เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะเคยมีประสบการณ์มีอาการเจ็บหน้าอก ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บหน้าอกแบบเป็นๆ หายๆ หรือเป็นแบบถี่ๆ กันมาก่อน ซึ่งอาการเจ็บหน้าอกแบบที่เป็นๆ หายๆ หรือเป็นถี่ๆ แบบเรื้อรังนั้นเป็นอาการที่เราไม่ควรละเลยแต่อย่างใด เพราะจริงๆ แล้วอาจจะเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายที่เกี่ยวข้องกับหัวใจก็เป็นได้ แต่หลายๆ คนที่มีอาการเจ็บหน้าอกก็คงจะลังเลว่าจะไปพบแพทย์ดีหรือไม่ หรือสงสัยว่าตัวเองจะเป็นโรคร้ายอะไรหรือเปล่า ในบทความนี้เราจะมาบอกข้อมูลเบื้องต้นของโรคที่อาจเกิดขึ้นจากอาการเจ็บที่บริเวณหน้าอกให้ทุกคนได้อ่านกันว่าจะใช่สัญญาณเตือนโรคร้ายหรือไม่ หรือต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง ไปอ่านกันเลย


เจ็บหน้าอกเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายใช่หรือไม่?
   อาการเจ็บที่บริเวณหน้าอกนั้น หากเป็นแค่ครั้งเดียว หรือนานๆ เป็นที และอาการไม่รุนแรงมาก ก็ยังไม่ค่อยน่ากังวลมากเท่าไรนัก แต่หากใครมีที่มีอาการรุนแรง และมีอาการอื่นร่วมด้วย อย่างอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก รู้สึกเจ็บแสบบริเวณลิ้นปี่ เหงื่อออกท่วมตัว คลื่นไส้ เวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม รวมถึงมีอาการอย่างเรื้อรัง ก็อาจเป็นสาเหตุของโรคร้ายได้เช่นกัน

โรคที่อาจสัมพันธ์กับอาการดังกล่าว
- โรคเกี่ยวกับระบบหัวใจ และหลอดเลือด
- โรคปอดบางชนิด
- ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน
- ภาวะหัวใจล้มเหลว

ปฏิบัติตัวอย่างไรดี?
   สำหรับคนที่มีอาการเรื้อรัง และมีอาการอื่นร่วมด้วยดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น ก็แนะนำว่าควรเข้าไปพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์ทำการวินิจฉัยต่อไป เพราะอย่างภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ก็อาจทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลย และยิ่งหากคุณมีอายุมากพอสมควร และมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ อย่างความดัน โรคเบาวหวาน หรือมีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ ก็ยิ่งควรเข้าไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย

   นอกจากนี้คุณก็ยังสามารถป้องกันโรคเหล่านี้ได้ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ อย่างโรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง รวมถึงทำการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อที่หากเป็นโรคอะไรขึ้นมา ก็จะได้ทำการรักษาได้ทันนั่นเอง

   หากใครที่มีอาการเจ็บหน้าอก แต่ยังลังเลว่าจะต้องไปพบแพทย์หรือไม่ ก็ควรคอยสังเกตอาการตัวเองอยู่เรื่อยๆ ว่ามีอาการอื่นร่วมด้วยหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นอาการแน่นหน้าอก, หายใจไม่สะดวก, เจ็บแสบบริเวณลิ้นปี่, เหงื่อออกท่วมตัว ฯลฯ ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ก็ควรรีบเข้าไปพบแพทย์ทันที เพื่อที่จะรักษาได้ทัน เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปว่าอาการเหล่านี้ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายที่เกี่ยวข้องกับระบบหัวใจหรือหลอดเลือดก็เป็นได้






 

   นอกจากจะหมั่นล้างรถและทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมอยู่เป็นประจำแล้ว การตามหาแพ็คเกจเคลือบแก้วที่คุ้มค่าเองก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้รถคันโปรดทุกคนนั้นสวยอยู่คู่กับเราได้ยาวนานขึ้น และเมื่อเป็นเช่นนี้ คนรักรถหลาย ๆ คนที่กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะเลือกการเคลือบแก้วแบบไหนให้กับรถคู่ใจอาจเกิดความสงสัยว่า เราจะเลือกแพ็คเกจเคลือบแก้วยังไงให้คุ้มค่า แล้วแต่ละแพ็คเกจนั้นประกอบไปด้วยบริการอะไรบ้าง หากสงสัยก็อย่ารอช้า เพราะวันนี้เรามาพร้อมกับข้อมูลดี ๆ ที่จะช่วยทำให้ตัดสินใจใช้บริการเคลือบแก้วได้ง่ายขึ้น ว่าแล้วก็ตามมาเลย!


ตรวจสอบน้ำยาเคลือบแก้วที่ใช้
ก่อนจะไปที่เราจะไปดูเรื่องราคาของการเคลือบแก้วนั้น สิ่งหนึ่งที่ต้องทำความเข้าใจเป็นเรื่องแรก ๆ คือ น้ำยาเคลือบแก้วที่ต่างชนิดกันก็จะส่งผลให้ราคาแพ็คเกจเคลือบแก้วนั้นแตกต่างกัน โดยในปัจจุบันนี้ ในประเทศไทยยังไม่สามารถผลิตน้ำยาเคลือบแก้วที่มีคุณภาพเป็นของตัวเองได้ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจทำทุกครั้ง ต้องแน่ใจให้ได้ว่าทางร้านใช้น้ำยาประเภทไหน ความแข็งเป็นอย่างไร อยู่ได้ทนทานแค่ไหน เป็นต้น และที่สำคัญ หากเจอร้านรับเคลือบแก้วที่ยืนยันว่า ทางร้านผลิตน้ำยาเองจึงทำให้การเคลือบแก้วมีราคาถูกนั้นก็ขอให้ระวังไว้ให้ดี เพราะแพ็คเกจราคาถูกที่มาพร้อมกับน้ำยาไม่มีคุณภาพก็อาจทำให้ผิวของรถเสียหายมากกว่าที่คิด

ความน่าเชื่อของร้านรับทำเคลือบแก้ว
   นอกจากตัวน้ำยาจะมีผลต่อราคาแพ็คเกจเคลือบแก้วแล้ว ความน่าเชื่อถือของร้านให้บริการเองก็จัดเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งร้านที่มีความน่าถือเชื่อนั้นจะสามารถชี้แจงให้ผู้ใช้บริการทุกคนได้ทราบอย่างชัดเจนว่า ทางร้านใช้น้ำยาอะไร การบริการแต่ละครั้งจะได้อะไรบ้าง และที่สำคัญ ทางร้านจะสามารถเปิดให้ผู้รับบริการเห็นแบบชัด ๆ ได้เลยว่า การเคลือบแก้วแต่ละขั้นตอนที่ร้านนั้นเป็นอย่างไร

การรับประกันคุณภาพรวมถึงเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น
   โดยส่วนใหญ่แล้ว แพ็คเกจเคลือบแก้วนั้นจะมาพร้อมกับการรับประกันคุณภาพตามชนิดของน้ำยาที่ใช้ โดยอายุการใช้งานนั้นเป็นได้ตั้งแต่ 3 เดือนไปจนถึง 4 ปีเลยทีเดียว ซึ่งหากอายุการใช้งานนาน ราคาการเคลือบก็จะยิ่งสูงตาม และนอกจากจะดูเรื่องการรับประกันคุณภาพของน้ำยาแล้ว ต้องดูให้ดีว่า ถ้าหากเกิดเหตุฉุกเฉินอย่างรถชนขึ้นมา แพ็คเกจที่เราซื้อนั้นจะครอบคลุมประกันอุบัติเหตุหรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้น เราอาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อเคลือบแก้วชิ้นใหม่ด้วยก็เป็นได้

จำนวนครั้งที่สามารถทำได้และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เพิ่มเติม
   ความคุ้มค่าของแพ็คเกจเคลือบแก้วที่คนรักรถต้องใส่ใจ คือ จำนวนครั้งที่แพ็คเกจนั้นครอบคลุม ถ้าหากจำนวนครั้งไม่สมดุลกับราคาที่จ่าย เราก็ต้องถามให้ชัดเจนและให้ทางร้านชี้แจงได้ว่า การบริการแต่ละครั้งมีอะไรบ้าง ใช้ได้นานเท่าไหร่ และมีขั้นตอนอย่างไร เป็นต้น เพราะหากไม่เช็กให้ดีและดูอย่างเดียวว่าได้จำนวนครั้งมาก รถของเราอาจไม่ได้รับการดูแลที่ดีที่สุดในแต่ละครั้งก็เป็นได้ และนอกจากจำนวนครั้งแล้ว เราก็ต้องตรวจสอบสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อย่างการแถมบริการต่าง ๆ อย่างทำความสะอาดรถฟรี การเคลือบเบาะ เคลือบกระจก หรือเคลือบล้อแมกซ์ เพื่อความคุ้มค่าสูงสุดอีกด้วย

   “สิว” เป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวที่ทำให้หลายคนหมดความมั่นใจ เพราะนอกจากจะทำให้แต่งหน้ายากแถมยังต้องเสียเงินค่าหมอและค่าสกินแคร์จำนวนมากมารักษาหน้าแล้ว สิวยังชอบทิ้งอารยธรรมที่จัดการยากอย่างรอยดำหรือรอยแผลเป็นไว้บนใบหน้าอีกด้วย ในเมื่อเป็นแบบนี้ คนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่า การทายาแต้มสิวหรือครีมรักษารอยดำจากสิวนั้นจะเป็นคำตอบสุดท้ายของการกำจัดสิวที่มีประสิทธิภาพ แต่!!! ก่อนที่ข้ามไปถึงการรักษารอยดำจากสิวนั้น เรามาทำความเข้าใจผิวและประเภทผิวของตัวเองเพื่อเลือกครีมรักษาได้อย่างตรงจุดกันก่อนดีกว่า

รอยดำจากสิวเกิดจากอะไร?
   หลาย ๆ คนคงคิดว่ารอยดำ รอยแดง และรอยแผลเป็นจากสิวนั้นเป็นแผลจากสิวที่สามารถใช้ครีมรักษาประเภทเดียวกันได้ ในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่สิวทิ้งไว้บนใบหน้า แต่รอยดำและรอยแดงนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง
รอยแดง: เกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังจนทำให้เส้นเลือดฝอยขยายตัว โดยทั่วไปแล้ว รอยแดงสามารถหายได้ภายใน 2-3 เดือนเนื่องจากผิวหนังจะสร้างเซลล์เนื้อเยื่อขึ้นมาทดแทนเซลล์ที่เกิดการอักเสบและถูกทำลายไป
รอยดำและรอยแผลเป็นจากสิว: จริง ๆ แล้วสามารถเกิดได้หลายกรณี เช่น หากช่วงกำลังเป็นสิวแล้วมีการอักเสบใต้ผิวหนังเกิดขึ้น ร่างกายจะหลั่งสารอักเสบออกมาพร้อมสร้างทำเมลานินและส่งตรงไปยังที่ที่มีการอักเสบ ซึ่งผลลัพธ์ของกระบวนการนี้จะทำให้เกิดรอยดำและสีผิวไม่สม่ำเสมอตรงบริเวณสิวขึ้นมา ส่วนรอยแผลเป็นนั้นเกิดจากการแกะและบีบสิวด้วยมือที่ไม่สะอาดจนทำให้สิวบวมแดงและเกิดการอักเสบมากขึ้นนั่นเอง

เลือกครีมรักษารอยดำจากสิวอย่างไร?
   การเลือกครีมรักษารอยดำจากสิวเริ่มต้นจากการสำรวจสภาพผิวของตัวเองเสียก่อน มิเช่นนั้น ครีมรักษาอาจทำให้เกิดสิวมากกว่าเดิมก็เป็นได้ โดยเราขอแบ่งผิวออกเป็น 4 ประเภทดังนี้
ผิวแห้ง
หลายคนคงงงว่าทำไมคนผิวแห้งถึงเป็นสิวหรือสิวอักเสบได้? ในความเป็นจริงแล้ว ทางการแพทย์มีทฤษฎีที่เสนอว่า บางคนอาจมีสภาวะผิวแห้งเทียมหรือผิวขาดน้ำเกิดขึ้น และสภาวะนี้จะกระตุ้นให้ผิวหนังสร้างไขมันมากขึ้นและทำให้เกิดสิวขึ้นมาได้
หากสิวหายแล้ว: ดื่มน้ำให้มาก ๆ และควรเลือกครีมรักษารอยสิวที่มีสารช่วยบำรุงและกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว
ผิวมัน
เป็นผิวที่เกิดจากการที่ต่อมไขมันสร้างน้ำมันออกมาจากรูขุมขนมากเกินไป หากเลือกครีมไม่ดีอาจทำให้รูขุมขนอุดตันและเป็นสิวอักเสบขึ้นมาได้
หากสิวหายแล้ว: ควรเลือกครีมเนื้อบางเบาซึมง่าย และไม่มีน้ำมันผสม
ผิวผสม
เป็นผิวที่มีการผสมผสานกันระหว่างประเภทของผิวมากกว่า 1 ประเภท ซึ่งแต่ละโซนบนใบหน้าอาจมีประเภทผิวไม่เหมือนกัน เช่น ผิวบริเวณ T-Zone อาจจะเป็นผิวแห้ง และผิวแก้มอาจจะเป็นผิวมัน เป็นต้น
หากสิวหาย: ควรใช้ครีมที่เหมาะกับทั้งคนผิวแห้งและคนผิวมัน และหมั่นสังเกตว่าผิวบนใบหน้าส่วนไหนต้องใช้ครีมตัวไหนเป็นพิเศษ
ผิวแพ้ง่าย
เป็นผิวที่ไวต่อสารเคมีและสภาพอากาศ มักเกิดการอักเสบบนผิวได้ค่อนข้างง่าย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้ครีมที่ผ่านกระบวนการแต่งสีและกลิ่นหรือมีกรดเป็นส่วนประกอบ เพราะอาจทำให้ผิวบางลงและไวต่อสารเคมีมากยิ่งขึ้น
หากสิวหายแล้ว: ควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อผิว

