนุมัติ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะอนุมัติภายในวันที่แจ้งขอเพิ่มเลย
- ขอเพิ่มวงเงินถาวร (มีเงื่อนไขต้องถือบัตรตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป) และต้องเตรียมเอกสารดังนี้
1. บัตรประชาชนตัวจริง และบัตรเครดิต
2. สลิปเงินเดือนเดือนล่าสุด และหนังสือรับรองเงินเดือน (ถ้ามี)
3. Statement ย้อนหลัง 3-6 เดือน
4. ยื่นเอกสารที่ธนาคาร และรอผลการอนุมัติ

เห็นไหมว่าหลักการง่าย ๆ เพียง 3 ข้อ จะช่วยให้คุณสามารถยื่นขอวงเงินเพิ่มได้ผ่านอย่างแน่นอน

บัตรเครดิต scb คำตอบที่ใช่ในการใช้จ่ายของคนรุ่นใหม่



   รูปแบบการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่อยู่กับเทคโนโลยี ความทันสมัย มีผลให้แนวคิด ค่านิยม และพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่แตกต่างไปจากคนรุ่นก่อน ๆ โดยคนรุ่นใหม่จะเน้นที่ความรวดเร็ว สะดวกและทันสมัยเป็นสิ่งแรกเสมอ สิ่งนี้มีผลต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนรุ่นใหม่ด้วย
   คนรุ่นใหม่จะนิยมใช้จ่ายและหาแหล่งเงินทุน ด้วยวิธีการที่สะดวกและทันสมัย ยิ่งเป็นนวัตกรรมทางการเงินใหม่ ๆ ใช้เทคโนโลยีล้ำ ๆ เข้ามาช่วย ก็ยิ่งเป็นทางเลือกที่โดนใจ
ระบบ Mobile Banking ทางเลือกสำหรับการใช้จ่ายที่รวดเร็วทันใจ
 คนรุ่นใหม่ชอบที่จะใช้ระบบ Mobile Banking แทนเงินสด เพราะสามารถโอน-จ่าย –เช็คบัญชีได้สะดวก รวดเร็ว ยิ่งเป็นแอปพลิเคชันบนมือถือที่ชูความ ง่ายมาเป็นจุดเด่นแล้ว ยิ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากคนกลุ่มนี้ อย่าง scb easy ช่องทางทำธุรกรรมทางการเงินแบบง่าย ๆ และครบทุกอย่างบนมือถือ เป็นแอปพลิเคชันยอดนิยมที่คนรุ่นใหม่มีไว้ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อจ่ายเงินได้สะดวกด้วย QR code หรือใช้เพื่อโอนเงินเข้าบัญชี, จ่ายผ่านพร้อมเพย์ ในการซื้อสินค้าได้สบาย ๆ โดย scb easy นี้จะผูกติดกับบัญชีเงินฝากธนาคาร SCB และจะแจ้งเตือนเงินเข้าออกได้เหมือนกับ SMS Alert แต่ scb easy จะไม่มีค่าใช้จ่าย
สินเชื่อเน้นความหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
แหล่งเงิน มีความสำคัญสำหรับคนรุ่นใหม่ คนที่อยู่ในช่วงวัยสร้างตัว สร้างครอบครัว แต่ทางเลือกของคนรุ่นใหม่เมื่อเกิดปัญหาสภาพคล่อง จะเน้นไปที่สินเชื่อที่มีความหลากหลายแต่มีเงื่อนไขที่ดีที่สุด สินเชื่อ scb จึงเป็นทางเลือกที่โดนใจคนกลุ่มนี้ เพราะมีทั้งสินเชื่อบ้าน สินเชื่อซื้อรถยนต์ และสินเชื่อบุคคล
   สำหรับสินเชื่อบุคคล ที่เป็นสินเชื่อ scb นั้น ยังมีแยกประเภทย่อยให้เลือกอีกหลากหลายผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อบุคคลเพื่อการศึกษา, สินเชื่อบุคคลเพื่อรักษาพยาบาลหรือเป็นบัตรกดเงินสด ซึ่งทั้งหมดมีจุดเด่นที่การอนุมัติอย่างรวดเร็ว และสามารถผ่อนชำระได้นาน
บัตรเครดิต scb ทางเลือกที่ใช่ สำหรับทุกการจับจ่าย
   เพราะ บัตรเครดิต scb แยกย่อยประเภทตามไลฟ์สไตล์ ทำให้คนรุ่นใหม่สามารถเลือกประเภทของบัตรเครดิตที่เหมาะกับตัวเอง เพื่อรับสิทธิประโยชน์ได้คุ้มค่าจากทุกการใช้จ่าย หนึ่งใน บัตรเครดิต scb ที่โดนใจคนรุ่นใหม่มาก ๆ คือ scb travel บัตรที่ตอบโจทย์คนชอบเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างลงตัว เพราะสามารถนำคะแนนจากการใช้จ่ายผ่านบัตร scb travel ไปแลกเป็นแต้มของ 3 สายการบินสะสมไว้เพื่อแลกตั๋วบินฟรี บัตรใบนี้ยังมีส่วนลดสำหรับการเช่ารถ, การแลกเงินตราต่างประเทศ และยังมีประกันภัยการเดินทางให้ด้วย
   สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นทางเลือกการใช้จ่ายที่ทันสมัย รวดเร็ว และตอบโจทย์ของคนรุ่นใหม่ได้ดี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้คนหันมาเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินเหล่านี้แทนเงินสดมากขึ้นทุกวัน

