ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - อัญณา

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 ... 52
1

      การเป็นสิวและผิวแพ้ง่ายนั้น เป็นปัญหาที่ต่างกัน ผิวแพ้ง่ายคือการมีผิวที่บอบบางและมีความไวต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัว เช่น ลมพิษ ผื่นขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ เหงื่อออกมากก็เกิดอาการแพ้เหงื่อตัวเองเป็นผื่นคัน เป็นต้น รวมทั้งไวต่อส่วนผสมบางอย่างในผลิตภัณฑ์บางชนิด ส่วนการเป็นสิวเราทราบกันอยู่แล้วว่าเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งฮอร์โมนของร่างกาย ความเครียด หรือแม้แต่รูขุมขนอุดตันและมีสิ่งสกปรกตกค้างจนเกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย และเกิดการอักเสบ ปัญหาทั้ง 2 แบบ มีวิธีการเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่ต่างกัน คือ คนเป็นสิวต้องเลือก โฟม ล้าง หน้า สํา ห รับ คน เป็น สิว คนผิวแพ้ง่ายต้องเลือกโฟมล้างหน้าสำหรับผิวแพ้ง่าย แล้วจะมีวิธีการเลือกอย่างไร เรามีคำตอบ

ผิวแพ้ง่าย ควรเลือกโฟมล้างหน้าแบบไหนให้ดีต่อผิว
   ผิวแพ้ง่ายคือผิวที่ไวต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่ร้อนเกินไป หรือมีความไวต่อส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้เร็วและง่ายกว่าคนผิวปกติ ซึ่งผิวบอบบางแพ้ง่ายนี้ในแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป ต้องสังเกตตัวเองให้ได้ว่าแพ้สิ่งไหน อาการแพ้ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะคัน มีผื่น ผิวขึ้นรอยแดง เป็นต้น โฟมล้างหน้าสำหรับคนผิวแพ้ง่ายควรหลีกเลี่ยงที่มีส่วนผสมของน้ำหอม พาราเบน ซิลิโคนและแอลกอฮอล์ รวมทั้งสาร SLS (Sodium lauryl sulfate) หรือสารทำความสะอาด ที่ทำให้เกิดฟอง ซึ่งสารตัวนี้หากใช้เป็นเวลานานจะทำให้สิวเกิดการระคายเคืองและผิวแห้ง เมื่อร่างกายจับว่าผิวหนังแห้ง ต่อมไขมันใต้ผิวหนังก็จะผลิตน้ำมันออกมามาก และเพิ่มโอกาสของการเป็นสิวอีกด้วย
   โฟมล้างหน้าที่ดีต่อผิวแพ้ง่าย : เป็นสูตรอ่อนโยนเป็นพิเศษ ไม่มีส่วนผสมของสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เลือกสูตรที่มีส่วนผสมของสารต้านการอักเสบของผิว เช่น ว่านหางจระเข้ ชาเขียว เป็นต้น

เป็นสิว ควรเลือก โฟม ล้าง หน้า รักษา สิว แบบไหนดี
   สิวอักเสบมักเกิดจากการที่ผิวหน้ามีความมันมากกว่าปกติ เพราะยิ่งน้ำมันออกมามากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรก เชื้อแบคทีเรีย ต่าง ๆ มากเท่านั้น โฟม ล้าง หน้า สํา ห รับ คน เป็น สิว ควรเลือกสูตรสำหรับลดสิวโดยเฉพาะ และควรเป็นสูตรที่อ่อนโยนเนื่องจากผิวบริเวณที่เป็นสิวเกิดการบวมแดงและอักเสบ จึงไม่ควรใช้สูตรที่มีความเข้มข้มสูง โฟม ล้าง หน้า ลด สิว​ ที่กำลังเป็นที่พูดถึงในเวลานี้ที่หลายคนยกให้เป็นผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีความอ่อนโยนและช่วยแก้ปัญหาสิว ก็คือ BENZAC Spots Daily Facial Foam Cleanser เป็นโฟมล้างหน้าที่มีคุณสมบัติในการดูแลผิว ช่วยลดรอยแดง ลดการระคายเคือง ปลอบประโลมผิวอักเสบ ช่วยควบคุมความมันและลดการเกิดสิวใหม่ ฟื้นฟูและช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ไม่ทำให้ผิวแห้ง สามารถหาซื้อได้ Watsons, Boots และร้านขายยาชั้นนำทั่วไป





2
ในยุคที่พลังงานสะอาดกำลังได้รับความนิยม โซล่าเซลล์กลายเป็นทางเลือกที่หลายธุรกิจให้ความสนใจ แต่การลงทุนก้อนใหญ่ตั้งแต่ต้นอาจเป็นอุปสรรคสำหรับ SME หลายแห่ง วันนี้เรามารู้จักทางเลือกใหม่อย่าง Solar PPA และ EPC Solar กัน
Solar PPA คืออะไร?
Solar PPA หรือ Power Purchase Agreement เป็นรูปแบบการลงทุนติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ที่ไม่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้า โดยบริษัทผู้ให้บริการจะเป็นคนลงทุนติดตั้งระบบบนหลังคาของลูกค้า แล้วขายไฟฟ้าให้ในราคาที่ตกลงกันไว้ตลอดระยะเวลาสัญญา 10-25 ปี
ข้อดีของ Solar PPA คือ ไม่ต้องลงทุน ลดความเสี่ยงด้านเทคนิค มีการรับประกันประสิทธิภาพ และได้ราคาไฟฟ้าคงที่ ส่วนข้อเสียคือ ราคาไฟฟ้ารวมอาจสูงกว่าการซื้อระบบเอง และไม่ได้เป็นเจ้าของระบบ
EPC Solar ให้บริการอะไรบ้าง?
EPC Solar ย่อมาจาก Engineering, Procurement, Construction คือบริษัทที่ให้บริการครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบระบบ (Engineering) การจัดหาอุปกรณ์ (Procurement) และการติดตั้งก่อสร้าง (Construction)
บริการของ EPC Solar ครอบคลุม การสำรวจพื้นที่ ออกแบบระบบให้เหมาะสม จัดหาแผงโซล่าเซลล์และอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ ติดตั้งระบบตามมาตรฐาน ทดสอบการทำงาน และให้บริการบำรุงรักษาหลังการขาย
การเลือกบริษัท EPC Solar ที่ดีจะช่วยให้มั่นใจในคุณภาพงานและประสิทธิภาพระบบ ควรพิจารณาจากประสบการณ์ ผลงานที่ผ่านมา การรับประกัน และบริการหลังการขาย
เลือกแบบไหนดี?
การเลือกระหว่าง Solar PPA กับการซื้อระบบผ่าน EPC Solar ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละธุรกิจ หากมีเงินทุนเพียงพอและต้องการผลตอบแทนสูงสุด การซื้อระบบเองผ่าน EPC จะคุ้มค่ากว่าในระยะยาว
แต่หากต้องการลดค่าไฟฟ้าโดยไม่ลงทุน หรือมี Cash Flow จำกัด Solar PPA เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะสามารถเริ่มประหยัดค่าไฟฟ้าได้ทันทีโดยไม่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้า
ไม่ว่าจะเลือกรูปแบบไหน การหาบริษัท EPC Solar ที่เชื่อถือได้ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้ระบบโซล่าเซลล์ที่มีคุณภาพและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดอายุการใช้งาน

3

หนังหัวแห้งลอก เป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนหนักใจ เพราะนอกจากจะทำให้เสียบุคลิกแล้วยังทำให้เกิดความรำคาญจากอาการคันหนังศีรษะจนอาจรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้นวันนี้เราลองมาทำความรู้กับสาเหตุของอาการ หนังศีรษะลอก ให้เข้าใจมากขึ้น พร้อมศึกษาแนวทางการดูแล hair care ที่ถูกต้องเพื่อแก้ปัญหาอย่างได้ผลกันดีกว่า

หนังหัวแห้งลอก เกิดจากอะไร

1. หนังศีรษะแห้ง ขาดความชุ่มชื้น
หนังศีรษะแห้งเกิดจากผิวหนังบริเวณศีรษะเกิดความแห้งกร้านจนเกิดอาการระคายเคือง แห้งลอก และคัน ส่งผลให้เกิดสะเก็ดแห้งเป็นขุยตามมา ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะหนังศีรษะแห้งมีหลายอย่าง ทั้ง วิธีการสระผมไม่ถูกต้อง การใช้แชมพูหรือครีมนวดที่ผสมสารเคมีรุนแรง การสระผมบ่อยเกินไป และการใช้ไดร์เป่าผมหรืออุปกรณ์ทำความร้อนกับเส้นผมบ่อย ๆ
2. รังแค
รังแคเป็นสะเก็ดสีขาวเกาะอยู่บนหนังศีรษะและอาจกระจายเป็นขุยตามเส้นผม เกิดจากเซลล์ผิวบริเวณศีรษะแบ่งตัวมากผิดปกติจนหลุดลอกเป็นแผ่นกลายเป็นสะเก็ดขาว มีอาการคัน เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้ง วิธีสระผม สระผมไม่ถูกต้อง สระผมไม่สะอาด การใช้แชมพูที่มีสารเคมีรุนแรง ไปจนถึงโรคผิวหนังบางชนิดอย่างสะเก็ดเงิน ผิวหนังอักเสบ หรือผื่นแพ้ก็ทำให้เกิดรังแคได้เช่นกัน
3. โรคชันนะตุ
โรคชันนะตุคือเชื้อราบนหนังศีรษะ เป็นหนึ่งในสาเหตุทำให้เกิด หนังศีรษะลอก ผมร่วงเป็นหย่อม ผมเปราะหักขาดง่าย พบบ่อยในเด็กอายุ 5 – 14 ปี สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ง่ายหากมีการสัมผัสใกล้ชิดหรือใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกัน
4. กระแดด
กระแดดพบมากในผู้สูงอายุและผู้ที่ตากแดดเป็นประจำ รวมถึงอาจเกิดขึ้นตามกรรมพันธุ์ มีลักษณะเป็นสะเก็ดแห้งลอกเป็นปื้นหนา สัมผัสหยาบกร้าน พบบ่อยบริเวณหนังศีรษะ ใบหน้า และลำคอ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หนังหัวของเราแห้งลอกและมีอาการคัน

วิธีการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะเพื่อป้องกัน หนังศีรษะลอก อย่างถูกวิธี
สระผมด้วย วิธีสระผม ที่ถูกต้องโดยใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน สระและนวดเบา ๆ บริเวณโคนผม จากนั้นล้างให้สะอาดและใช้ครีมนวดบริเวณปลายผมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
ล้างผมให้สระอาดทุกครั้งที่สระผม เพื่อป้องกันสารเคมีตกค้างจนอาจก่อให้เกิดการระคายเคือง แห้ง เป็นผื่นแพ้
ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมที่มีสารเคมีรุนแรง ทั้งแชมพู ครีมนวดผม ยาย้อมผม เพราะเป็นสาเหตุของการเกิดหนังศีรษะแห้งลอกได้
ใช้แชมพูขจัดรังแคที่มีส่วนผสมของซีลีเนียมซัลไฟด์, ซิงค์ไพริไทออน, คีโตโคนาโซล และกรดซาลิไซลิก อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง
ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส ไม่เครียด ลดความวิตกกังวล เพื่อให้ฮอร์โมนในร่างกายทำงานเป็นปกติ

รวมไอเทมแนะนำสำหรับคนหนังศีรษะแห้ง ลอก เป็นขุย

1. วิชี่ เดอคอส แอนตี้-แดนดรัฟ
แชมพูสูตรขจัดรังแคมีส่วมผสมของซีลีเนียมซัลไฟด์ช่วยแก้ปัญหาหนังศีรษะได้ตรงจุด พร้อมฟื้นบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะด้วยวิตามินอีและเซราไมด์เพิ่มความชุ่มชื้น ให้เส้นผมและหนังศีรษะกลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง
ราคา: 200 มล. 520 บาท
2. ซันซิล เนเชอรัล แชมพู ไบโอ แอคทีฟ ทีทรี แอนด์ มิ้นท์ แอนตี้แดนดรัฟ
แชมพูขจัดรังแคมีส่วนผสมของซันซิล เนเชอรัล ไบโอ แอคทีฟและสารสกัดทีทรีและมิ้นท์ ช่วยลดปัญหาเส้นผมมัน มีรังแค และลดความมันส่วนเกินบนหนังศีรษะอย่างอ่อนโยน
ราคา: 380 มล. 109 บาท
3. เขาค้อทะเลภู แชมพู สมุนไพร มะกรูด แอนด์ ใบบัวบก
   แชมพูสมุนไพรสำหรับผู้มีปัญหาเส้นผมอ่อนแอ ขาดหลุดร่วงง่าย รากผมอ่อนแอจากปัญหาหนังศีรษะโดยเฉพาะ อุดมไปด้วยสารสกัดจากใบบัวบก ช่วยกระตุ้นการสร้างรากผมและคอลลาเจนใต้ชั้นผิว มีส่วนช่วยให้เส้นผมและหนังศีรษะแข็งแรง สุขภาพดี
ราคา: 450 มล. 199 บาท

ใครมีอาการ หนังหัวแห้งลอก อย่าเพิ่งเครียดหรือวิตกกังวลเพราะความเครียดยิ่งทำให้อาการรุนแรงขึ้น ทางที่ดีเราควรสำรวจต้นตอของปัญหา จากนั้นหันมาปรับพฤติกรรมทั้ง วิธีสระผม การดูแลความสะอาดของเส้นผมและหนังศีรษะ เท่านี้อาการหนังศีรษะแห้งลอกเป็นขุยจะค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างแน่นอน ส่วนใครมองหาไอเทมสำหรับดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ ไม่ว่าจะเป็ฯซัลซิล และ dove  อย่าลืมไปเลือกช้อปกันที่ วัตสันออนไลน์ เพราะมี โปรวัตสัน สุดคุ้มให้เราช้อปได้ประหยัดกว่า


4


วันหยุดพักผ่อนกำลังจะมาถึงแล้ว หลาย ๆ คนอาจจะวางแผน ไปต่างประเทศ แต่ยังไม่มีเวลาเตรียมตัว หรือเตรียมตัวแล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่า รายการสิ่งของต่างๆ ที่เตรียมเอาไว้ครบถ้วนหรือยัง เพราะการที่จะต้องไปวิ่งหาของต่าง ๆ ในระหว่างทริปอันแสนสุขนั้น เป็นเรื่องที่เสียเวลาและน่าปวดหัวเป็นอย่างมาก แต่นั่นก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพียงแค่คุณลองดู เช็กลิสต์ง่าย ๆ ต่อไปนี้ ซึ่งเป็นเทคนิคที่มือโปรทั้งหลายใช้กัน แล้วคุณก็จะกลายเป็นนักท่องเที่ยวมือโปร ที่จัดกระเป๋าเดินทาง เตรียมของไปต่างประเทศ ได้พร้อมที่สุด สำหรับทริปวันหยุด ที่จะมาถึงนี้

ไปต่างประเทศต้องเตรียมอะไรบ้าง มาดูกันเลย

1. เอกสารจำเป็นทั้งหลายได้แก่ พาสปอร์ต วีซ่า และวัคซีนพาสปอร์ต สามรายการนี้ เป็นสิ่งแรกที่นักเดินทางท่องเที่ยวทุกคนจะต้องมี คุณจะต้องเช็กวันหมดอายุ รวมทั้งตรวจสอบข้อกำหนดของประเทศปลายทาง เกี่ยวกับวัคซีนพาสปอร์ตด้วย เพราะแต่ละประเทศจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป และที่สำคัญ คุณควรจะเตรียมสำเนาเอกสารเหล่านี้ไว้ด้วยหนึ่งชุดและแยกกันจัดเก็บ โดยอาจจะทำเป็นกระเป๋าเล็ก สำหรับพกติดตัวเอาไว้เพื่อความปลอดภัย

2. เตรียมการแลกเงิน และตรวจสอบอัตราการแลกเปลี่ยนสกุลเงินของประเทศปลายทาง ข้อนี้เป็นเคล็ดลับสำคัญ ที่จะช่วยให้คุณได้เรทแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่าที่สุด นอกจากนั้นคุณควรจะเตรียม บัตรเครดิตหรือเดบิต สำหรับการชำระค่าสินค้า และบริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เพย์ต่าง ๆ ด้วย ก็จะช่วยให้การเดินทางของคุณสะดวกง่ายดาย และยังช่วยลดการพกเงินสดคราวละมาก ๆ ไปด้วย อย่าลืมดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน สำหรับการชำระเงินในประเทศปลายทางเอาไว้เสมอ คุณก็จะยิ่งสะดวกสบายมากสุด ๆ

3. เตรียมเสื้อผ้า สิ่งของใช้ส่วนตัว การเตรียมเสื้อผ้าก็ให้ คำนึงถึงสภาพอากาศเป็นสำคัญ ซึ่งก็คงไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่เป็นเคล็ดลับช่วยให้คุณสะดวกสบายขึ้นนั้น จะเป็น Gadget อุปกรณ์จำเป็นต่าง ๆ โดยคุณจะต้องตรวจสอบประเทศปลายทางว่า ในการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ คุณจะต้องเตรียมที่แปลงไฟ ไปด้วยหรือไม่ หรือคุณอาจจะต้องใช้ปลั๊กไฟจำเพาะ สำหรับการเสียบชาร์จแบต โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตหรือกล้องถ่ายรูปของคุณ พยายามเลือกอุปกรณ์อเนกประสงค์ที่มีขนาดเล็ก จะช่วยให้คุณไม่จำเป็นต้องแบกน้ำหนักมากเกินไป และยังสะดวกสบายอีกด้วย
4. ยาประจำตัว เช็กลิสต์รายการนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ใครที่รู้ตัวว่ามีโรคประจำตัว และต้องรับประทานยาเป็นประจำ ก็จะต้องเตรียมยาของตนไปให้พร้อม และควรจะเตรียมยาสามัญประจำบ้านเผื่อไปด้วย เช่น ยาแก้ไข้ ยาแก้ปวด ยาแก้แพ้ ก็จะทำให้ทริปการเดินทางของคุณนั้น ปลอดภัยยิ่งขึ้น หรือหาวิธีแก้แฮงค์
5. เช็กลิสต์ สิ่งที่ต้องเตรียมไปต่างประเทศ รายการสุดท้ายที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ารายการอื่น ๆ ก็คือ คุณจำเป็นจะต้องเตรียมประกันการเดินทางให้พร้อมเสมอ ไม่มีใครอยากให้เหตุคาดฝันเกิดขึ้น แต่เหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การมีประกันเดินทาง จะทำให้ทริปการท่องเที่ยวของคุณราบรื่นปลอดภัย และไม่เป็นภาระกับงบการเงินของคุณอีกด้วย เพราะประกันการเดินทางจะคุ้มครองรอบด้าน คุณจะเที่ยวได้อย่างปลอดภัยและอุ่นใจอย่างแน่นอน

ด้วยเช็กลิสต์ที่มีประโยชน์เพียงไม่กี่ข้อเหล่านี้ คุณก็จะสามารถเป็นนักท่องเที่ยวมือโปร และจัดกระเป๋าได้อย่างไม่พลาดอีกต่อไป


5
เมื่อไหร่ที่รู้ตัวว่าเป็นแผลควรมองหาวิธีในการเร่งให้แผลสมานตัวเร็วที่สุด มิเช่นนั้นอาจทิ้งรอยแผลเป็นที่อาจทำให้ขาดความมั่นใจได้ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะวันนี้เรารวบรวม 10 ยาทาแผลเป็น ยอดนิยมที่ขึ้นชื่อว่าช่วยทำให้แผลเป็นทุกชนิดแลดูจางลง ไม่เว้นแม้แต่แผลเป็นจากสิว จะมียาทาลดรอยแผลเป็นยี่ห้อไหนน่าสนใจบ้างนั้น ตามมาอ่านพร้อม ๆ กันได้เลย  วิธีรักษารอยดําจากสิวเร็วที่สุด

Dermatix Ultra Gel
ยาทาลดรอยแผลเป็นจาก dermatix ตัวท็อปสุดฮิตที่สามารถช่วยรักษารอยแผลเป็นได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นแผลเป็นชนิดไฮเปอร์โทรฟิก คีลอยด์ หรือแผลเป็นนูน รวมไปถึงรอยแผลเป็นจากเหตุน้ำร้อนลวกและไฟไหม้ก็สามารถช่วยทำให้ดูจางลงได้ ด้วยคุณสมบัติของ CPX ผสานการทำงานร่วมกับ Vitamin C Eater ในส่วนของเนื้อเจลเกลี่ยง่าย ใช้งานแล้วไม่เหนอะหนะผิว

Acne-Aid Gel Scare Care
สำหรับใครที่เป็นสิวแล้วทิ้งรอยแผลเป็นจากสิวกวนใจไว้ แนะนำให้เลือกใช้เจลใสสูตรเข้มข้นลดรอยสิว ลดรอยแผลเป็นจาก acne aid หลอดนี้เลย ที่อัดแน่นไปด้วยน้ำมันจากธรรมชาตินานาชนิด ทั้งน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน ทีทรีออยล์ น้ำมันมะกอก และว่านหางจระเข้ ที่สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ปรับสภาพรอยแผลเป็นให้ดูจางลงมากยิ่งขึ้นได้ภายใน 5 วัน

Plantnery Bio Advance Target Scar Gel
เจลลดรอยแผลเป็นที่อัดแน่นไปด้วยสารสกัดจาก dragonblood หรือต้นเลือดมังกรอเมซอนที่มีความเข้มข้นสูงถึง 5.4% สามารถช่วยปรับสีเข้ม ๆ ของรอยแผลเป็นให้จางลงและดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ขณะเดียวกันโดดเด่นด้วยนวัตกรรมเจลฟิล์มออกแบบพิเศษเพื่อเคลือบและเกาะผิวได้ยาวนานกว่าเจลลดรอยแผลเป็นทั่วไป ทั้งยังกันน้ำและทนเหงื่ออีกด้วย

Hiruscar Post Acne
สำหรับใครที่กังวลปัญหารอยแผลเป็นจากสิว ทั้งรอยดำ รอยแดง หรือแม้แต่รอยหลุมสิวตื้น ๆ ที่ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน แนะนำให้ลองใช้ ยาทาแผลเป็น จาก Hiruscar หลอดนี้เลย ที่มาในรูปแบบของเจลกลิ่นหอมอ่อน ๆ ทาแล้วซึมซาบสู่ผิวรวดเร็ว อัดแน่นไปด้วยสารสกัดจากหัวหอมเข้มข้นกว่า 34 เท่า พร้อมด้วย MPS สามารถช่วยดูแลปัญหาสิวไปในตัวได้อีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและกระจ่างใสกว่าเดิม

Dermatix Acne Scar
อีกหนึ่งยาทาลดเลือนรอยแผลเป็นจาก dermatix ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่จะเป็นสูตรที่ออกแบบมาเพื่อลดเลือนรอยแดง รอยดำ หรือรอยแผลเป็นจากสิวโดยเฉพาะ ซึ่งโดดเด่นทั้งนวัตกรรม CPX Technology และสารสกัดเมือกหอยทาก สามารถช่วยสมานแผลตามธรรมชาติของผิวไปพร้อม ๆ กับปรับสภาพรอยแผลเป็นให้แลดูจางลง เผยผิวที่กระจ่างใสมากกว่าเก่า

Smooth E Acne Scar Serum
หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับสมูทอีครีมกันเป็นอย่างดี แต่สำหรับ Smooth E Acne Scar Serum นี้ออกแบบมาเพื่อดูแลแผลเป็นที่เกิดจากสิวโดยเฉพาะ สามารถช่วยสมานแผลที่เกิดจากสิวให้หายเร็วขึ้น ป้องกันการเกิดหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอัดแน่นไปด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้นถึง 3 ชนิด ทั้งว่านหางจระเข้ วิตามิน E และโซเดียมไฮยาลูรอเนต รวมถึงผสานเข้ากับเทคโนโลยีเปปไทด์ช่วยให้แผลเป็นเหล่านั้นอ่อนตัวและเรียบเนียนไปกับผิวมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

Klean & Kare Scar & Spot Gel
ยาทาลดรอยแผลเป็นจากสิวที่มาพร้อมกับนวัตกรรม Bright Drone ผสานเข้ากับวิตามิน B3 และ Rainbow Algae ช่วยปรับสภาพผิวที่มีปัญหารอยแดง รอยดำ หรือรอยแผลเป็นจากสิวให้แลดูจางลง และเพิ่มความกระจ่างใสให้แก่ผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งยังอ่อนโยนต่อผิว ผิวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ไร้กังวล

Puricas Plus Advanced Dragon's Blood C & E Scar Gel
ยาทาลดเลือนรอยแผลเป็นที่มีส่วนผสมของ dragonblood ตัวดัง แต่สำหรับสูตรนี้จะเป็นสูตร Advanced ที่บอกเลยว่ามีความเข้มข้นสูง ผสานการทำงานร่วมกับอนุพันธุ์วิตามิน C และ E สามารถช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นทั้งใหม่และเก่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำทาทันทีก่อนที่แผลจะตกสะเก็ด จะช่วยลดโอกาสการเกิดรอยแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ได้

Uderma Bio Scar Care Gel
เคลียร์ทุกรอยแผลเป็นกวนใจด้วยเจลลดรอยแผลเป็นที่ผสานการทำงานของ sH-Oligopeptide-1 พร้อมด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ อย่างหัวหอมแดง ใบบัวบก อลันโทอิน และโซเดียมไฮยาลูรอเนต มีคุณสมบัติช่วยปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่ม รอยแผลเป็นต่าง ๆ แลดูจางลง

Stratamed Advanced Film-Forming Wound Scar Silicon Gel
stratamed ซิลิโคนเจล 100% จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้รับการยอมรับจากแพทย์ทั่วโลกว่าสามารถช่วยสมานแผลและลดเลือนรอยแผลเป็นต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นแผลเปิด แผลศัลยกรรม แผลอุบัติเหตุ ตลอดจนแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก stratamed หลอดสีฟ้านี้ก็เอาอยู่

ทั้งหมดนี้ก็เป็น ยาทาแผลเป็น วิธีลดรอยสิว ยอดนิยมที่บอกเลยว่าสามารถลดเลือนรอยแผลเป็นได้ทุกรูปแบบ รวมไปถึงแผลเป็นจากสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฉะนั้นแล้วถ้าใครที่กำลังเผชิญกับรอยแผลเป็นอยู่ สามารถเข้ามาเลือกช้อปยาทาลดรอยแผลเป็นได้ที่ วัตสันออนไลน์ มีให้เลือกหลายยี่ห้อและมี โปรโมชั่นวัตสัน สุดคุ้มรออยู่



6
สำหรับผู้ที่รักการท่องเที่ยวและเดินทางบ่อยครั้ง การมีประกันเดินทางเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณมั่นใจและปลอดภัยในทุกการเดินทาง หากคุณยังไม่เคยซื้อประกันภัยเดินทางต่างประเทศมาก่อน อาจรู้สึกลังเลและไม่มั่นใจว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร ในบทความนี้ เราได้รวบรวม 5 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อประกันเดินทาง เพื่อให้ทุกการเดินทางของคุณสบายใจและได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุม มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