   สุดท้ายนี้ การเลือกครีมรักษารอยดำจากสิวที่เหมาะกับผิวเป็นหนึ่งวิธีที่ช่วยลบเลือนรอยไม่พึงประสงค์บนใบหน้าได้ก็จริง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในเรื่องของการดูแลสิวก็ยังคงหนีไม่พ้นการรักษาความสะอาดหน้าอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากเราล้างหน้าอย่างสะอาดหมดจดและไม่เอามือไปแกะหรือเกาสิวที่เกิดขึ้นแล้วล่ะก็ รับรองได้ว่าสิวหายแถมไม่ทิ้งรอยให้กวนใจอีกด้วย

   สำหรับคุณพ่อคุณแม่น้องหมามือใหม่หลายๆ คนก็อาจจะยังไม่ทราบว่าจริงๆ แล้วอาหารสุนัขนั้นมีทั้งแบบเปียกและแบบแห้ง เพราะอาหารสุนัขส่วนมากที่เราจะเห็นตามร้านขายอาหารสัตว์บ่อยๆ และได้รับความนิยมอย่างมากนั้นก็คืออาหารสุนัขแบบแห้ง แต่รู้หรือไม่ว่า ไม่ว่าจะเป็นอาหารสุนัขแบบเปียกหรือแบบแห้งก็มีข้อดีด้วยกันท้ังสิ้น แต่อาจจะมีความเหมาะสมที่แตกต่างกันไป ซึ่งหลายๆ คนก็คงจะมีคำถามว่าแล้วเราควรจะเลือกอาหารสุนัขแบบเปียก หรือแบบแห้งดี ที่จะทำให้น้องหมาทานได้อย่างมีความสุข แถมยังดีต่อสุขภาพของน้องหมาอีกด้วย ในบทความนี้เราได้รวบรวมข้อดีของอาหารแต่ละประเภทให้คุณได้ทำความเข้าใจกัน เพื่อที่จะได้เลือกอาหารให้น้องได้อย่างถูกต้อง

ข้อดีของอาหารสุนัขแบบเปียก
   ข้อดีที่เห็นได้ชัดที่สุดเลยก็คืออาหารแบบเปียกนั้นสามารถทานได้ง่ายอย่างมาก เนื่องจากมีปริมาณน้ำอยู่ในอาหารมาก ทำให้อาหารมีความนิ่ม อีกทั้งยังเหมาะอย่างยิ่งกับน้องหมาที่ไม่ชอบดื่มน้ำด้วยตัวเอง เพราะการทานอาหารสุนัขแบบเปียกจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในร่างกายของน้องหมาได้ดี นอกจากนี้ อาหารเปียกก็ยังมีกลิ่น และรสสัมผัสที่ดีสำหรับน้องหมาอีกด้วย  ดังนั้นจึงเป็นการกระตุ้นให้น้องหมาที่ไม่ชอบทานอาหารสามารถทานได้มากขึ้น แถมยังทำให้สุขภาพช่องปากน้องหมาดีขึ้น

ข้อดีของอาหารสุนัขแบบแห้ง
   เนื่องจากอาหารสุนัขแบบแห้งนั้นจะมีลักษณะแข็งระดับหนึ่ง จึงสามารถช่วยขัดฟัน และลดคราบหินปูนได้อย่างดี นอกจากนี้ก็ยังทำให้สุนัขบางพันธุ์มีกลิ่นตัวน้อยลง และสามารถขับถ่ายได้ง่ายและเป็นก้อน ทั้งยังมีราคาไม่แพง และมีให้เลือกหลายเกรดด้วยกัน สามารถจัดเก็บได้ง่าย ไม่เสียง่าย และสะดวกสำหรับพ่อแม่น้องหมาสุดๆ

เลือกอาหารสุนัขแบบเปียก หรือแบบแห้งดี?
   อย่างที่ได้กล่าวไปว่าอาหารสุนัขแบบเปียกและแบบแห้งนั้นมีข้อดีอยู่ด้วยกันทั้งคู่ แต่อาหารสุนัขแบบเปียกจะเหมาะกับน้องหมาที่ทานอาหารยาก และไม่เจริญอาหารเพราะสามารถทานได้ง่ายกว่ามาก ในขณะที่อาหารสุนัขแบบแห้งนั้นจะเหมาะกับน้องหมาที่มีปัญหาเรื่องช่องปาก อย่างกลิ่นปาก และคราบหินปู รวมถึงพ่อแม่น้องหมาที่มีงบไม่สูงมาก เพราะอาหารแบบแห้งนั้นมีให้เลือกหลายเกรด และหลายราคาด้วยกัน

   หากพ่อแม่น้องหมาคนไหนยังไม่รู้ว่าจะเลือกอาหารแบบเปียก หรือแบบแห้งดี ก็แนะนำว่าให้พิจารณาจากสุขภาพ หรือปัญหาของน้องหมาดู แต่หากน้องหมาไม่ได้มีปัญหาเรื่องสุขภาพใดๆ ก็อาจลองเลือกอาหารที่ช่วยบำรุงน้องหมาได้ ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงขน ผิวหนัง หรือสุขภาพฟัน ก็จะช่วยให้คุณสามารถเลือกอาหารที่เหมาะสมกับน้องหมาได้ง่ายมากขึ้นเลยล่ะ
 

   นาทีนี้ จะเป็นสายออกกำลังกายในฟิตเนส หรือสายลุย ชอบออกมาวิ่งกลางแจ้งและทำกิจกรรมเอาท์ดอร์ก็ต้องรู้จักไอเท็ม “ของมันต้องมี” ของดีปี 2021 (และอีกหลายๆ ปี) อย่าง Fitbit Versa สมาร์ตวอทช์แนวใหม่ที่เกิดมาเพื่อการใช้ชีวิตประจำวันตามสไตล์คนรักสุขภาพโดยเฉพาะ ซึ่งตัวนี้ก็ได้เปิดตัวออกมาหลายรุ่น หลายสี พร้อมอุปกรณ์เสริมที่ใช้ร่วมกันมากมาย หลายๆ คน ทั้งที่ยังไม่เคยใช้และกำลังใช้แบรนด์อื่นอยู่จึงอดไม่ได้ที่จะเล็งเจ้านาฬิกาอัจฉริยะแบรนด์นี้ไว้สักเรือน
   สำหรับใครที่ยังลังเล เราก็มีรีวิวผลิตภัณฑ์มาฝากกัน เพื่อประกอบการตัดสินใจ

Fitbit Versa นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นน้องที่ครองใจผู้ใช้ได้ไม่ยาก
   ใครที่อยู่ในวงการนาฬิกาออกกำลังกายน่าจะรู้จักแบรนด์ Fitbit ที่เดิมที่ทำนาฬิกาอัจฉริยะจำหน่ายอยู่แล้ว โดยแบรนด์นี้ก็ได้ออกแบรนด์รุ่นน้องที่มีราคาจับต้องได้มากขึ้น มาในดีไซน์ที่แตกต่าง แต่ยังคงคุณภาพในการใช้งานไว้ใกล้เคียงกันกับรุ่นพี่ โดยมีความแตกต่างกัน ดังนี้
รุ่นนี้จะรองรับการใช้งานแบตเตอรี่ได้สูงสุด 4 วัน จากที่รุ่น Ionic เดิมทำได้ถึง 7 วัน ซึ่งในส่วนนี้ก็ไม่มีปัญหา เพราะผู้ใช้หลายคนก็ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหรือในเมือง สามารถชาร์จไฟได้เกือบทุกวันอยู่แล้ว
Versa มีน้ำหนักที่เบากว่า จึงสวมใส่ได้สบายข้อมือยิ่งขึ้นแม้ในคนข้อมือเล็ก
ปรับปรุงเทคโนโลยีการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจให้รองรับการออกกำลังกายที่มี Heart Rate Zone ที่แตกต่างกันในแต่ละชนิด

ฟีเจอร์และคุณสมบัติที่น่าสนใจในนาฬิกาอัจฉริยะสุดสดใส
   นอกจากนั้นแล้ว Fitbit Versa ยังมาพร้อมฟังก์ชันที่รองรับการใช้งานที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง เช่น
ระบบปฏิบัติการ Fitbit OS 2.0 มาพร้อมความรวดเร็วและความเสถียรในการใช้งาน
การออกแบบ UX ที่ให้หน้าจอแสดงผลตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ จึงสะดวกในการอ่านข้อมูลและใช้งาน
Fitbit Versa มาพร้อมฟังก์ชันที่เปรียบเสมือนโค้ชส่วนตัวที่คอยให้คำแนะนำในการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
สามารถใส่ดำน้ำได้ลึกถึง 50 เมตร
มีฟังก์ชันติดตามสุขภาพการนอนหลับแบบอัตโนมัติ
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นเพิ่มเติมได้ พร้อมการฟังเพลงจาก Deezer

ถือว่า Fitnit Versa เป็นนาฬิกาอัจฉริยะหรือสมาร์ตวอทช์ที่ตอบโจทย์คนรักการออกกำลังกายเป็นอย่างมาก เพราะฟังก์ชันต่างๆ นั้นพัฒนามาเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์แบบนี้โดยเฉพาะ แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ใครจะไม่ชอบออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจขนาดนั้น เจ้านาฬิกานี้ก็ยังมีประโยชน์มากในชีวิตประจำวัน เพราะสะดวกกว่าเวลาที่ไม่สามารถหยิบจับโทรศัพท์ได้สะดวก ทั้งยังคอยบันทึกข้อมูลสุขภาพให้ได้ติดตามและดูแลตัวเองง่ายดายขึ้นด้วย



   

 

   การกู้เงินนอกระบบหรือการเปิดบัตรเครดิตใหม่เพื่อมาโปะหนี้ไปเรื่อย ๆ นั้นไม่ใช่ทางออกที่ดีหากมีปัญหาทางการเงิน เพราะการกระทำเช่นนี้จะเป็นการสร้างหนี้ที่ไม่รู้จบ และทำให้เราต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มจนในท้ายที่สุดก็กลายเป็นหนี้หัวโตขึ้นมา ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดเมื่อมีปัญหาทางการเงินนั้น นอกจากจะหยุดสร้างหนี้และบริหารจัดการหนี้ในแบบที่เราจ่ายไหวแล้ว การมองหาแหล่งเงินกู้ในระบบที่ถูกต้องตามกฎหมายก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยให้คุณมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้น และในวันนี้ เราได้รวบรวม 4 แหล่งกู้เงินด่วนกรุงเทพที่ถูกตามตามกฎหมาย อนุมัติไวมาเพื่อช่วยคุณประกอบการตัดสินใจในการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้ชีวิต ว่าแต่จะมีที่ไหนบ้าง? อ่านตามลงมาได้เลย!

พรอมิส (Promise)
   แหล่งกู้เงินด่วนกรุงเทพแห่งแรกที่เรามาฝากในวันนี้นั้นเป็นบริษัทสินเชื่อเพื่อการอุปโภคและบริโภคจากประเทศญี่ปุ่นที่มาเปิดสาขาในประเทศไทย พออ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่า บริษัทจากแดนปลาดิบแห่งนี้จะมีนโยบายการปล่อยกู้และดอกเบี้ยที่เอื้อต่อคนไทยหรือไม่? ซึ่งเราขอบอกได้เลยว่า พรอมิสเป็นสถาบันการเงินที่มีประสบการณ์ในการทำสินเชื่อมาอย่างยาวนานและมีบริการให้คำปรึกษารวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่ให้ความเป็นธรรมกับผู้กู้ทุกเชื้อชาติ โดยเงื่อนไขของการทำสินเชื่อกับพรอมิสนั้นค่อนข้างเป็นมิตรกับทุกคน เพราะนอกจากจะให้วงเงินสูงถึง 5 เท่าของรายได้ต่อเดือนและผ่อนได้นาน 66 เดือนแล้ว พรอมิสยังมีนโยบายปล่อยสินเชื่อโดยไม่ต้องใช้อะไรค้ำประกันและไม่มีค่าปรับหากชำระหนี้ครบก่อนสัญญาอีกด้วย หากคุณกำลังมองหาแหล่งปล่อยเงินด่วนกรุงเทพล่ะก็ พรอมิสจัดเป็นอีกหนึ่งที่ที่คุณควรลองเข้าไปขอคำปรึกษาดูก่อน
   
ธนาคารกรุงเทพ
   หากคุณกำลังมองหาแหล่งปล่อยเงินด่วนกรุงเทพอยู่ ธนาคารกรุงเทพถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีนโยบายการปล่อยสินเชื่อที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย เพราะนอกจากจะเป็นการกู้เงินที่ถูกกฎหมายและมีดอกเบี้ยที่เป็นธรรมแล้ว ธนาคารกรุงเทพยังพนักงานที่เป็นมิตรและพร้อมช่วยเหลือผู้กู้ทุกคนรวมถึงสามารถปล่อยวงเงินให้คุณสูงถึง 5 เท่าของรายได้ได้ภายใน 1-3 วันอีกด้วย และที่สำคัญ หากยิ่งเป็นสินเชื่อเงินด่วนแล้ว คุณก็จะยิ่งมีโอกาสที่จะได้รับการอนุมัติจากธนาคารกรุงเทพที่สูงมากกว่าสินเชื่อทั่วไปอีกด้วย