   เชื่อว่าในยุคที่มีเทคโนโลยีก้าวไกล มีสินค้าใหม่ๆ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าไป มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่แหวกแนวมากขึ้น ย่อมทำให้ความต้องการของใครหลายคนเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย แต่การที่จะได้มาซึ่งความสุขที่หลากหลายขึ้นเหล่านั้น ก็ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงงานทุกหยดกว่าจะเก็บหอมรอมริบให้ได้เงินที่เพียงพอจะจ่ายเพื่อแลกเปลี่ยนความสุขนั้นมา ผู้คนจึงต้องมองหาผู้ช่วยดีๆ อย่างบัตรเครดิตเพื่อหยิบยืมเงินในอนาคตของตนเองมาใช้
   แต่หลายคนอาจจะยังกล้าๆ กลัวๆ ในการเลือกโปรโมชั่นสมัครบัตรเครดิตใบแรก เพราะกลัวการเป็นหนี้และต้องจ่ายค่าธรรมเนียมบัตรไปอย่างเสียเปล่า ซึ่งสิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกเลยคือการเลือกบัตรให้ตรงกับเป้าหมายการใช้เงินของตนเอง เช่น ลองเริ่มจากการใช้บัตรเครดิตฟรีค่าธรรมเนียมไปก่อน เพราะอาจจะยังไม่เชี่ยวชาญในการใช้มากนัก ทางธนาคารไทยพาณิชย์จึงมีโปรบัตรเครดิตดีๆ แบบฟรีค่าธรรมเนียมรูปแบบต่างๆ มานำเสนอเป็นตัวเลือกให้คุณได้เลือกทำบัตรเครดิตให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ดังนี้
   1. บัตร SCB SANSIRI PLATINUM บัตรเครดิตฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปีปีแรก เหมาะกับคนที่มีความต้องการที่จะผ่อนบ้านสักหลัง บัตรนี้จะให้ส่วนลด 5% ในการจองที่พักของ Sansiri ผ่านบัตร
   2. บัตร UP2ME บัตรเครดิตฟรีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพ! โดยไม่กำหนดยอดใช้จ่าย และสามารถได้รับคะแนน 3 เท่า เมื่อจับจ่ายสินค้าในหมวดที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง
   3. บัตร SCB Beyond บัตรเครดิตฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปีปีแรก สามารถนำไปใช้จ่ายสินค้าและบริการ พร้อมทั้งรับสิทธิพิเศษต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย เช่น บริการที่จอดรถในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ , มีส่วนลดค่าห้องพักในเครือโรงแรมที่ร่วมรายการ เป็นต้น
   4. บัตร SCB FAMILY PLUS บัตรเครดิตฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปีปีแรก เหมาะกับผู้ที่ต้องการวางแผนค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เพื่อครอบครัว
   5. บัตร SCB KING POWER PLATINUM บัตรเครดิตฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้า เหมาะกับผู้ที่ชอบใช้จ่ายซื้อของใน King Power
   การทำบัตรเครดิตไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องหยิบยืมเงินจากธนาคารมาใช้ก่อนอย่างที่ใครหลายคนคิด เพราะบัตรเครดิตแต่ละใบก็จะมีสิทธิพิเศษให้แก่ผู้ถือบัตร หากรู้จักใช้อย่างเหมาะสมกับตนเอง ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ดีๆ คืนกลับไปอย่างมากมายเลยทีเดียว

