เสียค่าโฆษณาเมื่อมีคนคลิก แฟร์หรือยัง? พูดคุยกับคุณพล ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตลาดออนไลน์ ผ่านเครื่องมือ Google AdWords
สนใจกด LIKE และติดตามข่าวสารกับหัวข้ออื่นๆสำหรับธุรกิจSMEได้ที่http://www.facebook.com/ThailandOnlineFocus
อีกเรื่องที่คาใจกับคนอยากโฆษณาออนไลน์ ก่อนที่ผมจะเล่าเรื่องการทำโฆษณากับ Google AdWords ต่อไป ผมอยากจะเล่าเรื่องการเสียค่าโฆษณาให้กับสื่อออนไลน์ก่อนนะครับ ผมว่าทุกคนคงเคยได้ยินว่าโฆษณากับ Google ต้องเสียค่าโฆษณาเพื่อ
ก่อนที่ผมจะเล่าเรื่องการทำโฆษณากับ Google AdWords ต่อไป ผมอยากจะเล่าเรื่องการเสียค่าโฆษณาให้กับสื่อออนไลน์ก่อนนะครับ ผมว่าทุกคนคงเคยได้ยินว่าโฆษณากับ Google ต้องเสียค่าโฆษณาเมื่อมีคนคลิก พอได้ยินแบบนี้หลายคนได้ฟังแล้วกลัวมาก คำถามที่เจอเสมอว่า เสียคลิกเท่าไหร่แล้วถ้าคลิกไปเรื่อย ๆ วันละเป็นหมื่น ๆ คลิก เราไม่ต้องเสียค่าโฆษณาวันละเป็นแสนเลยหรอ แล้วพาลไม่ชอบที่จะโฆษณาแบบนี้
ผมขอเล่าให้ฟังก่อนว่าจุดประสงค์ของการคิดค่าโฆษณาแบบนี้มาจากไหนอย่างไร สมัยก่อนการที่เราจะโฆษณา เราก็จะต้องไปซื้อสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ซึ่งในแบบนี้เราจะต้องเสียเงินเพื่อให้โฆษณาเราไปเห็นกับคนที่เราคิดว่าจะเป็นลูกค้าเรา และปัญหาที่เกิดขึ้นมาคือ ค่าสื่อแพงมาก ไปถึงคนที่จะเป็นลูกค้าเราจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ และที่สำคัญคือ คนที่ซื้อสื่อได้ต้องเป็นคนมีตังค์เท่านั้น
พอเจอแบบนี้เข้าฝรั่งเค้าก็คิดใหม่ เค้าคิดว่าเค้าสามารถทำสื่ออะไรก็ได้ที่ให้คนเสียเงินก็ต่อเมี่อไปแสดงผลกับคนที่ผู้ซื้อสื่อต้องการมันน่าจะดีกว่ามั๊ย และให้ซื้อได้ในราคาไม่แพง แล้วให้โอกาสทุก ๆ คนในการซื้อสื่อได้ น่าจะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย มันก็เลยเกิดวิธีการเสียค่าโฆษณาเมื่อมีคนคลิกขึ้นมา ซึ่งการทำแบบนี้ได้ตอนนี้มีเฉพาะในสื่อออนไลน์เท่านั้น
อ้าว ทำไมทำได้แค่ในสื่อออนไลน์ละ
คำตอบมีดังนี้ครับ
สื่อออนไลน์ เป็นสื่อที่สามารถกำหนดผู้เสพสื่อได้ อาทิเช่นใน Google ลองคิดง่าย ๆ ครับ วันนี้ถ้าเราอยากได้รถจักรยานสักคัน เราไปค้นหาที่ไหนครับ ก็ใน Google ถูกมั๊ยครับ แล้วพอเราค้นหาเรื่องจักรยาน โฆษณาของคนขายจักรยานก็โผล่ขึ้นมา ถ้าคุณสนใจคุณก็คลิกเข้าไปดู คนขายจักรยานที่โฆษณาคำนั้นไว้ ก็เสียเงิน เพราะมีคนสนใจสินค้าของเค้า หรือวันนี้ใน Facebook คุณเห็นโฆษณาทางฝั่งขวามือ เอาง่าย ๆ ครับ ถ้าคุณเห็นแล้วคุณสนใจสินค้าคุณก้อคลิก คนขายของก็เสียเงินค่าโฆษณา
