ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - แบม

หน้า: [1] 2
1


ปัจจุบันนี้เมื่อเทคโนโลยีพัฒนา อะไรๆ ก็ถูกปรับเปลี่ยนให้ง่ายขึ้น เรื่องการจดทะเบียนบริษัทก็เช่นเดียวกัน เพราะเราสามารถ จดบริษัทออนไลน์  ผ่านระบบ DBD Biz Regist ได้ด้วยตัวเอง สำหรับใครที่ต้องการศึกษาหาข้อมูลก่อนจดทะเบียนบริษัท นรินทร์ทอง แนะนำว่าให้อ่านบทความนี้ เราได้รวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการ จดบริษัทออนไลน์ กับ DBD Biz Regist เอาไว้ที่นี่!

ทำความเข้าใจ จดทะเบียนบริษัทออนไลน์ กับ DBD Biz Regist เพิ่มเติมคลิก

จดบริษัทออนไลน์ ราคาเท่าไหร่?


1. คำขอจดทะเบียนบริษัทจำกัด (แบบ บอจ.1)
2. หนังสือบริคณห์สนธิ (แบบ บอจ.2)  ชำระค่าอากรแสตมป์ 200 บาท
3. แบบวัตถุที่ประสงค์ (แบบ ว.)
4. ใบแจ้งผลการจองชื่อนิติบุคคลที่ยังไม่หมดอายุ
5. หลักฐานให้ความเห็นชอบในการจัดตั้งบริษัท  เพื่อประกอบธุรกิจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ใช้เฉพาะในการประกอบธุรกิจที่มีกฎหมายพิเศษควบคุม)
6. สำเนาบัตรประจำตัวของผู้เริ่มก่อการทุกคน (โดยดูจากหลักเกณฑ์เรื่องบัตรประจำตัว)
7. สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี)  (โดยดูจากหลักเกณฑ์การลงลายมือชื่อผู้ขอจดทะเบียน)
8. หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
ขั้นตอนการ จดทะเบียนบริษัทออนไลน์ ผ่าน DBD Biz Regist
วิธีสมัครเพื่อเข้าสู่ระบบ DBD Biz Regist ก่อนเริ่ม จดบริษัทออนไลน์

  • จากนั้นจะเห็นข้อมูลส่วนตัวของเราขึ้นมาอัตโนมัติ > กดดำเนินการต่อ
  • กรอกเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ และกรอกที่อยู่ในประเทศไทย
  • เมื่อกรอกเสร็จแล้ว ระบบจะให้ยืนยันการส่งข้อมูลอีกครั้ง หากตรวจสอบแล้วข้อมูลถูกต้อง > กดดำเนินการต่อ
  • ทางระบบจะส่ง PIN Code ให้ทาง E-Mail จากนั้นใส่ PIN Code ที่ได้รับและกดยืนยัน ทางเว็บไซต์จะขึ้นว่า ‘ลงทะเบียนสำเร็จ’
ทำความเข้าใจ ขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัทออนไลน์  เพิ่มเติมคลิก
ขั้นตอนที่ 1 ระบุข้อมูลบริษัท
  • เข้ามาที่หัวข้อ‘จัดตั้งบริษัท’หากต้องการจดบริษัททันทีเลือกหัวข้อ ‘จดหนังสือบริคณห์สนธิพร้อมจัดตั้งบริษัท’


  • รายการข้อมูลที่จำเป็น ต้องเตรียมก่อนจดจัดตั้งนิติบุคคลขึ้นมา ให้กดรับทราบด้านล่าง และกดดำเนินการต่อ
  • ระบุข้อมูลบริษัท ในขั้นตอนนี้ให้เริ่มจากการระบุข้อมูล ‘ชื่อบริษัท’ หากใครต้องการตั้งชื่อเฉพาะ ต้องจองชื่อในกรมธุรกิจารค้าก่อน
  • ตราประทับของบริษัท หากไม่มีให้กด ‘ไม่มี’ และถ้าบริษัทไหนมีให้กด ‘มี’ และแนบรูปแบบตราประทับ
  • ทุนบริษัท  ในปัจจุบันจะหมายถึง ทุนจดทะเบียนต่อหุ้น มูลค่าหุ้นขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 5 บาท
  • ทำการกรอกข้อมูลที่ตั้ง เมื่อกรอกเรียบร้อยแล้วกดดำเนินการต่อ จากนั้นระบบจะส่ง PIN Code ให้ทาง E-Mail เพื่อกดยืนยัน
ขั้นตอนที่ 2 เพิ่มข้อมูลบุคคลในบริษัท
  • ระบุข้อมูลส่วนตัวผู้เริ่มก่อการ (เริ่มจัดตั้งบริษัทต้องมีอย่างน้อย 2 คน) หากกรอกข้อมูลในขั้นตอนแรกครบถ้วน ระบบจะขึ้นข้อมูลส่วนตัวให้อัตโนมัติ แต่ต้องระบุข้อมูลตรง ‘อาชีพ’ เพิ่มเติม
  • กรอกข้อมูลผู้ถือหุ้น หากมีมากกว่าผู้เริ่มก่อการ สามารถเพิ่มรายชื่อผู้ถือหุ้นเพิ่มเติมได้ ในส่วนของขั้นตอนนี้ให้ทำการกรอก ‘จำนวนหุ้น’ (ต้องตรงกับข้อเท็จจริง) และ ‘จำนวนเงินที่ชำระค่าหุ้น’
  • กรอกข้อมูลกรรมการ เป็นได้ทั้งผู้ถือหุ้นและไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้น หากเป็นผู้ถือหุ้นให้เลือก ‘ชื่อกรรมการจากรายชื่อผู้ถือหุ้น’ หากไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้น ให้เลือก ‘ตั้งบุคคลอื่นเป็นกรรมการ’

ขั้นตอนที่ 3 สร้างเอกสาร


  • เลือกวัตถุประสงค์ของธุรกิจ ในส่วนนี้เป็นวัตถุประสงค์เฉพาะ หากใครทำธุรกิจตรงกับหัวข้อไหนในระบบก็กดติ๊กได้เลย แต่ถ้าธุรกิจของเราเป็นธุรกิจทั่วไปให้เลือก ‘ไม่ใช่ธุรกิจพิเศษ’
  • เลือกรหัสธุรกิจ ค้นหารหัสที่มีหมวดหมู่ตรงกับธุรกิจของคุณ จากนั้นทำการกดบันทึก และดำเนินการต่อ
  • สร้างข้อบังคับของบริษัท ถ้ามี ให้เลือก ‘มีข้อบังคับ’ ทางระบบมีให้เลือกทั้งแบบสำเร็จรูป และกำหนดเอง
  • รายละเอียดการประชุม ในส่วนนี้จะต้องใส่ข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วน ตั้งแต่วันที่ประชุมจัดตั้งบริษัท, เวลาเปิด – ปิดการประชุม, สถานที่ประชุม, ข้อมูลประธานที่ประชุม, ค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งบริษัท, ข้อมูลผู้สอบบัญชี
ขั้นตอนที่ 4 ข้อมูลการประกอบธุรกิจ


  • ข้อมูลประกอบธุรกิจ ในหัวข้อแรกจะขึ้นมาว่า รายการอื่นซึ่งเห็นสมควรให้ประชาชนทราบ ให้ตอบว่า ‘ไม่มี’ เพราะโดยทั่วไปแล้วจะไม่มี และถัดมาคือแบบบันทึกคำขอ
ขั้นตอนที่ 5 สรุปข้อมูลทั้งหมด 
ขั้นตอนนี้ทางระบบจะสรุปข้อมูลการจดทะเบียนบริษัทให้ทั้งหมด ซึ่งคุณต้องทำการเช็กให้ดีว่าข้อมูลทั้งหมดถูกต้องไหม หรือสามารถทำการดาวน์โหลด แล้วปริ้นออกมาเป็นเอกสารได้
ศึกษาขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ แบบละเอียด เพิ่มเติมคลิก


อยากได้ที่ปรึกษา จดทะเบียนบริษัทออนไลน์ แบบส่วนตัว แนะนำที่ นรินทร์ทอง

หลังจากที่ได้ศึกษาขั้นตอนการ จดทะเบียนบริษัทออนไลน์ ผ่าน DBD Biz Regist ระบบใหม่ บอกเลยว่ามีความสะดวก รวดเร็ว และใช้งานง่ายมากๆ เพราะในระหว่างที่เราทำการกรอกข้อมูล ระบบจะตรวจสอบข้อมูล และมีการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานภายนอก เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ลดการกรอกข้อมูลที่ซ้ำซ้อน และยังมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการกรอกข้อมูลอีกด้วย แต่สำหรับผู้ประกอบการคนไหนที่ไม่มีความรู้ด้านบัญชีและภาษี ต้องการผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา จัดเตรียมเอกสารให้อย่างครบถ้วน ถูกต้อง คอยดำเนินการให้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนขั้นตอนสุดท้าย สามารถจดได้ใน 1 วัน โดยไม่ต้องเสียเวลามาดำเนินการเอง ขอแนะนำ บริษัทนริทร์ทอง สำนักงาน รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339


2


การ จดบริษัทออนไลน์ สะดวก รวดเร็ว และไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยื่นเอกสารด้วยตนเอง แต่คำถามสำคัญที่หลายคนสงสัยคือ “จดบริษัทออนไลน์ ราคาเท่าไหร่?” และหากเลือกจดกับผู้ให้บริการอย่าง บริษัท นริทร์ทอง จะคุ้มค่าหรือไม่? บทความนี้มีคำตอบ


อยาก จดบริษัทออนไลน์ ราคา เท่าไหร่?  คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

จดบริษัทออนไลน์ ราคาเท่าไหร่?


  • แพ็กเกจมาตรฐาน 4,500 บาท – ครอบคลุมการจองชื่อ เตรียมเอกสาร ตรวจสอบ เอกสาร กรอกแบบฟอร์ม และยื่นผ่านระบบ DBD ออนไลน์
*แพ็กเกจไม่รวมค่าธรรมเนียมกรมพัฒนาธุรกิจการค้า*

อ่านรายละเอียดราคา จดบริษัทออนไลน์ กัน นรินทร์ทอง  คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

บริการ จดบริษัทออนไลน์ แบบครบวงจร โดยมีขั้นตอนดังนี้



1. ให้คำปรึกษาเบื้องต้น
2. จองชื่อบริษัท
3. จัดเตรียมเอกสารจดทะเบียนครบชุด
4. ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร
5. กรอกข้อมูลและยื่นจดทะเบียนผ่านระบบ DBD Biz Regist
6. ติดตามผลการจดทะเบียน
7. ส่งมอบเอกสารบริษัทหลังจดทะเบียนเสร็จสมบูรณ์


อ่านเนื้อหาการ จดบริษัทออนไลน์ กัน นรินทร์ทอง แบบละเอียด    คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

จดบริษัทออนไลน์กับ นรินทร์ทองดีอย่างไร


การเลือกใช้บริการกับบริษัท นริทร์ทอง จะช่วยให้คุณมั่นใจในทุกขั้นตอน ด้วยข้อดีที่เหนือกว่า ได้แก่
  • ประสบการณ์กว่า 10 ปี[/b]  ในการจดทะเบียนและดูแลธุรกิจ ทำให้เราเข้าใจความต้องการและปัญหาของลูกค้าเป็นอย่างดี
  • มี ที่ปรึกษาส่วนตัว[/b] คอยดูแลและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ตอบทุกคำถามและแก้ไขปัญหาได้ทันที
  • บริการ ยื่นแบบออนไลน์ครบถ้วนและรวดเร็ว[/b] โดยไม่มีการทิ้งงานกลางคัน คุณจึงมั่นใจได้ว่าเอกสารจะผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้าอย่างถูกต้อง
  • เราให้บริการ ครบวงจรทั้งด้านบัญชี ภาษี และกฎหมาย[/b] เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่ต้องเสียเวลาหาที่ปรึกษาหลายที่
  • มีผลงานจริงจากเจ้าของธุรกิจ[/b] ที่ไว้วางใจและใช้บริการกับเรามาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อคุณเลือกใช้บริการกับ บริษัทนริทร์ทองนอกจากจะได้รับการจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ในราคาคุ้มค่าและโปร่งใสแล้ว เรายังช่วยดูแลทุกขั้นตอนให้คุณอย่างมืออาชีพ เพื่อให้คุณเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างมั่นใจและพร้อมเติบโตในอนาคตเมื่อคุณเลือกใช้บริการ
สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339


3

รับทำบัญชี เลือกทำที่นรินทร์ทองดีอย่างไร ?
ทำไมต้องเลือกทำบัญชีกับนรินทร์ทอง
1. ให้บริการมามากกว่า 20 ปี
2. ผ่านหลักสูตรจาก DBD
3. ให้บริการด้านบัญชีและภาษีครบวงจร
4. บริการและใส่ใจลูกค้า

สนใจ ทำบัญชี ปิดงบการเงิน ที่นรินทร์ทอง คลิกที่นี่เลย!

Pain Point ปัญหาของคุณ
เพิ่งจดทะเบียนบริษัทไม่รู้จะเริ่มต้นทำบัญชีอย่างไร
หากคุณไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน การวางแผนธุรกิจที่ครอบคลุมไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดทำบัญชีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือการยื่นแบบภาษีต่างๆ
ถูกทิ้งงาน จ่ายเงินแต่งานไม่จบ
ถูกทิ้งงานหลังจากชำระเงินการเลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือและมีความเชี่ยวชาญ จึงเป็นเรื่องสำคัญเพื่อป้องกันการถูกละทิ้งงานหรือการทำงานที่ไม่สมบูรณ์ ที่ Narinthong เราให้บริการอย่างมืออาชีพ มีความโปร่งใสในทุกขั้นตอน

ศึกษา Pain Point ปัญหาหลักๆ ที่ต้องเจอ ระหว่างจดทะเบียนแบบละเอียด คลิกที่นี่


ขั้นตอนการทำบัญชี รับทำบัญชี
- ตรวจสอบความถูกต้อง
- ส่งงบให้ผู้สอบบัญชี
- นำส่งงบการเงิน
ขอบเขตการ รับทำบัญชี ที่เราให้บริการ
เรามีบริการทำบัญชีครบวงจรที่ครอบคลุมทุกด้าน ของการจัดการบัญชีสำหรับธุรกิจของคุณ
- ทางสำนักงานบัญชีให้คำปรึกษาแนะนำ การออกเอกสารที่เกี่ยวข้องกับบัญชีอย่างเป็นระบบ เช่น การออกแบบ ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับ ใบเสร็จ รับ เงิน ใบสำคัญรับ-จ่าย เพื่อให้ได้มาตรฐาน
- รับเอกสารจากทางลูกค้า โดยลูกค้าสามารถทำจัดการจัดส่งผ่านไปรษณีย์ หรือส่งทางขนส่งมาตรฐานให้กับทางสำนักงานบัญชีนรินทร์ทอง หากประสงค์ส่งในรูปแบบออนไลน์สามารถแสกนผ่านข้อมูลผ่านทาง Google Drive หรือ โปรแกรมบัญชีที่รองรับ
- โดยทางสำนักงานจะตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร ก่อนการเริ่มทำการบันทึกบัญชี
- เรามีบริการทำบัญชีครบวงจรที่ครอบคลุมทุกด้าน ของการจัดการบัญชีสำหรับธุรกิจของคุณ
- จัดทำภาษีเงินเดือน ภงด 1 และ ภาษีหัก ณ ที่ จ่าย ภงด.3 ภงด.53
- จัดทำแบบประกันสังคม และ ยื่นแบบทางอินเตอร์เน็ต
- จัดทำภาษีมูลค่าเพิ่ม และ ยื่น ภพ 30 กับสรรพากร
- จัดทำรายงานภาษีซื้อ-ภาษีขาย ประจำเดือน
- ทำการปิดบัญชี ส่งงบการเงินประจำปีเรามีบริการทำบัญชีครบวงจรที่ครอบคลุมทุกด้าน ของการจัดการบัญชีสำหรับธุรกิจของคุณ
จัดทำรายละเอียด ประกอบงบการเงิน
- รายละเอียดทรัพย์สิน
- รายละเอียดเจ้าหนี้ ลูกหนี้
- รายงานสินค้าคงเหลือ (ในกรณีที่ลูกค้าต้องการรายงานสินค้าคงเหลือ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
ยื่นเอกสารกรมพัฒนาธุรกิจการค้า(DBD)
- ยื่นงบการเงิน และ สบช.3
- ยื่นบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น บอจ.5
ยื่นเอกสารกรมสรรพากร
- ประมาณการและยื่น ภ.ง.ด.51 (ภาษีกลางปี)
- จัดทำและยื่น ภ.ง.ด.50 (ภาษีเงินได้นิติบุคคล)

ราคาค่าบริการ รับทำบัญชี และค่าบริการที่เกี่ยวกับบัญชีเพิ่มเติม
- เอกสารทางบัญชี 1-50 ชุด 3,500 บาท / เดือน
 - เอกสารทางบัญชีชุดที่ 51-100 ชุด 4,500 บาท / เดือน
 - เอกสารทางบัญชีชุดที่ 151-200 ชุด 5,500 บาท / เดือน
 - เอกสารทางบัญชีชุดที่ 201-250 ชุด 6,500 บาท / เดือน


การรับส่งเอกสารกับนรินทร์ทอง
เพื่อความสะดวกและประสิทธิภาพในการให้บริการบริษัทนรินทร์ทองมีระบบการรับส่งเอกสารที่รวดเร็วและปลอดภัยสำหรับลูกค้าทุกท่านโดยเน้นความเป็นส่วนตัวและการจัดการเอกสารทางบัญชีและภาษีอย่างมืออาชีพ รวมถึงมีการรับส่งเอกสารในรูปแบบต่างๆเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้อย่างเหมาะสม

ทำความรู้จักเรา นรินทร์ทอง ก่อนใช้บริการจริง คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่
สอบถามข้อมูล / รับคำปรึกษาฟรี
รับทำบัญชี จดทะเบียนบริษัท ด้วยทีมมากประสบการณ์
- รับยื่นภาษี
- รับทำเงินเดือนพนักงาน
- รับทำบัญชี
- รับจดทะเบียนบริษัท


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

4


การปิดงบเปล่า เป็นเรื่องสำคัญสำหรับธุรกิจ หากคุณต้องการ ปิดงบเปล่า ให้กับธุรกิจ และกำลังมองหาสำนักงานบัญชีที่น่าเชื่อถือ วันนี้เราจะมาะเปรียบเทียบผู้ให้บริการ ปิดงบเปล่าราคา จากผู้ให้บริการแต่ละราย เพื่อให้มั่นใจว่าได้งานคุณภาพในราคาที่เหมาะสม
 

ทำความเข้าใจวิธีการปิดงบเปล่า แบบละเอียด คลิกอ่านที่นี่

ปิดงบเปล่าราคา ของนรินทร์ทอง


ปิดงบเปล่า ราคาเพียง 14,000 บาท
  • ราคานี้รวมค่าสอบบัญชีโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA)
  • รวมบริการยื่นงบการเงินกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากรเรียบร้อย

สนใจบริการ ปิดงบเปล่า ที่นรินทร์ทอง แบบละเอียด
คลิกอ่านที่นี่

ขอบเขตในการให้บริการของนรินทร์ทอง




ตรวจสอบข้อมูลบริษัทและความพร้อมในการปิดงบเปล่า
  • ก่อนเริ่มงาน เราจะทำการตรวจสอบสถานะของบริษัทอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นงบปีก่อน รายการเคลื่อนไหวในบัญชีธนาคาร การยื่นภาษีในรอบปี หรือยอดสินทรัพย์ต่าง ๆ
จัดทำงบการเงินเปล่าโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ
  • เมื่อบริษัทของคุณเข้าเงื่อนไขแล้ว ทีมบัญชีของเราจะเริ่มกระบวนการจัดทำ งบการเงินเปล่า ซึ่งจะจัดทำตามมาตรฐานการบัญชี โดยไม่มีรายการรายได้หรือค่าใช้จ่าย
เซ็นรับรองโดยผู้สอบบัญชีที่ถูกต้องตามกฎหมาย
  • งบการเงินที่จัดทำแล้ว จะถูกส่งให้ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA) ซึ่งมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย เซ็นรับรองความถูกต้องและครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) และกรมสรรพากร

อ่านขอบเขตการ ปิดงบเปล่า ที่นรินทร์ทอง เพิ่มเติมแบบละเอียด
คลิกอ่านที่นี่



สรุปปิด งบเปล่าราคา

สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการ ยื่นงบเปล่า ราคาเบา ๆ กับผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้ นรินทร์ทองขอเป็นผู้ช่วยให้คุณปิดงบอย่างถูกต้องและคุ้มค่า โดยรวม ค่าใช้จ่ายสำหรับการปิดงบเปล่าอยู่ที่เพียง 14000 บาท บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด ตัวช่วยที่สามารถให้คุณได้ประหยัดระยะเวลาของการทำงาน และหมดปัญหากับความยุ่งยากที่ต้องเจอ โดยทางเราจะให้บริการ รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

5

อยากเปิดคลินิกทันตกรรมเป็นของตัวเอง อย่าลืมวางแผนวิธีการจัดทำ บัญชีคลินิกทันตกรรม ให้ดีก่อนเปิดกิจการ ซึ่งวันนี้ นรินทร์ทอง ได้นำวิธีการวางแผนทำบัญชีคลินิกทันตกรรม มาแชร์ให้ทุกคนในบทความนี้!
อยากเปิดคลินิกทันตกรรม หาที่ปรึกษาด้าน บัญชี แนะนำ นรินทร์ทองคลิกอ่านที่นี่

การวางแผนทำ บัญชีคลินิกทันตกรรม


1. กำหนดผังบัญชี (Chart of Accounts) - ด้วยการจัดหมวดหมู่รายรับ-รายจ่ายให้ชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการบันทึกและตรวจสอบ ซึ่งผังบัญชีที่ควรมีสำหรับคลินิกทันตกรรม ได้แก่
  • ต้นทุนสินค้าและบริการ (Cost of Goods Sold - COGS)
  • ค่าใช้จ่าย (Expenses)
  • รายได้ (Revenue)
2.  บันทึกรายรับ-รายจ่าย อย่างสม่ำเสมอ  - คือการบันทึกข้อมูลอย่างครบถ้วนและสม่ำเสมอ เพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
  • บันทึกรายรับ
  • บันทึกรายจ่าย
  • การจัดการสต็อก
3. จัดทำรายงานทางการเงิน  - เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจทางธุรกิจ
  • งบกำไรขาดทุน (Income Statement)
  • งบกระแสเงินสด (Cash Flow Statement)
4. การจัดการภาษี  - คลินิกทันตกรรมต้องมีการจัดการภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
  • ภาษีเงินได้
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
ทำความเข้าใจรายละเอียด การวางแผนทำ บัญชีคลินิกทันตกรรมเพิ่มเติมคลิก

โครงสร้างธุรกิจบัญชีคลินิกทันตกรรม


1. ต้นทุนของบัญชีคลินิกทันตกรรม - คือ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้บริการรักษาแต่ละเคส ซึ่งเป็นต้นทุนที่ผันแปรตามจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับบริการ ตัวอย่างเช่น
  • ค่าวัสดุและอุปกรณ์ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโดยตรง

  • ค่าใช้จ่ายทางห้องปฏิบัติการ (Dental Lab)

  • ค่าคอมมิชชั่นทันตแพทย์
2. ค่าใช้จ่ายบัญชีคลินิกทันตกรรม - คือค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการรักษา แต่จำเป็นต่อการเปิดให้บริการ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
  • ค่าใช้จ่ายคงที่
  • ค่าใช้จ่ายผันแปร


3. รายได้ของบัญชีคลินิกทันตกรรม - มาจากการให้บริการและขายสินค้า ซึ่งควรมีการแยกประเภทรายได้ให้ชัดเจน เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์
  • รายได้ค่ารักษาทางทันตกรรม
  • รายได้จากการขายสินค้า
  • รายได้อื่นๆ

การเก็บเอกสาร
1.  หมวด “ข้อมูลกิจการ” ซึ่งประกอบไปด้วย
  • หนังสือรับรองการจดทะเบียน และเอกสารการจดทะเบียนบริษัท
  • งบการเงินของปีก่อน
  • ภ.ง.ด.50 / ภ.ง.ด.51 ของปีก่อน
  • ภ.พ.01 , ภ.พ.09 , ภ.พ.20
  • สัญญาต่างๆ

2. หมวด “เอกสารขาย” ซึ่งประกอบไปด้วย
  • ใบสำคัญรับเงิน Receipt Voucher
  • สำเนาใบเสร็จรับเงิน
  • สำเนาใบแจ้งหนี้ / ใบส่งของ / ใบกำกับภาษีขาย
  • สำเนาใบลดหนี้ขาย กรณีราคาผิด คืนสินค้า
  • หลักฐานการรับชำระเงิน สำเนาเช็ครับ สลิปการโอน
  • ธุรกิจบริการ สำเนาหนังสือหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
  • อื่นๆ เช่น ใบสั่งซื้อ (ถ้ามี)
3. หมวด “เอกสารซื้อ” ซึ่งประกอบไปด้วย
  • ใบสำคัญจ่าย ต้องมีลายเซ็นผู้รับเงิน
  • ใบแจ้งหนี้ / ใบส่งของ / สำเนาใบกำกับภาษี
  • ต้นฉบับใบเสร็จรับเงิน
  • หลักฐานการจ่ายเงิน สลิปโอนเงิน สำเนาเช็ค
  • หนังสือรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่าย (50ทวิ)
  • สำเนาบัตรประชาชน (กรณีจ้างบุคคล)
  • ใบรับเงินหรือใบแทนใบเสร็จรับเงิน (กรณีผู้ขายไม่ออกใบเสร็จรับเงิน)
  • อื่นๆ เช่น ใบสั่งซื้อ หนังสือจัดจ้าง (ถ้ามี)
4. หมวด “ภาษีขาย” ซึ่งประกอบไปด้วย
  • สำเนาใบกำกับภาษีขาย
  • รายงานภาษีขาย
5. หมวด “ภาษีซื้อ” ซึ่งประกอบด้วย


  • ต้นฉบับใบกำกับภาษีซื้อ

  • รายงานภาษีซื้อ
6. หมวด “ภาษีถูกหัก ณ ที่จ่าย” เมื่อมีผู้เข้ารับบริการในคลินิกโดยใช้สิทธิ์ประกันสังคม ทางคลินิกจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 1% ประกันสังคมจะจ่ายค่าบริการให้แก่คลินิก พร้อมให้ต้นฉบับกับสำเนาหนังสือภาษีหัก ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) ซึ่งประกอบไปด้วย
  • ต้นฉบับเก็บแฟ้มภาษีหัก ณ ที่จ่าย
  • สำเนาชุดใบสำคัญรับชำระหนี้
7. หมวด “งานภาษี (Tax File)” ซึ่งประกอบไปด้วย
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เช่น ภ.ง.ด.1 ภ.ง.ด.3 ภ.ง.ด.53
  • สำหรับคลินิกทันตกรรมที่จดทะเบียน VAT ต้องเก็บ ภ.พ.30
  • รายงานภาษีซื้อและรายงานภาษีขาย ภ.ง.ด.50 และ ภ.ง.ด.51 ของปีปัจจุบัน
  • ประกันสังคมและกองทุนทดแทนต่างๆ
8. หมวด “เงินเดือนและประกันสังคม” ซึ่งประกอบไปด้วย
  • แบบยื่นภาษี ภ.ง.ด.1
  • แบบนำส่งเงินสมทบประกันสังคม (สปส.1-10)
  • ตารางสรุปการจ่ายเงินเดือน


9. หมวด “ทะเบียนสินทรัพย์” สินทรัพย์จะต้องมีอายุการใช้งานเกิน 1 ปี และมีมูลค่าขั้นต่ำ 1,000 บาทขึ้นไป หรือตามนโยบายของคลินิก ซึ่งประกอบไปด้วย
  • เอกสารการซื้อ ใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับภาษี
  • ทะเบียนทรัพย์สิน

อ่านตัวอย่างเคส การบันทึกบัญชีคลินิกทันตกรรมเพิ่มเติมคลิก


จัดทำ บัญชีคลินิกทันตกรรม อย่างมืออาชีพ ป้องกันปัญหาภาษีในอนาคต เลือก นรินทร์ทอง!


อันที่จริงแล้วการจัดทำ บัญชีคลินิกทันตกรรม ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด หากคุณเริ่มต้นจากการวางแผนและบันทึกข้อมูลอย่างเป็นระบบ จะช่วยให้คุณบริหารคลินิกได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพในระยะยาว ขอแนะนำ นรินทร์ทอง เป็นที่ปรึกษาด้านการทำบัญชี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339



6

หากใครที่มีแนวโน้มอยากปิดบริษัท หรือต้องการเลิกทำกิจการ แต่ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นจากขั้นตอนไหน? แล้วการ จดเลิกบริษัท ราคา เท่าไหร่? มาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันได้ในบทความนี้ กับ นรินทร์ทอง
จดเลิกบริษัท ราคา เท่าไหร่? ปรึกษาเราได้ที่ นรินทร์ทองคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

จดเลิกบริษัท ราคา เท่าไหร่?


  • กรณีบริษัทไม่มี VAT - ค่าบริการจดทะเบียนเลิกบริษัทและเสร็จการชำระบัญชี อาจอยู่ที่ประมาณ 25,000 บาท
  • กรณีบริษัทมี VAT - ค่าบริการอาจอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียม - ค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนเลิกบริษัทและเสร็จการชำระบัญชีที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประมาณ 1,260 บาท
  • ค่าโฆษณาหนังสือพิมพ์ - อาจมีค่าใช้จ่ายในการประกาศโฆษณาเลิกบริษัทในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น
  • ค่าบริการอื่นๆ - อาจมีค่าบริการอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าจัดทำบัญชี, ค่าตรวจสอบบัญชี, ค่าที่ปรึกษา, และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

อยาก จดเลิกบริษัท ต้องศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมคลิกอ่านที่นี่
ขั้นตอนการดำเนิน จดเลิกบริษัทราคา


1. การจดทะเบียนเลิกบริษัท - ขั้นตอนแรกเพื่อประกาศเจตนาอย่างเป็นทางการว่าจะเลิกบริษัท
  • มีมติเลิกบริษัท

  • แต่งตั้งผู้ชำระบัญชี

  • ยื่นจดทะเบียนเลิกบริษัท
2. การจดทะเบียนเสร็จชำระบัญชี - ดำเนินการหลังจากบริษัทได้เลิกกิจการและชำระบัญชีเรียบร้อยแล้ว
  • ชำระบัญชี
  • ประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์
  • จัดทำงบการเงินฉบับสุดท้าย

  • ประชุมอนุมัติงบการเงิน
  • ยื่นจดทะเบียนเสร็จชำระบัญชี


จดเลิกบริษัท ราคา เท่าไหร่? ปรึกษาเราได้ที่ นรินทร์ทองคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

เอกสารที่ลูกค้าจะได้รับในการจดเลิกบริษัท
1. หนังสือรับรองการจดทะเบียนเลิกบริษัท (เลิกกิจการ)
2. หนังสือขีดชื่อเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (กรณีที่บริษัทจด Vat)
3. หนังสือรับรองการเสร็จชำระบัญชีบริษัท
ศึกษา ขั้นตอนการดำเนิน จดเลิกบริษัท กับ นรินทร์ทอง แบบละเอียดคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่


อยาก จดเลิกบริษัท ราคา สุดคุ้ม ไม่มีบวกเพิ่ม ให้ นรินทร์ทอง ช่วยวางแผน


จะเห็นว่า "การจดเลิกบริษัท" เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีหลายขั้นตอน ดังนั้นการเลือกใช้บริการจากสำนักงานบัญชีที่มีความเชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น ถูกต้อง และรวดเร็ว สำหรับใครที่กำลังมองหาที่จดเลิกบริษัท ราคา สุดคุ้ม ไม่มีบวกเพิ่ม เราขอแนะนำ นรินทร์ทอง สำนักงานบัญชีที่เข้าใจธุรกิจทุกรูปแบบ และพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

7
นรินทร์ทอง จะพาทุกท่านไปเรียนรู้ การวางแผนทําบัญชีร้านขายเสื้อผ้า พร้อมเรียนรู้แนวทางโครงสร้างของธุรกิจ การเก็บเอกสาร และตัวอย่างการบันทึกบัญชีในแต่ละเคสที่น่าสนใจ สำหรับใครต้องการแนวทางเหล่านี้ต้องห้ามพลาด!
เปิดร้านขายเสื้อผ้า ยังไงให้ราบรื่น ให้ นรินทร์ทอง ช่วยแนะนำอ่านเพิ่มเติมคลิก

การวางแผน ทำบัญชีขายเสื้อผ้า


1. ทำความเข้าใจประเภทของบัญชี - คุณต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจบัญชีพื้นฐาน 3 ประเภท
  • รายได้ (Revenue)
  • ต้นทุนสินค้าที่ขาย (Cost of Goods Sold - COGS)
  • ค่าใช้จ่าย (Expenses)

2. เลือกระบบการทำบัญชี
  • บัญชีมือ (Manual Accounting)
  • โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป (Accounting Software)

  • จ้างนักบัญชี (Accountant)


3. บันทึกบัญชีรายรับ-รายจ่าย
  • บัญชีรายรับ
  • บัญชีรายจ่าย
4. การจัดการต้นทุนสินค้าคงคลัง (Inventory Management)
  • บันทึกการซื้อสินค้า

  • บันทึกการขายสินค้า

  • ตรวจสอบสต็อก

5. การจัดทำรายงานทางการเงิน - การบันทึกบัญชีอย่างเดียวไม่เพียงพอ คุณต้องนำข้อมูลมาสรุปเป็นรายงานเพื่อดูผลประกอบการ
  • งบกำไรขาดทุน (Income Statement)
  • งบดุล (Balance Sheet)

  • งบกระแสเงินสด (Cash Flow Statement)


6. การจัดการภาษี
  • ภาษีเงินได้

  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

  • ภาษีอื่นๆ
เรียนรู้การวางแผนทำบัญชีร้านเสื้อผ้า แบบละเอียดอ่านเพิ่มเติมคลิก

โครงสร้างธุรกิจเสื้อผ้า

- ต้นทุน (Cost) 
  • คือค่าใช้จ่ายจากต้นทุนจริง ที่เกิดขึ้นระหว่างการผลิตสินค้าหรือบริการ เช่น แรงงาน, วัสดุ, ค่าการตลาดและโฆษณา เป็นต้น
- รายได้ (Revenue)
  • รายได้จากการขายปลีก - การขายเสื้อผ้าให้กับลูกค้าโดยตรงผ่านหน้าร้าน, ร้านค้าออนไลน์ หรือแพลตฟอร์มต่างๆ
  • รายได้จากการขายส่ง - ขายเสื้อผ้าให้กับร้านค้าอื่นๆ หรือตัวแทนจำหน่ายในปริมาณมาก
  • รายได้จากการรับจ้างผลิต - รับจ้างผลิตเสื้อผ้าให้กับแบรนด์อื่นๆ หรือลูกค้าที่สั่งผลิตในปริมาณมาก
- ค่าใช้จ่าย (Expenses)
คือค่าใช้จ่ายทั่วไปที่ทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ ได้แก่
  • ค่าสาธารณูปโภค - ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าอินเทอร์เน็ต
  • ค่าเช่า - ค่าเช่าพื้นที่สำหรับหน้าร้าน, โกดัง, หรือสำนักงาน
  • ค่าขนส่ง - ค่าจัดส่งสินค้า, ค่าขนส่งวัตถุดิบ
  • ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม - ค่าธรรมเนียมในการขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม E-Commerce
  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ - ค่าบัญชี, ค่าที่ปรึกษา, ค่าซ่อมแซมอุปกรณ์

การเก็บเอกสาร
1. เอกสารการซื้อขาย
2. เอกสารการผลิต
3. เอกสารการเงิน
4. เอกสารทางการตลาด
5. เอกสารอื่นๆ
ซึ่งวิธีการจัดเก็บเอกสารสำหรับธุรกิจเสื้อผ้า สามารถทำได้ดังนี้
1. แบ่งแยกประเภทเอกสาร - แบ่งเอกสารตามประเภท เช่น เอกสารการเงิน, เอกสารการขาย, เอกสารการผลิต และเอกสารการตลาด เป็นต้น
2.จัดเก็บให้เป็นระบบ - คุณสามารถใช้ตัวช่วยอย่าง แฟ้มเอกสาร, ตู้เก็บเอกสาร หรือระบบจัดเก็บดิจิทัล (Cloud storage) เพื่อจัดเก็บเอกสารให้เป็นระเบียบ
3. ระบุหมวดหมู่ให้ชัดเจน - ติดป้ายชื่อหรือใช้ระบบการจัดหมวดหมู่ที่ชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาเอกสาร
4. จัดทำสำเนา - จัดเก็บเอกสารต้นฉบับและสำเนาไว้ในที่ที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสียหายหรือการสูญหาย
5. รักษาความปลอดภัย - จัดเก็บเอกสารไว้ในสถานที่ที่ปลอดภัยและจำกัดการเข้าถึง เพื่อป้องกันการถูกขโมยหรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
6. ทำลายเอกสารที่หมดอายุ - ทำลายเอกสารที่ไม่จำเป็นหรือหมดอายุตามที่กฎหมายกำหนด โดยใช้เครื่องทำลายเอกสารเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล
7. จัดเก็บเอกสารดิจิทัล - สแกนเอกสารเป็นไฟล์ดิจิทัลและจัดเก็บในระบบคลาวด์ หรือฮาร์ดไดรฟ์สำรอง เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงและป้องกันความเสียหาย

ตัวอย่างการบันทึกบัญชี ในแต่ละเคสที่น่าสนใจ
เคสที่ 1: ร้านเสื้อผ้าออนไลน์ขนาดเล็ก (ทำบัญชีแบบง่ายใน Excel)
ลักษณะธุรกิจ: ซื้อเสื้อผ้าจากตลาดขายส่ง มาขายต่อผ่าน Instagram,  Shopee หรือแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ ไม่มีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
การบันทึกบัญชี: ใช้ตาราง Excel ในการบันทึกข้อมูลหลัก 3 ส่วน ได้แก่ รายได้, ต้นทุนสินค้า, และค่าใช้จ่าย
ตัวอย่างการบันทึก: อันดับแรกต้องกำหนดคอลัมพ์ Excel ให้ละเอียดเลยว่า แต่ละคอลัมพ์มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง โดยเริ่มต้นกำหนดคอลัมพ์แรกให้เป็น วัน เดือน / ปี >> รายละเอียดค่าใช้จ่าย >> ช่องทางขาย >> จำนวนเงิน (รายได้) >> จำนวนเงิน (ต้นทุน) >> จำนวนเงิน (ค่าใช้จ่าย) >> หมายเหตุ

เคสที่ 2: ร้านเสื้อผ้าที่มีหน้าร้าน (ใช้โปรแกรม POS และโปรแกรมบัญชี)
ลักษณะธุรกิจ: มีหน้าร้านและขายผ่านช่องทางออนไลน์ มีการจดทะเบียนบริษัท มีการจ้างพนักงาน
การบันทึกบัญชี: สามารถทำได้ 2 ช่องทาง คือ
1. ณ จุดขาย (Point of Sale - POS) - ใช้ระบบ POS ในการบันทึกยอดขายทันทีที่ลูกค้าชำระเงิน ระบบจะบันทึกข้อมูลต่างๆ เช่น วันที่ขาย, จำนวนเงิน, วิธีชำระเงิน, และตัดสต็อกสินค้าอัตโนมัติ
2. โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป - นำข้อมูลยอดขายจากระบบ POS มาบันทึกในโปรแกรมบัญชี เช่น FlowAccount หรือ PEAK ซึ่งโปรแกรมจะช่วยจัดการ
  • บันทึกรายจ่าย - บันทึกค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเช่า, เงินเดือนพนักงาน, ค่าไฟ, ค่าการตลาด
  • การจัดการสต็อก - โปรแกรมจะเชื่อมโยงกับระบบ POS เพื่อควบคุมสต็อกได้อย่างแม่นยำ
  • ภาษี - โปรแกรมจะคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้
  • การจัดทำรายงาน - โปรแกรมจะสร้างงบกำไรขาดทุนและงบดุลให้อัตโนมัติ
ตัวอย่างการบันทึก:
  • บันทึกยอดขาย  - โปรแกรมดึงข้อมูลจากระบบ POS เช่น ยอดขายวันที่ 15 ส.ค. จำนวน 15,000 บาท
  • บันทึกค่าใช้จ่าย  - บันทึกค่าเช่าร้าน 30,000 บาท
  • บันทึกต้นทุนสินค้า  - บันทึกการซื้อเสื้อผ้าล็อตใหม่ 100 ตัว เป็นเงิน 50,000 บาท
สนใจวางแผนทำบัญชีร้านเสื้อผ้า กับผู้เชี่ยวชาญอย่าง นรินทร์ทองอ่านเพิ่มเติมคลิก

เริ่มต้นทำธุรกิจขายเสื้อผ้า ให้ นรินทร์ทอง เป็นที่ปรึกษาด้าน ทำบัญชีขายเสื้อผ้า พร้อมต่อยอดธุรกิจ

การเลือก ทำบัญชีขายเสื้อผ้า โดยสำนักงานบัญชีที่มีความเชี่ยวชาญ ถือว่าเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์อย่างมาก หากคุณสนใจขอแนะนำ นรินทร์ทอง เป็นที่ปรึกษาด้านการทำบัญชี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339



8
สิ่งแรกที่นักธุรกิจพิจารณา คือ การวางแผนแนวคิด รวมไปถึงความเข้าใจด้าน บัญชี และ ภาษี เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ถ้าคุณอยากเปิดร้านนวดแผนไทย นรินทร์ทอง จะชวนทุกคนมาทำความเข้าใจเรื่องการทำ บัญชี ร้าน นวด ที่ต้องรู้ก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจ
อยากเปิดร้านนวดแผนไทย ต้องเริ่มยังไงนรินทร์ทอง ยินดีให้คำปรึกษา

การวางแผนทำ บัญชี ร้าน นวด


1. การทำบัญชีด้วยตนเอง (Manual Accounting / Spreadsheet)
  • วิธีการ คือ ใช้สมุดบัญชีสำเร็จรูป หรือสมุดบัญชีแยกประเภททั่วไป (เช่น สมุดรายวันรับ, สมุดรายวันจ่าย) เพื่อบันทึกรายการ เหมาะสำหรับร้านนวดขนาดเล็กที่มีรายการไม่มากนัก เจ้าของกิจการมีความรู้พื้นฐานด้านบัญชี หรือต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย

2. การใช้โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป (Accounting Software)
  • วิธีการ คือ ใช้โปรแกรมบัญชีที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจโดยเฉพาะ ซึ่งมีทั้งแบบติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ และแบบออนไลน์ เหมาะสำหรับร้านนวดขนาดกลางถึงใหญ่ หรือร้านที่ต้องการความถูกต้องแม่นยำ ประหยัดเวลา

3. การจ้างนักบัญชี/สำนักงานบัญชี (Outsourcing to Accountant/Accounting Firm)
  • วิธีการ คือ มอบหมายงานบัญชีทั้งหมดหรือบางส่วนให้นักบัญชีอิสระ หรือสำนักงานบัญชีเป็นผู้ดูแล เหมาะสำหรับร้านนวดทุกขนาดที่ต้องการความถูกต้องแม่นยำสูงสุด, ประหยัดเวลาของเจ้าของกิจการ, และต้องการคำแนะนำด้านภาษี

ศึกษา การวางแผนทำ บัญชี ร้าน นวด แบบละเอียดคลิกอ่านเต็มๆ ที่นี่

โครงสร้างธุรกิจร้าน นวด


1. ต้นทุนของธุรกิจขายร้านนวด
  • สำหรับธุรกิจบริการอย่างร้านนวด อาจเรียกได้ว่าเป็น ต้นทุนการให้บริการ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้บริการลูกค้าแต่ละครั้ง ซึ่งต้นทุนส่วนใหญ่จะอยู่ที่ การจ้างแรงงานเป็นหลัก (ต้นทุนค่าจ้าง-หมอนวด) และมีค่าวัสดุอุปกรณ์

2. รายได้ของธุรกิจขาย ร้าน นวด
  • รายได้หลักของธุรกิจนวดแผนไทย มาจากค่าบริการต่างๆ และอาจมีรายได้เสริมจากการขายสินค้าที่เกี่ยวข้อง เช่น รายได้จากการนวดไทยแบบดั้งเดิม (อาจแยกเป็น 1 ชม., 1.5 ชม., 2 ชม.),  รายได้จากการนวดที่ใช้น้ำมันหอมระเหย, รายได้จากการนวดบริเวณเท้า หรือ รายได้จากการขายแพ็กเกจระยะยาว
3. ค่าใช้จ่ายธุรกิจร้านนวด
  • ค่าใช้จ่ายร้านนวดแผนไทย โดยทั่วไปใช้เงินลงทุนค่อนข้างน้อย เพราะค่าใช้จ่ายธุรกิจร้านนวดคือ เงินที่ธุรกิจต้องจ่ายออกไปเพื่อดำเนินกิจการ ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้บริการลูกค้าแต่ละราย

การเก็บเอกสาร
1. การจัดเก็บแบบกายภาพ (Hard Copy)
  • แฟ้มเอกสาร: จัดทำแฟ้มแยกตามประเภทเอกสาร (เช่น แฟ้มรายรับ, แฟ้มรายจ่าย, แฟ้มพนักงาน) และแบ่งย่อยตามเดือน/ปี เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา

  • ตู้เก็บเอกสาร: ใช้ตู้ที่มีกุญแจล็อคเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะเอกสารสำคัญ
  • การเรียงลำดับ: จัดเรียงเอกสารตามวันที่ หรือตามลำดับเลขที่เอกสาร
2. การจัดเก็บแบบดิจิทัล (Soft Copy)
  • สแกนเอกสาร: สแกนเอกสารสำคัญให้เป็นไฟล์ดิจิทัล (PDF) เพื่อสำรองข้อมูลและลดการใช้พื้นที่จัดเก็บในคอมพิวเตอร์/External Hard Drive: สร้างโฟลเดอร์แยกตามประเภทเอกสารและปี
  • Cloud Storage: ใช้บริการ Cloud Storage (เช่น Google Drive, Dropbox, OneDrive) เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงจากทุกที่ และเป็นระบบสำรองข้อมูลอัตโนมัติ
  • โปรแกรมบัญชี/บริหารจัดการร้าน: โปรแกรมเหล่านี้มักมีฟังก์ชันการจัดเก็บเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ หรือเชื่อมโยงกับเอกสารที่เกี่ยวข้อง

ตัวอย่างที่น่าสนใจพร้อมวิธีการบันทึก
การบันทึกรายได้รายครั้ง – รับเงินสด
คือ การให้บริการนวดเป็นรายครั้ง และลูกค้าจ่ายเงินทันทีหลังใช้บริการ เราจึงสามารถบันทึกรายได้ได้ทันที
ยกตัวอย่างเช่น: ลูกค้ามาใช้บริการร้านนวด 1 ชั่วโมง ค่าบริการ 1,000 บาท ชำระด้วยเงินสดหลังใช้บริการ
การบันทึกรายได้รายครั้ง – รับบัตรเครดิต
การรับชำระบัตรเครดิต เป็นอีกทางเลือกในการรับเงิน ถ้าร้านค้ารับชำระด้วยบัตรเครดิต ธนาคารจะคิดค่าธรรมเนียมจากร้านค้าต่อรายการ เช่น ร้อยละ 1% จากจำนวนเงินที่จ่ายต่อครั้ง เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะเกิดรายได้แล้ว ในขณะเดียวกันก็เกิดค่าใช้จ่ายที่เรียกว่า ค่าธรรมเนียมธนาคารด้วยเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น: ลูกค้ามาใช้บริการร้านนวด 1 ชั่วโมง ค่าบริการ 1,000 บาท ชำระด้วยบัตรเครดิตหลังใช้บริการ โดยธนาคารจะหักค่าธรรมเนียม 1% ก่อนโอนเงินให้ร้านค้า
สนใจวางแผนทำ บัญชี ร้าน นวด กับเรานรินทร์ทองคลิกอ่านเต็มๆ ที่นี่

เรียนรู้แนวทางการเสียภาษี และจัดทำ บัญชี ร้าน นวด ปรึกษาเราได้ที่ นรินทร์ทอง

สำหรับใครที่สนใจเปิดธุรกิจร้านนวดแผนไทย คุณสามารถหา สำนักงานบัญชีมืออาชีพ เพื่อคลายความกังวลด้านบัญชีและภาษีให้กับร้านของคุณ เราขอแนะนำนรินทร์ทองสำนักงานบัญชีที่เข้าใจธุรกิจทุกรูปแบบ และพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339



9


เปิดร้านนวดในรูปแบบนิติบุคคล ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง?