   ถือเป็นความจำเป็นของคนยุคใหม่ที่ต้องซื้อความคุ้มครองจากการทำประกันต่าง ๆ อาทิ ประกันอัคคีภัย ประกันภัยรถยนต์ รวมไปถึงการทำประกันชีวิต ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรายจ่ายประจำก้อนโตที่หลายคนต้องเตรียมวางแผนการเงินไว้ในแต่ละปี โดยปกติแล้วบริษัทประกันส่วนใหญ่จะเรียกเก็บเบี้ยประกันชีวิตปีละครั้ง ซึ่งการจ่ายเบี้ยประกันชีวิตสะดวกมากขึ้น เพียงกดโอนเงินจากโทรศัพท์มือถือเพื่อจ่าย แต่ก็อาจจะเลือกที่จะสร้างสิทธิประโยชน์หรือ “แต้มต่อ” ในการจ่ายเบี้ยประกัน ครั้งด้วยการใช้บัตรเครดิตจ่ายแทนเงินสด
ใช้บัตรเครดิตจ่ายเบี้ยประกันดีกว่าเงินสดอย่างไร ต้องไม่ลืมว่าเมื่อคุณสมัครบัตรเครดิตออนไลน์มาแล้ว ในแต่ละใบจะมีคะแนนหรือแต้มสะสมให้กับการใช้จ่ายทุกบาททุกสตางค์อยู่แล้ว หากต้องจ่ายเบี้ยประกันด้วยวงเงินหลักหมื่นด้วยบัตรเครดิต ก็จะได้แต้มกลับคืนมาเป็นจำนวนไม่น้อย สะสมไว้ใช้ประโยชน์ได้หลายด้าน ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ บัตรของบางบริษัทสามารถให้เปลี่ยนวงเงินที่ใช้จ่ายเป็นก้อนเช่นกรณีเบี้ยประกันชีวิตให้เป็นเงินผ่อนชำระหรือแบ่งจ่ายได้ถึง 3-6 งวดก็เท่ากับช่วยให้การจ่ายเงินก้อนใหญ่กลายเป็นก้อนเล็กลงได้ สิ่งนี้จึงถือเป็นสิทธิประโยชน์เพิ่มที่ไม่ควรละเลย เพียงแต่ต้องศึกษาข้อมูลวิธีทําบัตรเครดิตของบัตรแต่ละประเภทให้ดี ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิตสำหรับการเดินทาง บัตรเครดิตสำหรับประกันชีวิต หรือบัตรเครดิตเติมน้ำมัน และต้องสร้างวินัยการใช้จ่าย ไม่ให้เกิดหนี้สินล้นพ้นตัวในอนาคต

   ใครหลายคนต่างก็มีความสุขกับบางอย่างแตกต่างกันไป บางคนมีความสุขกับการได้ซื้อของที่ตนเองต้องการ บางคนใฝ่ฝันว่าอยากออกไปท่องเที่ยวในต่างแดน บางคนอยากมีเงินเป็นหลักประกันให้ชีวิตเมื่อถึงยามต้องใช้ฉุกเฉินจริง ๆ  บางคนอาจจะมีความสุขกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแบบของตนเอง  อีกทั้งในปัจจุบันที่มีการพัฒนาก้าวไกลทางด้านต่าง ๆ ไปมาก จึงทำให้มีสินค้าเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เราดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น สินค้าบางอย่างก็เป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องใช้ในการทำงานอีกด้วย หลายอย่างที่กล่าวมานี้ล้วนแต่ต้องมี ‘เงิน’ เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่บางครั้งความต้องการหรือความจำเป็นที่จะใช้จ่ายของเรากลับมีมากเกินกว่าจะรอให้ทำงานเก็บเงินจนได้ครบตามจำนวนเงินของราคาสิ่งที่ต้องการนั้น กลุ่มคนวัยทำงานทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาที่เพิ่งก้าวเข้าสู่โลกการทำงานไปจนถึงวัยเกษียณจึงมีความคิดที่จะมองหา “เงินในอนาคต” สักก้อนที่เพียงพอต่อการนำมาแลกสินค้าให้ทันต่อความต้องการ
   เงินในอนาคตที่ใครหลายคนมองหานั้น สามารถได้รับจากวิธีการที่เรียกว่า “การทำบัตรเครดิต” นั่นเอง บัตรเครดิตคือบัตรที่ช่วยให้คุณสามารถนำเงินในอนาคตจากธนาคารมาใช้จ่ายก่อน แล้วจึงชดใช้คืนเมื่อถึงกำหนดในจำนวนเงินที่เท่ากับที่คุณจ่ายออกไป แต่บัตรเครดิตบางใบไม่ได้มีข้อดีเพียงเท่านั้น เพราะยังอาจมีข้อเสนอและโปรโมชั่นแตกต่างกันไปที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายของคุณ เช่น บัตรเครดิตสำหรับคนชอบเดินทาง , บัตรเครดิตสำหรับผู้หญิง และบัตรเครดิตสำหรับคนที่มีค่าใช้จ่ายในครอบครัวมาก เป็นต้น ซึ่งข้อเสนอเหล่านี้อาจช่วยให้คุณสะสมแต้มแล้วได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ มากขึ้นด้วย พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นคือ จ่ายเท่าเดิม แต่ได้รับสิทธิพิเศษที่คุ้มค่า นี่คือสิ่งดี ๆ ของการใช้เงินผ่านบัตรเครดิต
   สำหรับใครที่อยากเริ่มต้น ทำบัตรเครดิต ใบแรก วิธีการไม่ได้ยาก ให้คุณเริ่มต้นได้ด้วยการสำรวจความต้องการและการใช้จ่ายของตนเองให้ดี จากนั้นจึงเลือกบัตรเครดิตฟรีค่าธรรมเนียมที่มีโปรโมชั่นสมัครบัตรเครดิตที่เหมาะสมกับตนเอง ศึกษาข้อมูลรายละเอียดบัตรแต่ละใบให้เข้าใจถี่ถ้วนเสียก่อนว่าท่านสามารถ ทำบัตรเครดิต ใบนั้นได้หรือไม่ (เช่น ฐานเงินเดือนที่บัตรใบนั้นๆ กำหนด) แล้วจึงดูว่า วิธีทำบัตรเครดิต แต่ละใบใช้เอกสารอะไรบ้าง ซึ่งเอกสารที่ใช้โดยทั่วไปแล้วมักจะประกอบไปด้วย
1. สำเนาบัตรประชาชน พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
2. สำเนาสลิปเงินเดือน 6 เดือน
3. รายการเดินบัญชีธนาคาร(Statement)  6 เดือน
4. ใบรับรองเงินเดือนที่ออกโดยบริษัทพร้อมตราประทับ
5. สำเนาทะเบียนบ้าน
เมื่อคุณตระเตรียมเอกสารที่ใช้ใน การทำบัตรเครดิต เรียบร้อยแล้ว ก็นำไปสมัครยังธนาคารของบัตรที่คุณมองไว้ จากนั้นก็ให้คุณรอผลการสมัครบัตรว่าผ่านหรือไม่ ทั้งนี้หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ วิธีทำบัตรเครดิต คุณก็สามารถสอบถามไปยังธนาคารได้เลยเช่นกัน
และสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกจะสมัคร ทำบัตรเครดิต ผ่านทางธนาคาร ปัจจุบันบัตรเครดิตหลายใบก็สามารถสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ง่าย ๆ เช่น บัตรเครดิต JCB เพียงกรอกข้อมูล ชื่อ-นามสกุล , ที่อยู่ , เบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับ หรืออีเมล์ จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับมาตามข้อมูลที่ให้ไว้ เป็นอีกหนึ่งหนทางการสมัครบัตรเครดิตที่ง่ายและสะดวกมาก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

