ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ยาคุมลดสิว ได้จริงไหม? ฉบับผู้หญิงบอกต่อ !!!



เป็นสิวทำยังไงก็ไม่หายสักที จนหลายคนหมดความมั่นใจ และ หันไปเลือกใช้ ยาคุมลดสิว เพื่อช่วยรักษาสิวบนหน้าแทน ใครที่คิดจะทานยาคุมเพื่อรักษาสิวต้องรู้!!! Sistalk จะมาแนะนำวิธีทานยาคุมรักษาสิว พร้อมข้อมูลที่สาวๆ ไม่ควรพลาด เพราะหากเลือกไม่ดี หรือ กินผิดวิธีอาจจะไม่ได้ผล และ อาจทำให้คุณอ้วนขึ้นได้อีกด้วย ใครที่อยากหน้าใส ไร้สิว และ ตัวไม่บวมไม่ควรพลาดบทความนี้เลย!!!
 
ยาคุมลดสิว ได้จริงไหม?


"ยาคุมกำเนิด" เป็นยาที่ใช้ทานสำหรับเพื่อคุมกำเนิดในการยับยั้งการตกไข่ ทำให้ไม่เกิดการตั้งครรภ์ขึ้น ในยาคุมมีส่วนผสมของฮอร์โมน เอสโตรเจน (Estrogen) และ โปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่จะช่วยในเรื่องของการรักษาสิว และ จะช่วยในการลดการผลิตไขมันจากต่อมไขมันที่เป็นต้นเหตุของสิว ทำให้เกิดสิวได้ง่ายโดยเฉพาะในช่วงมีประจำเดือนที่เรียกว่า "สิวฮอร์โมนนั่นเอง" สิวฮอร์โมนจะพบตามบริเวณต่างๆ โดยเฉพาะ แก้มด้านล่างกราม และ รอบริมฝีปาก แต่ถ้าหากทานยาคุมกำเนิด ฮอร์โมนที่อยู่ในยาคุมที่เป็นฮอร์โมนเพศหญิงจะไปช่วยกดฮอร์โมนเพศชาย ทำให้ปัญหาสิว ผิวมันน้อยลงนั่นเอง
 
 
ต้องทานอย่างไร ถึงจะเห็นผล?


จะต้องกินอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน จึงจะเห็นผลได้ชัด แต่ส่วนใหญ่สิวจะเริ่มน้อยลงเมื่อทานไปแล้ว 2 - 3 เดือน ยาคุมสำหรับลดสิวจะเป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมเท่านั้น หากทานแบบชนิดฮอร์โมนเดี่ยวจะไม่ได้ผลแม้จะกินอย่างต่อเนื่องก็ตาม

**แต่ผลลัพธ์ที่ได้ และ ช่วงเวลาที่ใช้ในการรักษาสิวอาจจะแตกต่างกันไปตามสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล บางคนอาจเห็นผลเร็ว บางคนอาจจะเห็นผลช้ากว่า**

ยาคุมลดสิว ตัวไหนดี ตัวไหนทานแล้วมีผลข้างเคียง!!!

Diane


ไดแอนเป็นยาคุม 21 เม็ด กล่องสีชมพู ค่อนข้างเป็นที่รู้จักเพราะถือว่าเป็นยาคุมรุ่นแรกๆ ที่อยู่มานานแล้ว เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนสูง มีปริมาณEE 35 mcg ปริมาณเท่ากับ Sucee ช่วยในการรักษาสิวได้เร็ว ช่วยลดความมันบนใบหน้า และ ลดสิวฮอร์โมนได้ดี
ราคา : 180 - 200  บาท (ขึ้นอยู่กับการตั้งราคาของแต่ละร้านยา)

Sucee


ซูซี่เป็นยาคุมที่มีให้เลือกทั้ง 21 เม็ด (กล่องสีชมพู) และ 28 เม็ด (กล่องสีส้ม) เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนสูง มีปริมาณ EE 35 mcg ซึ่งจะช่วยในการยับยั้งฮอร์โมนเพศชาย ช่วยในการลดสิว ผิวมัน และ ขน มีทั้งแบบ 21 และ 28 เม็ด และ แบบ 28 เม็ดก็เหมาะมากสำหรับคนที่กลัวจะลืมทานยา แถมราคายังน่ารักอีกด้วย
ราคา : 100 - 130  บาท (ขึ้นอยู่กับการตั้งราคาของแต่ละร้านยา)