1. เปรียบเทียบแผนความคุ้มครองประกันภัยเดินทางต่างประเทศก่อนตัดสินใจซื้อ
การเปรียบเทียบแผนประกันภัยเดินทางต่างประเทศจากหลายบริษัทเป็นสิ่งที่จำเป็น MSIG มีแผนประกันภัยเดินทางที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปยังประเทศที่มีความเสี่ยงสูงหรือประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ MSIG ก็มีแผนที่ครอบคลุมเหตุการณ์ภัยสงครามหรือความไม่มั่นคง นอกจากนี้ MSIG ยังมีบริการเปรียบเทียบแผนประกันผ่านระบบออนไลน์ที่ง่ายต่อการใช้งาน ช่วยให้คุณสามารถเลือกแผนที่คุ้มค่าและตรงกับความต้องการของคุณได้ดีที่สุด
2. การจ่ายเบี้ยประกันภัยเดินทางต่างประเทศที่ตอบโจทย์ความต้องการ
MSIG เข้าใจถึงความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า จึงมีตัวเลือกการจ่ายเบี้ยประกันทั้งแบบรายปีและรายเที่ยว คุณสามารถเลือกแผนที่เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการของคุณได้ และมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มที่ตามแผนประกันที่คุณเลือก ด้วยการบริการที่ยืดหยุ่นและการชำระเบี้ยประกันที่สะดวกจาก MSIG
3. ความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันภัย
MSIG เป็นบริษัทประกันภัยชั้นนำที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลก การเลือก MSIG เป็นผู้ให้บริการประกันภัยเดินทางของคุณ คุณจะมั่นใจได้ว่าคุณได้รับบริการที่ดีเยี่ยมและความคุ้มครองที่ครอบคลุมอย่างแท้จริง รีวิวจากผู้ใช้งานจริงและรางวัลต่าง ๆ ที่ MSIG ได้รับเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงคุณภาพและความน่าเชื่อถือของบริษัท
4. ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
แผนประกันภัยเดินทางของ MSIG ครอบคลุมทั้งค่าใช้จ่ายในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าคุณจะต้องการความคุ้มครองสำหรับค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศ หรือการชดเชยค่าใช้จ่ายในกรณีเกิดอุบัติเหตุ แผนประกันจาก MSIG จะช่วยให้คุณสบายใจในทุกการเดินทาง
5. ประกันเดินทางรายปีสำหรับนักเดินทางบ่อย
MSIG เสนอแผนประกันเดินทางรายปีที่คุ้มค่าและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางบ่อย การทำประกันรายปีจาก MSIG ช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการซื้อประกันใหม่ทุกครั้งที่เดินทาง และยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการทำประกันแบบรายเที่ยว

บทสรุป
การเดินทางทุกครั้งมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกเที่ยวบิน การเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อแผนการเดินทางของคุณ การทำประกันเดินทางจาก MSIG จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุม และสามารถสบายใจในทุกการเดินทาง โดยไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด แต่อย่าลืมประกันรถชั้น 2 ด้วยล่ะ

7
หากคุณกำลังคิดทำประกันภัยรถยนต์และลังเลระหว่างประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 และชั้น 2 คุณไม่ใช่คนเดียวที่สงสัยว่าทั้งสองแบบนี้ต่างกันอย่างไร  และแต่ละแผนครอบคลุมมากน้อยแค่ไหน วันนี้เราจะมาดูความคุ้มค่าของแต่ละแผนเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกแผนประกันที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายขึ้น

ประกันรถยนต์ชั้น 1
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นประกันที่คุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีคู่กรณี จึงเป็นที่นิยมมาก เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มขับรถหรือเพิ่งออกรถใหม่ เนื่องจากมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมและเบี้ยประกันมีราคาสูง
รายละเอียดการคุ้มครองของประกันรถชั้น1 มีดังนี้:
คุ้มครองบุคคลภายในรถ: ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ค่าประกันผู้ขับขี่ และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่น ๆ
คุ้มครองบุคคลภายนอก: รับผิดชอบค่าเสียหายทั้งต่อร่างกายและทรัพย์สินของคู่กรณี หากเกิดอุบัติเหตุประกันจะชดเชยให้
คุ้มครองรถยนต์ที่เอาประกัน: คุ้มครองทั้งกรณีรถชน รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือภัยธรรมชาติอื่น ๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีคู่กรณี เช่น ถูกชนแล้วคู่กรณีหนีไป หรือชนกับสิ่งที่ไม่ใช่ยานพาหนะ เช่น กำแพง เสาไฟฟ้า ประกันก็จะรับผิดชอบค่าซ่อมรถยนต์ให้
ประกันรถยนต์ชั้น 2
ประกันรถยนต์ชั้น 2 เป็นแผนประกันที่คุ้มครองรองลงมา โดยส่วนที่แตกต่างคือ ประกันชั้น 2 ไม่คุ้มครองรถของเราในกรณีที่เกิดการชน โดยจะคุ้มครองเฉพาะรถของคู่กรณีเท่านั้น
รายละเอียดการคุ้มครองของประกันชั้น 2 มีดังนี้:
คุ้มครองบุคคลภายในรถ: ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ค่าประกันผู้ขับขี่ และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นเหมือนกับประกันชั้น 1
คุ้มครองบุคคลภายนอก: รับผิดชอบค่าเสียหายทั้งต่อร่างกายและทรัพย์สินของคู่กรณีเช่นเดียวกับประกันชั้น 1
คุ้มครองรถยนต์ที่เอาประกัน: คุ้มครองเฉพาะกรณีรถหายและไฟไหม้เท่านั้น หากเกิดอุบัติเหตุอื่น ๆ เช่น รถชนรถ ชนฟุตบาท หรือชนต้นไม้ ประกันชั้น 2 จะไม่รับผิดชอบค่าซ่อมรถยนต์ของเรา
ประกันรถยนต์ 2+
ประกันภัยรถยนต์ 2+ เป็นทางเลือกที่คุ้มค่ามากกว่าประกันชั้น 2 เนื่องจากมีความคุ้มครองเพิ่มเติมที่ครอบคลุมมากขึ้น แต่ยังคงมีเบี้ยประกันที่ต่ำกว่าประกันชั้น 1
รายละเอียดการคุ้มครองของประกันรถยนต์ 2+ มีดังนี้:
คุ้มครองบุคคลภายในรถ: ครอบคลุมเช่นเดียวกับประกันชั้น 1 และชั้น 2 รวมถึงครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่าง ๆ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ยังครอบคลุมถึงค่าประกันตัวในกรณีที่เกิดคดีอาญาด้วย
คุ้มครองบุคคลภายนอก: คุ้มครองทั้งร่างกายและทรัพย์สินของคู่กรณี หากเกิดอุบัติเหตุและมีผู้บาดเจ็บหรือทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย ประกัน 2+ จะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณี หรือค่าซ่อมแซมทรัพย์สิน
คุ้มครองรถยนต์ที่เอาประกัน: สิ่งที่ทำให้ประกัน 2+ โดดเด่นกว่าแผนประกันชั้น 2 คือ การคุ้มครองกรณีรถชนกับยานพาหนะทางบกและมีคู่กรณี โดยจะซ่อมให้ทั้งรถของเราและรถของคู่กรณี รวมถึงกรณีรถหายและไฟไหม้ แต่จะไม่คุ้มครองในกรณีที่ชนแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ชนฟุตบาท ชนเสาไฟฟ้า หรือชนกำแพง เป็นต้น ซึ่งแตกต่างจากประกันชั้น 1 ที่จะให้ความคุ้มครองทุกกรณีไม่ว่าจะมีคู่กรณีหรือไม่ก็ตาม

สรุป ประกันภัยรถยนต์แบบไหนที่ควรเลือก?
การเลือกประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมที่สุดนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้แผนประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการและความเสี่ยงของคุณมากที่สุด ปัจจัยหลักที่ควรพิจารณาได้แก่
อายุรถยนต์: หากคุณมีรถใหม่ หรือรถที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี การเลือกประกันรถชั้น1 จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการชนกับยานพาหนะอื่นหรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้ยังคุ้มครองในกรณีที่ไม่มีคู่กรณีด้วย เช่น การชนกับสิ่งกีดขวาง การชนฟุตบาท หรือแม้กระทั่งความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ ซึ่งทำให้คุณมั่นใจได้ว่า รถของคุณจะได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่ ไม่ว่าคุณจะประสบเหตุแบบใดก็ตาม
รูปแบบการใช้รถยนต์: หากคุณใช้รถน้อย ขับขี่ในเมืองเป็นหลัก หรือไม่ค่อยได้ขับทางไกล ประกันชั้น 2 หรือ 2+ อาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า ประกันชั้น 2 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าเบี้ยประกันและรับความคุ้มครองในระดับพื้นฐาน โดยจะคุ้มครองในกรณีที่เกิดความเสียหายกับทรัพย์สินหรือร่างกายของบุคคลภายนอกเท่านั้น และครอบคลุมกรณีรถหายและไฟไหม้ แต่ไม่ครอบคลุมกรณีรถชนกับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ยานพาหนะ
ในทางกลับกัน หากคุณต้องการความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ประกัน 2+ จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เนื่องจากประกัน 2+ จะคุ้มครองกรณีรถชนกับยานพาหนะอื่น ๆ บนถนน โดยมีคู่กรณี ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเคลมค่าซ่อมแซมรถยนต์ของคุณได้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี นอกจากนี้ยังคุ้มครองกรณีรถหายและไฟไหม้เหมือนกับประกันชั้น 2 ด้วย
งบประมาณ: เบี้ยประกันเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในการตัดสินใจ หากคุณมีงบประมาณมาก และต้องการความอุ่นใจสูงสุดในการขับขี่ ประกันชั้น 1 จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด เพราะคุณจะได้รับความคุ้มครองในทุกด้าน แต่ถ้างบประมาณของคุณจำกัด ประกันชั้น 2 หรือ 2+ ก็ยังเป็นทางเลือกที่ดี ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแต่ยังคงได้รับการคุ้มครองที่เพียงพอในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
ลักษณะของการขับขี่และการใช้รถ: หากคุณมีประสบการณ์ขับรถมานาน และมีความมั่นใจในทักษะการขับขี่ของตนเอง ประกันชั้น 2 หรือ 2+ อาจเพียงพอต่อความต้องการของคุณ แต่หากคุณเพิ่งเริ่มขับรถหรือขับรถในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ถนนที่มีการจราจรหนาแน่นหรือมีสภาพภูมิอากาศที่ไม่แน่นอน การเลือกประกันรถชั้น1 จะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากขึ้น และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
คำแนะนำเพิ่มเติม:
สำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมและสามารถจ่ายเบี้ยประกันที่สูงขึ้นได้ ประกันชั้น 1 คือทางเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากความคุ้มครองที่ครอบคลุมทุกกรณี
สำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด และต้องการความคุ้มครองที่ดีในราคาที่ประหยัด ประกันชั้น 2 หรือ 2+ เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการความคุ้มครองในกรณีที่ไม่มีคู่กรณี

การเลือกประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณสามารถขับขี่อย่างอุ่นใจ และได้รับการคุ้มครองที่ตอบโจทย์ตามความต้องการของคุณในทุกกรณี

8
การท่องเที่ยวช่วงเทศกาลเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน แต่การเตรียมตัวที่ดีคือกุญแจสำคัญเพื่อให้การเดินทางของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย การเลือกประกันเดินทางที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม นี่คือเคล็ดลับที่คุณควรรู้เพื่อการเลือกประกันเดินทางที่ตอบโจทย์และสร้างความมั่นใจให้กับคุณ:

1. ตรวจสอบความคุ้มครองที่ครบถ้วน
การมีประกันเดินทางต่างประเทศที่ครอบคลุมทุกความเสี่ยงจะช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเมื่อออกเดินทาง ควรตรวจสอบรายละเอียดดังนี้:
ความคุ้มครองด้านสุขภาพ: ตรวจสอบว่าประกันครอบคลุมค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย รวมถึงการส่งตัวกลับประเทศหากจำเป็น
ความคุ้มครองการยกเลิกการเดินทาง: เลือกแผนที่มีความคุ้มครองในกรณีที่คุณต้องยกเลิกการเดินทางโดยไม่คาดคิด เช่น การเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้
ความคุ้มครองทรัพย์สิน: ตรวจสอบว่าประกันครอบคลุมการสูญหายหรือเสียหายของกระเป๋าเดินทางและทรัพย์สินส่วนตัว
2. เลือกแผนประกันตามลักษณะการเดินทาง
การเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับประเภทการเดินทางจะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการ:
ประกันเดินทางแบบรายปี: เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อยในปีเดียว เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่ากว่าการซื้อประกันแบบรายเที่ยวหลายครั้ง
ประกันเดินทางแบบรายเที่ยว: ถ้าคุณมีแผนเดินทางเพียงครั้งเดียวในช่วงเทศกาล ประกันแบบรายเที่ยวอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
3. อ่านเงื่อนไขและข้อยกเว้นอย่างละเอียด
การศึกษารายละเอียดเงื่อนไขและข้อยกเว้นของประกันจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงข้อจำกัดต่างๆ:
กิจกรรมที่ไม่ครอบคลุม: ตรวจสอบว่าแผนประกันครอบคลุมกิจกรรมที่คุณจะทำ เช่น กีฬาเสี่ยง หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง
ประเทศที่ครอบคลุม: เช็คว่าประกันเดินทางครอบคลุมประเทศหรือพื้นที่ที่คุณจะไป
4. เปรียบเทียบราคาและบริการ
ทำการเปรียบเทียบราคาจากหลายบริษัทและพิจารณาระดับการบริการ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับความคุ้มครองที่ดีที่สุดในราคาที่เหมาะสม
5. ตรวจสอบการบริการลูกค้า
เลือกบริษัทที่มีบริการลูกค้าดี เช่น การให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน รวมถึงมีช่องทางการติดต่อที่สะดวกและรวดเร็ว

การเลือกประกันภัยเดินทางในประเทศที่เหมาะสมจะช่วยให้การท่องเที่ยวช่วงเทศกาลของคุณเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อย่าลืมวางแผนล่วงหน้าและเลือกประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณเพื่อการเดินทางที่ไร้กังวล!

9
การเดินทางอาจเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความสนุกสนาน แต่ในบางครั้งอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่ทำให้คุณต้องใช้ประกันเดินทาง เช่น การสูญหายของสัมภาระ อุบัติเหตุ หรือการเจ็บป่วย ไม่ต้องกังวล! คู่มือนี้จะช่วยให้คุณยื่นเคลมประกันเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. ทำความเข้าใจเงื่อนไขของกรมธรรม์
ก่อนเดินทาง ให้ตรวจสอบเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันเดินทางต่างประเทศที่คุณซื้อให้ละเอียด เช่น ขอบเขตความคุ้มครอง เงื่อนไขการเคลม และเอกสารที่จำเป็น การเข้าใจเงื่อนไขนี้จะช่วยให้คุณสามารถเตรียมเอกสารและข้อมูลที่จำเป็นได้อย่างครบถ้วน

2. เก็บเอกสารและหลักฐาน
หากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเคลมประกันเดินทาง สิ่งสำคัญคือการเก็บรวบรวมเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน เช่น:
ใบเสร็จรับเงิน: สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเคลม เช่น ค่ารักษาพยาบาลหรือค่าซ่อมแซม
รายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง: เช่น รายงานการแจ้งความในกรณีของการสูญหายหรือการโจรกรรม
ใบรับรองแพทย์: สำหรับกรณีการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ

3. แจ้งเหตุการณ์ให้บริษัทประกันทราบทันที
เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ต้องเคลม ควรแจ้งบริษัทประกันภัยให้ทราบโดยเร็วที่สุด บางบริษัทอาจมีข้อกำหนดในการแจ้งเหตุการณ์ภายในระยะเวลาที่กำหนดเพื่อให้การเคลมเป็นไปอย่างราบรื่น

4. เตรียมข้อมูลการเคลม
เตรียมข้อมูลที่บริษัทประกันต้องการ เช่น:
รายละเอียดของเหตุการณ์: อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึงวันเวลาและสถานที่
ข้อมูลส่วนตัว: ชื่อที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และหมายเลขกรมธรรม์

5. ส่งเอกสารการเคลม
กรอกแบบฟอร์มการเคลมให้ครบถ้วนและส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องไปยังบริษัทประกันภัยตามช่องทางที่กำหนด เช่น ไปรษณีย์ อีเมล หรือแพลตฟอร์มออนไลน์

6. ติดตามสถานะการเคลม
หลังจากส่งเอกสารการเคลมแล้ว ควรติดตามสถานะการเคลมกับบริษัทประกันเป็นระยะ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าการเคลมของคุณได้รับการพิจารณาและดำเนินการอย่างรวดเร็ว

7. ตรวจสอบผลการเคลม
เมื่อบริษัทประกันภัยพิจารณาและอนุมัติการเคลมแล้ว คุณจะได้รับการชำระค่าสินไหมทดแทนตามข้อตกลงในกรมธรรม์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการชำระเงินตรงตามที่คุณคาดหวัง


ข้อควรระวัง
อย่าลืมอ่านเงื่อนไขการยกเลิก: บางบริษัทอาจมีเงื่อนไขการยกเลิกการเคลมที่ต้องทราบ
เก็บสำเนาเอกสารทั้งหมด: เพื่อใช้ในการตรวจสอบหรือติดตามผลหากมีข้อสงสัย

การยื่นเคลมประกันเดินทางอาจดูเหมือนเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน แต่หากคุณเตรียมตัวและดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้อง จะช่วยให้คุณได้รับการชดเชยอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพิ่มความมั่นใจในการเดินทางของคุณ!

10

แม้หลายคนจะรู้สึกเขินอายเมื่อต้องพูดถึง ถุงยางอนามัย condom แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่คือตัวช่วยยอดเยี่ยมที่จะลดการติดต่อโรคทางเพศสัมพันธ์ การพกถุงยางอนามัยจึงไม่ใช่เรื่องน่าอายและยังน่าสนับสนุนเพราะเป็นตัวช่วยลดการเกิดโรคติดต่อได้เป็นอย่างดี แต่เพราะปัจจุบันมีถุงยางวางจำหน่ายจำนวนมาก แล้วจะเลือกซื้อ ถุงยางอนามัยยี่ห้อไหนดี ล่ะถึงใช้แล้วมั่นใจ ห่างไกลโรคติดต่อ

แนะนำ 10 ถุงยางอนามัยยี่ห้อไหนดี ปี 2025

- Durex Comfort
หากถามว่า ถุงยางอนามัยยี่ห้อไหนดี แน่นอนว่าคำตอบจะต้องมีชื่อของ Durex แบรนด์ถุงยางอนามัยชื่อดังอยู่ด้วยเสมอ สำหรับรุ่นนี้ออกแบบมาพร้อมผิวเรียบ ผลิตจากน้ำยางธรรมชาติที่เหนียวและทนทาน มาพร้อมการเคลือบสารหล่อลื่น ที่สำคัญขนาดใหญ่ถึง 56 มิลลิเมตร

- Durex Airy
ให้คุณและคนรักสนุกกับกิจกรรมมากยิ่งขึ้นด้วยนวัตกรรมใหม่จาก Durex ออกแบบด้วยความบางที่เหนือกว่า จนเรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่บางเฉียบที่สุดของแบรนด์ ผิวสัมผัสนุ่ม สวมใส่สบาย มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และมีสารหล่อลื่นปริมาณพอเหมาะ

- Durex Chocolate
เพิ่มความเย้ายวนใจด้วย Durex กลิ่นช็อกโกแลต ผลิตจากน้ำยางคุณภาพเยี่ยมเคลือบสารหล่อลื่นกลิ่นช็อกโกแลตหอมอ่อน ๆ มาพร้อมผิวสัมผัสแบบปุ่มเพิ่มความรู้สึกพิเศษ ผ่านการทดสอบทุกชิ้นว่าไม่มีรอยรั่ว ให้คุณมีความสุขได้อย่างมั่นใจ

- Okamoto XXL
ถุงยางอนามัยผิวเรียบมาพร้อมขนาดใหญ่สุด 57 มิลลิเมตร รองรับความเป็นชายได้อย่างดีเยี่ยม แม้ขนาดใหญ่แต่สวมใส่กระชับ ยืดหยุ่น หนาเพียง 0.05 มิลลิเมตร ถูกตรวจสอบมาเป็นอย่างดีว่าไร้รอยรั่ว มั่นใจทุกครั้งที่ใช้งาน

- Okamoto 003
ถุงยาง ขนาด 52 มิลลิเมตร ออกแบบมาพร้อมผิวเรียบ บางเฉียบเพียง 0.03 มิลลิเมตร เติมเต็มอรรถรสได้เป็นอย่างดี ถุงยางผลิตจากยางธรรมชาติ เหนียว แข็งแรง แต่ยืดหยุ่น ไม่เจือสี ที่สำคัญใส่แล้วรู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่ เข้าถึงทุกสัมผัสได้อย่างดี

- My One Hug
ถุงยางอนามัย พื้นผิวเรียบ ถูกใจหนุ่ม ๆ เพราะบางเฉียบเพียง 0.04 มิลลิเมตร มาพร้อมเทคโนโลยีเอกสิทธิ์ของแบรนด์ช่วยให้ถุงยางยืดหยุ่นเป็นพิเศษ ออกแบบโดยลดขอบถุงยางให้บางลงทำให้สวมใส่สบาย ไม่บีบรัด ที่สำคัญได้มาตรฐานสากล ผ่านการทดสอบมากถึง 3 ขั้นตอน สนุกกับกิจกรรมได้อย่างมั่นใจ

- My One Lube Plus
หากต้องการสนุกกับกิจกรรมแต่ไม่อยากซื้อเจลหล่อลื่นแยกต่างหาก แนะนำให้ซื้อถุงยางรุ่นนี้ เพราะเพิ่มสารหล่อลื่นมากถึง 50% จึงสนุกได้นานขึ้น ผลิตจากเนื้อยางคุณภาพดีจึงเหนียวแต่ยืดหยุ่น

- One Touch 52 mm
บอกลา ถุงยางอนามัย แบบเดิม ๆ ที่บรรจุใส่กล่องได้เลย เพราะรุ่นนี้บรรจุถุงยาง 12 ชิ้น มาในกระปุกดีไซน์สุดเท่ พกง่าย หยิบใช้งานสะดวกเพราะมาพร้อมขนาดกะทัดรัด เนื้อยางคุณภาพเยี่ยม สีธรรมชาติ ผนังขนาน ส่วนปลายเป็นกระเปาะและมีสารหล่อลื่น

- One Touch Sweet Romance
อีกหนึ่งรุ่น ถุงยาง บรรจุมาในกระปุกสีสันสดใสสมชื่อ เนื้อยางธรรมชาติบางเฉียบเพียง 0.03 มิลลิเมตร ผิวเรียบ ผนังขนาน มีสารหล่อลื่นปริมาณพอเหมาะ มาพร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ มั่นใจทุกครั้งที่ใช้เพราะผ่านการตรวจสอบรอยรั่วด้วยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์

- One Touch Mix 3 Plus
ถุงยาง ชนิดพื้นผิวไม่เรียบ มีสารหล่อลื่นในตัว จุดเด่นคือรวม 3 ชนิดผิวมาให้ในกล่องเดียว เลือกสนุกได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นผิวแบบไม่เรียบ ผิวแบบปุ่ม และผิวแบบขีด ถุงยางผลิตจากน้ำยางธรรมชาติที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล กระชับ และไม่ทำให้ระคายเคือง

เมื่อรู้แบบนี้แล้วใครที่สงสัยว่าควรเลือกซื้อถุงยางอนามัยยี่ห้อไหนดี แนะนำ 10 ตัวเลือกเหล่านี้ เพราะเป็นถุงยางคุณภาพดี ใช้แล้วมั่นใจว่าห่างไกลโรค โดยสามารถหาซื้อได้แล้วผ่าน watson online หรือ https://www.watsons.co.th/th/ รวบรวมมาให้เลือกหลายยี่ห้อหลายรุ่นและหลายราคา นอกจากถุงยางอนามัยแล้วยังมีผลิตภัณฑ์สำหรับคุณผู้ชายอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นยาสระผม สกินแคร์ ของใช้ส่วนตัวอื่น ๆ ที่สำคัญ โปรวัตสัน เพียบ เลือกช้อปได้ในราคาคุ้มค่าแน่นอน




11
ความแตกต่างของประกันภัยรถยนต์ชั้น 1, 2, และ 3 ของ MSIG
1. MSIG ประกันรถชั้น1 (Comprehensive Plan)
คุ้มครองครอบคลุมที่สุด: แผนนี้มอบความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด ทั้งรถยนต์ของคุณเองและคู่กรณี ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายจากอุบัติเหตุ, รถหาย, ไฟไหม้, น้ำท่วม, หรือแม้กระทั่งภัยธรรมชาติ นอกจากนี้ยังคุ้มครองชีวิตและสุขภาพของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
การบริการเสริม: แผนนี้มักมาพร้อมกับบริการเสริม เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง การจัดหารถทดแทนในกรณีที่รถของคุณต้องเข้าซ่อม เป็นต้น
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการความอุ่นใจและความคุ้มครองสูงสุดในการขับขี่
2. MSIG ชั้น 2+ (Extended Coverage)
คุ้มครองที่ดีแต่ราคาไม่สูงมาก: แผนประกันภัยชั้น 2+ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองมากกว่าชั้น 2 ปกติ โดยให้ความคุ้มครองทั้งรถของคุณและคู่กรณีในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ รวมถึงการคุ้มครองกรณีรถหายหรือไฟไหม้ แต่ไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากการชนเองหรือเหตุที่ไม่มีคู่กรณี
ราคาเป็นมิตร: ค่าเบี้ยประกันจะถูกกว่าชั้น 1 ทำให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติมโดยไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันสูงเกินไป
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมากขึ้น หรือผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายประกันภัย
3. MSIG ชั้น 3+ (Basic Coverage with Added Protection)
คุ้มครองในราคาประหยัด: ชั้น 3+ เป็นแผนประกันที่ให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมจากชั้น 3 ปกติ โดยครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของคุณในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี รวมถึงการคุ้มครองชีวิตและสุขภาพของผู้ขับขี่และคู่กรณี
ทางเลือกประหยัด: เบี้ยประกันจะต่ำกว่าแผนอื่น ๆ ซึ่งทำให้เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองพื้นฐานในราคาที่ประหยัด
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ใช้รถยนต์เก่าหรือรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานนาน และต้องการประกันที่ครอบคลุมเพียงพอในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี
4. MSIG ประกันภัยเฉพาะความเสียหายส่วนตัว (Personal Damage Insurance)
เน้นความคุ้มครองเฉพาะตัว: สำหรับผู้ที่ต้องการประกันภัยที่เน้นเฉพาะความเสียหายที่เกิดกับรถของตนเอง แผนนี้จะครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุที่ไม่เกี่ยวข้องกับคู่กรณี เช่น ชนเสาไฟฟ้า หรือเหตุการณ์ที่คุณเป็นผู้ขับขี่เอง
คุ้มครองเฉพาะที่ต้องการ: แผนนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดเบี้ยประกันภัยและต้องการคุ้มครองเฉพาะที่เกี่ยวกับตนเองเป็นหลัก

การเลือกแผนที่เหมาะสม
การเลือกแผนประกันที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานรถยนต์ของคุณ:
หากคุณต้องการความคุ้มครองแบบครอบคลุมและเต็มเปี่ยม MSIG ประกันรถชั้น1 จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
หากคุณต้องการความคุ้มครองในราคาที่ถูกลง MSIG ชั้น 2+ เป็นทางเลือกที่สมดุล
สำหรับผู้ที่ต้องการเบี้ยประกันต่ำและใช้รถไม่มาก MSIG ชั้น 3+ จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม

ควรตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมจาก MSIG หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนและตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด

12


เชื่อว่าใคร ๆ ก็อยากมีผิวสุขภาพดี ซึ่งหัวใจสำคัญของการมีผิวสุขภาพดีก็คือผิวที่ชุ่มชื้นเรียบเนียนไม่แห้งกร้าน เพราะปัญหาผิวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความหมองคล้ำ ความเหี่ยวย่น และผิวอักเสบแสบแดง ล้วนเกิดมาจากปัญหาเดียวกันนั่นก็คือผิวขาดความชุ่มชื้น ดังนั้นเราจึงควรหมั่นเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวอยู่สม่ำเสมอ วันนี้เรามี 5 ผลิตภัณฑ์โลชั่นและ ครีมทาผิว ที่มีประสิทธิภาพช่วยให้ผิวชุ่มชื้นมาแนะนำ รับประกันเลยว่าใช้แล้วผิวดีขึ้นจริง

