เชื่อว่าใครหลายคนคงเคยสงสัยว่าเราสามารถเก็บไวน์ไว้ในตู้แช่เย็นธรรมดาได้หรือไม่? ซึ่งต้องขอบอกก่อนเลยว่าอุณหภูมิของตู้แช่ไวน์และตู้แช่เย็นธรรมดาย่อมแตกต่างกัน เนื่องจากเราไม่ควรเก็บไวน์ให้เย็นเหมือนเครื่องดื่มอื่น ๆ และไม่ควรเก็บไว้ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 6 องศาเซลเซียส ที่สำคัญเราไม่ควรเก็บไวน์ไว้ในที่ที่มีอากาศร้อนจัด เพราะจะทำให้รสชาติของไวน์เสียได้ ดังนั้นหากใครที่เป็นสายชอบดื่มไวน์ หรือนักสะสมไวน์มืออาชีพก็ควรซื้อตู้แช่ไวน์ไว้ในบ้านสักเครื่อง เพื่อให้คุณได้รับรสชาติของไวน์ที่ดีได้อย่างลงตัว ซึ่งในปัจจุบันตู้แช่ไวน์นั้นมีหลายประเภทและยี่ห้อ อีกทั้งยังมีหลายเกรด และหลายขนาด วันนี้เราเลยอยากมาแนะนำวิธีการเก็บรักษาไวน์ด้วยตู้แช่ไวน์ Haier ซึ่งจะมีข้อควรรู้อะไรบ้าง ตามไปดูกัน


รักษาอุณหภูมิไวน์ให้ถูกต้อง

อย่างที่ได้เกริ่นไปข้างต้นว่าการเก็บไวน์ไว้ในอุณหภูมิที่ถูกต้องเป็นเรื่องสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม และเป็นสิ่งที่ต้องรู้ไว้ ซึ่งอุณหภูมิในการเก็บที่เราแนะนำเลยก็คือ การเก็บรักษาไว้ในอุณหภูมิระหว่าง 10-12 องศาเซลเซียส เนื่องจากเป็นระดับอุณหภูมิที่ดีต่อไวน์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ไวน์แดง หรือไวน์ขาวก็ตาม หากเป็นไวน์ขาวอุณหภูมิในการเก็บรักษาที่ดีที่สุดคือ 6-12 องศาเซลเซียส ส่วนไวน์แดงจะอยู่ที่ประมาณ 14-16 องศาเซลเซียส โดยระดับอุณหภูมิจะต้องคงที่ตามองศาที่แนะนำข้างต้นถึงจะทำให้รสชาติของไวน์ดี

ความชื้นสัมพัทธ์ก็มีส่วน

ไม่ว่าคุณจะเก็บไวน์ในตู้แช่ไวน์ Haier หรือยี่ห้อไหนก็ตาม ความชื้นสัมพัทธ์ก็มีส่วนส่งผลต่อรสชาติของไวน์ได้เช่นกัน เพราะถ้าความชื้นสัมพัทธ์ไม่เหมาะสม ก็อาจทำให้อากาศภายนอกเข้าไปทำลายรสชาติของไวน์ได้ นอกจากนี้ความชื้นสัมพัทธ์ยังมีผลต่อจุกคอร์กที่ปิดขวดไวน์ด้วย หากมีความชื้นต่ำกว่า 50-70% ก็อาจทำให้จุกคอร์กแห้งกรอบ และหดตัวได้ ซึ่งก็อาจทำให้ยากต่อการเปิดขวดไวน์เมื่อต้องการนำมาดื่มนั่นเอง
การจัดเรียงไวน์

หลายคนอาจไม่ทราบว่าการจัดเรียงไวน์นั้นต้องทำให้ถูกวิธีด้วย ซึ่งการจัดเรียงที่ดีต้องวางขวดในแนวนอนไม่ว่าคุณจะใช้ตู้แช่ไวน์ Haier หรือยี่ห้อไหนก็ตาม เพื่อให้น้ำไวน์ได้สัมผัสกับจุกคอร์ก และคงความชุ่มชื้นในสภาพเดิมอยู่เสมอ ที่สำคัญเราต้องเอาปากขวดหันไปด้านใน และหันก้นออกมาด้านนอก เพื่อให้ง่ายต่อการหยิบ เนื่องจากการสั่นสะเทือนหรือการขยับเขยื้อนมาก ๆ ก็อาจจะส่งผลต่อคุณภาพของไวน์ หรือทำให้เกิดการเสื่อมสภาพ และทำให้ไวน์เสียได้
ทั้งหมดนี้ก็เป็นปัจจัยสำคัญของการเก็บรักษาสภาพไวน์ของคุณให้เหมาะสมแก่การดื่มมากที่สุด จะเห็นได้ว่ามีข้อควรรู้มากมายที่หลายคนอาจคาดไม่ถึงว่ามันสามารถส่งผลต่อคุณภาพของรสชาติไวน์ได้ ดังนั้นแล้วก่อนจะซื้อไวน์มาดื่มสักขวดก็ควรศึกษาการคงสภาพของไวน์ให้ถูกวิธี และควรเลือกซื้อตู้แช่ไวน์ Haier หรือยี่ห้ออื่น ๆ ที่เหมาะสม เพื่อให้การดื่มไวน์ของคุณแต่ละครั้งลงตัวมากที่สุด
 
 

   การเปิดบริษัทใหม่เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่ต้องมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก โดยเฉพาะบริษัท Start-Up ที่ต้องลงทุนไปกับค่าใช้จ่ายมากมาย ทั้งสถานที่ พนักงานที่มีความรู้ความสามารถ และอุปกรณ์การใช้งานต่าง ๆ ที่สำคัญ โดยเฉพาะเรื่องของซอฟต์แวร์ที่ต้องใช้เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แต่ในปัจจุบันก็มีบริการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่จะเข้ามาช่วยในส่วนนี้ ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงข้อดีของการใช้บริการเหล่านี้ ว่ามีประโยชน์ต่อบริษัทยุคใหม่อย่างไรบ้าง


บริการติดตั้งซอฟต์แวร์ คืออะไร?

   บริการติดตั้งซอฟต์แวร์ก็เหมือนกับบริการรูปแบบอื่น ๆ นั่นก็คือการที่มีบริษัทผู้เชี่ยวชาญในด้าน IT และซอฟต์แวร์เข้ามาทำการติดตั้งและดูแลระบบซอฟต์แวร์ให้กับบริษัทแบบครบทุกขั้นตอน ช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้เป็นอย่างดี มาดูกันข้อดีของการใช้บริการนี้กันเลย

ข้อดีของการใช้บริการติดตั้งซอฟต์แวร์

1. ง่ายต่อการควบคุมงบประมาณ

   โดยปกติแล้วหากบริษัทลงทุนจัดหาซอฟต์แวร์ด้วยตัวเอง แม้บางครั้งอาจจะดูเหมือนว่าได้มีโอกาสเลือกซอฟต์แวร์ที่ถูก แต่แน่ใจไหมว่าซอฟต์แวร์เหล่านั้นมีประสิทธิภาพและไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง เพราะส่วนใหญ่แล้วก็มักจะตามมาด้วยค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจำนวนมากที่ต้องเสีย ซึ่งสุดท้ายแล้วก็กลายเป็นค่าใช้จ่ายที่บานปลาย แต่การใช้บริการติดตั้งซอฟต์แวร์จากบริษัทผู้เชี่ยวชาญ ก็จะช่วยให้การคุมงบประมาณเป็นเรื่องง่าย เพราะเป็นการจ่ายไปยังแหล่งเดียว ไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติม

2. มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลให้

   ในยามที่เกิดปัญหาเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ เช่น ระบบขัดข้อง หรือต้องทำการอัปเกรด หากต้องทำด้วยตัวเองก็ดูจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและเสียเวลา แต่หากบริษัทยุคใหม่เลือกใช้บริการติดตั้งซอฟต์แวร์ ก็จะมั่นใจได้เลยว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญที่คอยทำหน้าที่ดูแล ตรวจสอบ และคอยอัปเกรดซอฟต์แวร์ให้ทันสมัย เหมาะกับการทำงานอยู่เสมออย่างแน่นอน

3. ประหยัดงบประมาณในการจ้าง IT

   ในการดูแลซอฟต์แวร์นั้นบางครั้งอาจต้องใช้เจ้าหน้าที่ IT จำนวนมาก ทำให้บริษัทต้องลงทุนไปกับการจ้างพนักงานเพิ่มเติมโดยที่อาจไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น ดังนั้นการที่บริษัทเลือกใช้บริการติดตั้งซอฟต์แวร์ ก็จะช่วยให้ประหยัดงบประมาณส่วนนี้ไปได้มากทีเดียว

4. ได้ซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพ

   เมื่อใช้บริการติดตั้งซอฟต์แวร์ ผู้เชี่ยวชาญก็จะคอยวางแผนและแนะนำซอฟต์แวร์ที่เหมาะกับความต้องการและรูปแบบการทำงานของบริษัท ดังนั้นบริษัทจะได้ใช้งานซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ทำงานได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

   และนี่ก็คือข้อดีของการใช้บริการติดตั้งซอฟต์แวร์ซึ่งบอกได้เลยว่าเหมาะกับบริษัทยุคใหม่อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานหรือบริษัท Start-Up ที่ต้องการควบคุมงบประมาณแต่ก็อยากจะได้ซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพก็สามารถเลือกใช้บริการได้เช่นเดียวกัน

    รูปแบบการใช้ชีวิตของหลายๆ คนอาจแตกต่างกัน บางคนชอบใช้เวลาว่างไปกับการปลูกต้นไม้ และแต่งสวนหลังบ้าน บางคนชอบปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในบ้านให้อินเทรนด์อยู่ตลอดเวลา หรือบางคนชอบที่จะอ่านหนังสือในบรรยากาศที่ผ่านคลาย แต่สำหรับกิจกรรมอย่างการอ่านหนังสือนั้น การหาองค์ประกอบที่ช่วยให้อ่านหนังสือได้อย่างราบรื่น คงต้องมีการหาซื้อโคมไฟอ่านหนังสือเพื่อช่วยความลงตัวให้กับการอ่านด้วย เพราะโคมไฟที่ดีนั้น นอกจากจะช่วยส่องสว่างในยามค่ำคืนได้แล้ว ยังจะต้องช่วยถนอมสายตาในการอ่านหนังสือด้วย
    หากใครที่กำลังอยากรู้ทริกการเลือกซื้อโคมไฟอ่านหนังสือให้ตอบโจทย์กับกิจกรรมมากที่สุด วันนี้เรานำข้อมูลดีๆ ที่คุณสามารถนำไปรับใช้มาฝากกัน


1. เลือกที่แสงไม่สว่างจนเกินไป
    สำหรับการเลือกซื้อโคมไฟอ่านหนังสือที่เหมาะสมนั้น ควรเลือกโคมไฟที่ไม่สว่างจนเกินไป เพราะแสงที่สว่างมากไปอาจจะส่งผลให้สายตาต้องทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้เกิดการแสบตาได้ และอาจสร้างปัญหาอื่นๆ ตามมา รวมถึงไม่ควรเลือกโคมไฟที่ให้แสงสว่างน้อย ก็จะทำให้ต้องเพ่งในการอ่านมากกว่าปกติ โดยผู้ที่สนใจซื้อโคมไฟอ่านหนังสือมาใช้งาน สามารถเลือกรูปแบบที่สามารถปรับระดับความสว่างของไฟได้ก็จะคุ้มค่า เพราะนอกจากจะสามารถใช้อ่านหนังสือแล้ว ยังใช้ในการให้ความสว่างในด้านอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกด้วย

2. เลือกหลอดไฟสำหรับอ่านหนังสือโดยเฉพาะ
     รูปแบบของหลอดไฟที่เหมาะกับการใช้อ่านหนังสือนั้น จะเป็นหลอดอินแคนเดสเซนต์ หรือจะเลือกเป็นแบบหลอด LED ที่ช่วยประหยัดไฟก็ได้ เพราะในการใช้งานแสงที่ได้จะไม่ตกสะท้อนกระดาษและกระทบเข้าตาได้อย่างพอดี รวมถึงไม่เกิดเงาขณะใช้เพื่อเขียนหรืออ่านหนังสือ ซึ่งเมื่อเลือกซื้อโคมไฟอ่านหนังสือที่เหมาะสมได้แล้ว การจัดพื้นให้เหมาะสมสำหรับการอ่านหนังสือก็ต้องคำนึงถึงเช่นกัน ลองเลือกมุมสักมุมภายในบ้าน หรือจะเป็นห้องนอนก็ได้ โดยจัดโต๊ะที่ไม่ควรดูรกจนเกินไป เพราะว่าไม่เป็นระเบียบของโต๊ะทำงานอาจทำให้เราไม่มีสมาธิ หรือใครชอบอ่านหนังสือบนเตียงนอน ก็สามารถเลือกโคมไฟที่ให้แสงสว่างที่พอดีเพื่อให้เหมาะกับการอ่านหนังสือได้

3. เลือกจากฟังก์ชันการใช้งานและดีไซน์
    นอกจากเรื่องของแสงสว่างที่ต้องเลือกให้สบายตากับการอ่านหนังสือมากที่สุดแล้ว เรื่องของดีไซน์และรูปแบบฟังก์ชันของโคมไฟก็ต้องเลือกที่ตรงใจคุณด้วย ยิ่งในปัจจุบันมีดีไซน์การออกแบบโคมไฟให้เลือกซื้อมากมาย ทั้งในแบบระบบสัมผัสที่ออกแบบให้มีความบางเฉียบ หรือจะเลือกเป็นแบบที่สามารถปรับระดับได้เพียงแค่แตะสัมผัสเท่านั้น ยิ่งถ้าใครที่เป็นตัวจริงเรื่องการแต่งบ้านที่ต้องการซื้อโคมไฟอ่านหนังสือที่สามารถเข้ากับรูปแบบการตกแต่งของห้องบอกเลยว่าในท้องตลาดมีให้เลือกซื้ออย่างจุใจทีเดียว