   หากพูดถึงการทำประกัน ทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีผลิตภัณฑ์อยู่มากมายหลายประเภทให้เลือกสรร เช่น ประกันสุขภาพ ประกันการเดินทาง แต่บ่อยครั้งคำว่า ประกันภัย หรือคนขายประกันยังคงมีภาพลักษณ์ในแง่ลบในสายตาของคนจำนวนมาก อันที่จริงไม่ใช่เพราะการทำประกันนั้นไม่ดี แต่เป็นเพราะการซื้อประกันไม่ได้ก่อให้เกิดผลทันทีเหมือนการซื้อสินค้าและบริการอื่น ๆ แต่รู้ไหมว่าความจริงแล้วการทำประกันนั้นมีความสำคัญมาก ถึงขนาดที่ว่าบุคคลและธุรกิจจะตกอยู่ในความเสี่ยงมหาศาลหากไม่ได้ทำ และอาจถึงขั้นล้มละลาย ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง อย่างเช่น ไฟไหม้ แผ่นดินไหว เป็นต้น คราวนี้เราจะมาลองมองการทำประกันในอีกแง่มุม ว่าทำไมชีวิตของเราถึงขาดประกันไม่ได้
1.   ช่วยลดการสูญเสียได้มาก
ข้อนี้เป็นจุดประสงค์หลักของการทำประกันเพราะเราจะได้รับเงินชดเชยในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดคิด ซึ่งจะช่วยบรรเทาการสูญเสียอย่างมาก ไม่ต้องถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัวในคราวเดียว มีหลายกรณีที่คนไม่ยอมทำประกันเพียงเพราะอยากประหยัด เช่น กรณีในข่าวที่ไม่ยอมทำ ประกันการเดินทาง แค่ 200 บาท แต่ลงเอยด้วยความเสียหายหลักแสน ด้วยเงินเล็กน้อยนั้นอาจต้องแลกมาด้วยความเสียหายมหาศาลที่คุณต้องรับผิดชอบคนเดียว คงไม่ต้องบอกว่ามันจะหนักหนาแค่ไหน
2.   ช่วยในการบริหารเงินในกระเป๋า
 เมื่อคุณ วางแผนการเงิน ประกันหลายชนิด เช่น ประกันสุขภาพจะช่วยซัพพอร์ทค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่เกิดขึ้น ซึ่งหากคุณไม่ได้ทำไว้เมื่อพบปัญหาขึ้นมา คุณจะต้องควักกระเป๋าสตางค์ตัวเองหรือใช้การกู้เงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นเงินก้อนโตในคราวเดียวและก็มักจะไม่ถูกเสียด้วย เท่ากับว่าคุณ ออมเงิน และได้ดอกเบี้ยเงินกู้มาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในเพื่อการนี้เท่านั้น ดีกว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อย่างผ่อนคอนโดเพื่อเก็งกำไรอีกด้วย
3.   ช่วยในด้านการทำธุรกรรม
ทุกธุรกิจรู้ว่ากิจการใด ๆ ย่อมมีความเสี่ยง ไม่มีใครอยากทำธุรกรรมกับบุคคลหรือหน่วยงานที่อาจล้มพับหายไปได้ทุกเมื่อ ในหลายครั้งการทำประกันเป็นข้อบังคับในการเริ่มต้นธุรกรรมใด ๆ และยังเป็นการรับรองในทางอ้อมว่าบุคคลหรือองค์กรมีความน่าเชื่อถือ เพราะคงไม่มีใครรับทำประกันสำหรับความเสี่ยงสูงหรือเครดิตไม่ดีแน่ ๆ เรียกว่าผู้รับทำประกันได้ช่วยคัดกรองความน่าเชื่อถือมาแล้วในระดับหนึ่ง
4.   ประหยัดภาษีได้
 รัฐบาลเองก็เล็งเห็นความสำคัญของการทำประกันแม้กระทั่งสำหรับตัวบุคคล เพราะจะทำให้ประชากรมีความมั่นคงในการใช้ชีวิต รู้จักการ ออมเงิน จึงมีนโยบายให้สามารถนำเงินที่จ่ายไปในการทำประกันมาลดหย่อนภาษีได้เท่ากับว่าคุณจะได้ประโยชน์สองต่อแบบยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
5.   ทำให้สังคมดีขึ้น
ประกันบางประเภท เช่น ประกันอุบัติเหตุอาจคลอบคลุมถึงผู้ได้รับผลจากอุบัติเหตุและจ่ายค่าชดเชยในส่วนนั้นด้วย เรามักจะเห็นบ่อยครั้งที่ศาลตัดสินแล้วว่าจำเลยต้องจ่ายค่าชดเชย แต่จำเลยกลับไม่สามารถหาเงินมาจ่ายได้หรือประวิงเวลาไปให้ได้นานที่สุด หลายครั้งต่อสู้กันเป็นสิบปี เท่ากับว่าผู้โชคร้ายนอกจากจะเจ็บตัวฟรีแล้วยังต้องจัดการเยียวยาตัวเองอีก
เป็นอย่างไรบ้างกับการ ประกันภัย ความแน่นอนที่สุดก็คือความไม่แน่นอน อย่าปล่อยให้ตัวเองใช้ชีวิตอยู่บนความเสี่ยงที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ประโยชน์ของการการทำประกันก็เห็นได้ชัดเจนขนาดนี้ แล้วคุณล่ะ วางแผนการเงิน แบบไหน มีมุมมองเกี่ยวกับประกันเปลี่ยนไปหรือยัง