สื่อออนไลน์ เป็นสื่อที่ไม่มีค่าผลิตสื่อ พูดง่าย ๆ ไม่ว่าจะมีการแสดงผลหน้าเว็บไซต์เยอะแค่ไหน เจ้าของสื่อเสียเงินเท่ากันครับ ผิดกับหนังสือพิมพ์ วิทยุ หรือโทรทัศน์ที่มีข้อจำกัด อาทิเช่น หนังสือพิมพ์ ยิ่งพิมพ์มากยิ่งมีต้นทุนการผลิตมาก วิทยุและโทรทัศน์มีข้อจำกัดที่เวลาในการโฆษณา ซึ่งเวลาตรงนั้นเค้าต้องมาหารเฉลี่ย เพื่อให้ได้ต้นทุนเวลามา
ทีนี้แล้วเสียเป็นคลิกมันแฟร์มั๊ย
ถ้าถามผม ผมว่าแฟร์ครับ เพราะเราเสียเงินกับคนที่สนใจสินค้าเราครับ ดังนั้นทุกคลิกที่เกิดขึ้นมันจะค่อนข้างมีคุณภาพ และทำให้มีโอกาสที่จะให้คนสนใจสินค้าเราโทรฯ มาหาเราเพื่อขอรายละเอียดต่อไป
ทีนี้ถ้าถามต่อว่าดีมั๊ย
ผมตอบแบบนี้ครับ ถ้ากับ SME ผมว่าดีมากเลย เพราะทุกบาททุกสตางค์ คุณหมดไปกับคนที่สนใจคุณจริง ๆ แต่ถ้าบริษัทฯใหญ่ ๆ ที่ต้องการเข้าถึงคนหลักแสนหรือหลักล้าน อันนี้อาจจะเหมาะเป็นส่วนเสริมมากกว่า เพราะลองคิดดูครับ หากเราเสียค่าคลิก คลิกละ 5 บาท ต้องการเข้าถึงคนหนึ่งล้านคนเสีย 5 ล้านบาท ผมว่าไปเสียเงินโฆษณากับโทรทัศน์จะดีกว่า
แล้วถามต่ออีกว่า แล้วถ้ามีคนคลิกไปเรื่อย ๆ ละ เราไม่เสียเงินวันละเป็นแสนหรอ
ฝรั่งเค้าคิดให้หมดแล้วครับ คนที่ทำโฆษณาในรูปแบบเสียเงินก็ต่อเมื่อมีคนคลิก ทุกคนจะให้กำหนดค่าโฆษณาต่อวันได้ครับ อาทิเช่น เราอยากจะเสียค่าโฆษณาวันละ 200 บาท พอมีคนคลิกหมด 200 บาท โฆษณาเราก็หายไป โฆษณาคนอื่นก็มาขึ้นแทน แค่นั้นครับ
นี่คือเบื้องต้นของรูปแบบการเสียค่าโฆษณาแบบเป็นคลิก
สังเกตุอย่างมั๊ยครับ การทำโฆษณาออนไลน์และเสียค่าโฆษณาแบบนี้ มีคนบอกเสมอว่าเหมาะสมกับ SME มาก และสังเกตต่อมั๊ยครับว่าไม่เคยมีการบอกว่า สื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ เหมาะกับ SME
***ฝากข่าวประชาสัมพันธ์
เตรียมพบกับ Thailand online expo งานมหกรรมออนไลน์ที่จัดแสดงเทคโนโลยี สินค้าและบริการด้านออ
นไลน์พร้อมทั้งสัมมนาออนไลน์ครั้งใหญ่สุดในประเทศไทย รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่
http://www.thailandonlineexpo.com