สำหรับสาวๆ หรือหนุ่มๆ สายแฟที่อยู่ในแวดวงแฟชั่นก็น่าจะทราบกันอยู่แล้วเป็นอย่างดีว่าหนึ่งใน Fashion Item ยอดฮิตที่ได้รับความนิยมตลอดกาล รวมไปถึงไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย แฟชั่นไอเท็มนี้ก็จะยังคงมีการอัปเดตไปเรื่อยๆ นั่นก็คือ 'กระเป๋าแบรนด์เนมติดเทรนด์' เพื่อเป็นการอัปเดตเทรนด์ให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา บทความนี้มีกระเป๋าแบรนด์เนมติดเทรนด์ในช่วงครึ่งปีแรกของ 2022 มาอัปเดตให้ชมกันแบบคร่าวๆ จะมีแบรนด์ไหนเข้าตากรรมการบ้าง มีแบรนด์ที่คุณเล็งๆ ไว้หรือเปล่า ตามมาดูกันเลย


Prada Re-Edition
ว่าด้วยกระเป๋าแบรนด์เนมติดเทรนด์ใบแรก กับ Prada รุ่น Re-Edition กระเป๋าวินเทจที่เคยวางจำหน่ายมาแล้วในปี 2005 กับรูปลักษณ์ที่เป็น Signature คือสีดำสุดคลาสิก แต่เมื่อทาง Prada นำกลับมาผลิตและวางจำหน่ายอีกครั้งในปี 2020 ทางแบรนด์ก็ได้มีการเติมรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น สายสะพายที่เป็นหนัง เพิ่มลูกเล่นด้วยสายคล้องไหล่ที่เป็นโลหะ สามารถถอดเก็บได้ อีกทั้งยังเพิ่มไลน์มาอีก 7 สีสันสดใสให้สาวๆ ได้เลือกกันตามใจชอบ เรียกได้ว่าเป็นการนำกลับมา Re-Edit อย่างดีเยี่ยม เป็นจุดเริ่มต้นของกระเป๋าทรงวินเทจในอีกหลายๆ แบรนด์ด้วยกัน


Celine Teen Triomphe
มาที่อีกหนึ่งกระเป๋าแบรนด์เนมติดเทรนด์ทรงวินเทจที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักไม่แพ้กัน กับ Celine Teen Triomphe กระเป๋าที่มีวัสดุการผลิตทำมาจากหนังลูกวัว จุดเด่นคือมีลักษณะมันเงา ฮาร์ดแวร์ Triomphe ที่มีความคงทนแข็งแรง สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบสะพายไหล่สายสั้น หรือ Cross Body สายยาว นอกจากสีดำที่เป็นสี Signature แล้ว Celine รุ่นนี้ก็ยังมีอีกหลากหลายสีให้ได้เลือกเช่นกัน สมกับเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมติดเทรนด์ที่ได้รับความนิยมในวงการแฟชั่นอีกใบหนึ่งเลยก็ว่าได้


Gucci 1955
หากจะมองหากระเป๋าแบรนด์เนมติดเทรนด์ดีๆ สักใบมาใช้แบบ Everyday look นั้น แบรนด์ Gucci ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าสนใจและได้รับความนิยม กับรุ่นปี 1955 ที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับความนิยมเมื่อ 60 ปีที่แล้ว สำหรับลักษณะภาพรวมของกระเป๋าคือจะเป็นลักษณะใบกึ่งแข็ง ฮาร์ดแวร์เป็นแบบ Hoursebit สามารถเลือกได้ทั้งแบบสะพายไหล่หรือแบบ Bucket Bag มีหนังให้เลือกมากสุดถึง 9 แบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นหนังงูหรือหนังปกติ


สรุปให้ฟังกันแบบคร่าวๆ สำหรับลิสต์กระเป๋าแบรนด์เนมติดเทรนด์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 มีทั้งกระเป๋าหนัง กระเป๋าผ้าไนลอน สายสะพายสั้นขึ้นไหล่ ตลอดไปจนถึงสายสะพายยาวแบบ Cross body บอกเลยว่าหนึ่งใน 3 ใบที่รีวิวไปในข้างต้น ไม่ว่าจะเลือกใบไหนติดตู้ไว้ก็ตามแต่ก็จะยังคงเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมติดเทรนด์ที่ยังคงไว้ซึ่งความคลาสิกอยู่ ในอีก 5-10 ปีข้างหน้านำกลับมาถือก็ยังไม่สายเกินไป ลงทุนครั้งเดียวใช้ไปได้แบบยาวๆ อย่างแน่นอน

สำหรับองค์กรที่เริ่มขยายใหญ่ และขยายตลาดออกสู่ต่างประเทศ อาจจะเคยได้ยินมีคนแนะนำเกี่ยวกับข้อกำหนด ISO 9001 ซึ่งเป็นมาตรฐานควบคุมคุณภาพขององค์กรที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกันว่าข้อกำหนด ISO 9001 คืออะไร และมีประโยชน์อะไรกับองค์กรของเราบ้าง และช่วยทำให้กิจการของเราเติบโตขึ้นได้อย่างไร


ข้อกำหนด ISO 9001 คืออะไร
   ข้อกำหนด ISO 9001 เป็นมาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพ (QMS) ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นมาตรฐานในการจัดการคุณภาพขององค์กร ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก และเป็นการันตีว่าองค์กรที่ได้รับมาตรฐานดังกล่าวมีประสิทธิภาพและการจัดการที่ดี

หลักการบริหารคุณภาพตามข้อกำหนด ISO 9001 มีอะไรบ้าง
1. ให้ความสำคัญกับลูกค้า โดยมุ่งเน้นไปที่การบริหารงานที่สร้างความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพของสินค้าหรือบริการ
2. ความเป็นผู้นำ โดยผู้บริหารหรือผู้นำระดับสูงต้องมีความรับผิดชอบและมุ่งมั่นในการบริหารคุณภาพให้ได้ประสิทธิผลตามที่ต้องการ
3. การมีส่วนร่วมของบุคลากร บุคลากรในองค์กรมีส่วนร่วมในการเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพในการทำงาน
4. การบริการเชิงกระบวนการ มีการจัดการกระบวนการขององค์กรให้เป็นระบบ และมีคุณภาพ
5. การบริหารที่เป็นระบบ มีวัตถุประสงค์และมีทิศทางกลยุทธ์ที่เพียงพอ
6. การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดอยู่กับที่
7. การตัดสินใจบนพื้นฐานความเป็นจริง โดยมีข้อมูลเป็นสิ่งรองรับการตัดสินใจ
8. ความสัมพันธ์กับผู้ขาย เพื่อสร้างประโยชน์ร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวทางให้มีประสิทธิภาพสูงสุด 

ประโยชน์ของข้อกำหนด ISO 9001
   เมื่อเราผ่านมาตรฐาน ISO 9001 เราจะได้รับประโยชน์มากมายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีประสิทธิภาพ และสามารถควบคุมคุณภาพในการบริหารงาน และได้รับความเชื่อถือในวงกว้าง นับได้ว่าเป็นคู่แข่งที่มีความแข็งแกร่ง และสามารถแข่งขันได้ทั่วโลก
นอกจากนี้การปฏิบัติตามข้อกำหนด ISO 9001 จะช่วยให้คุณประหยัดเงินและทรัพยากรที่มีอยู่มาก ซึ่งจะทำให้เราเห็นว่าตรงไหนที่มีรูรั่ว หรือช่องโหว่ทางการบริหาร หรือทำให้เราฟุ่มเฟือยโดยใช่เหตุ
   นอกจากนี้การจัดการที่มีคุณภาพที่ดี จะช่วยให้เราสามารถลดอัตราการตีกลับของสินค้าที่ขาดคุณภาพ หรือหลุด QC ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเห็นข้อเสียที่ควรปรับปรุง การลดข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตและกระบวนการทำงานเป็นทางหนึ่งในการช่วยลดต้นทุน และช่วยเพิ่มผลกำไรขององค์กรให้เพิ่มมากขึ้น
   

ข้อกำหนด ISO 9001 เป็นข้อกำหนดที่เป็นมาตรฐานที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ไม่ว่าเราจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม หรือองค์กรแบบใด การได้รับ ISO 9001 ก็จะเป็นการการันตีได้ว่า องค์กรของเรามีคุณภาพ และบริหารด้วยความใส่ใจ และน่าเชื่อถือ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้องค์กรของเราสามารถโลดแล่นในตลาดโลกได้ไกลยิ่งขึ้น

ทุกวันนี้เราต่างรู้ว่าประกันชีวิตนั้นมีความสำคัญ เพราะเป็นหลักประกันให้กับคนที่อยู่ข้างหลัง แต่ทุกวันนี้มีประกันชีวิตหลายแบบหลายแผน มาจากหลายบริษัท ครั้นจะเลือกทำหลายแผนก็กลัวว่าจะซ้ำซ้อนหรือไม่ หรือเราควรจะเลือกเจ้าใดเจ้าหนึ่งไปเลย ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องมีที่ปรึกษาเลือกประกันชีวิต เพื่อที่จะช่วยเราสามารถวางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพ


สิ่งที่ต้องรู้ก่อนซื้อประกันชีวิต
   ตามปกติแล้วการทำประกันชีวิตในแต่ละครั้งเราจะต้องพิจารณาในเรื่องของความคุ้มครอง ประเภทของประกันชีวิตที่ทำ เงื่อนไขการคุ้มครอง เบี้ยประกัน และวงเงินประกันชีวิต ซึ่งเราควรเปรียบเทียบและพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยอย่าลืมที่จะพิจารณาช่วงอายุที่ทำประกันชีวิตร่วมด้วย ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ เหล่านี้น้อยคนมากที่จะนั่งอ่านด้วยความรอบคอบ ส่วนใหญ่เราจะฟังตัวแทนประกันชีวิตแจกแจงให้เราฟังนั่นเอง ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงเลือกที่จะใช้บริการที่ปรึกษาทางการเงินในการเลือกประกันชีวิตที่ใช่สำหรับเราและครอบครัว

ทำไมเราต้องมีที่ปรึกษาเลือกประกันชีวิต
   สาเหตุสำคัญที่เราควรใช้บริการที่ปรึกษาเลือกประกันชีวิตให้กับเราและครอบครัวมีดังต่อไปนี้
มีผู้ช่วยในการเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับเราจริง ๆ
   อย่างที่บอกไปข้างต้นแล้วว่า ปัจจุบันมีแผนประกันชีวิตจากหลากหลายบริษัทมากมายให้เราเลือก และแม้แต่ประกันชีวิตก็มีจำนวนมากมายหลากหลายแบบ บางครั้งเราจึงไม่มีเวลาพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบ ครั้นฟังจากตัวแทน ตัวแทนก็ย่อมจะอวยแต่บริษัทที่ตัวเองขายอยู่ ด้วยเหตุนี้ การที่เราใช้บริการที่ปรึกษาในการเลือกประกันชีวิตจึงเป็นอีกทางลัดหนึ่งที่ช่วยให้เราสามารถเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับเราจริง ๆ นั่นเอง

ได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่า
   แม้ว่าจะเป็นแผนประกันชีวิตเดียวกัน แต่ต่างบริษัทกัน ก็อาจจะมีทุนประกันที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น บริการที่ปรึกษาในการเลือกประกันชีวิตจะช่วยให้เราซื้อประกันได้ในราคาที่คุ้มค่าที่สุดนั่นเอง

สามารถพ่วงการวางแผนด้านการเงินได้
   อย่างที่เราทราบว่า เราควรจะมีเป้าหมายและมีการวางแผนทางการเงินอย่างรอบคอบ เพื่อเป็นอิสระทางด้านการเงิน ซึ่งการทำประกันก็เป็นการวางแผนทางการเงินแบบหนึ่ง ที่ปิดรูรั่วทางการเงินอย่างรอบคอบ แต่อย่างไรก็ตาม หากว่าเราไม่มีความเชี่ยวชาญในด้านดังกล่าว การใช้ที่ปรึกษาทางด้านการเงินที่เป็นทั้งที่ปรึกษาในการเลือกประกันชีวิต ประกันสุขภาพ รวมถึงช่วยวางแผนด้านการลงทุนและแผนทางการเงินต่าง ๆ จะเป็นตัวช่วยและเป็นทางลัดให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้โดยง่าย

ใครที่กำลังตัดสินใจจะทำประกันชีวิต แต่ยังเลือกไม่ได้ และไม่แน่ใจว่าจะเลือกแผนไหนดี ลองใช้บริการที่ปรึกษาในการเลือกประกันชีวิต รับรองว่าได้แผนที่เหมาะสมกับตัวเราอย่างแน่นอน
   

เติมเต็มช่องว่างในปากด้วยฟันปลอม ตัวช่วยให้คุณสามารถเผยรอยยิ้มได้อย่างมั่นใจ ใช้บดเคี้ยวอาหาร และพยุงริมฝีปากไม่ให้หย่อนคล้อย แต่ฟันปลอมเองก็มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งฟันปลอมแบบถอดได้ และฟันปลอมแบบติดแน่น มาดูกันดีกว่าฟันปลอมแต่ละแบบจะมีความแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนถึงจะเหมาะกับช่องปากของคุณ



ฟันปลอม คืออะไร

ฟันปลอมแบบติดแน่น สะพานฟัน หรือฟันปลอมแบบไหน ๆ ต่างก็ถูกจัดทำขึ้นมาเพื่อใช้ทางทันตกรรม เพื่อแก้ปัญหาการสูญเสียฟัน ทั้งไม่ว่าจากการถอนเนื่องในสาเหตุฟันผุ ฟันโยก ฟันหลุดจากอาหารเหงือกอักเสบ หรือแม้แต่ฟันแตก ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการใส่ฟันปลอม