ศรีสวัสดิ์
   ศรีสวัสดิ์จัดเป็นแหล่งปล่อยเงินด่วนกรุงเทพที่มีประเภทสินเชื่อให้คุณได้เลือกสมัครมากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย โดยนอกจากจะมีสินเชื่อส่วนบุคคลแล้ว ศรีสวัสดิ์ยังให้บริการในเรื่องของสินเชื่อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ประเภทต่าง ๆ รวมถึงบ้านและที่ดิน และที่สำคัญ ศรีสวัสดิ์ยังเป็นสถาบันการเงินอีกหนึ่งแห่งที่สามารถอนุมัติสินเชื่อได้อย่างรวดเร็วในวงเงินที่สูง แถมยังไม่เช็กประวัติทางการเงิน และไม่ต้องใช้ผู้ค้ำประกันอีกด้วย รับรองได้ว่า การกู้เงินจากศรีสวัสดิ์นั้นจะช่วยให้คุณมีเงินมาใช้ได้อย่างสะดวกในอัตราดอกเบี้ยที่สมเหตุสมผล

โดยปกติแล้ว การใช้งานรถบรรทุกจำเป็นที่จะต้องมีอุปกรณ์เพื่อใช้ในการป้องกันฝุ่นและเพื่อช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างปลอดภัยมากที่สุด สำหรับตัวผู้ขับขี่และผู้ใช้รถใช้ถนนในบริเวณนั้นๆ ซึ่งตัวช่วยหนึ่งที่จะขาดไปไม่ได้ก็คือแผ่นยางบังฝุ่นรถบรรทุก ที่จะเข้ามาช่วยจัดการปัญหาของอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างเดินทางได้อีกด้วย ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าแผ่นยางบังฝุ่นสำหรับรถบรรทุกนั้น มีข้อดีและประโยชน์อย่างไรบ้าง สำคัญต่อการใช้งานมากน้อยแค่ไหนกัน

ข้อดีและประโยชน์ของแผ่นยางบังฝุ่นรถบรรทุก
- ลดความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
เนื่องจากการใช้งานรถบรรทุกนั้น มักจะใช้งานในระยะทางไกลๆ อาจจะอยู่นอกพื้นที่หรือห่างไกลจากพื้นที่ชุมชน ถนนยังทำไม่เสร็จ ทำให้ระหว่างการขับรถก็อาจจะเจอฝุ่น ก้อนหิน ดิน โคลน หรือแอ่งน้ำ เป็นต้น ทำให้ขณะขับรถนั้น อาจจะทำให้เกิดฝุ่นฟุ้งกระจาย หรือเศษหินหรือน้ำ ไปชนกับกระจกรถคันอื่น จนทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้ ซึ่งยางบังฝุ่นรถบรรทุกจะเข้ามาช่วยลดปัญหานี้ไปได้อย่างมาก และเพิ่มความปลอดภัยระหว่างเดินทางได้อีกด้วย
- ปกป้องกันชนหลัง
เนื่องจากขนาดของรถบรรทุกนั้นใหญ่ และทำให้มองท้ายไม่ค่อยชัด เวลาถอยหลังก็อาจจะเกิดปัญหาและทำให้กันชนด้านหลังเกิดความเสียหายไป ยางบังฝุ่นรถบรรทุกก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะเข้ามาช่วยป้องกันกันชนหลังไม่ให้เป็นรอยได้อย่างง่ายดาย

วิธีการเลือกยางบังฝุ่นรถบรรทุก
- เลือกแผ่นยางที่มีคุณภาพ: ยางเหนียวแต่นุ่ม กลิ่นไม่เหม็นฉุน
- สามารถทนความร้อนสูงได้
- สีสกรีนติดทนนาน สีไม่หลุดง่าย
- สามารถกันน้ำได้อย่างดี น้ำไม่ซึม
- ยางไม่เป็นขุยง่าย ไม่บวมหรือฉีกขาด
- ตัวยางมีความแข็งแรง ไม่สึกหรอง่าย

เทคนิคการซื้อแผ่นยางบังฝุ่นรถบรรทุก
สำหรับการเลือกซื้อแผ่นยางบังฝุ่นนั้น ปัจจุบันร้านขายอะไหล่รถบรรทุกก็จะมีให้เลือกซื้อทั้งแบบยกม้วนหรือแบบแบ่งขายตามขนาดที่ต้องการ สิ่งที่ควรจะต้องเตรียมไปให้พร้อมก่อนเลือกซื้อก็คือการวัดขนาดของยางบังฝุ่นเก่าให้ดีเสียก่อน เวลามาเลือกซื้อนั้น ก็จะช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะ หรือถ้าเกิดไม่เคยติดยางบังฝุ่น ก็อาจจะต้องพิจารณาเรื่องหน้ากว้างและความหนาของแผ่นยางอีกด้วย แต่ถ้าเกิดใครอยากจะสั่งซื้อแผ่นยางบังฝุ่นของรถบรรทุกผ่านออนไลน์ ปัจจุบันก็มีให้เลือกสั่งกันอย่างมากมายเลยล่ะ แต่ก็ต้องพิจารณากันให้ดีๆ เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ ตรงกับความต้องการ และใช้งานได้อย่างยาวนาน คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์

    หนึ่งในอุปกรณ์สำนักงานที่ทุกออฟฟิศขาดไม่ได้เลยคือ โต๊ะทำงาน ซึ่งการเลือกโต๊ะสำนักงานที่มีฟังก์ชั่นที่หลากหลาย เอื้อต่อการทำงานได้เป็นอย่างดีคือสิ่งที่ทุกบริษัทต้องการ เพราะนอกจากจะต้องมีความแข็งแรง คงทนแล้ว การเลือกจากแบรนด์สินค้าที่มั่นใจได้ทั้งคุณภาพและดีไซน์ยังเป็นอีกหนึ่งเหตุผลของการตัดสินใจ
    วันนี้เราเลยนำตัวเลือกของโต๊ะทำงานในแต่ละแบรนด์มาฝากกัน มาดูกันว่า แบรนด์ไหนน่าซื้อมาใช้ในสำนักงานกันบ้าง


1. COSMOS
    โต๊ะทำงานจาก COSMOS มีดีไซน์ที่เรียบหรู ผลิตจากไม้ Particle Board ส่วนตัวขาโต๊ะผลิตจากเหล็ก ส่วนช่องร้อยสายไฟแบบฝาเปิดผลิตจากอะลูมิเนียม เรียกได้ว่ามาพร้อมกับดีไซน์ที่เหล่านักธุรกิจจะรัก เพราะสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบให้กับองค์กรได้อย่างมากทีเดียว อีกทั้งยังมีส่วนของตัวท็อปโต๊ะให้เลือกหลากสีทั้งสีวอลนัท สีขาว สีเทาเข้ม สีคาปูชิโน่ สีแอชแลนดิด สีโนกาโร่ ส่วนขาโต๊ะมีให้เลือกทั้งสีขาว สีเงิน สีดำ สีฟ้า สีแดง และสีเขียว

ความสูงมีให้เลือกดังนี้
    กว้าง160 X ลึก140 X สูง72 ซม.
กว้าง160 X ลึก160 X สูง72 ซม.
กว้าง180 X ลึก160 X สูง72 ซม.
กว้าง180 X ลึก180 X สูง72 ซม.

2. ZYNERGY
    ชุดโต๊ะทำงานจาก ZYNERGY ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองกับการทำงานอย่างแท้จริง เพราะสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ เรียกได้ว่าออฟฟิศไหนที่ต้องการฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์กับการทำงานที่ไม่หยุดนิ่งเราคงต้องแนะนำโต๊ะสำนักงานจากแบรนด์นี้ โดยวัสดุที่นำมาใช้ใสส่วนของตัวท็อปคือไม้ Particle Board ปิดผิวเมลามีน ส่วนขาโต๊ะทำจากเหล็กสี Power Coat อีกทั้งยังมีสีให้เลือกของท็อปโต๊ะทั้งสีเทาอ่อน สีขาว สีมอคค่า สีเมเปิล สีคาปูชิโน่ ส่วนขาโต๊ะมาให้เลือกทั้งสีขาวและสีเงิน

ความสูงมีให้เลือกดังนี้
กว้าง180 X ลึก180 X สูง72 X ซม.

3. EXTEND V
อีกหนึ่งแบรนด์ที่ต้องพูดถึงคือโต๊ะทำงานจาก EXTEND V ด้วยการสร้างสรรค์โต๊ะทำงานที่มีมิติ อีกทั้งยังเป็นโต๊ะสำนักงานที่มีดีไซน์แบบเส้นโค้งรับรองตัวโต๊ะ เพื่อสร้างความสมดุลของการเคลื่อนไหวร่างกายขณะนั่งทำงาน อีกทั้งยังมีพร้อมกับฟังก์ชั่นร้อยสายไฟที่สามารถเชื่อต่อกับอุปกรณ์สำนักงานต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว ซึ่งวัสดุที่ทำของตัวท็อปโต๊ะผลิตมาจากไม้ Partical Board ปิดผิวเมลามีน ขาโต๊ะทำมาจากเหล็กแป๊บกลม ส่วนสีของท็อปโต๊ะมีให้เลือกทั้งสีขาว สีเมเปิล สีคาปูชิโน่ สีมอคค่า ส่วนขาโต๊ะมีทั้งสีขาว สีดำ และสีเทา

ความสูงมีให้เลือกดังนี้
กว้าง190 X ลึก170 X สูง74.5 ซม.
กว้าง210 X ลึก170 X สูง74.5 ซม.

ชีวิตเปลี่ยนได้ด้วยการเปลี่ยนเบอร์! เป็นที่รู้กันดีว่าชีวิตประจำวันของเราในแต่ละวันนั้นล้วนผูกพันกับตัวเลข ไม่ว่าจะเป็นทะเบียนบ้าน ทะเบียนรถยนต์ เบอร์โทรศัพท์ เลขบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งศาสตร์ของตัวเลขเรื่องเบอร์มงคลหรือเบอร์โชคลาภ นี้เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับเบอร์โทรศัพท์ที่เราต้องใช้พูดคุยสื่อสารกับคนอื่นๆ หรือเจรจาธุรกิจในทุกๆ วัน  โดยมีความเชื่อกันว่าการใช้เบอร์ที่มีพลังของตัวเลขดีจะช่วยเสริมชะตาชีวิตให้ดีขึ้น ทำอะไรก็ราบรื่นไม่มีอุปสรรคมาขวางกั้น สำหรับใครที่อยากมีโชคด้านการเงิน หรือประสบความสำเร็จด้านการเสี่ยงโชค วันนี้เรามีวิธีเลือกเบอร์โชคลาภอย่างง่ายมาให้ทุกคนได้ศึกษากัน หากพร้อมมีชีวิตที่เฮง ปัง และรวยแล้ว ตามมาดูกันเลย!


ห้ามมีเลข 0 ในเบอร์เด็ดขาด

การเลือกเบอร์มงคลนั้นจะดูเลข 7 ตัวท้ายเป็นหลัก ซึ่งหลักของการเลือกเบอร์โชคลาภนั้นมีกฎว่าห้ามมีเลข 0 เข้ามาผสมในเบอร์เด็ดขาด เพราะเลข 0 เป็นเลขมฤตยู ซึ่งขัดโชคลาภ อีกทั้งยังเป็นโรคของโรคภัยไข้เจ็บ ทำให้ชีวิตมีอุปสรรค ไม่ราบรื่น ดังนั้น หากต้องการมีโชคเรื่องการเสี่ยงดวงควรหลีกเลี่ยงเลขนี้

ใช้เลขมงคลกลุ่มให้พลังการเสี่ยงโชค

หากอยากประสบความสำเร็จเรื่องการลงทุนหุ้นหรือการเสี่ยงดวงควรเลือกใช้เบอร์โชคลาภที่มีชุดเลข ดังนี้ เช่น 282 289 595 959 782 789 878 879 939 และ 393 เป็นต้น อย่างไรก็ตาม นอกจากจะมีชุดเลขที่มีพลังส่งเสริมเรื่องการแสวงโชคแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือจะต้องหมั่นทำบุญ ทำกุศลบ่อยๆ ซึ่งจะช่วยเสริมดวงให้มีโชคและร่ำรวยมากขึ้น

ห้ามมีเลขเสียในเบอร์

การเลือกเบอร์โชคลาภให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้นภายในเบอร์จะต้องไม่มีเลขเสียแม้แต่คู่เดียว เช่น 11 12 21 13 31 17 71 18 81 27 72 34 43 37 73 38 83 77 และ 88 เป็นต้น เพราะการมีเลขเสียจะเปิดโอกาสให้สิ่งที่ไม่ดีเล่นงานคุณได้เมื่อดวงชะตาชีวิตตก แม้จะมีเลขดีหลายคู่อยู่ในเบอร์ก็ตาม

เลขท้ายควรเป็นเลขสติ

นอกจากการเลือกเบอร์โชคลาภข้างต้นแล้ว หากให้ดวงชะตาชีวิตดียิ่งขึ้น เลขสองหลักสุดท้ายควรเป็นเลขสติ ซึ่งเป็นตัวเลขแห่งปัญญา เช่น 15 51 45 54 55 56 65 59 และ 95 เป็นต้น เพราะจะช่วยเสริมพลังให้เป็นคนเก่ง สุขุม รอบคอบ แม้จะมีภัยร้ายเข้ามาก็สามารถเอาตัวรอดได้ ไม่มีอดตาย

ทั้งหมดนี้เป็นการเลือกเบอร์โชคลาภด้วยตัวเองง่ายๆ ที่เราได้นำมาฝาก หากใครอยากประสบความสำเร็จลองหาโอกาสเช็กผลรวมเบอร์ของตัวเองแล้วเปลี่ยนเบอร์ที่มีเลขให้พลังมงคลแทน เพื่อช่วยเสริมชะตาชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้น
 

เรื่องของอาการปวดหลังอาจทำให้ใครหลายๆ คนต้องปวดหัวตามไปด้วย เพราะนอกจากจะมีอาการปวดแบบเจ็บจี๊ดเต็มขั้น จนบางครั้งเลยเถิดไปถึงมีอาการปวดหลังร้าวลงขา แต่จะรักษาได้อย่างไร วันนี้เรามีคำตอบ