การทำธุรกิจร้านนวดแผนไทยในรูปแบบ นิติบุคคล (บริษัท) ไม่ใช่แค่มีบริการดี ทำเลสวย หรือพนักงานมืออาชีพเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องรู้คือ ภาษี เพราะหากละเลยอาจถูกปรับ เสียเงินเพิ่ม หรือมีปัญหากับกฎหมายได้

1. ภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี (ภ.ง.ด.51)


- ต้องยื่นทุกเดือนสิงหาคม 
- คำนวณจาก 50% ของกำไรสุทธิในครึ่งปีแรก 
- แม้ไม่มีภาษีต้องจ่าย ก็ยังต้องยื่นแบบเพื่อป้องกันค่าปรับ 

2. ภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นปี (ภ.ง.ด.50)


- ยื่นปีละครั้ง ภายใน 150 วันนับจากวันสิ้นรอบบัญชี 
- อัตราภาษีเป็นขั้นบันได (ยกเว้น/15%/20%) 
- การทำบัญชีให้ถูกต้องตั้งแต่ต้น ช่วยลดความเสี่ยงถูกประเมินย้อนหลัง 

3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)


- รายได้เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ต้องจด VAT 
- เรียกเก็บจากลูกค้า 7% และยื่นแบบ ภ.พ.30 ทุกเดือน 
- สามารถนำ VAT ที่จ่ายในการซื้อของ/อุปกรณ์ มาหักกับ VAT ที่เก็บได้ 

4. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย


- กรณีจ้างครูฝึกอบรม ฟรีแลนซ์ หรือจ่ายเงินเดือน 
- ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายและส่งสรรพากรภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป 
- ยื่นแบบ ภ.ง.ด.1, 3 หรือ 53 ตามประเภทผู้รับเงิน 

5. ภาษีป้าย


- หากมีป้ายชื่อร้าน โลโก้ หรือป้ายโปรโมชั่นหน้าร้าน ต้องยื่นแบบ ภ.ป.1 
- ยื่นต่อเขตหรือเทศบาลภายในเดือนมีนาคมของทุกปี 
- อัตราภาษีขึ้นกับขนาดป้าย การใช้ไฟ และข้อความที่แสดง 

การรู้เรื่องภาษีตั้งแต่ต้น จะช่วยให้ธุรกิจร้านนวด ดำเนินไปอย่างราบรื่น ถูกต้องตามกฎหมาย และลดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น 
???? อ่านรายละเอียดและตัวอย่างการคำนวณภาษีเพิ่มเติมได้ที่ 
เปิดร้านนวดต้องเสียภาษีอะไรบ้าง 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่… 
Facebook : NarinthongOfficial 
E-mail : narinthong.ac@gmail.com 
Line : @Narinthong 
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339



10


ยูทูปเบอร์ ต้องเสียภาษีอย่างไร?

การเป็นยูทูปเบอร์หรืออินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ทำให้มีรายได้จากโฆษณา สปอนเซอร์ หรือยอดวิว แต่หลายคนยังสงสัยว่าต้องเสียภาษีอย่างไร ต้องยื่นแบบไหน และถ้าไม่ยื่นจะเกิดปัญหาอะไร? อ่านต่อได้ที่ คลิกที่นี่ 



ยูทูปเบอร์ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง?

1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90, 94) 
สำหรับยูทูปเบอร์ที่ยังไม่จดทะเบียนเป็นบริษัท ต้องยื่นภาษีปีละ 2 ครั้ง: 
- กลางปี (ภ.ง.ด.94): รายได้ ม.ค.–มิ.ย. ยื่นภายใน ก.ย. 
- ปลายปี (ภ.ง.ด.90): รายได้ ม.ค.–ธ.ค. ยื่นภายใน มี.ค. ปีถัดไป 

**วิธีคำนวณ** 
1. รวมรายได้ทั้งหมด: AdSense, สปอนเซอร์, การขายสินค้าผ่านช่อง, สตรีมเกม 
2. หักค่าใช้จ่าย: 
   - แบบเหมา 60% 
   - แบบตามจริง (ค่ากล้อง, ค่าอินเทอร์เน็ต, ค่าเดินทาง, ทีมงาน) 
3. หักค่าลดหย่อน: ส่วนตัว 60,000 บาท, ประกันชีวิต/สุขภาพ, คู่สมรส/บุตร, ประกันสังคม 
4. คำนวณภาษีตามอัตราก้าวหน้า: 0–35% 

**ตัวอย่าง** 
- รายได้รวมปีละ 1,200,000 บาท 
- หักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 60% = 720,000 บาท 
- เงินได้สุทธิหลังหักลดหย่อน = 420,000 บาท 
- ภาษีที่ต้องจ่าย = 19,500 บาท 



2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 
รายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องจด VAT (ภ.พ.20) เรียกเก็บจากลูกค้า 7% และยื่นแบบ ภ.พ.30 ทุกเดือน 



3. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 
กรณีรับงานจากบริษัท เช่น รีวิวสินค้า, ทำคลิปโฆษณา, ออกงานอีเวนต์ บริษัทหักภาษี ณ ที่จ่ายก่อนจ่ายจริง: 
- ผลิตคลิป/รีวิวสินค้า → 3% 
- อีเวนต์/พูดในงาน → 5% 
- งานอื่น (ตัดต่อ, ถ่ายทำ) → 3–5% 

ผู้รับค่าจ้างยังต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา พร้อมใช้เครดิตภาษีจากที่ถูกหักไว้ 

สรุป 
ยูทูปเบอร์และอินฟลูเอนเซอร์ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เหมือนอาชีพทั่วไป สามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 60% หรือแบบตามจริง และหากรายได้ต่อเนื่องสูง ควรจัดทำบัญชีอย่างเป็นระบบเพื่อยื่นภาษีอย่างถูกต้อง อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ()



11

"การยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย" สำหรับเจ้าของธุรกิจนั้น มีหลายขั้นตอน วันนี้ นรินทร์ทอง จึงอยากมาให้ความรู้เกี่ยวกับ การ ยื่น ภาษี หัก ณ ที่ จ่าย สำหรับธุรกิจว่า ควรเสียยังไง? แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้องมีอะไรบ้าง? เพื่อเป็นคู่มือให้กับผู้ประกอบการมือใหม่
อยากยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่ายด้วยตัวเอง อ่านคู่มือการยื่นเพิ่มเติมคลิกที่นี่

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย คืออะไร?


คำว่า "ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax)" คือ ระบบการจัดเก็บภาษีล่วงหน้าประเภทหนึ่งที่กรมสรรพากรกำหนดขึ้น โดยผู้จ่ายเงินได้บางประเภทมีหน้าที่ต้อง หักเงินจำนวนหนึ่งไว้จากเงินที่จ่ายให้แก่ผู้รับ แล้วนำเงินที่หักไว้นั้นไป นำส่งให้แก่กรมสรรพากร แทนผู้รับเงินได้

แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับ การยื่นภาษี หัก ณ ที่ จ่าย


1. หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (มาตรา 50 ทวิ หรือ 50 ทวิ/ป.ม.ร.)
  • เป็นเอกสารที่มีรายละเอียดของ ผู้จ่ายเงิน ผู้รับเงิน ประเภทเงินได้ที่จ่าย ยอดเงินได้ที่จ่าย และยอดภาษีที่หักไว้ โดยผู้จ่ายเงิน มีหน้าที่ต้องออกให้แก่ผู้รับเงินทุกครั้งที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า มีการหักภาษีไปแล้วเท่าไหร่

2. แบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (รายเดือน/รายงวด)
  • เป็นแบบฟอร์มที่ผู้หักภาษีต้องนำส่งกรมสรรพากร ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป (หรือวันที่ 15 หากยื่นออนไลน์) ของเดือนที่มีการจ่ายเงินได้
3. แบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (สรุปประจำปี)
  • เป็นแบบฟอร์มที่เจ้าของธุรกิจมีหน้าที่นำส่งกรมสรรพากร ภายในเดือนกุมภาพันธ์ของปีถัดไป (สำหรับเงินได้ที่เกิดขึ้นในปีภาษีที่ผ่านมา) เพื่อสรุปยอดรวมทั้งปี

เรียนรู้วิธีการยื่นแบบฟอร์มภาษีหัก ณ ที่จ่ายแบบละเอียดคลิกที่นี่


ขั้นตอนการ ยื่น ภาษี หัก ณ ที่ จ่าย


1. ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ
1.1) ในกรณีที่ยังไม่เคยลงทะเบียน
  • ให้ไปที่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th
  • เลือกเมนู "e-Filing" หรือ "ยื่นแบบออนไลน์"
  • คลิก "ลงทะเบียน" และกรอกข้อมูลตามที่ระบบกำหนด
  • เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี และ รหัสผ่าน ที่ตั้งไว้เพื่อเข้าสู่ระบบ

1.2) ในกรณีที่เคยลงทะเบียนแล้ว
  • ไปที่เว็บไซต์กรมสรรพากร จากนั้นเลือกเมนู e-Filing และ Log-in เข้าสู่ระบบ


2. เลือกแบบฟอร์มที่ต้องการยื่น
  • ในขั้นตอนนี้คุณต้องเลือกแบบฟอร์มภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินของคุณ
  • เลือกงวดภาษี โดยทำการระบุ ปีภาษี และ เดือนที่เกิดรายการ (เดือนที่คุณจ่ายเงินและหักภาษีไว้)


3. กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มออนไลน์ - ในขั้นตอนนี้คือ การป้อนข้อมูลรายละเอียดการหักภาษี ณ ที่จ่าย
  • เลือกประเภทการยื่น - มีทั้งยื่นปกติ สำหรับการยื่นครั้งแรกในงวดนั้นๆ และ ยื่นเพิ่มเติม สำหรับกรณีที่เคยยื่นไปแล้วแต่ต้องการแก้ไขข้อมูลหรือเพิ่มรายการ
  • กรอกข้อมูลผู้หักภาษี - ข้อมูลส่วนใหญ่จะถูกดึงมาจากข้อมูลการลงทะเบียนของคุณอยู่แล้ว ให้ตรวจสอบความถูกต้องให้เรียบร้อย
  • กรอกรายละเอียดผู้ถูกหักภาษี
  • หากมีการจ่ายเงินให้ผู้รับหลายราย ให้คลิก "เพิ่มรายการ" หรือ "Add Item" เพื่อกรอกข้อมูลของผู้รับเงินแต่ละราย
  • เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว ให้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทั้งหมด โดยเฉพาะยอดเงินได้และยอดภาษีที่หักไว้


4. ยืนยันการยื่นแบบและเลือกช่องทางการชำระภาษี
  • คลิกปุ่ม "ยืนยันการยื่นแบบ" หรือ "Submit" ระบบจะแสดงข้อมูลสรุปให้คุณตรวจสอบอีกครั้ง จากนั้นเลือกช่องทางการชำระภาษี เช่น Internet Banking/Mobile Banking, QR Code หรือบัตรเครดิต (มีค่าธรรมเนียม)



5. ชำระภาษี - นำข้อมูลจากใบแจ้งการชำระเงิน ไปดำเนินการชำระเงินตามช่องทางที่คุณเลือก (เช่น เข้าสู่ระบบ Internet Banking ของธนาคารเพื่อทำการโอนเงิน) หลังจากนั้นระบบจะใช้เวลาในการประมวลผล คุณสามารถกลับมาตรวจสอบสถานะ การชำระเงินในระบบ e-Filing ได้

เรียนรู้วิธีการยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย ผ่านออนไลน์คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

ยื่น ภาษี หัก ณ ที่ จ่าย กับ นรินทร์ทอง เราพร้อมให้คำปรึกษา และบริการที่ครอบคลุม

หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การ ยื่น ภาษี หัก ณ ที่ จ่าย จะเห็นว่ามีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเกี่ยวข้องกับกฎหมาย และแน่นอนว่าการยื่นผ่านระบบออนไลน์ในปัจจุบัน เป็นเรื่องง่ายที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ แต่ถ้าคุณประกอบธุรกิจขนาดปานกลาง-ใหญ่ หรือมีรายการหัก ณ ที่จ่ายที่ซับซ้อน/จำนวนมาก การยื่นผ่านระบบออนไลน์ด้วยตนเอง อาจมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย เพราะฉะนั้น การใช้บริการสำนักงานบัญชี จะคุ้มค่ากว่าในระยะยาว เพราะช่วยลดความเสี่ยง ประหยัดเวลา และทำให้คุณมั่นใจในความถูกต้อง
หากคุณกำลังมองหา สำนักงานบัญชีที่เป็นทั้งที่ปรึกษาด้านการวางแผนภาษี และบัญชีโดยรวมของธุรกิจ ขอแนะนำ นรินทร์ทอง สำนักงานบัญชีที่เข้าใจธุรกิจทุกรูปแบบ และพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

12

สำหรับท่านใดที่ต้องยื่น ภ.ง.ด. 90/91 บทความนี้ นรินทร์ทอง จะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ภ งด 90 91 ยื่น ภาษี ออนไลน์ พร้อมทั้งอธิบายความแตกต่าง รวมถึงขั้นตอนการยื่นภาษีเงินได้ทั้ง 2 ประเภทนี้ จะมีรายละเอียดอย่างไร อ่านข้อมูลทั้งหมดได้ที่นี่เลย!
ทำความรู้จัก การยื่น ภ.ง.ด. 90/91 ออนไลน์ กับ นรินทร์ทองคลิกอ่านที่นี่

ภ งด 90 91 คืออะไร

ภ.ง.ด. 90 คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้ที่มีเงินได้กรณีทั่วไป เช่น รายได้จากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หรือรายได้จากกิจการของตัวเอง โดยจะเป็นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้ที่มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) ถึง 40(8) หลายประเภทหรือประเภทเดียว

ส่วน ภ.ง.ด. 91 คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้มีเงินได้จากการจ้างแรงงาน โดย ภ.ง.ด. 91 เป็นแบบแสดงรายการเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับคนที่มีรายได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) ประเภทเดียว ที่ได้จากการจ้างงาน

ระหว่าง ภ งด 90 กับ 91  เลือกยื่นแบบไหนดี ?


1. ผู้ที่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 - ได้แก่ ผู้มีรายได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) ถึง (8) แห่งประมวลรัษฎากรหลายประเภทหรือประเภทเดียว
2. ผู้ที่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.91 - ได้แก่ ผู้มีเงินได้จากการจ้างงาน ตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากรประเภทเดียว ตามเกณฑ์ดังนี้
- ผู้ที่เป็นโสด มีเงินได้พึงประเมินเกิน 120,000 บาท
- ผู้ที่มีคู่สมรส มีเงินได้พึงประเมินไม่ว่าฝ่ายเดียวหรือสองฝ่ายรวมกันเกิน 220,000 บาท

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การยื่น ภ งด 90 กับ 91 แบบละเอียด อ่านที่นี่


ขั้นตอนการทำ ภ งด 90 91 ยื่นภาษีออนไลน์

1. รวบรวมเอกสาร/ข้อมูล
- หนังสือรับรองเงินเดือน/เงินได้ (ใบ 50 ทวิ)
- เอกสารประกอบการลดหย่อนภาษี
- ข้อมูลรายได้อื่นๆ

2. เข้าสู่ระบบ e-Filing ของกรมสรรพากร
- ไปที่เว็บไซต์ www.rd.go.th แล้วเลือกเมนู "E-FILING"
- เข้าสู่ระบบด้วย User ID (เลขบัตรประชาชน) และ Password ของคุณ

3. เลือกแบบ ภ.ง.ด. ที่ถูกต้อง
- ภ.ง.ด. 91
- ภ.ง.ด. 90

4. กรอกข้อมูลตามขั้นตอนในระบบ
- ระบบจะนำทางให้คุณกรอกข้อมูลส่วนตัว
- กรอกข้อมูลเงินได้แต่ละประเภท (โดยใช้ข้อมูลจากใบ 50 ทวิ และข้อมูลรายได้อื่นๆ)
- กรอกรายการค่าลดหย่อนต่างๆ (โดยใช้ข้อมูลจากเอกสารลดหย่อนที่คุณเตรียมไว้)
- ระบบจะทำการคำนวณภาษีให้โดยอัตโนมัติ


5. ตรวจสอบความถูกต้อง
- ทบทวนข้อมูลทั้งหมดที่กรอกไป โดยเฉพาะตัวเลขรายได้ ค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อน
- ตรวจสอบยอดภาษีที่ระบบคำนวณได้ (ต้องชำระเพิ่ม / ได้รับคืน)

6. ยืนยันการยื่นแบบ ระบบ e-Filing
- เมื่อตรวจสอบครบถ้วนและถูกต้อง ให้กดยืนยันการยื่นแบบ

7. ชำระภาษี (ถ้ามี)
- ระบบจะแจ้งยอดภาษีที่ต้องชำระ (ถ้ามี) คุณสามารถเลือกชำระผ่านช่องทาง E-Payment (เช่น Mobile Banking, Internet Banking, บัตรเครดิต) หรือพิมพ์ใบแจ้งชำระเงินไปชำระที่ธนาคาร/เคาน์เตอร์เซอร์วิส
- กรณีขอคืนภาษี: ระบบจะแจ้งยอดที่ได้รับคืน และเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน


8. เก็บหลักฐาน
- บันทึก/พิมพ์ใบตอบรับการยื่นแบบ และใบเสร็จรับเงิน (หากมีการชำระภาษี) เก็บไว้เป็นหลักฐาน

ยื่นภาษีอย่างถูกต้อง ทุกขั้นตอนไม่มีพลาด เลือกปรึกษา กับ นรินทร์ทองอ่านเพิ่มเติมคลิก

ภ งด 90 91 ยื่น ภาษี ออนไลน์ อย่างถูกต้อง นรินทร์ทอง พร้อมให้คำปรึกษา


ถ้าหากใครที่สนใจอยากทำธุรกิจ มีความจำเป็นต้องยื่นภาษี ควรทำความเข้าใจหลักการเบื้องต้น และขั้นตอนการยื่น ภ.ง.ด.90/91 รวมถึง ภ.ง.ด. ประเภทอื่นๆ เพิ่มเติม ถ้าอยากได้คำปรึกษาเชิงลึก ขอแนะนำ นรินทร์ทอง สำนักงานบัญชีที่เข้าใจธุรกิจทุกรูปแบบ และพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339



13

หากคุณเริ่มต้นประกอบธุรกิจ และต้องการคู่มือในการยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคล การยื่น ภ.ง.ด. 50 จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะจะต้องมีการยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลทุกปี ส่วนขั้นตอนการยื่นจะเป็นอย่างไร? วันนี้ นรินทร์ทอง ได้รวบรวมข้อมูลมาไว้ให้คุณแล้ว!
นรินทร์ทองสอนวิธีการยื่น ภ.ง.ด. 50 ทุกขั้นตอน เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่นี่

แบบ ภ งด 50 คืออะไร

ภ.ง.ด. 50 คือ แบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี หรือเรียกง่ายๆ ว่า "ภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นปี" ซึ่งเป็นหน้าที่ของคนที่ทำธุรกิจในรูปแบบของบริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล เมื่อมีกำไรถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีตามกฎหมาย

การยื่น ภ.ง.ด. 50 ต้องเตรียมข้อมูลอะไรบ้าง ?