ยูเซอริน พีเอช5
ผลิตภัณฑ์ โลชั่น บำรุงผิวที่มี pH5 Citrate Buffer ช่วยปรับสภาพผิวให้แข็งแรง ไม่ทำร้ายผิว นอกจากนั้นยังมี Dexpanthenol และ Glycerin ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ช่วยปกป้องการทำงานของเอ็นไซม์ที่มีอยู่ในผิวให้แข็งแรง ทำให้ผิวยกกระชับไม่แห้งกร้าน อีกทั้งยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้นยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ที่สำคัญซึมซาบง่าย ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม อ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคือง

Vaseline อินเทนซีฟ แคร์ ดีพ รีสโตร์ โลชั่น
ผลิตภัณฑ์ ครีมทาผิววาสลีน ที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวได้ยาวนานตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบง่าย ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นเพราะมีพลังของวาสลีนเจลลี่และกลีเซอรีนที่มาจากพืช 100% ซึมซาบบำรุงผิวได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน นอกจากนั้นยังมีสารสกัดจากข้าวโอ๊ตบริสุทธิ์และสตราทิส-3 มอยซ์เจอร์คอมเพล็กซ์ ซึมซาบบำรุงลึกถึงชั้นผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่มขึ้นทันที

เจอร์เกนส์ ไบรท์เทนนิ่ง อัลตร้า นูริช บอดี้ เซรั่ม
ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวแบรนด์ jergens ช่วยบำรุงผิวกายให้เรียบเนียนกระจ่างใสและชุ่มชื้นขึ้น เพราะอุดมไปด้วยวิตามิน B3 และ Pearl Extract ช่วยลดเลือนความหมองคล้ำ ทำให้ผิวเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญยังมี SPF 22 และ PA ++ ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและรังสียูวี ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของผิวเสื่อมโทรม ลดโอกาสการเกิดกระ ฝ้า และความหมองคล้ำ ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ก๊กเลี้ยงครีมบัวหิมะ
ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวที่ช่วยดูแลทั้งผิวหน้าและผิวกาย อุดมไปด้วยสารสกัดจากบัวหิมะพืชสมุนไพรล้ำค่าจากประเทศจีน นอกจากนั้นยังประกอบไปด้วยสารสกัดอื่น ๆ จากธรรมชาติ เช่น รากโสม พิมเสน ชามะลิ ใบบัวบก และอโลเวร่า ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นฉ่ำน้ำไม่แห้งกร้าน พร้อมกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวสุขภาพดีมีเลือดฝาด นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นต่าง ๆ ให้จางลง

แฮนด์ เนชั่น ฟอร์เอฟเวอร์ ยัง แฮปปี้ แฮนด์ครีม
ผลิตภัณฑ์ ครีมทามือ และเล็บที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นลดปัญหามือเหี่ยวแห้งกร้าน รวมไปถึงจมูกเล็บลอก เพราะมีส่วนผสมของสารสกัดของ Saponaria Pumila จากเทือกเขาแอลป์ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีและ Shea Butter 10% ช่วยฟื้นฟูผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้นและกระจ่างใสขึ้น ที่สำคัญเลยอ่อนโยนไม่ก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคืองผิว

จบไปแล้วกับผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวดี ๆ ทั้ง 5 แบรนด์ที่เราอยากให้คุณได้ลองใช้ แต่ที่วัตสันเรายังมีแบรนด์ชั้นนำมากมาย เช่น bepanthen acne aid ให้คุณสามารถเข้าไปช้อปได้ที่วัตสัน พร้อมรับ โปรวัตสัน สุดคุ้มอย่างโปร วัตสันชิ้นที่ 2 1 บาท โปรซื้อ 1 แถม 1 และโปรอื่น ๆ อีกเพียบได้เลย


13
สำหรับผู้ที่รักการท่องเที่ยวและเดินทางบ่อยครั้ง การมีประกันเดินทางเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณมั่นใจและปลอดภัยในทุกการเดินทาง หากคุณยังไม่เคยซื้อประกันภัยเดินทางต่างประเทศมาก่อน อาจรู้สึกลังเลและไม่มั่นใจว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร ในบทความนี้ เราได้รวบรวม 5 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อประกันเดินทาง เพื่อให้ทุกการเดินทางของคุณสบายใจและได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุม มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

1. เปรียบเทียบแผนความคุ้มครองประกันภัยเดินทางต่างประเทศก่อนตัดสินใจซื้อ
การเปรียบเทียบแผนประกันเดินทางต่างประเทศจากหลายบริษัทเป็นสิ่งที่จำเป็น MSIG มีแผนประกันภัยเดินทางที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปยังประเทศที่มีความเสี่ยงสูงหรือประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ MSIG ก็มีแผนที่ครอบคลุมเหตุการณ์ภัยสงครามหรือความไม่มั่นคง นอกจากนี้ MSIG ยังมีบริการเปรียบเทียบแผนประกันผ่านระบบออนไลน์ที่ง่ายต่อการใช้งาน ช่วยให้คุณสามารถเลือกแผนที่คุ้มค่าและตรงกับความต้องการของคุณได้ดีที่สุด

2. การจ่ายเบี้ยประกันภัยเดินทางต่างประเทศที่ตอบโจทย์ความต้องการ
MSIG เข้าใจถึงความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า จึงมีตัวเลือกการจ่ายเบี้ยประกันทั้งแบบรายปีและรายเที่ยว คุณสามารถเลือกแผนที่เหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการของคุณได้ และมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มที่ตามแผนประกันที่คุณเลือก ด้วยการบริการที่ยืดหยุ่นและการชำระเบี้ยประกันที่สะดวกจาก MSIG

3. ความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันภัย
MSIG เป็นบริษัทประกันภัยชั้นนำที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลก การเลือก MSIG เป็นผู้ให้บริการประกันภัยเดินทางของคุณ คุณจะมั่นใจได้ว่าคุณได้รับบริการที่ดีเยี่ยมและความคุ้มครองที่ครอบคลุมอย่างแท้จริง รีวิวจากผู้ใช้งานจริงและรางวัลต่าง ๆ ที่ MSIG ได้รับเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงคุณภาพและความน่าเชื่อถือของบริษัท

4. ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
แผนประกันเดินทางของ MSIG ครอบคลุมทั้งค่าใช้จ่ายในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าคุณจะต้องการความคุ้มครองสำหรับค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศ หรือการชดเชยค่าใช้จ่ายในกรณีเกิดอุบัติเหตุ แผนประกันจาก MSIG จะช่วยให้คุณสบายใจในทุกการเดินทาง

5. ประกันเดินทางรายปีสำหรับนักเดินทางบ่อย
MSIG เสนอแผนประกันเดินทางรายปีที่คุ้มค่าและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางบ่อย การทำประกันรายปีจาก MSIG ช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการซื้อประกันใหม่ทุกครั้งที่เดินทาง และยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการทำประกันแบบรายเที่ยว

บทสรุป
การเดินทางทุกครั้งมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกเที่ยวบิน การเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อแผนการเดินทางของคุณ การทำประกันเดินทางจาก MSIG จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุม และสามารถสบายใจในทุกการเดินทาง โดยไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด

14
เราจะมาดูกันว่ามีสิ่งใดบ้างที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกสินเชื่อรวมหนี้

## 1. เข้าใจสินเชื่อรวมหนี้

สินเชื่อรวมหนี้คือการรวมยอดหนี้จากหลายแหล่งให้กลายเป็นหนี้เดียว โดยผู้กู้จะได้รับเงินก้อนเพื่อใช้ชำระหนี้เดิมทั้งหมด ซึ่งจะช่วยให้การชำระหนี้มีความสะดวกและง่ายขึ้น โดยปกติแล้วสินเชื่อรวมหนี้จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าหนี้บัตรเครดิตหรือหนี้ส่วนบุคคล

## 2. อัตราดอกเบี้ย

เมื่อเลือกสินเชื่อรวมหนี้ อัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด ควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อหาตัวเลือกที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังควรพิจารณาเงื่อนไขการชำระเงิน เช่น ระยะเวลาการผ่อนชำระและจำนวนเงินที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน

## 3. ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

นอกจากอัตราดอกเบี้ยแล้ว ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการขอสินเชื่อรวมหนี้ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เช่น ค่าธรรมเนียมการจัดการ ค่าธรรมเนียมการประเมินหลักประกัน หรือค่าธรรมเนียมการชำระเงินล่วงหน้า ควรสอบถามให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ

## 4. เงื่อนไขการอนุมัติ

แต่ละสถาบันการเงินมีเงื่อนไขการอนุมัติสินเชื่อที่แตกต่างกันไป ควรตรวจสอบว่าตนเองมีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดหรือไม่ เช่น รายได้ประจำ สถานะการเงิน และประวัติการชำระหนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับการอนุมัติ

## 5. ความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงิน

การเลือกสินเชื่อรวมหนี้จากสถาบันการเงินที่มีความน่าเชื่อถือจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าการทำธุรกรรมจะปลอดภัย ควรตรวจสอบประวัติและความเชื่อถือของสถาบันการเงินที่คุณสนใจ รวมถึงรีวิวจากผู้ใช้บริการคนอื่น ๆ

## 6. การบริการลูกค้า

การบริการลูกค้าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ ควรเลือกสถาบันการเงินที่มีการบริการที่ดี สามารถให้คำปรึกษาและช่วยเหลือในกรณีที่เกิดปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

## สรุป

การเลือกสินเชื่อรวมหนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากพิจารณาอย่างรอบคอบตามปัจจัยที่ได้กล่าวถึงข้างต้น จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและเหมาะสมกับสถานการณ์ทางการเงินของคุณ หากคุณกำลังมองหาสินเชื่อรวมหนี้ ควรใช้เวลาในการศึกษาและเปรียบเทียบตัวเลือกต่าง ๆ เพื่อให้ได้สินเชื่อที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกสินเชื่อสำหรับร้านค้า สินเชื่อสำหรับรายย่อย และสินเชื่อเพื่อหมุนเวียน สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเพื่อขอคำปรึกษาได้เลย!

15
ห้างหุ้นส่วน (Partnership) เป็นรูปแบบธุรกิจที่มีการร่วมมือกันระหว่างบุคคลสองคนขึ้นไป โดยมีวัตถุประสงค์ในการทำกำไร โดยหุ้นส่วนจะร่วมกันลงทุนและแบ่งปันผลกำไรหรือขาดทุนตามสัดส่วนที่ตกลงกันไว้

## ลักษณะของห้างหุ้นส่วนที่เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก

### 1. ความยืดหยุ่นในการจัดการ

ห้างหุ้นส่วนมีความยืดหยุ่นสูงในการจัดการ เนื่องจากหุ้นส่วนสามารถตัดสินใจร่วมกันในเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการการตัดสินใจที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และควรศึกษาสินเชื่อที่ต่อยอดธุรกิจไว้ด้วยล่ะ

### 2. การแบ่งปันความเสี่ยง

การทำธุรกิจในรูปแบบห้างหุ้นส่วนช่วยให้หุ้นส่วนแต่ละคนสามารถแบ่งปันความเสี่ยงทางการเงินได้ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นธุรกิจที่อาจมีความไม่แน่นอนสูง การมีหุ้นส่วนช่วยลดภาระทางการเงินและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ

### 3. การเข้าถึงทรัพยากรและเครือข่าย

หุ้นส่วนแต่ละคนมักมีเครือข่ายและทรัพยากรที่แตกต่างกัน การรวมกันจะทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงทรัพยากรที่หลากหลาย เช่น ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และโอกาสทางการตลาด ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

### 4. ความง่ายในการจัดตั้ง

การตั้งห้างหุ้นส่วนไม่ต้องใช้ขั้นตอนที่ซับซ้อนเหมือนกับการจัดตั้งบริษัทจำกัด ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนที่สูง และควรศึกษาสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ด้วย

## ข้อดีและข้อเสียของห้างหุ้นส่วน

### ข้อดี

- **ต้นทุนต่ำ**: การจัดตั้งห้างหุ้นส่วนมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการจัดตั้งบริษัท
- **การจัดการที่ง่าย**: การตัดสินใจสามารถทำได้รวดเร็วและมีความยืดหยุ่น
- **การแบ่งปันทรัพยากร**: หุ้นส่วนสามารถนำความรู้และเครือข่ายมาช่วยเสริมสร้างธุรกิจ

### ข้อเสีย

- **ความรับผิดชอบร่วม**: หุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดชอบต่อหนี้สินของธุรกิจ
- **ความขัดแย้ง**: การทำงานร่วมกันอาจเกิดความขัดแย้งระหว่างหุ้นส่วนได้
- **การแบ่งปันกำไร**: กำไรจะต้องแบ่งกันตามสัดส่วนที่ตกลงกัน ซึ่งอาจทำให้บางคนรู้สึกไม่เป็นธรรม

## สรุป

ห้างหุ้นส่วนเป็นโครงสร้างธุรกิจที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการความยืดหยุ่นในการจัดการและการแบ่งปันความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจควรพิจารณาข้อดีและข้อเสียอย่างรอบคอบเพื่อให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างมีเหตุผล หากคุณกำลังมองหาวิธีการเริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็ก ห้างหุ้นส่วนอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ  แต่ก็อย่าลืมพิจารณาสินเชื่อสำหรับร้านค้า และสินเชื่อสำหรับรายย่อยด้วยเช่นกัน

หากคุณมีคำถามเพิ่มเติมหรือต้องการคำแนะนำในการเริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็ก อย่าลังเลที่จะติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำปรึกษา!

16


           การออมเงินเพื่ออนาคตเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะสำหรับคนที่เตรียมวางแผนเกษียณหรือแม้แต่มนุษย์เงินเดือนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ทำให้เงินงอกเงยได้ผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจคือการนำเงินไปลงทุนกับสินทรัพย์ชนิดต่าง ๆ และหากพูดถึงสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง มีมูลค่าในตัวเองไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร รวมถึงมีความผันผวนน้อยมากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่น คงไม่มีสินทรัพย์ไหนคุ้มค่าเกินการลงทุนกับ "ทองคำ" ซึ่งการลงทุนในทองคำก็มีหลายประเภท แต่หากคุณต้องการลงทุนโดยมีทองคำมาเก็บไว้เพื่อโอกาสขายออกในเวลาอันสมควร ก็สามารถเลือกซื้อทองได้สองประเภทคือ ทองแท่งกับทองรูปพรรณ ฉะนั้นก่อนจะไปถึงการตัดสินใจว่าควรเลือกซื้อทองประเภทไหนดี จำเป็นต้องรู้ความต่างของทองคำสองรูปแบบนี้ก่อน

       ทองรูปพรรณ คือ ทองคำที่ถูกนำมาขึ้นรูปเป็นเครื่องประดับชนิดต่าง ๆ เช่น สร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน ฯลฯ ทองคำประเภทนี้จะมีค่ากำเหน็จ ฉะนั้นราคาอ้างอิงในแต่ละวันที่ประกาศออกมาจะไม่สะท้อนราคาจริงที่เครื่องประดับถูกขายอยู่ในร้านทอง สร้อยคอทองคำน้ำหนักเท่ากันแต่ราคาต่างกันได้หากมีลวดลายต่างกัน ยิ่งลวดลายมีความยากค่ากำเหน็จก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเพราะจำเป็นต้องอาศัยฝีมือของช่างทอง

         ส่วนทองคำแท่ง คือ ทองคำ 96.5% หรือ 99.99% ที่ถูกขึ้นรูปตามบล็อก โดยในไทยจะมีขายแค่ทองคำแท่ง 96.5% เท่านั้น ทองคำประเภทนี้ไม่มีค่ากำเหน็จ มีเพียงค่าบล็อก ซึ่งถ้าคุณซื้อทองแท่งน้ำหนัก 5 บาทขึ้นไปก็จะไม่ต้องเสียค่าบล็อก ฉะนั้นราคาทองคำแท่งที่ประกาศออกมาในแต่ละวันจึงเป็นราคากลาง ซื้อที่ร้านไหนก็ราคาเท่ากัน
กับคำถามที่ว่าจะ ซื้อทองแท่งหรือทองรูปพรรณดี โดยเฉพาะเมื่อต้องการซื้อเพื่อการลงทุน ความจริงแล้วทองคำทั้งสองประเภทสามารถลงทุนได้ เพราะหากเก็บไว้ขายออกในเวลาที่เหมาะสมก็จะได้กำไรตามที่ต้องการ อย่างไรก็ตามการหาคำตอบว่าคุณควร ซื้อทองแท่งหรือทองรูปพรรณดี มีสิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาดังนี้

         หากต้องการทองคำเพื่อให้เป็นของขวัญหรือเพื่อใช้เป็นเครื่องประดับในหลายโอกาส แน่นอนว่าคุณต้องซื้อทองรูปพรรณ
หากเน้นซื้อขายเพื่อเก็งกำไรอย่างเดียวควรเลือกซื้อทองคำแท่ง
 
          ส่วนต่างราคาซื้อขายของทองคำทั้งสองประเภทในแต่ละวันถือว่ามีความน่าสนใจ โดยหากคลิกเข้าไปเช็กราคาทองคำ ที่นี่ จะพบว่าราคารับซื้อและขายคืนของทองคำแท่งต่างกันเพียง 100 บาท ส่วนทองรูปพรรณจะมีส่วนต่างที่มากกว่า ทำให้ทองคำแท่งเก็งกำไรได้ง่ายกว่า

        แม้ว่าทองคำทั้งสองประเภทสามารถเก็งกำไรได้และมีมูลค่าในตัวเองเช่นเดียวกัน แต่หากคุณเลือกซื้อขายทองรูปพรรณเพื่อเก็งกำไรจำเป็นต้องเก็บรักษาทองรูปพรรณอย่างดี เพราะจะมีค่าเสื่อมราคาจากการสูญหายไปของน้ำหนักหรือลวดลายที่เสื่อมสภาพเมื่อขายคืนได้ ซึ่งปัญหานี้จะไม่เกิดกับทองคำแท่ง

           เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้เราเชื่อว่าคุณได้รู้แล้วว่า ทองแท่งกับทองรูปพรรณ ต่างกันอย่างไร และคงเลือกได้แล้วว่าจะเลือกซื้อทองคำประเภทไหนดีให้ตอบโจทย์ความต้องการ อย่างไรก็ตามการลงทุนกับทองคำยังมีอีกหลายประเภท เช่น กองทุนทองคำ กองทุนรวมทองคำ สัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับตลาดอนุพันธ์ แต่ละประเภทมีความเสี่ยงเฉพาะตัว ซึ่งผู้ลงทุนจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจเริ่มลงทุน แม้ว่าทองคำจะมีความปลอดภัยมากกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นก็ตาม


17
คนรุ่นใหม่สนใจลงทุนมากขึ้น และมีเป้าหมายชัดเจนในการสร้างความมั่นคงทางการเงิน โดยมองว่าการลงทุนที่สมาร์ทจะนำไปสู่ความมั่นคงได้ สำหรับวันนี้ เราได้หยิบยกประเด็นของทองคำกับ 4 ทางเลือกในการ ลงทุนกับทอง มาไว้ที่นี่ เพื่อชั่งน้ำหนักความน่าลงทุนของแต่ละวิธีดูว่าแบบไหนจะคุ้มกว่ากัน ลงทุนทองดีไหม

   1. ซื้อทองมาเก็บไว้เอง
   ร้านขายทองที่ทุกคนเดินผ่านกันอยู่เรื่อย ๆ คือสนามแห่งแรกที่ง่ายที่สุดสำหรับนักลงทุน ข้อดีคือความสะดวก จะเดินเข้าไปซื้อขายทองเมื่อใดก็ได้ ปัจจุบันการซื้อทองยังสะดวกมากยิ่งขึ้นไปอีกเพราะสามารถ ลงทุนทอง ทางออนไลน์ได้ด้วยการส่งคำสั่งซื้อขายทองคำแท่งบนแพลตฟอร์ม Gold Wallet พร้อมตัดบัญชีค่าซื้อขายผ่านธ.กรุงไทยที่ผูกไว้กับแอปเป๋าตัง เป็นระบบซื้อขายแบบครบวงจรและสามารถเลือกร้านที่สะดวกในการไปรับทองได้
   2. วิธีออมทอง
   วิธีนี้เอาใจนักลงทุนน้องใหม่ไม่ต้องมีเงินหลักหมื่นก็ซื้อทองแท่งได้  ลงทุนกับทอง ด้วยวิธีออมทองคือการเปิดบัญชีเพื่อทยอยซื้อทองทีละน้อยเท่าที่มีเงิน เหมือนกับการนำเงินไปฝากธนาคารเรื่อย ๆ เพื่อเก็บออมเงิน แต่เป็นการออมทองแทน สะสมน้ำหนักทองไปจนกว่าจะได้ตามเกณฑ์ที่ร้านกำหนดให้ถอนออกมาเป็นทองคำแท่ง คุณก็จะได้เป็นเจ้าของทองคำนั้นเก็บไว้ขายทำกำไรต่อไป หรือจะเลือกถอนออกมาเป็นเงินสดแทนก็ได้ ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับส่วนต่างของราคาทองในวันที่ซื้อขายตามปกติ
   3. ลงทุนทางอ้อม ผ่านการซื้อหุ้นบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมทองคำ
   พูดง่าย ๆ คือลงทุนโดยการเปิดพอร์ตหุ้นทองคำนั่นเอง แต่เน้นหุ้นบริษัทที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมทอง หลักการเดียวกันกับการลงทุนหุ้นระยะยาวเน้นคุณค่า โดยนักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลบริษัทที่สนใจจะซื้อ เลือกหุ้นเป็น รู้จักหุ้นพื้นฐานดี โฟกัสผลการดำเนินงาน ประสิทธิภาพในการบริหารกิจการของบริษัท ข้อดีคือไม่ต้องเผชิญความเสี่ยง การเลือกหุ้นบริษัทที่ดีจะได้ผลตอบแทนที่ดีทั้งในเรื่องของเงินปันผลและกำไรเมื่อหุ้นขึ้น
   4. ลงทุนผ่านกองทุนรวมทองคำ
   เป็นวิธี ลงทุนทอง ทางอ้อมอีกแบบหนึ่ง โดยที่เราไม่ได้เลือกลงทุนด้วยตัวเอง แต่ให้กองทุนรวมเป็นผู้ดูแลการลงทุนให้ มีความปลอดภัยเพราะเป็นการลงทุนระยะยาวแบบเน้นคุณค่าเช่นกัน ข้อดีคือมีเงินทุนน้อยก็ลงทุนได้ เพราะการซื้อกองทุนขั้นต่ำสุดสามารถซื้อได้ด้วยเงินแค่ 1,000 บาท ใครที่ยังไม่เคยลงทุนมาก่อน แนะนะว่าควรเลือกวิธีที่สามารถเริ่มต้นด้วยเงินเพียงเล็กน้อย
การเริ่มต้นลงทุนที่ดีที่สุดไม่ใช่การทุ่มงบ แต่ควรทุ่มเทให้กับการเรียนรู้ สัดส่วนการลงทุนและสร้างประสบการณ์ที่ดี ใช้เวลาในการศึกษาตลาดเพื่อนำไปสู่ความมั่นคงทางการเงินตามที่คาดหวัง
ซื้อหุ้นกู้ https://krungthai.com/th/krungthai-update/promotion-detail/916



18


   ปัจจุบันการทำประกันโรคร้ายแรง ถือเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงทั้งกลุ่มพนักงานเอกชนและข้าราชการ เพราะสุขภาพนั้นเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ ถึงต่อให้ดูแลสุขภาพตัวเองดีแค่ไหน แต่เราก็ไม่สามารถควบคุมปัจจัยภายนอก เช่น มลพิษ สารพิษตกค้างในอาหาร ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงเลือกที่จะทำ ประกันโรคร้าย เอาไว้เผื่อในอนาคตเกิดอะไรขึ้นมา อย่างน้อยจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าประกันที่ครอบคลุมโรคร้ายแรงนี้แตกต่างจาก ประกันชีวิตสุขภาพ ทั่วไปอย่างไร ? วันนี้เราจะมาเฉลยให้ได้รู้กัน

ประกันโรคร้ายแรงคืออะไร ?
    สำหรับ ประกันโรคร้าย ถือเป็นประกันสุขภาพประเภทหนึ่งที่เน้นให้ความคุ้มครองโรคร้ายแรงโดยเฉพาะ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์แต่ละฉบับว่าคุ้มครองโรคใดบ้าง โดยประกันประเภทนี้ส่วนใหญ่จะมีวงเงินคุ้มครองค่อนข้างสูง สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งค่าหมอ ค่าห้องพัก ค่ายา และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อย่างครบถ้วน เพราะโรคร้ายแรงส่วนใหญ่มีค่ารักษาที่ค่อนข้างสูงและจำเป็นต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ตลอดจนเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย แต่ส่วนใหญ่ค่าเบี้ยประกันจะไม่แพง บางกรณีถูกกว่า ประกันสุขภาพ เหมาจ่ายด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้ประกันแบบโรคร้ายแรงจึงตอบโจทย์กับคนที่มีความกังวลเรื่องอนาคต กลัวว่าจะเจ็บป่วยเมื่ออายุมากขึ้น หากไม่รีบทำประกันที่ครอบคลุมโรคร้ายแรงไว้แต่เนิ่น ๆ ก็อาจจะไม่มีเงินรักษาตัวยามเจ็บป่วย

ประกันโรคร้ายแรงต่างจากประกันสุขภาพทั่วไปอย่างไร ?
       เนื่องจาก ประกันโรคร้ายแรง มีลักษณะความคุ้มครองบางด้านที่คล้ายคลึงกับ ประกันสุขภาพ แบบเหมาจ่าย ทำให้หลายคนมักจะสับสนกับประกันทั้ง 2 ประเภทนี้ โดยประกันโรคแบบร้ายแรงจะให้ความคุ้มครองเฉพาะโรคร้ายแรงที่ระบุไว้ในกรมธรรม์เท่านั้น ในกรณีที่ตรวจพบโรคร้ายแรงบริษัทประกันมักจะจ่ายรักษาพยาบาลเป็นเงินก้อนใหญ่ทีเดียว โดยจะจ่ายให้ผู้เอาประกันโดยตรง ขณะที่ ประกันชีวิตสุขภาพ แบบเหมาจ่ายนั้นจะให้ความคุ้มครองโรคเกือบทุกโรค ไม่ว่าจะโรคร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง ค่ารักษาพยาบาลเหมาจ่ายตามจริง ภายใต้วงเงินตามแผนประกันที่เลือก โดยบริษัทประกันจะจ่ายให้กับโรงพยาบาลเท่านั้น

จุดเด่นของประกันโรคร้ายแรง
   เมื่อทราบกันแล้วว่า ประกันโรคร้าย แตกต่างจาก ประกันสุขภาพ ทั่วไปอย่างไร ลำดับต่อไปเราลองไปดูจุดเด่นของประกันโรคแบบร้ายแรงกันบ้าง

- ได้รับเบี้ยประกันคืน
   หากคุณทำประกันโรคร้ายแรงแล้วไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงจนหมดสัญญา คุณจะได้รับเบี้ยประกันคืน ส่วนจะเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับแผนประกันที่เลือก
- ไม่ต้องตรวจสุขภาพ
   ส่วนใหญ่แล้วประกันโรคร้ายแรงไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพ เพียงแค่ตอบคำถามสุขภาพเท่านั้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับแผนประกันที่เลือก
เริ่มทำได้ตั้งแต่เกิด
   สามารถทำประกันได้ตั้งแต่อายุ 1 วัน ไปจนถึงอายุ 70 - 75 ปี (แล้วแต่บริษัท) ส่วนใหญ่แล้วหากทำตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ ค่าเบี้ยประกันก็จะยิ่งถูก
- รับเงินก้อนทันทีที่เจอโรค
   ในกรณีที่ตรวจเจอโรคร้ายแรงตามที่ระบุไว้ในสัญญา บริษัทจะจ่ายเงินก้อนให้ทันที ทำให้เราสามารถบริหารค่ารักษาพยาบาลเองได้แบบ 100%
   
     ทั้งหมดนี้คือสาระความรู้เกี่ยวกับ ประกันโรคร้ายแรง ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ จะเห็นได้ว่าเป็นประกันที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มักห่วงกังวลเรื่องอนาคต กลัวว่าจะเจ็บป่วยร้ายแรงเมื่ออายุมากขึ้น หากใครมีความกังวลในเรื่องนี้ การทำประกันโรคร้ายแรงก็จะช่วยบรรเทาความกังวลของคุณได้
ประกันอัคคีภัยบ้าน  https://krungthai.com/th/personal/insurance/others/property/543


19
# การหาข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่นสินเชื่อรวมหนี้: หาได้จากที่ไหนบ้าง?