Yasmin


ยาคุมตัวนี้จะเป็นยาคุมแบบ 21 เม็ด กล่องสีเหลือง เป็นยาคุมที่มีฮอร์โมนปานกลาง มีปริมาณEE 30 mcg เป็นยาคุมที่สามารถช่วยรักษาสิว หน้ามันได้ และ เหมาะสำหรับคนที่กลัวว่ากินยาคุมแล้วจะอ้วน แต่ก็อาจจะมีราคาที่สูงเมื่อเทียบกันยาคุมตัวอื่น
ราคา : 350 - 380  บาท (ขึ้นอยู่กับการตั้งราคาของแต่ละร้านยา)

Justima


ยาคุมจัสติมาเป็นยาคุมกล่องสีส้มแบบ 21 เม็ด มีปริมาณฮอร์โมน EE 30 mcg เป็นยาคุมที่ช่วยลดสิว ผิวมัน และ ไม่ทำให้บวมน้ำ ใครที่กลัวน้ำหนักจะขึ้นสามารถทานได้ แถมยังเป็นยาคุมที่มีผลข้างเคียงน้อย
ราคา : 300 - 320 บาท (ขึ้นอยู่กับการตั้งราคาของแต่ละร้านยา)

Yaz


ยาคุมยาสเป็นยาคุมกล่องสีเขียวเหลือง ที่มีความคล้ายคลึงกับเฮอร์ซตรงที่เป็นยาคุม 28 เม็ด รูปแบบ 24 + 4 เหมือนกัน อีกทั้งยังมีปริมาณฮอร์โมน EE 20 mcg เท่ากันอีกด้วย ทำให้เกิดผลข้างเคียงจากยาคุมได้น้อย อีกทั้งทานแล้วก็ยังไม่อ้วน​
ราคา : 380 - 400 บาท (ขึ้นอยู่กับการตั้งราคาของแต่ละร้านยา)

Herz


มาที่ยาคุมตัวสุดท้าย เฮอร์ซเป็นยาคุมแบบ 28 เม็ด เป็นยาในรูปแบบ 24 + 4 จะมีปริมาณ EE 20 mcg ซึ่งเป็นฮอร์โมนต่ำ ช่วยในการลดปัญหาสิว หน้ามัน ลดการบวมน้ำ ลดอาการ PMS ก่อนมีประจำเดือน ผลข้างเคียงต่ำอีกด้วย แถมราคาก็จับต้องได้สมเหตุสมผล
ราคา : 290 - 320 บาท (ขึ้นอยู่กับการตั้งราคาของแต่ละร้านยา)
 
สำหรับเราถ้าใครเป็นมือใหม่เริ่มทานยาคุมลดสิว ขอแนะนำเป็นตัว Yas , Yasmin , Herz เลยเพราะเป็นยาคุมฮอร์โมนต่ำ มีผลข้างเคียงน้อย แต่ราคาอาจจะสูง ส่วนใครที่อยากได้ยาคุมราคาไม่แพง และ มีตัวเลือกหลากหลายกว่า Sucee น่าจะตอบโจทย์ในเรื่องนี้ เพราะมีทั้งแบบ 21 เม็ด และ 28 เม็ด เพราะทำให้สะดวกกว่า แถมราคาก็ยังสบายใจ ส่วนใครที่อยากเน้นตัวยาที่เป็นฮอร์โมนสูง รักษาสิวได้แบบเห็นผล และ สามารถรับผลข้างเคียงได้ (สาวๆ บางคนที่เป็นคนผอมแล้วอยากมีน้ำมีนวล) ก็ให้เลือกเป็น Diane
 