1.  งบการเงินประจำปี
2. กระดาษทำการปรับปรุงกำไรสุทธิทางบัญชี เป็นกำไรสุทธิทางภาษี
3. ใบทวิ 50 (หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย)
4. หลักฐานการชำระ ภ.ง.ด. 51
5. เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร 13 หลัก
6. User ID และ Password
7. ข้อมูลผู้ทำบัญชี


เรียนรู้เอกสารที่ต้องเตรียมก่อนยื่น ภ งด 50 ออนไลน์แบบละเอียด คลิกอ่านที่นี่


แนะนำขั้นตอนการ ยื่น ภ งด 50 ออนไลน์

1. เข้าสู่เว็บไซต์กรมสรรพากร และเข้าสู่ระบบ e-Filing เปิดเว็บเบราว์เซอร์แล้วเข้าสู่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th

2. เลือกแบบ ภ.ง.ด. 50 เมื่อเข้าสู่ระบบได้แล้ว จะมีเมนูให้เลือกประเภทแบบแสดงรายการภาษี เลือก "แบบ ภ.ง.ด. 50" (ภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี) แล้วคลิก "ยื่นแบบ"

3. กรอกข้อมูลทั่วไปของกิจการ ระบบจะแสดงข้อมูลพื้นฐานของกิจการ เช่น ชื่อ, เลขประจำตัวผู้เสียภาษี, ที่อยู่

4. กรอกข้อมูลทางการเงินและภาษี ในส่วนนี้จะต้องกรอกข้อมูลจากงบการเงิน และผลการคำนวณภาษีให้ครบถ้วน

5. กรอกข้อมูลผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชี โดยทำการกรอกชื่อ-สกุล, เลขประจำตัวประชาชน, และเลขทะเบียนผู้ทำบัญชี

6. แนบไฟล์งบการเงินและรายงานผู้สอบบัญชี ระบบ e-Filing จะมีช่องให้คุณอัปโหลดไฟล์งบการเงิน และรายงานผู้สอบบัญชีที่อยู่ในรูปแบบที่กำหนด

7. ตรวจสอบข้อมูลและยืนยันการยื่นแบบ ในขั้นตอนนี้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทุกตัวเลข รายการปรับปรุง และข้อมูลส่วนตัวของกิจการและผู้เกี่ยวข้อง

8. บันทึก/พิมพ์ใบตอบรับและชำระภาษี (ถ้ามี) เมื่อยืนยันการยื่นแบบเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแสดง "ใบตอบรับอิเล็กทรอนิกส์" และ "ใบแจ้งการชำระเงิน" (ถ้ามีภาษีต้องชำระ)


อยากรู้ขั้นตอนการยื่น ภงด 50 ออนไลน์แบบละเอียด คลิกอ่านที่นี่ คลิกอ่านที่นี่

ประหยัดเวลา ลดความเสี่ยงทางภาษี ยื่น ภ งด 50 ออนไลน์ กับ นรินทร์ทอง


เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ จะเห็นว่า การยื่น ภ งด 50 ออนไลน์ เป็นเรื่องที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าหากคุณต้องการความถูกต้องแม่นยำ ลดความเสี่ยงทางภาษี ประหยัดเวลา และได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ การลงทุนในบริการจ้างสำนักงานบัญชี ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า เมื่อเทียบกับความเสี่ยงและภาระที่คุณต้องแบกรับ หากทำเองโดยไม่มีความเชี่ยวชาญเพียงพอ นรินทร์ทอง เรายินดีให้บริการ ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

14

เปิดบริษัทมาแล้วปีกว่า แต่ยังไม่ได้ยื่นภาษี ต้องทำยังไง? สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ท่านใด ที่อยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการยื่น ภ.ง.ด.51 บทความนี้ นรินทร์ทอง จะมาแนะนำ วิธีการ ยื่น ภ งด 51 ออนไลน์ ครบจบทุกขั้นตอน!
ทำความรู้จัก ภ.ง.ด.51 แบบละเอียดก่อนตัดสินใจยื่น อ่านบทความเต็มๆ ได้ที่นี่

แบบ ภ.ง.ด.51 คืออะไร

สำหรับ ภ.ง.ด. 51 หรือที่เรียกว่า ภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี คือ แบบแสดงรายงานเงินได้และประมาณการภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ต้องประมาณรายได้และภาษีที่ต้องชำระสำหรับครึ่งปีแรกของรอบบัญชี และนำส่งต่อกรมสรรพากร


ต้องเตรียมเอกสาร หรือ ข้อมูลอะไรบ้าง ก่อนยื่น ภ.ง.ด. 51 ออนไลน์ ?


1.  ข้อมูลเกี่ยวกับกิจการ
  • เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร 13 หลัก ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
  • ชื่อกิจการ
  • ที่อยู่ของกิจการ
  • ประเภทกิจการ
  • รอบระยะเวลาบัญชี: เช่น 1 มกราคม - 31 ธันวาคม

2. ข้อมูลทางการเงินเพื่อประมาณการกำไรสุทธิ (กรณีทั่วไปที่ใช้การประมาณการ)
  • คุณต้องนำส่วนนี้มาคำนวณภาษีครึ่งปี ดังนั้นคุณต้องมีข้อมูลทางการเงินของกิจการอย่างน้อยในช่วง 6 เดือนแรกของรอบระยะเวลาบัญชี เพื่อใช้ในการประมาณการสำหรับทั้งปี

3. ข้อมูลผู้ทำบัญชี (ถ้ามี)
  • ชื่อผู้ทำบัญชี
  • เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ทำบัญชี

4. ข้อมูลผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชี (สำหรับบางกรณี)
  • สำหรับบริษัทที่ต้องสอบทานงบการเงินระยะเวลา 6 เดือน เช่น บริษัทมหาชนจำกัด, บริษัทเงินทุน หรือนิติบุคคลที่คำนวณภาษีจากกำไรสุทธิรอบระยะเวลาบัญชี 6 เดือนแรก โดยคุณจะต้องระบุชื่อผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชีพร้อมเลขทะเบียน

อ่านเอกสารที่ต้องเตรียมก่อนยื่น ภ.ง.ด. 51 คลิกอ่านเพิ่มเติม ได้ที่นี่


ขั้นตอนการยื่น ภ งด 51 ออนไลน์


1. เข้าเว็บไซต์ของกรมสรรพากร เลือก e-Filing และเลือก “ยื่นแบบออนไลน์”
2. เข้าสู่ระบบ e-Filing โดยการกรอกเลขบัตรประชาชนในช่องชื่อผู้ใช้งาน พร้อมกรอกรหัสผ่าน และกด “ตกลง” จากนั้นยืนยันตัวตนด้วยรหัส OTP 6 หลัก ผ่านเบอร์โทรศัพท์มือถือ
3. เลือกยื่นแบบภาษีเงินได้ ภ.ง.ด. 5 อ่านและยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข ในการใช้บริการอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร จากนั้นกด “เข้าสู่ระบบ” และเลือก “ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 51”
4. กรอกข้อมูลกิจการ ระบบจะดึงข้อมูลพื้นฐานของกิจการขึ้นมาให้ตรวจสอบ เช่น เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ชื่อกิจการ ที่อยู่ ฯลฯ
5. กรอกข้อมูลประมาณการกำไรสุทธิและภาษี ในหน้านี้คุณจะต้องกรอกข้อมูลทางการเงิน เพื่อใช้ในการประมาณการกำไรสุทธิของทั้งรอบระยะเวลาบัญชี
6. กรอกข้อมูลผู้ทำบัญชี กรอกชื่อ-สกุล เลขประจำตัวประชาชน และเลขทะเบียนผู้ทำบัญชี
7. กตรวจสอบข้อมูลและยืนยันการยื่นแบบ หลังจากกรอกข้อมูลครบถ้วน ระบบจะสรุปข้อมูลให้คุณตรวจสอบอีกครั้ง
8. ตรวจสอบความถูกต้อง ระบบจะมีการคำนวณ และช่วยตรวจสอบความถูกต้องเบื้องต้น
9. ยืนยันและส่งแบบ เมื่อตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยแล้วกด "ยืนยัน" เพื่อส่งแบบ ภ.ง.ด. 51
10. ชำระภาษี (ถ้ามี) สามารถชำระผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ เช่น Mobile Banking, Internet Banking, บัตรเครดิต, ATM หรือพิมพ์ใบแจ้งชำระเงินไปชำระที่ธนาคาร/เคาน์เตอร์เซอร์วิส

สนใจยื่น ภ.ง.ด. 51 ออนไลน์ กับผู้เชี่ยวชาญ แนะนำนรินทร์ทอง คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

เจอปัญหาระหวว่าง ยื่น ภ งด 51 ออนไลน์ นรินทร์ทอง พร้อมให้คำแนะนำ

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้จะเห็นว่าการ ยื่น ภ งด 51 ออนไลน์ นั้น ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใส่ข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน ซึ่งโดยรวมแล้ว การยื่นออนไลน์จะช่วยลดภาระงานและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการบริหารจัดการภาษีของธุรกิจคุณได้อย่างมาก ดังนั้นหากใครที่เพิ่งเคยทำธุรกิจรูปแบบนิติบุคคล อย่าลืมศึกษาเรื่องของ "ภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี" เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนเบี้ยปรับ และทำให้การยื่นแบบในปีถัดๆ ไปนั้นง่ายยิ่งขึ้น แต่หากคุณไม่มีความรู้ เวลา หรือต้องการความมั่นใจสูงสุด ารจ้างสำนักงานบัญชีมาดูแล ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า โดยเราขอแนะนำ นรินทร์ทอง สำนักงานบัญชีที่เข้าใจธุรกิจทุกรูปแบบ และพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

15


การตรวจสอบงบการเงินของบริษัท จะทำโดย “ผู้สอบบัญชี” (Auditor) เพื่อให้ข้อมูลด้านบัญชีและภาษีของบริษัทถูกต้อง ครบถ้วน สำหรับใครที่เป็นผู้ประกอบการมือใหม่ ข้อมูลที่ นรินทร์ทอง ได้นำมาแชร์ให้ทุกคนวันนี้ จะช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้บริการ สำนักงานบัญชีได้อย่างมีคุณภาพ

ผู้สอบบัญชี สำคัญต่อธุรกิจมากแค่ไหน ? อยากอ่านเพิ่มเติม คลิกที่นี่



ผู้ สอบ บัญชี คือ

ผู้ตรวจสอบบัญชี คือ บุคคลหรือหน่วยงานที่มีใบอนุญาต มีความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบ และรับรองความถูกต้องงบการเงินของบริษัท ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล รวมถึงองค์กรต่างๆ 

ประเภทของผู้สอบบัญชี

1. ผู้สอบบัญชีภาษีอากร (TA: Tax auditor) - คือบุคคลที่ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นผู้สอบบัญชีภาษีอากร
2. ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตทั่วไป (CPA: Certified Public Accountant) - คือบุคคลที่ต้องขึ้นทะเบียน และได้รับใบอนุญาตเป็นผู้สอบบัญชี
3.  ผู้สอบบัญชีตลาดทุน (List of Auditors Approved by the office of SEC) - คือผู้ที่ได้รับอนุญาตความเห็นชอบจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ในการรับรองงบการเงินสำหรับบริษัทที่อยู่ในตลาดทุน
4. ผู้ตรวจสอบภายใน (Internal Auditors) หรือ IA -  คือบุคคลที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ และประเมินประสิทธิภาพระบบการควบคุมภายในองค์กร 

เรียนรู้ ผู้สอบบัญชีแต่ละประเภท คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

หน้าที่ของผู้สอบ

1. ตรวจสอบงบการเงิน - ตรวจสอบความถูกต้องของรายงาน เพื่อดูว่าเอกสารทางบัญชีมีหลักฐานสนับสนุน
2. แสดงความเห็น - ออกความเห็นว่างบการเงิน "ถูกต้อง", "มีข้อสงสัย", "มีข้อผิดพลาด", หรือ "ไม่สามารถให้ความเห็นได้"
3. ประเมินความเสี่ยง - ตรวจสอบระบบควบคุมภายใน (Internal Control) ของกิจการ และวิเคราะห์ความเสี่ยง
4. ให้คำแนะนำทางบัญชีและภาษี  - แนะนำการจัดทำบัญชีให้ถูกต้อง และช่วยจัดระบบเอกสาร
5. รายงานต่อหน่วยงานภาครัฐ - ในกรณีที่บริษัทต้องยื่นงบต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) หรือกรมสรรพากร 

อยากจ้าง ผู้สอบบัญชี ศึกษาหน้าที่ของผู้สอบ คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่


ต้องการ ผู้สอบบัญชีมืออาชีพ ปรึกษาเราได้ฟรี ที่ นรินทร์ทอง!
หากคุณต้องการให้ธุรกิจของคุณ สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเติบโตอย่างมั่นคง ไม่ต้องไปที่ไหนไกล เพราะที่ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด มีบริการตรวจสอบบัญชีโดยผู้สอบบัญชี ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานวิชาชีพบัญชีของประเทศไทย นอกจากนี้ยังให้บริการทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

16


ตามกฎหมายแล้ว นิติบุคคล มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้เงินนิติบุคคล (ภ.ง.ด.) ปีละ 2 ครั้ง นั่นคือ ภ.ง.ด.50 และ ภ.ง.ด.51 หลายๆ คนอาจเกิดคำถามว่า "ภ งด 50 51 ต่าง กัน อย่างไร?" วันนี้ นรินทร์ทอง จะพามาทำความรู้จัก ภ.ง.ด. ทั้ง 2 ประเภท เพื่อให้คุณสามารถยื่นภาษีได้อย่างถูกต้อง

ทำความรู้จัก ภ งด 50 51 แบบละเอียด คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่


ภ.ง.ด.50


ภ.ง.ด.50 คือ แบบฟอร์มที่ใช้สำหรับ ยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลปลายปี ซึ่งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลทุกแห่งในประเทศไทย ต้องจัดทำและยื่นต่อกรมสรรพากรเมื่อสิ้นสุดรอบบัญชีของกิจการ ซึ่งผู้ที่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 ได้แก่ นิติบุคคลทุกประเภท ที่จดทะเบียนในประเทศไทย ไม่ว่าจะมีรายได้หรือไม่ก็ตาม โดยมีกำหนดให้ยื่นแบบภายใน 150 วัน (นับจากวันสิ้นสุดรอบบัญชี)
วิธีการกรอกแบบ ภ.ง.ด. 50
1. เตรียมข้อมูลก่อนกรอกแบบ
2. กรอกแบบผ่านเว็บไซต์ e-Filing
3. ลงนามและแนบเอกสาร
4. ชำระภาษี (ถ้ามี)
5. กำหนดเวลายื่น ภายใน 150 วัน นับจากวันสิ้นสุดรอบบัญชี
อยากอ่านข้อมูล ภ.ง.ด. 50 แบบละเอียด คลิกที่นี่

 
ภ.ง.ด.51

ภ.ง.ด. 51 คือ แบบฟอร์มที่ใช้สำหรับ ยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลกลางปี ที่นิติบุคคลทุกแห่งต้องยื่นเพื่อแสดงผลประกอบการ ครึ่งปีแรก (6 เดือน) ต่อกรมสรรพากร ซึ่งถือเป็นการประเมิน "รายได้และกำไร" ของกิจการแบบประมาณการ ซึ่งผู้ที่ต้องยื่นคือ บริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ประกอบกิจการในประเทศไทย โดยื่นภายใน 2 เดือน นับจากวันสิ้นครึ่งรอบบัญชี
วิธีการกรอกแบบ ภ.ง.ด. 51
1. ข้อมูลทั่วไปของบริษัท
2. ข้อมูลทางการเงิน (ประมาณการ)
3. การคำนวณภาษี
4. การแนบเอกสาร
5. การลงนามและส่งแบบ
6. กำหนดเวลายื่น
อยากอ่านข้อมูล ภ.ง.ด. 51 แบบละเอียด คลิกที่นี่

 
เปรียบเทียบ ภ งด 50 51 ต่าง กัน อย่างไร?
ภ.ง.ด.50
  • วัตถุประสงค์-ใช้ยื่นภาษีตามผลประกอบการจริงตลอดทั้งรอบบัญชี
  • ช่วงเวลาที่ยื่น - รอบบัญชีเต็มปี (12 เดือน)
  • ยื่นเมื่อไหร่ - ภายใน 150 วัน นับจากวันสิ้นสุดรอบบัญชี เช่น รอบ ม.ค.–ธ.ค. ต้องยื่นภายใน 30 พ.ค.
  • ข้อมูลที่ใช้ - ข้อมูลทางบัญชีจริงจากงบการเงิน
  • เอกสารประกอบ - งบการเงิน, รายงานผู้สอบบัญชี, รายละเอียดภาษีหัก ณ ที่จ่าย
  • ผลทางกฎหมาย - ถือเป็นการยื่นภาษีที่ใช้ยืนยันรายได้จริง

 
ภ.ง.ด.51
  • วัตถุประสงค์ - ใช้ยื่นภาษีจากประมาณการกำไรสุทธิในครึ่งปีแรก
  • ช่วงเวลาที่ยื่น - ครึ่งปีแรกของรอบบัญชี (6 เดือน)
  • ยื่นเมื่อไหร่ - ภายใน 2 เดือน หลังสิ้นครึ่งรอบบัญชี เช่น รอบ ม.ค.–ธ.ค. ต้องยื่นภายใน 31 ส.ค. ของทุกๆ ปี
  • ข้อมูลที่ใช้ - รายได้-ค่าใช้จ่าย แบบประมาณการ
  • เอกสารประกอบ - รายการคำนวณกำไร, รายละเอียดประมาณการ
  • ผลทางกฎหมาย - ใช้ชำระภาษีล่วงหน้าเท่านั้น (แต่หากแจ้งต่ำโดยไม่มีเหตุผล มีโทษปรับ)

 
ยื่นแบบได้ที่ไหน
  • สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา (กรณียื่นด้วยเอกสาร) - ต้องแนบเอกสารและลงลายมือชื่อกรรมการผู้มีอำนาจ


 
ภ งด 50 51 ต่าง กัน อย่างไร? ให้ "นรินทร์ทอง" ดูแลให้ถูกตั้งแต่ต้น
โดยสรุปแล้ว ภ.ง.ด.50 และ ภ.ง.ด.51 ต่างกันในเรื่องของ "ช่วงเวลา" และ "วัตถุประสงค์ในการยื่น" ดังนั้นอย่างลืมเช็กก่อนยื่น เพราะหากยื่นผิดหรือยื่นล่าช้า จะมีโทษปรับทางกฎหมาย และโดนเบี้ยปรับทางภาษีอีกด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเจ้าของกิจการหลายคนเลือก "จ้างสำนักงานบัญชีมืออาชีพ" มาช่วยดูแล และแน่นอนว่า บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด ช่วยคุณได้! เพราะเราให้บริการ รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

17


"จดทะเบียนบริษัทออนไลน์" สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และง่ายต่อเจ้าของธุรกิจยุคใหม่ แต่เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะยังสงสัยว่า จด บริษัท ออนไลน์ ใช้ระยะกี่วันเสร็จ? วันนี้ นรินทร์ทอง ได้นำข้อมูลเกี่ยวกับ การจดบริษัทออนไลน์ มาแชร์ให้กับทุกท่าน  เพื่อใช้ตัดสินใจก่อนเลือกใช้บริการ

เริ่มต้นธุรกิจแต่อยาก จด บริษัท ออนไลน์ คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่


จด บริษัท ออนไลน์ กี่วันเสร็จ

ระยะเวลาการ จด บริษัท ออนไลน์ ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) หากเตรียมเอกสารครบและไม่มีข้อผิดพลาด จะใช้เวลาจดอยู่ที่ 1–3 วันทำการ เท่านั้น แต่ในกรณีที่เตรียมเอกสารไม่ครบหรือมีข้อผิดพลาด เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้แก้ไขภายในระบบ ซึ่งอาจทำให้ระยะเวลายืดออกเป็น 5–7 วัน หรือนานกว่านั้น
จดทะเบียนบริษัทออนไลน์ ใช้เวลาไม่นาน คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

จดทะเบียนบริษัทออนไลน์ มีขั้นตอนอย่างไร

  • ขั้นตอนที่ 1
- เข้าเว็บไซต์ DBD e-Registration สมัครสมาชิก และ ยืนยันตัวตนผ่าน Digital ID หรือ Application ThaID
  • ขั้นตอนที่ 2
- ผู้แทนจะทะเบียน + ยื่นคำขอ
  • ขั้นตอนที่ 3
- นายทะเบียนตรวจพิจารณาคำขอ
  • ขั้นตอนที่ 4
- ผู้ที่เกี่ยวข้อลงลายมือชื่อ
1. ลงลายมือชื่อจริง (ปากกา) ในเอกสาร Consent Form
2. ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผ่าน Digital ID หรือ Application ThaID
  • ขั้นตอนที่ 5
- Scan Consent Form ส่งให้นายทะเบียนตรวจสอบการลงลายมือชื่อ
  • ขั้นตอนที่ 6
- ชำระค่าธรรมเนียมผ่าน Digital ID หรือ Application ThaID
  • ขั้นตอนที่ 7
- ดาวน์โหลดไฟล์หนังสือรับรอง / สำเนาเอกสาร

เรียนรู้ขั้นตอนการ จดบริษัทออนไลน์ เพิ่มเติม อ่านเต็มๆ ที่นี่

เริ่มต้นธุรกิจยุคใหม่ง่ายกว่าที่คิด แค่ใช้บริการ จดบริษัทออนไลน์ กับเรา นรินทร์ทอง
โดยสรุปแล้ว การ จด บริษัท ออนไลน์ สามารถเสร็จภายใน 1–3 วันทำการ แต่หากมีความผิดพลาด อาจล่าช้าออกไป 5–10 วัน หรือนานกว่านั้น หากคุณสนใจอยากใช้บริการจ้างสำนักงานบัญชี ขอแนะนำ  บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด เราให้บริการ รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

18

สำหรับการทำธุรกิจ การ จ้าง ทำ บัญชี เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและมีประโยชน์ แต่การจ้างสำนักงานบัญชีไม่ใช่แค่เพื่อ “ทำบัญชีให้ครบ” แต่เป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคง หากคุณกำลังหานักทำบัญชี ขอแนะนำ นรินทร์ทอง สำนักงานบัญชีที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี หากคุณสนใจอยากจ้างทำบัญชีที่นรินทร์ทอง เราเตรียมมาให้คุณแล้วในบทความนี้!
สนใจอยาก จ้างทำบัญชี คลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่นี่

จ้าง ทำ บัญชี ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง

1. ประเภทของกิจการ
  • เนื่องจาก ห้างหุ้นส่วน / บริษัท จำกัด / ร้านค้า มีความซับซ้อนต่างกัน
  • ธุรกิจที่ต้องจด VAT หรือมีลูกจ้างหลายคน มักมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า
2. ปริมาณรายการบัญชีต่อเดือน
  • ยิ่งมีใบกำกับภาษี, รายการซื้อ–ขาย, ใบเสร็จ, บิล, เงินเข้า–ออกมากราคายิ่งสูง ยกตัวอย่างเช่น กิจการที่มี 50 รายการ / เดือน อาจมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่ากิจการที่มี 300 รายการ / เดือน
3. ความซับซ้อนของธุรกิจ
  • ธุรกิจนำเข้า–ส่งออก, ออนไลน์หลายช่องทาง, ใช้หลายบัญชีธนาคาร หรือมีเงินสดหมุนเวียนมาก จะคิดค่าบริการสูงกว่าธุรกิจทั่วไป
4. ประเภทภาษีที่เกี่ยวข้อง
  • หากต้องจัดการภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT), หัก ณ ที่จ่าย, ภาษีเงินได้นิติบุคคล, หรือภาษีอื่นๆ เพิ่มเติม จะมีค่าบริการที่เพิ่มขึ้นตามความยากง่าย
5. มีพนักงาน / ต้องยื่นประกันสังคมหรือไม่
  • หากมีพนักงานในบริษัท สำนักงานบัญชีต้องยื่นแบบประกันสังคมรายเดือน และดูแลรายงานต่างๆ เพิ่มเติม
6. บริการที่รวมอยู่ในแพ็กเกจ
  • บางสำนักงานคิดรวม ค่าทำบัญชีรายเดือน + ยื่นภาษี + ยื่นประกันสังคม + ปิดงบปลายปี แล้ว
  • บางแห่งคิดแยก ดังนั้นต้องตรวจสอบรายละเอียดก่อนเลือกใช้บริการ
7. ตำแหน่งที่ตั้งของกิจการ
  • ที่ตั้งของกิจการบริเวณกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ค่าจ้างทำบัญชีมักสูงกว่าต่างจังหวัด


ราคา ของนรินทร์ทอง


- ปริมาณเอกสาร 1–50 ชุด / เดือน
  • ค่าบริการ 3,500 บาท / เดือน
  • สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

- ปริมาณเอกสาร 51–100 ชุด / เดือน
  • ค่าบริการ 4,500 บาท / เดือน
  • สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก–กลาง

- ปริมาณเอกสาร 101–150 ชุด / เดือน
  • ค่าบริการ 5,500 บาท / เดือน
  • รองรับธุรกิจที่เริ่มโตขึ้น

- ปริมาณเอกสาร 151–200 ชุด / เดือน
  • ค่าบริการ 6,500 บาท / เดือน
  • สำหรับธุรกิจขนาดกลาง–ใหญ่

- ปริมาณเอกสารมากกว่า 200 ชุด / เดือน
  • แนะนำให้สอบถามราคาเพิ่มเติม
  • ประเมินเฉพาะราย

บริการที่รวมอยู่ในแพ็คเกจรายเดือน

1. จัดทำบัญชีรายเดือน
  • บันทึกบัญชีตามมาตรฐานการบัญชี
  • จัดทำงบทดลอง, งบกำไรขาดทุน, งบดุล

2. ยื่นภาษีประจำเดือน
  • ภ.ง.ด. 1, 3, 53, ภ.พ.30 (กรณีจด VAT)
  • ภ.ง.ด. 90 / 91 กรณีเจ้าของคนเดียว

3. ยื่นภาษีปลายปี
  • ภ.ง.ด.50 (นิติบุคคล)
  • ภ.ง.ด.51 (ครึ่งปี)

4. ยื่นประกันสังคม
  • รายเดือน (สปส.1-10)
  • ขึ้นทะเบียนลูกจ้าง / แจ้งเข้า–ออก

5. ปิดงบการเงินประจำปี
  • พร้อมยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD)
  • ยื่นผู้สอบบัญชี (ถ้ามี)

6. ให้คำปรึกษาทางบัญชีและภาษี
  • ตอบคำถามเกี่ยวกับภาษี, วางแผนภาษีเบื้องต้น
  • ให้คำแนะนำเกี่ยวกับโครงสร้างธุรกิจ

จ้าง นรินทร์ทอง ทำบัญชี คลิกดูรายละเอียดราคาเพิ่มเติม ได้ที่นี่

ทำไมต้องจ้างทำบัญชีกับ นรินทร์ทอง ?