ในยุคที่เศรษฐกิจกำลังเผชิญกับความท้าทาย การจัดการหนี้สินให้เป็นระเบียบเรียบร้อยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสนใจ หนึ่งในวิธีที่สามารถช่วยให้คุณจัดการหนี้สินได้ดียิ่งขึ้นคือการใช้สินเชื่อรวมหนี้ ซึ่งมักมาพร้อมกับโปรโมชั่นที่น่าสนใจ แต่คำถามคือ เราจะหาข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่นสินเชื่อรวมหนี้ได้จากที่ไหนบ้าง? บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และวิธีการหาข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ

## 1. เว็บไซต์ของสถาบันการเงิน

แหล่งข้อมูลแรกที่คุณควรตรวจสอบคือเว็บไซต์ของสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารและบริษัทสินเชื่อ โดยทั่วไปแล้ว สถาบันการเงินจะมีข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่นสินเชื่อรวมหนี้ที่ชัดเจน รวมถึงอัตราดอกเบี้ย เงื่อนไขการขอสินเชื่อ และเอกสารที่ต้องใช้ในการสมัคร นอกจากนี้ คุณยังสามารถเปรียบเทียบโปรโมชั่นจากหลาย ๆ แห่งได้ในที่เดียว

### 1.1 การสมัครออนไลน์

หลาย ๆ สถาบันการเงินมีบริการสมัครสินเชื่อออนไลน์ ซึ่งทำให้คุณสามารถกรอกข้อมูลและส่งเอกสารได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องเดินทางไปยังสาขา

## 2. แพลตฟอร์มเปรียบเทียบสินเชื่อเพื่อการศึกษา

ในปัจจุบันมีแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบสินเชื่อจากหลายแห่งได้อย่างง่ายดาย เช่น เว็บเปรียบเทียบสินเชื่อพนักงานประจำที่มีการจัดอันดับและรีวิวจากผู้ใช้จริง โดยคุณสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่นสินเชื่อรวมหนี้ได้ในที่เดียว

### 2.1 ความสะดวกในการเปรียบเทียบ

การใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้ช่วยให้คุณประหยัดเวลาและสามารถเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

## 3. สื่อสังคมออนไลน์

อีกหนึ่งแหล่งข้อมูลที่คุณไม่ควรมองข้ามคือสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook, Instagram และ Twitter สถาบันการเงินมักจะใช้ช่องทางเหล่านี้ในการประชาสัมพันธ์โปรโมชั่นใหม่ ๆ และข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อ

### 3.1 การติดตามข่าวสาร

คุณสามารถติดตามเพจหรือบัญชีที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อเพื่อรับข้อมูลอัปเดตล่าสุดเกี่ยวกับโปรโมชั่นและข้อเสนอพิเศษ

## 4. ฟอรัมและกลุ่มสนทนา

ฟอรัมออนไลน์และกลุ่มสนทนาเกี่ยวกับการเงิน เช่น Pantip หรือกลุ่ม Facebook ที่เกี่ยวข้องกับการเงินและการลงทุน เป็นแหล่งข้อมูลที่ดีในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์จากผู้ที่เคยใช้สินเชื่อรวมหนี้มาก่อน

### 4.1 การเรียนรู้จากประสบการณ์จริง

การอ่านรีวิวและคำแนะนำจากผู้ใช้จริงจะช่วยให้คุณมีความเข้าใจในโปรโมชั่นต่าง ๆ และสามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น

## 5. การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

หากคุณยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับการเลือกสินเชื่อรวมหนี้ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหรือที่ปรึกษาทางการเงินก็เป็นทางเลือกที่ดี พวกเขาสามารถให้คำแนะนำและช่วยคุณหาข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับสถานการณ์ทางการเงินของคุณ

## สรุป

การหาข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่นสินเชื่อรวมหนี้ไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณรู้จักแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และมีวิธีการหาข้อมูลที่เหมาะสม อย่าลืมตรวจสอบเว็บไซต์ของสถาบันการเงิน เปรียบเทียบสินเชื่อออนไลน์ ติดตามข่าวสารจากสื่อสังคมออนไลน์ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในฟอรัมต่าง ๆ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลและมั่นใจ

**หากคุณกำลังมองหาสินเชื่อรวมหนี้ที่เหมาะสมกับคุณ อย่ารอช้า! เริ่มต้นค้นหาข้อมูลวันนี้เพื่อทำให้การจัดการหนี้ของคุณเป็นเรื่องง่ายขึ้น! แต่ก็อย่าลืมศึกษาเกี่ยวกับการกู้เพื่อการศึกษาด้วยนะ**

20
สินเชื่อรวมหนี้คือการรวมสินเชื่อหรือหนี้สินหลายๆ รายการเข้าด้วยกันเป็นสินเชื่อเดียว ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถชำระหนี้ได้ง่ายขึ้น และมักจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าหนี้เดิม โดยปกติแล้วสินเชื่อรวมหนี้จะมีระยะเวลาการชำระคืนที่ยาวนานขึ้น

## วิธีการคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อรวมหนี้

### 1. รวบรวมข้อมูลหนี้สิน

ก่อนที่จะเริ่มคำนวณดอกเบี้ย คุณต้องรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับหนี้สินทั้งหมดที่คุณมี เช่น ยอดหนี้ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ย และระยะเวลาที่เหลือในการชำระหนี้

### 2. คำนวณยอดหนี้รวม

หลังจากที่คุณมีข้อมูลทั้งหมดแล้ว ให้คำนวณยอดหนี้รวม โดยการนำยอดหนี้แต่ละรายการมารวมกัน ตัวอย่างเช่น:

- หนี้บัตรเครดิต: 50,000 บาท
- หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล: 30,000 บาท
- หนี้รถยนต์: 100,000 บาท

ยอดหนี้รวม = 50,000 + 30,000 + 100,000 = 180,000 บาท

### 3. คำนวณอัตราดอกเบี้ยรวม

ถัดไป คุณต้องคำนวณอัตราดอกเบี้ยรวมที่คุณจะต้องจ่ายในสินเชื่อรวมหนี้ โดยการนำอัตราดอกเบี้ยของหนี้แต่ละรายการมาคำนวณตามสัดส่วนของยอดหนี้ ตัวอย่างเช่น:

- อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต: 18%
- อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคล: 12%
- อัตราดอกเบี้ยรถยนต์: 7%

คุณสามารถใช้สูตรการคำนวณอัตราดอกเบี้ยรวมได้ดังนี้:

\[
\text{อัตราดอกเบี้ยรวม} = \frac{(ยอดหนี้บัตรเครดิต \times อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต) + (ยอดหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล \times อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคล) + (ยอดหนี้รถยนต์ \times อัตราดอกเบี้ยรถยนต์)}{ยอดหนี้รวม}
\]

### 4. เปรียบเทียบกับสินเชื่อรวมหนี้

เมื่อคุณคำนวณอัตราดอกเบี้ยรวมแล้ว ให้เปรียบเทียบกับอัตราดอกเบี้ยที่เสนอในสินเชื่อรวมหนี้ หากอัตราดอกเบี้ยในสินเชื่อรวมหนี้ต่ำกว่าคุณสามารถพิจารณาใช้สินเชื่อนี้ได้

## การประหยัดค่าดอกเบี้ย

### 1. ชำระหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงก่อน

การชำระหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงก่อนจะช่วยลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยรวมได้อย่างมาก

### 2. ใช้เงินก้อนเพื่อชำระหนี้

หากคุณมีเงินก้อนที่สามารถใช้ได้ ให้พิจารณาชำระหนี้บางส่วนเพื่อลดยอดหนี้รวม

### 3. เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายสถาบันการเงิน

การเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขจากหลายสถาบันการเงินจะช่วยให้คุณได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด

## สรุป

การคำนวณสินเชื่อเงินสดไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณมีข้อมูลที่ถูกต้องและทำตามขั้นตอนที่แนะนำ นอกจากนี้การใช้กลยุทธ์ในการประหยัดดอกเบี้ยจะช่วยให้คุณสามารถจัดการหนี้สินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือคำแนะนำในการจัดการหนี้สิน สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินได้เลย!

อย่าลืมว่า การจัดการหนี้อย่างมีระเบียบจะช่วยให้คุณมีชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถวางแผนการเงินในอนาคตได้อย่างมั่นคง! แต่อย่าลืมขอสินเชื่อดอกเบี้ยถูกด้วยนะ

21


      การโอนเงินระหว่างประเทศ ก่อนหน้านี้อาจจะดูเหมือนยุ่งยาก เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการ 3 - 5 วัน ทั้งยังจะต้องไปทำธุรกรรมที่ธนาคารหรือตัวแทนรับโอนเงินที่มีใบอนุญาตเท่านั้น เช่น MoneyGram และ Western Union ซึ่งแต่ละแห่งต่างมีอัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงควรเปรียบเทียบความคุ้มค่าก่อนโอน นอกจากนี้ผู้โอนยังต้องแจ้งวัตถุประสงค์การโอนทุกครั้งที่ทำรายการเนื่องจากเป็นหลักเกณฑ์การ โอนเงินไปต่างประเทศ ของธนาคารแห่งประเทศไทย และหากเป็นผู้รับเงินโอนจากต่างประเทศมากกว่า 50,000 USD จะต้องใช้เอกสารประกอบการรับเงินตามวัตถุประสงค์ของเงินโอนด้วย

       ปัจจุบันการโอนเงินไปต่างประเทศ ง่ายและสะดวกขึ้นด้วยการใช้รหัสธนาคารหรือ Swift Code ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารต่าง ๆ โดยการ โอนเงินแบบ swift code จะช่วยให้การรับหรือ การโอนเงินระหว่างประเทศ สามารถดำเนินการผ่านบัญชีที่เปิดในประเทศไทยได้โดยตรงจึงคล่องตัวและรวดเร็วกว่า

         สำหรับการ โอนเงินไปต่างประเทศ swift code คือรหัสที่ต้องใช้เพื่อระบุธนาคารและสาขาของธนาคาร เนื่องจากเป็นการโอนเงินระหว่างธนาคารและข้ามประเทศจึงต้องปฏิบัติตามมาตรฐานขององค์การระหว่างประเทศ โดยมี SWIFT หรือ Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบการลงทะเบียนรหัส ซึ่งนอกจากจะเรียกว่า Swift Code แล้ว รหัสนี้ยังถูกเรียกอีกชื่อว่า BIC Code หรือ Bank Identifier Code ด้วย

               ด้วยความรวดเร็ว ง่าย และคล่องตัว ธุรกรรมการเงินออนไลน์จึงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน รวมทั้งการ โอนเงินต่างประเทศผ่านแอพ ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก สามารถทำได้ด้วยตนเองเพียงแค่ต้องระบุ Swift Code ในระหว่างการกรอกข้อมูลเพื่อโอนเงิน โดยสอบถามรหัส Swift Code ได้ที่ธนาคารเจ้าของแอป เว็บไซต์ของธนาคาร และเว็บไซต์ที่รวบรวม Database เช่น www.swiftcodetoday.com

โอนเงินผ่าน swift code ใช้เวลากี่วัน

          การ โอนเงินแบบ swift code ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารนั้น ปลายทางจะได้รับเงินรวดเร็วแบบเรียลไทม์ตั้งแต่ 2 วินาที จนถึง 3 วันทำการ ซึ่งระยะเวลาจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับประเทศปลายทางด้วย ยกตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT

           นอกจากแอปพลิเคชันจะช่วยให้การโอนเงินรวดเร็วทันใจแล้ว ค่าธรรมเนียมบัตรเดบิต ค่าธรรมเนียมโอนเงินต่างประเทศ ยังถูกกว่าทำธุรกรรมผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารอีกด้วย ซึ่งโดยทั่วไปธนาคารมักจะคิดค่าธรรมเนียมรับเงินโอนจากต่างประเทศเฉลี่ย 0.25% ของยอดเงินที่โอนมา ต่ำสุด 200 บาท สูงสุด 500 บาท และอาจจะมีค่าธรรมเนียมที่ถูกหักเพิ่มเติมระหว่างธนาคารตัวกลางหรือธนาคารต้นทาง สำหรับการโอนเงินไปต่างประเทศค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 300 - 500 บาท ต่อรายการและอาจจะมีการบวกเพิ่ม 0.05% ของยอดเงินโอน แต่การ โอนเงินต่างประเทศผ่านแอพ จะมีค่าธรรมเนียมถูกกว่า ยกตัวอย่างเช่น  การโอนเงินแบบ Swift Code ผ่าน Krungthai NEXT มีค่าธรรมเนียม Charge Ben 300 บาท Charge Our 1,100 - 1,500 บาท หากโอนผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารค่าธรรมเนียม Charge Ben 400 บาท Charge Our 1,200 - 1,600 บาท ทั้งนี้แต่ละธนาคารจะมีการกำหนดค่าธรรมเนียม อัตราแลกเปลี่ยน และโปรโมชั่นที่แตกต่างกัน เพื่อความคุ้มค่าจึงควรเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมก่อนใช้บริการทุกครั้ง

         การโอนเงินไปต่างประเทศผ่านแอปพลิเคชันสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาจึงสะดวกรวดเร็วไม่ต้องรอนาน อีกทั้งค่าธรรมเนียมการโอนยังถูกกว่า จึงคุ้มค่าทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย



22
เบี้ยประกันชีวิตได้สิทธิในการนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ส่วนบุคคลประจำปี ซึ่งการ ลดหย่อนภาษีประกันชีวิต เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนออมเงินระยะยาวและช่วยบรรเทาภาระเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หรือเมื่อไม่สามารถประกอบอาชีพได้เนื่องจากชราภาพแล้ว

เมื่อเราเห็นประโยชน์ของประกันชีวิตในเรื่องความคุ้มครองและเรื่องสิทธิทางภาษีแล้ว เรามาดูกันว่า ประกันชีวิตลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่  ประกันชีวิตแบบไหนดี โดยแยกแต่ละรูปแบบดังนี้
ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ผู้เอาประกันต้องจ่ายเบี้ยประกันติดต่อกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น 20 ปี และได้รับเงินเอาประกันเมื่ออายุ 99 ปี หรือเมื่อเสียชีวิตระหว่างสัญญา เหมาะกับผู้เอาประกันที่ต้องการมีมรดกให้ลูกหลาน ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา เป็นประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองตามระยะเวลาที่กำหนดในกรมธรรม์ เช่น 5 ปี 10 ปี 15 ปี เป็นต้น เป็นประกันชีวิตที่ไม่มีเงินคืนเมื่อครบสัญญา ซึ่งจะเหมาะสำหรับผู้เอาประกันที่ต้องการให้คนในครอบครัวได้รับประโยชน์เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิตประกันลดหย่อนภาษี ได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เป็นประกันที่คุ้มครองชีวิตตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในกรมธรรม์โดยชำระเบี้ยประกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น คุ้มครองชีวิต 10 ปี และจ่ายเบี้ยประกัน 5 ปี เป็นต้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการออมเงินในระยะเวลาสั้น ๆ และต้องการความคุ้มครองในเวลาเดียวกัน ประกันลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน เป็นประกันชีวิตที่แบ่งเบี้ยประกันส่วนหนึ่งนำไปลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น เหมาะกับผู้เอาประกันที่ต้องการความคุ้มครองและยอมรับความเสี่ยงที่มากขึ้นเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ประกันแบบนี้ลดหย่อนภาษีได้เฉพาะเบี้ยประกันที่เป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทประกันและค่าความคุ้มครอง ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
ประกันชีวิตแบบบำนาญ เป็นประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองในรูปแบบของรายได้หลังเกษียณ โดยจะจ่ายเงินให้ผู้เอาประกันตามจำนวนงวดที่ระบุไว้ในกรมธรรม์เพื่อนำไปใช้จ่ายในวัยเกษียณ เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการเป็นภาระลูกหลาน ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 200,000 บาทต่อปี แต่หากผู้เอาประกันไม่ได้ทำประกันชีวิตในข้อ 1 – 3 ก็สามารถลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาทต่อปี ทั้งนี้เมื่อรวมกับกองทุนหลังเกษียณอื่น เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนรวม SSF กองทุนรวม RMF แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี

เงื่อนไขของประกันชีวิตลดหย่อนภาษี
ต้องเป็นประกันที่ซื้อจากบริษัทประกันในประเทศไทย
กรมธรรม์ต้องมีอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
หากมีเงินปันผลระหว่างสัญญา ต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกันในรอบระยะเวลาที่จ่ายเงินปันผล
หากยกเลิกสัญญาก่อน 10 ปี ต้องจ่ายคืนภาษีที่ได้รับการลดหย่อนมาแล้วทุกปี พร้อมดอกเบี้ย 1.5% ต่อเดือน
ประกันชีวิตแบบบำนาญต้องมีการจ่ายผลประโยชน์เมื่อจ่ายเบี้ยประกันครบแล้ว และต้องกำหนดการจ่ายผลประโยชน์อย่างสม่ำเสมอในช่วงอายุ 55 - 85 ปี หรือมากกว่านั้น
กรณีทำประกันชีวิตแบบทั่วไปไว้หลายฉบับ เบี้ยประกันเมื่อนำมารวมกันแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท ประกันชีวิตแบบทั่วไป ได้แก่ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ แบบชั่วระยะเวลา แบบสะสมทรัพย์ และแบบควบการลงทุน
กรณีมีคู่สมรสที่ไม่ได้ทำงาน สามารถลดหย่อนภาษีของคู่สมรสได้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อปี

การเลือกซื้อประกันชีวิตควรพิจารณาเลือกประกันที่ให้ความคุ้มครองที่เราต้องการหรือเลือกซื้อประกันหลายแบบก็ได้ เช่น เลือกแบบตลอดชีพและสะสมทรัพย์ เพื่อให้เป็นมรดกลูกหลานและออมเงินเพื่อใช้จ่ายของตัวเองก็ได้

   หากไม่รู้ว่าจะเลือกทำประกันกับบริษัทไหนดี เราขอแนะนำประกันชีวิตของธนาคารกรุงไทย ที่มีประกันชีวิตให้เลือกครบทุกประเภท ทุกความคุ้มครอง ทุกความต้องการ พร้อมแสดงตารางเบี้ยประกันและเงื่อนไขอย่างละเอียดให้ศึกษาก่อนตัดสินใจ คลิก https://krungthai.com/th/personal/insurance/life-insurance เลือกความคุ้มครองพร้อมรับสิทธิลดหย่อนทางภาษีได้แล้ววันนี้ที่ธนาคารกรุงไทย



23

   การ ต่อ พร บ รถยนต์ เป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของรถหลงลืมไม่ได้ เนื่องจากกฎหมายบังคับให้รถทุกคันที่ขับบนถนนจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก มี พ.ร.บ. รถยนต์เป็นหลักประกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายทันที ครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาล ทรัพย์สินเสียหาย ไปจนถึงเสียชีวิต หาก พ.ร.บ.ขาด ประกันรถยนต์หมดอายุ ต้องทำอย่างไร หรือขับรถไม่มี พ.ร.บ. รถยนต์ มีโทษหรือผลเสียอย่างไร เรามีคำตอบมาฝากกันดังนี้

   ก่อนอื่นจะอธิบายสั้นๆ ว่า พ.ร.บ. รถยนต์ คือพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือประกันภัยภาคบังคับที่รถทุกคันต้องมีเพื่อให้ผู้ที่ประสบภัยจากรถได้รับความคุ้มครองเงินค่ารักษาและค่าสินไหมทดแทน โดยพ.ร.บ. รถยนต์ เป็นการคุ้มครองเฉพาะตัวบุคคล ไม่ได้ เคลมประกันรถ เจ้าของรถต้องต่ออายุเป็นประจำทุกปีจะปล่อยให้พ.ร.บ. ขาดไม่ได้แม้แต่วันเดียว รถทุกชนิดเจ้าของรถต้องต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ ก่อนจึง ต่อภาษีรถยนต์ และต่อทะเบียนรถได้ โดยเอกสารที่ใช้ในการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ ประกอบด้วย สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนรถ, สำเนาใบขับขี่ และสำเนากรมธรรม์เดิม

   ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ไม่ทัน มีโทษอย่างไร

        การ ต่อ พร บ รถยนต์ ประจำปีเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของรถต้องรู้ แนะนำว่าควรต่อ พ.ร.บ. ล่วงหน้าก่อนหมดอายุไม่เกิน 90 วัน หลังจากนั้นจึงนำหลักฐานไปยื่นเรื่อง ต่อภาษีรถยนต์ หรือต่อทะเบียนรถยนต์ในขั้นถัดไป ในกรณีที่ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ไม่ทันจะเกิดปัญหาหลายอย่างตามมา แม้ว่าไม่มีค่าปรับในการต่อ พ.ร.บ. อีกครั้ง แต่นำรถออกไปขับบนถนนไม่ได้ หากฝ่าฝืนนำรถไปขับและถูกตำรวจจราจรเรียกตรวจหลักฐานพบว่าขาดต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ มีโทษเป็นค่าปรับไม่เกิน 10,000 บาท

        การต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ อย่างต่อเนื่องทุกปีเพื่อให้รถยนต์วิ่งบนถนนได้อย่างถูกกฎหมาย อัตราเบี้ยประกันรถยนต์นั่งขนาดไม่เกิน 7 คนจ่ายปีละ 600 บาทเท่านั้น เป็นค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นวงเงินคนละ 30,000 บาท การสูญเสียอวัยวะหรือเสียชีวิตวงเงินคนละ 35,000 บาท และวงเงินค่าเสียหายมากขึ้นในกรณีที่อุบัติเหตุเกิดจากคู่กรณีเป็นฝ่ายผิด

          สำหรับการต่อประกันภัยภาคสมัครใจ หากต่อไม่ทันไม่มีค่าปรับอะไร แต่ถ้าขับรถบนถนนแล้วเกิดอุบัติเหตุจะไม่ได้รับความคุ้มครอง องจ่ายค่าเสียหายเองทั้งหมด ดังนั้น ควรเช็คให้แน่ใจว่า ประกันรถยนต์หมดอายุ หรือยัง ในเรื่องการเสียภาษีรถยนต์ประจำปีก็เช่นกัน จ่ายช้ามีค่าปรับด้วยเพราะการเสียภาษีระบุวันที่ย้อนหลังไม่ได้ เจ้าของรถยนต์หลายคนหลงลืมขาดการต่อภาษีประจำปีเกิน 3 ปี ป้ายทะเบียนรถยนต์ของคุณจะถูกยกเลิก

        เจ้าของรถสามารถ ต่อ พร บ รถยนต์ และซื้อประกันภัยรถยนต์ด้วยการยื่นเอกสารผ่านทางออนไลน์ สะดวกรวดเร็วและมีขั้นตอนง่ายๆ ชำระเงินได้หลายช่องทาง รวมถึงชําระภาษีออนไลน์ ทางออนไลน์  ยกเว้นกรณีค้างชำระภาษีเกิน 1 ปีต้องตรวจสภาพรถใหม่ที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน นำเอกสารรับรองไปยื่นชำระภาษีที่กรมขนส่งเท่านั้น หลังจากทำความเข้าใจข้อมูลพื้นฐานแล้วหวังว่าจะเกิดประโยชน์ในการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ และทำประกันรถยนต์ครั้งต่อไป



24
## ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ

### 1. อัตราดอกเบี้ย

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมักจะทำให้ราคาทองคำลดลง เนื่องจากการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่น พันธบัตรรัฐบาล จะมีความน่าสนใจกว่าการถือทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทน ในทางกลับกัน เมื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ ราคาทองคำมักจะสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย

### 2. อัตราเงินเฟ้อ

ทองคำมักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ เมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น มูลค่าของเงินจะลดลง ส่งผลให้ผู้ลงทุนหันมาซื้อทองคำเพื่อรักษามูลค่าทรัพย์สินของตน

### 3. ความไม่แน่นอนทางการเมือง

ความไม่แน่นอนทางการเมือง เช่น สงคราม การประท้วง หรือการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล มักส่งผลให้ราคาทองคำสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่มีความเสี่ยง

### 4. ความต้องการจากตลาดโลก

ความต้องการทองคำจากประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโต เช่น จีนและอินเดีย สามารถส่งผลต่อราคาทองคำได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหรือฤดูกาลที่มีการซื้อทองคำสูง

## การคาดการณ์ราคาทองคำในอนาคต

การคาดการณ์ราคาทองคำในอนาคตนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกในช่วงปีต่อไป หากเศรษฐกิจโลกยังคงมีความไม่แน่นอน อาจส่งผลให้ราคาทองคำมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่หากเศรษฐกิจฟื้นตัวและอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ราคาทองคำอาจมีแนวโน้มลดลง

### 1. แนวโน้มในปี 2024

ในปี 2024 คาดว่าราคาทองคำอาจมีการปรับตัวขึ้นหรือลงขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อ หากธนาคารกลางทั่วโลกยังคงนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ราคาทองคำอาจมีแนวโน้มสูงขึ้น

### 2. การติดตามสถานการณ์ทางการเมือง

การติดตามสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศสำคัญๆ เช่น สหรัฐอเมริกาและจีน จะช่วยให้สามารถคาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงการเลือกตั้งหรือเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

## สรุป

การวิเคราะห์ผลกระทบของเศรษฐกิจโลกต่อราคาทองคำเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญ การติดตามปัจจัยต่างๆ เช่น อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ และความไม่แน่นอนทางการเมือง จะช่วยให้สามารถคาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขายทองออนไลน์ หรือต้องการคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อเราได้ที่ https://krungthai.com/th/krungthai-update/promotion-detail/2138 เพื่อรับข้อมูลที่ทันสมัยและแม่นยำที่สุดเกี่ยวกับตลาดทองคำและเศรษฐกิจโลก!