พฤติกรรมที่ทำให้เกิดรังแครวมไปถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาหัวเหม็น



วันนี้เราจะมาพูดถึงสาเหตุและปัญหาของการเกิดรังแคกัน เนื่องจากแต่ละคนมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไปปัจจัยที่ทำให้เกิดรังแคจึงแตกต่างกันออกไปเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอาชีพหน้าที่การงาน พฤติกรรมการใช้ชีวิตในกิจวัตรประจำวันสิ่งต่าง ๆ ดังนั้นการเลือกใช้แชมพูขจัดรังแค และยาสระผมแก้หัวเหม็นจึงเป็นสิ่งสำคัญในขั้นตอนการบำรุงหนังศีรษะ
   ปัจจัยที่เป็นสาเหตุของรังแคและหัวเหม็น รวมถึงวิธีการเลือกแชมพู มีอะไรบ้างนั้นสามารถศึกษาข้อมูลได้ดังต่อไปนี้
1.   พฤติกรรมที่ทำให้เกิดรังแคง่ายซึ่งถูกมองข้ามคือการใช้น้ำอุ่นในการสระผม รู้หรือไม่ว่าการใช้น้ำอุ่นสระผมจะทำให้หนังศีรษะแห้งจนเป็นขุย และเกิดเป็นรังแค ฉนั้นแชมพูที่เลือกใช้ควรมีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับหนังศีรษะ มีคุณสมบัติเป็นแชมพูขจัดรังแค
2.   พฤติกรรมที่ทำให้หัวเหม็น สำหรับสายชาบูหมูกระทะทั้งหลายคงหนีไม่พ้นเรื่องกลิ่นควันจากการปิ้งย่างที่ลอยติดมาบนศีรษะแน่นอน ฉนั้นแชมพูควรมีส่วนผสมของกลิ่นยูคาลิปตัสที่สามารถช่วยดับกลิ่นหัวเหม็นได้
3.   พฤติกรรมที่ชอบมัดผม มวยผม หรือถักเปีย เข้าใจว่าเป็นไลฟ์สไตล์ความชื่นชอบส่วนบุคคลที่จะทำทรงผมอะไรก็ได้ แต่การมัดผม มวยผม หรือแม้แต่การถักเปีย เป็นพฤติกรรมที่ทำให้ผมและหนังศีรษะขาดอิสระ เป็นการสะสมเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุของการเกิดรังแค และหัวเหม็น
ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละคนแตกต่างกัน พฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดรังแคและปัญหาหัวเหม็นก็แตกต่างกันออกไปเช่นกัน ซึ่งบางครั้งก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จึงจำเป็นต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงเหล่านั้น แต่มีวิธีป้องกันดูแลรักษาการเกิดรังแคและรักษาหัวเหม็นได้ เพียงเลือกใช้แชมพู head and shoulders