1. บริการครบวงจร
2. ประสบการณ์จริงจากทีมผู้เชี่ยวชาญ
3. ส่งงานตรงเวลา ไร้ค่าปรับ
4. วางแผนภาษีได้อย่างถูกต้อง
5. ราคาเหมาะสมกับ SME

จ้าง นรินทร์ทอง ทำบัญชี คลิกดูรายละเอียดราคาเพิ่มเติม ได้ที่นี่

วางใจเรื่องภาษี เลือก จ้าง ทำ บัญชี กับ นรินทร์ทอง ผู้ช่วยธุรกิจตัวจริง
ในยุคที่ธุรกิจต้องเผชิญกับทั้งการแข่งขัน และข้อกำหนดด้านภาษีที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การมีผู้ช่วยมืออาชีพที่ดูแลเรื่องบัญชีและภาษีให้ถูกต้อง จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็น นั่นคือเหตุผลที่เจ้าของธุรกิจจำนวนมากเลือก “จ้าง ทำ บัญชี” กับ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงานบัญชีที่เข้าใจธุรกิจทุกรูปแบบ และพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339


19


เคยสงสัยไหมว่า ทำไมบริษัทต้องคำนวณภาษี หัก ณ ที่ จ่าย เงินเดือน พนักงาน ? บทความนี้ นรินทร์ทอง จะพาไปทำความรู้จักภาษีหัก ณ ที่จ่ายว่าคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร พร้อมแนะนำวิธีการคำนวณเงินหัก ณ ที่จ่ายอย่างถูกต้อง
ศึกษาวิธีการ หัก ณ ที่ จ่าย เงินเดือน พนักงาน คลิกอ่านเต็มๆ ที่นี่


ภาษี หัก ณ ที่ จ่าย เงินเดือน พนักงาน คือ


“ภาษีหัก ณ ที่จ่ายเงินเดือน” คือ ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายประเภทหนึ่ง โดยเป็นส่วนหนึ่งของการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งบริษัทจะเป็นผู้หักภาษี ณ ที่จ่าย และนำส่งให้กับกรมสรรพากรในแต่ละเดือน หรือพนักงานจะเลือกไม่หักภาษีในแต่ละเดือน แล้วค่อยมายื่นเต็มจำนวนในระยะเวลาที่กำหนดก็ได้เช่นกัน โดยเหตุผลที่บริษัทต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายเงินเดือน เนื่องจากบริษัทเป็นผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 แห่งกฎหมายประมวลรัษฎากร


อัตรา หัก ณ ที่จ่ายของพนักงานเงินเดือน


การคำนวณ ภาษี หัก ณ ที่จ่าย เงินเดือน พนักงาน (มาตรา 40(1)) จะคำนวณแตกต่างจากการจ่ายเงินประเภทอื่น ซึ่งจะคำนวณในลักษณะของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แล้วนำมาเฉลี่ยเป็นรายเดือนอีกครั้งหนึ่ง โดยสามารถแจกแจงรายละเอียดได้ตามรูปภาพข้างต้น


วิธีการคำนวณ หัก ณ ที่จ่าย


คุณสามารถคำนวณจำนวนเงินภาษี หัก ณ ที่ จ่าย เงินเดือน พนักงาน ที่เราต้องจ่ายในปีนั้นๆ ถ้าคำนวณแล้วเราไม่จำเป็นต้องเสียภาษีเงินได้ และก็จะไม่ถูกหัก ณ ที่จ่ายด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนี้กฎหมายยกเว้นภาษีให้แก่บุคคลธรรมดา ที่มีเงินได้สุทธิต่อปีไม่เกิน 150,000 บาท โดยตัวอย่างวิธีการคำนวณแต่ละเคส มีรายละเอียดตามรูปาพข้างต้น
อ่านวิธีการคำนวณ หัก ณ ที่จ่าย แบบละเอียด คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่


]วิธีการคำนวณภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่ายเงินเดือน
วิธีการคำนวณ: ค่าภาษีที่คำนวณได้ ÷ จำนวนงวด = ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ยกตัวอย่างเช่น: คำนวณค่าภาษีทั้งปีแล้วได้ 12,000 บาท โดยจ่ายเงินเดือนเป็นรายเดือน ดังนั้นตลอดทั้งปีจะมีการจ่ายเงินเดือน 12 งวด ทำให้ทุกๆ เดือนต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายเดือนละ 1,000 บาท เป็นต้น
แต่ในกรณีที่หารภาษีหัก ณ ที่จ่ายตามจำนวนไม่ลงตัว เช่น
  • คำนวณภาษีตลอดทั้งปีได้ 20,600 บาท
  • เมื่อหารตามจำนวนงวด 12 เดือน แล้วจะได้ 1,716.6666667 (20,600÷12 เดือน)
  • กรณีนี้การหักภาษี ณ ที่จ่ายจะใช้เลข 1,716.66 (โดยไม่ปัดเศษเป็น 1,716.67)
ทำความเข้าใจ การยื่นภาษี หัก ณ ที่ จ่าย เงินเดือน พนักงาน แบบละเอียด คลิกที่นี่




]ยื่น ภาษี หัก ณ ที่ จ่าย ถูกต้องตามกฎหมาย กับสำนักงานบัญชี นรินทร์ทอง
การมีสำนักงานบัญชีมืออาชีพ ช่วยดูแลเรื่อง การยื่นภาษี หัก ณ ที่ จ่าย เงินเดือน พนักงาน มีข้อดีที่ชัดเจนหลายประการ ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องกฎหมายภาษีที่เปลี่ยนบ่อย หากคุณกำลังมองหาสำนักงานบัญชีและกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญ แนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงานบัญชีและภาษี ตัวช่วยที่สามารถเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าหน้าใหม่ ที่กังวลเรื่องการยื่นภาษี และสามารถช่วยวางแผนธุรกิจในอนาคตได้ โดยทางเราจะให้บริการ รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี ซึ่งมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

20


สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่กำลังมองหา สำนักงาน รับทำบัญชีนครปฐม หรือเขตปริมณฑล ต้องที่ นรินทร์ทอง เพราะสำนักงานบัญชีของเรา ตอบโจทย์เจ้าของธุรกิจทั้งขนาดเล็กและกลาง โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องการความมั่นใจเรื่องบัญชีและภาษีที่ถูกต้อง
มองหาสำนักงานรับทำบัญชีนครปฐม คลิกอ่านบทความแบบเต็มที่นี่


รับทําบัญชีนครปฐม

  • ทำเลใกล้ เข้าถึงง่าย ให้บริการครอบคลุมพื้นที่หลัก - โดยให้บริการหลักๆ ในพื้นที่นครปฐม, กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก และเขตปริมณฑล
  • ทันสมัยด้วยระบบบัญชีออนไลน์ - รองรับการทำบัญชีผ่านโปรแกรมชั้นนำ เช่น FlowAccount, Peak Account และใช้ระบบ Cloud ในการส่งเอกสาร/ใบกำกับออนไลน์
  • ให้บริการครบ จบ ในที่เดียว - ไม่ว่าจะเป็น บริการด้านจดทะเบียนบริษัท, ทำบัญชีรายเดือน, ยื่นภาษีทุกประเภท (ภ.ง.ด., ภ.พ., ประกันสังคม), ปิดงบการเงิน ตรวจสอบบัญชี และ ให้คำปรึกษาด้านวางแผนภาษี

อยากให้ นรินทร์ทอง ให้คำปรึกษาด้านการจดทะเบียนบริษัท และ วางแผนภาษี คลิกอ่านบทความแบบเต็มที่นี่


สโคปในการทำงาน


1.มาตราฐานในการบัญชีของบริษัท ประกอบไปด้วย
- การรวบรวมหลักฐานเอกสารที่เกี่ยวข้องทางการเงิน
- การจดบันทึกหลักฐานทางการเงิน
- การจำแนกประเภทหรือแยกบัญชีให้เป็นหมวดหมู่
- การสรุปรวมข้อมูล
- การจัดทำงบการเงิน 
2. จำนวนเอกสาร ความซับซ้อนในตัวงาน งานบัญชีจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับจำนวนเอกสาร หรือ ธุรกิจมีความซับซ้อนของธุรกิจ
3. การจัดส่งเอกสาร ทางสำนักงานบัญชีจะต้องนำส่งเอกสารรายการต่างๆ ในแต่ละเดือนให้กับทางบริษัท


ราคาของบริษัทนริทร์ทองการบัญชีและกฎหมาย
1. บริการ รับทำบัญชี รายเดือน ตามมาตรฐาน – รับเอกสารจากลูกค้า และ บันทึกบัญชี ส่งภาษีอากร ดูแลประกันสังคม ปิดงบการเงิน ไม่รวมการออกบิล ใบเสร็จ ใบแจ้งหนี้ เริ่มต้น 3,500 บาท
2. รับปรึกษาด้านบัญชี และภาษี – ให้คำปรึกษาวางแผนการทำบัญชีช่วยประหยัดภาษี อย่างถูกต้องตามกฎหมายเริ่มต้น 10,000 บาท
3. บริการบัญชีออนไลน์ – ลูกค้าจัดส่งเอกสารผ่านโปรแกรมบัญชีออนไลน์ ไกลแค่ก็ทำบัญชีกับเราได้ เราพร้อมให้บริการ
สนใจอยากทำบัญชี กับ นรินทร์ทอง คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่





มองหา บริการ รับทำบัญชีนครปฐม ต้องที่ นรินทร์ทอง
หากเจ้าของธุรกิจมือใหม่ท่านใด ที่กำลังมองหา บริการ รับทำบัญชีนครปฐม รวมถึงในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือ เขตปริมณฑลอื่นๆ ขอแนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด ให้บริการ รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

21

“บอจ.” คือเครื่องมือยืนยันตัวตนและความน่าเชื่อถือของธุรกิจนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี แต่อย่างที่รู้กันดีว่า บอจ. มีหลายประเภท สำหรับใครที่สงสัยว่า บอจ 2 3 4 5 คือ อะไร? ศึกษาข้อมูลเหล่านี้ไปพร้อมๆ กันกับเรา นรินทร์ทอง
ทำความรู้จัก บอจ 2 3 4 5 แบบละเอียด? คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่


บอจ. 2 คืออะไร


บอจ. 2 คือ “หนังสือบริคณห์สนธิ” เป็นเอกสารที่ผู้เริ่มก่อการของบริษัทได้จัดทำขึ้นและลงลายมือชื่อ ตามข้อกำหนดกฎหมาย มีรายละเอียดสำคัญคือ
1. ชื่อของบริษัท
2. จังหวัดที่ตั้งของบริษัท
3. วัตถุประสงค์ของบริษัท
4. รายละเอียดทุนของบริษัท
5. รายละเอียดและลายเซ็นของผู้เริ่มก่อการ

สำคัญอย่างไร


  • ใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมาย  ยืนยันว่าบริษัทมีตัวตนจริง

  • ใช้คู่กับ บอจ. 3, บอจ. 5 และ บอจ. 7 ในการยื่นงานทางธุรกิจหรือขอสินเชื่อ

  • ใช้ยืนยันกับคู่ค้า, หน่วยงานราชการ หรือธนาคาร

ใช้ตอนไหน

จะถูกใช้ในหลายกรณีสำคัญหลังจากที่บริษัท จดทะเบียนเสร็จเรียบร้อย เช่น
  • ใช้หลังจดทะเบียนบริษัทเสร็จ
  • ใช้ในการเปิดบัญชีธนาคารในนามบริษัท

  • ใช้แนบเอกสารในการยื่นขอสินเชื่อธุรกิจ

  • ใช้ในการทำสัญญาทางธุรกิจ
  • ใช้ในการยื่นงานราชการหรือประมูลงาน
มีเนื้อหาอะไร
1. ชื่อบริษัท
2. ทุนจดทะเบียน
3. ที่ตั้งบริษัท
4. รายชื่อกรรมการ
5. วัตถุประสงค์บริษัท
 
บอจ. 3 คืออะไร
บอจ. 3 คือ “รายการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัด” โดยมีรายละเอียดที่สำคัญ คือ
1. จำนวนหุ้นของบริษัท
2.จำนวนหุ้นสามัญ และจำนวนหุ้นบุริมสิทธิของบริษัท
3. จำนวนเงินที่ได้ใช้แล้วในแต่ละหุ้น แบ่งเป็นจำนวนเงินที่ใช้แล้วของแต่ละหุ้นสามัญ และจำนวนเงินที่ใช้แล้วของแต่ละหุ้นบุริมสิทธิ
4. จำนวนเงินที่บริษัทได้รับค่าหุ้นรวมทั้งสิ้น แบ่งเป็น จำนวนเงินรวมที่ได้รับของหุ้นสามัญ และจำนวนเงินรวมที่ได้รับของหุ้นบุริมสิทธิ
5. จำนวนหรือชื่อกรรมการ ผู้ที่ลงลายมือชื่อผูกพันบริษัท
สำคัญอย่างไร
  • ใช้เพื่อยืนยันสถานะบริษัท
  • ใช้เปิดบัญชีธนาคารในนามบริษัท
  • ใช้ประกอบเอกสารทางธุรกิจ
  • ใช้ยื่นต่อหน่วยงานราชการ
ใช้ตอนไหน
ในกรณีสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการแสดงตัวตนและสถานะของบริษัทต่อหน่วยงานภายนอก เช่น
  • เปิดบัญชีธนาคารในนามบริษัท
  • ทำสัญญากับคู่ค้า
  • ยื่นประมูลงานราชการหรือเอกชน
  • ยื่นภาษีหรือเปิดแฟ้มภาษี (กับสรรพากร)

  • ขอใบอนุญาตหรือจดทะเบียนกิจการ
  • ยื่นขอสินเชื่อธุรกิจ
มีเนื้อหาอะไร
1. ชื่อบริษัท
2. เลขทะเบียนนิติบุคคล
3. วันที่จดทะเบียน
4. ทุนจดทะเบียน
5. วัตถุประสงค์ของบริษัท
6. ที่ตั้งสำนักงานใหญ่
7. รายชื่อกรรมการ
8. อำนาจกรรมการ
9. จำนวนหุ้น
10. ชื่อผู้ถือหุ้น (บางกรณี)


บอจ. 4 คืออะไร
บอจ. 4 คือ “รายละเอียดการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท” ที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเพื่อเติมหลังจากการจัดตั้งบริษัทเสร็จแล้ว มีรายละเอียดที่สำคัญ คือ
1. รายละเอียดที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม
สำคัญอย่างไร
  • ใช้เป็นขั้นตอนเริ่มต้นก่อนจดทะเบียนบริษัท
  • ใช้แสดงข้อมูลพื้นฐานของบริษัท
  • ใช้ยืนยันเจตนาร่วมก่อตั้งของผู้ก่อการ
  • เป็นเอกสารทางกฎหมายที่อ้างอิงได้ภายหลัง
ใช้ตอนไหน
  • ใช้ก่อนจดทะเบียนบริษัท เป็นขั้นตอนแรกในการเริ่มก่อตั้งบริษัท
  • ต้องยื่น บอจ. 4 ภายใน 30 วันหลังจากจองชื่อบริษัทผ่านระบบ DBD
มีเนื้อหาอะไร
1. ชื่อบริษัท
2. วัตถุประสงค์ของบริษัท
3. ทุนจดทะเบียน
4. สำนักงานใหญ่
5. รายชื่อผู้ก่อการ
6. ลายเซ็นผู้ก่อการ
 
บอจ. 5 คืออะไร
บอจ.5 คือ “สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น” เป็นแบบที่แสดงให้เห็นว่าในบริษัทนี้ มีใครเป็นผู้ถือหุ้นอยู่บ้าง มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. ชื่อ เลขทะเบียน ของบริษัท
2. รายละเอียดที่แสดงว่า บอจ.5 นี้เป็นทะเบียนของผู้ถือหุ้น ณ วันไหน เช่น ณ วันที่ประชุมจัดตั้งบริษัท ณ วันที่คัดจากสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น
3. มูลค่าทุนจดทะเบียน จำนวนหุ้น และมูลค่าราคาพาร์ของหุ้น
4. จำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด
5. รายละเอียดของผู้ถือหุ้นแต่ละคน โดยมีรายละเอียด ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน สัญชาติ อาชีพ ที่อยู่ จำนวนหุ้นที่ถือ และชำระแล้วหุ้นละกี่บาท เลขหมายหุ้น และวันที่ลงทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้น เป็นต้น
สำคัญอย่างไร
  • เป็นหลักฐานทางราชการยืนยัน “ที่อยู่บริษัท”
  • ใช้ในกระบวนการทางธุรกิจ
  • ใช้แจ้งการเปลี่ยนแปลงที่ตั้งสำนักงานใหญ่
  • มีผลต่อการเสียภาษี
ใช้ตอนไหน
  • จดทะเบียนตั้งบริษัท
  • เปิดบัญชีธนาคารในนามบริษัท
  • ขอใบอนุญาตต่าง ๆ กับหน่วยงานรัฐ
  • ทำสัญญาทางธุรกิจ / ประมูลงาน
  • ขอยื่นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
มีเนื้อหาอะไร
1. ชื่อบริษัท
2. เลขทะเบียนนิติบุคคล
3. ที่ตั้งสำนักงานใหญ่
4. ทุนจดทะเบียน
5. รายชื่อกรรมการ
6. วัตถุประสงค์ของบริษัท
7. วันที่จดทะเบียน / แก้ไข
เรียนรู้ความสำคัญของ บอจ 2 3 4 5 แบบละเอียด คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่
ตารางสรุปความแตกต่างระหว่าง บอจ. 2 3 4 5
คุณสามารถอ่านสรุปว่า ระหว่าง บอจ. 2, 3, 4 และ 5 มีความแตกต่างกันอย่างไร ตามตารางเปรียบเทียบได้ตามภาพในข้างต้น
เปรียบเทียบความแตกต่างของ บอจ 2 3 4 5 ฉบับเต็ม คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่


นรินทร์ทอง ให้บริการยื่น แบบ บอจ. พร้อมดูแลต่อเนื่องหลังยื่นจดทะเบียน
หากคุณกำลังวางแผนจะจัดตั้งบริษัท แต่ไม่แน่ใจว่าจะต้องยื่นแบบไหนก่อน บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด เรายินดีให้คำปรึกษา นอกจากนี้เรายังให้บริการ รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339


22
การตลาดออนไลน์ | Internet Marketing / ภ งด 90 91 94 คือ อะไร
« เมื่อ: มิถุนายน 02, 2025, 07:28:02 AM »

“ภ.ง.ด.”  เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการปฏิบัติตามกฎหมายภาษี ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือทางการเงินของกิจการโดยตรง ซึ่งมีทั้งหมด 5 รูปแบบ แต่สำหรับใครที่สงสัยว่า ภ งด 90 91 94 คือ อะไร? บทความนี้ นรินทร์ทอง จะพาไปคุณไปทำความรู้จักแบบละเอียด ถ้าใครกำลังหาข้อมูลอยู่ ต้องห้ามพลาดเลย!
อยากรู้ว่า ภ งด 90 91 94 คือ อะไร? ทำความเข้าใจเพิ่มเติมที่นี่


ภ งด 90 คืออะไร?