25

          เชื่อว่ามนุษย์เงินเดือนหรือผู้มีรายได้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในแต่ละปีนั้น อยากจะทราบว่ารายได้เท่าไหร่ต้องเสียภาษี และ ไปหาตัวอย่างการคํานวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จึงมักจะต้องหา “ตัวช่วย” สำหรับลดหย่อนภาษี ไม่ว่าจะเป็นเงินบริจาค การทำประกัน การใช้ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยมาเป็นตัวลดหย่อนเพิ่มเติมจากค่าใช้จ่ายในด้านการดูแลบุตรและบิดามารดา

        การลงทุนใน กองทุนรวม เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่สามารถลดหย่อนภาษีได้เช่นกันเพราะมี กองทุน ประเภทที่รัฐบาลกำหนดให้สามารถนำเงินส่วนที่ลงทุนในปีนั้น ๆ ไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ด้วย นั่นก็คือ กองทุน SSF และ RMF นั่นเอง ซึ่งเน้นเรื่องการลงทุนเพื่อออมในระยะยาว

รู้จักกองทุนลดหย่อนภาษี SSF และ RMF
กองทุน SSF ย่อมาจาก Super Saving Fund เป็นกองทุนที่ปรับเปลี่ยนจาก LTF เมื่อปี 2563 เน้นการลงทุนระยะยาว โดยต้องถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 10 ปี กองทุนประเภทนี้สามารถนำเงินของนักลงทุนไปลงทุนในสินทรัพย์ได้ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ กองทุนทองคำ รวมถึงกองทุนอสังหาริมทรัพย์ โดยสามารถนำเงินส่วนที่ลงทุนในกองทุน SSF ไปหักลดหย่อนภาษีในปีที่ซื้อ ได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมิน แต่ต้องไม่เกิน 2 แสนบาท นอกจากนี้หากนำไปรวมกับค่าลดหย่อนการออมเพื่อเกษียณในรูปแบบอื่น ๆ จะต้องไม่เกิน 5 แสนบาท การลดหย่อนภาษีด้วยการ ซื้อกองทุน  ประเภทนี้ไม่มีการกำหนดวงเงินขั้นต่ำและไม่จำเป็นต้องซื้อต่อเนื่องทุกปีด้วย

กองทุน RMF ย่อมาจาก Retirement Mutual Fund หรือ กองทุนรวม เพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นกองทุนที่มุ่งส่งเสริมการออมสำหรับวัยเกษียณ โดยมีข้อกำหนดให้ถือหน่วยลงทุนประเภทนี้ไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับจากที่ซื้อครั้งแรก และสามารถขายได้ตอนอายุ 55 ปีไปแล้ว สำหรับกอง RMF นี้ไม่มีการกำหนดวงเงินขั้นต่ำในการซื้อแต่ต้องซื้ออย่างต่อเนื่องทุกปี หรืออย่างน้อยปีเว้นปีจึงจะอยู่ในเงื่อนไขที่สามารถนำไปใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 5 แสนบาท และเมื่อรวมกับการออมเพื่อเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 5 แสนบาทด้วย กองทุนประเภทนี้สามารถนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ได้ทุกประเภทเช่นเดียวกัน

แม้ว่ากองทุนทั้งสองประเภทดังกล่าวจะเพิ่มแต้มต่อในด้านของการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมจากผลตอบแทนที่กองทุนกำหนดแล้ว การที่กองทุนประเภทลดหย่อนภาษีทั้งแบบ SSF และ RMF สามารถนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ได้หลายประเภท ผู้ที่จะ ลงทุนกองทุนรวม ประเภทนี้จึงต้องศึกษารายละเอียดการลงทุนของแต่ละกองทุนให้ดีก่อน เช่น บางกองทุนเน้นการลงทุนในหุ้นก็จะมีความเสี่ยงมากกว่าการลงทุนในตราสารทางการเงิน หรือการลงทุนในหุ้นต่างประเทศก็จะมีความเสี่ยงในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น แต่กระนั้นก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งก่อนจะเลือกกองทุนก็ต้องตรวจสอบความพร้อมในการรับความเสี่ยงของตนเองก่อนด้วย 


26
บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าอายุความของบัตรเครดิตคืออะไร และมีผลกระทบต่อเครดิตบูโรอย่างไร

## อายุความบัตรเครดิตคืออะไร?

อายุความบัตรเครดิตหมายถึงระยะเวลาที่บัตรเครดิตของคุณมีอยู่ในระบบ โดยทั่วไปแล้ว อายุความนี้จะเริ่มนับตั้งแต่วันที่คุณเปิดบัญชีบัตรเครดิตจนถึงวันที่คุณปิดบัญชีหรือบัตรเครดิตนั้นถูกยกเลิก อายุความนี้มีความสำคัญต่อการประเมินเครดิตของคุณ เนื่องจากมีผลต่อคะแนนเครดิต (Credit Score) ที่คุณได้รับ

## ผลกระทบของอายุความบัตรเครดิตต่อเครดิตบูโร

### 1. คะแนนเครดิต

อายุความบัตรเครดิตมีผลต่อคะแนนเครดิตของคุณ คะแนนเครดิตจะพิจารณาจากหลายปัจจัย รวมถึงประวัติการชำระเงิน, จำนวนบัญชีเครดิตที่เปิดอยู่, และอายุเฉลี่ยของบัญชีเครดิต หากคุณมีบัตรเครดิตที่เปิดมานาน คะแนนเครดิตของคุณจะสูงขึ้น เนื่องจากแสดงถึงความรับผิดชอบในการจัดการเครดิต

### 2. ความน่าเชื่อถือ

บัตรเครดิตที่มีอายุความยาวนานจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของคุณในสายตาของผู้ให้บริการเงินกู้หรือธนาคาร การมีประวัติการชำระเงินที่ดีในระยะยาวจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าคุณเป็นผู้ใช้เครดิตที่มีความรับผิดชอบ

### 3. การเปิดบัญชีใหม่

การเปิดบัญชีบัตรเครดิตใหม่จะทำให้คะแนนเครดิตของคุณลดลงในระยะสั้น เนื่องจากอายุเฉลี่ยของบัญชีเครดิตของคุณจะลดลง ดังนั้น หากคุณมีบัตรเครดิตที่มีอายุความยาวนาน การเปิดบัญชีใหม่อาจทำให้คะแนนเครดิตของคุณลดลงมากกว่าผู้ที่ไม่มีบัตรเครดิตเก่า

## วิธีการรักษาอายุความบัตรเครดิต

เพื่อรักษาอายุความบัตรเครดิตของคุณให้ยาวนาน คุณควรพิจารณาวิธีการต่อไปนี้:

- **ไม่ปิดบัญชีบัตรเครดิตที่มีอายุยาว**: แม้ว่าคุณจะไม่ใช้บัตรเครดิตนั้นบ่อยครั้ง การปิดบัญชีอาจทำให้คะแนนเครดิตของคุณลดลง
- **ชำระเงินตรงเวลา**: การชำระเงินตรงเวลาเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาคะแนนเครดิตที่ดี
- **ใช้บัตรเครดิตอย่างมีสติ**: ใช้บัตรเครดิตในวงเงินที่คุณสามารถชำระได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้ หรือปรับโครงสร้างหนี้

## สรุป

อายุความบัตรเครดิตมีผลกระทบอย่างมากต่อเครดิตบูโรและคะแนนเครดิตของคุณ การรักษาบัตรเครดิตที่มีอายุยาวนานและการจัดการเครดิตอย่างมีสติจะช่วยให้คุณมีคะแนนเครดิตที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขอสินเชื่อในอนาคต หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการเครดิตหรือการใช้บัตรเครดิตอย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลืมติดตามบทความของเราต่อไป!

### เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครดิตบูโร เครดิตบูโรคืออะไร

หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดเครดิตบูโรคืออะไรและวิธีการปรับปรุงคะแนนเครดิตของคุณ สามารถสมัครรับข่าวสารจากเราเพื่อไม่พลาดข้อมูลดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ!

27
การโอนเงินไปต่างประเทศ นับเป็นปัญหาหนึ่งของคนทำงานในต่างประเทศ เพราะมีขั้นตอนเกี่ยวกับธุรกรรมซับซ้อนกว่าการโอนเงินในประเทศ เนื่องจากต้องผ่านระบบ Swift และ Time Zone ของประเทศที่ทำการโอนนั้น ๆ เราจึงพามาหาคำตอบกันว่าทำไม การโอนเงินระหว่างประเทศ ต้องใช้ระบบนี้ ข้อควรรู้เกี่ยวกับระยะเวลาในการโอน รวมทั้งข้อกำหนดของวงเงินด้วย

Swift Code คืออะไร
โอนเงินแบบ swift code หากให้อธิบายสั้น ๆ คือ รหัสของธนาคารเพื่อการโอนเงินต่างประเทศ สาเหตุของ
การเกิดขึ้นมาเนื่องจากสถาบันการเงินและธนาคารมีมากกว่า 11,000 แห่ง จาก 200 ประเทศทั่วโลก
จึงจำเป็นต้องมีการกำหนดรหัสกลางเพื่อบ่งบอกว่าธนาคารนี้มีชื่อว่าอะไร ตั้งอยู่ประเทศไหน เพื่อป้องกันการสับสน ซึ่งการ โอนเงินแบบ swift code จะมีตัวอักษรทั้งหมด 8 – 11 ตัว เพื่อบ่งชี้ถึงพิกัดของธนาคารที่ทำการโอน ตัวอย่างเช่น หากต้องการโอนเงินจากประเทศไทยไปสหรัฐอเมริกาเพื่อเป็นค่าเล่าเรียนของลูกที่ธนาคาร Bank of America Corporation จะต้องใช้รหัส Swift Code คือ MLCOUS3GFDS โดยตัวอักษร4 ตัวแรก “MLCO” คือชื่อย่อของ Bank of America Corp. “US” คือรหัสประเทศสหรัฐอเมริกา และ “3GFDS” คือรหัสบ่งชี้พิกัดย่อยของสาขาในนิวยอร์ก ในกรณีของคนไทยที่ต้องการส่งเงินกลับบ้านก็ต้องใช้รหัสการโอนเช่นเดียวกัน เช่น ต้องการส่งเงินให้ผู้รับซึ่งเปิดบัญชีธนาคารกรุงไทย รหัส Swift Code ของธนาคารกรุงไทยคือ “KRTH” ส่วนรหัสของประเทศไทยคือ “TH” ทั้งนี้อย่าจำสับสนกับตัวย่อที่เห็นได้ในไทยอย่าง SCB KTB TTB KBANK เพราะเหล่านี้คือตัวย่อที่ใช้ในวงการตลาดหุ้นและตลาดการเงิน

ระยะเวลา ค่าธรรมเนียม และวงเงินในการโอน
ค่าธรรมเนียมโอนเงินต่างประเทศ ด้วยระบบ Swift Code ถือว่ามีค่าธรรมเนียมสูงกว่าการโอนเงินด้วยระบบอื่น เพราะต้องมีการตรวจสอบการฟอกเงินระหว่างประเทศว่าการโอนเงินเข้าข่ายการฟอกเงินหรือไม่ แต่ถ้าหากเคยทำธุรกรรมกับธนาคารต่างประเทศนั้น ๆ การโอนจะทำได้สะดวกรวดเร็ว เนื่องจากธนาคารมีข้อมูลอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้เองระยะเวลาในการโอนจะอยู่ที่เฉลี่ย 3 – 5 วัน ส่วนค่าธรรมเนียมธนาคารในไทยส่วนใหญ่จะเริ่มคิดขั้นต่ำ 400 บาท +XXX (ตามข้อกำหนดของแต่ละธนาคาร บางธนาคารเก็บค่าธรรมเนียมส่วนต่างคงที่ 1,200 บาท สำหรับสกุลเงินโซนยุโรป หรือคิดเพิ่มเป็น % ของจำนวนเงินที่โอน) ดังนั้นการ โอนเงินไปต่างประเทศ swift code จะเสียค่าธรรมเนียมสูงกว่าการโอนแบบอื่น ๆ อย่าง PayPal ที่ไม่เสียค่าธรรมเนียมโอนแต่จะเก็บในรูปแบบของค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน ซึ่งถูกกว่าระบบ Swift ทั้งนี้การโอนด้วยระบบ Swift จะไม่มีการจำกัดวงเงินในการโอน ยกเว้นว่าจะโอนผ่านแอปมือถือธนาคาร หากวงเงินเกิน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ ต้องยื่นแบบฟอร์มการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ

ขั้นตอนการโอนเงินผ่านแอป
การ โอนเงินต่างประเทศผ่านแอพ เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว หลายธนาคารมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการโอนเงินนี้ เช่น ธนาคารกรุงไทยที่สามารถโอนผ่านแอป KrungThai Next มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เริ่มจากเข้าเมนูโอนเงินต่างประเทศ
เลือกรายการ ได้แก่ บัญชีสำหรับตัดเงิน ประเทศปลายทาง จำนวนเงินและสกุลเงินที่ต้องการโอน กำหนดผู้จ่ายค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม ระบุข้อมูลของผู้รับเงินและวัตถุประสงค์ในการโอน สุดท้ายกดยืนยัน เพียงเท่านี้การโอนเงินต่างประเทศผ่านแอปกรุงไทยก็เสร็จสิ้น
   
ก่อนการเลือกทำรายการการโอนเงินระหว่างประเทศกับธนาคารใดควรหาข้อมูลและเปรียบเทียบค่าธรรมเนียม วงเงินในการโอน รวมถึงระยะเวลาในการโอน เพื่อให้ได้บริการตรงกับความต้องการในการโอนเงินมากที่สุด



28
   มีเงินน้อย รายได้น้อยก็อยากลงทุนเหมือนใครเขาบ้าง แต่ด้วยตัวเราเองก็ งบน้อยลงทุนอะไรดี วันนี้เรามีวิธีลงทุนให้กับมือใหม่ที่อยากลงทุนแต่ไม่รู้ว่าจะลงทุนด้านไหนมาแนะนำ มาดูกันว่าจะมีวิธีลงทุนไหนที่น่าสนใจกันบ้าง

ฝากประจำ
        งบน้อยลงทุนอะไรดี หากยังไม่รู้ว่าจะลงทุนอะไรดี แนะนำให้เริ่มจากการเก็บออมเงินเพื่อให้มีทุนสักก้อน ก่อนที่จะมองหาวิธีการลงทุน การลงทุนต้องใช้เงินเพื่อเริ่มต้น การฝากประจำแม้จะเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนน้อย แต่ก็มีความเสี่ยงต่ำที่สุด เพราะเราจะได้รับเงินต้นที่เราใส่ไปทุกเดือนครบทุกบาททุกสตางค์ พร้อมดอกเบี้ยตามระยะเวลาและเงื่อนไขของการฝากประจำอีกด้วย

การซื้อประกันสะสมทรัพย์
   การซื้อประกันสะสมทรัพย์ เป็นอีกทางเลือกของคนที่กำลังมองหาลู่ทางการลงทุน โดยเฉพาะ มือใหม่ควรลงทุนอะไรดี การซื้อประกันออมทรัพย์ นับเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ มีการการันตีผลตอบแทนในอนาคตเป็นจำนวนที่แน่นอนตามสัญญาตั้งแต่วันเริ่มทำประกัน ใครที่มีงบน้อยก็สามารถแบ่งจ่ายเบี้ยจากก้อนใหญ่ ซอยย่อยเป็นรายเดือนได้ นอกจากการันตีผลตอบแทนแล้ว ยังได้รับความคุ้มครองชีวิตตามสัญญาประกัน หากเราเสียชีวิตในระหว่างสัญญา ผู้ที่อยู่ข้างหลังเราก็จะได้รับเงินจากความคุ้มครองเป็นมรดก ทิ้งไว้ให้คนข้างหลังมีเงินทุนสำหรับดำรงชีวิตต่อไปได้

ลงทุนเปิดธุรกิจ
   การลงทุนเปิดกิจการใครว่าต้องมีเงินก้อนโตเพียงอย่างเดียว มีหลายธุรกิจที่เริ่มต้นจากงบหลักร้อยหลักพัน เลือกธุรกิจที่เรามองเห็นโอกาส สามารถลุกมาทำได้เลย โดยที่ไม่ต้องรอให้มีเงินทุนมาก เช่น เปิดร้านขายขนมหรือของกินเล็ก ๆ ขายหมูปิ้ง แซนด์วิชก่อนไปทำงาน หรือขายของช่วงวันหยุด หรือทำธุรกิจออนไลน์ เป็นต้น มือใหม่ควรลงทุนอะไรดี การเป็นเจ้าของธุรกิจถือเป็นอีกหนทางของการลงทุนที่เราสามารถเก็บเกี่ยวกำไรจากการขายได้ทุกวัน แม้จะได้วันละเล็กละน้อย แต่หากเก็บสะสมทุกวันก็ทำให้เรามีเงินออมงอกเงยได้เช่นกัน เผลอ ๆ การลงทุนเปิดกิจการเล็ก ๆ นี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจใหญ่โตได้ในอนาคต การลงทุนแบบนี้ยิ่งวางแผนเร็วยิ่งได้เปรียบ

   นอกจากนี้ ยังมีวิธีการลงทุนสำหรับคนงบน้อยที่น่าสนใจอีกมากมายที่มือใหม่สามารถลงทุนได้ อาทิ เช่น การซื้อประกันสะสมทรัพย์ ลงทุนหุ้น ลงทุนตราสารหนี้ ทุกการลงทุนมีเงื่อนไขและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน หากคิดในแง่ดี การที่เราหาทางลงทุนมีความเสี่ยงน้อยกว่าการที่เราเก็บเงินไว้กับธนาคารเฉย ๆ เพราะสุดท้ายแล้ว เงินออมเพียงเล็กน้อยกับจำนวนดอกเบี้ยที่ได้รับ ก็ไม่สามารถเอาชนะค่าของเงินเฟ้อได้ หากไม่อยากให้เงินเราเสียมูลค่าลงไปอย่างเปล่าประโยชน์ แนะนำให้หาวิธีการลงทุนให้เงินงอกเงย โดยเป็นการลงทุนที่เราได้ศึกษาเองอย่างละเอียด และรับความเสี่ยงได้จะดีกว่า




29
ในวัฒนธรรมไทย ความเชื่อเกี่ยวกับเลขทะเบียนรถมงคลมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากคนไทยเชื่อว่าเลขทะเบียนที่ดีสามารถนำโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองมาให้กับเจ้าของรถ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีการซื้อรถใหม่หรือเปลี่ยนทะเบียนรถใหม่ บทความนี้จะสำรวจความเชื่อเกี่ยวกับเลขทะเบียนรถมงคลในวัฒนธรรมไทย พร้อมทั้งให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการเลือกเลขทะเบียนที่เหมาะสม

ความหมายของเลขทะเบียนรถมงคล

เลขทะเบียนรถมงคลหมายถึงเลขที่มีความหมายดีตามความเชื่อของคนไทย ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับความโชคดีและความเจริญรุ่งเรือง ตัวอย่างเช่น เลข 8 ที่ถือว่าเป็นเลขมงคลในวัฒนธรรมจีน เพราะมีความหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองและความสำเร็จ นอกจากนี้ เลข 9 ยังถูกมองว่าเป็นเลขที่มีความหมายถึงความยั่งยืนและความมั่งคั่ง

การเช็คเลขทะเบียนรถมงคล
### 1. เลขที่มีความหมายดี

การเลือกเลขทะเบียนรถมงคลควรพิจารณาจากความหมายของเลขนั้นๆ โดยทั่วไปแล้ว เลขที่มีความหมายดีจะเป็นที่นิยม เช่น เลข 1 ที่หมายถึงความเป็นผู้นำ หรือเลข 7 ที่หมายถึงความโชคดี

### 2. ความเชื่อส่วนบุคคล

นอกจากความหมายทั่วไปแล้ว ความเชื่อส่วนบุคคลก็มีบทบาทสำคัญในการเลือกเลขทะเบียนรถมงคล บางคนอาจมีเลขที่ชอบหรือเลขที่นำโชคมาให้ในชีวิต เช่น เลขวันเกิด หรือเลขที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญในชีวิต

### 3. เลขคู่หรือเลขเรียง

เลขคู่หรือเลขเรียง เช่น 22, 33 หรือ 1234 มักจะถูกมองว่าเป็นเลขมงคล เพราะมีความหมายถึงความสมดุลและความสอดคล้องกัน นอกจากนี้ เลขเหล่านี้ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของรถ

ความเชื่อและประเพณีเกี่ยวกับเลขทะเบียนรถมงคล

ในสังคมไทย การเลือกเลขทะเบียนรถมงคลมักจะมีการทำพิธีกรรมต่างๆ เช่น การขอพรจากพระ หรือการทำบุญเพื่อเสริมโชคลาภให้กับรถใหม่ นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานเฉลิมฉลองเมื่อได้เลขทะเบียนที่ถูกใจ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเลขทะเบียนในชีวิตประจำวันของคนไทย

การเลือกเลขทะเบียนรถมงคลเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทยที่มีความหมายลึกซึ้งและเกี่ยวข้องกับความเชื่อในโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง การเข้าใจความหมายของเลขและการเลือกเลขที่เหมาะสมสามารถช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและนำโชคลาภมาสู่เจ้าของรถได้

หากคุณกำลังวิเคราะห์เลขทะเบียนรถมงคลที่เหมาะสม อย่าลืมพิจารณาความหมายและความเชื่อส่วนบุคคลของคุณ เพื่อให้ได้เลขที่ดีที่สุดสำหรับคุณและรถของคุณ




30

           ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการ โอนเงินออนไลน์ เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะช่องทางการ โอนเงิน ผ่านพร้อมเพย์ที่แสนจะสะดวกทั้งผู้โอนและผู้รับโอน โดยพร้อมเพย์ (PromptPay) เป็นบริการธุรกรรมการเงินออนไลน์ที่ใช้งานง่ายผ่านโทรศัพท์มือถือ จึงสามารถโอนได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมต่างธนาคารหรือต่างสาขา ทั้งยังสมัครใช้บริการได้ง่ายที่สาขาของธนาคารต่าง ๆ เว็บไซต์ของธนาคาร ตู้ ATM Internet Banking Mobile Banking หรือผ่าน Call Center ของธนาคารที่เปิดบัญชีไว้

       การ สมัครพร้อมเพย์ ผ่าน Mobile Banking เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกสุดป้องกันการโอนเงินผิดบัญชี เพียงแค่มีหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ผ่านการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วและเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน  จากนั้นดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของธนาคารที่เปิดบัญชีไว้ซึ่งในระบบจะมีฟังก์ชันในการสมัครพร้อมเพย์อยู่สามารถทำตามขั้นตอนที่ระบบแจ้งได้เลย ตัวอย่างเช่น

ธนาคารกรุงไทย
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT
เปิดแอปพลิเคชันเพื่อเข้าสู่ระบบแล้วกดไปที่ พร้อมเพย์ กดปุ่ม สมัครบริการพร้อมเพย์
เลือกบัญชีที่ต้องการผูกพร้อมเพย์
เลือกว่าจะสมัครลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยหมายเลขโทรศัพท์มือถือหรือเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน หากลงทะเบียนด้วยเลขที่บัตรประจำตัวประชาชนระบบจะดึงข้อมูลโดยอัตโนมัติจากบัญชีเงินฝาก หากลงทะเบียนด้วยหมายเลขโทรศัพท์มือถือระบบจะส่งรหัส OTP ให้กรอกเพื่อยืนยันตัวตนอีกครั้ง
จากนั้นตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนแล้วกด “ยืนยัน” 

ธนาคารไทยพาณิชย์
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SCB EASY
เปิดแอปพลิเคชันเพื่อเข้าสู่ระบบแล้วกดไปที่แถบเครื่องมือ จะปรากฏ “เมนูอื่น ๆ” ขึ้นมา เลือกไปที่การตั้งค่า จากนั้นเลือก “จัดการ SCB พร้อมเพย์” อ่านทำความเข้าใจก่อนกดยอมรับ “ข้อกำหนดและเงื่อนไข” ในการสมัครพร้อมเพย์
เลือกว่าจะผูกบัญชีกับเลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือ
เลือกว่าจะผูกพร้อมเพย์เข้ากับบัญชีเงินฝากบัญชีใด แล้วกดปุ่ม “ผูกบัญชี”
การสมัครพร้อมเพย์ผ่านแอป SCB EASY เสร็จเรียบร้อย

ธนาคารกรุงเทพ
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Bualuang mBanking
เปิดแอปพลิเคชันเพื่อเข้าสู่ระบบแล้วกดไปที่ “เพิ่มเติม” จากนั้นเข้าไปที่ “ตั้งค่าพร้อมเพย์”
เลือกกดปุ่ม “ลงทะเบียนพร้อมเพย์” ระบบจะขึ้นแจ้งข้อตกลงการใช้บริการ กด “ยอมรับ”
เลือกลงทะเบียนด้วยเลขที่บัตรประจำตัวประชาชนหรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือ หากลงทะเบียนด้วยเลขที่บัตรประจำตัวประชาชนต้องใส่เลขทั้ง 13 หลัก แล้วกด “ตกลง” หากเลือกลงทะเบียนด้วยหมายเลขโทรศัพท์มือถือก็สามารถกดลงทะเบียนต่อได้เลย
เลือกบัญชีที่ต้องการลงทะเบียน พร้อมเพย์ เพียงบัญชีเดียวเท่านั้น จากนั้นกด “ยืนยัน” ตามด้วย “ต้องการ” เป็นอันเสร็จสิ้น

จะเห็นได้ว่าการ สมัครพร้อมเพย์ ผ่านแอปพลิเคชันไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีหลักการคล้ายกันคือให้เลือกว่าจะลงทะเบียนด้วยหมายเลขโทรศัพท์มือถือหรือเลขที่บัตรประจำตัวประชาชนและเลือกบัญชีที่จะผูกพร้อมเพย์ หากมีบัญชีเงินฝากกับสามธนาคารดังกล่าวข้างต้นก็สามารถสมัครพร้อมเพย์ตามขั้นตอนได้เลย สำหรับธนาคารอื่น ๆ นั้นอาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อยซึ่งไม่เป็นปัญหาต่อการสมัครใช้งานพร้อมเพย์ของมือใหม่แต่อย่างใด การมีพร้อมเพย์ไว้ใช้ช่วยตอบโจทย์ชีวิตในยุคดิจิทัลได้


31

การไหว้แม่ย่านางรถเป็นประเพณีที่มีความสำคัญในวัฒนธรรมไทย ซึ่งมีความเชื่อว่าแม่ย่านางเป็นเทพเจ้าที่ปกป้องคุ้มครองรถยนต์และผู้ขับขี่ การไหว้แม่ย่านางไม่เพียงแต่เป็นการแสดงความเคารพ ยังมีประโยชน์หลายประการที่สามารถเสริมดวงและนำโชคดีมาสู่ชีวิตของผู้ขับขี่ได้

ความหมายของแม่ย่านางรถ

แม่ย่านางรถเป็นเทพเจ้าที่เชื่อกันว่ามีอำนาจในการปกป้องและดูแลรถยนต์ รวมถึงผู้ที่ใช้รถยนต์นั้นๆ โดยเฉพาะในเรื่องของความปลอดภัย การเดินทางที่ราบรื่น และการหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ การไหว้แม่ย่านางจึงเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ขับขี่กับเทพเจ้า

ประโยชน์ของการไหว้แม่ย่านางรถ

1. เสริมดวงและโชคลาภ

การไหว้แม่ย่านางรถช่วยเสริมดวงในด้านการเดินทาง โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเดินทางไกลหรือในช่วงเทศกาลต่างๆ การทำบุญและขอพรจากแม่ย่านางจะช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

2. ป้องกันอุบัติเหตุ

การไหว้แม่ย่านางรถมีความเชื่อว่าเป็นการขอความคุ้มครองจากอุบัติเหตุและเหตุการณ์ไม่คาดคิดต่างๆ ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่มีสติและความระมัดระวังมากขึ้นในระหว่างการขับรถ

3. สร้างความมั่นใจในการขับขี่

เมื่อผู้ขับขี่ได้ทำการไหว้แม่ย่านาง จะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการขับขี่ เนื่องจากเชื่อว่ามีการปกป้องจากเทพเจ้าทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

4. เสริมสร้างจิตใจที่ดี

การไหว้แม่ย่านางรถยังเป็นการสร้างจิตใจที่ดีและมีความสุข โดยการทำบุญและขอพรจะช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกสงบและมีความสุขกับการเดินทาง

วิธีการไหว้แม่ย่านางรถ

การไหว้แม่ย่านางรถนั้นสามารถทำได้ง่ายๆ โดยมีขั้นตอนดังนี้:

1. **เตรียมของไหว้**: ควรเตรียมของไหว้แม่ย่านางรถเช่น น้ำเปล่า, ข้าวสวย, ผลไม้, และของหวาน
2. **เลือกสถานที่**: หาที่เหมาะสมในการไหว้ เช่น บริเวณหน้ารถหรือที่จอดรถ
3. **ตั้งจิตอธิษฐาน**: ในขณะที่ทำการไหว้ ควรตั้งจิตอธิษฐานขอพรให้มีความปลอดภัยในการเดินทาง
4. **ทำบุญ**: สามารถทำบุญเพิ่มเติม เช่น การบริจาคให้กับองค์กรการกุศล เพื่อเสริมสร้างบุญกุศล

การไหว้แม่ย่านางรถเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ขับขี่กับเทพเจ้า ซึ่งมีประโยชน์มากมายในการเสริมดวงและนำโชคลาภมาสู่ชีวิต หากคุณต้องการให้การเดินทางของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย การไหว้แม่ย่านางรถเป็นทางเลือกที่ดีที่คุณไม่ควรมองข้าม

หากคุณสนใจในการไหว้แม่ย่านางรถ สีรถถูกโฉลกตามวันเกิด  ลองนำวิธีการที่ได้แนะนำไปปฏิบัติตามดู แล้วคุณอาจพบว่าการเดินทางของคุณจะเต็มไปด้วยความสุขและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น!