    อาการปวดหลัง มีสาเหตุมาจากโรคหมอนรองกระดูกสันหลัง โดยอาการที่พบได้บ่อยจะอยู่ช่วงกระดูกสันหลังระดับเอวล่าง ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากมีการใช้งานอย่างหนัก หรือมีการเคลื่อนไหวมาก หรือต้องรับน้ำหนักที่มากเกินไป โดยอาการปวดหลังนี้ สามารถพบได้บ่อยทั้งชายหญิง ช่วงอายุระหว่างช่วงอายุ 20 - 40 ปี ซึ่งสำหรับใครที่มีปัญหากับอาการปวดหลังแบบนี้ ลองมาหาคำตอบกันว่าเมื่อมีอาการแล้วจะมีวิธีการรักษาเบื้องต้นให้กับตัวเองได้อย่างไรบ้าง


1. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงกับการใช้หลัง
   เมื่อมีอาการปวดหลัง สิ่งที่ควรทำคืออย่าเพิ่งคิดการณ์ใหญ่ คุณอาจจะต้องรู้ตัวเองเสียก่อนว่าถ้าดันทุรังอาจจะทำให้เกิดผลร้ายตามมา สำหรับผู้ที่เริ่มเกิดอาการปวดหลัง และอาการเริ่มค่อยๆ แย่ลงจนถึงขั้นปวดมาก ควรลดการทำกิจกรรมใดๆ ที่ทำอยู่ก็ตาม และใช้เวลาเหล่านั้นไปกับการพักผ่อนเพื่อไม่ให้เกิดการบอกช้ำเพิ่มเติม ทั้งควรหลีกเลี่ยงการนั่ง หรือยืน เช่นกัน ควรนอนพักเบื้องต้นจะเป็นสิ่งที่ควรทำที่สุด และควรไปพบแพทย์เพื่อหาทางรักษา เพราะอาการปวดหลังร้าวลงขา สามารถรักษาได้อย่างเพิ่งกังวลไป

2. งดการออกกำลังกายทุกรูปแบบ
   ถ้าเมื่ออาการปวดหลังเริ่มร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นความเรื้อรังในชีวิต ควรเริ่มหันมาดูแลตัวเองสักนิด ซึ่งอาจจะทำได้โดยการงดการออกกำลังที่คุณชอบทุกรูปแบบไปเสียก่อน ให้ร่างกายได้พักฟื้น และเมื่ออาการปวดลงลง อย่าลืมแวะไปปรึกษาแพทย์สักหน่อย อย่าปล่อยให้เป็นแล้วเป็นอีก แต่ถ้าใครที่มีอาการสาหัสจริงๆ อย่างอาการปวดหลังร้าวลงขา ก็ยังรักษาได้ แต่ก็อย่าเพิ่งยิ้มร่าไป เพราะถ้ารักษาหายแล้ว แต่ยังคงกลับมาทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายหนักๆ เหมือนเดิม ก็อาจจะไม่ทำให้อาการปวดหลังนั้นหายขาดได้ อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตเสียใหม่ และหันมาดูแลร่างกายตัวเองให้เพิ่มมากขึ้น

3. รักษาเบื้องต้นด้วยยาแก้ปวด
   สำหรับการรักษาเบื้องต้นสำหรับอาการปวดหลัง นอกจากการนอนพักหรืองดทำกิจกรรมอื่นๆ ที่อาจทำให้คุณเจ็บเพิ่มเติม นั่นคือการรับประทานยาแก้ปวดเพื่อระงับอาการ แต่ถ้าเกิดมีอาการปวดมาก จนเป็นอาการปวดหลังร้าวงลงขาควรไปรักษาได้ด้วยการไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วน ซึ่งขั้นตอนการรักษาอาจจะเริ่มจาก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสอบถามถึงประวัติการใช้ชีวิต เพื่อหาสาเหตุ และอาจตรวจร่างกายเพิ่มเติมด้วยเอกซเรย์ หรือทำเอ็มอาร์ไอ เพื่อค้นหาสาเหตุของอาการปวดอย่างแท้จริง ซึ่งเมื่อพบสาเหตุแล้วจะเริ่มทำการรักษาตามความเหมาะสมกับอาการป่วยของคุณเอง

4. ตรวจร่างกายตั้งแต่เริ่มต้น
   อาการปวดหลังไม่เข้าใครออกใคร ควรเริ่มสังเกตตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะเมื่อใดก็ตามที่เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างของอาการปวดหลัง ควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจเบื้องต้นก็คงไม่เสียหาย เพราะนอกจากเราจะรู้วิธีการดูแลเพิ่มเติมจากอาการที่เกิดจากแพทย์แล้ว ยังจะได้เตรียมตัวอย่างถูกวิธีหากมีอาการปวดหลังร้าวลงขาแต่ก็รักษาได้ ป้องกันได้ จะได้ไม่ต้องกังวลกับการใช้ชีวิตในภายหลังด้วยนั่นเอง

คุณเป็นหรือเปล่ากับการไปเที่ยวต่างประเทศแล้วไม่คิดจะซื้อประกันการเดินทาง? หลายคนคงคิดว่าไม่จำเป็น เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มโดยใช้เหตุ และทุกครั้งที่ไปเที่ยวก็ไม่เห็นจะเจอปัญหาอะไร เลยไม่ต้องซื้อประกัน แต่เราจะโชคดีไปได้สักเท่าไหร่? ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาในต่างแดนคงไม่ดีแน่ และเมื่อถึงตอนนั้นก็คงไม่ทันการแล้ว การเลือกทำประกันการเดินทางต่างประเทศออนไลน์จึงเป็นตัวเลือกสำหรับคนยุคใหม่ คุ้มครองได้ ไม่ยุ่งยาก ให้คุณและคนรอบข้างได้อุ่นใจในทุกทริปที่คุณเดินทาง มาดูข้อดีของการทำประกันการเดินทางต่างประเทศออนไลน์กันดีกว่า


1. ใช้ภาษาไทยในการช่วยเหลือฉุกเฉินทั่วโลก
ทำประกันการเดินทางต่างประเทศออนไลน์ช่วยให้คุณสามารถแก้ปัญหาได้ในขณะเดินทาง ถ้าเกิดคุณไปเที่ยวในประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาสากลหรือตัวคุณเองก็ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษ เมื่อเกิดเหตุด่วนระหว่างการเดินทางผู้ทำประกันก็สามารถรับความช่วยเหลือฉุกเฉินทั่วโลกได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะผู้ที่ให้การช่วยเหลือจะสื่อสารด้วยภาษาไทยหรือภาษาอื่น ๆที่สามารถสื่อสารกันได้อย่างเข้าใจได้ง่าย คุณจึงไม่ต้องห่วงว่าไปเมืองต่างแดน ไปเจอคนแปลกแล้วจะไม่สามารถติดต่อกับใครได้ อุ่นใจมากกว่าไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุ ทำของหาย โดนขโมย

2. การล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง จัดการได้หายห่วง
กระเป๋าเดินทางถือว่ารวบรวมเอาทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับเราเอาไว้แล้ว แต่ถ้าเกิดมีเหตุขัดข้องจากสายการบิน กระเป๋าเดินทางมาช้ากว่าที่คาดการไว้ ชีวิตของคุณและแผนท่องเที่ยวที่วางเอาไว้คงเซ็งไม่เป็นท่า เมื่อทำประกันการเดินทาง จะได้รับความคุ้มครองการล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง กรณีกระเป๋าเดินทางล่าช้าตั้งแต่ 8 ชั่วโมงขึ้นไป บริษัทจะชดใช้เงินคืนแก่ผู้เอาประกัน ไม่เกิน 20% ของทุนประกัน หากล่าช้าตั้งแต่ 16 ชั่วโมง ชดเชยไม่เกิน 30% ของทุนประกัน และกรณี ล่าช้าตั้งแต่ 24 ชั่วโมง เป็นต้นไป ชดเชยไม่เกิน 50% ของทุนประกัน โดยการรับเงินชดเชยต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่แต่ละบริษัทประกันกำหนด

3. ผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการพลาดการเที่ยวบิน
ปัญหาใหญ่ๆ เลยของการไปเที่ยวคือการล่าช้าของเที่ยวบิน รถไฟ หรือเที่ยวเรือ ซึ่งเวลามาช้าทีนึงคือตารางเที่ยวรวนกันไปทั้งทริป ารทำประกันก็จะช่วยชดเชยในส่วนนี้ให้เราได้

4.ทำประกันได้ง่ายๆ ผ่านช่องทางออนไลน์
ยุคนี้การทำประกันไม่ยากอีกแล้ว เพราะการทำประกันการเดินทางต่างประเทศออนไลน์ทำได้ง่ายๆ บนเว็บไซต์หรือบนแอปพลิเคชัน ให้คุณสามารถวางแผนได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น จัดตารางเวลาในชีวิตได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว

หวังว่าข้อดีของการทำประกันการเดินทางต่างประเทศออนไลน์จะชัดเจนมากขึ้น ให้ทุกคนเห็นประโยชน์ที่แท้จริงของการประทำประกัน

การสมัครสินเชื่อบุคคลนั้นเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการมีเงินใช้อย่างเร่งด่วน อีกทั้งการสมัครสินเชื่อนั้นยังไม่จำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกัน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมใครหลายคนจึงเลือกที่จะสมัครสินเชื่อแทนการกู้เงินประเภทอื่น ๆ แต่การสมัครสินเชื่อนั้นก็จะต้องมีการเตรียมตัวและเตรียมเอกสารไม่ต่างจากการกู้ประเภทอื่น ในบทความนี้เราจึงอยากจะมาแนะนำว่า ก่อนสมัครสินเชื่อบุคคลเราจะต้องเตรียมตัวหรือเตรียมเอกสารอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็ว


ในส่วนของการสมัครหรือขั้นตอนการเตรียมตัวนั้นไม่ได้มีความยุ่งยากใด ๆ โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน ก็คือในส่วนของขั้นตอนการตอบคำถาม และขั้นตอนการเตรียมเอกสาร ดังนี้

เตรียมตอบคำถามต่าง ๆ
   คำถามที่มักจะเกิดขึ้นในขั้นตอนของการสมัครขอสินเชื่อบุคคลนั้นก็คือคำถามที่ว่าเราจะเอาเงินไปทำอะไร? ถึงแม้ว่าผู้ให้กู้ส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้นำคำตอบนี้มาพิจารณาในการอนุมัติสินเชื่อสักเท่าไหร่นัก แต่การทราบถึงจุดประสงค์ของการขอสินเชื่อก็จะช่วยให้เราได้รับคำแนะนำที่เหมาะสม ว่าสินเชื่อแบบไหนที่เหมาะกับเรามากที่สุด รวมถึงคำถามในเรื่องของความสามารถในการชำระเงินของเรา ถึงแม้ว่าผู้ให้กู้จะพิจารณาจากเอกสารการเงินต่าง ๆ ของเรา แต่เราก็ควรจะตอบตามความเป็นจริงด้วยเช่นกันว่าเราสามารถชำระหนี้จำนวนเท่านี้ ภายในจำนวนปีเท่านี้ได้หรือไม่ แต่อย่าลืมว่าไม่ควรขอสินเชื่อในจำนวนเงินที่เกินความจำเป็นก็จะดีที่สุด

เตรียมเอกสาร
   การเตรียมเอกสารนั้นไม่ได้มีความยุ่งยากเลย และอย่างที่ทราบกันดีว่าการขอสินเชื่อบุคคลนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเช่นกัน แต่เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าของขั้นตอนการอนุมัติ การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งแต่ละบริษัทอาจมีการขอเอกสารที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่หลัก ๆ นั้นสิ่งที่ต้องเตรียมก็คือการกรอกใบสมัครให้ครบถ้วน เตรียมเอกสารยืนยันตัวตน (บัตรประชาชน พาสปอร์ต ทะเบียนบ้าน หรือใบแจ้งเกิด) เตรียมเอกสารยืนยันการทำงาน เตรียมสลิปเงินเดือนย้อนหลัง และเตรียมรายการเดินบัญชี

อย่างที่เราจะเห็นได้ว่าการเตรียมตัวสมัครสินเชื่อบุคคลนั้นไม่ใช่สิ่งที่ซับซ้อนเลย โดยเริ่มจากการเตรียมตัวในขั้นตอนของการตอบคำถามต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจุดประสงค์ของการขอสินเชื่อ หรือความสามารถในการชำระหนี้ของเรา รวมถึงขั้นตอนการเตรียมเอกสาร ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้วก็จะประกอบไปด้วยเอกสารทางการเงิน และเอกสารยืนยันตัวตนต่าง ๆ ซึ่งหากเรามีการเตรียมตัว เตรียมเอกสารได้ครบ และสามารถแสดงว่าเรามีความสามารถในการชำระหนี้ได้ เชื่อว่าการอนุมัติก็จะเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและไม่ยากเลยล่ะ

ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบความคลีน ความขาว หรือชอบตกแต่งบ้านให้ดูโล่ง โปร่งสบาย ชอบสีขาวและอยากที่จะตกแต่งห้องครัวของคุณเข้ากับความขาวเหล่านั้นก็ต้องบอกว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเอามากๆ เพราะทุกวันนี้ ห้องครัวสีขาวเป็นห้องครัวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะความคลาสสิก เข้ากับทุกสไตล์ และสามารถจับคู่กับสีต่างๆ ได้อย่างดีอีกด้วย แล้วก็ต้องบอกว่าห้องครัวสีขาวนี้ก็ยิ่งช่วยบ้านหรือคอนโดนั้นดูโดดยิ่งขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญเลยก็คือ สีขาวนั้นจะสื่อถึงความบริสุทธิ์ สงบ สะอาด เรียบง่าย และปลอดภัย เรียกได้ว่าการหยิบสีขาวมาประกอบกับห้องครัวนั้นก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน


ขอบคุณรูปจาก kvik.co.th

เฟอร์นิเจอร์และชุดครัว
ต้องบอกว่าห้องครัวสีขาวนั้น เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกมาใช้งานในห้องครัวก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นความคลาสสิกของสีขาวนั้นก็จะช่วยให้สามารถเล่นสีสันเข้ากับตัวห้องครัวได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเคาน์เตอร์ ตู้ ชั้น หรือแม้กระทั่งการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าสีขาวให้เข้ากับตัวเครื่องครัวอีกด้วย ก็ยิ่งเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านได้ แล้วถ้าใครอยากที่จะเลือกใช้เคาน์เตอร์บาร์เป็นสีสันอื่นๆ ทั้งไม้สีอ่อน หินอ่อน ก็ยิ่งเข้ากันเลยล่ะ และที่สำคัญเลยก็คือห้องครัวนั้นควรที่จะเลือกในการใช้งานให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ ไม่กินพื้นที่ และไม่ทำให้รกอีกด้วย

ตกแต่งพื้นและผนังเพิ่มเติม
ถ้าหากคุณอยากเพิ่มความคลาสสิกหรือความโดดเด่นให้กับห้องครัวแบบไม่หลุดธีมก็ต้องบอกว่าการปูผนังด้วยกระเบื้องและเลือกกระเบื้องปูพื้นก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องขาว กระเบื้องดำ กระเบื้องลาย หรือถ้าอยากที่จะเติมสีสันให้กับห้องครัวก็อาจจะเลือกโทนสีตัดกันให้กับห้องครัวสีขาวด้วยก็ได้ หรือจะปูพื้นไม้ให้กับห้องครัว ก็ยิ่งช่วยเพิ่มความสวยให้กับห้องครัวสีขาวของคุณได้อีกด้วย

กระจกและโคมไฟ
เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับห้องครัวสีขาว ก็ต้องบอกว่ากระจกกับโคมไฟก็ยิ่งช่วยเพิ่มมิติให้กับห้องครัวได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการเลือกกระจกกว้างเพื่อเพิ่มบรรยากาศและความอบอุ่นให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในบ้านได้อย่างง่ายดาย รวมไปถึงการเลือกสีของโคมไฟและหลอดไฟที่จะช่วยให้ห้องครัวของคุณนั้นดูคลาสสิกยิ่งกว่าเดิม

และที่สำคัญเลยก็คืออย่าลืมที่จะดูในส่วนของเครื่องครัวและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในห้องครัวด้วยล่ะ เพื่อให้เข้ากับสไตล์มากที่สุด นอกจากนี้แล้วถ้าใครอยากจะเพิ่มความหรูหราและความโดดเด่นนั้นก็อย่าลืมที่จะมองหาของตกแต่งเข้ามาใช้ในห้องครัวอีกด้วยล่ะ เรียกได้ว่าถ้าหากใครกำลังหาข้อมูลในการตกแต่งห้องครัวสีขาวให้กับบ้านหรือคอนโดของคุณอยู่ล่ะก็ อย่าลืมที่จะหยิบไอเดียเหล่านี้ไปใช้ด้วยนะ

คงเคยได้ยินกันมาบ้างใช่ไหมว่าการล้างหน้าที่ดีที่สุด คือการล้างด้วยน้ำเปล่า...คำตอบคือไม่จริง
เนื่องจากตัวน้ำเปล่านั้นสามารถชะล้างเหงื่อ ฝุ่นละออง ต่างๆ แต่ไม่สามารถล้างเอาน้ำมันที่ขับออกมาจากรูขุมขน หรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมันออกได้ และนี่คือต้นเหตุของการเกิดสิว หากต้องการให้ผิวของเราสะอาดใสไร้สิว ควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าลดสิวโดยเฉพาะ


ผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
สำหรับสาวที่มีผิวแห้งและไม่ได้แต่งหน้า ไม่ได้ทาครีม และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีไอน้ำมัน การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าสามารถทำได้ ซึ่งในความเป็นจริงเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยง เพราะแม้แต่ตัวครีมกันแดดเองก็มีน้ำมันแล้ว จึงควรเลือกโฟมล้างหน้าที่ไม่ให้ทำหน้าแห้งตึง  ส่วนสาวๆ ที่มีผิวมันการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าไม่อาจทำความสะอาดได้ล้ำลึก สิ่งสกปรกบนใบหน้าอาจจะยังตกค้างอยู่ ซึ่งสาวๆ ผิวมันมักจะมีปัญหาสิวตามมา การเลือกโฟมล้างหน้าลดสิวที่ไม่ได้ทำให้หน้าแห้งตึงเกินไป จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสาวที่มีผิวมัน

สาเหตุของการเกิดสิวเนื่องจากล้างหน้าผิดวิธี

1.ล้างหน้าหลังออกกำลังกายทันที
การล้างหน้าทันทีหลังออกกกำลังกายเสร็จนั้นทำให้เราเกิดสิวได้! เนื่องจากใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อและไขมันที่ออกมาจากรูขุมขน จะทำให้ผิวหน้ามีความมันมากกว่าปกติ พอเราล้างเอาเหงื่อและไขมันที่ยังไม่หยุดไหลออกมา ส่งผลให้รูขุมขนหดตัวกระทันหัน ไขมัน เหงื่อ และสิ่งสกปรกก็คั่งค้างอยู่ในรูขุมขน เกิดเป็นสิวอักเสบอยู่ใต้ผิว ดังนั้นหลังออกกำลังกายอาจจะนั่งพักให้หายเหนื่อยก่อนแล้วเลือกใช้โฟมล้างหน้าลดสิวในการล้างหน้าเพื่อช่วยให้ผิวของเราห่างไกลสิว

2.ล้างหน้าบ่อยจนเกินไป
สาวๆ บางคนอาจจะชอบล้างหน้าบ่อยๆ เพื่อให้ตัวเองสดชื่นและหน้าไม่มัน แต่การล้างบ่อยเกินไปทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง กระตุ้นให้มีการสร้างไขมันใต้รูขุมขนให้ขับออกมามากขึ้น จนกลายเป็นสิวอุดตันตามมา ดังนั้นแค่เลือกล้างเพียงตอนเช้าและก่อนนอนก็เพียงพอแล้ว ระหว่างวันอาจเลือกซับมันด้วยทิชชู่หรือกระดาษซับมันแทน

3.ใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุ่นล้างหน้า
ผิวของเราอาจระคายเคืองจากน้ำที่เย็นหรืออุ่นเกินไป การล้างหน้าที่ดีควรใช้น้ำธรรมดาอุณหภูมิห้องก็พอ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าลดสิวในการช่วยกำจัดสิวตั้งแต่ต้นตอ

หวังว่าทริคต่างๆ จะช่วยไขข้อข้องใจสำหรับคนที่สงสัยว่าการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าเพียงพอหรือไม่ บอกเลยว่าเลือกโฟมล้างหน้าลดสิวสักตัวแล้วดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำความสะอาดได้มากกว่า เพื่อให้ขั้นแรกของการเตรียมผิวสมบูรณ์แบบที่สุด อย่าลืมล้างหน้าอย่างถูกวิธีด้วยนะ
 

   ใครที่กำลังวางแผนจะหาซื้อคอนโดริมหาดสักแห่งเพื่อเอาไว้พักผ่อนตากอากาศในวันหยุด หรืออยากจะเก็บไว้เพื่อลงทุนเก็งกำไร คงจะเคยเห็นคอนโดติดหาดนาจอมเทียนผ่านตากันมาบ้างแล้ว เพราะเป็นทำเลทอง เหมาะแก่การพักผ่อนและยังเดินทางไปไหนมาไหนสะดวก ไม่ว่าจะมาจากกรุงเทพฯ ด้วยมอเตอร์เวย์ หรือเชื่อมต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในพัทยาและจังหวัดชลบุรีก็ทำได้ง่าย วันนี้ เราจะพาไปส่องคอนโดติดหาดนาจอมเทียน 3 โครงการดังกันว่ามีความน่าสนใจอะไรซ่อนอยู่บ้าง


Grand Florida Pattaya
   แห่งแรกที่จะแนะนำคือ Grand Florida คอนโดสร้างใหม่สุดหรูติดหาดนาจอมเทียนที่เนรมิตห้องพักตากอากาศและบรรยากาศแวดล้อมให้กลายเป็นสวรรค์แห่งท้องทะเลและการพักผ่อน ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยนาจอมเทียน 14 ติดกับชายหาดเลยโดยไม่มีถนนมาคั่นกลาง ทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นคลับเฮ้าส์สุดหรูที่มีทั้งห้องเกม ห้องฟิตเนส เลาจ์ และห้องอาหารไว้คอยบริการลูกบ้าน พื้นที่โดยรอบมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่และสวนสวย เหมาะกับการเดินเล่น สูดอากาศ และออกกำลังกาย ปลดปล่อยอิสระไปในวันหยุดได้เต็มที่ ไม่ว่าจะพักผ่อนเงียบๆ ในพื้นที่ส่วนตัว หรือออกมาสังสรรค์กับเพื่อนๆ ก็ตอบโจทย์ทั้งนั้น

The Pazer พัทยา
   สำหรับโครงการ The Pazer เป็นคอนโดติดหาดนาจอมเทียนพร้อมอยู่ ตั้งอยู่ในซอยนาจอมเทียน 18 ความโดดเด่นของโครงการนี้ นอกจากจะอยู่ติดทะเล เพียงเดินข้ามสะพานข้ามคลองก็ถึงแล้ว ยังให้ความเป็นส่วนตัวสูง เพราะตัวโครงการมีจำนวนยูนิตไม่มาก สูงเพียง 8 ชั้น จึงเหมาะกับผู้ที่อยากมาหาความเงียบสงบและไม่ชอบแสงสีหรือความคึกคักมากนัก ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวก ทางโครงการก็มีเตรียมให้ลูกบ้านไว้พร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ห้องซาวน่า รวมถึงสวนสวยไว้นั่งเล่นรับลมทะเลในวันสบายๆ

X2 Vibe Pattaya Seaphere
   โครงการนี้เป็นคอนโดติดหาดนาจอมเทียนพัทยาที่ตั้งอยู่ในซอยนาจอมเทียน 32 อยู่ห่างจากชายหาดเพียง 120 เมตรเท่านั้น ตัวอาคารสูงเพียง 8 ชั้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรูมากมาย ทั้งสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่มีรูปแบบหลากหลายให้เลือก เช่น Hydrotherapy Jet, Water Jet และ Floating Seat และยังมีศาลาชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน สนามเด็กเล่น ไปจนถึงพื้นที่ดาดฟ้าและลานบาร์บีคิวที่เหมาะกับคนที่ชอบจัดงานปาร์ตี้สังสรรค์ในบรรยากาศริมทะเล


ทั้งหมดนี้ก็คือคอนโดติดหาดนาจอมเทียนพัทยาที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน แต่ละที่มีห้องพักเงียบสงบ มีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งสำหรับผู้ไม่ชอบแสงสีและผู้ที่รักการสังสรรค์ ทั้งยังอยู่ในทำเลติดชายหาด แต่ขณะเดียวกันก็สามารถเดินทางไปยังสถานที่สำคัญได้ง่าย

หลายคนอยู่บ้านกันมากขึ้น และบางบริษัทก็เริ่มมีมาตรการให้เรา Work From Home กันจริงจัง ซึ่งอาจทำให้เรามีเวลาเปิดโอกาสทางธุรกิจง่ายๆ ที่บ้าน โดยแบ่งเวลาที่เราใช้เดินทางในแต่ละวันมาหาเงินง่ายๆ จะมีอะไรไปดูกันเลย!


1.เขียนหนังสือขาย
การหาเงินและเปิดโอกาสทางธุรกิจอาจทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน เพราะปัจจุบันเราสามารถทำ E-book เป็นเล่ม โดยเลือกเนื้อหาที่เราถนัด โดยนำไปขายออนไลน์ได้เงินแบบระยะยาว และหากคุณมีความสามารถทางภาษาอังกฤษ การทำหนังสือขายภาษาอังกฤษก็ยิ่งทำให้ขายได้ง่ายกว่าอีกด้วย

2.ขยับเป็นครูสอน
ปัจจุบันเราสามารถทำคอร์สเรียนออนไลน์ได้เอง โดยอัดวิดีโออยู่ที่บ้าน โดยใช้เนื้อหาที่เรามีความรู้ความสามารถ เปิดเป็นคอร์สออนไลน์ก่อน หากทำได้ดีและมีคนสนใจก็อาจเป็นการเปิดโอกาสทางธุรกิจให้คุณขยับขยายไปต่อได้อีก

3.ขายภาพ รูปถ่าย
มีหลายเว็บที่ให้บริการรูปภาพ โดยต้องเสียเงินเพื่อโหลดแล้วนำผ่านนั้นมาใช้ ซึ่งเราเองก็สามารถนำภาพของเราไปปล่อยขายได้เช่นกัน โดยแค่มีสมาร์ตโฟน เราก็สร้างสรรค์ผลงานแล้วนำไปขายได้แล้ว และหากคุณชอบก็ยังเป็นการเปิดโอกาสทางธุรกิจให้คุณอาจรับงานเสริมเป็นช่างภาพก็ได้

4.บริการห้องให้เช่าผ่าน Airbnb
สำหรับคนที่มีห้องพักที่ไม่ได้ใช้ การเปิดให้คนเข้ามาพักโดยเลือกบริการผ่าน airbnb ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ นอกจากจะได้เงินแล้ว เรายังได้พบปะผู้คนใหม่ๆ ใครจะรู้ว่าห้องของคุณอาจจะเป็นห้องพักที่คนต่างก็หมายตาอยากเข้าพักก็เป็นได้

5.ทำช่องยูทูป
ปฏิเสธไมไ่ด้เลยว่าหลายคนเริ่มเปิดช่องยูทูปของตัวเอง ซึ่งหากเราทำครบตามเงื่อนไข ก็จะสามารถมีโฆษณาเข้าที่ช่องของเราได้ และทำให้เราได้รายได้จากคลิปที่เราลงไป ต่อยอดเปิดโอกาสทางธุรกิจไปเป็นอินฟลูเอนเซอร์ได้อีกด้วย