ภ.ง.ด.90 คือ ฟอร์มแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้ที่มีเงินได้จากหลายช่องทางหรือช่องทางเดียว นอกเหนือจากเงินเดือน
  • ยื่นตอนไหน - โดยปกติแล้วผู้ที่ต้องยื่น ภ.ง.ด.90 จะยื่นภาษีในช่วงวันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคมของปีถัดไปทุกปี
  • ไม่ยื่นมีความผิดไหม
- หากไม่ได้ยื่น ภ.ง.ด.90 หรือยื่นเกินกว่าเวลาที่กำหนด จะต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท
- หากยื่น ภ.ง.ด.90 แล้ว แต่ไม่ได้ชำระเงินภาษี จะถือว่าไม่ได้ยื่น ต้องนำเงินส่วนดังกล่าวไปชำระ และเสียค่าปรับร้อยละ 1.5 ต่อเดือน
- หากยื่น ภ.ง.ด.90 เพิ่มเติมในภายหลังกำหนดเวลาการยื่นแบบ กรณีมีเงินภาษีต้องชำระจะต้องเสียค่าปรับตามข้อ 2 แต่หากไม่มีเงินภาษีที่ต้องชำระ ไม่จำเป็นต้องเสียเงินค่าปรับ

ภ งด 91 คืออะไร?
ภ.ง.ด.91 คือ ฟอร์มแสดงรายการภาษีเงินได้ของบุคคลธรรมดา สำหรับผู้ที่มีเงินได้จากช่องทางเดียว ไม่มีรายได้เสริมจากแหล่งงาน หรือรายได้อื่น
  • ยื่นตอนไหน - ผู้ที่ต้องยื่น ภ.ง.ด.91 จะยื่นภาษีในช่วงวันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคมของปีถัดไปทุกปี
  • ไม่ยื่นมีความผิดไหม
- หากไม่ได้ยื่น ภ.ง.ด.91 หรือยื่นเกินกว่าเวลาที่กำหนด จะต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท
- หากยื่น ภ.ง.ด.91 แล้ว แต่ไม่ได้ชำระเงินภาษี จะถือว่าไม่ได้ยื่น ดังนั้น จะต้องนำเงินส่วนดังกล่าวไปชำระ และเสียค่าปรับร้อยละ 1.5 ต่อเดือน รวมทั้งค่าปรับตามข้อที่ 1
- หากยื่น ภ.ง.ด.91 เพิ่มเติมในภายหลังกำหนดเวลาการยื่นแบบ กรณีมีเงินภาษีต้องชำระจะต้องเสียค่าปรับตามข้อ 2 แต่หากไม่มีเงินภาษีที่ต้องชำระก็จะไม่ต้องเสียเงินค่าปรับ

ภ งด 94 คืออะไร?
ภ.ง.ด.94 คือ ฟอร์มแสดงรายการภาษีเงินได้ของบุคคลธรรมดา สำหรับผู้ที่มีเงินได้พึงประเมินประเภทที่ 5-8 คือ รายได้ไม่คงที่
  • ยื่นตอนไหน - ยื่นภาษีเงินได้ที่เกิดขึ้นใน 6 เดือนแรก ในช่วงวันที่ 1 กรกฎาคม-30 กันยายนของปีภาษีเดียวกันทุกปี
  • ไม่ยื่นมีความผิดไหม
- หากไม่ได้ยื่น ภ.ง.ด.94 หรือยื่นเกินกว่าเวลาที่กำหนด จะต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท แต่สามารถขอลดค่าปรับได้
อ่าน ภ.ง.ด.90 / ภ.ง.ด.91/ ภ.ง.ด. 94 แบบละเอียด คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่


ตารางสรุป  ภ งด 90 91 94 คือ


หัวข้อนี้ นรินทร์ทอง จะมาสรุปความแตกต่างของ ภ.ง.ด.90 / ภ.ง.ด.91/ ภ.ง.ด. 94 ภาษีเงินได้ทั้ง 3 รูปแบบนี้ ซึ่งสามารถแยกรายละเอียดได้ตามตารางในรูปภาพข้างต้น

ศึกษาวิธีการยื่นแบบที่ถูกต้อง เรียนรู้เพิ่มเติมในบทความเต็มๆ คลิกที่นี่

ยื่นภาษีไม่เป็นไม่ต้องกังวล! นรินทร์ทอง เราช่วยดูแลทุกขั้นตอน
ภ.ง.ด. คือเครื่องมือทางภาษี ซึ่งเป็นประโยชน์ทางธุรกิจและการเงิน ดังนั้นสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ท่านใด ที่ต้องการคู่มือเกี่ยวกับการยื่นภาษี รวมถึงการวางแผนภาษี ขอแนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงานบัญชีและภาษี ตัวช่วยที่สามารถเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าหน้าใหม่ ที่กังวลเรื่องการยื่นภาษี และสามารถช่วยวางแผนธุรกิจในอนาคตได้ โดยทางเราจะให้บริการ รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี ซึ่งมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

23


เจ้าของธุรกิจท่านใดที่กำลังมองหา สำนักงานทำบัญชีในเขตกรุงเทพ และปริมณฑลที่ได้มาตรฐาน นรินทร์ทอง เองก็เป็นสำนักงานบริการ รับทำบัญชีกรุงเทพ และปริมณฑล ที่ได้มาตรฐาน ให้บริการครอบคลุมหลายด้าน วันนี้เราจึงอยากพาคุณมาทำความรู้จัก นรินทร์ทอง เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ประกอบการ ก่อนเลือกใช้บริการรับทําบัญชี

อยากจ้างบริษัท รับทําบัญชีกรุงเทพ แนะนำนรินทร์ทอง คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่


นรินทร์ทอง รับทําบัญชีกรุงเทพ


นรินทร์ทอง เป็นบริษัทรับทำบัญชีที่ เน้นให้บริการในกรุงเทพฯ และปริมณฑลโดยเฉพาะ โดยจุดเด่นของ นรินทร์ทอง สำนักงานบัญชี ประกอบไปด้วย

  • ให้บริการครอบคลุมในพื้นที่ – นรินทร์ทอง ให้บริการทั้งในเขตกรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร ฯลฯ

  • บริการครบวงจร
- รับทำบัญชีรายเดือน
- ยื่นภาษีทุกประเภท (ภ.พ.30, ภงด.1, ภงด.50 ฯลฯ)
- ปิดงบการเงิน
- ยื่นประกันสังคม

  • ให้คำปรึกษาด้านบัญชีและภาษี

  • มีระบบออนไลน์สะดวก รวดเร็ว – สามารถส่งเอกสารทาง Line / E-mail ได้ และมีบริการให้คำปรึกษาผ่าน Line หรือโทรศัพท์

  • ทีมงานมืออาชีพ ประสบการณ์มากกว่า 20 ปี – มีผู้สอบบัญชี (CPA) และผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีคอยดูแลตลอดการบริการ


สโคปในการทำงาน


หากพูดถึงสโคปในการทำงานของ นรินทร์ทอง ทางเราให้บริการด้านบัญชีและภาษีอย่างครบวงจร โดยมีขอบเขตการทำงานหลักๆ ดังนี้

1. บริการรับทำบัญชีรายเดือน
2. บริการยื่นภาษีและประกันสังคม
3. บริการยื่นภาษีประจำปี
4. บริการยื่นงบการเงินและเอกสารที่เกี่ยวข้อง
5. บริการให้คำปรึกษาด้านบัญชีและภาษี
6. บริการบัญชีออนไลน์


อ่านสโคปในการทำงาน ของ นรินทร์ทอง แบบละเอียดคลิกที่นี่



ราคาของบริษัทนริทร์ทอง การบัญชีและกฎหมาย


  • บริการรับทำบัญชีรายเดือน เริ่มต้นที่ 3,500 บาทต่อเดือน – ทางสำนักงานบัญชีจะรับเอกสารจากลูกค้า และ บันทึกบัญชี ส่งภาษีอากร ดูแลประกันสังคม ปิดงบการเงิน


  • บริการให้คำปรึกษาด้านบัญชีและภาษี เริ่มต้นที่ 10,000 บาท – ให้คำปรึกษาในการวางแผนการทำบัญชี


  • บริการบัญชีออนไลน์ – ลูกค้าจัดส่งเอกสารผ่านโปรแกรมบัญชีออนไลน์ ไกลแค่ก็ทำบัญชีกับ นรินทร์ทอง ได้


สนใจอยากทำบัญชีกับ บริษัทนริทร์ทอง คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่



สรุป นรินทร์ทอง รับทําบัญชีกรุงเทพ


การเลือกใช้บริการทำบัญชีกับ “นรินทร์ทอง สำนักงานบัญชีและกฎหมาย” มีหลายเหตุผลที่ทำให้หลายบริษัทในกรุงเทพฯ และปริมณฑลไว้วางใจ เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมั่นคง เพราะฉะนั้นหากคุณต้องการทีมที่ “ดูแลธุรกิจเหมือนเป็นของตัวเอง” และสามารถไว้วางใจได้ทั้งเรื่องบัญชีและภาษี สำนักงานบัญชี บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด เป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือ เพราะเราให้บริการ รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339


24


การ “เพิ่มทุนจดทะเบียน” บริษัท เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายสาขา ขยายทีมงาน รวมถึงขยายโอกาสการเติบโตทางธุรกิจมากขึ้น หากคุณมีแนวทางขยายธุรกิจ  และต้องการทราบขั้นตอนเพิ่มทุนจดทะเบียน นรินทร์ทอง ได้รวบรวมข้อมูลมาให้คุณแล้ว

ทำความเข้าใจเหตุผลการ เพิ่มทุนจดทะเบียน สำหรับธุรกิจ คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่


เพิ่มทุนจดทะเบียน ควรทำเมื่อไร


1. เห็นทิศทางการเติบโต ไม่อยากกู้เงินธนาคาร
หากคุณเริ่มเห็นทิศทางการเติบโตสำหรับยอดขายในอนาคต แต่ทว่าต้องมาถึงจุดที่ต้องตัดสินใจว่า จะหาเงินทุนจากแหล่งไหนดี การจดทะเบียนเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเดิมก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

2. ขยายโอกาส เพิ่มพาร์ทเนอร์รายใหม่
สำหรับบริษัทที่อยากขยายตัว แต่การเติบโตจำเป็นต้องใช้ Connection หรือใช้ Know-How จากบุคคลภายนอก การจดทะเบียนเพิ่มทุน อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้สัดส่วนผู้ถือหุ้นที่เป็นเจ้าของเดิมลดลง

3. บริษัทขาดทุนสะสม ขาดสภาพคล่อง
บริษัทกำลังขาดสภาพคล่อง เนื่องจากการขาดทุนสะสมต่อเนื่อง การเพิ่มทุนจดทะเบียน ก็ถือว่าเป็นการเพิ่มทุนเข้าไปในบริษัทให้สามารถเติบโตต่อไปได้


เรียนรู้แนวทางการ เพิ่มทุนจดทะเบียน สำหรับธุรกิจ คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่



ขั้นตอนการเพิ่มทุนจดทะเบียน


1. ทางบริษัทจะต้องออกหนังสือนัดประชุม
โดยออกหนังสือนัดประชุม ที่มีการแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วัน หรือตามที่บริษัทได้กำหนดเอาไว้ 

2. ลงประกาศหนังสือพิมพ์
ประกาศแจ้งนัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นผ่าน “หนังสือพิมพ์รายวัน” เพื่อพิจารณามติ เพิ่มทุนจดทะเบียน   

3. จัดประชุมผู้ถือหุ้น
ต้องมี “มติพิเศษ” เห็นชอบจากผู้ถือหุ้น (เสียงไม่น้อยกว่า 3/4 ของผู้ถือหุ้นที่เข้าประชุม) เพื่ออนุมัติเรื่องการเพิ่มทุน, แก้หนังสือบริคณห์สนธิ และออกหุ้นเพิ่ม

4. จัดทำคำขอจดทะเบียน
ต้องทำหลังจากการประชุมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถือว่าเป็นช่วงที่คุณต้องทำการเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องเอาไว้ให้เรียบร้อย 

5. ยื่นจดทะเบียนเพิ่มทุน กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ต้องยื่นกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ภายใน 14 วัน นับจากวันประชุมผู้ถือหุ้น โดยคุณสามารถยื่นจดทะเบียนได้ที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจทั้ง 7 เขต หรือ ทางอิเล็กทรอนิกส์

อยากเข้าใจขั้นตอนการ เพิ่มทุนจดทะเบียน แบบละเอียด คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่


เอกสารที่ต้องใช้ในการเพิ่มทุน



  • แบบ บอจ. 1 : คำขอการจดทะเบียนบริษัทจำกัด

  • แบบคำรับรองการจดทะเบียนบริษัทจำกัด

  • แบบ บอจ.4 : รายการจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติม และ/หรือ มติพิเศษ

  • หนังสือบริคณห์สนธิที่ทำการแก้ไขแล้ว 1 ฉบับ

  • หลักฐานการอนุญาตให้เพิ่มทุน (ในกรณีที่ประกอบธุรกิจที่เฉพาะ)

  • สำเนาหลักฐานที่มีการรับชำระค่าหุ้น เพิ่มทุนของบริษัทที่ให้กับผู้ถือหุ้น

  • คำสั่งศาล (ในกรณีที่ฟื้นฟูกิจการ)

  • สำเนาบัตรประชาชน ของกรรมการที่ลงชื่อขอจดทะเบียน

  • สำเนาหลักฐานการเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ (ถ้ามี)


สนใจเรื่องการ เพิ่มทุนจดทะเบียน บริษัท แนะนำปรึกษาที่ นรินทร์ทอง

โดยสรุปแล้ว “การเพิ่มทุนจดทะเบียน” คือการทำให้บริษัทสามารถรับเงินทุนเข้าสู่กิจการมากขึ้น โดยต้องมีมติผู้ถือหุ้น และยื่นจดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจ ทว่าต้องมีการทำงานตามขั้นตอน ทว่าต้องมีการทำงานตามขั้นตอน และมีการจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยในด้านนี้ ขอแนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด ตัวช่วยที่สามารถให้คุณได้ประหยัดระยะเวลาของการทำงาน และหมดปัญหากับความยุ่งยากที่ต้องเจอ ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

25


บริษัท นรินทร์ทอง บทความนี้เราจะชวนทุกคน มาไขข้อสงสัย พร้อมแนะนำรูปแบบการจดทะเบียน ทั้งแบบ บริษัทจำกัด กับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก) ว่าต่างกันยังไง? เพื่อให้คุณสามารถเลือกจดทะเบียนได้ถูกต้อง

เรียนรู้วิธีการจดทะเบียนบริษัทจำกัด กับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพิ่มเติมคลิกอ่านที่นี่


หจก กับ บริษัท ต่างกันยังไง?


1 . อย่างแรกเลยนั่นก็คือ จำนวนผู้ร่วมลงทุน (จำนวนผู้ถือหุ้นหรือผู้ก่อตั้ง)
  • บริษัทจำกัด : ผู้ร่วมลงทุนหรือว่าผู้ถือหุ้นจะต้องมีอย่างน้อย 3 คนขึ้นไป
  • ห้างหุ้นส่วนจำกัด : ต้องมีผู้ร่วมลงทุนหรือผู้ถือหุ้น 2 คน ขึ้นไป


2. การลงทุนระหว่าง หจก กับ บริษัท
  • บริษัทจำกัด : การลงทุนแบบการจดทะเบียนบริษัท สามารถจัดตั้งบริษัทได้โดยหุ้นขั้นต่ำที่ 15 บาทขึ้นไป และหุ้นสามารถโอนให้แก่กัน หรือ โอนให้แก่บุคคลภายนอกได้
  • ห้างหุ้นส่วนจำกัด : ในส่วนของห้างหุ้นส่วนจะแบ่งเป็น 2 ประเภทนั่นก็คือ
– หุ้นส่วนที่ไม่จำกัดความรับผิดชอบ หรือ  หุ้นส่วนผู้จัดการ : หุ้นส่วนผู้จัดการจะมีอำนาจในการบริหารงานทั้งหมด และสามารถลงทุนได้ด้วยแรงงาน ทรัพย์สิน และเงินสด เป็นต้น
– หุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดชอบ หรือ หุ้นส่วนทั่วไป : หุ้นส่วนทั่วไปจะไม่มีอำนาจในการบริหารหรือตัดสินใจ ส่วนการลงทุนของหุ้นส่วนทั่วไป สามารถลงทุนได้แค่ทรัพย์สิน และเงินสดเท่านั้น
3. ความรับผิดชอบ
  • บริษัทจำกัด : ผู้ถือหุ้นแต่ละคนรับผิดจำกัดไม่เกินจำนวนเงินที่ลงหุ้น
  • ห้างหุ้นส่วนจำกัด : ในส่วนของหุ้นส่วนผู้จัดการ ต้องร่วมกันรับผิดไม่จำกัดจำนวน (รวมถึงทรัพย์สินส่วนตัวด้วย) แต่หุ้นส่วนทั่วไปรับผิดแค่เงินที่ตัวเองได้ลงทุนไว้

4. ค่าธรรมเนียม
  • บริษัทจำกัด : ค่าธรรมเนียมจัดตั้งจะอยู่ที่ 5,000 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
  • ห้างหุ้นส่วนจำกัด : ค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 1,000 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)



5. การปิดงบการเงินประจำปี
  • การปิดงบการเงินประจำปีของ บริษัท จำกัด : สามารถให้ผู้สอบบัญชี (CPA) เซ็นรับรองงบการเงินได้
  • การปิดงบการเงินประจำปีของ ห้างหุ้นส่วน จำกัด : สามารถให้ผู้สอบบัญชี (CPA) หรือสามารถให้ผู้สอบบัญชีภาษีอากร (TA) เซ็นรับรองงบการเงินได้

6.อัตราภาษี
การจดทะเบียน บริษัทจำกัด กับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ต้องเสียอัตราภาษีก้าวหน้า 15%-30% และต้องส่งรายงานบัญชีให้กรมสรรพากร

7. ความน่าเชื่อถือ
  • บริษัทจำกัด : สูง
  • ห้างหุ้นส่วนจำกัด : ปานกลาง


อ่านวิธีการ การจดทะเบียนบริษัทจำกัด กับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แบบละเอียด เพิ่มเติมคลิก



สรุปแล้วการจดทะเบียนแบบไหนเด่น และดีด้านไหนบ้าง ?





  • บริษัทจำกัด : มีความน่าเชื่อถือมากกว่า เพราะมีแบบแผน มีความมั่นคง เหมาะกับธุรกิจที่ต้องติดต่อกับคนจำนวนมากๆ และข้อดีอีกอย่างก็คือ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากกว่า
  • ห้างหุ้นส่วนจำกัด : มีความได้เปรียบกว่าในเรื่องของการดำเนินงาน เพราะไม่จำเป็นต้องมีการประชุมลงมติ ทำให้การตัดสินใจสามารถทำได้เร็ว และมีความยืดหยุ่นมากกว่า เหมาะสำหรับธุรกิจเล็กๆ นอกจากนี้ยังมีขั้นตอนการจดทะเบียนที่ง่ายกว่า และมีค่าธรรมเนียมถูกกว่าด้วย


เรียนรู้วิธีการจดทะเบียนบริษัทจำกัด กับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพิ่มเติมคลิกอ่านที่นี่




อยากจดทะเบียน บริษัท กับ ห้างหุ้นส่วน เลือกทำที่นรินทร์ทอง

บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด เราเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชี และภาษี รวมไปถึงการจดทะเบียนนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบ บริษัท หรือห้างหุ้นส่วน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี ทำให้มั่นใจได้เลยว่าหากเลือกใช้บริการกับเรา จะทำให้ธุรกิจของคุณพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดดแน่นอน อยากเติบโตในธุรกิจเลือก Narinthong !!

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339




26


การจดทะเบียนบริษัทจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะเราสามารถ จดทะเบียนบริษัทออนไลน์ ผ่านระบบ DBD Biz Regist ได้ด้วยตัวเอง สำหรับใครที่ต้องการศึกษาหาข้อมูลก่อนจดทะเบียน  บริษัท นรินทร์ทอง รวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการ จดบริษัทออนไลน์ ไว้ในบทความนี้

เรียนรู้วิธีการ จดบริษัทออนไลน์ ผ่านระบบ DBD Biz Regist เพิ่มเติมคลิก


DBD Biz Regist คืออะไร


คือ ระบบจดทะเบียนนิติบุคคลดิจิตอล โดยกรมพัฒนาการค้า หากคุณต้องการจดทะเบียนบริษัท ผ่านระบบ DBD Biz Regist แนะนำให้ใช้ ThaiD เพราะคุณสามารถใช้ข้อมูลจาก ThaiD ตั้งแต่ขั้นตอนแรก ไปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย



อ่านเอกสารที่ต้องใช้ในการ จดบริษัทออนไลน์ ผ่านระบบ DBD Biz Regist เพิ่มเติมคลิก


ค่าใช้จ่ายในการจดบริษัท

การจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ ผ่านระบบ DBD Biz Regist จะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 6,400 บาท / จด หจก. อีก 1,500 บาท

สำหรับใครที่ต้องการจ้างจดทะเบียนบริษัท ผ่านทางออนไลน์ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ค่าใช้จ่ายการจดทะเบียนบริษัท

ขั้นตอนการ จดทะเบียนบริษัทออนไลน์ ผ่าน DBD Biz Regist


  • ทำการสมัครสมาชิก โดยมีให้เลือก 2 ส่วนคือ
1. สมัครสมาชิกเป็น “ผู้แทนจดทะเบียน”
2. สมัครสมาชิกเป็น “ผู้รับรองลายมือชื่อ”

  • โดยทั่วไปผู้ที่ต้องการจดทะเบียนจะเลือก “สมัครสมาชิกเป็นผู้แทนจดทะเบียน” หากไม่อยากกรอกข้อมูลเยอะ สามารถเข้าสู่ระบบด้วย Digital ID ได้ และเลือก ThaiD

  • จากนั้นจะมี QR Code ขึ้นมา


  • หลังอ่านเงื่อนไข > กดยินยอม > กดยอมรับ และสามารถดำเนินการต่อได้เลย

หลังจากเข้าสู่ระบบด้วย Digital ID ระบบจะกลับมาที่หน้าแรก ให้เลือก ‘สมัครสมาชิกเป็นผู้แทนจดทะเบียน’ เช่นเดิม

  • จากนั้นจะเห็นข้อมูลส่วนตัวขึ้นมาอัตโนมัติ > กดดำเนินการต่อ

  • กรอกเบอร์โทรศัพท์ และกรอกที่อยู่ในประเทศไทย

  • จากนั้นระบบจะให้ยืนยันการส่งข้อมูลอีกครั้ง > กดดำเนินการต่อ

  • ทางระบบจะส่ง PIN Code ให้ทาง E-Mail จากนั้นใส่ PIN Code ที่ได้รับและกดยืนยัน ทางเว็บไซต์จะขึ้นว่า ‘ลงทะเบียนสำเร็จ’


ขั้นตอนที่ 1 ระบุข้อมูลบริษัท


  • เข้ามาที่หัวข้อ ‘จัดตั้งบริษัท’ หากต้องการจดบริษัททันที เลือกหัวข้อ ‘จดหนังสือบริคณห์สนธิพร้อมจัดตั้งบริษัท’


  • รายการข้อมูลที่จำเป็น ต้องเตรียมก่อนจดจัดตั้งนิติบุคคลขึ้นมา ให้กดรับทราบด้านล่าง และกดดำเนินการต่อ
  • ระบุข้อมูลบริษัท ในขั้นตอนนี้ให้เริ่มจากการระบุข้อมูล ‘ชื่อบริษัท’ หากใครต้องการตั้งชื่อเฉพาะ ต้องจองชื่อในกรมธุรกิจารค้าก่อน
  • ตราประทับของบริษัท หากไม่มีให้กด ‘ไม่มี’ และถ้าบริษัทไหนมีให้กด ‘มี’ และแนบรูปแบบตราประทับ


  • ทุนบริษัท ะหมายถึง ทุนจดทะเบียนต่อหุ้น มูลค่าหุ้นขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 5 บาท
  • ทำการกรอกข้อมูลที่ตั้ง เมื่อกรอกเรียบร้อยแล้วกดดำเนินการต่อ จากนั้นระบบจะส่ง PIN Code ให้ทาง E-Mail เพื่อกดยืนยัน

ขั้นตอนที่ 2 เพิ่มข้อมูลบุคคลในบริษัท[/center]
  • ระบุข้อมูลส่วนตัวผู้เริ่มก่อการ (เริ่มจัดตั้งบริษัทต้องมีอย่างน้อย 2 คน) หากกรอกข้อมูลขั้นตอนแรกครบถ้วน ระบบจะขึ้นข้อมูลส่วนตัวให้อัตโนมัติ แต่ต้องระบุข้อมูลตรง ‘อาชีพ’ เพิ่มเติม สำหรับผู้เริ่มก่อการคนที่ 2 จะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวเพิ่มเติม