ความเสี่ยงในปัจจุบันมีหลากหลายปัจจัยเข้ามา ฉะนั้นการหาหลัก ประกันชีวิตอย่างเช่นการทำประกันสุขภาพ จึงกลายเป็นทางเลือกที่ดีและเหมาะสมถือเป็นการลงทุนได้ผลตอบแทนอย่างหนึ่ง ทุกคนให้ความสำคัญในการทำประกันสุขภาพ เช่น การมีประกันสุขภาพช่วยทำให้อุ่นใจ เพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าโรคภัยไข้เจ็บจะมาเมื่อไหร่ ไม่เพียงเท่านั้นการประกันสุขภาพยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในกระเป๋าเนื่องจากค่ายาค่ารักษาพยาบาลมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประกันสุขภาพในปัจจุบันส่วนใหญ่จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1.ประกันแบบกลุ่ม คือ มีนายจ้างเป็นผู้ถือกรมธรรม์และมีลูกจ้างเป็นผู้รับประกัน โดยประกันแบบนี้จะมาในรูปแบบของสวัสดิการพนักงาน 2.ประกันรายบุคคล ที่เรา ๆ หาซื้อเพื่อดูแลสุขภาพและเป็นหลักประกันชีวิตให้เกิดความอุ่นใจ โดยขณะนี้มีคุ้มครองที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น คุ้นครองค่าใช้จ่ายจากการให้แพทย์มาดูแล การรักษาฟัน รวมถึงการช่วยค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการคลอดบุตร ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายโดยไม่กระทบเงินเก็บ
ปัจจุบันมีหลากหลายสถาบันด้านประกันภัยออกมาพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์และหนึ่งในนั้นคือ ประกันสุขภาพจาก SCB เช่น ประกันสุขภาพสุขทุกวัยที่พร้อมคุ้มครองผู้ประกันภัยทุกวัย โดยเริ่มตั้งแต่แรกเกิดตั้งแต่ 15 วันขึ้นไปจนถึงผู้สูงวัยอายุ 65 ปี โดยเงื่อนไขการสมัครไม่ต้องตรวจสุขภาพ ไม่ต้องสำรองจ่ายเพราะ มี Care Card ที่สามารถเข้ารักษาในโรงพยาบาลในเครือข่ายกว่า 270 แห่งทั่วประเทศ
ประกันสุขภาพ แม้จะดูเหมือนจะไม่จำเป็นในปัจจุบัน แต่สำคัญต่อการใช้ชีวิตในอนาคตเพราะเรื่องของสุขภาพเราไม่สามารถคาดเดาได้ การมีประกันไว้ช่วยทำให้อย่างน้อยเราอุ่นใจ
นอกจากนี้ยังสะดวกมากขึ้นเพียงแค่มีบัตรเครดิต เช่น scb credit cardที่เป็นบัตรเครดิตฟรีค่าธรรมเนียม สามารถผ่อนจ่ายเบี้ยประกันดังกล่าว โดยหักผ่านบัตรเครดิต พร้อมทั้งได้รับคะแนน m-point สะสมเพื่อแลกรับของรางวัลต่าง ๆ มากมาย หรือเปลี่ยนวงเงินบัตรเครดิต เป็นเงินสดก็ย่อมได้ นับได้ว่าคุ้มค่าอย่างมาก ในการลงทุนป้องกันความเสี่ยงในเรื่องสุขภาพ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต

ต้องยอมรับว่าสมัยนี้การทำใบขับขี่ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์นั้นมีความสะดวกขึ้น เนื่องจากสามารถเลือกวันเรียน กำหนดเวลาเรียน และวันเวลาที่จะสอบได้ จึงเหมาะทั้งคนที่เพิ่งหัดขับรถ คนที่มีเวลาน้อย หรือไม่อยากเสียเวลาไปกับการรอคิวและการไปสอบที่กรมการขนส่งฯ เพราะโดยส่วนใหญ่จะใช้เวลารอคิวอย่างน้อย 1 เดือน ส่วนการสอบนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 วันเป็นอย่างน้อย เนื่องจากส่วนใหญ่มักจะสอบภาคทฤษฎีหรือภาคปฏิบัติไม่ผ่านในครั้งแรก ทำให้ต้องเดินทางไปสอบซ้ำจนกว่าจะผ่าน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายคนเลือกที่จะเรียนขับรถและสอบใบขับขี่ที่โรงเรียนสอนขับรถมากกว่าเดินทางไปสอบเองที่กรมการขนส่งฯ แต่การเรียนขับรถกับโรงเรียนนั้นต้องเตรียมตัว เตรียมเอกสารทำใบขับขี่อย่างไรบ้างนั้น วันนี้เรามีคำตอบดี ๆ มาฝาก

   สำหรับการสมัครเรียนขับรถกับโรงเรียนสอนขับรถนั้น ประการแรกผู้เข้าเรียนต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปตามที่กรมการขนส่งฯ กำหนดไว้ แต่ถ้าเป็นหลักสูตรรถจักรยานยนต์ สามารถสมัครได้ตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยในวันสมัคร ผู้เข้าเรียนต้องเตรียมบัตรประชาชนและรูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 3-4 รูป ซึ่งหากไม่ได้เตรียมมา ส่วนใหญ่แล้วทุกโรงเรียนจะมีบริการถ่ายรูปให้นักเรียนเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแต่ต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติม ส่วนใบรับรองแพทย์นั้น หลาย ๆ โรงเรียนผ่อนผันให้สามารถนำมามอบให้ในวันสอบได้ หรือมีบริการรับส่งนักเรียนพาไปทำใบรับรองแพทย์ที่คลินิก

   เมื่อผ่านการสมัครแล้ว ผู้เรียนต้องผ่านการทดสอบสายตาและสมรรถภาพทางร่างกาย ได้แก่ ทดสอบตาบอดสี , ทดสอบสายตาทางลึก , ทดสอบสายตาทางกว้าง และทดสอบการตอบสนองของเท้า เช่นเดียวกับการสอบที่กรมการขนส่งทางบก หากผ่านการทดสอบ ผู้เรียนทั้งหลักสูตรรถยนต์และรถจักรยานยนต์ต้องเข้าเรียนทั้งสิ้น 15 ชั่วโมง แบ่งเป็นภาคปฏิบัติ 10 ชั่วโมง และภาคทฤษฎี 5 ชั่วโมง ซึ่งในการเรียนภาคปฏิบัติ ผู้เรียนจะเรียนวันละประมาณ 2 ชั่วโมง ดังนั้นจะใช้เวลาประมาณ 5 วัน ในขณะที่การเรียนภาคทฤษฎีจะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงในช่วงเช้า หลังจากนั้นในภาคบ่ายจะเป็นการสอบภาคทฤษฎีผ่านระบบออนไลน์ที่เชื่อมกับระบบของกรมการขนส่งฯ โดยทั้งสองส่วนนี้จะเสร็จสิ้นภายใน 1 วัน อย่างไรก็ตาม บางโรงเรียนอาจจัดสรรการสอบทั้ง 2 ภาค และการอบรมให้เสร็จสิ้นภายในวันเดียว ซึ่งถ้าสอบผ่าน ผู้เรียนจะได้รับใบรับรองการผ่านหลักสูตรเรียนขับรถเพื่อไปขอรับใบขับขี่ที่กรมการขนส่งฯ ได้เลย

   จะเห็นได้ว่าการเรียนขับรถกับโรงเรียนสอบขับรถนั้นมีข้อดีหลายอย่าง ทั้งประหยัดเวลา สามารถควบคุมเวลาเรียน และเลือกเวลาสอบให้เข้ากับการใช้ชีวิตของตัวเอง โดยไม่ต้องลางานหรือลาเรียนให้ลำบากเพื่อไปสอบอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นในการเลือกโรงเรียนควรตรวจสอบว่าเป็นโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งฯ รวมทั้งมีการสอบและอบรมที่โรงเรียน เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้ประหยัดเวลาในการทำใบขับขี่ไปได้มาก