6.ขายอาหารออนไลน์
ช่วงที่โควิดระบาด หลายคนเข้าครัวทำอาหารกันอย่างจริงจัง หลายคนถึงขั้นทำขาย ซึ่งหากเรารู้ตัวว่าเรามีฝีมือ อาหารที่เราทำมีรสถูกปาก การเริ่มขายอาหารออนไลน์ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว ดีไม่ดีคุณอาจจะได้ลาออกจากงานประจำ มาลงมือทำอย่างเต็มตัวเลยก็ได้

จะเห็นได้เลยว่าทุกโอกาสอยู่รอบตัวเรา อยู่ที่ว่าเรานั้นจะเปิดใจและมองหาโอกาสนั้นหรือเปล่า ซึ่งแค่เราไม่เลือกที่จะหยุดนิ่งและลงมือทำ ไม่ว่าอย่างไรผลลัพธ์ก็จะต้องออกมาดีอย่างแน่นอน หากคุณคิดว่าพร้อมแล้ว ลองให้ทั้ง 6 ขอที่เราได้กล่าวไปเป็นไอเดียในการลงมือทำ

 
        หากคุณมีอาการเจ็บป่วยที่ไม่ได้ร้ายแรงเท่าไหร่นัก สิ่งแรกที่คุณจะนึกถึงนั่นก็คือคลินิกรักษาโลกทั่วไปใช่ไหมล่ะ ? หลายๆ คนมักจะคิดแบบนั้นเพราะคิดว่าการไปหาหมอที่โรงพยาบาลอาจจะเป็นเรื่องที่ใหญ่โตพอสมควร ถ้าเปรียบเทียบกับอาการเป็นไข้หวัดธรรมดาหรือบาดแผลเพียงเล็กน้อย ซึ่งในประเทศไทยนั้นมีคลินิกรักษาโรคทั่วไปนับพันแห่งทั่วประเทศ แต่ในเขตที่เป็นเสมือนย่านธุรกิจอย่างพระราม 9 ที่มีทั้งสถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า สำนักงานบริษัทต่างๆ รวมถึงตลาดกลางคืนอยู่หลายแห่ง ซึ่งก็มีคลินิกรักษาโรคทั่วไปย่านพระราม 9 เปิดให้บริการเหล่าคนเจ็บอยู่ไม่น้อย ซึ่งในวันนี้เราจะยก 3 คลินิกชื่อดังย่านพระราม 9 มารวบรวมไว้ในบทความนี้ แต่จะมีที่ไหนบ้างเราลองไปดูกันเลย!

Central Medi Clinic รัชดา
คลินิกรักษาโรคทั่วไปบริเวณพระราม 9แห่งนี้ อยู่ใกล้กับสนามกีฬาห้วยขวาง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคลินิกที่เหล่านักกีฬาหรือผู้ที่มาออกกำลังกายมักจะมาใช้บริการที่คลินิกแห่งนี้ เพราะภายในคลินิกมีบริการเอกซเรย์กระดูกหรืออวัยวะภายในร่างกาย เรียกได้ว่าหากเกิดอุบัติจากการเล่นกีฬา ก็สามารถพามาที่ Central Medi Clinic รัชดา ได้เลยทันที ไม่ต้องไปถึงโรงพยาบาล อีกทั้งยังมีการให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไปที่รับรองว่าคุณภาพของการรักษานั้น ไม่แพ้คลินิกไหนเลยล่ะ

คลินิกอินทัชเมดิแคร์
เขยิบมาที่แถวดินแดงกันสักหน่อยกับคลินิกอินทัชเมดิแคร์ ที่เขามีปณิธานตั้งมั่นในการดูแลรักษาคนไข้ว่า “บริการด้วยน้ำใจ ห่วงใยดุจญาติมิตร” ซึ่งภายในคลินิกรักษาโรคทั่วไปละแวกพระราม 9แห่งนี้นั้นก็มีบริการการรักษาที่ครบวงจรไม่ว่าจะเป็นการตรวจโรคทั่วไป ฉีดวัคซีนป้องกันโรค ฯลฯ

Zity Clinic
คลินิกรักษาโรคทั่วไปแถวพระราม 9 คงจะขาดที่นี่ไปไม่ได้นั่นก็คือ Zity Clinic โดยคลินิกชื่อดังแแห่งนี้มีจุดเด่นในเรื่องการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยรักษา และที่สำคัญผู้ป่วยไม่ต้องรอคิวนานเหมือนกับคลินิกที่อื่นๆ อีกทั้งภายในคลินิกมีบุคลลากรที่มากความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นคุณหมอหรือพยายามที่ผ่านการคัดกรองมาอย่างเข้มงวด เพื่อให้การรักษาของคนไข้เห็นผลมากที่สุด ด้วยความเป็นมืออาชีพของคลินิกแห่งนี้จึงทำให้ได้รับการตอบรับจากคนไข้อย่างล้นหลาม จนมีแพลนที่จะขยายสาขาอีกด้วย!

แม้ในย่านพระราม 9 จะเป็นแหล่งเศรษฐกิจ ซึ่งแน่นอนว่าค่าครองชีพนั้นก็อาจจะสูงสักหน่อย แต่ก็ไม่ต้องกังวลใจไปเพราะ 3 คลินิกรักษาโรคทั่วไปในย่านพระราม 9 ที่เรากล่าวมาข้างต้นนั้น มีอัตราค่าบริการที่ไม่แพงจนเกินไป อีกทั้งเรื่องคุณภาพ มาตรฐานต่างๆ ก็เทียบเท่ากับโรงพยาบาลชื่อดังได้อย่างไม่มีที่ติเลยล่ะ

 แม้ว่าลวดเชื่อมเหล็กหล่อที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไป หน้าตามันจะดูเหมือนกันไปซะหมด แต่เปล่าเลย ลวดเชื่อมเหล็กหล่อแต่ละประเภทนั้นมีความแตกต่างกันอยู่อย่างสินเชิง โดยแต่ละประเภทต่างมีคุณสมบัติการใช่งานที่แตกต่างกันออกไป โดยหลักๆ จะทำหน้าที่ซ่อมแซมชิ้นส่วนที่เป็นเหล็กหล่อ เช่นเหล็กหล่อสีเทา เหล็กหล่อเหนียว ซึ่งที่แกนของลวดเชื่อมจะประกอบไปด้วยส่วนผสมของนิกเกิลเป็นส่วนประกอบหลัก โดยลวดชนิดไหนมีนิกเกิลผสมอยู่มาก ก็จะมีราคาที่สูงตามขึ้นไปด้วย และในวันนี้เราได้ยกตัวอย่างลวดไฟฟ้า 4 แบบที่ช่างมืออาชีพนิยมใช้กันมาให้คุณได้ลองศึกษาดู!


ลวดเชื่อมเหล็กหล่อ NI-55
ลวดเชื่อมเหล็กหล่อ NI-55 เป็นลวดหุ้มฟลักซ์กราไฟต์ โดยแกนลวดเชื่อมมีนิกเกิล 55% สามารถกลึงแต่งได้ดีแต่ทำได้ไม่ดีเท่ากับลวดเชื่อมเหล็กหล่อ NI-100 เหมาะสำหรับงานเชื่อมซ่อมแซมเหล็กหล่อชนิดต่างๆ ลวดชนิดนี้ เป็นลวดเชื่อม ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง มีราคาไม่แพงมาก และยังต้านทานการแตกร้าวได้อย่างดีเยี่ยม

ลวดเชื่อมเหล็กหล่อ ยาวาต้า NI-55
ลวดเชื่อมเหล็กหล่อ ยาวาต้า NI-55 เป็นลวดเชื่อมชนิดกราไฟท์ แกนลวดประกอบด้วยนิกเกิลผสมเหล็ก เป็นส่วนประกอบหลัก ไม่มีการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติขณะเชื่อม แนวเชื่อมให้คุณสมบัติเชิงกลที่ดี ต้านทานการแตกร้าวได้ดี

ลวดเชื่อมเหล็กหล่อ NI-98
ลวดเชื่อม NI-98 มีส่วนผสมนิกเกิล 98% ที่แกนลวดเชื่อม แนวเชื่อมมีความแข็งไม่มาก มีความสามารถกลึงแต่งได้ดีกว่าลวดเชื่อมชนิด NI-55 ให้ความสามารถในการเชื่อมดี ไม่ต้องทำการอุ่นชิ้นงานหลังการเชื่อม เหมาะ
สำหรับการเชื่อมต่อเหล็กหล่อหรือการเชื่อมระหว่างเหล็กและเหล็กหล่อ ลวดชนิดนี้มีคุณสมบัติพิเศษคือ สามารถเชื่อมต่อเหล็กหล่อที่มีส่วนผสมของฟอสฟอรัสได้ดี ลวดยาวาต้า NI-98 เป็นลวดเชื่อมชนิดกราไฟต์ แกนลวดเป็นนิกเกิลบริสุทธิ์ เนื้อโลหะเชื่อมไม่แข็งเกินไป กลึงแต่งได้ง่าย ให้การอาร์คคงที่

ลวดเชื่อมเหล็กหล่อ โกเบ KOBE CIA-1
ลวดเชื่อมเหล็กหล่อ โกเบ KOBE CIA-1 ลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ชนิดกราไฟต์ แกนลวดเชื่อมเป็นนิเกิลบริสุทธิ์ รอยเชื่อมและบริเวณที่ได้รับความร้อน มีความแข็งต่ำ จึงช่วยให้กลึงแต่งได้ง่าย และมีความสามารถในการเชื่อมที่ดีมาก ลวดโกเบ KOBE CIA-1 เป็นลวดเชื่อมที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น

 โดยลวดเชื่อมเหล็กหล่อทั้ง 4 ชนิดนี้ ถือว่าเป็นลวดเชื่อมไฟฟ้า ที่เหล่าช่างมืออาชีพนิยมเลือกใช้กันเป็นหลัก ซึ่งหากคราวหน้ามีโอกาสที่คุณจำเป็นต้องออกไปซื้อลวดเชื่อมเหล็กหล่อไฟฟ้า คงจะสามารถเลือกลวดที่เหมาะกับการใช้งานได้อย่างถูกต้อง ไม่ต้องงงกับเรื่องลวดๆ นี้อีกต่อไปแล้วล่ะ!

ในทุกวันนี้ เมื่อสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเรียกรถ หรือการใช้บริการเดลิเวอรี ก็ต้องบอกว่าอีกหนึ่งในบริการที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือการเช่ารถพร้อมคนขับทั้งในกรุงเทพและออกเดินทางไปยังต่างจังหวัด โดยเฉพาะการเดินทางเพื่อธุรกิจ หลายๆ ครั้งที่เราต้องต้อนรับนักธุรกิจหรือเพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อธุรกิจด้านต่างๆ การเลือกใช้บริการเช่ารถพร้อมคนขับในกรุงเทพเพื่อเดินทางไปติดต่อธุรกิจนั้นก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่เข้ามาอำนวยความสะดวกได้อย่างเต็มที่ ซึ่งข้อดีของการเช่ารถในรูปแบบนี้นั้นก็จะช่วยทั้งประหยัดเวลาและไม่ต้องหงุดหงิดใจเมื่อต้องเผชิญกับสภาพจราจรอีกด้วย


เลือกประเภทของรถได้ตามต้องการ
   สำหรับการเลือกใช้บริการเช่ารถพร้อมคนขับในกรุงเทพนั้น ในปัจจุบันนี้ผู้ให้บริการหลากหลายเจ้าก็จะให้คุณเลือกประเภทของรถที่ต้องการใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ซีดาน 4 ที่นั่ง รถยนต์หรู 4 ที่นั่ง รถยนต์ 7 ที่นั่งทั้ง MPV, SUV หรือจะเป็นบริการรถกระบะก็มีเช่นกัน นอกจากนี้หากต้องการเดินทางเป็นหมู่คณะหรือต้องมีพื้นที่สำหรับผู้ที่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือ ก็จะมีบริการรถตู้ให้เลือกใช้บริการกันอีกด้วย ซึ่งคุณสามารถเลือกระดับของรถที่ต้องการเดินทางได้อย่างง่ายดายและไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเดินทางอีกด้วย

ได้พนักงานขับรถมืออาชีพ
หมดกังวลเกี่ยวกับการเดินทางและเส้นทางที่ต้องการไปได้เลย เพราะเมื่อคุณเลือกใช้บริการเช่ารถพร้อมคนขับทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดนั้น ก็ต้องบอกว่าผู้ให้บริการเช่ารถพร้อมคนขับนั้นก็จะมาพร้อมกับพนักงานขับรถมืออาชีพที่ให้บริการคุณอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็รความปลอดภัยในการเดินทาง การตรวจเช็กและบำรุงรักษารถก่อนออกเดินทาง เตรียมพร้อมในการให้บริการอย่างครบวงจร ผ่านหลักสูตรการอบรมด้านการขับขี่ และมั่นใจเรื่องเส้นทางที่เลือกเดินทางได้อีกด้วย

ชำระค่าบริการได้หลากหลายรูปแบบ
   ผู้ให้บริการเช่ารถพร้อมคนขับในปัจจุบันนี้ มีให้บริการชำระเงินในหลากหลายรูปแบบ แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือจะเป็นการชำระเงินโดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิตหรือจ่ายเงิน ณ เคาน์เตอร์ที่ให้บริการ ก็สามารถเลือกรูปแบบการชำระเงินได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้แล้วผู้ให้บริการบางเจ้ายังให้คุณเลือกคืนรถในสาขาที่ใกล้กับปลายทางของคุณได้อีกด้วย เรียกได้ว่าสะดวกสุดๆ