  • กรอกข้อมูลผู้ถือหุ้น หากมีมากกว่าผู้เริ่มก่อการ สามารถเพิ่มรายชื่อผู้ถือหุ้นได้ ในส่วนของขั้นตอนนี้ให้ทำการกรอก ‘จำนวนหุ้น’ (ต้องตรงกับข้อเท็จจริง) และ ‘จำนวนเงินที่ชำระค่าหุ้น’ (ชำระแล้วต้องไม่ต่ำกว่า 25%)


  • กรอกข้อมูลกรรมการ เป็นได้ทั้งผู้ถือหุ้นและไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้น หากเป็นผู้ถือหุ้นให้เลือก ‘ชื่อกรรมการจากรายชื่อผู้ถือหุ้น’ หากไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้น ให้เลือก ‘ตั้งบุคคลอื่นเป็นกรรมการ’


ขั้นตอนที่ 3 สร้างเอกสาร[/center]
  • เลือกวัตถุประสงค์ของธุรกิจ เป็นวัตถุประสงค์เฉพาะ หากทำธุรกิจตรงกับหัวข้อไหนในระบบสามารถกดเลือกได้เลย แต่ถ้าธุรกิจของเราเป็นธุรกิจทั่วไป ให้เลือก ‘ไม่ใช่ธุรกิจพิเศษ’ จากนั้นจะมีวัตถุประสงค์ขึ้นมา ให้เลือกวัตถุประสงค์ที่ตรงกับประเภทธุรกิจ
  • เลือกรหัสธุรกิจ ค้นหารหัสที่มีหมวดหมู่ตรงกับธุรกิจของคุณ จากนั้นทำการกดบันทึก และดำเนินการต่อ
  • สร้างข้อบังคับของบริษัท ถ้ามี ให้เลือก ‘มีข้อบังคับ’ ทางระบบมีให้เลือกทั้งแบบสำเร็จรูป และกำหนดเอง แต่ถ้าไม่มีข้อบังคับ ให้เลือก ‘ไม่มีข้อบังคับ’ หมายถึงยึดตามกฎหมายเป็นหลัก
  • รายละเอียดการประชุม เป็นขั้นตอนที่ต้องกรอกรายละเอียดต่างๆ ตั้งแต่วันที่ประชุมจัดตั้งบริษัท, เวลาเปิด – ปิดการประชุม, สถานที่ประชุม, ข้อมูลประธานที่ประชุม, ค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งบริษัท, ข้อมูลผู้สอบบัญชี

ขั้นตอนที่ 4 ข้อมูลการประกอบธุรกิจ[/center]
  • ข้อมูลประกอบธุรกิจ ในหัวข้อแรกจะขึ้นมาว่า รายการอื่นซึ่งเห็นสมควรให้ประชาชนทราบ ให้ตอบว่า ‘ไม่มี’ และถัดมาคือ แบบบันทึกคำขอ ในส่วนนี้คุณสามารถเลือกจดบริษัทพร้อมจด Vat ได้

ขั้นตอนที่ 5 สรุปข้อมูลทั้งหมด[/center]
ในขั้นตอนนี้ หากใครที่จดทะเบียนบริษัท แนะนำว่าควรปริ้นเอกสารในส่วนนี้เก็บไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐาน เมื่อคำขอตรวจสอบผ่านจากนั้น ให้กด ‘ขั้นตอนถัดไป’ จากนั้นทางระบบจะมีให้เลือก 3 ช่องทาง คือ
1. ยื่นจดทะเบียนออนไลน์
2. ยื่นแบบต่อหน้านายทะเบียน
3. ยื่นโดยแนบเอกสารเข้าระบบ
ช่องทางที่สะดวกที่สุดคือ ยื่นจดทะเบียนออนไลน์ ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ หลังจากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอน ‘ชำระเงิน’
อ่านรายละเอียดวิธีการ จดบริษัทออนไลน์ ผ่านระบบ DBD Biz RegistRegist แบบเจาะลึกคลิก


 
อยากได้ที่ปรึกษา จดทะเบียนบริษัทออนไลน์ แบบส่วนตัว แนะนำที่ นรินทร์ทอง
สำหรับใครที่ทำธุรกิจแล้วอยากได้ที่ปรึกษา ในการ จดทะเบียนบริษัทออนไลน์ แบบส่วนตัว แนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัดสำนักงาน รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339



27

1. ให้บริการมามากกว่า 20 ปี
2. ผ่านหลักสูตรจาก DBD
3. ให้บริการด้านบัญชี และ ภาษีครบวงจร
4. บริการและใส่ใจลูกค้า

สนใจทำบัญชี กับ นรินทร์ทอง คลิกที่นี่เลย


ขั้นตอนการทำบัญชี รับทำบัญชี กับ Narinthong มีขั้นตอนดังนี้

1. รับเอกสาร ตรวจสอบเอกสาร ติดตามเอกสารที่ได้รับให้ครบถ้วนพร้อม สำหรับการทำบัญชี

2. ให้คำปรึกษาก่อนเริ่มบันทึกบัญชี แนะนำแนวทางการบันทึกบัญชี เพื่อประหยัดภาษี ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
 
3. เริ่มทำบันทึกบัญชี  รายเดือน รายปี จัดทำรายละเอียดเพื่อให้รู้ผลประกอบการ โครงสร้างของธุรกิจ เพื่อดำเนินธุรกิจในระยะยาว พร้อมทั้งทำข้อมูลประกอบการปิดงบการเงิน

4. ตรวจสอบความถูกต้อง  ของเอกสารทางบัญชี รายการที่บันทึกบัญชี และแนะนำการลงค่าใช้จ่ายเพื่อประหยัดภาษี

5. ส่งงบให้ผู้สอบบัญชี ให้ผู้สอบให้ความเห็นต่องบการเงินที่เกิดขึ้น เพื่อให้ได้มาตราฐาน และ มีความน่าเชื่อถือ ผ่านผู้สอบบัญชีมืออาชีพ *ราคาในดำเนินการสอบบัญชีไม่รวมในค่าทำบัญชี*

6. นำส่งงบการเงิน ช่วยผู้ประกอบการส่งงบการเงินแก่สรรพากร ให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาในด้านบัญชี และ ภาษี พร้อมทั้งให้คำปรึกษาในกรณีที่เกิดปัญหา

อ่านรายละเอียด ขั้นตอนการทำบัญชี เพิ่มเติม ได้ที่นี่


ขอบเขตการ รับทำบัญชี ที่เราให้บริการ

บริการทำบัญชีครบวงจร ครอบคลุมทุกด้าน

  • ทางสำนักงานบัญชีให้คำปรึกษาแนะนำ การออกเอกสารที่เกี่ยวข้องกับบัญชีอย่างเป็นระบบ เช่น การออกแบบ ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับ ใบเสร็จ รับ เงิน ใบสำคัญรับ-จ่าย เพื่อให้ได้มาตรฐาน

  • รับเอกสารจากทางลูกค้า โดยลูกค้าสามารถทำจัดการจัดส่งผ่านไปรษณีย์ หรือส่งทางขนส่งมาตรฐานให้กับทางสำนักงานบัญชีนรินทร์ทอง หากประสงค์ส่งในรูปแบบออนไลน์สามารถแสกนผ่านข้อมูลผ่านทาง Google Drive หรือ โปรแกรมบัญชีที่รองรับ *ในกรณีที่ต้องการส่งเอกสารมายัง สำนักงานสามารถใช้บริการเรียกรถผ่านแอพพลิเคชั่น ตามค่าใช้จ่ายจะถูกคิดตามระยะทางจริง*

  • โดยทางสำนักงานจะตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร ก่อนการเริ่มทำการบันทึกบัญชี

  • เรามีบริการทำบัญชีครบวงจรที่ครอบคลุมทุกด้าน ของการจัดการบัญชีสำหรับธุรกิจของคุณ

  • จัดทำภาษีเงินเดือน ภงด 1 และ ภาษีหัก ณ ที่ จ่าย ภงด.3 ภงด.53

  • จัดทำแบบประกันสังคม และ ยื่นแบบทางอินเตอร์เน็ต

  • จัดทำภาษีมูลค่าเพิ่ม และ ยื่น ภพ 30 กับสรรพากร

  • จัดทำรายงานภาษีซื้อ-ภาษีขาย ประจำเดือน

  • ทำการปิดบัญชี ส่งงบการเงินประจำปี


จัดทำรายละเอียด ประกอบงบการเงิน

  • รายละเอียดทรัพย์สิน

  • รายละเอียดเจ้าหนี้ ลูกหนี้

  • รายงานสินค้าคงเหลือ (ในกรณีที่ลูกค้าต้องการรายงานสินค้าคงเหลือ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)


ยื่นเอกสารกรมพัฒนาธุรกิจการค้า(DBD)

  • ยื่นงบการเงิน และ สบช.3

  • ยื่นบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น บอจ.5


ยื่นเอกสารกรมสรรพากร

  • ประมาณการและยื่น ภ.ง.ด.51 (ภาษีกลางปี)

  • จัดทำและยื่น ภ.ง.ด.50 (ภาษีเงินได้นิติบุคคล)



ราคาค่าบริการ รับทำบัญชี และค่าบริการที่เกี่ยวกับบัญชีเพิ่มเติม

เอกสารทางบัญชี 1-50 ชุด
 3,500 บาท / เดือน

  • ทำบัญชีรายเดือนตามมาตราฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป

  • จัดทำเอกสารประกอบการลงบัญชี เช่น สมุดรายวัน แยกประเภทตามมาตราฐานที่กฎหมายกำหนด

  • จัดทำงบการเงินประจำปี พร้อมนำส่งกรมสรรพากร และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า


เอกสารทางบัญชีชุดที่ 51-100 ชุด
4,500 บาท / เดือน

  • ทำบัญชีรายเดือนตามมาตราฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป

  • จัดทำเอกสารประกอบการลงบัญชี เช่น สมุดรายวัน แยกประเภทตามมาตราฐานที่กฎหมายกำหนด

  • จัดทำงบการเงินประจำปี พร้อมนำส่งกรมสรรพากร และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า


เอกสารทางบัญชีชุดที่ 151-200 ชุด
5,500 บาท / เดือน

  • ทำบัญชีรายเดือนตามมาตราฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป

  • จัดทำเอกสารประกอบการลงบัญชี เช่น สมุดรายวัน แยกประเภทตามมาตราฐานที่กฎหมายกำหนด

  • จัดทำงบการเงินประจำปี พร้อมนำส่งกรมสรรพากร และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า


เอกสารทางบัญชีชุดที่ 201-250 ชุด
6,500 บาท / เดือน

  • ทำบัญชีรายเดือนตามมาตราฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป

  • จัดทำเอกสารประกอบการลงบัญชี เช่น สมุดรายวัน แยกประเภทตามมาตราฐานที่กฎหมายกำหนด

  • จัดทำงบการเงินประจำปี พร้อมนำส่งกรมสรรพากร และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า


หมายเหตุ : ไม่รวมค่าจัดส่งเอกสาร EMS , ค่าใช้ในการเดินทางรับเอกสาร , ค่าธรรมเนียม และ ภาษี

มองหาสำนักงานบัญชีมากประสบการณ์ แนะนำ นรินทร์ทอง คลิกเพื่ออ่านบทความเต็มได้ที่นี่


28



หากธุรกิจของคุณเริ่มมีรายได้และผลกำไรสูง ควรมีการจดทะเบียนบริษัทเกิดขึ้น แต่ผู้ประกอบการหลายท่านอาจจะยังไม่แน่ใจว่า ต้องมีรายได้เท่าไหร่ ถึงควร จดทะเบียนบริษัท ? วันนี้ นรินทร์ทอง ได้นำข้อมูลเกี่ยวกับการจดทะเบียนบริษัทมาฝากทุกคนในบทความนี้! 
อยากรู้รายละเอียดการ จดทะเบียนบริษัท เพิ่มเติม คลิกที่นี่

เมื่อไรควร จดทะเบียนบริษัท


หากกิจการของคุณเริ่มมีเงินได้สุทธิ (รายได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย) มากกว่า 750,000 บาทขึ้นไป ควรจดทะเบียนบริษัททันที


รายได้ และ อัตราภาษี


การจดทะเบียนบริษัทควรเริ่มทำเมื่อเจ้าของธุรกิจมีเงินได้สุทธิ (รายได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย) 750,000 บาทขึ้นไป ถ้าคุณเป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้สุทธิมากเท่านี้ จะเสียภาษีถึง 35% แต่ถ้าจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท จะเสียภาษีเงินได้เพียง 20% 

เรียนรู้การคำนวณรายได้ และอัตราภาษีเพิ่มเติม คลิกที่นี่


ตัวอย่างการคำนวณรายได้ และ อัตราภาษี แบบนิติบุคคล กับ แบบบุคคลธรรมดา


การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล

วิธีการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล มีสูตรการคำนวณ คือ (รายได้ – ค่าใช้จ่าย) = กำไรสุทธิ จากนั้นนำกำไรสุทธิที่ได้ มาคิดภาษีตามอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล (ทั้งนี้ถ้าหากมีได้กำไร 0 - 300,000 จะได้รับการยกเว้นภาษี 15%)

ยกตัวอย่าง: หากรายได้ทั้งปีมีจำนวน 2,225,000 บาท จะมีวิธีการคำนวณภาษี ดังนี้
Step 1: รายได้ขายสินค้า 2,225,000 - รายจ่าย 1,900,000 บาท = กำไรทางบัญชี 325,000 บาท

Step 2: กำไรทางบัญชี 325,000 บาท - รายการปรับปรุงทางภาษี 0 บาท = กำไรทางภาษี 325,000 บาท

Step 3: กำไรทางบัญชี 325,000 บาท - 3 ล้าน = ภาษีที่ต้องชำระ 3,750 บาท

การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะมีวิธีการคำนวณโดยแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ

แบบที่ 1 (รายได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย หากมีรายได้ประจำช่องทางเดียว อัตราภาษีจะเป็นแบบอัตราขั้นบันได ตั้งแต่ 5 – 35%

แบบที่ 2  (รายได้ทุกประเภท - เงินเดือน) x 0.5% ในกรณีที่มีรายได้ช่องทางอื่น นอกจากรายได้ประจำหรือเงินเดือนตั้งแต่ 120,000 บาทขึ้นไป คิดภาษีแบบเหมา
โดยจะต้องคำนวณภาษีทั้งแบบอัตราขั้นบันได และอัตราเหมา เพื่อนำมาเทียบกันแล้วเลือกยอดภาษีที่ต้องเสีย โดยคิดจากยอดภาษีที่สูงกว่า

หมายเหตุ: หากคำนวณด้วยวิธีคิดแบบเหมาแล้ว มีภาษีที่ต้องเสียทั้งสิ้นไม่เกิน 5,000 บาท จะได้รับการยกเว้นภาษีในวิธีนี้

ยกตัวอย่าง: หากรายได้ทั้งปีมีจำนวน 2,225,000 บาท เลือกหักค่าใช้จ่ายแบบขั้นบันได จะมีวิธีการคำนวณภาษี ดังนี้

Step 1: รายได้ขายสินค้า 2,225,000 - รายจ่าย 1,900,000 บาท - ค่าลดหย่อนภาษี = เงินได้สุทธิ

Step 2: เงินได้สุทธิ x อัตราภาษีขั้นบันได 30% (รายได้ 2M - 5M ขั้นบันได 30%) = ภาษีที่ต้องจ่าย


ค่าใช้จ่าย และความรับผิดชอบที่มากขึ้น หลัง จดทะเบียนบริษัท



  • การเทียบค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการทำบัญชี

หากต้องการเทียบค่าใช้จ่ายในการทำบัญชี ต้องดูว่าในนามบุคคลธรรมดาคุณเสียภาษีสูงสุดเท่าไหร่ในช่วง 5%-35% จากนั้นนำมาเทียบกับค่าใช้จ่ายในการทำบัญชี

  • การเก็บเอกสาร

1. ใบแจ้งหนี้ / ใบกำกับภาษี / ใบเสร็จรับเงิน / หนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย (ที่กิจการให้ลูกค้า)
2. ใบแจ้งหนี้ / ใบกำกับภาษี / ใบเสร็จรับเงิน / หนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย (ที่ได้รับจากคู่ค้า)
3. Bank Statement หรือสมุดบัญชีธนาคาร
4. รายงานสรุปการจ่ายเงินเดือนพนักงาน (กรณีมีพนักงาน)
5. การใช้บริการจ่ายค่าเช่าจากบริษัท / บุคคลอื่น
6. เอกสารสัญญาทุกชนิด
7. รายงานสินค้าคงเหลือ


ถ้าคุณอยากรู้รายละเอียด หลังจดทะเบียนบริษัท เพิ่มเติมคลิกเลย



ข้อดีของการ จดทะเบียนบริษัท รู้ก่อนไม่มีพลาด!

  • จ่ายภาษีน้อยกว่าบุคคลธรรมดา
  • ปีไหนธุรกิจขาดทุนก็ไม่ต้องเสียภาษี
  • มีความน่าเชื่อถือกว่า
  • ขยายธุรกิจได้ง่ายกว่า

หลังจากที่จดทะเบียนบริษัทเป็นนิติบุคคลแล้ว เจ้าของธุรกิจอย่าลืมที่จะให้ความสำคัญกับการทำบัญชีและภาษี โดยพิจารณาเลือกสำนักงานบัญชีที่มีประสบการณ์ เราขอแนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงาน รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339



29



การจะเปิดโรงพยาบาลสัตว์ขึ้นมาสักแห่ง เจ้าของกิจการจำเป็นต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อโรงพยาบาลสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของต้นทุน รายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนต้องมีการวางแผนจัด ทำบัญชีโรงพยาบาลสัตว์ ขึ้นมา วันนี้ทางเรา นรินทร์ทอง บริษัท รับทำบัญชี จึงไม่พลาดที่จะนำเสนอเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับ หลักการทำบัญชีของโรงพยาบาลสัตว์ ให้กับทุกท่านที่สนใจอยากทำกิจการเกี่ยวกับสัตว์ ได้มีการวางแผนทำบัญชีอย่างถูกต้อง

อยากรู้รายละเอียดการ ทำบัญชีโรงพยาบาลสัตว์ เพิ่มเติม คลิกที่นี่เลย!


หลักของ ทำบัญชีโรงพยาบาลสัตว์


ก่อนที่จะเปิดบริษัทแนะนำว่า ควรทำการวางแผนทั้งในเรื่องของการ ทำบัญชีโรงพยาบาลสัตว์ และเรียนรู้เรื่องภาษีก่อน เพื่อเป็นตัวช่วยสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจของคุณ โดยหลักทางบัญชีโรงพยาบาลสัตว์ สิ่งที่จะต้องรู้มีดังนี้

บัญชีต้นทุนของโรงพยาบาลรักษาสัตว์


  • ต้นทุนค่าแรง - คือรายจ่ายของคลินิกที่จ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ เป็นค่าตอบแทนในการปฏิบัติงาน รวมถึงค่าสวัสดิการต่างๆ ที่ต้องจ่ายให้ในรูปของตัวเงิน
  • ต้นทุนค่าวัสดุ - คือค่าใช้จ่ายวัสดุสิ้นเปลืองทุกประเภทที่ใช้ในการดำเนินงาน ได้แก่ ค่ายา, ค่าเวชภัณฑ์, เครื่องมือแพทย์, เครื่องมือวัดชีพจร ฯลฯ รวมถึงค่าบำรุงรักษาเครื่องมือแพทย์
  • ต้นทุนการลงทุน - เป็นต้นทุนที่เกิดจากการก่อสร้างอาคาร และการตกแต่งภายใน โดยบันทึกบัญชีเป็นสินทรัพย์ (Asset) คิดค่าเสื่อมราคาแบบเส้นตรง

การบันทึกข้อมูลรายรับ - รายจ่ายบัญชี ของโรงพยาบาลสัตว์


สามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณีคือ กรณีรายรับที่เกิดจากการให้บริการรักษาสัตว์เลี้ยง และอีกกรณีเป็นรายรับจากการขายอาหารสัตว์ และขายสินค้าให้กับสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ผู้ประกอบการจะต้องนำมาบันทึก เพื่อเป็นรายรับและรายจ่ายในการทำบัญชี
 
หากคลินิกหรือโรงพยาบาลรักษาสัตว์ ที่เสียภาษีเงินได้แบบบุคคลธรรมดา จะสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ตามจริงเท่านั้น จึงต้องเก็บเอกสาร ใบเสร็จต่างๆ ไว้ให้ครบถ้วน และควรลงบันทึกรายรับ-รายจ่ายทุกครั้ง เพื่อให้เป็นหลักฐานตอนยื่นภาษี

ทรัพย์สินโรงพยาบาลสัตว์

โดยส่วนมากจะเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ ได้แก่ เครื่องเอกซเรย์, เครื่องผ่าตัด, เครื่องอัลตราซาวนด์, เครื่องมือวัดชีพจร เครื่องชั่งน้ำหนัก รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ เช่น เครื่องใช้สำนักงานต่างๆ

โครงสร้างรายได้ของโรงพยาบาลสัตว์

โครงสร้างรายได้ของโรงพยาบาลสัตว์ จึงสามารถแบ่งได้เป็น 2 ส่วน ได้แก่

  • รายได้หลัก - มาจากการให้บริการรักษาสัตว์เลี้ยงภายในโรงพยาบาล

  • รายรับเสริม - มาจากการจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับสัตว์ และการให้บริการต่างๆ เช่น การขายอาหารสัตว์ การขายอุปกรณ์ดูแลรักษาสัตว์เลี้ยง หรือการให้บริการอาบน้ำและตัดขนสัตว์ เป็นต้น

โครงสร้างค่าใช้จ่ายโรงพยาบาลสัตว์

1. รค่าใช้จ่ายในการตกแต่งอาคาร  - การตกแต่งหรือซ่อมแซมต่างๆ ภายในอาคาร โดยรายจ่ายเหล่านี้จะต้องนำมาบันทึกค่าใช้จ่าย ฝั่งของบริษัทและต้องคิดค่าเสื่อมราคา
2.  ค่าใช้จ่ายค่าเสื่อมราคาในการดำเนินธุรกิจ  - ของทั้งทางคุณหมอ Full Time / คุณหมอ Outsource / คุณหมอ Part – time / ผู้ช่วยพยาบาล / แอดมิน / แม่บ้าน /พนักงานอาบน้ำ-ตัดขน เป็นต้น ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ จะต้องจัดระบบให้เรียบร้อย
3.  ค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ  - เช่น ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าเช่า, ค่าซ่อมแซมบำรุงรักษา, ค่าที่ปรึกษา, ค่าใช้จ่ายทางด้านการตลาด, รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆ

อ่านรายละเอียด โครงสร้างค่าใช้จ่ายโรงพยาบาลสัตว์ เพิ่มเติม

การจดเข้าภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับสินค้าที่มี Vat และ Non Vat



รายการค่าใช้จ่ายในธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์ที่มี Vat

  • ค่าบริการทางการแพทย์
  • ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์
  • สินค้าต่างๆ ของสัตว์เลี้ยง เช่น ทรายแมว, กระบะทรายแมว, เสื้อผ้าน้องหมาและน้องแมว รวมถึงของใช้ต่างๆ เป็นต้น

รายการค่าใช้จ่ายในธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์ที่ Non Vat