ทั้งนี้การใส่ฟันปลอมจะใส่ฟันปลอมรูปแบบต่าง ๆ จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาในการรับประทานอาหารให้สามารถบดเคี้ยวได้อย่างปกติ รวมถึงช่วยเรื่องการออกเสียง ให้สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยให้ริมฝีปากดูไม่หย่อนคล้อย เพราะมีฟันปลอมช่วยพยุงเอาไว้นั่นเอง

ชนิดของฟันปลอม

ฟันปลอมสามารถแบ่งออกได้ตามลักษณะทั้งหมด 2 ชนิด คือฟันปลอมแบบถอดได้ และฟันปลอมแบบติดแน่น

ฟันปลอมแบบถอดได้
ฟันปลอมชนิดถอดได้ เป็นฟันปลอมที่เหมาะกับผู้ที่ยังมีฟันตามธรรมชาติหลงเหลืออยู่ในปาก เพราะเป็นการใส่ฟันทดแทนเพียงบางส่วน ทำให้สามารถอดออกมาล้างและทำความสะอาดได้อย่างหมดจด โดยทั่วไปจะสามารถแบ่งเป็นชนิดตามวัสดุได้อีกย่อย ๆ เช่น ฟันปลอมฐานพลาสติก ฟันปลอมโครงเหล็ก เป็นต้น

ฟันปลอมแบบติดแน่น
ฟันปลอมแบบติดแน่น คือฟันปลอมถาวร ทำหน้าที่เป็นสะพานฟัน อาศัยฟันธรรมชาติที่อยู่ข้างเคียงกับช่องว่างฟันขนาดใหญ่ให้เป็นหลัก ช่วยยึดฟันปลอมเอาไว้ให้คงทน แน่นอนว่าฟันปลอมชนิดนี้จะไม่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ ทำให้วิธีดูแลรักษาจะใช้วิธีเดียวกับการทำความสะอาดทั่วไปในช่องปาก

ชนิดของฟันปลอมแบบติดแน่น

ปัจจุบันฟันปลอมติดแน่นจะมีวิธีทำอยู่ทั้ง 2 แบบ นั่นคือฟันปลอมที่ติดแน่นไปกับสะพานฟัน และฟันปลอมแบบยึดกับรากเทียม

ฟันปลอมติดแน่นด้วยสะพานฟัน
สะพานฟัน เป็นวิธีการนำฟันปลอมมาเกี่ยวยึดกับฟันธรรมชาติซี่ข้างเคียงกันช่องว่างที่ฟันหายไป เพื่อใช้ทดแทนช่องว่างระหว่างฟัน ให้ยึดติด และเป็นหลักให้ฟันสามารถใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ ลักษณะคล้ายกับสะพานเชื่อมระหว่างฟัน

ฟันปลอมติดแน่นด้วยรากฟันเทียม
รากฟันเทียมเป็นอีกหนึ่งวิธีทางทันตกรรมที่นิยมใช้งานกันเป็นอย่างมาก โดยจะทำการปลูกฟันเทียมด้วยการฝังราก เพื่อทดแทนในส่วนของฟันที่สูญเสียไป โดยรากเทียมจะเป็นรากไททาเนียม โดยจะทำการฝังลงไปในกระดูกขากรรไกร เพื่อยึดติดกับตัวฟันที่ทำจากเรซิ่น ให้สามารถใช้งานได้ราวกับเป็นฟันธรรมชาติ

     ถึงแม้ว่าในปัจจุบันหัวหินจะมีหลากหลายโรงแรมที่เป็นธุรกิจของทั้งคนไทยและต่างชาติเข้าไปลงทุนอยู่จำนวนมาก แต่ก็มีอีกหลายๆ คนที่ไม่ค่อยนิยมไปนอนพักในโรงแรมสักเท่าไหร่ หากคิดที่จะมาท่องเที่ยวในเมืองที่มีเอกลักษณ์แห่งนี้ แต่กลับเลือกที่จะเช่าคอนโดหัวหินใกล้หาด หรือยอมลงทุนซื้อคอนโดหรือบ้านเอาไว้สักหลัง เพื่อทำให้การพักผ่อนในแต่ละครั้งที่มามีความสะดวกสูงสุด
    แต่หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า ทำไมคนเหล่านั้นถึงเลือกที่จะซื้อคอนโดหัวหินใกล้หาดในราคาแพง แต่ไม่ยอมเลือกที่จะเข้าพักในโรงแรมกับราคาคืนละไม่เท่าไหร่ สิ่งเหล่านี้อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังสงสัยอยู่ก็เป็นได้


1. คนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว ที่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า
    หนึ่งในหลายๆ เหตุผลที่คนส่วนใหญ่เลือกซื้อคอนโดหัวหินใกล้หาดเอาไว้ นอกเหนือจากการอยู่อาศัยในระยะยาวก็คือ การซื้อเอาไว้เพื่อลงทุนในระยะยาว เพราะอย่างที่เรารู้กันดีกว่า เมืองอย่างหัวหิน เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ที่ไม่ว่านักท่องเที่ยวชาวไทยหรือชาวต่างชาติก็ตาม ต่างแวะมาเยือนเมืองแห่งนี้ไม่ขาดสาย ซึ่งการเลือกที่จะลงทุนซื้อคอนโดหัวหินใกล้หาดเอาไว้ นอกจากจะสามารถใช้พักอาศัยเมื่อแวะมาเที่ยวเมืองแห่งนี้ คุณยังสามารถปล่อยให้เช่า หรืออาจต่อยอดด้วยการขายต่อ หากในช่วงเวลานั้นๆ คอนโดที่คุณซื้อมาสามารถขายได้ในราคาดี ก็จะสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อการลงทุนมากทีเดียว

2. คนที่มองเห็นถึงความโดดเด่นในเรื่องของทำเล
    อย่างที่ได้กล่าวเอาไว้ ว่าเมืองอย่างหัวหินนั้นเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ การซื้อคอนโดหิวหินใกล้หาดเอาไว้ นอกจากจะสามารถนำไปต่อยอดได้แล้ว ในเรื่องของความเจริญของเมืองและชื่อเสียงที่ดีของหัวหิน ยังเป็นตัวกระตุ้นให้เมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจที่ดีในลำดับต้นๆ ของประเทศในด้านการท่องเที่ยว ซึ่งทำให้ทุกความเจริญต่างมุ่งมาที่เมืองแห่งนี้ จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมหลายๆ คนถึงเลือกที่จะย้ายมาอยู่อาศัยหรือมาทำงานที่เมืองแห่งนี้

3. มีคอนโดให้เลือกซื้อในหลายระดับราคา
    นอกจากจะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่หลายๆ คนชื่นชอบแล้ว ในเรื่องของตลาดอสังหาริมทรัพย์ เมืองหัวหินยังขึ้นชื่อว่ามีคอนโดและหมู่บ้านดีๆ ให้เลือกซื้อในหลายระดับราคา อีกทั้งยังมาพร้อมกับคุณภาพ ทั้งในด้านของการก่อสร้าง ดีไซน์ และการบริหารจัดการ สำหรับผู้ที่สนใจไม่ว่าจะต้องการย้ายมาอยู่อาศัยที่เมืองแห่งนี้แบบถาวร หรือแค่ต้องการซื้อคอนโดหัวหินใกล้หาดเอาไว้สำหรับการพักผ่อนในวันหยุดยาว บอกได้เลยว่า คุณจะมีหลากหลายที่อยู่อาศัยให้ได้เลือกซื้อตามความต้องการ

   วิตามินเม็ดฟู่ Boomdnax เป็นอาหารเสริมที่เหมาะกับคนที่ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีคุณสมบัติในการช่วยชะลอวัย โดยมีสารสกัดจากธรรมชาติ 2 ตัวสำคัญ ได้แก่ สารสกัดจากแอสทรากาลัส และสารสกัดจากเมล็ดองุ่นและไวน์แดง โดยสารสกัดทั้งสองตัวนี้ มีประโยชน์ต่อร่างกายดังต่อไปนี้


สารสกัดจากแอสทรากาลัส
   สารสกัดจากแอสทรากาลัส หรืออึ้งคี้ ในวิตามินเม็ดฟู่ Boomdnax เป็นสมุนไพรจีนที่ใช้กันมานานนับพันปี มีสรรพคุณในการช่วยบำรุงร่างกายหลากหลายรูปแบบ ทั้งช่วยบำรุงกำลังวังชา บรรเทาอาการภูมิแพ้ ช่วยในเรื่องความดันโลหอตสูง เบาหวาน ไต รวมถึงการช่วยในการต้านไวรัสและแบคทีเรียต่าง ๆ 
เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการวิจัยในฝั่งตะวันตกที่พบว่า เป็นสมุนไพรที่ช่วยในเรื่องของการชะลอวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ การชะลอวัยนี้ ไม่ได้หมายถึงการผิวที่เต่งตึง กระชับ และมีสุขภาพดี แต่หมายถึงการช่วยในร่างกายแข็งแรง ปราศจากความเสื่อมของอวัยวะ ทั้งภายนอก และภายใน และที่สำคัญยังช่วยชะลอความเสื่อมและเพิ่มความยาวของเทโลเมียร์ หัวใจสำคัญของการชะลอวัยนี้เอง

หลายคนอาจจะสงสัยว่า เทโลเมียร์ คืออะไร
เทโลเมียร์คือปลอกที่หุ้มปลายสายของ DNA ที่มีการค้นพบว่ามีความเกี่ยวพันกับอายุขัยของสิ่งมีชีวิต และเทโลเมียร์ยิ่งหดสั้นมากเท่าไร ร่างกายก็จะยิ่งแก่ลงเท่านั้น การชะลอการหดสั้นและเพิ่มความยาวของเทโลเมียร์จึงเป็นหัวใจของการชะลอวัยอย่างแท้จริง

วิตามินเม็ดฟู่ Boomdnax จึงได้นำเอาสารสกัดจากแอสทรากาลัสมาใส่เป็นองค์ประกอบหลัก เพื่อเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง และชะลอความเสื่อมของเทโลเมียร์นั่นเอง

สารสกัดจากไวน์แดงและองุ่น
สารสกัดอีกตัวหนึ่งที่สำคัญในวิตามินเม็ดฟู่ Boomdnax ก็คือ สารสกัดจากไวน์แดงและองุ่น ที่ช่วยในเรื่องของการชะลอวัยได้เป็นอย่างดี
เราทุกคนต่างได้ยินเรื่องของไวน์แดงของชาวฝรั่งเศสที่จิบเพื่อสุขภาพ และช่วยในเรื่องของระบบประสาทและสมองกันมาบ้าง ซึ่งการรับประทานองุ่นและไวน์แดงถือเป็นเคล็ดลับชะลอวัยที่สำคัญของชางฝรั่งเศส ที่ช่วยเพิ่มความเปล่งปลั่ง กระจ่างใสให้กับผิว และยังช่วยป้องกันโรคหัวใจของชาวฝรั่งเศสอีกด้วย
สาเหตุที่วิตามินเม็ดฟู่ Boomdnax เลือกเอาสารสกัดจากไวน์แดงและองุ่นมาเป็นส่วนผสมหลัก เนื่องจากมีผลงานวิจัยรองรับว่าสามารถชะลอวัยได้จริง มีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูงมาก และช่วยป้องกันโรคหัวใจ ป้องกันความเสื่อมของสมองอย่างได้ผลจริง

วิตามินเม็ดฟู่ Boomdnax เป็นอาหารเสริมที่ช่วยในเรื่องชะลอวัย ที่ไม่ใช่แค่ผิวพรรณเปล่งปลั่งและไม่มีริ้วรอย แต่ยังช่วยเรื่องของสุขภาพ เป็นอาหารเสริมที่ช่วยชะลอวัยทั้งระบบ และช่วยยืดอายุความเป็นหนุ่มสาวให้ยาวนานขึ้นไปอีก

จะตกแต่งบ้านทั้งที พื้นที่ส่วนกลางอย่างห้องนั่งเล่นก็ต้องมีการเลือกแบบดีๆ เข้ากับคนกิจกรรมของคนในบ้าน เพราะเป็นพื้นที่ที่ทุกคนมารวมตัวทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน จึงควรมีการคัดสรรแบบห้องนั่งเล่นที่เหมาะสม ให้เป็นพื้นที่แห่งความสุขสำหรับทุกคน ซึ่งการเลือกแบบห้องนั่งเล่นควรพิจารณาจากสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้


สไตล์ที่ชอบ
   สิ่งแรกที่เราจะต้องคิดก่อนเลยว่า เรามีแบบห้องนั่งเล่นในหัวเอาไว้อย่างไร เป็นสไตล์การตกแต่งแบบไหน จะเน้นเอิร์ธโทน สีอบอุ่นๆ แนวโคซี่น่ารักๆ หรือว่าจะเป็นโทนขาวดำที่ดูดุดัน หรือชอบความเปลือยของวัสดุอย่างสไตล์ลอฟต์ หรือว่าชอบความหรูหรา Luxury หรือว่าจะชอบแบบโมเดิร์น มินิมอล ทุกอย่างไม่มีผิดไม่มีถูก เราสามารถเลือกสไตล์ที่เราชอบได้ตามใจที่ต้องการ โดยเราอาจจะพูดคุยกันกับคนในครอบครัวว่าชื่นชอบแบบห้องนั่งเล่นสไตล์ไหน
   การเลือกแบบห้องนั่งเล่น สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องพิจารณาคือ ควรจะกลมกลืนกับพื้นที่อื่นในบ้าน เพื่อให้ทุกอย่างเข้ากันอย่างลงตัว แต่หากว่าใครไม่ชอบความซ้ำซากจำเจ อยากจะเปลี่ยนทุกห้องเป็นสไตล์ที่แตกต่างกันก็ได้ ไม่ว่ากัน