ถ้าหากคุณยังลังเลอยู่ว่าจะเลือกใช้บริการเช่ารถพร้อมคนขับในกรุงเทพดีไหม ก็ต้องบอกว่าข้อมูลข้างต้นนี้ก็เป็นข้อมูลที่ช่วยให้คุณพิจารณาได้อย่างเต็มที่ว่าเหมาะกับการใช้งานของคุณหรือไม่ ทั้งนี้ถ้าหากคุณต้องการเดินทางด้วยความเป็นส่วนตัว มีพนักงานขับรถที่มั่นใจได้ในความเป็นมืออาชีพ ก็ต้องบอกว่าไม่ควรมองข้ามบริการนี้ไปเลยล่ะ

   ในปัจจุบันมีเด็กในประเทศไทยมากมายที่ไม่มีโอกาสได้เข้าถึงการศึกษาที่ดี และมีคุณภาพได้ ซึ่งหากมองผลลัพธ์ของการบริจาคเงินการศึกษาแล้วนั้น แน่นอนว่าการบริจาคเงินการศึกษาก็จะทำให้เด็ก ๆ ที่ยากไร้เหล่านี้ได้มีโอกาสเรียนหนังสือ แต่รู้หรือไม่ว่าการที่เด็กเหล่านี้ได้รับการศึกษา ยังส่งผลดีมากมายต่อไปในอีกหลาย ๆ เรื่อง ในบทความนี้เราจึงอยากจะมาแชร์เหตุผลว่าทำไมการบริจาคเงินเพื่อการศึกษาจึงเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นสิ่งที่เราควรทำหากเรามีเงินมากพอที่จะแบ่งปันให้แก่ผู้อื่นได้ ไปอ่านกันเลยว่ามีอะไรบ้าง


ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
   การบริจาคเงินการศึกษาไม่เพียงแต่จะช่วยให้เด็กยากไร้ได้รับการศึกษาที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำในสังคมนั้นสามารถลดลงได้ ลองคิดดูว่าหากเด็ก ๆ เหล่านี้มีโอกาสได้เรียนหนังสือก็จะทำให้เด็กเหล่านี้เติบโตขึ้นเป็นคนที่มีความรู้ และสามารถประกอบอาชีพต่าง ๆ ได้ ซึ่งเด็กบางคนเมื่อมีรายได้ หรือความรู้ก็อาจจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ทำให้สังคมนั้นดีขึ้นได้อีกด้วย เพราะหากคนเหล่านี้ไม่ได้รับความเท่าเทียมในสังคมแล้ว คุณภาพของสังคมเราก็จะตกต่ำลงไปด้วย เช่น หลาย ๆ คนอาจไม่ใช่คนไม่ดี แต่เนื่องจากไม่มีทางเลือกจึงทำให้ต้องหันมาประกอบอาชีพที่ไม่สุจริตเป็นต้น ดังนั้นการที่เราช่วยให้เด็ก ๆ มีการศึกษาที่ดี ความเหลื่อมล้ำก็จะน้อยลง และคุณภาพสังคมของเราก็จะดีตามไปด้วย

ลดหย่อนภาษีได้
   การบริจาคเงินเพื่อการกุศล และรวมไปถึงการบริจาคเงินการศึกษานั้นสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ข้อดีข้อนี้อาจจะไม่ได้เป็นเป้าหมายหลักของใครหลาย ๆ คนที่ต้องการบริจาคเงินเพื่อการศึกษา แต่จะดีกว่าไหมถ้าหากเราได้ช่วยเหลือเด็ก ๆ ด้วย และได้นำเงินไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย เพราะฉะนั้นใครที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะบริจาคเงินช่วยเหลือเด็ก ๆ ดีไหม เพราะภาระค่าใช้จ่ายของเราก็มีเยอะแยะมากมายก็อย่าลืมว่าเงินบริจาคเหล่านี้สามารถนำไปลดหย่อนภาษีในภายหลังได้ เราจะได้นำเงินไปช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่ขาดแคลนกัน

ประหยัดเวลา
   โดยส่วนมากแล้วเวลาที่เรานำเงินไปบริจาคเราจะนำไปบริจาคให้กับองค์กร หรือมูลนิธิต่าง ๆ มากกว่าการนำไปบริจาคให้ตัวเด็กโดยตรง ซึ่งองค์กร หรือมูลนิธิต่าง ๆ เหล่านี้ก็จะนำเงินไปจัดสรรให้เด็กที่ยากไร้ต่อไป ซึ่งข้อดีของการบริจาคให้กับมูลนิธิ หรือองค์กรก็คือเราสามารถประหยัดเวลาได้ เพียงแค่บริจาคเงินก็สามารถช่วยเด็ก ๆ ได้เช่นกัน แถมเราจะได้มีเวลาไปทำประโยชน์อื่น ๆ ได้มากขึ้นอีกด้วย แต่ข้อสำคัญก็คือเราควรจะเลือกมูลนิธิ หรือองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือ สามารถตรวจสอบได้ว่าเงินบริจาคนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อเด็ก ๆ จริง ๆ

   การบริจาคเงินการศึกษานั้นเป็นสิ่งที่เราควรทำหากเราไม่ได้เดือดร้อนอะไรมากนัก อีกทั้งการบริจาคก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องทำการบริจาคเยอะแยะมากมาย สามารถบริจาคได้ตามกำลังเพราะนอกจากจะเป็นการช่วยเหลือเด็กยากไร้แล้ว ยังเป็นการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมอีกด้วย นอกจากนี้เงินบริจาคของคุณก็สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ อีกทั้งยังได้ช่วยเหลือเด็ก ๆ ไปในคราวเดียวกัน และยังเป็นการประหยัดเวลาให้คุณมีเวลาในการทำประโยชน์ในเรื่องอื่น ๆ ต่อไป

   เชื่อว่าคนที่ติดตามข่าวสารในวงการธุรกิจ Start-up น่าจะคุ้นเคยกับคำว่า Design Thinking กันมาบ้าง เพราะเป็นแนวคิดสำคัญที่จะทำให้เกิดการวิเคราะห์ปัญหาและความต้องการ จนนำไปสู่การแก้ปัญหาหรือนวัตกรรมที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายมากที่สุด แต่กระบวนการคิดอย่าง Design Thinking for Innovation นั้นใช้ได้แค่ในวงการ Start-up เท่านั้นหรือไม่ และจะก่อให้เกิดแค่เทคโนโลยีหรือแอปพลิเคชันใหม่จริงหรือ วันนี้ เราจะมาหาคำตอบไปด้วยกัน พร้อมเรียนรู้ 5 ขั้นสำคัญซึ่งจะเป็นบันไดไปสู่ผลลัพธ์ของกระบวนการคิดแบบนี้


Design Thinking คืออะไร แล้วทำไมต้อง Design?   
        Design Thinking for Innovation ไม่ใช่การดีไซน์หรือออกแบบแบบนักออกแบบ แต่เป็นการเอากระบวนการของการทำงานออกแบบที่ต้องมีการศึกษาความต้องการของผู้ใช้งานแล้วนำมาสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์มาใช้ Design Thinking for Innovation ก็คือกระบวนการการคิดที่พยายามทำความเข้าใจปัญหาของผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นๆ เพื่อหาแนวทางแก้ไขอย่างสร้างสรรค์และตอบโจทย์ที่สุด ซึ่งอาจนำมาสู่นวัตกรรมใหม่ๆ หรือการบริการในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม

หลักสำคัญของ Design Thinking for Innovation
หลักการสำคัญของ Design Thinking ในการสร้างนวัตกรรมหรือไอเดียใหม่ๆ มีอยู่ด้วยกัน 5 ขั้นตอน ซึ่งจะเริ่มจากการวิเคราะห์ปัญหาโดยมีผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลางและนำไปสู่ทางแก้ที่มีประสิทธิภาพในที่สุด 5 ขั้นตอนที่ว่า มีดังนี้

Empathize: ขั้นตอนแรกคือการทำความเข้าใจปัญหาหรือความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่เราได้ตั้งไว้ เพื่อจะทำให้ได้ไอเดียในการสร้างสรรค์
Define: หลังจากทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายแล้ว ต่อมาก็คือการวิเคราะห์และกำหนดทิศทางหรือกรอบของการแก้ไขปัญหานั้นเพื่อความชัดเจน แล้วจึงสรุปว่ามีวิธีการใดบ้างที่เป็นไปได้
Ideate: ขั้นตอนที่สามคือการสร้างไอเดีย ระดมความคิดเพื่อนำมาใช้แก้ปัญหาที่วิเคราะห์ออกมาได้ โดยหากต้องการแนวทางที่สร้างสรรค์ ความระดมสมองกันภายในทีม เปิดรับความคิดเห็นที่แตกต่างและไม่ปิดกั้นความคิดเห็นที่ไม่ถูกใจ เพื่อให้ได้แนวทางดีๆ ที่หลากหลาย และสามารถนำมาปรับใช้ได้มากที่สุด
Prototype: เมื่อได้ระดมความคิดกันไปแล้ว ก็ถึงขั้นตอนของการทำต้นแบบหรือแบบจำลองของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ได้คิดค้นขึ้น เพื่อที่จะได้มีโอกาสเห็นของจริงและแสดงความคิดเห็นกันภายในทีมว่ามีส่วนใดยังขาดหรือยังผิดพลาดอยู่
Test: เมื่อได้แบบจำลองแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการ Design Thinking ก็คือการนำ Prototype หรือแบบจำลองที่เราสร้างขึ้นมานั้นไปให้กลุ่มเป้าหมายได้มีโอกาสทดลองใช้งานจริง แล้วสอบถามความคิดเห็นหรือความพึงพอใจ เพื่อที่ผู้ผลิตชิ้นงานนั้นจะได้นำไปปรับปรุงและพัฒนาให้ตรงกับความต้องการมากที่สุด


กระบวนการ Design Thinking for Innovation นั้นไม่ได้มีประโยชน์แค่กับธุรกิจ Start-up ตามที่หลายคนเข้าใจ แต่เป็นกระบวนการทำงานพื้นฐานสำหรับทุกธุรกิจหรือแม้กระทั่งการทำรายงานหรือวิจัยก็ตาม เพราะหากเราใช้กลุ่มเป้าหมายเป็นศูนย์กลางของไอเดียแล้ว นวัตกรรมที่เราคิดค้นออกมา ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของสินค้าหรือบริการ ก็จะตอบสนองความต้องการคนเหล่านั้นได้ดีที่สุด

สำหรับช่วงปิดเทอมบวกกับสภาพอากาศที่ร้อนของประเทศไทยแล้วล่ะก็ หากคุณคือคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหากิจกรรมให้ลูกทำ หรือหาสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ โดยเปลี่ยนบรรยากาศออกมาอยู่นอกเมือง สวนน้ำคือคำตอบที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย แต่จะพาลูกไปเที่ยวสวนน้ำนอกเมืองที่ไหนดี? รามายณะ พัทยา มีคำตอบให้คุณ

กับ 5 จุดเด่นของสวนน้ำรามายณะ พัทยา ขับรถมาจากกรุงเทพฯ ทั้งที มีอะไรดีบ้าง มาดูกัน :-

การบริหารจัดการที่ดีที่สุด
ขึ้นชื่อว่าเป็นสวนน้ำขนาดใหญ่ พื้นที่กว่า 106 ไร่ รายล้อมไปด้วยป่าและภูเขา ทำให้ต้องมั่นใจว่าทางสวนน้ำจะมีนโยบายการบริหารจัดการที่ดีเยี่ยมและเป็นระบบระเบียบ ตั้งแต่เรื่องการจำหน่ายบัตรที่สามารถทำได้ทั้งซื้อผ่านออนไลน์หรือมาซื้อที่หน้างาน ตลอดไปจนถึงการบริหารจัดการนักท่องเที่ยวที่มาต่อคิวขึ้นเครื่องเล่น เพื่อให้มั่นใจว่านักท่องเที่ยวทุกคนจะได้รับบริการที่ดีที่สุด สามารถเข้าถึงเครื่องเล่นทุกชิ้นของเราได้อย่างไม่ตกหล่น และรู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิดว่าถ้ามาเที่ยวสวนน้ำ ไปที่ไหนดี รามายณะยังคงเป็นคำตอบของลูกค้าเสมอมา

ขึ้นชื่อเรื่องความสะอาด
หากจะเอ่ยถึงคำว่าสวนน้ำแล้ว เรื่องสุขอนามัยถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกประกอบการตัดสินใจ อยากเที่ยวสวนน้ำ ไปที่ไหนดี รามายณะ พัทยา ยืนหนึ่งในเรื่องของความสะอาดและสุขอนามัยมาเป็นอันดับแรก มีการจัดเวรบุคลากรทำความสะอาดที่ได้ระดับมาตรฐานสากล เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวใหม่ ๆ ทุกวัน

สวนอาหารราคามาตรฐาน
เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ ให้สามารถใช้เวลาในสวนน้ำได้ตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าจรดเย็นโดยไม่ต้องออกไปหาอาหารรับประทานเองข้างนอก ทางสวนน้ำก็มีบริการสวนอาหารเอาไว้ด้านใน ที่นั่งกว้างขวาง ทั้งในร่มและกลางแจ้ง สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เพียงพอแน่นอน ที่สำคัญราคามาตรฐาน เริ่มต้นที่ 95 บาท มีอาหารให้เลือกหลากหลายตามแต่สะดวก

น้ำวนใสสะอาด มาตรฐานสากล
อีกหนึ่งปัจจัยประกอบ หากคุณพ่อคุณแม่กำลังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจว่าจะพาลูกไปเที่ยวสวนน้ำที่ไหนดี รามายณะ พัทยา โดดเด่นในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำวนให้ใสสะอาด ได้คุณภาพมากที่สุด กับมาตรฐานการจัดการน้ำระดับโลก พร้อมระบบบำบัดน้ำมูลค่ากว่า 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้สามารถมั่นใจได้เลยว่าน้ำที่ใช้ในสระนั้นจะได้มาตรฐานเดียวกันกับน้ำดื่ม ปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวแน่นอน