32
ก่อนที่เราจะเริ่มการจัดกระเป๋า เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของการบินที่เราจะทำการเดินทาง

### การบินในประเทศ

การบินในประเทศมักมีระยะเวลาสั้นกว่าและไม่ต้องใช้เอกสารมากนัก เช่น พาสปอร์ต แต่ก็ยังมีข้อกำหนดเกี่ยวกับน้ำหนักกระเป๋าและขนาดที่ต้องปฏิบัติตาม

### การบินต่างประเทศ

การบินต่างประเทศมักมีข้อกำหนดที่เข้มงวดกว่า เช่น เอกสารการเดินทางที่ต้องใช้ และข้อกำหนดเกี่ยวกับของที่นำขึ้นเครื่องบิน เช่น ของเหลวและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

## เคล็ดลับการจัดกระเป๋าเดินทาง

### 1. เลือกกระเป๋าเดินทางที่เหมาะสม

การเลือกกระเป๋าเดินทางที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกกระเป๋าที่มีน้ำหนักเบาและมีขนาดพอเหมาะกับการเดินทางของคุณ สำหรับการบินในประเทศ กระเป๋าขนาด 20-24 นิ้วอาจเพียงพอ แต่สำหรับการบินต่างประเทศ อาจต้องใช้กระเป๋าขนาด 24-28 นิ้ว

### 2. จัดระเบียบสิ่งของภายในกระเป๋า

การจัดระเบียบสิ่งของภายในกระเป๋าจะช่วยให้คุณค้นหาสิ่งของได้ง่ายขึ้น ควรใช้ถุงเก็บของหรือช่องเก็บของในกระเป๋าเพื่อแยกสิ่งของที่จำเป็น เช่น เสื้อผ้า รองเท้า และของใช้ส่วนตัว

### 3. ตรวจสอบข้อกำหนดเกี่ยวกับน้ำหนักและขนาด

แต่ละสายการบินมีข้อกำหนดเกี่ยวกับน้ำหนักและขนาดของกระเป๋าเดินทางที่แตกต่างกัน ควรตรวจสอบข้อมูลนี้ก่อนการเดินทาง เพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

### 4. นำของที่จำเป็นขึ้นเครื่องบิน

สำหรับการบินในประเทศ ควรนำของที่จำเป็น เช่น เอกสารการเดินทาง โทรศัพท์มือถือ และของใช้ส่วนตัวขึ้นเครื่องบิน ในขณะที่การบินต่างประเทศ ควรนำของที่สำคัญ เช่น พาสปอร์ต และบัตรเครดิตติดตัวเสมอ

## สรุป

การจัดกระเป๋าเดินทางให้เหมาะสมกับการบินทั้งในประเทศและต่างประเทศนั้นไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณทำตามเคล็ดลับที่ได้กล่าวถึงในบทความนี้ คุณจะสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายและมั่นใจมากขึ้น

หากคุณมีประสบการณ์หรือเคล็ดลับเพิ่มเติมในการจัดกระเป๋าเดินทางหรือวิธีการจองโรงแรม อย่าลืมแชร์ความคิดเห็นของคุณในคอมเมนต์ด้านล่าง เพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้และเตรียมตัวสำหรับการเดินทางครั้งถัดไป!

นอกจากนี้ หากมีคำถามเกี่ยวกับการเรียนต่อปโทต่างประเทศค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง หรือไปเรียนต่างประเทศต้องใช้เงินเท่าไหร่ ก็สามารถดูค่าเรียนต่อต่างประเทศค่าใช้จ่ายได้ที่  https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/2002

33
# ประโยชน์ของการไหว้พระพิฆเนศในชีวิตประจำวัน

การไหว้พระพิฆเนศเป็นหนึ่งในประเพณีที่มีความสำคัญในวัฒนธรรมไทยและศาสนาฮินดู พระพิฆเนศเป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จและความรู้ ซึ่งการไหว้พระพิฆเนศไม่เพียงแต่เป็นการแสดงความเคารพ แต่ยังมีประโยชน์มากมายต่อชีวิตประจำวันของเรา ในบทความนี้เราจะสำรวจประโยชน์ของการไหว้พระพิฆเนศ ไหว้พระพิฆเนศใช้อะไรบ้างจาก KTB และวิธีที่มันสามารถช่วยเสริมสร้างชีวิตที่ดีขึ้นได้

## 1. เสริมสร้างความมั่นใจ

การไหว้พระพิฆเนศสามารถช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเองได้ เมื่อเราขอพรจากพระพิฆเนศ เรามักจะรู้สึกว่ามีแรงบันดาลใจและความมั่นใจในการเผชิญกับความท้าทายในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน หรือการตัดสินใจในเรื่องสำคัญต่าง ๆ การมีความมั่นใจในตัวเองจะช่วยให้เราสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

## 2. ช่วยในการตัดสินใจ

พระพิฆเนศเป็นเทพเจ้าแห่งการเริ่มต้นใหม่ การไหว้พระพิฆเนศก่อนการตัดสินใจที่สำคัญ เช่น การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ การเลือกเส้นทางการศึกษา หรือการตัดสินใจในเรื่องส่วนตัว สามารถช่วยให้เรามีความชัดเจนและมองเห็นทางเลือกที่ดีกว่า การขอพรจากพระพิฆเนศจะช่วยให้เรามีสติและความเข้าใจในสถานการณ์ต่าง ๆ มากขึ้น

## 3. เสริมสร้างความสัมพันธ์

การไหว้พระพิฆเนศยังสามารถช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวและเพื่อนฝูงได้ การทำพิธีกรรมร่วมกัน เช่น การไหว้พระพิฆเนศในวันสำคัญหรือวันเกิด จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและเป็นที่รักในกลุ่มคนที่เราห่วงใย นอกจากนี้ การแชร์ความเชื่อและประสบการณ์ในการไหว้พระพิฆเนศยังช่วยสร้างความเข้าใจและความใกล้ชิดในกลุ่มคนที่มีความเชื่อเดียวกัน

## 4. ส่งเสริมสุขภาพจิต

การไหว้พระพิฆเนศยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพจิตของเรา การใช้เวลาสำหรับการทำสมาธิและการไหว้พระพิฆเนศช่วยให้เรารู้สึกสงบและผ่อนคลาย การมีเวลาสำหรับตัวเองในการไหว้พระพิฆเนศสามารถช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสุขในชีวิตประจำวัน

## 5. การขอพรเพื่อความสำเร็จ

การไหว้พระพิฆเนศยังเป็นการขอพรเพื่อความสำเร็จในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการงาน การเรียน หรือความรัก การตั้งจิตอธิษฐานอย่างจริงใจจะช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจในการทำงานและมุ่งมั่นสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้

## สรุป

การไหว้พระพิฆเนศไม่เพียงแต่เป็นการแสดงความเคารพต่อเทพเจ้า แต่ยังมีประโยชน์มากมายที่สามารถช่วยเสริมสร้างชีวิตประจำวันของเราได้ ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจ การช่วยในการตัดสินใจ การเสริมสร้างความสัมพันธ์ การส่งเสริมสุขภาพจิต หรือการขอพรเพื่อความสำเร็จ การนำการไหว้พระพิฆเนศเข้ามาในชีวิตประจำวันจึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณา

หากคุณยังไม่เคยลองไหว้พระพิฆเนศ หรือท้าวเวสสุวรรณที่ KTB แนะนำ ลองเริ่มต้นในวันนี้และสัมผัสกับพลังบวกที่มันนำมาให้คุณ!

34
การเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเป็นความฝันของคนไทยหลายคน ด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลาย อาหารที่อร่อย และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่ก่อนที่คุณจะเริ่มแพลนทริปไปญี่ปุ่น สิ่งแรกที่คุณต้องรู้คือ คุณจำเป็นต้องขอวีซ่าหรือไม่? ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปหาคำตอบว่า ไป ญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหม
1. ประเภทของวีซ่าสำหรับการเดินทางไปญี่ปุ่น

สำหรับคนไทยที่ต้องการเดินทางไปญี่ปุ่น มีประเภทของวีซ่าที่คุณอาจต้องพิจารณา ได้แก่:

- **วีซ่าท่องเที่ยว (Temporary Visitor Visa)**: สำหรับผู้ที่ต้องการไปเที่ยวในระยะเวลาสั้น ๆ โดยปกติจะอนุญาตให้เข้าพักได้ไม่เกิน 90 วัน
- **วีซ่าธุรกิจ**: สำหรับผู้ที่เดินทางไปทำธุรกิจหรือเข้าร่วมการประชุม
- **วีซ่าศึกษา**: สำหรับผู้ที่ต้องการไปเรียนต่อในญี่ปุ่น

2. คนไทยไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหม?

สำหรับคนไทยที่ต้องการเดินทางไปญี่ปุ่นในฐานะนักท่องเที่ยว จำเป็นต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวก่อนเดินทาง โดยปกติแล้วการขอวีซ่าท่องเที่ยวจะต้องมีเอกสารประกอบการขอที่ครบถ้วน เช่น:

- หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- แบบฟอร์มขอวีซ่าที่กรอกข้อมูลครบถ้วน
- รูปถ่ายขนาด 4.5 x 4.5 ซม.
- หลักฐานการเงิน เช่น สเตทเมนต์บัญชีธนาคาร
- แผนการเดินทางในญี่ปุ่น

3. ขั้นตอนการขอวีซ่าท่องเที่ยวญี่ปุ่น

การขอวีซ่าท่องเที่ยวญี่ปุ่นสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้:

3.1 เตรียมเอกสาร

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเอกสารทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการขอวีซ่ามีความถูกต้องและครบถ้วน

3.2 ยื่นคำขอวีซ่า

คุณสามารถยื่นคำขอวีซ่าที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นหรือสำนักงานวีซ่าที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย โดยจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าด้วย

3.3 รอผลการพิจารณา

โดยทั่วไปแล้ว การพิจารณาวีซ่าจะใช้เวลาประมาณ 3-5 วันทำการ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความยุ่งเหยิงของการขอวีซ่าในช่วงเวลานั้น ๆ

3.4 รับวีซ่า

เมื่อวีซ่าของคุณได้รับการอนุมัติ คุณจะต้องไปรับวีซ่าที่สถานที่ที่คุณยื่นคำขอ

4. เคล็ดลับในการขอวีซ่า

- **ตรวจสอบข้อมูลล่าสุด**: ควรตรวจสอบข้อมูลและเงื่อนไขการขอวีซ่าที่เว็บไซต์ทางการของสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น เนื่องจากอาจมีการเปลี่ยนแปลง
- **เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน**: เอกสารที่ไม่ครบถ้วนอาจทำให้การขอวีซ่าของคุณล่าช้าหรือถูกปฏิเสธ
- **วางแผนล่วงหน้า**: ควรวางแผนการขอวีซ่าล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือนก่อนวันเดินทาง


การเดินทางไปญี่ปุ่นในฐานะนักท่องเที่ยวสำหรับคนไทยนั้น จำเป็นต้องขอวีซ่าท่องเที่ยว โดยมีขั้นตอนและเอกสารที่ต้องเตรียมให้ครบถ้วน หากคุณมีการวางแผนที่ดีและเตรียมตัวอย่างรอบคอบ การเดินทางของคุณจะเป็นไปอย่างราบรื่นและสนุกสนาน

หากคุณกำลังวางแผนการเดินทางไปญี่ปุ่น อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับวีซ่าและเตรียมตัวให้พร้อมเช่น บัตรเดบิตซื้อของออนไลน์ สำหรับการเดินทางที่น่าตื่นเต้นนี้!

ใบไม้เปลี่ยนสี https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/2140



35
   สำหรับนักเดินทางที่ท่องเที่ยวต่างประเทศด้วยเครื่องบินเป็นประจำ คงสามารถจำทุก ขั้นตอนการขึ้นเครื่องบิน ได้อย่างขึ้นใจ จนรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ใหม่หรือทบทวนก่อนเดินทาง แต่สำหรับคนที่ ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก คงรู้สึกตื่นเต้นทำตัวไม่ถูก เพราะรู้สึกไม่แน่ใจในขั้นตอนของการขึ้นเครื่องบิน กลัวจะไปทำตัวลนลานจนเสียเวลาทั้งตนเองและคนอื่น ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจ 7 ขั้นตอนที่อยู่ในเช็กลิสต์ที่ต้องจำให้ขึ้นใจก่อนไปขึ้นเครื่องบิน

เตรียมเอกสารและซื้อ ประกันเดินทาง
ต้องเตรียมเอกสารจำเป็นทุกอย่างให้พร้อมก่อนออกจากบ้าน เช่น บัตรประชาชน หลักฐานการซื้อตั๋ว และพาสปอร์ต นอกจากนั้นควรซื้อ ประกันเดินทางต่างประเทศ เพื่อคุ้มครองและชดเชยในกรณีเกิดอุบัติต่าง ๆ ระหว่างทริป

เช็กอินออนไลน์หรือเคาน์เตอร์ของสายการบิน
หลังจากนั้นต้องเดินทางไปที่สนามบินเพื่อทำการเช็กอิน โดยสามารถทำได้หลากหลายช่องทางในปัจจุบัน ทั้งหน้าเคาน์เตอร์ของสายการบิน เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของสายการบินด้วย ใครที่มีกระเป๋าอยากจะโหลดลงใต้เครื่องบิน สามารถส่งให้พนักงานได้ในขั้นตอนนี้ สิ่งสำคัญคือควรเช็กอินก่อนเที่ยวบินอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หลังจากนี้เราจะได้รับ Boarding Pass ที่บอกรายละเอียดการบินต่าง ๆ

สแกนสัมภาระก่อนขึ้นเครื่อง
ต่อจากนั้นผู้เดินทางต้องเดินผ่านเครื่องสแกนเพื่อตรวจสอบสัมภาระที่จะนำขึ้นเครื่องบิน ต้องระวังอย่านำของต้องห้ามต่าง ๆ เช่น ของเหลวปริมาตรมากกว่า 100 มิลลิลิตร ของมีคม อาวุธ วัตถุระเบิด ขึ้นเครื่องบินเป็นอันขาด

รอหน้าเกต
เมื่อผ่านด่านตรวจต่าง ๆ มาแล้ว ให้ไปเดินหาเกตที่เชื่อมไปสู่เครื่องบินที่ถูกต้อง โดยสามารถดูข้อมูลได้ใน Boarding Pass หรือบนหน้าจอที่แสดงในสนามบิน

ขึ้นเครื่องบินแล้วนั่งตามที่นั่ง
เมื่อถึงเวลาจะมีประกาศให้ขึ้นเครื่อง โดยต้องนั่งตามที่นั่งที่ระบุไว้บน Boarding Pass เท่านั้น

รับกระเป๋าเดินทาง
เมื่อเดินทางถึงที่หมายให้ดูว่าต้องไปรับกระเป๋าที่สายพานไหน แล้วไปเก็บสัมภาระของตัวเองมาให้พร้อม อย่าลืมตรวจสอบว่าข้าวของที่เอามาได้รับครบถ้วนหรือไม่ ถ้าสูญหายหรือชำรุดต้องทำการเคลม ประกันเดินทาง เพื่อรับความคุ้มครองตามสิทธิ์ที่มี

ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของต่างประเทศ
หลังจากนั้นต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่อาจจะมีการถามคำถามรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทาง เพื่อคัดกรองคนจากต่างประเทศ เพียงแค่มั่นใจและตอบคำถามอย่างถูกต้อง ไม่หลอกลวง แสดงเอกสารตามที่พนักงานร้องขอ เพียงเท่านี้คุณจะสามารถเริ่มทริปในฝันได้ทันที

จะเห็นได้ว่า ขั้นตอนการขึ้นเครื่องบิน ถึงจะมีหลายขั้นตอนแต่ไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด เพียงแค่เตรียมตัวให้พร้อมและอย่าลืมมองหา ประกันเดินทางต่างประเทศ ที่ถูกใจไว้สร้างความอุ่นใจและให้การคุ้มครองทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้เดินทางในขณะใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยในต่างประเทศ  และอย่าลืมวางแผนล่วงหน้าและตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ รวมไปถึงการจองโรงแรม    การ จอง ห้อง พัก  เพื่อให้การเดินทางของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น




36

พร้อมเพย์ คือการทำธุรกรรมทางการเงินทั้งการรับและโอนเข้าบัญชีธนาคารโดยใช้เลขอ้างอิงตัวบุคคลแทนเลขบัญชี (เบอร์โทรศัพท์มือถือ หรือเลขประจำตัวประชาชน) โดยมีการเปิดให้ใช้บริการมาหลายปีแล้วแต่ก่อนหน้านี้น้อยคนนักจะให้ความสนใจหรือเลือกสมัครใช้บริการ อาจเป็นเพราะรู้สึกว่ามีแค่เลขบัญชีอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้มีหลายบริการของภาครัฐโยงเข้ากับบริการนี้ทำให้หลายคนหันมาสมัครใช้บริการมากขึ้น

เหตุผลดี ๆ ที่ควร สมัครพร้อมเพย์

- ช่วยให้รับเงินและ โอนเงิน ได้อย่างสะดวกสบาย เพราะหากต้องการโอนเงินก็เพียงใช้เบอร์โทรศัพท์ของผู้รับโอนที่ทำการสมัครใช้บริการพร้อมเพย์แล้วเพื่อทำการโอนเงินให้ ไม่ต้องขอเลขที่บัญชีเหมือนเช่นเดิม และหากเป็นการโอนผ่านแอปธนาคารก็สามารถเลือกเบอร์จากรายชื่อผู้ติดต่อในโทรศัพท์มือถือได้ทันที หรือหากเป็นผู้รับโอนก็เพียงแค่แจ้งเบอร์โทรศัพท์ให้กับผู้โอนเพื่อทำรายการโอนเท่านั้น
- โอนได้แบบฟรีค่าธรรมเนียมสำหรับการโอนผ่านตู้ ATM ในวงเงินไม่เกิน 5,000 บาท ค่าธรรมเนียมสูงสุดเพียง 10 บาท สำหรับยอดโอนมากกว่าหนึ่งแสนบาท แต่หากเป็นการ โอนเงินออนไลน์ หรือ โอน เงิน ทำบุญ ออนไลน์ผ่านแอปไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในทุกวงเงิน
- การสมัครใช้บริการพร้อมเพย์ด้วยการผูกบัญชีกับเลขประจำตัวประชาชนช่วยให้สะดวกในการรับบริการของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นการขอคืนภาษีทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล หรือรับความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน เช่น รับความช่วยเหลือจากกองทุนประกันสังคม

แนะนำขั้นตอนการสมัครใช้บริการพร้อมเพย์
จาก 3 เหตุผลที่กล่าวไปข้างต้นหลายคนคงสนใจสมัครใช้บริการนี้กันแล้ว ซึ่งการสมัครก็ทำได้ทั้งผ่านแอปของแต่ละธนาคาร และสมัครผ่านตู้ ATM โดยการสมัครผ่านตู้ ATM จะอยู่ในหมวด "บริการอื่น ๆ" แต่ในวันนี้เราจะขอมาแนะนำการทำรายการผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ของธนาคารกรุงไทยกัน
เมื่อดาวน์โหลดแอป Krungthai NEXT มาไว้บนโทรศัพท์มือถือเรียบร้อยแล้วให้เปิดหน้าแอปขึ้นมา จากนั้นยืนยันตัวตนเพื่อความปลอดภัยตามที่ได้กำหนดไว้ในขั้นตอนการติดตั้งแอปครั้งแรก
ต่อมาให้เลือกเมนู พร้อมเพย์ จากนั้นเลือกข้อมูลที่ต้องการใช้ผูกบัญชี ซึ่งหากต้องการเปิดใช้บริการเพื่อรับความช่วยเหลือจากภาครัฐจะต้องใช้เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก แต่หากเป็นการรับโอนทั่วไปแนะนำให้ใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือ ซึ่งข้อมูลส่วนนี้สามารถสลับใช้งานได้ในเมนูการตั้งค่าของแต่ละแอป
อ่านเงื่อนไขให้เข้าใจก่อนทำเครื่องหมายและกดยอมรับ
เลือกบัญชีที่ต้องการสมัคร (กรณีมีมากกว่าหนึ่งบัญชี)
เมื่อตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยแล้วให้กดยืนยัน ถือว่าการสมัครเสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้งานได้ทันที

คงได้เห็นกันแล้วว่าการ สมัครพร้อมเพย์ ผ่านแอปธนาคารไม่ใช่เรื่องยาก เพียงไม่กี่ขั้นตอน และใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็พร้อมใช้งาน หากใครยังไม่ได้สมัครขอแนะนำให้สมัครตั้งแต่ตอนนี้ เพราะคุณจะได้ทั้งระบบที่ปลอดภัยและได้ความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงินโดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับภาครัฐ ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับผู้ที่ทำธุรกิจการสมัครใช้บริการนี้ยังช่วยให้คุณรับชำระเงินได้สะดวกมากขึ้นอีกด้วย จึงเป็นบริการที่เหมาะกับทุกคนและทุกอาชีพตั้งแต่พนักงานประจำไปจนถึงเจ้าของธุรกิจ


37
ในบทความนี้เราจะสำรวจข้อดีและข้อเสียของการใช้เงินสดแทนบัตรเครดิต เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นในการจัดการการเงินของคุณ

## ข้อดีของการใช้เงินสด

### 1. ควบคุมการใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น

การใช้เงินสดช่วยให้คุณสามารถควบคุมการใช้จ่ายของตัวเองได้ดีกว่า เนื่องจากคุณจะเห็นจำนวนเงินที่คุณใช้จริง ๆ เมื่อคุณจ่ายเงินสด คุณจะมีความรู้สึกถึงการลดลงของเงินในกระเป๋า ซึ่งช่วยให้คุณมีสติในการใช้จ่ายมากขึ้น

### 2. ไม่มีหนี้สิน

การใช้เงินสดหมายความว่าคุณจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการสะสมหนี้สินจากการใช้บัตรเครดิต เมื่อคุณใช้เงินสด คุณจ่ายเฉพาะสิ่งที่คุณมีอยู่ในมือ ซึ่งช่วยป้องกันการใช้จ่ายเกินตัวและการเกิดหนี้ในอนาคต

### 3. ปลอดภัยจากค่าธรรมเนียม

การใช้บัตรเครดิตที่จ่ายขั้นต่ำดอกเบี้ยมักมีค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมรายปีหรือค่าธรรมเนียมการเบิกเงินสด ในขณะที่การใช้เงินสดไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ทำให้คุณสามารถประหยัดเงินได้มากขึ้น

## ข้อเสียของการใช้เงินสด

### 1. ความสะดวกสบายที่น้อยกว่า

การใช้บัตรเครดิตทำให้การซื้อสินค้าสะดวกและรวดเร็ว ในขณะที่การใช้เงินสดอาจต้องใช้เวลาในการนับเงินหรือหากระเป๋าเงิน นอกจากนี้ การใช้บัตรเครดิตยังสามารถทำให้คุณซื้อสินค้าออนไลน์ได้ง่ายขึ้น

### 2. ไม่มีประโยชน์จากโปรแกรมสะสมคะแนน

บัตรเครดิตหลายใบมีโปรแกรมสะสมคะแนนหรือเงินคืนที่ช่วยให้คุณได้รับผลประโยชน์จากการใช้จ่าย ในขณะที่การใช้เงินสดจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์เหล่านี้

### 3. เสี่ยงต่อการสูญหาย

เงินสดมีความเสี่ยงที่จะสูญหายหรือถูกขโมยได้ง่ายกว่าในกรณีที่คุณใช้บัตรเครดิต ซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยที่สามารถช่วยป้องกันการโจรกรรมได้

## สรุป

การใช้เงินสดแทนบัตรเครดิตมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับวิถีชีวิตและความต้องการของแต่ละคน หากคุณต้องการควบคุมการใช้จ่ายและหลีกเลี่ยงหนี้สิน การใช้เงินสดอาจเป็นทางเลือกที่ดี แต่หากคุณต้องการความสะดวกสบายและสิทธิประโยชน์จากการใช้จ่าย บัตรเครดิตอาจจะเหมาะสมกว่า

### คำแนะนำ

ก่อนที่คุณจะเลือกใช้เงินสดหรือบัตรเครดิต ควรพิจารณาความต้องการและพฤติกรรมการใช้จ่ายของตนเองให้ดี เพื่อให้การจัดการการเงินของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด หากคุณมีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการจัดการการเงิน สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้

การเลือกใช้วิธีการชำระเงินที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณมีการเงินที่มั่นคงและปลอดภัยในอนาคต! หากอยากศึกษาเกี่ยวกับการกู้เงินเรียนต่อต่างประเทศ หรืออยากแต่งงานแต่ก็ไม่มีเงิน สามารถดูได้ที่

38
ในยุคดิจิทัลที่การทำธุรกรรมออนไลน์เป็นเรื่องปกติ การชำระเงินผ่าน E-Wallet ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่การใช้ E-Wallet ก็มีความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณจากภัยออนไลน์ บทความนี้จะเสนอ 5 วิธีที่ช่วยให้คุณสามารถชำระเงินผ่าน E-Wallet ได้อย่างปลอดภัย

1. ใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่งและไม่ซ้ำใคร

การตั้งรหัสผ่านที่แข็งแกร่งเป็นขั้นตอนแรกในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณ ควรใช้รหัสผ่านที่มีความยาวอย่างน้อย 12 ตัวอักษร ประกอบด้วยตัวอักษรใหญ่ ตัวอักษรเล็ก ตัวเลข และสัญลักษณ์พิเศษ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้รหัสผ่านที่ซ้ำกับบัญชีอื่น ๆ และเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

2. เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA)

การยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA) เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชี E-Wallet ของคุณ เมื่อเปิดใช้งาน 2FA คุณจะต้องยืนยันตัวตนของคุณด้วยรหัสที่ส่งไปยังโทรศัพท์มือถือหรืออีเมลของคุณทุกครั้งที่มีการเข้าสู่ระบบ วิธีนี้ช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ไม่หวังดีเข้าถึงบัญชีของคุณได้แม้จะรู้รหัสผ่าน

3. อัปเดตแอปพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอ

การอัปเดตแอปพลิเคชัน E-Wallet เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการอัปเดตที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ผู้พัฒนาแอปมักจะออกแพตช์เพื่อแก้ไขช่องโหว่ที่อาจถูกใช้ในการโจมตี ดังนั้น ควรตรวจสอบและอัปเดตแอปพลิเคชันของคุณเป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณใช้เวอร์ชันที่ปลอดภัยที่สุด

4. ใช้เครือข่าย Wi-Fi ที่ปลอดภัย

การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเครือข่าย Wi-Fi สาธารณะอาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากแฮกเกอร์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ Wi-Fi สาธารณะในการทำธุรกรรม E-Wallet และหากจำเป็นต้องใช้ ควรใช้ VPN (Virtual Private Network) เพื่อเข้ารหัสข้อมูลของคุณและป้องกันการถูกดักจับ