เลือกสีที่ใช่
   หลักของการตกแต่งบ้านที่ดี เราไม่ควรจะใช้สีจำนวนเยอะมากเกินไป อย่างมากเราควรจะใช้สีหลักเพียงแค่ 3 สีเท่านั้น ส่วนสีอื่นๆ จะเป็นส่วนน้อย หรือแค่มีแซมๆ เข้ามา ซึ่งนอกจากจะทำให้การตกแต่งสบายตาแล้ว ยังดูสวยงามอีกด้วย
   การเลือกแบบห้องนั่งเล่น นอกเหนือจากเลือกสไตล์ที่เราชอบแล้ว ควรเลือกโทนสีที่เราและคนในบ้านต้องการ เพื่อช่วยคุมโทนการตกแต่งไม่ให้แปลกแยกจนเกินไป

ขนาดของพื้นที่
   สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องพิจารณาอย่างถ้วนถี่ในการเลือกแบบห้องนั่งเล่นคือ ขนาดของพื้นที่ห้องนั่งเล่น เพราะการตกแต่งแต่ละแบบต้องการพื้นที่ที่แตกต่างกันออกไป หากว่าห้องของเราเล็กมากๆ แบบห้องนั่งเล่นของเราอาจจะต้องใช้เฟอร์นิเจอร์ที่น้อยชิ้น หรือเลือกแบบมินิมอลไปเลย เพื่อให้เข้ากันกับพื้นที่นั่นเอง แต่หากว่าห้องนั่งเล่นของเรามีขนาดใหญ่ การเลือกแบบห้องนั่งเล่นแบบไหนก็อาจจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป 

กิจกรรมที่ทำ
   ก่อนเลือกแบบห้องนั่งเล่นอย่าลืมคำนึงถึงกิจกรรมที่ทำด้วย หากว่าสมาชิกในบ้านของเราเป็นสายดูหนังฟังเพลง ก็อาจจะต้องเน้นแบบห้องนั่งเล่นที่เอื้อต่อการดูหนังฟังเพลงสักหน่อย แต่หากว่าเป็นสายบอร์ดเกม ก็อาจจะต้องเลือกแบบที่มีโต๊ะกลางที่สามารถเล่นเกมได้

ใครที่ยังไม่แน่ใจ หรือยังไม่มีไอเดียเกี่ยวกับแบบห้องนั่งเล่น แนะนำให้ลองค้นหาภาพเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ แล้วค่อยๆ ร่างแบบในใจของตัวเองออกมา

ยุคนี้สมัยนี้ต่างก็มีเทคโนโลยี และนวัตกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่กระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมก็ยังต้องใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวก แต่จะใช้แค่นวัตกรรมเครื่องจักรอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ แต่ต้องมีระบบการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับระบบ PLC ที่ใช้กันในโรงงาน ว่าคืออะไร และมีข้อดีอย่างไรกับโรงงานอุตสาหกรรม


ทำความรู้จักระบบ PLC ในโรงงาน

ระบบ PLC ที่นิยมใช้ในโรงงาน มีชื่อเรียกเต็ม ๆ ว่า “โปรแกรมเมเบิลลอจิกคอลโทรลเลอร์”  (Programmable logic Control : PLC) ซึางระบบนี้เป็นอุปกรณ์ที่เข้ามาช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องจักรและกระบวนการทำงานภายในอุตสาหกรรม โดยมี Microprocessor ที่ทำหน้าที่เป็นมันสมองหลัก คอยทำหน้าที่สำคัญอย่างการสั่งการระบบ PLC ให้ทำหน้าที่ในโรงงานอุตสาหกรรม โดยจะมีส่วน Input-Output ที่สามารถต่อออกไปใช้งานได้ในทันที ซึ่ง Output จะใช้สำหรับต่อออกไปควบคุมการทำานของอุปกรณ์หรือเครื่องจักรในโรงงาน

ทั้งนี้ระบบ PLC ในโรงงาน คุณสามารถสร้างวงจรหรือแบบการควบคุมการทำงานโดยการป้อนโปรแกรมคำสั่งที่สร้างขึ้นเองเข้าไปได้ นอกจากนี้ PLC ยังสามารถใช้งานกับอุปกรณ์อื่น ๆ นอกเหนือจากเครื่องจักรได้ เช่น เครื่องอ่านบาร์โค๊ด (Barcode Reader) เครื่องพิมพ์ (Printer) ซึ่งในปัจจุบันนอกจากเครื่อง PLC จะใช้งานแบบเดี่ยว (Stand alone) ได้แล้ว ยังสามารถต่อเครื่อง PLC หลาย ๆ เครื่องเพื่อเชื่อมต่อการทำงานแบบเครือข่าย (Network )ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าระบบ PLC สร้างประโยชน์ในโรงงานได้มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก

ข้อดีของโรงงานที่ใช้ระบบ PLC
 
คุ้มค่าแก่การลงทุน

 ระบบ PLC จัดว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดของระบบการทำงานในโรงงาน เพราะนอกจากจะเพิ่มความสะดวกสบายในการทำงานของไลน์ผลิตแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้เป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยมีระบบเป็นตัวกลาง หรือควบคุมการทำงานของเครื่องจักรแบบเป็นเครือข่ายโดยมีแบบแผนของตัวเอง ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องลงทุนหลาย ๆ รอบ เพราะแค่ระบบ PLC ในโรงานแค่ตัวเดียวก็สามารถใช้งานกันได้ยาวนาน



ครอบคลุมทุกการทำงาน

อย่างที่เห็นกันว่าระบบ PLC สามารถควบคุมการทำงานของเครื่องจักรได้อย่างมีประสทิธิภาพ และยังสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ประเภทอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี เพียงสั่งการผ่านโปรแกรมที่เป็นสื่อกลางโดยเชื่อมต่อ PLC เข้ากับคอมพิวเตอร์ เท่านี้ ก็สามารถสั่งงานได้อย่างครอบคลุม ทันใจ และไร้ข้อผิดพลาด

ประยุกต์การทำงานได้อย่างหลากหลาย

เพราะระบบ PLC ในโรงงานยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในปัจจุบันไปจนถึงอนาคตจะมีเวอร์ชั่นที่รองรับการทำงานร่วมกับ Hardware และ Software ได้หลากหลายและครอบคลุมมากกว่าเดิม ทั้งนี้ PLC ยังสามารถเลือกรูปแบบของระบบให้เข้ากับอุตสาหกรรมได้อย่างหยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ PLC ควบคุมงานระบบคำนวน หรือ ให้ควบคุมการทำงานอัตโนมัติก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน

   อยากทำขนมแต่ไม่รู้จะทำไส้อะไรใช่ไหม!? ถ้างั้นต้องมาอ่านบทความนี้เลย เพราะเราจะมาแนะนำไส้ขนมสำหรับทำเบเกอรี่ต่างๆ ให้ทุกคนได้ไปลองทำตามกัน ไม่ว่าจะเป็นไส้สำหรับทำโดนัท ไส้สำหรับทำครัวซองต์ ไส้สำหรับทำคุกกี้ ฯลฯ หรือไส้ไหนอร่อย ไส้ไหนจะทำแล้วขายดี แถมหาซื้อวัตถุดิบมาทำง่ายๆ มาหาคำตอบได้ในบทความนี้เลย!

​​
ไส้ใบเตย
   ไส้ขนมไทยยอดฮิตตลอดกาลก็คงต้องยกให้ไส้ใบเตย ด้วยรสชาติหวานๆ และความหอมของใบเตยก็สามารถนำไปใส่ไส้ได้โดยที่ไม่ต้องแต่งรสขนมอะไรมากมาย ทั้งยังสามารถหาซื้อสำเร็จรูปได้ง่าย เรียกได้ว่าเป็นคู่ซี้ขนมไทยที่ขาดกันไม่ได้ หรือใครจะนำไปประยุกต์ทำขนมสไตล์ฝรั่งก็สามารถทำได้เช่นกัน

ไส้เฮเซลนัท
   ต้องบอกว่าไม่ใช่เพียงแค่ไส้ขนมรสชาติแบบไทยๆ เท่านั้นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะไส้เฮเซลนัทเองก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน หลายๆ คนอาจจะนึกไม่ออกว่ามีรสชาติยังไง คำตอบก็คือคล้ายๆ นูเทลล่า ที่ทั้งมีรสหวาน ขมแบบพอดี และมีกลิ่นหอมๆ ของถั่ว ยิ่งถ้าเอาไปทำเป็นไส้เบเกอรี่ต่างๆ อย่างวาฟเฟิล หรือครัวซองต์ละก็ รับรองว่าใครได้ทานก็ติดใจแน่นอนหรือจะทานเองก็วางมือไม่ได้เลยล่ะ

ไส้บลูเบอร์รี่
   สำหรับใครที่ชอบไส้ขนมแนวสดชื่นๆ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของผลไม้ ก็พลาดไม่ได้กับไส้บลูเบอร์รี่ที่มีรสหวานนิดๆ เปรี้ยวหน่อยๆ แนะนำให้นำไปทำเป็นไส้ขนมเค้ก หรือไส้โดนัท บอกเลยว่าขายดิบขายดีกันเลยทีเดียว หรือใครไม่อยากเอาไปยัดไส้ขนมก็สามารถเอาไปราดบนไอศกรีม หรือโยเกิร์ตและทานคู่กับขนมปังได้เช่นกัน

ไส้ชีส
   ไส้ชีสก็เป็นอีกหนึ่งไส้ขนมที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันอย่างมาก เนื่องจากเด็กรุ่นใหม่ชื่นชอบชีสกันสุดๆ เป็นอีกหนึ่งไส้ที่ขึ้นเป็น Best Seller สำหรับหลายๆ ร้าน ส่วนเมนูที่แนะนำสุดๆ ก็คือขนมปัง Pocket หรือการนำเอาขนมปังแผ่น 2 แผ่นมาประกบกับชีส และนำไปปิ้งอีกที เพื่อให้ได้ความหอม กรอบ พร้อมกับทั้งมีชีสเยิ้มๆ เวลารับประทานอีกด้วย!

   ใครที่ยังนึกไม่ออกว่าจะนำไส้ประเภทไหนมาทำขนมดี หรือกำลังอยากหาไส้ขนมยอดนิยมเพื่อนำไปทำขาย ก็สามารถเลือกไส้ขนมที่เราได้แนะนำไปลองทำกันได้เลย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าลืมเลือกไส้ขนมที่มีคุณภาพ ไม่เสียง่าย และรสชาติอร่อย เพื่อที่จะได้ถูกปากทั้งเราและลูกค้าที่ซื้อไปรับประทานอีกด้วย

เรื่องของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายสำหรับการขับขี่มอเตอร์ไซค์ถือเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อช่วยป้องกันร่างกายขณะขับขี่ อีกทั้งยังช่วยป้องกันแรงปะทะของลมขณะขับขี่ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นหมวกกันน็อค ถุงมือ รองเท้า หรือแม้กระทั่งเสื้อการ์ดมอเตอร์ไซค์ ที่ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างมาก ยิ่งใครที่ชอบเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด และขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ก็ควรที่จะต้องมีอุปกรณ์เหล่านี้ให้พร้อม โดยเฉพาะเสื้อเกราะอ่อนหรือเสื้อการ์ดมอเตอร์ไซค์นั่นเอง วันนี้เราก็เลยจะพาทุกคนไปดูกันว่า ในการตัดสินใจเลือกเสื้อเกราะอ่อนสักตัว ควรที่จะต้องพิจารณาอะไรบ้าง


วัสดุที่ใช้ในการทำเสื้อเกราะอ่อน
แบบผ้า: เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะหาซื้อง่ายแล้ว ก็ยังมาพร้อมกับราคาที่ไม่สูงมากอีกด้วย ที่สำคัญก็ยังสามารถระบายอากาศได้อย่างดี ใส่สบาย แม้ว่าจะมีความบาง แต่บางรุ่นก็ยังมาพร้อมกับการ์ดอ่อนเสริมให้อีกด้วย
แบบหนังผสมผ้า: เป็นเสื้อการ์ดมอเตอร์ไซค์ที่ตัดเย็นด้วยหนังและผ้า เพิ่มการป้องกันการกระแทก สามารถระบายอากาศได้ดี บางรุ่นยังมาพร้อมกับการ์ดแข็งหรือการ์ดอ่อน เพื่อเสริมความปลอดภัยในส่วนต่างๆ
แบบหนัง: เสื้อหนังถือเป็นเสื้อที่มีความปลอดภัยสูง ช่วยเซฟร่างกายได้อย่างดี ทนทาน คุ้มค่าต่อการลงทุนเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องแลกมากับการที่เสื้อการ์ดหนังไม่สามารถระบายอากาศได้ดีเท่าแบบผ้า ทำให้เวลาใส่แล้วจะรู้สึกร้อน และมาพร้อมกับราคาที่สูงนั่นเอง

เลือกจากความต้องการในการใช้งาน
ในบางครั้งที่เราเลือกซื้อเสื้อการ์ดมอเตอร์ไซค์นั้นก็ควรที่จะต้องพิจารณาถึงความต้องการในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ภายในเมือง เสื้อการ์ดที่เลือกอาจจะเป็นแบบผ้าหรือแบบหนังผสมผ้าก็ได้ เพราะต้องเน้นการระบายอากาศให้ดี ยิ่งขับขี่ในช่วงกลางวัน ยิ่งต้องมองหาเสื้อที่สามารถระบายอากาศได้ดีนั่นเอง แต่ถ้าหากขับขี่ทางไกล หรือไปในพื้นที่ที่ไม่คุ้นชิน เสื้อการ์ดแบบหนังถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะเข้ามาปกป้องร่างกายของคุณได้อย่างดีโดยไม่ต้องกังวลอีกด้วย