รอยยิ้มคือสิ่งที่บ่งบอกถึงความสุข หน้าตาที่สดชื่นแจ่มใสบ่งบอกถึงความผ่อนคลาย การพักผ่อนที่เต็มอิ่ม Sansiri ขอเชิญชวนคุณและคนที่คุณรัก มาใช้ชีวิตท่ามกลางบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยความสุข จาก บ้าน แสนสิริ พระราม2 ที่จะคอยเติมเต็มรอยยิ้ม สร้างความผ่อนคลายให้ทุกคนอย่างไม่รู้เบื่อกับ 4 โครงการบ้านเดี่ยวต่อไปนี้
1. คณาสิริ พระราม2 โครงการบ้านเดี่ยวที่สวนสาธารณะขนาดใหญ่ถึง 2 ไร่ด้วยกัน ผ่อนคลายทุกอิริยาบถกับบรรยากาศแห่งวันวาน ราวกับได้นั่งไทม์แมชชีนไปยังยุค 70 คลับเฮ้าส์ขนาด 2 ชั้น พื้นที่กว้างขวางพร้อมรองรับการใช้งานของคุณกับสมาชิกทุกครอบครัว มาพบปะสังสรรค์บนพื้นที่แห่งความสุขราวกับบ้านหลังใหญ่ที่เปิดรับทุกคน ไม่ว่าคุณจะนั่งทำงาน นัดพบเพื่อนบ้านก็มีพื้นที่เพียงพอต่อความต้องการ ต้องการออกกำลังกายบนชั้น 2 ของคลับเฮ้าส์ก็มีฟิตเนสที่พร้อมด้วยอุปกรณ์ไว้ครบครัน หรือจะว่ายน้ำท่ามกลางแมกไม้สีเขียวก็มีบริการเช่นกัน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม https://www.sansiri.com/singlehouse/kanasiri-rama2-wongwaen/th/
2. ฮาบิเทีย พาร์ค เทียนทะเล28
มาพักผ่อน ปิกนิกในสวนสาธารณะกว่า 4 ไร่ของ ฮาบิเทีย พาร์ค เทียนทะเล28 โครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่คำนึงถึงการอยู่ร่วมกับธรรมชาติเป็นหลัก พื้นที่ส่วนกลางนอกจากสวนสาธารณะขนาดใหญ่ 2 จุดแล้ว ยังมีคลับเฮ้าส์ชั้นเดียวที่กว้างขวาง สามารถรองรับความต้องการใช้งานของผู้อยู่อาศัยได้อย่างพอเพียง สำหรับผู้ที่รักสุขภาพก็มีฟิตเนสไว้คอยบริการ มีสระว่ายน้ำระบบเกลือแยกสระเด็กและผู้ใหญ่เพื่อความสนุกสนานและความปลอดภัยไปในตัว มีสนามเด็กเล่นเสริมพัฒนาการ หรือจะนั่งทำงาน อ่านหนังสือในพื้นที่ Co-Working ก็มีบริการเช่นกัน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sansiri.com/singlehouse/habitia-park-thainthale28/th/
3.บุราสิริ พระราม2
ซึมซับบรรยากาศรีสอร์ท บนพื้นที่ใจกลางโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บุราสิริ พระราม2 ที่แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ สนามหญ้า กระจายอยู่ทุกพื้นที่ คลับเฮ้าส์ของโครงการได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบและจัดสรรภูมิทัศน์จากป่าชายเลน รับประกันถึงความร่มรื่นและสดชื่น มีพื้นที่สำหรับนั่งทำงาน อ่านหนังสือ พบปะสังสรรค์ มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ฟิตเนสไว้รองรับบริการ อีกทั้ง Jogging Track ท่ามกลางสวนสาธารณะใจกลางโครงการ และธรรมชาติบำบัดด้วยสวนหินนวดฝ่าเท้า
ลงทะเบียนจองได้ที่ https://www.sansiri.com/singlehouse/burasiri-rama2/th/
4. นาราสิริ พระราม2   
สัมผัสบรรยากาศหรูหราแบบตะวันตก ในคลับเฮ้าส์ 2 ชั้น ขนาดใหญ่พื้นที่กว่า 1 ไร่ครึ่ง โดดเด่นหรูหราสง่างาม ปูพื้นด้วยหินอ่อนนำเข้าจากอิตาลี มีบริการห้องสตีมที่เพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยการแยกชาย-หญิง สระว่ายน้ำระบบเกลือแยกสระเด็ก-ผู้ใหญ่ อีกทั้งห้องออกกำลังกายบนชั้น 2 ของอาคาร ที่มาพร้อมอุปกรณ์สุดทันสมัย และเพียงพอต่อการใช้งานของสมาชิกทุกครอบครัว มี Semi-Outdoor ไว้สำหรับพบปะสังสรรค์ พร้อมทั้งทำงานแบบอิสระ รายรอบคลับเฮ้าส์ล้วนตกแต่งด้วยต้นไม้ ไม้พุ่ม พร้อมที่จอดรถสำหรับผู้มาใช้บริการ
สามารถติดต่อขอชมตัวอย่างได้ที่ https://www.sansiri.com/singlehouse/narasiri_rama2/th/
ทุก ๆ วันของคุณและคนที่คุณรักจะสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น หากมีบ้านที่รองรับทุกการใช้งานและการพักผ่อน พร้อมคลับเฮ้าส์ของโครงการที่สวยงามและเติมเต็มไลฟ์สไตล์ในช่วงเวลาของการพักผ่อน