ทานยาคุมอย่างไรให้ปลอดภัย?
  • ก่อนทานยาคุมควรทำการปรึกษาแพทย์ หรือ เภสัชกรก่อนทานยา เช่น หากเป็นมือใหม่ไม่เคยทานมาก่อน การปรึกษาจะทำให้สามารถเลือกยาคุมที่เหมาะกับเราได้
  • หากมีโรคประจำตัวควรแจ้งเภสัชกรก่อนซื้อ เพราะยาคุมอาจมีผลข้างเคียง ทำให้ผู้ป่วยบางโรคไม่ควรทาน เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ไมเกรน โรคเบาหวาน โรคตับ คนที่ยังไม่ถึงวัยเจริญพันธุ์ คนที่สูบบุหรี่ มีภาวะอ้วน รวมถึงผู้ที่ตั้งครรภ์ กำลังตั้งครรภ์ หรือ อยู่ในช่วงให้นมบุตร
  • หากใช้ยาร่วมกับยาอื่นๆ ควรแจ้งแก่เภสัชกร หรือ แพทย์ ยาบางตัวอาจจะไปลดประสิทธิภาพของยาคุม ทำให้ทานแล้วไม่เห็นผลดังนั้นควรจะแจ้งยาที่เราใช้ประจำ ว่าสามารถทานคู่กับยาคุมได้หรือไม่
  • หากเป็นมือใหม่ควรเริ่มทานเป็นยาคุมที่มีฮอร์โมนต่ำแล้วค่อยๆ เพิ่มไปที่ฮอร์โมนสูง หากไม่อยากให้มีผลข้างเคียงมาก ส่วนใครที่ทานแล้วมีอาการผิดปกติไปพบแพทย์ และ หยุดกินยาคุม

จะเห็นได้ว่ายาคุมมีประโยชน์มากกว่าแค่การคุมกำเนิด เพราะมีฮอร์โมนที่ช่วยทำให้ผิวใส ไร้สิว หน้าไม่มัน ใครที่เป็นสิวไม่หายสักทีแล้วอยากลองทาน ช่วยในการเลื่อนประจำเดือนได้ ช่วยลดอาการ PMS PMDDได้ เป็นต้น นอกจากนั้นก่อนทานอย่าลืมทำปรึกษาแพทย์ หรือ เภสัชกรก่อนซื้อ รวมทั้งควรจะอ่านรายละเอียดบนฉลาก หรือ แผ่นผับที่มีในกล่องยาให้ครบว่า มีข้อควรระวัง หรือ วิธีในการทานอย่างไรบ้าง เพียงเท่านี้ก็ช่วยทำให้หน้าของเรากลับมาดูดี ฟื้นคืนความมั่นใจให้สาวๆ อีกครั้ง ใครที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ประจำเดือน ยาคุมกำเนิด ยาคุมฉุกเฉิน และ วิธีคุมกำเนิด รวมทั้งบทความอื่นๆ อย่าพลาดบทความที่ Sistalk จะเอามาฝากนะคะ แล้วเจอกันใหม่ค่ะสาวๆ !!!
 
 
เพราะ Sistalk ใส่ใจคุณ

เรื่องของสาวๆ ก็ต้องให้สาวๆ คุยกันสิคะ หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่มีปัญหา มีข้อสงสัยไม่ว่าจะเรื่องของ สุขภาพ , การดูแลรูปร่าง , เรื่องลับๆ ของสาวๆ นอกจากนั้นยังมีเรื่องของความรัก และ เทรนด์อื่นๆ ไม่อยากพลาด ต้องเข้ามาอ่าน มาติดตามบทความที่เรา Sistalk ได้รวบรวมมาให้ รับรองได้ว่าคุณจะได้ทั้งประโยชน์ สาระความรู้ และ อัปเดตเทรนด์ก่อนใคร เพราะเราเข้าใจผู้หญิงดี!!!

ใครไม่ Talk Sistalk นะคะซิส!!!!

 
สามารถติดต่อสอบถามข้อมูล Sistalk ตามช่องทางอื่นๆได้ที่
Facebook : sistalk.in.th
Instagram : sistalk.in.th
Twitter : @SistalkTH