เลือกจากราคา
เรื่องของราคาก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน เพราะว่าการลงทุนในการซื้ออุปกรณ์ป้องกันขณะขับขี่รถมอเตอร์ไซค์นั้นก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้เราควรที่จะต้องพิจารณาให้ดี ว่าควรซื้อตัวไหนกันแน่ ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว อาจจะลองเทียบกับหลายๆ ร้านดูว่าร้านไหนมีเสื้อการ์ดมอเตอร์ไซค์ที่เราต้องการ แต่มาพร้อมกับราคาที่คุณสามารถจ่ายได้โดยไม่ต้องกังวลภายหลัง

   การทำประกันสุขภาพนั้นเรียกได้ว่าเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมาก เพราะหากเจ็บป่วยหรือเป็นอะไรขึ้นมา เราก็จะมั่นใจได้ว่าการเงินของเราจะไม่มีปัญหา และไม่ทำให้คนรอบข้างลำบากไปด้วย ซึ่งหนึ่งในประกันสุขภาพที่ได้รับความนิยมไม่น้อยก็คือประกันสุขภาพเหมาจ่าย แต่หลายๆ คนก็อาจจะมีคำถามว่าแล้วประกันประเภทนี้คุ้มจริงเหรอ? หรือดียังไงบ้าง? ในบทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลมาให้คุณแล้ว


ยืดหยุ่นสูง
   หนึ่งในเหตุผลหลักๆ ที่เราอยากให้คุณเลือกทำประกันสุขภาพเหมาจ่ายนั่นก็เพราะว่าการทำประกันสุขภาพเหมาจ่ายนั้นจะไม่มีการจ่ายแยกเหมือนประกันทั่วไป ดังนั้นในกรณีที่คุณเจ็บป่วยขึ้นมาคุณก็ไม่ต้องกังวลว่าคุณจะได้รับความคุ้มครองในส่วนไหนบ้าง หรือจะได้รับการคุ้มครองแบบครอบคลุมแค่ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกหรือ หรือผู้ป่วยในเท่านั้นไหม หรืออธิบายง่ายๆ ก็คือคุณสามารถเลือกรับการรักษาได้อย่างเต็มที่ตามการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นจริง ทำให้การรักษามีความยืดหยุ่น มีตัวเลือกมากขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง

วงเงินสูง
   ถึงแม้ว่าหลายๆ คนจะมองว่าประกันสุขภาพเหมาจ่ายนั้นมีค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่าประกันสุขภาพทั่วไป แต่ก็ต้องยอมรับว่าการทำประกันสุขภาพเหมาจ่ายก็ยังให้วงเงินสูงอีกด้วย เพราะจะเป็นการเหมาจ่ายทีเดียว ไม่มีการจำกัดวงเงิน และไม่ต้องจ่ายส่วนต่างแยกตามรายการ ดังนั้นหากคุณทำประกันประเภทนี้ไปแล้ว คุณก็ไม่ต้องคอยกังวลใจเรื่องค่าใช้จ่ายเรื่องสุขภาพ เพียงแค่ดูแลสุขภาพของคุณให้ดีก็เพียงพอแล้ว เพราะยังไงแล้ว การไม่มีโรคก็ย่อมดีกว่าการที่เราต้องมาเคลมประกัน

เคลมง่าย ไม่ยุ่งยาก
   ต้องบอกว่าการทำประกันสุขภาพเหมาจ่ายนั้นนับว่าเป็นการทำประกันที่เคลมง่ายสุดๆ เพราะด้วยความที่ประกันประเภทนี้ให้วงเงินที่สูง ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเจ็บป่วยด้วยโรคไหน จะทำการรักษาแผนกใด ขอแค่ให้อยู่ในวงเงินของประกันสุขภาพของคุณ ก็สามารถเคลมได้ง่ายๆ เลยล่ะ เพราะประกันประเภทนี้ข้อจำกัดน้อยอย่างมาก ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าหากอยากให้การเคลมง่ายกว่าเดิม ก็ควรจะต้องทำประกันกับบริษัทประกันที่น่าเชื่อถือด้วยเช่นกัน ไม่อย่างนั้นแล้วก็อาจทำให้การเคลมล่าช้าได้

   รู้แบบนี้แล้วใครที่คิดว่าตัวเองเจ็บป่วยง่าย หรือต้องไปโรงพยาบาลบ่อยๆ หรือแม้แต่ไม่ใช่คนเจ็บป่วยง่ายแต่ต้องการเพิ่มความมั่นคงเรื่องการเงินละก็ การทำประกันสุขภาพเหมาจ่ายก็น่าสนใจไม่น้อย ดังจะเห็นได้ว่าประกันประเภทน้ีคุ้มค่าอย่างมากเลยล่ะ รู้แบบนี้แล้วก็ลองหาแผนประกันที่คุณสนใจและทำการสมัครกันได้เลย
   

   เมื่อพูดถึงการขายภาพถ่ายผ่านเว็บไซต์ทีไร ช่างภาพหลาย ๆ คนก็อาจเคยได้ยินมาว่า การขายภาพในเว็บไซต์นั้นเป็นเรื่องยาก เพราะกว่าจะได้ลงรูป กว่าเว็บไซต์จะยอมให้ผ่านก็กินเวลานานมาก จนบางครั้งรูปที่ควรจะขายได้ก็ดันเสียเวลา และค่าต้นทุนในการถ่ายภาพไปก่อนแล้ว แต่อย่างไรก็ดี แท้จริงแล้ว ช่างภาพทุกคนยังสามารถสร้างรายได้กับการถ่ายภาพของตัวเองได้ง่าย ๆ ไม่เสียเวลามากมาย เพียงรู้จัก 3 วิธีขายภาพถ่ายผ่านเว็บที่เรานำมาฝากในวันนี้ ซึ่งบอกเลยว่าแต่ละวิธีที่จะมาเล่าให้ฟังนี้สามารถช่วยให้ช่างภาพจับจุดการลงภาพขายผ่านเว็บไซต์ได้จริง และถือเป็นวิธีขายภาพถ่ายผ่านเว็บที่ทำตามได้ง่าย ๆ อีกด้วย แล้วแต่ละวิธีจะมีรายละเอียดอย่างไร มาเช็กไปพร้อมกันได้เลย!


เลือกเรื่องราวที่จะถ่ายทอดให้ดี
   เมื่อพูดถึงวิธีขายภาพถ่ายผ่านเว็บ แน่นอนช่างภาพจำนวนไม่น้อยต่างคิดเสมอว่า ภาพที่จะขายในเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้จะต้องเป็นงาน Commercial เพียงอย่างเดียว เพราะหากทำภาพที่มีรายละเอียดมากจนเกินไป ภาพก็มีโอกาสที่จะถูกซื้อน้อยเนื่องจากมีความเฉพาะตัวมากเกินไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว งานภาพที่ขายได้ตามเว็บไซต์นั้นไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นงาน Commercial หรืองานอาร์ตเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว เว็บไซต์เหล่านี้กำลังตามหาศิลปินที่สามารถแสดงถึงตัวตนของตัวเองได้อย่างชัดเจน และมีวิธีถ่ายทอดเรื่องราวที่คมชัดเหมือนกับภาพที่ถ่าย อีกทั้งงานภาพที่ผลิตออกมายังสามารถเอาไปใช้ได้หลากหลายตั้งแต่งาน Commercial ไปยังเป็นภาพถ่ายสะสม ดังนั้น ก่อนที่จะไปลงสนามขายภาพ อย่าลืมตามหาตัวตนของตัวเองให้เจอก่อน

เลือกแพลตฟอร์มดีมีชัยไปกว่าครึ่ง!
   แต่สำหรับใครที่มั่นใจในฝีมือการถ่ายภาพ และรู้สึกว่างานภาพที่สร้างขึ้นมานั้นตอบโจทย์ทั้งตัวตนของตัวเอง และการใช้งานของคนอื่น ๆ รู้หรือไม่? อีกหนึ่งวิธีขายภาพถ่ายผ่านเว็บที่จะช่วยให้ช่างภาพขายภาพตัวเองได้อย่างเหมาะสมและตรงกับความต้องการก็คือ การเลือกแพลตฟอร์มสำหรับการขายภาพที่ตรงกับสไตล์ของเรานั่นเอง ซึ่งในส่วนนี้ เราอยากให้ช่างภาพทุกคนลองกลับไปพิจารณาถึงสไตล์ของแต่ละเว็บไซต์ ตลอดจนฐานผู้ใช้งานหลัก จากนั้นจึงค่อยพิจารณาจากรายได้ที่อาจได้รับจากเว็บไซต์ทีหลัง เพราะถ้าหากเราโฟกัสกับรายได้เป็นอย่างแรก นอกจากจะมีคู่แข่งจำนวนมากแล้ว งานภาพที่ผลิตออกมาก็ยังเน้นแต่การแข่งขันในตลาด และอาจทำให้เราหลงลืมตัวตนในงานภาพของตัวเองก็เป็นได้

เลือก Keyword ให้เหมาะสม เพิ่มรายได้เกินเท่าตัว!
   นอกจากจะรู้จักตัวตน และเลือกแพลตฟอร์มการขายภาพที่ตรงกับความต้องการของทั้งตัวเอง และตลาดแล้ว การรู้จักเลือก Keyword หรือคำค้นหาก็เป็นอีกหนึ่งวิธีขายภาพถ่ายผ่านเว็บที่ช่วยทำให้ช่างภาพประสบความสำเร็จในการขายภาพในเว็บไซต์ได้ เพราะโดยทั่วไปแล้ว เว็บไซต์ที่มีการจำหน่ายภาพนั้นจะให้ผู้ใช้ใส่ Keyword หรือคำค้นหาเพื่อหารูปภาพที่ตรงกับความต้องการ ซึ่งหากช่างภาพเลือก Keyword ที่ไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้า โอกาสที่ลูกค้าจะซื้อภาพก็น้อยลงไปเช่นกัน ดังนั้น อย่าลืมพิจารณา และศึกษา Keyword แต่ละคำให้ดีก่อนตัดสินใจลงขายภาพด้วย

   จบลงไปแล้วกับ 3 วิธีขายภาพถ่ายผ่านเว็บที่จะช่วยให้ช่างภาพทุกคนมีรายได้จากการขายภาพได้ อย่าลืมนำทั้ง 3 วิธีนี้ไปพิจารณาและปรับใช้ให้เข้ากับสไตล์ ตัวตน และความต้องการของตัวเองด้วยนะ

การจัดฟันแบบใสนับว่าเป็นทางเลือกใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้ที่สนใจดัดฟันเป็นอย่างมาก เพราะด้วยข้อดีที่ไม่ต้องติดเหล็กหรือลวดเหมือนกับการดัดฟันแบบเดิม จึงทำให้เราสามารถถอดเพื่อรับประทานอาหารหรือทำความสะอาดได้ง่าย ช่วยลดระยะเวลาในการจัดฟัน แถมยังลดความผิดพลาดและความเสี่ยงต่อการเกิดอาการบาดเจ็บในระหว่างดัดฟันได้อีกเช่นกัน
 

สำหรับชาวชลบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงคนไหนที่สนใจและกำลังมองหาคลินิกจัดฟันแบบใสในชลบุรี เราอยากจะขอแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับ 4 คลินิกชั้นนำที่ครบเครื่องทั้งในเรื่องคุณภาพและราคา โดยรายละเอียดของคลินิกจัดฟันแบบใสในชลบุรีทั้ง 4 แห่งมีดังนี้
 
คลินิกทันตกรรม โรงพยาบาลสมิติเวช
 
ด้วยประสบการณ์อันยาวนานของทีมทันตแพทย์บวกกับการใช้เครื่องมือที่ทันสมัยในการรักษา จึงการันตีได้ว่าทุกขั้นตอนการจัดฟันแบบใส่ของที่นี่ล้วนสะอาดและปลอดภัย นอกจากจะเป็นคลินิกที่ให้บริการจัดฟันแบบใสในชลบุรีแล้ว ทางโรงพยาบาลสมิติเวชยังให้บริการทันตกรรมด้านอื่นๆ อีกเช่นกัน อาทิ การตรวจและให้คำปรึกษาสุขภาพช่องปาก, การถอนฟัน, การอุดฟัน และการเคลือบผิวฟัน เป็นต้น
 
คลินิกทันตกรรมฌาร์ม
 
สาเหตุที่เราหยิบคลินิกจัดฟันแบบใสในชลบุรีแห่งนี้มาแนะนำให้ทุกคนรู้จักก็เพราะว่าทางคลินิกได้มีการนำเทคโนโลยีที่ผ่านการรับรองจาก Align Technology Inc. มาปรับใช้ นอกจากนี้ทีมทันตแพทย์ของทางคลินิกเองยังผ่านการอบรมจาก Invisalign หรือบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์จัดฟันแบบใสอีกด้วย ครบเครื่องทั้งความทันสมัยของอุปกรณ์ และความชำนาญของบุคลากรแบบนี้ บอกเลยว่าฌาร์มคลินิกนั้นเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
 
OrthoSmile
 
เนื่องจาก OrthoSmile เป็นคลินิกที่ได้รับรางวัลจาก Align Technology ให้เป็นศูนย์ทันตกรรมจัดฟันแบบใสระดับ Diamond ดังนั้นเราจึงมั่นใจได้ทั้งในเรื่องของการบริการ, ความเชี่ยวชาญของทีมทันตแพทย์ รวมไปถึงเครื่องไม้เครื่องมือที่สะอาด, ทันสมัย ได้มาตรฐานในระดับสากล นอกเหนือไปจากการดัดฟันแบบใสแล้ว ทางคลินิกแห่งนี้ยังเชี่ยวชาญในเรื่องการทำฟัน, ฟอกสีฟัน และรากฟันเทียมอีกเช่นกัน
 