5. ตรวจสอบประวัติการทำธุรกรรมอย่างสม่ำเสมอ

การตรวจสอบประวัติการทำธุรกรรมใน E-Wallet ของคุณเป็นวิธีที่ดีในการตรวจจับกิจกรรมที่ไม่ปกติ หากพบว่ามีการทำธุรกรรมที่คุณไม่ได้ทำ ควรรีบติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ E-Wallet ทันที เพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลหรือเงินทุนของคุณ


การใช้ digital wallet E-Wallet เป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วในการทำธุรกรรม แต่การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยการปฏิบัติตาม 5 วิธีที่แนะนำในบทความนี้ คุณจะสามารถชำระเงินผ่าน E-Wallet ได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้น



 

39
# ความแตกต่างของคาดการณ์ราคาทองระยะสั้นและระยะยาว

การลงทุนในทองคำเป็นหนึ่งในทางเลือกที่นิยมในตลาดการเงิน โดยเฉพาะในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การคาดการณ์ราคาทองคำจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุน ในบทความนี้เราจะมาสำรวจความแตกต่างระหว่างการคาดการณ์ราคาทองคำในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาในแต่ละช่วงเวลา

## ลงทุนทองดีไหม  การคาดการณ์ราคาทองคำระยะสั้น

การคาดการณ์ราคาทองคำในระยะสั้นมักจะใช้ข้อมูลและเทคนิคต่าง ๆ เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มราคาในช่วงเวลาที่ใกล้เคียง โดยปกติแล้วจะพิจารณาจากปัจจัยดังต่อไปนี้:

### 1. ข่าวสารและเหตุการณ์ปัจจุบัน

ข่าวสารที่เกิดขึ้นในโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของธนาคารกลาง การเกิดเหตุการณ์ทางการเมือง หรือการประกาศผลประกอบการของบริษัทใหญ่ สามารถส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในระยะสั้นได้อย่างรวดเร็ว

### 2. การวิเคราะห์ทางเทคนิค

นักลงทุนมักใช้กราฟราคาและตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น Moving Average หรือ Relative Strength Index (RSI) เพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อขายทองคำในระยะสั้น

### 3. อารมณ์ของตลาด

อารมณ์ของนักลงทุน เช่น ความกลัวหรือความโลภ สามารถส่งผลต่อการซื้อขายทองคำในระยะสั้นได้อย่างมีนัยสำคัญ

## การคาดการณ์ราคาทองคำระยะยาว

ในขณะที่การคาดการณ์ราคาทองคำระยะสั้นเน้นไปที่ข้อมูลปัจจุบัน การคาดการณ์ในระยะยาวจะพิจารณาถึงปัจจัยพื้นฐานที่มีผลต่อราคาทองคำในอนาคต ซึ่งรวมถึง:

### 1. สถานการณ์เศรษฐกิจโลก

การเติบโตหรือการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก เช่น อัตราการเติบโตของ GDP, อัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ย จะมีผลต่อความต้องการทองคำในระยะยาว

### 2. อุปสงค์และอุปทาน

การเปลี่ยนแปลงในอุปสงค์และอุปทานทองคำ เช่น การผลิตทองคำจากเหมือง หรือการซื้อทองคำจากประเทศต่าง ๆ จะส่งผลต่อราคาทองคำในระยะยาว

### 3. ความเชื่อมั่นในสกุลเงิน

ในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางการเงิน นักลงทุนมักจะหันมาซื้อทองคำเพื่อปกป้องมูลค่าทรัพย์สิน ส่งผลให้ราคาทองคำมีแนวโน้มสูงขึ้นในระยะยาว

## สรุปความแตกต่าง

การคาดการณ์ราคากองทองคำระยะสั้นและระยะยาวมีความแตกต่างกันในหลายด้าน โดยระยะสั้นจะเน้นที่ข้อมูลและเหตุการณ์ปัจจุบัน ขณะที่ระยะยาวจะมองไปที่ปัจจัยพื้นฐานที่มีผลต่อราคาทองคำในอนาคต การเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

## เรียนรู้เพิ่มเติม

หากคุณสนใจในการลงทุนในทองคำ กองทุนesgลดหย่อนภาษี หรือการคาดการณ์ราคาทองคำในอนาคต ควรติดตามข่าวสารและการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมั่นใจ

การลงทุนในหุ้นทองคำอาจเป็นทางเลือกที่ดี แต่การมีความรู้และข้อมูลที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในตลาดนี้ได้อย่างยั่งยืน!

40
เศรษฐกิจและสังคมปัจจุบันทำให้การบริหารสภาพคล่องทางการเงินเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ การเข้าถึง สินเชื่อ ที่สะดวกและรวดเร็วกลายเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนไทย ไม่ว่าจะเพื่อวางแผนการเงินในชีวิตประจำวัน ลงทุนในธุรกิจ หรือเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน สินเชื่อส่วนบุคคล จากธนาคารกรุงไทยจึงออกแบบมาเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้อย่างลงตัว ด้วยสินเชื่อที่มาพร้อมกระบวนการสมัครง่าย การพิจารณาอนุมัติที่รวดเร็ว และเงื่อนไขที่ยืดหยุ่น ครอบคลุมทุกความต้องการทางการเงินสำหรับคนไทยอย่างแท้จริง

จุดเด่นของ สินเชื่อธนาคาร กรุงไทย
สินเชื่อจากธนาคารกรุงไทยเป็นทางเลือกทางการเงินที่ตอบโจทย์คนไทยในทุกช่วงชีวิต ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเพื่อการจัดการภาระค่าใช้จ่าย การลงทุนในอนาคต หรือการเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน โดยจุดเด่นที่น่าสนใจของสินเชื่อกรุงไทยมีดังนี้

สมัครง่าย สะดวกสบาย ทุกที่ทุกเวลา
การสมัคร สินเชื่อ สามารถทำได้ง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT หรือเว็บไซต์ของธนาคาร อีกทั้งยังมีบริการให้คำปรึกษาและให้ความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ธนาคารทุกสาขาทั่วประเทศ

อนุมัติไว ไม่ต้องรอนาน
การ กู้เงินธนาคาร กรุงไทยปัจจุบันไม่ต้องรอนาน สามารถแจ้งผลอนุมัติได้ภายใน 1 – 3 วันทำการ หรือไม่เกิน 7 วันทำการ ช่วยให้ได้รับเงินก้อนเพื่อใช้แก้ปัญหาทางการเงินในเวลาฉุกเฉินได้ทันที

เงื่อนไขยืดหยุ่น ตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้า
สินเชื่อส่วนบุคคล กรุงไทยออกแบบให้เหมาะสมกับทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำ เจ้าของธุรกิจ หรือบุคคลที่ต้องการสินเชื่อสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ มีวง เงินกู้ สูงสุดครอบคลุมทุกความต้องการ พร้อมอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาการผ่อนชำระที่ยืดหยุ่น เลือกกู้และผ่อนชำระคืนได้เท่าที่ไหว

ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือผู้ค้ำประกัน
อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของ สินเชื่อเงินสด กรุงไทยคือการไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน ทำให้การสมัครง่ายขึ้นและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสินเชื่อแบบเร่งด่วน

มีตัวเลือกหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการ
สินเชื่อกรุงไทยมีหลายประเภทให้เลือก เช่น สินเชื่อสำหรับพนักงานรัฐวิสาหกิจ สินเชื่อสำหรับบุคคลทั่วไป หรือสินเชื่อสำหรับผู้ที่ต้องการนำเงินไปลงทุนในธุรกิจหรือ SME ทำให้เลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของคุณได้ง่ายกว่า

สินเชื่อส่วนบุคคล ที่น่าสนใจ ผลิตภัณฑ์ไหนเหมาะกับเรา

สินเชื่อกรุงไทย Smart Money
จุดเด่นของสินเชื่อ Smart Money สินเชื่อพนักงานประจำคือสามารถกู้ยืมได้ทั้งผู้เป็นพนักงานประจำและผู้ประกอบการรายย่อย อนุมัติวงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้ สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท เงื่อนไขการสมัครไม่ยุ่งยากเพียงแค่มีรายได้ 30,000 บาทขึ้นไป ไม่มีบัญชีเงินเดือนธนาคารกรุงไทย ไม่มีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกันก็สามารถสมัครได้
อัตราดอกเบี้ย
บุคคลทั่วไป อัตราดอกเบี้ย 6 เดือนแรก เริ่มต้นที่ 9.99% หลังจากนั้นดอกเบี้ย 20%
ผู้ประกอบการรายย่อยทั่วไป อัตราดอกเบี้ย 6 เดือนแรก เริ่มต้นที่ 11.99% หลังจากนั้นดอกเบี้ย 24%
คุณสมบัติผู้สมัคร
บุคคลทั่วไปที่มีรายได้ประจำ 30,000 บาทขึ้นไป
ผู้ประกอบการรายย่อยที่มีรายรับ 30,000 บาทขึ้นไป
เอกสารที่ต้องใช้ในการสมัคร
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
สำเนาทะเบียนบ้าน
บัตรประจำตัวพนักงาน (ถ้ามี)
เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน (เดือนล่าสุด) หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
รายการเดินบัญชีย้อนหลัง บุคคลทั่วไปใช้ 3 เดือน ผู้ประกอบการรายย่อยใช้ 1 ปี พร้อมกับสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนกิจการ (ถ้ามี)
เอกสารใบแจ้งยอดบัญชีสินเชื่อบุคคลหรือสินเชื่อบัตรเครดิตเดือนล่าสุด หากต้องการกู้สินเชื่อเพื่อนำไปชำระค่าสินเชื่ออื่น

สินเชื่อส่วนบุคคลเหมาะกับใครบ้าง
สินเชื่อ เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยเสริมสภาพคล่องและรองรับความต้องการที่หลากหลายของผู้คนในปัจจุบัน ด้วยความยืดหยุ่นและการเข้าถึงที่ง่ายขึ้น สินเชื่อประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับกลุ่มคนหลากหลาย ดังนี้
ผู้ที่ต้องการเสริมสภาพคล่องในชีวิตประจำวัน
บางช่วงเวลาของชีวิตอาจมีค่าใช้จ่ายไม่คาดฝันเกิดขึ้น เช่น ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ การซ่อมแซมบ้าน หรือเหตุฉุกเฉินอื่น ๆ สินเชื่อส่วนบุคคลจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินก้อนเพื่อบริหารจัดการค่าใช้จ่ายเหล่านี้
ผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่ออนาคต
สำหรับผู้ที่มีแผนการลงทุน เช่น การเริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็ก การเรียนเสริมทักษะ หรือลงทุนในอุปกรณ์และเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การ กู้เงินธนาคาร ก็เป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์
พนักงานประจำหรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องการเงินด่วน
พนักงานประจำที่ต้องการเงินก้อนสำหรับใช้จ่ายส่วนตัวหรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องการเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในระยะสั้น สินเชื่อส่วนบุคคลก็เป็นอีกตัวช่วยในการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินเมื่อจำเป็น
บุคคลที่ต้องการรวมหนี้
สำหรับผู้ที่มีภาระหนี้หลายแหล่ง เช่น บัตรเครดิตหรือสินเชื่ออื่น ๆ สินเชื่อส่วนบุคคลสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการรวมหนี้ (Debt Consolidation) ช่วยให้การจัดการภาระผ่อนชำระเป็นระบบมากขึ้น และลดดอกเบี้ยในระยะยาว แต่ทั้งนี้ต้องมั่นใจว่าสินเชื่อที่ กู้ธนาคาร ใหม่มีผลประโยชน์ด้านอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาผ่อนชำระดีกว่าหนี้เดิม
ผู้ที่ไม่มีหลักทรัพย์หรือผู้ค้ำประกัน
สินเชื่อส่วนบุคคลเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกู้เงินโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน

พิเศษ! ธนาคารกรุงไทยปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.125 - 0.25% มีผลตั้งแต่ 1 พ.ย.
นอกจากการสมัคร สินเชื่อธนาคาร ที่สะดวก ง่าย อนุมัติเร็วแล้ว ธนาคารกรุงไทยยังมอบสิทธิประโยชน์พิเศษสุด ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.125 – 0.25% ตามนโยบายคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจาก 2.50% เป็น 2.25% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป

สินเชื่อธนาคาร เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินและตอบโจทย์ความต้องการด้านต่าง ๆ ของบุคคลธรรมดาและผู้ประกอบการ อย่าลืมเลือก กู้ธนาคาร เท่าที่จำเป็นและเท่าที่ผ่อนชำระคืนไหว เพื่อรักษาเครดิตและวินัยทางการเงินที่ดี หากสนใจสามารถสมัครได้ ที่นี่ และยังสามารถเข้าไปดูผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติมจากกรุงไทยได้ที่ https://krungthai.com




41
การโอนเงินไปต่างประเทศก่อนหน้านี้อาจจะดูเหมือนยุ่งยาก เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการ 3 - 5 วัน ทั้งยังจะต้องไปทำธุรกรรมที่ธนาคารหรือตัวแทนรับโอนเงินที่มีใบอนุญาตเท่านั้น เช่น MoneyGram และ Western Union ซึ่งแต่ละแห่งต่างมีอัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงควรเปรียบเทียบความคุ้มค่าก่อนโอน นอกจากนี้ผู้โอนยังต้องแจ้งวัตถุประสงค์การโอนทุกครั้งที่ทำรายการเนื่องจากเป็นหลักเกณฑ์การ โอนเงินไปต่างประเทศ ของธนาคารแห่งประเทศไทย และหากเป็นผู้รับเงินโอนจากต่างประเทศมากกว่า 50,000 USD จะต้องใช้เอกสารประกอบการรับเงินตามวัตถุประสงค์ของเงินโอนด้วย

ปัจจุบันการ โอนเงินไปต่างประเทศ ง่ายและสะดวกขึ้นด้วยการใช้รหัสธนาคารหรือ Swift Code ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารต่าง ๆ โดยการ โอนเงินแบบ swift code จะช่วยให้การรับหรือ การโอนเงินระหว่างประเทศ สามารถดำเนินการผ่านบัญชีที่เปิดในประเทศไทยได้โดยตรงจึงคล่องตัวและรวดเร็วกว่า
สำหรับการ โอนเงินไปต่างประเทศ swift code คือรหัสที่ต้องใช้เพื่อระบุธนาคารและสาขาของธนาคาร เนื่องจากเป็นการโอนเงินระหว่างธนาคารและข้ามประเทศจึงต้องปฏิบัติตามมาตรฐานขององค์การระหว่างประเทศ โดยมี SWIFT หรือ Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบการลงทะเบียนรหัส ซึ่งนอกจากจะเรียกว่า Swift Code แล้ว รหัสนี้ยังถูกเรียกอีกชื่อว่า BIC Code หรือ Bank Identifier Code ด้วย
ด้วยความรวดเร็ว ง่าย และคล่องตัว ธุรกรรมการเงินออนไลน์จึงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน รวมทั้งการ โอนเงินต่างประเทศผ่านแอพ ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก สามารถทำได้ด้วยตนเองเพียงแค่ต้องระบุ Swift Code ในระหว่างการกรอกข้อมูลเพื่อโอนเงิน โดยสอบถามรหัส Swift Code ได้ที่ธนาคารเจ้าของแอป เว็บไซต์ของธนาคาร และเว็บไซต์ที่รวบรวม Database เช่น www.swiftcodetoday.com
การ โอนเงินแบบ swift code ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารนั้น ปลายทางจะได้รับเงินรวดเร็วแบบเรียลไทม์ตั้งแต่ 2 วินาที จนถึง 3 วันทำการ ซึ่งระยะเวลาจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับประเทศปลายทางด้วย ยกตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT 
ประเทศปลายทาง
สกุลเงิน
ระยะเวลารับเงิน
กลุ่มสหราชอาณาจักร (UK)
GBP
ภายใน 5 นาที - 1 วัน
สิงคโปร์ (SG)
SGD
ภายใน 5 นาที - 1 วัน
สหรัฐอเมริกา (US)
USD
ภายใน 1 - 2 วันทำการ
ฮ่องกง (HK)
HKD
ภายใน 1 - 2 วันทำการ


นอกจากแอปพลิเคชันจะช่วยให้การโอนเงินรวดเร็วทันใจแล้ว ค่าธรรมเนียมโอนเงินต่างประเทศ ยังถูกกว่าทำธุรกรรมผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารอีกด้วย ซึ่งโดยทั่วไปธนาคารมักจะคิดค่าธรรมเนียมรับเงินโอนจากต่างประเทศเฉลี่ย 0.25% ของยอดเงินที่โอนมา ต่ำสุด 200 บาท สูงสุด 500 บาท และอาจจะมีค่าธรรมเนียมที่ถูกหักเพิ่มเติมระหว่างธนาคารตัวกลางหรือธนาคารต้นทาง สำหรับการโอนเงินไปต่างประเทศค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 300 - 500 บาท ต่อรายการและอาจจะมีการบวกเพิ่ม 0.05% ของยอดเงินโอน แต่การ โอนเงินต่างประเทศผ่านแอพ จะมีค่าธรรมเนียมถูกกว่า ยกตัวอย่างเช่น  การโอนเงินแบบ Swift Code ผ่าน Krungthai NEXT มีค่าธรรมเนียม Charge Ben 300 บาท Charge Our 1,100 - 1,500 บาท หากโอนผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารค่าธรรมเนียม Charge Ben 400 บาท Charge Our 1,200 - 1,600 บาท ทั้งนี้แต่ละธนาคารจะมีการกำหนดค่าธรรมเนียม อัตราแลกเปลี่ยน และโปรโมชั่นที่แตกต่างกัน เพื่อความคุ้มค่าจึงควรเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมก่อนใช้บริการทุกครั้ง

การโอนเงินไปต่างประเทศผ่านแอปพลิเคชันสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาจึงสะดวกรวดเร็วไม่ต้องรอนาน อีกทั้งค่าธรรมเนียมการโอนยังถูกกว่า จึงคุ้มค่าทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย



42

การวางแผนการเงินเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การลงทุนมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก ในบทความนี้เราจะพูดถึงการลงทุนใน RMF (Retirement Mutual Fund) และ SSF (Super Savings Fund) รวมถึงการลงทุนใน Thai ESG (Environmental, Social, and Governance) เพื่อช่วยให้คุณสามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการวางแผนการเงินของคุณ

ทำความรู้จักกับ RMF และ SSF

1. RMF (Retirement Mutual Fund)กองทุน rmf ตัวไหนดี 2567
RMF เป็นกองทุนรวมที่ออกแบบมาเพื่อการเกษียณอายุ โดยมีข้อกำหนดในการลงทุนที่ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถลดหย่อนภาษีได้ โดยการลงทุนใน RMF จะต้องถือครองกองทุนอย่างน้อย 5 ปี และต้องลงทุนอย่างน้อย 15% ของรายได้ประจำปี

2. SSF (Super Savings Fund)กองทุน ssf ตัวไหนดี 2567
SSF เป็นกองทุนรวมที่มีวัตถุประสงค์ในการออมเงิน โดยมีข้อกำหนดในการลงทุนที่คล้ายคลึงกับ RMF แต่มีความยืดหยุ่นมากกว่า โดยสามารถถอนเงินได้หลังจากถือครองกองทุนเป็นเวลา 10 ปี และยังสามารถลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน

Thai ESG คืออะไร?

Thai ESG หมายถึงการลงทุนที่คำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล ซึ่งเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักลงทุนที่สนใจใน Thai ESG จะมองหาบริษัทที่มีนโยบายที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งสามารถช่วยสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาว

วิธีเลือกการลงทุนที่ดีที่สุด

1. กำหนดเป้าหมายการลงทุน

ก่อนที่คุณจะตัดสินใจลงทุน ควรกำหนดเป้าหมายการลงทุนให้ชัดเจน เช่น ต้องการออมเงินเพื่อการเกษียณอายุ หรือเพื่อการศึกษาของบุตร ซึ่งจะช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เหมาะสม

2. พิจารณาความเสี่ยง

การลงทุนใน RMF และ SSF มีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน โดย RMF อาจมีความผันผวนมากกว่า แต่มีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่า ในขณะที่ SSF มีความเสี่ยงที่ต่ำกว่า แต่ผลตอบแทนอาจไม่สูงมากนัก

3. ตรวจสอบผลการดำเนินงาน

ควรตรวจสอบผลการดำเนินงานของกองทุน RMF และ SSF ที่คุณสนใจ รวมถึงกองทุนที่มีแนวทาง ESG เพื่อให้แน่ใจว่าการลงทุนของคุณมีแนวโน้มที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคต

4. พิจารณาด้านภาษี

การลงทุนใน RMF และ SSF จะช่วยให้คุณสามารถลดหย่อนภาษีได้ แต่ควรตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขให้ชัดเจน เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลงทุน


การเลือกลงทุนใน RMF, SSF หรือ Thai ESG ขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุนและความเสี่ยงที่คุณสามารถรับได้ หากคุณต้องการการลงทุนที่มีความยั่งยืนและมีผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว Thai ESG อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ในขณะที่ RMF และ SSF เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษีและวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณอายุ

หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกลงทุนแบบไหน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ



   

43
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอลังการในสวิตเซอร์แลนด์ ที่คุณไม่ควรพลาด

## 1. เจนีวา (Geneva)

เจนีวา เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ซึ่งมีทิวทัศน์ที่สวยงามและเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศมากมาย เช่น สหประชาชาติและองค์การอนามัยโลก คุณสามารถเดินเล่นที่สวนสาธารณะ Parc des Bastions หรือชมการพุ่งของน้ำจาก Jet d'Eau ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง

### กิจกรรมที่น่าสนใจในเจนีวา
- เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะและประวัติศาสตร์
- ล่องเรือในทะเลสาบเจนีวา
- สำรวจเมืองเก่า (Vieille Ville) ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์

## 2. ลูเซิร์น (Lucerne)

ลูเซิร์น เป็นเมืองที่มีทิวทัศน์ของภูเขาและทะเลสาบที่สวยงาม มีสะพานไม้ Chapel Bridge ที่มีอายุกว่า 800 ปี และภูเขา Pilatus ที่สามารถขึ้นไปชมวิวได้ด้วยกระเช้าไฟฟ้า

### สิ่งที่ควรทำในลูเซิร์น
- ชมวิวจากยอดเขา Pilatus
- เยี่ยมชมอนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument)
- ล่องเรือในทะเลสาบลูเซิร์น

## 3. อินเตอร์ลาเคน (Interlaken)

อินเตอร์ลาเคน ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่ง คือ ทะเลสาบธุน (Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Brienz) เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการเดินทางไปยังภูเขา Jungfrau ซึ่งเป็นหนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาแอลป์

### กิจกรรมที่น่าสนใจในอินเตอร์ลาเคน
- ทำกิจกรรมผจญภัย เช่น พาราเซลลิ่งและปีนเขา
- ขึ้นรถไฟไปยังยอดเขา Jungfraujoch
- สำรวจธรรมชาติที่สวยงามรอบทะเลสาบ

## 4. ซูริค (Zurich)

ซูริค เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม คุณสามารถเดินเล่นในเมืองเก่า (Altstadt) ที่มีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย หรือเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียง

### สิ่งที่น่าสนใจในซูริค
- ชมวิวจากยอดเขา Uetliberg
- เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะซูริค (Kunsthaus Zurich)
- ล่องเรือในทะเลสาบซูริค

## 5. มองเทรอซ์ (Montreux)

มองเทรอซ์ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวาและเป็นที่รู้จักจากเทศกาลดนตรีแจ๊สที่มีชื่อเสียง คุณสามารถเดินเล่นตามริมทะเลสาบและเยี่ยมชมปราสาท Chillon ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง

### กิจกรรมที่น่าสนใจในมองเทรอซ์
- เยี่ยมชมปราสาท Chillon
- ร่วมเทศกาลดนตรีแจ๊ส
- เดินเล่นในสวนสาธารณะที่มีทิวทัศน์สวยงาม

## สรุป

สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายและสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นเมืองใหญ่หรือธรรมชาติที่งดงามก็ตอบโจทย์การเล่นสกีที่ไหนดีจาก KTB ทุกแห่งมีเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่แตกต่างกัน หากคุณมีโอกาสไปเยือน อย่าลืมสำรวจสถานที่เหล่านี้เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

**หากคุณกำลังวางแผนการเดินทางหรือเรียนต่อต่างประเทศค่าใช้จ่ายเท่าไหร่จาก KTB อย่าลืมติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น!**

44
# อาหารและของว่างที่ควรนำติดตัวขึ้นเครื่องบิน: คู่มือสำหรับนักเดินทาง

การเดินทางโดยเครื่องบินสามารถเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น แต่การเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางนั้นเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของอาหารและของว่างที่ควรนำติดตัวขึ้นเครื่องบิน ในบทความนี้ เราจะพูดถึงอาหารและของว่างที่เหมาะสม รวมถึงเคล็ดลับการเตรียมตัวก่อนขึ้นเครื่องบิน และการเลือกอาหารที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทาง

## ทำไมต้องเลือกอาหารที่เหมาะสม?

การเลือกอาหารที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางด้วยเครื่องบินมีความสำคัญ เนื่องจากอาหารบางประเภทอาจทำให้เกิดอาการไม่สบายท้องหรือไม่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในเครื่องบิน นอกจากนี้ การเลือกอาหารที่ดีจะช่วยให้คุณมีพลังงานตลอดการเดินทางและไม่รู้สึกหิวในระหว่างเที่ยวบิน

## อาหารและของว่างที่แนะนำ

### 1. ผลไม้สด

ผลไม้สด เช่น แอปเปิ้ล, กล้วย, หรือส้ม เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีน้ำและวิตามินสูง นอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นในระหว่างการเดินทาง

### 2. ถั่วและเมล็ดพืช

ถั่ว เช่น อัลมอนด์, วอลนัท หรือเมล็ดฟักทอง เป็นแหล่งพลังงานที่ดีและมีไขมันที่ดีต่อสุขภาพ คุณสามารถนำถั่วหรือเมล็ดพืชใส่ถุงเล็ก ๆ เพื่อสะดวกในการกิน

### 3. ขนมปังโฮลเกรน

ขนมปังโฮลเกรนหรือแครกเกอร์ที่ทำจากธัญพืชเต็มเมล็ด เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ดีและช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนานขึ้น

### 4. อาหารที่ปรุงสุกแล้ว

อาหารที่ปรุงสุกแล้ว เช่น สลัดไก่หรือข้าวกล้องกับผัก สามารถนำติดตัวได้ แต่ควรตรวจสอบกฎระเบียบของสายการบินเกี่ยวกับการนำอาหารขึ้นเครื่อง

### 5. ช็อกโกแลตหรือขนมหวาน

การนำช็อกโกแลตหรือขนมหวานเล็กน้อยขึ้นเครื่องบินสามารถช่วยเพิ่มอารมณ์และให้พลังงานในช่วงเวลาที่คุณรู้สึกเหนื่อย

## เคล็ดลับในการเลือกอาหาร

- **ตรวจสอบกฎระเบียบของสายการบิน**: ก่อนที่จะนำอาหารขึ้นเครื่อง ควรตรวจสอบกฎระเบียบของสายการบินเกี่ยวกับการนำอาหารและของว่างขึ้นเครื่องบิน
- **หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรง**: อาหารที่มีกลิ่นแรงอาจทำให้ผู้โดยสารคนอื่นรู้สึกไม่สบาย ดังนั้นควรเลือกอาหารที่มีกลิ่นอ่อน
- **เลือกอาหารที่ไม่ต้องการการทำความเย็น**: ควรเลือกอาหารที่สามารถเก็บรักษาได้โดยไม่ต้องการการทำความเย็น เพื่อป้องกันการเน่าเสีย

## สรุป

การเลือกอาหารและของว่างที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางโดยเครื่องบินไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณรู้สึกดีในระหว่างการเดินทาง แต่ยังช่วยให้คุณมีพลังงานและสุขภาพที่ดีอีกด้วย อย่าลืมตรวจสอบกฎระเบียบของสายการบินและเลือกอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

