ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


รักษารอยดำจากสิวง่าย ๆ เพียงเข้าใจผิวของคุณให้ดี

   “สิว” เป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวที่ทำให้หลายคนหมดความมั่นใจ เพราะนอกจากจะทำให้แต่งหน้ายากแถมยังต้องเสียเงินค่าหมอและค่าสกินแคร์จำนวนมากมารักษาหน้าแล้ว สิวยังชอบทิ้งอารยธรรมที่จัดการยากอย่างรอยดำหรือรอยแผลเป็นไว้บนใบหน้าอีกด้วย ในเมื่อเป็นแบบนี้ คนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่า การทายาแต้มสิวหรือครีมรักษารอยดำจากสิวนั้นจะเป็นคำตอบสุดท้ายของการกำจัดสิวที่มีประสิทธิภาพ แต่!!! ก่อนที่ข้ามไปถึงการรักษารอยดำจากสิวนั้น เรามาทำความเข้าใจผิวและประเภทผิวของตัวเองเพื่อเลือกครีมรักษาได้อย่างตรงจุดกันก่อนดีกว่า


รอยดำจากสิวเกิดจากอะไร?
   หลาย ๆ คนคงคิดว่ารอยดำ รอยแดง และรอยแผลเป็นจากสิวนั้นเป็นแผลจากสิวที่สามารถใช้ครีมรักษาประเภทเดียวกันได้ ในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่สิวทิ้งไว้บนใบหน้า แต่รอยดำและรอยแดงนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง
รอยแดง: เกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังจนทำให้เส้นเลือดฝอยขยายตัว โดยทั่วไปแล้ว รอยแดงสามารถหายได้ภายใน 2-3 เดือนเนื่องจากผิวหนังจะสร้างเซลล์เนื้อเยื่อขึ้นมาทดแทนเซลล์ที่เกิดการอักเสบและถูกทำลายไป
รอยดำและรอยแผลเป็นจากสิว: จริง ๆ แล้วสามารถเกิดได้หลายกรณี เช่น หากช่วงกำลังเป็นสิวแล้วมีการอักเสบใต้ผิวหนังเกิดขึ้น ร่างกายจะหลั่งสารอักเสบออกมาพร้อมสร้างทำเมลานินและส่งตรงไปยังที่ที่มีการอักเสบ ซึ่งผลลัพธ์ของกระบวนการนี้จะทำให้เกิดรอยดำและสีผิวไม่สม่ำเสมอตรงบริเวณสิวขึ้นมา ส่วนรอยแผลเป็นนั้นเกิดจากการแกะและบีบสิวด้วยมือที่ไม่สะอาดจนทำให้สิวบวมแดงและเกิดการอักเสบมากขึ้นนั่นเอง

เลือกครีมรักษารอยดำจากสิวอย่างไร?
   การเลือกครีมรักษารอยดำจากสิวเริ่มต้นจากการสำรวจสภาพผิวของตัวเองเสียก่อน มิเช่นนั้น ครีมรักษาอาจทำให้เกิดสิวมากกว่าเดิมก็เป็นได้ โดยเราขอแบ่งผิวออกเป็น 4 ประเภทดังนี้
ผิวแห้ง
หลายคนคงงงว่าทำไมคนผิวแห้งถึงเป็นสิวหรือสิวอักเสบได้? ในความเป็นจริงแล้ว ทางการแพทย์มีทฤษฎีที่เสนอว่า บางคนอาจมีสภาวะผิวแห้งเทียมหรือผิวขาดน้ำเกิดขึ้น และสภาวะนี้จะกระตุ้นให้ผิวหนังสร้างไขมันมากขึ้นและทำให้เกิดสิวขึ้นมาได้
หากสิวหายแล้ว: ดื่มน้ำให้มาก ๆ และควรเลือกครีมรักษารอยสิวที่มีสารช่วยบำรุงและกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว
ผิวมัน
เป็นผิวที่เกิดจากการที่ต่อมไขมันสร้างน้ำมันออกมาจากรูขุมขนมากเกินไป หากเลือกครีมไม่ดีอาจทำให้รูขุมขนอุดตันและเป็นสิวอักเสบขึ้นมาได้
หากสิวหายแล้ว: ควรเลือกครีมเนื้อบางเบาซึมง่าย และไม่มีน้ำมันผสม
ผิวผสม
เป็นผิวที่มีการผสมผสานกันระหว่างประเภทของผิวมากกว่า 1 ประเภท ซึ่งแต่ละโซนบนใบหน้าอาจมีประเภทผิวไม่เหมือนกัน เช่น ผิวบริเวณ T-Zone อาจจะเป็นผิวแห้ง และผิวแก้มอาจจะเป็นผิวมัน เป็นต้น
หากสิวหาย: ควรใช้ครีมที่เหมาะกับทั้งคนผิวแห้งและคนผิวมัน และหมั่นสังเกตว่าผิวบนใบหน้าส่วนไหนต้องใช้ครีมตัวไหนเป็นพิเศษ
ผิวแพ้ง่าย
เป็นผิวที่ไวต่อสารเคมีและสภาพอากาศ มักเกิดการอักเสบบนผิวได้ค่อนข้างง่าย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้ครีมที่ผ่านกระบวนการแต่งสีและกลิ่นหรือมีกรดเป็นส่วนประกอบ เพราะอาจทำให้ผิวบางลงและไวต่อสารเคมีมากยิ่งขึ้น
หากสิวหายแล้ว: ควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อผิว

   สุดท้ายนี้ การเลือกครีมรักษารอยดำจากสิวที่เหมาะกับผิวเป็นหนึ่งวิธีที่ช่วยลบเลือนรอยไม่พึงประสงค์บนใบหน้าได้ก็จริง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในเรื่องของการดูแลสิวก็ยังคงหนีไม่พ้นการรักษาความสะอาดหน้าอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากเราล้างหน้าอย่างสะอาดหมดจดและไม่เอามือไปแกะหรือเกาสิวที่เกิดขึ้นแล้วล่ะก็ รับรองได้ว่าสิวหายแถมไม่ทิ้งรอยให้กวนใจอีกด้วย