Dental Point Clinic Pattaya
 
คลินิกแห่งนี้เพียบพร้อมไปด้วยทุกองค์ประกอบที่คลินิกทันตกรรมชั้นนำควรมีไม่ว่าจะเป็นความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และความชำนาญงานของเจ้าหน้าที่ที่พร้อมดูแลและให้คำปรึกษาคนไข้ทุกคนตั้งแต่ก่อนไปจนถึงหลังจัดฟัน
 
เป็นยังไงกันบ้างกับรายละเอียดคลินิกจัดฟันแบบใสในชลบุรีทั้ง 4 แห่งที่เราเอามาฝากกัน สำหรับใครที่อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดฟัน ก็สามารถติดต่อคลินิกที่ตัวเองสนใจเพื่อรับคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญกันได้เลย
 
 

รู้หรือไม่ว่าในทุกวันนี้มีบริษัทขนส่งที่ให้บริการนำเข้าและส่งออกสินค้าเป็นจำนวนมาก และมาพร้อมกับบริการที่น่าสนใจมากมาย รวมถึงตัวช่วยที่จะทำให้การนำเข้าและส่งออกกลายเป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้นนั่นเอง วันนี้เราก็เลยอยากที่จะพาทุกคนไปดูกันว่า ก่อนที่เราจะเลือกผู้ให้บริการนำเข้าและส่งออกสินค้านั้น ควรที่จะต้องใช้เกณฑ์อะไรในการพิจารณา วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกัน


ความแม่นยำคือสิ่งสำคัญ
เรื่องของการเลือกบริษัทบริการนำเข้าและส่งออกสินค้าก็ควรที่จะต้องเลือกบริษัทที่มีความสามารถในการจัดส่งทั้งนำเข้าและส่งออกสินค้าที่มีความถูกต้องแม่นยำ สินค้าอยู่ในสภาพที่เรียบร้อย หีบห่อไม่ชำรุดหรือเสียหาย และสามารถจัดส่งสินค้าได้ตามระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้อีกด้วย นั่นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรให้ความสนใจก่อนตัดสินใจในการเลือกบริษัทผู้ให้บริการ

การตอบคำถามและจัดการปัญหาอย่างรวดเร็ว
เพราะเราไม่รู้ว่าเวลาขนส่งสินค้าทั้งนำเข้าและส่งออกนั้นจะมีปัญหาอะไรหรือไม่ หรือเวลามีคำถามเกี่ยวกับการจัดส่งสินค้า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่เรากำลังจะใช้บริการนำเข้าและส่งออกจะมีปัญหาหรือไม่ สิ่งที่ง่ายที่สุดก็คือการสอบถามกับบริษัทขนส่งสินค้านั่นเอง ถ้าเกิดบริษัทสามารถตอบคำถามได้อย่างรวดเร็ว มีความพร้อมในการให้บริการ ไปจนถึงการจัดการปัญหาได้อย่างทันท่วงทีนั้น ก็จะช่วยให้ทุกอย่างนั้นง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และสร้างความมั่นใจได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง

มีความเชี่ยวชาญและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า
นอกจากเรื่องของการตอบสนองที่รวดเร็วแล้ว ก็ต้องมาพร้อมกับความเชี่ยวชาญในการทำงาน และการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าสินค้าเหล่านั้นจะถึงมืออย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การรับสินค้า การส่งสินค้า พนักงานที่ให้บริการ ไปจนถึงมาตรฐานในการจัดส่ง ขนส่ง และขนถ่ายสินค้าอีกด้วย ซึ่งการเลือกบริษัทบริการนำเข้าและส่งออกสินค้า ก็ควรที่จะต้องมีมาตรฐานและประสบการณ์การทำงานที่จะสร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการได้

มีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัสดุที่ใช้ อุปกรณ์ เครื่องมือ สถานที่ ไปจำถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพราะว่ารายละเอียดเหล่านั้นถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่จะช่วยให้การบริการเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ทำให้เกิดปัญหาจากการขนส่ง โดยเฉพาะเรื่องของการเตรียมเอกสารและจัดส่งเอกสาร ที่จะช่วยให้การจัดส่งสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วและถูกต้องนั่นเอง

ใส่ใจในผลประโยชน์ของลูกค้า
บอกได้เลยว่าการเลือกบริษัทที่ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของลูกค้าที่ใช้บริการ ก็จะช่วยให้เรามองเห็นได้ว่า ถ้าหากเราเลือกใช้บริการนำเข้าหรือส่งออกกับบริษัทนั้น เราก็จะได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี สามารถติดตามสินค้าได้ และช่วยให้การเข้าถึงรายละเอียดต่างๆ เป็นไปอย่างง่ายดายนั่นเอง

นวัตกรรมทางการแพทย์นั้นมีการพัฒนามากขึ้นในทุกวัน ทั้งในเรื่องยารักษา อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ และรูปแบบการรักษาต่าง ๆ ทำให้การดูแลรักษาผู้ป่วยนั้นได้ผลดีและสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงในส่วนของทันตแพทย์ด้วยเช่นกัน ที่มักจะมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาอยู่เสมอ เชื่อว่าแทบทุกคนน่าจะเคยมีโอกาสเข้าพบหมอฟันกันมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพช่องปาก จัดฟัน หรือรักษาฟันในรูปแบบต่าง ๆ และสำหรับวันนี้เราจะมาแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับการจัดฟันรูปแบบใหม่ นั่นก็คือชุดจัดฟันที่บ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนยังสงสัยกันว่าความจริงแล้วชุดจัดฟันที่บ้านดีไหม? ช่วยได้จริงหรือเปล่า?

บทความนี้จะพาทุกคนมารู้จักกับนวัตกรรมชุดจัดฟันที่บ้าน ที่จะกลายเป็นเทรนด์การดูแลฟันรูปแบบใหม่ในอนาคต และยังมีประโยชน์ต่อการดูแลรักษาฟันในช่วงสถานการณ์โรคระบาดเช่นนี้ ไขข้อสงสัยว่าควรใช้ชุดจัดฟันที่บ้านดีไหม และปลอดภัยหรือเปล่า มาดูคำตอบกันเลย


ชุดจัดฟันที่บ้าน คืออะไร
              ชุดจัดฟันที่บ้านคือนวัตกรรมการดูแลฟันรูปแบบใหม่ ที่ให้คุณสามารถทำการพิมพ์ฟันด้วยตัวเอง โดยใช้ชุดพิมพ์ฟันที่ได้รับมาตรฐาน ออกแบบและคิดค้นโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะและเข้ารับโปรแกรมการดูแลรักษาฟันร่วมกับทีมทันตแพทย์ผ่านทางออนไลน์ ให้คุณได้สะดวกสบายกับการพิมพ์ฟันด้วยตัวเอง และคอยเข้ารับคำปรึกษาในระยะเวลาที่กำหนด โดยทุกขั้นตอนสามารถทำได้ที่บ้าน ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่คลินิก และไม่ต้องเสี่ยงกับการเผชิญมลภาวะหรือโรคระบาดที่อันตรายจากภายนอก เป็นนวัตกรรมการดูแลฟันที่เหมาะกับยุคปัจจุบันอย่างมาก

ชุดจัดฟันที่บ้านดีไหม?
           แน่นอนว่าจากสมัยก่อนที่มีกระแสการจัดฟันเองที่บ้านผ่านเครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐานจนทำให้หลายคนเกิดอันตราย ทำให้หลายคนยังคงกังวลว่าความจริงแล้วควรใช้ชุดจัดฟันที่บ้านดีไหม ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าควรเลือกเข้ารับโปรแกรมการจัดฟันที่บ้านเฉพาะกับคลินิกทันตกรรมที่มีมาตรฐานและผ่านการรับรองแล้วเท่านั้น เพราะการจัดฟันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีการปรึกษาแพทย์เพื่อรับการประเมิณอย่างจริงจังจึงจะได้ผลดีที่สุด

ชุดจัดฟันที่บ้าน ปลอดภัยไหม?
           อีกคำถามที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ ชุดจัดฟันที่บ้านจะปลอดภัยไหม? ขอยืนยันว่าหากเป็นการเข้ารับการรักษาในโปรแกรมที่ผ่านการรับรองและเป็นชุดจัดฟันที่มาจากคลินิกทันตแพทย์ การจัดฟันที่บ้านนั้นสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และประหยัดเวลาได้เป็นอย่างมาก เพราะคนไข้ที่ต้องการจัดฟันสามารถดำเนินการทุกขั้นตอนได้ด้วยตนเองตั้งแต่การพิมพ์ฟันไปจนถึงการนัดหมายพูดคุยกับทันตแพทย์ ใครที่เคยมีคำถามว่าชุดจัดฟันที่บ้านดีไหม เพราะกังวลว่าจะเป็นอันตรายและไม่ได้ผล ก็แนะนำว่าในปัจจุบันมีคลินิกทันตแพทย์ที่เชื่อถือได้ที่ให้บริการชุดจัดฟันที่บ้าน สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำกันได้เลย

ยางรถยนต์อะไห่าสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนรถยนต์ได้อย่างมีศักยภาพ และความปลอดภัยยังขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ยางรถยนต์ที่เหมาะสมอีกด้วย เพราะบ่อยครั้งอุบัติเหตุทางท้องถนนมักมีสาเหตุมาจากล้อรถยนต์ไม่ได้มาตรฐานจนทำให้เกาะถนนไม่ดี หรือเกิดเหตุการณ์ยางระเบิดจากสาเหตุยางรถยนต์เสื่อมสภาพ วันนี้เราจะมาแชร์เทคนิคการเลือกใช้และดูแลยางรถยนต์ Toyota ให้คุณขับขี่ได้ปลอดภัย ไร้กังวลกับโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้เป็นปลิดทิ้ง


การเลือกใช้ยางรถยนต์ Toyota

การเลือกรถยนต์เป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความพิถีพิถันเป็นอย่างมาก เพราะยางรถยนต์ไม่ได้เหมือนกันทุกรุ่น ดังนั้นการเลือกยางรถยนต์ที่เหมาะกับรถ Toyota ทั้งการใช้งานและเส้นทางที่ขับขี่ รวมไปถึงมาตรฐานการติดตั้งล้อของรถนั้นสำคัญต่อสมรรถภาพการขับขี่เป็นอย่างมาก

โดยเคล็ดลับการเลือกยางรถยนต์ที่เหมาะสมนั้น ต้องเลือกยางที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่คุณมักจะขับขี่ ยี่ห้อ รุ่น และขนาดยางให้เท่ากันทั้ง 4 เส้น และต้องเลือกให้เหมาะกับมาตรฐานของรถยนต์รุ่นที่ขับขี่ ทั้งนี้คุณควรเปลี่ยนยางทุก ๆ 2 ปี หรือเปลี่ยนเมื่อมีระยะทางครบ 50,000 กิโลเมตร เพราะต่อให้ยางของคุณจะเหลือดอกยางอยู่มาก แต่เนื้อยางอาจเสื่อมสภาพ จนทำให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนลดลง หรืออาจเกิดเหตุการณ์ยางระเบิดได้ในกรณีที่เสื่อมสภาพจนถึงขีดจำกัดนั่นเอง

       
หมั่นเติมแรงดันลมยางรถยนต์

ลมยาง อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรละเลยเรื่องการตรวจเช็ก เพราะการเมื่อลมยางอ่อนกว่ามาตรฐานจะทำให้เกิดความร้อนสูงมาก และขยายตัวจนเป็นอันตรายได้ โดยการตรวจสอบลมยางที่ถูกต้องไม่ควรมองด้วยสายตา แต่ต้องตรวจสอบด้วยเกจ์วัดลมที่ได้มาตรฐาน เพื่อได้ค่าลมที่ถูกต้อง

ไม่ว่าจะเป็นยางรถยนต์ Toyota หรือรถแบรนด์อื่นต่างควรเติมลมยางอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และควรเติมปริมาณลมยางให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ควรพกพายางรถอะไหล่และเติมลมสำรองให้เพียงพอ เผื่อเกิดกรณีฉุกเฉินระหว่างการเดินทางเสมอ สำหรับการเติมลมยางที่ถูกต้องนั้นควรทำในช่วงที่ยางเย็นตัว เพราะจะได้ค่าแรงดันลมที่ถูกต้อง และไม่ควรเติมลมยางให้ต่ำกว่ามาตรฐาน เพราะจะทำให้ยางยุบตัว และสัมผัสผิวถนนมากเกินไป จนอาจทำให้ยางฉีกขาด ส่งผลให้เสียการควบคุมรถยนต์ได้


ดูแลรักษายางรถยนต์ให้ติดเป็นนิสัย

ไม่ว่าคุณจะใช้ยางรถยนต์ Toyota หรือรถแบรนด์ไหนก็ตาม ก็ฝึกดูแลรักษายางรถให้เป็นนิสัยเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้คุณรักษาความปลอดภัยอย่างเป็นวินัย ลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากสาเหตุยางรถยนต์ผิดปกติได้
โดยทั่วไปควรทำการสลับยางรถยนต์ทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร ย้ำว่าสลับไม่ใช่เปลี่ยนถาวร ทั้งนี้เป็นการช่วยลดอาการสึกหรอของยาง และช่วยทำให้หน้ายางเรียบเสมอเท่ากันทั้ง 4 เส้น เมื่อทำการสลับยางแล้ว อย่าลืมวนกลับไปตรวจสอบความดันของลมยาง และปรับให้มีค่ายางรถยนต์ Toyota ให้เท่ากับค่ามาตรฐานที่รถกำหนดทั้งล้อหน้าและล้อหลัง (สามารถดูได้จากประตูฝั่งคนขับ)  เพื่อให้มั่นใจว่าใช้ค่าแรงดันลมถูกต้อง สามารถขับขี่ได้อย่างสบายใจ ปลอดภัยหายห่วง