ไลฟ์การ์ดมืออาชีพกว่า 100 ชีวิต
นอกจากเรื่องความสะอาดของทั้งตัวเครื่องเล่นและน้ำที่ได้คุณภาพแล้ว หากคุณพ่อคุณแม่กำลังลังเล จะเลือกพาลูกไปเที่ยวสวนน้ำที่ไหนดี จุดเด่นอีกข้อของสวนน้ำแห่งนี้คือไลฟ์การ์ดกว่า 100 ชีวิตที่ผ่านการฝึกอบรมมาแล้วเป็นอย่างดี เพราะทางสวนน้ำให้ความสำคัญกับมาตรการรักษาความปลอดภัยมาก่อนสิ่งอื่นใด ดังนั้นไลฟ์การ์ดของทางสวนน้ำทุกคนคือบุคลากรที่ผ่านการฝึกอบรมและได้รับการรองรับจากสถาบัน Aerican Lifeguard Association หรือ ALA สถาบันที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยทางน้ำโดยเฉพาะ ประสบการณ์กว่า 10 ปี พร้อมให้ความช่วยเหลือและรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวได้ในทุก ๆ รูปแบบ

   ในการติดตั้งระบบไฟฟ้าภายในและภายนอกอาคาร จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดการสายไฟที่ระโยงระยางหลายเส้นให้เป็นระเบียบด้วยท่อร้อยสายไฟ เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลรักษา การซ่อมบำรุง และยังไม่เป็นอันตรายต่อคนที่ผ่านไปมาในกรณีที่ฉนวนหุ้มสายไฟเสื่อมสภาพด้วย ท่อเหล็กร้อยสายไฟจาก Panasonic เป็นแบรนด์ที่หลายคนเลือกใช้ เพราะสามารถมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานได้ เรามาดูกันดีกว่าว่าเหตุผล 5 ข้อที่ควรเลือกใช้ท่อร้อยสายไฟจากแบรนด์นี้มีอะไรบ้าง


แข็งแรง ทนทานกว่า
   ท่อเหล็กร้อยสายไฟ Panasonic มีความแข็งแรง ทนทาน เพราะผนังภายในท่อเคลือบสาร Epoxy Rasin ส่วนภายนอกใช้เทคนิคชุบสังกะสีด้วยความร้อนอย่างต่อเนื่องตลอดการผลิต (Hot-Dip Galvanizing Process) จึงได้ชั้นสังกะสีที่เรียบสม่ำเสมอ แล้วจึงเคลือบสารป้องกันการกัดกร่อนอีกชั้นหนึ่ง ทำให้ไม่เป็นสนิมตลอดอายุการใช้งาน แม้จะร้อยสายไฟเพิ่มจากที่มีอยู่แล้วก็ทำได้ง่าย สามารถป้องกันความเสียหายทางกายภาพที่จะเกิดกับสายไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องรื้อท่อเปลี่ยนบ่อย

ดัดโค้งได้ง่าย
   ด้วยคุณสมบัติพิเศษของท่อเหล็กร้อยสายไฟ Panasonic จึงสามารถดัดโค้งงอได้สะดวก ตอบสนองความต้องการในการติดตั้งท่อร้อยสายไฟในบริเวณที่ต้องเข้ามุมโดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายของสายไฟหรือตัวท่อ โลหะมีความเหนียวและยืดหยุ่น จึงไม่แตกหัก

ร้อยสายไฟได้ง่าย มีหลากหลายขนาดให้เลือก
   ท่อเหล็กร้อยสายไฟจาก Panasonic มีหลากหลายขาดเส้นผ่านศูนย์กลางให้เลือก จึงสะดวกต่อการร้อยสายไฟชนิดต่างๆ หรือในจำนวนที่ต่างกันตามความต้องการ เพียงแค่เลือกขนาดให้สัมพันธ์กัน การร้อยสายไฟก็จะเป็นเรื่องง่าย

มีชนิดให้เลือกตามความต้องการ
   ในการร้อยสายไฟนั้น อาจมีความต้องการในการใช้ท่อที่มีความหนาหรือบางแตกต่างกันไปในแต่ละจุด เช่น ท่อบางอาจเหมาะกับการร้อยสายไฟซ่อนใต้เพดาน ส่วนท่อหนาจะเหมาะกับการฝังในคอนกรีต ท่อร้อยสายไฟจากแบรนด์นี้จึงมีให้เลือกทั้งชนิดท่อบางและท่อหนา เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างตรงจุดประสงค์ที่สุด

สะดวกต่อการติดตั้ง
   ท่อเหล็กร้อยสายไฟ Panasonic มาพร้อมกับข้อต่อเข้าชุดกับตัวท่อ จึงสะดวกต่อการเชื่อมต่อและติดตั้งในแต่ละพื้นที่ ตัวข้อต่อผลิตจากวัสดุชนิดเดียวกับท่อ จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัย แข็งแรง และปลอดสนิมตลอดอายุการใช้งานเช่นเดียวกัน

ทั้งหมดนี้ก็คือเหตุผล 5 ข้อที่ตอบคำถามว่าทำไมถึงควรเลือกใช้ท่อเหล็กสำหรับร้อยสายไฟจากแบรนด์นี้ นั่นก็เป็นเพราะคุณสมบัติของตัวท่อมีความทนทาน แข็งแรง ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน UL/ANSI, BS, TIS และ JIS จึงมั่นใจได้เลยว่ามีคุณภาพและปลอดสนิมตลอดการใช้งานอย่างแน่นอน

สำหรับคนที่เลี้ยงหมาและแมว หลายๆ คนอาจจะเคยมีคำถามที่ว่าเราควรที่จะพาสัตว์เลี้ยงของเรานั้นไปฉีดวัคซีนกี่ครั้ง โดยเฉพาะวัคซีนสุนัขบ้าเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคสุนัขบ้า รวมไปถึงการฉีดวัคซีนทั่วไปประจำปีนั้น ก็จำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจและศึกษาให้ดีเสียก่อน เพื่อให้ร่างกายของทั้งหมาและแมวนั้นมีภูมิคุ้มกัน และภูมิต้านทานต่อโรคต่างๆ อีกด้วย วันนี้เราก็เลยจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการพาหมาแมวของเราไปฉีดวัคซีนสุนัขบ้ากัน ถ้าพร้อมแล้ว ตามกันมาเลย


ต้องบอกก่อนว่า การฉีดวัคซีนสุนัขบ้าในหมาและแมวนั้น จำเป็นที่จะต้องฉีดให้ตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะในช่วงที่ยังเป็นลูกหมาลูกแมว ซึ่งการฉีดวัคซีนสุนัขบ้านั้น ต้องฉีดในปีแรก 2 ครั้ง  ในช่วงระยะเวลาประมาณ 2 - 4 เดือนแรก และจะฉีดเข็มที่สองหลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้นจะต้องมีการฉีดประจำปี ปีละ 1 ครั้ง ตามกำหนดใบนัดของสัตวแพทย์ เพื่อป้องกันไม่ให้รับเชื้อพิษสุนัขบ้า

นอกจากวัคซีนสุนัขบ้าแล้ว ก็ยังจำเป็นที่จะต้องฉีดวัคซีนให้กับลูกสุนัขอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนป้องกันโรคหวัดสุนัขตอนอายุ 6 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะต้องมีการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หัดสุนัข , ลำไส้อักเสบ, เลปโตสไปโรซิส ตับอักเสบ, พาราอินฟูลเอนซ่า ตอนอายุ 8 สัปดาห์, 11 สัปดาห์ และ 14 สัปดาห์ แล้วจึงมีการฉีดวัคซีนสุนัขบ้าากระตุ้นตอนอายุ 17 สัปดาห์ และ 20 สัปดาห์ หลังจากนั้นจึงมีการฉีดเพื่อกระตุ้นวัคซีนสุนัขบ้า ไข้หัดสุนัข, ลำไส้อักเสบ, เลปโตสไปโรซิส, ตับอักเสบ, พาราอินฟูลเอนซ่า ตอนอายุครบ 1 ปี และมีการฉีดซ้ำในทุกๆ ปี

ส่วนวัคซีนสำหรับแมวนั้น ก็จำเป็นที่จะต้องมีการฉีดให้ลูกแมวตั้งแต่ยังเล็ก ไม่ว่าจะเป็นการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หัด, โรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้น ช่องปากและลิ้นอักเสบ ในตอนอายุ 8 สัปดาห์, 11 สัปดาห์ และ 14 สัปดาห์ เมื่ออายุ 17 สัปดาห์และ 20 สัปดาห์นั้น จำเป็นที่จะต้องมีการฉีดวัคซีนสุนัขบ้า 2 ครั้ง และฉีดกระตุ้นวัคซีนพิษสุนัขบ้า, ไข้หัดและ โรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้น ช่องปากและลิ้นอักเสบ ตอนอายุครบ 1 ปี และหลังจากนั้นจะต้องมีการฉีดกระตุ้นในทุกๆ ปีอีกด้วย


เมื่อคุณตัดสินใจที่จะเลี้ยงลูกหมาหรือลูกแมวสักตัว สิ่งสำคัญเลยก็คือไม่ควรละเลยที่จะพาสัตว์เลี้ยงของคุณไปฉีดวัคซีนตามนัดหมายของสัตวแพทย์ เพื่อให้ห่างไกลจากโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคติดเชื้อหรือโรคระบาดก็ตาม และเพื่อให้สัตว์เลี้ยงที่คุณรักอยู่กับคุณไปนานๆ

   แน่นอนว่าปัญหาเรื่องสิวนั้นเป็นปัญหาที่กวนใจเราไม่น้อย ใครที่เคยมีสิวคงจะทราบดีว่าเครียดแค่ไหนกับการสู้รบกับปัญหาสิว ปัจจัยของการเกิดสิวนั้นมีได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมนหรือพฤติกรรมในชีวิตประจำวันอย่างการรับประทานอาหาร การรักษาความสะอาด หรือการบำรุงผิว ซึ่งปัญหาเรื่องสิวนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะแก้ไม่ได้ แต่หลายๆ คนคงจะเบื่อกับการไปเข้าคลินิกหาหมอทุกอาทิตย์แต่ก็ยังไม่หายสักที วันนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคที่จะช่วยให้ผิวของเราใสไร้สิวกัน รับรองว่าอ่านจบต้องช่วยบรรเทาอาการสิวได้แน่นอน


    ใช้โฟมล้างหน้าหน้าใส
   ที่เราต้องเลือกใช้โฟมล้างหน้าหน้าใสโดยเฉพาะก็เพราะว่าโฟมประเภทนี้จะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าของเราได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนของเราหรือความมันที่อยู่บนผิวหน้าของเรา นอกจากนี้โฟมล้างหน้าหน้าใสที่ดีก็จะไม่ไปอุดตันในผิวหน้าเราด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นควรเลือกโฟมล้างหน้าหน้าใสที่มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง เป็นแบรนด์ที่เชื่อถือได้ เช่น NIVEA, BIORE, GANIER และ อีกมากมาย

   ดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
   เนื่องจากร่างกายขอเราประกอบไปด้วยน้ำมากถึง 70% เพราะฉะนั้นการดื่มน้ำจะช่วยให้ร่างกายของเรามีระบบไหลเวียนเลือดที่ดีและทำให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายของเราดีไปด้วยเช่นกัน หรือแม้แต่ไตที่ทำหน้าที่ในการกำจัดของเสียก็ต้องอาศัยน้ำในการทำงาน ซึ่งหากเราไม่ดื่มน้ำให้เพียงพอ ระบบกำจัดของเสียเหล่านี้ก็จะทำงานได้ไม่ดี ส่งผลให้ของเสียวนเวียนอยู่ในร่างกาย และจะขับออกมาทางรูขุมขนบนผิวหน้าเราในที่สุด ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดสิว รู้แบบนี้แล้วก็อย่าลืมดื่มน้ำกันเยอะๆ ผิวจะต้องสวยขึ้นแน่นอน!

   เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
   นอกจากการดื่มน้ำและใช้โฟมล้างหน้าหน้าใสแล้ว เราก็ควรเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยการบำรุงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์อย่างเช่น คอลลาเจน กรดไฮยาลูโรนิค และอีลาสติน เพราะถึงแม้ว่าคนที่มีสิวบางคนอาจจะมีผิวหน้ามัน แต่การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นจะทำให้ใบหน้าเราผลิตความมันน้อยลงได้ เนื่องจากสาเหตุของผิวหน้ามันในบางคนเกิดขึ้นเนื่องจากการขาดความชุ่มชื้น ผิวเราจึงผลิตความมันออกมาทดแทนความชุ่มชื้นที่หายไป แต่ปัญหาก็คือพอผิวเราผลิตความมันออกมา สิวก็จะตามมาด้วย เพราะฉะนั้นแล้วถึงแม้ว่าจะเป็นคนผิวมันแต่ก็อย่าละเลยการลงผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นด้วยล่ะ

   การรักษาสิวนั้นเป็นสิ่งที่เราสามารถรักษาได้หากเรารู้จักสังเกตตัวเองและปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง อย่างการเลือกใช้โฟมล้างหน้าหน้าใสที่นอกจากจะช่วยกำจัดความมันแล้ว ในบางตัวก็ยังช่วยมอบความชุ่มชิ้นให้หน้าเราได้อีกด้วย หรือว่าจะเป็นการดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวันให้ร่างกายของเราขับของเสียและทำงานได้อย่างประสิทธิภาพ และท้ายสุดคือการใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าเพื่อลดความมัน ซึ่งหากเรามีวินัยในการดูแลตัวเองและทำอย่างเป็นประจำต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าอาจจะใช้เวลาสักหน่อย แต่เชื่อว่าการปฏิบัติตามเทคนิคเหล่านี้จะช่วยบรรเทาอาการสิวของเราไปได้มากเลยแหละ