หากคุณมีเคล็ดลับการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกเตรียมอะไรบ้าง หรือประสบการณ์ในการเลือกอาหารสำหรับการเดินทาง อย่าลืมแชร์ความคิดเห็นของคุณในช่องคอมเมนต์ด้านล่าง!  แต่ก็อย่าลืมของดีจากญี่ปุ่นที่เป็นของฝากจากญี่ปุ่นด้วยนะ

45
ในปีนี้ ประเทศไทยได้มีการปรับปรุงกฎหมายภาษีใหม่ ซึ่งมีผลกระทบต่อหลายด้าน รวมถึงการซื้อประกันเพื่อลดหย่อนภาษีจาก KTB สำหรับผู้ที่วางแผนจะใช้ประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพเป็นเครื่องมือในการลดหย่อนภาษี การเข้าใจถึงกฎหมายภาษีใหม่เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

## ความสำคัญของการซื้อประกันเพื่อลดหย่อนภาษี

การซื้อประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณมีความคุ้มครองในกรณีฉุกเฉิน แต่ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย ตามกฎหมายภาษีที่กำหนดให้สามารถนำเบี้ยประกันที่จ่ายไปหักลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

## การเปลี่ยนแปลงกฎหมายภาษีใหม่

ตามกฎหมายภาษีใหม่ที่มีผลบังคับใช้ในปีนี้ มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีจากการซื้อประกัน โดยเฉพาะในเรื่องของวงเงินที่สามารถหักลดหย่อน ซึ่งอาจมีการจำกัดวงเงินหรือลดสิทธิประโยชน์ในบางกรณี การเข้าใจรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเงินได้อย่างถูกต้อง

### การจำกัดวงเงินหักลดหย่อน

กฎหมายภาษีใหม่ได้มีการกำหนดวงเงินสูงสุดในการหักลดหย่อนจากการซื้อประกัน ซึ่งอาจแตกต่างจากกฎหมายเดิมที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า ดังนั้น ผู้ที่มีแผนจะซื้อประกันเพื่อลดหย่อนภาษีควรศึกษาข้อมูลให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดและสามารถใช้สิทธิประโยชน์ได้อย่างเต็มที่

## ผลกระทบต่อผู้บริโภค

การเปลี่ยนแปลงในกฎหมายภาษีใหม่อาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคในการซื้อประกัน โดยเฉพาะผู้ที่มองหาประกันชีวิตลดหย่อนภาษีของ KTB การจำกัดวงเงินหักลดหย่อนอาจทำให้ผู้บริโภคต้องพิจารณาแผนการเงินใหม่ รวมถึงการเลือกซื้อประกันที่เหมาะสมกับความต้องการและสถานการณ์ทางการเงินของตน

### การวางแผนการเงินที่ดี

เพื่อให้สามารถใช้ประกันเป็นเครื่องมือในการลดหย่อนภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้บริโภคควรมีการวางแผนการเงินที่ดี โดยอาจจะทำการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหรือที่ปรึกษาด้านภาษี เพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมและสามารถใช้สิทธิประโยชน์จากกฎหมายภาษีใหม่ได้อย่างเต็มที่

## สรุป

การเปลี่ยนแปลงกฎหมายภาษีใหม่มีผลกระทบที่สำคัญต่อการซื้อประกันลดหย่อนภาษีของ KTB สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ประกันเป็นเครื่องมือในการวางแผนการเงิน ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายใหม่และวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ เพื่อให้สามารถใช้สิทธิประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการคำแนะนำในการวางแผนการเงิน สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหรือที่ปรึกษาด้านภาษีได้เลย

## เรียนรู้เพิ่มเติม

หากคุณสนใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการลดหย่อนภาษีจากการซื้อประกัน หรือมีคำถามเกี่ยวกับกฎหมายภาษีใหม่ อย่าลังเลที่จะติดต่อเราเพื่อขอคำปรึกษาและข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการวางแผนการเงินของคุณในอนาคต

46
        ทุกวันนี้ระบบการซื้อทองมีทั้งแบบออมทองและ ผ่อนทอง จึงไม่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่มาซื้อทอง แต่ใช้เงินจำนวนน้อย ๆ เพียงหลักร้อยหลักพันทยอยจ่ายสะสมไปเรื่อย ๆ ตามเงื่อนไขหรือความสะดวก เมื่อจ่ายครบแล้วจึงถือทองคำจริงออกไปได้ในทันที

ออมทอง คืออะไร
“ออมทอง” คือการซื้อทองคำแบบออมสะสมเป็นน้ำหนักทอง เริ่มด้วยจำนวนเงินขั้นต่ำตามกำหนด ตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักพัน ขึ้นอยู่กับกำลังที่ลูกค้าสามารถจ่ายเงินออมได้ ออมสะสมเป็นประจำทุกเดือนอย่างน้อยเดือนละครั้งจนครบตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน จึงจะแลกทองจริงออกมาได้ตามเงื่อนไขของแต่ละร้าน โดยมากจะรับทองเมื่อสะสมจนครบน้ำหนัก 1 กรัมขึ้นไป

ข้อดีของการออมทอง
การออมทองมีข้อดีคือความสะดวกและยืดหยุ่น ออมทองได้ตลอด ไม่มีกำหนดชัดเจนว่าต้องออมทองกี่เดือนกี่วัน เหมาะกับคนที่ไม่รีบร้อน ถ้าช่วงไหนไม่สะดวกก็หยุดพักการออมทองได้ ถือว่ามีความยืดหยุ่นมากทีเดียว เพียงออมทองขั้นต่ำตามราคาที่ตกลงไว้ได้ตั้งแต่แรก ค่อย ๆ สะสมไปเรื่อย ๆ ทีละงวดจนครบ หากราคาทองสูงกว่าราคาที่เราซื้อไว้ก็ขายออกมาทำกำไรได้

ผ่อนทอง คืออะไร
“ผ่อนทอง” คือ การซื้อทองโดยล็อกราคาตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ จากนั้นผ่อนจ่ายเป็นงวด ๆ เท่ากันทุกเดือนจนครบ ไม่ว่าราคาทองจะขึ้นหรือลงก็ตาม ซึ่งการผ่อนทองมีเงื่อนไขของดอกเบี้ยด้วย ดังนั้น การผ่อนทองเป็นราคาตายตัว ไม่ยืดหยุ่นเท่ากับการออมทอง

ความแตกต่างของการลงทุน
เห็นได้ชัดว่าการออมทองและการผ่อนทองแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ผ่อนทองต้องผ่อนจ่ายเป็นงวด ๆ เท่ากันทุกเดือน สำหรับการออมทองแตกต่างออกไป ไม่จำเป็นต้องออมเท่ากันในทุกเดือน กรณีที่ไม่พร้อมก็หยุดพักก่อน โดยปกติแล้วเพียงจ่ายสะสมครบ 1 กรัมก็ถอนทองคำออกมาจากโปรแกรมออมทองได้แล้ว นอกจากไม่ต้องชำระดอกเบี้ยเหมือนการผ่อนทองแล้ว ยังมีโอกาสทำกำไรเนื่องจากราคาทองคำปรับตัวขึ้นอีกด้วย

แบบไหนเหมาะกับเรา
ทองคำเป็นสินทรัพย์ทางเลือกตัวหนึ่ง ไม่ว่าจะเลือกวิธีการออมทองหรือ ผ่อนทอง ก็ช่วยให้สามารถเก็บสะสมทองได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนโตมาซื้อทีเดียว หากไม่มีเวลาหรือกำลังพอที่จะเก็บเงินสดซื้อทองในครั้งเดียว การออมทองหรือผ่อนทองก็นับเป็นทางเลือกที่เหมาะกว่า โดยเฉพาะการออมทองมีความสะดวกในหลาย ๆ แง่ ทั้งเรื่องความยืดหยุ่นในการออมทองและความสะดวกในการถอนทอง ไม่ต้องจ่ายเงินทุกงวดเป็นประจำ งวดไหนไม่สะดวกก็หยุดชำระเงินไปก่อน เมื่อไรหมุนเงินทันก็ค่อยมาทยอยจ่ายต่อไปได้
หากคุณมุ่งเก็งกำไรทอง การออมทองมีราคาซื้อขายเป็นแบบเรียลไทม์ ในช่วงที่ราคาทองค่อนข้างผันผวนจะมีความเสี่ยงสูง การฝากเงินในบัญชีธนาคารก็อาจจะมีความปลอดภัยมากกว่า แถมยังมีดอกเบี้ยงอกเงย กรณีที่คุณมีบัตรเครดิตกรุงศรีฯ ใช้ ผ่อนทอง แท่งหรือทองรูปพรรณ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด พร้อมของสมนาคุณสุดคุ้ม



47
## ดอกเบี้ยในการกู้เงินนอกระบบ

### อัตราดอกเบี้ยที่สูง

การคิดอัตราดอกเบี้ยในการกู้เงินนอกระบบมักมีอัตราที่สูงกว่าการกู้เงินจากสถาบันการเงินที่ถูกกฎหมาย โดยทั่วไปแล้ว อัตราดอกเบี้ยสามารถสูงถึง 20-30% ต่อเดือน ซึ่งอาจทำให้ผู้กู้ต้องจ่ายเงินคืนในจำนวนที่มากกว่าที่กู้มาในตอนแรก

### วิธีคำนวณอัตราดอกเบี้ยเงินกู้

การคำนวณดอกเบี้ยในการกู้เงินนอกระบบมักจะใช้วิธีการคำนวณแบบรายเดือนหรือรายวัน ซึ่งผู้กู้ควรสอบถามให้ชัดเจนเกี่ยวกับการคิดอัตราดอกเบี้ยต่อปี เพื่อให้สามารถคำนวณจำนวนเงินที่ต้องชำระคืนได้อย่างถูกต้อง

## ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง

### ค่าธรรมเนียมการกู้เงิน

นอกจากดอกเบี้ยแล้ว ผู้กู้ยังต้องชำระค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกู้เงิน เช่น ค่าธรรมเนียมการจัดการเอกสาร ค่าธรรมเนียมการประเมินหลักประกัน ซึ่งอาจทำให้จำนวนเงินที่ต้องชำระคืนสูงขึ้นอีก

### ค่าธรรมเนียมการชำระเงินล่าช้า

หากผู้กู้ไม่สามารถชำระเงินคืนตามกำหนดเวลา อาจมีค่าธรรมเนียมการชำระเงินล่าช้าที่สูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้ผู้กู้ต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงินที่เพิ่มขึ้น

## ความเสี่ยงในการกู้เงินนอกระบบ

การกู้เงินนอกระบบมีความเสี่ยงหลายประการที่ผู้กู้ควรพิจารณา เช่น การถูกเรียกเก็บหนี้ในลักษณะที่ไม่เป็นธรรม หรือการถูกขู่ว่าจะทำร้ายหากไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด

### การตรวจสอบแหล่งเงินกู้

ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกกู้เงินนอกระบบ ผู้กู้ควรตรวจสอบแหล่งเงินกู้ให้ดี โดยสามารถหาข้อมูลจากรีวิวหรือความคิดเห็นของผู้ที่เคยใช้บริการ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นแหล่งเงินกู้ที่มีความน่าเชื่อถือ

## คำแนะนำในการกู้เงินนอกระบบ

1. **อ่านสัญญาให้ละเอียด**: ก่อนเซ็นสัญญากู้เงิน ควรอ่านเงื่อนไขและรายละเอียดทั้งหมดให้เข้าใจอย่างชัดเจน
2. **คำนวณความสามารถในการชำระคืน**: ควรคำนวณว่าตนเองมีความสามารถในการชำระคืนเงินกู้ได้หรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาหนี้สินในอนาคต
3. **เลือกแหล่งเงินกู้ที่มีความน่าเชื่อถือ**: ควรเลือกกู้จากแหล่งที่มีชื่อเสียงและมีการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

## สรุป

การกู้เงินนอกระบบอาจเป็นทางเลือกที่สะดวก แต่ควรมีความระมัดระวังในการเลือกแหล่งกู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หากคุณกำลังพิจารณากู้เงินนอกระบบ ควรใช้ข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือและทำการวิเคราะห์อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ

หากคุณมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผ่อนชำระกับจ่ายขั้นต่ำ การกู้เงินนอกระบบ สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญหรือที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมได้เลย!

48
ในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการกู้ซื้อที่ดินพร้อมสร้างบ้านแบบประหยัด เพื่อให้คุณสามารถทำตามได้ง่ายๆ

## 1. การวางแผนการเงิน

ก่อนที่คุณจะเริ่มกระบวนการกู้เงิน คุณควรทำการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ โดยเริ่มจากการประเมินงบประมาณที่คุณมีอยู่ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อที่ดินและสร้างบ้าน เช่น ค่าธรรมเนียมการโอน ค่าภาษี ค่าก่อสร้าง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น

### 1.1 คำนวณรายได้และค่าใช้จ่าย

การคำนวณรายได้และค่าใช้จ่ายจะช่วยให้คุณทราบถึงความสามารถในการชำระหนี้ของคุณ คุณควรจัดทำงบประมาณที่ชัดเจนเพื่อให้สามารถติดตามการใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น

## 2. เลือกประเภทสินเชื่อที่เหมาะสม

การเลือกประเภทสินเชื่อที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการกู้ซื้อที่ดินและสร้างบ้าน คุณสามารถเลือกได้จากหลายประเภท เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อที่ดิน หรือสินเชื่อสร้างบ้าน

### 2.1 สินเชื่อบ้าน

สินเชื่อบ้านมักมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า และมีระยะเวลาการชำระหนี้ที่ยาวนาน ซึ่งจะช่วยลดภาระการชำระหนี้ในแต่ละเดือน

### 2.2 สินเชื่อสร้างบ้าน

หากคุณมีที่ดินอยู่แล้วและต้องการกู้เงินเพื่อสร้างบ้าน กู้ซ่อมแซมบ้านจาก KTB สินเชื่อสร้างบ้านจะเป็นทางเลือกที่ดี โดยทั่วไปแล้วจะมีการปล่อยสินเชื่อในระยะเวลาที่สั้นกว่า

## 3. ทำการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย

การเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากสถาบันการเงินต่าง ๆ จะช่วยให้คุณสามารถเลือกสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุด ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมได้มาก

### 3.1 ใช้เครื่องมือออนไลน์

ในปัจจุบันมีเครื่องมือออนไลน์ที่ช่วยในการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านและที่ดิน คุณสามารถใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อค้นหาสินเชื่อที่เหมาะสมได้ง่ายขึ้น

## 4. เตรียมเอกสารให้พร้อม

การเตรียมเอกสารที่จำเป็นสำหรับการกู้เงินจะช่วยให้กระบวนการดำเนินไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เอกสารที่มักจะต้องใช้ได้แก่ บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สลิปเงินเดือน และเอกสารแสดงรายได้อื่น ๆ

## 5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

หากคุณรู้สึกไม่มั่นใจในกระบวนการกู้เงิน การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหรือที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์จะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ

## สรุป

การกู้ซื้อที่ดินพร้อมสร้างบ้านแบบประหยัดนั้นไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณมีการวางแผนการเงินที่ดี กู้ตกแต่งบ้านจาก KTB เลือกประเภทสินเชื่อที่เหมาะสม และทำการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยอย่างรอบคอบ นอกจากนี้ยังควรเตรียมเอกสารให้พร้อมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุด

หากคุณพร้อมที่จะเริ่มต้นการกู้ซื้อที่ดินและสร้างบ้านในฝันของคุณ พร้อมอยากแต่งงานแต่ไม่มีเงินจาก KTB อย่ารอช้า! เริ่มวางแผนและดำเนินการวันนี้เพื่ออนาคตที่ดีกว่า!  แต่อย่าลืมทำประกันชีวิตลดหย่อนภาษีของ KTBด้วยนะ

49
ในบทความนี้เราจะพูดถึงเงินเดือนเท่าไหร่เสียภาษี 2566 จาก KTB พร้อมทั้งเทคนิคและเคล็ดลับที่คุณควรรู้

## 1. ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ: ความแตกต่างและความสำคัญ

### ประกันชีวิต

ประกันชีวิตเป็นสัญญาที่ให้ความคุ้มครองในกรณีที่ผู้เอาประกันเสียชีวิต โดยผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินตามกรมธรรม์ ประกันชีวิตสามารถช่วยลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเบี้ยประกันที่จ่ายในปีนั้น ๆ

### ประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพเป็นสัญญาที่ให้ความคุ้มครองในกรณีที่ผู้เอาประกันต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล โดยเบี้ยประกันสุขภาพสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน

## 2. วิธีการคำนวณลดหย่อนภาษีจากประกัน

ในการคำนวณลดหย่อนภาษีจากประกัน คุณต้องทราบข้อมูลที่สำคัญดังนี้:

### 2.1 จำนวนเบี้ยประกันที่จ่าย

ให้คุณตรวจสอบจำนวนเบี้ยประกันที่คุณจ่ายในปีภาษีที่ต้องการลดหย่อน โดยสามารถรวมเบี้ยประกันชีวิตและประกันสุขภาพได้

### 2.2 ขีดจำกัดการลดหย่อน

ตามกฎหมายภาษีของประเทศไทย ขีดจำกัดการลดหย่อนภาษีจากประกันชีวิตและประกันสุขภาพจะมีการกำหนดไว้ ซึ่งในปี 2023 นี้ ขีดจำกัดการลดหย่อนภาษีจากประกันชีวิตคือ 100,000 บาท และจากประกันสุขภาพคือ 25,000 บาท

### 2.3 การคำนวณ

การคำนวณลดหย่อนภาษีจากประกันสามารถทำได้โดยการนำจำนวนเบี้ยประกันที่จ่ายมาลบกับขีดจำกัดที่กำหนด เช่น หากคุณจ่ายเบี้ยประกันชีวิต 80,000 บาท และเบี้ยประกันสุขภาพ 20,000 บาท การลดหย่อนภาษีของคุณจะเป็น 80,000 + 20,000 = 100,000 บาท ซึ่งอยู่ในขีดจำกัดที่กำหนด

## 3. เทคนิคและเคล็ดลับในการใช้ประกันเพื่อลดหย่อนภาษี

### 3.1 เลือกกรมธรรม์ที่เหมาะสม

ควรเลือกกรมธรรม์ที่มีความคุ้มครองที่เหมาะสมกับความต้องการและสถานการณ์ทางการเงินของคุณ เพื่อให้คุณสามารถใช้ประกันเป็นเครื่องมือในการลดหย่อนภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

### 3.2 วางแผนการจ่ายเบี้ยประกัน

การวางแผนการจ่ายเบี้ยประกันในแต่ละปีสามารถช่วยให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีได้สูงสุด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้จ่ายเบี้ยประกันภายในปีภาษีที่กำหนด

### 3.3 ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

หากคุณมีข้อสงสัยเงินเดือนเท่าไหร่เสียภาษีจาก KTB หรือไม่แน่ใจเกี่ยวกับการคำนวณลดหย่อนภาษีจากประกัน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีหรือการเงิน เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเหมาะสม แต่ก็อย่าลืมกองทุนesgลดหย่อนภาษีจาก KTBด้วยนะ

## สรุป

การใช้ประกันชีวิตและประกันสุขภาพเป็นเครื่องมือในการลดหย่อนภาษีเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการจัดการการเงินของคุณ โดยการคำนวณลดหย่อนภาษีจากประกันนั้นไม่ยาก เพียงแค่คุณรู้จักวิธีการและขีดจำกัดที่กำหนด หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือคำแนะนำเกี่ยวกับการวางแผนภาษี อย่าลืมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้การวางแผนการเงินของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด!

หากคุณพบว่าบทความนี้มีประโยชน์ อย่าลืมแชร์ให้กับเพื่อน ๆ ของคุณเพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน และอย่าลืมthaiesgลดหย่อนภาษีจาก KTB!

50
เราจะมาดูความคุ้มค่าของแต่ละแผนเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกแผนประกันที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายขึ้น

ประกันรถยนต์ชั้น 1
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีคู่กรณี จึงเป็นที่นิยมมาก เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มขับรถหรือเพิ่งออกรถใหม่ เนื่องจากมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมและเบี้ยประกันมีราคาสูง
รายละเอียดการคุ้มครองของประกันชั้น 1 มีดังนี้:
คุ้มครองบุคคลภายในรถ: ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ค่าประกันผู้ขับขี่ และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่น ๆ
คุ้มครองบุคคลภายนอก: รับผิดชอบค่าเสียหายทั้งต่อร่างกายและทรัพย์สินของคู่กรณี หากเกิดอุบัติเหตุประกันจะชดเชยให้
คุ้มครองรถยนต์ที่เอาประกัน: คุ้มครองทั้งกรณีรถชน รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือภัยธรรมชาติอื่น ๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีคู่กรณี เช่น ถูกชนแล้วคู่กรณีหนีไป หรือชนกับสิ่งที่ไม่ใช่ยานพาหนะ เช่น กำแพง เสาไฟฟ้า ประกันก็จะรับผิดชอบค่าซ่อมรถยนต์ให้

ประกันรถยนต์ชั้น 2
ประกันรถยนต์ชั้น 2 เป็นซื้อประกันรถยนต์ (เพิ่มเติม: https://digital.msig-thai.com/main/motor) ที่คุ้มครองรองลงมา โดยส่วนที่แตกต่างคือ ประกันชั้น 2 ไม่คุ้มครองรถของเราในกรณีที่เกิดการชน โดยจะคุ้มครองเฉพาะรถของคู่กรณีเท่านั้น
รายละเอียดการคุ้มครองของประกันชั้น 2 มีดังนี้:
คุ้มครองบุคคลภายในรถ: ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ค่าประกันผู้ขับขี่ และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นเหมือนกับประกันชั้น 1
คุ้มครองบุคคลภายนอก: รับผิดชอบค่าเสียหายทั้งต่อร่างกายและทรัพย์สินของคู่กรณีเช่นเดียวกับประกันชั้น 1
คุ้มครองรถยนต์ที่เอาประกัน: คุ้มครองเฉพาะกรณีรถหายและไฟไหม้เท่านั้น หากเกิดอุบัติเหตุอื่น ๆ เช่น รถชนรถ ชนฟุตบาท หรือชนต้นไม้ ประกันภัยรถชั้น 2 จะไม่รับผิดชอบค่าซ่อมรถยนต์ของเรา

ประกันรถยนต์ 2+
ประกันภัยรถยนต์ 2+ เป็นทางเลือกที่คุ้มค่ามากกว่าประกันชั้น 2 เนื่องจากมีความคุ้มครองเพิ่มเติมที่ครอบคลุมมากขึ้น แต่ยังคงมีเบี้ยประกันที่ต่ำกว่าประกันชั้น 1
รายละเอียดการคุ้มครองของประกันรถยนต์ 2+ มีดังนี้:
คุ้มครองบุคคลภายในรถ: ครอบคลุมเช่นเดียวกับประกันชั้น 1 และชั้น 2 รวมถึงครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่าง ๆ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ยังครอบคลุมถึงค่าประกันตัวในกรณีที่เกิดคดีอาญาด้วย
คุ้มครองบุคคลภายนอก: คุ้มครองทั้งร่างกายและทรัพย์สินของคู่กรณี หากเกิดอุบัติเหตุและมีผู้บาดเจ็บหรือทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย ประกัน 2+ จะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณี หรือค่าซ่อมแซมทรัพย์สิน
คุ้มครองรถยนต์ที่เอาประกัน: สิ่งที่ทำให้ประกัน 2+ โดดเด่นกว่าแผนประกันชั้น 2 คือ การคุ้มครองกรณีรถชนกับยานพาหนะทางบกและมีคู่กรณี โดยจะซ่อมให้ทั้งรถของเราและรถของคู่กรณี รวมถึงกรณีรถหายและไฟไหม้ แต่จะไม่คุ้มครองในกรณีที่ชนแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ชนฟุตบาท ชนเสาไฟฟ้า หรือชนกำแพง เป็นต้น ซึ่งแตกต่างจากประกันชั้น 1 ที่จะให้ความคุ้มครองทุกกรณีไม่ว่าจะมีคู่กรณีหรือไม่ก็ตาม

สรุป ประกันภัยรถยนต์แบบไหนที่ควรเลือก?
การเลือกประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมที่สุดนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้แผนประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการและความเสี่ยงของคุณมากที่สุด ปัจจัยหลักที่ควรพิจารณาได้แก่
อายุรถยนต์: หากคุณมีรถใหม่ หรือรถที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี การเลือกประกันชั้น 1 จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการชนกับยานพาหนะอื่นหรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้ยังคุ้มครองในกรณีที่ไม่มีคู่กรณีด้วย เช่น การชนกับสิ่งกีดขวาง การชนฟุตบาท หรือแม้กระทั่งความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ ซึ่งทำให้คุณมั่นใจได้ว่า รถของคุณจะได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่ ไม่ว่าคุณจะประสบเหตุแบบใดก็ตาม
รูปแบบการใช้รถยนต์: หากคุณใช้รถน้อย ขับขี่ในเมืองเป็นหลัก หรือไม่ค่อยได้ขับทางไกล ประกันชั้น 2 หรือ 2+ อาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า ประกันชั้น 2 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าเบี้ยประกันและรับความคุ้มครองในระดับพื้นฐาน โดยจะคุ้มครองในกรณีที่เกิดความเสียหายกับทรัพย์สินหรือร่างกายของบุคคลภายนอกเท่านั้น และครอบคลุมกรณีรถหายและไฟไหม้ แต่ไม่ครอบคลุมกรณีรถชนกับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ยานพาหนะ
ในทางกลับกัน หากคุณต้องการความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ประกัน 2+ จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เนื่องจากประกัน 2+ จะคุ้มครองกรณีรถชนกับยานพาหนะอื่น ๆ บนถนน โดยมีคู่กรณี ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเคลมค่าซ่อมแซมรถยนต์ของคุณได้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี นอกจากนี้ยังคุ้มครองกรณีรถหายและไฟไหม้เหมือนกับประกันชั้น 2 ด้วย
งบประมาณ: เบี้ยประกันเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในการตัดสินใจ หากคุณมีงบประมาณมาก และต้องการความอุ่นใจสูงสุดในการขับขี่ ประกันชั้น 1 จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด เพราะคุณจะได้รับความคุ้มครองในทุกด้าน แต่ถ้างบประมาณของคุณจำกัด ประกันชั้น 2 หรือ 2+ ก็ยังเป็นทางเลือกที่ดี ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแต่ยังคงได้รับการคุ้มครองที่เพียงพอในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
ลักษณะของการขับขี่และการใช้รถ: หากคุณมีประสบการณ์ขับรถมานาน และมีความมั่นใจในทักษะการขับขี่ของตนเอง ประกันชั้น 2 หรือ 2+ อาจเพียงพอต่อความต้องการของคุณ แต่หากคุณเพิ่งเริ่มขับรถหรือขับรถในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ถนนที่มีการจราจรหนาแน่นหรือมีสภาพภูมิอากาศที่ไม่แน่นอน การเลือกประกันชั้น 1 จะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากขึ้น และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
คำแนะนำเพิ่มเติม:
สำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมและสามารถจ่ายเบี้ยประกันที่สูงขึ้นได้ ประกันชั้น 1 คือทางเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากความคุ้มครองที่ครอบคลุมทุกกรณี
สำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด และต้องการความคุ้มครองที่ดีในราคาที่ประหยัด ประกันชั้น 2 หรือ 2+ เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการความคุ้มครองในกรณีที่ไม่มีคู่กรณี

การเลือกประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณสามารถขับขี่อย่างอุ่นใจ และได้รับการคุ้มครองที่ตอบโจทย์ตามความต้องการของคุณในทุกกรณี แต่ก็อย่าลืมประกันรถยนต์ชั้น 3 จาก MSIG ด้วยนะ

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 ... 52