   เอเจนซี่ พ่อค้าแม่ค้า และเจ้าของแบรนด์ทั้งหลายต้องรู้ นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 เป็นต้นไป การยิงแอดใน Facebook จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ตามกฎหมายไทย นั่นหมายความว่า ผู้ประกอบการไทยและเจ้าของแบรนด์จะต้องเสียเงินเพิ่มขึ้นจากการยิงแอดนั่นเอง



ทำไมเราต้องจ่าย
   กรมสรรพากร ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐด้านการจัดเก็บภาษีของไทยได้ประกาศบังคับใช้ให้มีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ หรือ e-Service ที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในไทย และมีรายได้จากการให้บริการเกิน 1.8 ล้านบาท ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา ทำให้ facebook ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศเข้าข่ายตามไปด้วย ดังนั้น ผู้ที่ใช้บริการ facebook ในการยิงแอดสินค้าและบริการจึงต้องเสียภาษี 7% กฎหมาย หมายความว่า หากว่าเราตั้งงบโฆษณาเอาไว้ที่ 1,000 บาท เราจะถูกเรียกเก็บเงินทั้งหมด 1,070 บาทนั่นเอง

แล้วเราจะต้องทำอย่างไร
   สำหรับผู้ประกอบการและเจ้าของแบรนด์ที่ต้องการยิงแอดทุกคนจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มดังนี้
บุคคลทั่วไปและนิติบุคคลที่จด VAT ในกรณีนี้ตอนนี้ให้กรอกหมายเลขผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT ID) ในบัญชีโฆษณาบนเฟซบุ๊ก ซึ่ง Facebook จะไม่เรียกเก็บภาษีจากการยิงแอด แต่ให้เราไปยื่นภาษี 7% ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากรเอง และสามารถขอคืนภาษีได้ หากเข้าหลักเกณฑ์ที่กำหนด
บุคคลทั่วไปและนิติบุคคลที่ไม่ได้จด VAT ในกรณีที่ไม่ได้ยื่นจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ ผู้ที่ยิงแอด facebook จะต้องเสียภาษี 7% ทันทีที่มีการลงโฆษณา โดยทาง facebook จะเก็บเพิ่มเติมจากงบที่เราวางไว้จากที่เราตั้งไว้แต่แรกนั่นเอง

เก็บ Vat 7% กระทบใครบ้าง
   การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มคราวนี้ของไทย เป็นไปเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ประเทศมากขึ้น เนื่องจากมีการเติบโตของบริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ หรือ e-Service อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงแต่ facebook แต่ยังรวมถึง google, Netflix, Disney plus และผู้ให้บริการอื่นๆ จึงทำให้ภาครัฐต้องศึกษา เพื่อเพิ่มผลประโยชน์ให้แก่รัฐ และเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบการที่ให้บริการ e-Service ในไทยที่เสียภาษีอย่างถูกต้อง 
   ในแง่ของผลกระทบ แน่นอนว่าจะต้องกระทบต่อเจ้าของแบรนด์และผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่ได้ยื่นจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ ซึ่งการยิงแอดที่ต้องเสียภาษี 7% ย่อมส่งผลกระทบต่อต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้น และอาจจะทำให้ราคาสินค้าหรือบริการมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย โดยเฉพาะเจ้าของกิจการที่ทุ่มเทงบประมาณในการโฆษณาไปในสื่อออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้ให้บริการในต่างประเทศแทบทั้งนั้น 

ยิงแอด แล้วต้องเสียภาษี 7% เป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการหรือเจ้าของแบรนด์ ทำให้หลายแบรนด์ต้องปรับกระบวนทัพและคิดคำนวณให้ดีก่อนการตัดสินใจ

   สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารแล้ว การมองหาและเลือกซื้อสินค้าราคาถูก และมีคุณภาพนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะหากเราได้วัตถุดิบที่ดี ราคาถูก และมีคุณภาพ ก็ช่วยยกระดับรสชาติ และหน้าตาของเมนูอาหารนั้นๆ ได้อย่างมาก ทั้งยังเป็นการลดต้นทุนของร้านได้อีกด้วย ซึ่งเนื้อปลาก็เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่ได้รับความนิยมในการนำมาประกอบอาหารอย่างมาก เนื่องจากสามารถทำได้หลายเมนู แถมยังมีรสชาติอร่อย แต่ก็ต้องยอมรับว่าการจะออกไปเลือกซื้อตามตลาดในช่วงนี้ก็ค่อนข้างมีความเสี่ยงพอสมควร หรือผู้ประกอบการหลายๆ คนก็อาจจะไม่สะดวกในการออกไปเลือกซื้อ ในบทความนี้เราจึงอยากจะมาแนะนำแหล่งซื้อเนื้อปลาขายส่งออนไลน์ ที่มีเนื้อปลาขายส่งคุณภาพดี พร้อมบริการจัดส่งให้ถึงที่ ไปดูกันเลยว่าจะมีที่ไหนบ้าง


Makroclick
   หากจะพูดถึงสินค้าราคาส่ง คุณภาพดี และเหมาะแก่ผู้ประกอบการสุดๆ โดยไม่พูดถึง Makroclick คงจะไม่ได้ เพราะที่ Makroclick นั้นมีสินค้าราคาส่งให้เลือกมากมาย รวมถึงเนื้อปลาขายส่ง แถมยังมีบริการส่งให้ฟรีถึงที่ หากคุณสั่งครบ 2,000 บาท แต่หากสั่งไม่ถึง ค่าบริการก็อยู่แค่เพียง 60 บาทเท่านั้น หรือผู้ประกอบการเจ้าไหนที่ต้องใช้วัตถุดิบอื่นๆ ในราคาส่งด้วย ก็สามารถหาได้จากที่ Makroclick เช่นกัน เรียกได้ว่าสะดวกอย่างมาก

M Salmon
   สำหรับเนื้อปลาขายส่งของ M Salmon นั้นจะเน้นขายแต่ปลาแซลมอนโดยเฉพาะ เหมาะกับผู้ประกอบการที่ทำร้านอาหารญี่ปุ่น โดยแซลมอนของทางร้านจะเป็นแซลมอนจากนอร์เวย์ ขายเป็นตัว และกิโลกรัม ซึ่งแน่นอนว่านอร์เวย์เป็นแหล่งแซลมอนที่ดีที่สุดในโลก แต่ทางร้านยังไม่มีเว็บไซต์ หากผู้ประกอบการคนไหนต้องการสั่ง สามารถสั่งผ่านได้ทางเฟซบุ๊ก หรือไลน์ไปก็ได้เช่นกัน

Pan Food
   สำหรับวัตถุดิบของที่ Pan Food นั้นค่อนข้างจะพรีเมียมพอสมควร ซึ่งหากเทียบกับเจ้าอื่นแล้วก็มีราคาสูงกว่าเล็กน้อย แต่ร้านไหนต้องการเนื้อปลาขายส่งแบบพรีเมียม ที่จะช่วยยกระดับของเมนูอาหารของร้านคุณได้อย่างดี Pan Food ก็เป็นอีกแหล่งที่น่าสนใจเช่นกัน โดยหลักๆ เนื้อปลาของที่นี่จะเป็นเนื้อปลานำเข้า อย่างปลาแซลมอน ปลาดอร์รี่ ปลาซาบะ และอีกมากมายหลายชนิด

Boonsiri Frozen
   หากผู้ประกอบการคนไหนกำลังมองหาเนื้อปลาทู เราขอแนะนำ Boonsiri Frozen เลย เพราะที่ Boonsiri Frozen นั้นเน้นขายเนื้อปลาทูเป็นหลัก และมีปลาทูให้เลือกหลากหลายชนิดอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น ปลาทูไทย ปลาทูอินเดีย ปลาทูปากีสถาน ปลาทูเยเมน ปลาทูมาเลเซีย ฯลฯ เรียกได้ว่าใครต้องการปลาทู ที่นี่มีครบจบในที่เดียวเลยล่ะ

   ร้านขายเนื้อปลาขายส่งออนไลน์นั้นมีให้เราเลือกมากมายหลายแห่งในปัจจุบัน แต่สิ่งสำคัญก็คือการเลือกซื้อจากร้านที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อที่เราจะได้มั่นใจได้ว่า เราจะได้สินค้าที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะนำมาทำเมนูอะไรก็อร่อย ทั้งยังเป็นการเลือกส่งต่อสิ่งดีๆ ให้กับผู้บริโภคของร้านคุณอีกด้วย

   หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแบรนด์ต่าง ๆ น่าจะเคยเห็นหลาย ๆ แบรนด์ที่ทำการผลิตชุดมาสคอตเป่าลมเพื่อมาใช้ในการโปรดมตสินค้าและบริการในงานต่าง ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายและผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาวิธีดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมาย เมื่อคุณไปออกงานหรืออออกบูธต่าง ๆ คุณสามารถสั่งผลิตชุดมาสคอตเป่าลมเพื่อนำมาใช้ในโอกาสเหล่านั้นได้ เพราะการสั่งผลิตชุดมาสคอตเป่าลมสำหรับแบรนด์ของคุณโดยเฉพาะ มีข้อดีมากมายดังต่อไปนี้


สั่งผลิตผลิตชุดมาสคอตเป่าลมของคุณ เพื่อสร้างการจดจำที่ดี
   หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ผู้คนเชื่อใจแบรนด์ของคุณได้ก็คือการสร้างภาพจำที่ดีและชัดเจน เพื่อช่วยทำให้เกิดการจดจำแบรนด์ได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น การผลิตชุดมาสคอตเป่าลมสำหรับแบรนด์ของคุณโดยเฉพาะนั้นจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี และยังช่วยเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับแบรนด์ได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ชุดมาสคอตเป่าลมทำให้แบรนด์ดูเข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้น
   แน่นอนว่าเมื่อมีชุดมาสคอตหรือตัวละครที่เป็นตัวแทนของแบรนด์แล้ว ก็จะช่วยทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกว่าสามารถเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะพวกเขาสามารถจินตนาการได้ว่า หากแบรนด์ สินค้าหรือบริการของคุณมีตัวตนจริง ๆ จะดูเป็นอย่างไร จะเป็นคนที่ดูสนุกสนาน หรือดูเคร่งขรึม ซึ่งแน่นอนว่าจะช่วยทำให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาใช้บริการและซื้อสินค้ามากยิ่งขึ้น หากพวกเขารู้สึกว่าสามารถเข้าใจแบรนด์ได้มากขึ้น

ชุดมาสคอตเป่าลมช่วยเพิ่มโอกาสในการเป็นที่รู้จักได้มากขึ้น
   หนึ่งในแบรนด์ทางการเงินที่มีชุดมาสคอตเป็นของตัวเอง ได้ใช้มาสคอตสร้างความโดดเด่นและทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักได้อย่างกว้างขวางในเวลาอันสั้น ด้วยรูปร่างของมาสคอตที่มีความน่ารัก น่าสนใจ และมีลีลาการเต้น และการขายสินค้าที่โดดเด่น จนทำให้ผู้ที่ผ่านไปผ่านมาในบริเวณงานนั้นต้องหยุดดู ถ่ายภาพและวิดีโอเพื่อนำมาแชร์ต่อบนโลกออนไลน์ จนทำให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว

เพราะคุณสามารถสั่งผลิตชุดมาสคอตเป่าลมได้ตามต้องการ
   ในปัจจุบันนี้นั้นมีหลากหลายบริษัทที่รับผลิตชุดมาสคอตเป่าลมตามแบบที่คุรต้องการ ตามราคาที่ต้องการ รวมถึงมีการรับผลิตชุดมาสคอตเป่าลมหลากหลายคุณภาพให้เลือกใช้งานได้อีกด้วย เพราะแบบนี้ หากคุณต้องการเพิ่มความน่าสนใจให้กับแบรนด์ของคุณ คุณสามารถมองหาร้านหรือโรงงานที่รับผลิตชุดมาสคอตเป่าลมเพื่อทำชุดมาสคอตสำหรับแบรนด์ของคุณได้เลย รับรองว่าจะช่วยทำให้แบรนด์น่าสนใจมากขึ้นได้อย่างแน่นอน

ปัจจุบันเป็นที่รู้กันว่า “การตรวจสุขภาพประจำปี” เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น เพราะเรื่องสุขภาพยิ่งรู้เร็ว ยิ่งมีโอกาสรักษาให้หายเร็ว แถมยังลดความเจ็บปวดในการรักษา ที่สำคัญยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้อีกด้วย ดังนั้น จึงมีการรณรงค์ให้ทุกคนตรวจสุขภาพประจำปี แต่หลายคนก็ยังมีคำถามคาใจที่อยากจะถาม เราเลยหาคำตอบมาให้หายข้องใจ ดังนี้


Q: ในแต่ละปีเราจะต้องตรวจอะไรบ้าง
อันที่จริงแล้ว การที่แต่ละปีเราจะต้องตรวจอะไรบ้างนั้น ขึ้นอยู่กับอายุ เพศ สุขภาพและพฤติกรรมส่วนบุคคลว่ามีความเสี่ยงต่อโรคอะไรบ้าง โดยปกติแล้ว แพทย์จะแนะนำการตรวจสุขภาพพื้นฐานให้แก่เรา ได้แก่ การตรวจหาค่าน้ำตาลในเลือด การตรวจระดับไขมันในร่างกาย การตรวจปัสสาวะ การตรวจสอบการทำงานของตับ ไต ปอด การตรวจวัดสายตา การตรวจวัดความดันโลหิต การดูค่า BMI น้ำหนัก ส่วนสูง จากนั้นก็จะประเมินความเสี่ยงตามช่วงวัย หากเป็นผู้สูงอายุที่ร่างกายเริ่มเสื่อมโทรมก็อาจจะมีการตรวจการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย การตรวจหาโรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็ง ถ้าเป็นผู้หญิงก็จะให้ตรวจภายในเป็นประจำเป็นต้น

   อันที่จริงแล้ว นอกจากการตรวจสุขภาพขั้นพื้นฐาน การตรวจหาโรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็ง หากไม่มีพฤติกรรมเสี่ยง หรืออยู่ในช่วงอายุที่มีความเสี่ยงสูง แพทย์จะแนะนำให้ตรวจ 3-5 ปีต่อครั้ง หากว่าเราไม่มั่นใจว่าเราควรจะตรวจอะไรบ้าง หรือเรามีความเสี่ยงอะไรที่ควรจะตรวจเพิ่ม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความมั่นใจ

Q: เด็กๆ ต้องตรวจร่างกายหรือไม่
   แม้ว่าการตรวจสุขภาพประจำปีของเด็กๆ จะไม่ได้เป็นที่กล่าวถึงสักเท่าไร แต่ในความเป็นจริง เด็กๆ ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีด้วยเช่นกัน โดยการตรวจสุขภาพประจำปีของเด็กๆ จะเน้นไปที่พัฒนาการและการเติบโตของร่างกาย นอกจากนี้จะมีการประเมินสุขภาพจิตต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถมั่นใจได้ว่า เด็กๆ ของเรามีพัฒนาการและการเติบโตที่ดีและสมบูรณ์ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ

Q: จำเป็นต้องตรวจมะเร็งทุกชนิดทุกปีหรือไม่
   อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นคือ เราไม่จำเป็นต้องใส่โปรแกรมตรวจคัดกรองมะเร็งเข้ามาอยู่ในการตรวจสุขภาพประจำปี ทุกปี โดยเราสามารถประเมินความเสี่ยง และเว้นระยะการตรวจคัดกรองโรงมะเร็งตามความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงด้านพฤติกรรมหรืออายุ ตัวอย่างเช่น การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ ผู้ที่อายุเกิน 50 ปี ควรตรวจคัดกรองเป็นประจำทุก 5 ปี สำหรับผู้หญิงควรตรวจภายในและตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุก 1-2 ปี แต่หากว่าไม่พบสิ่งผิดปกติในรอบ 5 ปี ก็อาจจะเว้นระยะห่างไปได้ 

Q: การตรวจสุขภาพประจำปีจำเป็นจริงๆ ใช่ไหม
   ขอตอบว่า “จำเป็น” เพราะการตรวจสุขภาพประจำปีแม้ว่าจะเป็นการตรวจขั้นพื้นฐานก็ช่วยตรวจสอบความเสี่ยงของการเกิดโรคที่มีความสัมพันธ์กัน เช่น หากว่าเรามีระดับน้ำตาลในเลือดสูง เราก็เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้ ด้วยเหตุนี้ อย่างน้อยๆ เราก็ควรจะตรวจสุขภาพประจำปีขั้นพื้นฐานเป็นประจำ เพื่อตัวเราเอง

ใครที่ยังลังเลไม่อยากจะไปตรวจสุขภาพประจำปี ขอบอกว่าอย่าลังเล เพราะหากว่าเจ็บป่วยขึ้นมา ค่ารักษาพยาบาลแพงกว่าค่าตรวจอย่างแน่นอน

    หลายคนอาจมองว่า การติดฟิล์มกรองแสงอาคารนั้นต้องเลือกจากฟิล์มที่มีราคาถูกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะไม่ว่าจะเป็นฟิล์มยี่ห้อไหนก็สามารถใช้งานได้เหมือนกันหมด แต่ในความเป็นจริงแล้ว ฟิล์มกรองแสงสำหรับติดอาคารนั้นมีด้วยกันมากมายหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นเองก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป และถ้าหากเลือกฟิล์มไม่เหมาะกับตัวอาคารเมื่อไหร่ นอกจากไม่ทนทานต่อการใช้งานแล้ว ฟิล์มที่ได้ก็อาจจะไม่มีคุณภาพทำให้ต้องเสียเงินและเวลาในการเปลี่ยนบ่อย ๆ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มต้นทุนโดยใช่เหตุ ซึ่งในวันนี้ หากใครไม่อยากเสียเงินฟรีไปกับการติดฟิล์มกรองแสงอาคารที่ไม่มีคุณภาพล่ะก็ ขอเชิญพบกับ 3 เคล็ดลับเลือกฟิล์มติดอาคารที่ช่างมักแนะนำให้ลูกค้าพิจารณาก่อนตัดสินใจ แล้วแต่ละวิธีจะมีอะไรบ้าง มาดูไปพร้อมกันเลย!


เลือกประเภทฟิล์มให้เหมาะกับการใช้งาน
   ก่อนที่จะเลือกติดฟิล์มกรองแสงอาคาร สิ่งแรกที่ควรศึกษาและทำความเข้าใจให้ดี คือ คุณสมบัติของฟิล์มแต่ละประเภท เพราะถ้าหากเลือกฟิล์มที่ไม่เหมาะกับการใช้งานก็อาจทำให้ฟิล์มทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ กรองแสงไม่ได้จริง หรือซ้ำร้ายอาจหลุดร่อนออกมาเนื่องจากการติดตั้งที่ไม่คำนึงถึงทางเข้าออกของแสง แต่โดยทั่วไปแล้ว ฟิล์มนาโนเซรามิกและฟิล์มกรองแสงนั้นมักนิยมนำมาติดอาคารมากกว่าฟิล์มกรองแสงเคลือบปรอท เพราะนอกจากจะมักผิดกฎหมาย และฟิล์มประเภทนี้ยังไม่เป็นที่นิยมในการนำมาติดฟิล์มกรองแสงอาคารมากนัก เนื่องจากสารปรอทที่เคลือบฟิล์มอาจสะท้อนแสงจนเข้าดวงตาผู้อื่นจนเกิดอันตรายได้

ดูความเข้มแสงให้ดี
   ความเข้มแสงถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกฟิล์มกรองแสงอาคารเลยก็ว่าได้ โดยความเข้มแสงที่กำลังพอเหมาะนั้น นอกจากจะช่วยทำให้การอาศัยอยู่ภายในอาคารสบายและเย็นขึ้นแล้ว การทำงานในอาคารที่มีแสงพอเหมาะยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของชิ้นงานและการทำงานได้เป็นอย่างดี ดังนั้น อย่าลืมเลือกฟิล์มที่มีแสงกำลังพอดี ไม่มืดทึมจนทำให้ดูอึดอัด หรือไม่สว่างจนเกินไปจนทำให้ดวงตาล้า

ดูรีวิวร้านติดฟิล์มให้เป็น
   และเมื่อเลือกฟิล์มและความเข้มของฟิล์มกรองแสงอาคารที่ต้องการได้แล้ว สิ่งสุดท้ายที่ต้องเลือกสรรให้ดีก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากคุณภาพและฝีมือของร้านรับติดฟิล์มอาคาร หลายคนอาจมองว่า การพิจารณารีวิวร้านเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เราได้ร้านติดฟิล์มคุณภาพสูงได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่า รีวิวแต่ละอันนั้นมาจากไหน มีเงื่อนไขอะไรหรือเปล่า เช่น บางร้านอาจมีการมอบส่วนลดให้กับการรีวิวสินค้า ในขณะที่อีกร้านอาจมีรีวิวที่คะแนนน้อยจากการที่ลูกค้าสั่งของผิดและโทษร้านก็เป็นได้ ดังนั้น พยายามเช็กรีวิวของทุกคะแนน และดูเหตุผลของแต่ละรีวิวให้ครบถ้วนก่อนจะตัดสินใจและปักใจเชื่อว่าร้านที่สนใจมีคุณภาพงานเป็นแบบไหน

   ง่าย ๆ เพียง 3 วิธีแค่นี้ เราก็จะสามารถเลือกฟิล์มกรองแสงอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะกับอาคารของเราแล้ว อย่าลืมนำวิธีที่นำมาฝากในวันนี้ไปลองปรับใช้และเลือกฟิล์มที่เหมาะกับเราด้วยนะ

   กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยสีสัน แต่งแต้มด้วยความมีชีวิตชีวาของคนกรุงที่ออกมาใช้ชีวิตกันอย่างคึกคัก สังคมเมืองที่เร่งด่วนในปัจจุบันกับยามเย็นที่คลาคล่ำไปด้วยแสงไฟจากรถยนต์ จนในที่สุดได้กลายเป็นภาพชินตาของคนทั่วโลก แต่เคยสงสัยไหม? วิถีชีวิตคนกรุงเทพในสมัยก่อนเป็นอย่างไร ดำเนินไปด้วยความเร่งรีบหรือถ้อยทีถ้อยอาศัย เราจะพาคุณไปสัมผัสเสน่ห์วิถีชีวิตคนกรุงในยุคสมัยต่าง ๆ ผ่านพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ เต็มอิ่มกับความสุขแบบคนไทยรุ่นเก่า ตามไปกันเลย



นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ (Rattanakosin Exhibition Hall)

   ที่แห่งแรงที่เราจะพาไปสัมผัสวิถีชีวิตคนกรุงเทพตั้งแต่เริ่มต้นยุครัตนโกสินทร์ เชื่อว่าเป็นสถานที่ที่มีชื่อคุ้นหูหลาย ๆ คนอย่างแน่นอนกับ “นิทรรศรัตนโกสินทร์” ที่ตั้งยู่ใกล้วัดพระราชนัดดาราม จัดเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่รวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมของสมัยรัตนโกสินทร์ โดยเริ่มเปิดให้ประชาชนเข้าชมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 นับจนถึงพุทธศักราชปัจจุบันเป็นเวลารวม 11 ปีแล้ว สถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในจุดหมายการท่องเที่ยวจังหวัดกรุงเทพมหานครที่ชาวไทยละชาวต่างชาติต้องมาเยือน เพราะนอกจากจะมีนิทรรศการจัดแสดงให้ดู ยังใกล้สถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง ทั้งป้อมมหากาฬ เสาชิงช้า ศูนย์วัฒนธรรมอาเซียน พระบรมมหาราชวัง ฯลฯ ในระยะที่สามารถเดินถึงกันได้ สำหรับนิทรรศน์รัตนโกสินทร์นั้น เป็นศูนย์จัดแสดงแบบอาคาร 4 ชั้น ซึ่งจะนำเสนอเรื่องราวในยุคสมัยรัตนโกสินทร์ผ่านห้องจัดแสดงที่ตั้งชื่อไว้คล้องจองกัน 2 เส้นทาง เส้นทางที่ 1 มีห้องหมายเลข 1-7 ตามลำดับ และ เส้นทางที่ 2 มีห้องหมายเลข 8-9 ซึ่งจะนำเสนอตั้งแต่ประวัติความเป็นมา เกร็ดความรู้ มหรสพ ประวัติพระมหากษัตริย์แต่ละรัชกาล และวิถีชีวิตของชุมชนคนไทย ที่จะให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์วิถีชีวิตคนกรุงเทพในทุกยุคสมัยด้วยสื่อผสม 4 ฉากจำลอง เหมือนเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นเลยทีเดียว

พิพิธบางลำพู

พิพิธบางลำพู พิพิธภัณฑ์เสมือนจริงที่จะพาผู้คนย้อนอดีตไปเยี่ยมชมบางลำพูในวันวาน เผยเสน่ห์ของวิถีชีวิตคนกรุงเทพในชุมชนบางลำพูในอดีต ทั้งความเป็นมาของชุมชนที่รวมไว้ซึ่งความหลากหลายทางเชื้อชาติในยุคต้นของรัตนโกสินทร์ด้วยการจำลองบรรยากาศเสมือนจริงทั้งกลิ่นอาย สภาพแวดล้อมผ่านห้องจัดแสดงต่าง ๆ ประยุกต์การนำเสนอด้วยเทคโนโลยีช่วยให้น่าสนใจยิ่งกว่าเดิม ซึ่งจุดเด่นของพิพิธบางลำพูคือการแบบโดยสร้างพื้นที่เพื่อรองรับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และเด็ก เพื่อให้ผู้ชมทุกช่วงวัยเข้าชมได้อย่างสะดวก สำหรับใครที่อยากสัมผัสความรู้สึกย้อนยุคไปเป็นคนกรุงในชุมชนบางลำพู ไม่ควรพลาด

พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต ป้อมมหากาฬ

   ย้อนเวลาสัมผัสวิถีชีวิตคนกรุงเทพกับพิพิธภัณฑ์สุดท้าย ที่ป้อมมหากาฬแห่งนี้ พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต อีกหนึ่งสถานที่ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางชุมชน และอยู่กลางแจ้งที่เกิดจากความร่วมมือของคนในชุมชน พวกเขารวมตัวกันพัฒนาชุมชนบ้านไม้โบราณจนกลายเป็นสถานที่ที่นำเสนอวิถีชีวิตคนกรุงเทพในชุมชนแห่งนี้ สัมผัสกลิ่นอายความเป็นไทยผ่านลำคลองเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “คลองโอ่งอ่าง” ที่ขุดมาตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ พร้อมบ้านไม้โบราณ บ้านไม้ทรงไทยยกใต้ถุน ที่เริ่มก่อสร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 และไฮไลท์ต้นไม้ใหญ่เก่าแก่ผู้ให้ร่มเงากับชาวชุมชนมากว่าร้อนปี อีกทั้งยังมีการนำเสนอการทำอาชีพดั้งเดิม เช่น การทำกรงนกเขาชวาแบบมือ การปั้นเศียรพ่อแก่ ที่นับว่าหาดูได้ยากในปัจจุบันเพราะเหลือช่างฝีมือเพียงคนเดียว หรือแม้กระทั่งการทำเครื่องดนตรีแบบโบราณ เห็นแบบนี้แล้วควรไปเยือนสักครั้ง เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!