  • ค่ายารักษาสัตว์
  • อาหารสัตว์

สิ่งสำคัญคือทุกครั้งที่มีการออกใบเสร็จรับเงิน หรือออกใบกำกับภาษีให้ลูกค้า จะต้องมีการบันทึกข้อมูลอย่างละเอียด เพราะข้อมูลทุกอย่างจะต้องนำรายงานส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม และแบบภาษี ภพ.30 ทุกเดือน

ทำความเข้าใจ โครงสร้างค่าใช้จ่ายโรงพยาบาลสัตว์ เพิ่มเติม

หาที่ปรึกษาด้านการ ทำบัญชีโรงพยาบาลสัตว์ แนะนำที่ นรินทร์ทอง

โดยสรุปแล้วจะเห็นว่า การเปิดโรงพยาบาลสัตว์หรือคลินิกรักษาสัตว์ขึ้นมาสักแห่งหนึ่ง เจ้าของธุรกิจจะต้องใส่ใจรายละเอียดในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะการ ทำบัญชีโรงพยาบาลสัตว์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นข้อมูลทางด้านธุรกรรมที่มีหลายขั้นตอน และมีความละเอียดอ่อน หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาอาจส่งผลเสียต่อตัวธุรกิจได้โดยตรง ดังนั้นถ้าคุณอยากได้ที่ปรึกษาด้าน การทำบัญชี ส่วนตัว ขอแนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงาน รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตและมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339



30

การทำบัญชีไม่ใช่แค่การทำเอกสารส่งสรรพากรเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วก็การทำบัญชี เป็นตัวช่วยในการบริหารงานที่สำคัญไม่แพ้กับ การพัฒนาสินค้าบริการ และการทำการตลาด ดังนั้นสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ยังไม่เริ่มทำบัญชี ห้ามพลาดกับ ประโยชน์ของการทำบัญชี กับเรานรินทร์ทอง

เรียนรู้ประโยชน์ของการทำบัญชี กับเราเพิ่มเติมได้ที่นี่


ประโยชน์ของการทำบัญชี


ช่วยให้เห็นภาพผลการดำเนินการของกิจการ
กิจการของเรามีรายรับ รายจ่าย ได้กำไร หรือ ขาดทุน มีรายได้จากสินค้าและบริการอะไรเป็นหลัก


เป็นเครื่องมือที่สามารถนำมาใช้และตัดสินใจในธุรกิจ
  • ช่วยให้คุณสามารถติดตาม และจัดการกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ทำให้เราเห็นต้นทุนของสินค้าและบริการนั้นๆ ได้ชัดเจน
  • ช่วยให้คุณสามารถวางแผนทางการเงินได้อย่างแม่นยำ

ทำความเข้าใจการทำบัญชี ประโยชน์ที่ช่วยต่อยอดธุรกิจ เพิ่มเติมคลิกที่นี่



การทำบัญชีเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบกิจการ
เนื่องจากการทำบัญชี หรือ การบันทึกบัญชี จะทำให้เราสามารถตรวจสอบข้อผิดพลาดต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้


การหาแหล่งเงินทุน
สามารถนำรายงานบัญชีไปเป็นข้อมูลสำหรับการขอสินเชื่อ ธนาคาร สถาบัญทางการเงินต่างๆ เพื่อพิจารณาการให้สินเชื่อ

อยากสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง เรียนรู้การจ้างสำนักงานบัญชีคลิกที่นี่


สรุป ประโยชน์ของการทำบัญชี ที่มีดีมากกว่าที่คุณคิด

การทำบัญชีไม่ใช่แค่การเก็บข้อมูลทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการบริหารจัดการธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงานรับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตและมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

31

การทำบัญชีเป็นส่วนสำคัญของการดำเนินธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ถ้าหากใครที่ทำบัญชีด้วยตัวเอง แล้วเริ่มซับซ้อนไม่ตอบโจทย์ ไม่รู้ว่าจะเริ่ม จ้างทำบัญชี ตอนไหน แล้วจะจ้างเป็นพนักงาน หรือจ้างสำนักงานบัญชี ไปเลย บทความนี้จะช่วยคุณตัดสินใจ กับเรานรินทร์ทอง

อ่านรายละเอียดการจ้างทำบัญชีเพิ่มเติม อ่านบทความเต็มๆ ที่นี่

เมื่อไรควร จ้างทำบัญชี?


  • ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว: การจ้างทำบัญชีจะช่วยให้คุณมีเวลามากขึ้น ในการเน้นไปที่การขยายธุรกิจ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการ
  • ความซับซ้อนของการทำบัญชีเพิ่มขึ้น: เมื่อธุรกิจขยายและมีการทำธุรกรรมทางการเงินที่ซับซ้อน เช่น การจัดการภาษี การจ่ายเงินเดือน และการจัดทำรายงานทางการเงิน รวมถึงธุรกิจบางประเภทที่ต้องรู้เรื่องภาษีเฉพาะทาง
  • ขาดความรู้และทักษะทางบัญชี: การจ้างมืออาชีพมาช่วยดูแลการเงิน จะช่วยให้คุณมั่นใจในความถูกต้อง และช่วยคุณประหยัดเวลา

ปัจจัยในด้านขนาดธุรกิจแบบไหนควร จ้างทำบัญชี

สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
รายได้ยังไม่เกิน 1.8 ล้านต่อปี ธุรกิจมีรูปแบบที่ไม่ซับซ้อน มีจำนวนบิลไม่มากเนื่องจากธุรกิจพึ่งมีการดำเนินการ อยู่ในรูปแบบบุคคลธรรมดา แบบนี้แอดมินแนะนำให้ ศึกษาการทำบัญชี และ ยื่นภาษีได้เอง ยังไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องจ้างสำนักงานบัญชี

สำหรับธุรกิจขนาดกลาง
มีการจดทะเบียนนิติบุคคล หจก หรือ บจก และมีรายได้มากกว่า 1.8 ล้าน/ต่อปี ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เริ่มมีรายได้สูง และ เริ่มมีพนักงานหลายคน มีจำบิลซื้อ และ ขายเป็นจำนวนมาก

เรียนรู้ปัจจัยการจ้างทำบัญชี สำหรับธุรกิจแต่ละขนาด เพิ่มเติมคลิกที่นี่


เลือกทำบัญชีเอง จ้างพนักงาน หรือ จ้างสำนักงานบัญชี แบบไหนดีกว่ากัน

ทำบัญชีเอง:

ข้อดี
  • ประหยัดค่าใช้จ่าย
  • สามารถควบคุณได้ง่าย
  • ได้ความรู้
ข้อเสีย
  • มีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดสูง

*ซึ่งเจ้าของธุรกิจจำเป็นจะต้องจ้างผู้ทำบัญชี  และ ผู้สอบบัญชี ไม่สามารถปิดงบการเงินได้ด้วยตัวเองจำเป็นจะต้องจ้างซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ *

จ้างพนักงานทำบัญชี:

ข้อดี
  • ความต่อเนื่องและความเชื่อถือ
  • การให้คำปรึกษาทางการเงิน
ข้อเสีย
  • มีค่าใช้จ่าย

จ้างสำนักงานบัญชี:

ข้อดี
  • มืออาชีพและความเชี่ยวชาญ
  • ช่วยประหยัดเวลา
  • ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง
ข้อเสีย
  • ความยืดหยุ่นจะน้อยกว่าแบบอื่นๆ


เลือกแนวทางการทำบัญชีที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่!


สรุป
การจ้างทำบัญชีเราจะจ้างได้ เมื่อกิจการมีความพร้อม พร้อมทั้งในส่วนของรายได้ และ เหมาะกับสถานการณ์ในช่วงนั้นๆ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงาน รับทำบัญชี ทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตและมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

32




หลังเปิดบริษัทแล้วต้องทําอะไรบ้าง ? ซึ่งทาง นรินทร์ทอง ในฐานะที่เราเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านการจัดทำบัญชี และจดทะเบียนบริษัท จึงอยากมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับ สิ่งที่ต้องทำหลังการจดทะเบียนบริษัท เพื่อให้เจ้าของธุรกิจได้ทราบถึงขั้นตอนต่างๆ ที่ต้องทำหลังจากนั้น

ข้อควรรู้ หลังเปิดบริษัทแล้วต้องทําอะไรบ้าง อ่านบทความเต็มๆ ได้ที่นี่


หลัง เปิดบริษัทแล้วต้องทําอะไรบ้าง ?



1. จัดประชุมผู้ถือหุ้น
สำหรับบริษัทจำกัด นับจากวันที่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล จะต้องมีการประชุมสามัญครั้งแรก ภายใน 6 เดือนนับจากวันที่จดทะเบียนบริษัท ส่วนการจัดประชุมในครั้งต่อๆ ไป จะต้องจัดประชุมอย่างน้อยหนึ่งครั้งทุกๆ 12 เดือน

2. จัดทำใบหุ้นและสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น
  • ใบหุ้น คือ เอกสารที่ต้องระบุข้อมูลต่างๆ ของการเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท
  • สมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น คือ สมุดแสดงรายการข้อมูลหุ้นตั้งแต่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ที่มีข้อมูลตั้งแต่ขั้นตอนการจัดตั้ง, มีรายการเพิ่มทุน-ลดทุน, การโอนหุ้น รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น

3. จัดทำบัญชีตามที่กฏหมายกำหนด
  • บัญชีรายวัน ได้แก่ บัญชีเงินสด, บัญชีธนาคาร, บัญชีรายวันซื้อ, บัญชีรายวันขาย และบัญชีรายวันทั่วไป
  • บัญชีแยกประเภท ได้แก่ หนี้สิน, ทุน, รายได้ และค่าใช้จ่ายลูกหนี้ เจ้าหนี้
  • บัญชีสินค้า และ สต็อกสินค้า
  • บัญชีอื่นๆ ตามรูปแบบของบริษัท

4. จัดหาผู้ทำบัญชีของบริษัท
ทางบริษัทจะต้องมีการจัดทำบัญชี ที่แสดงข้อมูลผลประกอบการที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง และตรงตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน

5. จัดส่งเอกสารให้ผู้ทำบัญชีเพื่อปิดบัญชี
ในส่วนนี้เป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการ ที่จะต้องมอบเอกสารทั้งหมดให้ผู้ทำบัญชี เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการลงบัญชีในทุกๆ เดือน

6. จัดทำงบการเงิน
บริษัทจะต้องปิดงบการเงินในทุกๆ รอบ 12 เดือน หรือ 1 ปี เพื่อให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบและลงลายมือชื่อ จากนั้นนำเสนอในที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้น เพื่อให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติงบการเงินภายใน 4 เดือน หลังสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี

7. จัดเก็บเอกสารบัญชีและภาษี
ทางบริษัทจำเป็นต้องเก็บเอกสารที่ใช้ ประกอบการลงบัญชีทั้งหมดไว้ที่บริษัทไม่น้อยกว่า 5 ปี ส่วนการเก็บรักษาเอกสารภาษี ตามประมวลรัษฎากร กำหนดให้ผู้ประกอบการเก็บรักษาไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี แต่ไม่เกิน 7 ปี

อ่านรายละเอียดสิ่งที่ต้องทำหลังเปิดบริษัท เพิ่มเติมคลิก


หากไม่ทำเกิดอะไรขึ้น


  • มาตรา 8 บริษัทจำกัดไม่ทำใบหุ้น หรือเรียกค่าธรรมเนียมเกิน
    มีค่าปรับ 10,000 บาท
  • มาตรา 10 บริษัทจำกัดไม่มีสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น
    มีค่าปรับ 20,000 บาท
  • มาตรา 11 บริษัทจำกัดไม่รักษาสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น หรือไม่เปิดสมุดทะเบียนเมื่อผู้ถือหุ้นร้องขอ
    มีค่าปรับ 20,000 บาท
  • มาตรา 25 บริษัทจำกัดใดกระทำความผิดตามมาตรา 7-24
    มีค่าปรับ 50,000 บาท

ทำความเข้าใจที่มาของค่าปรับต่างๆ เพิ่มเติม คลิกอ่านบทความที่นี่


สรุป หลังการเปิดบริษัทต้องทำอย่างไรบ้าง กับ นรินทร์ทอง


เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็อย่าละเลยที่จะจัดเตรียมเอกสาร และงานบัญชีที่ต้องทำให้เรียบร้อยตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อที่บริษัทจะได้มีงบการเงินที่มีคุณภาพ ไม่ต้องโดนค่าปรับ และสำหรับผู้ประกอบการท่านใด ที่ไม่มีความรู้เรื่องการจัดทำบัญชี หรือไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหนก่อน แนะนำว่าให้ปรึกษากับสำนักงานบัญชีที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง อย่าง บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงานรับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตและมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : ]narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

33


หากใครที่กำลังจะเปิดกิจการ แล้วกำลังมองหาชื่อกิจการก่อนจดทะเบียนนิติบุคคล ในบทความนี้ นรินทร์ทอง อยากมาแชร์เทคนิคการ ตั้ง ชื่อ บริษัท ให้จำง่าย และส่งผลดีต่อธุรกิจของคุณในระยะยาว ซึ่งจะมีเทคนิคการตั้งชื่ออย่างไรบ้างบทความนี้มีคำตอบ!

อยากรู้ เทคนิคตั้งชื่อบริษัทก่อนจดทะเบียนนิติบุคคล” เพิ่มเติมคลิกอ่านได้ที่นี่!


เทคนิคการ ตั้ง ชื่อ บริษัท อย่างไร ไม่ให้มีปัญหาภายหลัง

1. การตั้ง "ชื่อบริษัท" เป็นเรื่องสำคัญ
เนื่องจากคนทั่วไปจะรู้จักชื่อบริษัท ผ่านสินค้าหรือการให้บริการเป็นส่วนใหญ่ เพราะคุณจำเป็นต้องใช้ชื่อบริษัทในการทำการตลาด ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลต่อภาพลักษณ์ และจุดยืนด้านการตลาด

2. ไม่ใช้คำยากในการตั้งชื่อบริษัท
ชื่อบริษัทที่ดีจะต้องตั้งให้จำง่าย ไม่ใช้คำยาก เป็นเอกลักษณ์ สามารถสื่อความหมาย และตัวตนของธุรกิจได้ดี

3. ไม่จำเป็นต้องใช้อักษรย่อเสมอไป
หากเป็นธุรกิจ SME ช่วงเริ่มต้น แนะนำว่าควรใช้ชื่อเต็มๆ จะเหมาะสมต่อการดำเนินธุรกิจมากกว่า เพราะหากใช้ชื่อที่เป็นอักษรย่อ อาจจะซ้ำกับบริษัทอื่นได้ง่าย

4. หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อตัวเอง
ถ้าวันหนึ่งคุณไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามที่มอบหมายได้ อาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของบริษัทได้ง่าย

5. ตั้งชื่อเผื่อขยายกิจการในอนาคต
ควรตั้งชื่อบริษัทที่ง่ายต่อการขยายกิจการ หลีกเลี่ยงการตั้งชื่อแบบเจาะจง และไม่ควรใช้ชื่อสถานที่ในการตั้งชื่อบริษัท

6. หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ หรือ หน่วยงานราชการ
การจองชื่อนิติบุคคลนิติบุคคล การจองชื่อเพื่อจดทะเบียนบริษัท การทำธุรกิจรูปแบบนิติบุคคลนั้น จะต้องไม่มีคำหรือข้อความที่เกี่ยวข้องกับ

  • พระนามของพระเจ้าแผ่นดิน พระมเหสี รัชทายาท หรือพระบรมวงศานุวงศ์ ในพระราชวงศ์ปัจจุบัน เว้นแต่จะได้รับพระบรมราชานุญาต
  • ชื่อกระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการ ราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานหรือองค์การของรัฐ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงที่เกี่ยวข้อง
  • ชื่อประเทศ เว้นแต่จะได้ระบุไว้ในวงเล็บต่อท้ายชื่อ และอยู่หน้าคำว่า "จำกัด"
  • ชื่อที่อาจก่อให้เกิดสำคัญผิดว่า รัฐบาล กระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการ ราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงาน หรือองค์การของรัฐทั้งของประเทศไทยหรือต่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศเป็นเจ้าของหรือผู้ดำเนินการ
  • ชื่อที่ขัดต่อแนวนโยบายแห่งรัฐ หรือขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน

7. ไม่ใช้ชื่อใกล้เคียงกับบริษัทที่มีชื่อเสียง
หลีกเลี่ยงการตั้งชื่อบริษัทใกล้เคียงกับบริษัทที่มีชื่อเสียง เพราะอาจสร้างปัญหาระหว่างเจ้าของธุรกิจได้

อ่านเทคนิคการตั้งชื่อบริษัทแบบละเอียด คลิกที่นี่


แนะนำวิธีการเช็กชื่อบริษัทว่า ซ้ำหรือไม่


เช็กให้แน่ใจว่าชื่อบริษัทที่ตั้งนั้น ไม่ได้ซ้ำกับบริษัทอื่น หรือแบรนด์ไหนที่เคยทำธุรกิจมาก่อน! เพราะการใช้ชื่อธุรกิจซ้ำกันอาจทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย และยากต่อการแก้ไขในอนาคต เช่น
  • เกิดการละเมิดเครื่องหมายการค้า
  • ความสับสนของผู้บริโภค
  • ความเสียหายต่อชื่อเสียง
  • การกระทำที่หลอกลวง
  • ส่งผลให้เกิดความผิดทางกฎหมาย
ดังนั้นทาง นรินทร์ทอง ขอแนะนำว่า ก่อน ตั้ง ชื่อ บริษัท ควรทำการตรวจสอบทุกครั้ง หรือสามารถจองชื่อนิติบุคคลได้ที่เว็บไซต์ www.dbd.go.th

ไม่อยากมีปัญหาภายหลัง ต้องรู้เทคนิคการตั้งชื่อบริษัท คลิกอ่านบทความที่นี่


สรุปเทคนิคการตั้งชื่อบริษัท ที่คนอยากจดทะเบียนนิติบุคคล ต้องรู้ กับ นรินทร์ทอง

การตั้งชื่อบริษัทเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะชื่อบริษัทเปรียบเสมือนภาพลักษณ์ของธุรกิจ และสำหรับเจ้าของธุรกิจทุกท่าน ที่ทำธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคล หรือเป็นนักธุรกิจมือใหม่ที่อยาก จดทะเบียน บริษัท แนะนำว่าควรขอคำปรึกษาจากผู้ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ อย่าง บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงานรับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตและมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : ]narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339


34

สำหรับใครที่ต้องการใช้ หนังสือรับรองบริษัท แต่ไม่รู้วิธีการขอ และไม่รู้ว่าต้องใช้ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่? วันนี้แอดมิน Narinthong จะมาแนะนำวิธีการขอหนังสือรับรองบริษัท ออนไลน์ ผ่านระบบ e-Filing ที่ทั้งง่าย และใช้เวลาไม่นาน จะมีขั้นตอนการขอยังไงบ้าง ตามมาดูกันเลย!

ขอหนังสือรับรองบริษัทออนไลน์ ผ่านระบบ e-Filing ไม่ยากอย่างที่คิด อ่านเพิ่มเติมที่นี่!

ขั้นตอนการ ขอหนังสือรับรองบริษัท ออนไลน์ผ่านระบบ e-Filing

  • ขั้นตอนที่ 1 ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ: ลงทะเบียนในระบบ e-Filing ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

  • ขั้นตอนที่ 2 ให้เราเลือกบริการขอหนังสือรับรองบริษัท: เมื่อเข้าสู่ระบบ ให้เลือกเมนู "บริการออนไลน์" จากนั้นให้เลือกบริการ "ขอหนังสือรับรองบริษัท"

  • ขั้นตอนที่ 3 เลือกเอกสารที่ต้องการขอ: เลือก “หนังสือรับรอง” ในขั้นตอนนี้สำหรับใครที่ต้องการเอกสารอื่นๆ ก็สามารถเพิ่มเอกสารในการขอได้

  • ขั้นตอนที่ 4 เลือกบริษัทที่ต้องการ: นำเลขทะเบียนนิติบุคคลของบริษัทที่ต้องการ แล้วกด Search เลือกบริษัทที่ต้องการ หากใครที่ต้องการหนังสือรับรองหลายๆ บริษัท ก็สามารถคลิกปุ่ม “คลิกเพื่อเพิ่มนิติบุคคล”

  • ขั้นตอนที่ 5 สรุปค่าธรรมเนียม: ระบบจะคำนวณค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระ และจำนวนเอกสาร จากนั้นให้ตรวจสอบรายการเอกสาร และจำนวนเอกสารที่ขอว่าครบถ้วนไหม

  • ขั้นตอนที่ 6 เลือกผู้ชำระเงิน: ระบบจะให้เรากรอกชื่อผู้ชำระเงิน ในส่วนนี้เราสามารถเลือกในนามนิติบุคคล หรือ สามารถเลือกในนามบุคคล ได้ตามวัตถุประสงค์

  • ขั้นตอนที่ 7 ตรวจสอบชื่อผู้ชำระเงิน: ตรวจสอบข้อมูลให้เรียบร้อย

  • ขั้นตอนที่ 8 เลือกช่องทางการจัดส่ง: เลือกช่องทางจัดส่งที่ต้องการ สำหรับใครที่ต้องการเป็นไฟล์ให้เลือก “ไฟล์อิเล็กทรอนิกส์”

  • ขั้นตอนที่ 9 ชำระค่าธรรมเนียม: ระบบจะให้เลือกชำระค่าธรรมเนียมผ่านช่องทางธนาคารต่างๆ

  • ขั้นตอนที่ 10 พิมพ์ Pay-in Slip: ของธนาคารที่เราต้องการและทำการชำระเงินค่าบริการ

  • ขั้นตอนที่ 11 รอการตรวจสอบและรับหนังสือรับรอง: ระบบจะดำเนินการตรวจสอบข้อมูล หากข้อมูลถูกต้อง หลังจากนั้นคุณจะได้รับ หนังสือรับรองบริษัท เป็น PDF File ผ่านระบบ e-Filing ภายใน 1-2 วันทำการ

  • ขั้นตอนที่ 12 ดาวน์โหลดเอกสาร: ไปที่ ดาวน์โหลดไฟล์/ใบเสร็จ>กรอกเลขคำขอ และทำการดาวน์โหลด และกดโหลดเอกสารที่ต้องการ
เรียนรู้ขั้นตอนการขอ หนังสือรับรองบริษัท คลิกอ่านบทความเต็มที่นี่


ขอหนังสือรับรองบริษัท มีอัตราค่าบริการ อย่างไร
ในการขอหนังสือรับรองบริษัทผ่านระบบ e-Filing จะมีค่าธนนมเนียมอยู่ที่ 200 บาท ขึ้นอยู่บจำนวนเอกสาร

เรียนรู้การขอ หนังสือรับรองบริษัท เพิ่มเติมคลิกอ่านที่นี่


สรุป
การขอหนังสือรับรองบริษัทผ่านระบบ e-Filing เหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจอย่างมาก และถ้าต้องการคำปรึกษา บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด ยินดีให้บริการ! เพราะเราคือ สำนักงาน รับทำบัญชี ทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตและมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น


  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

35


หนังสือรับรองบริษัท เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยยืนยัน การจัดตั้งบริษัทอย่างถูกต้อง และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคู่ค้า และหน่วยงานต่างๆ ซึ่งวันนี้แอดมินจะพามารู้จักกับ การทำ หนังสือรับรองบริษัท คือ อะไร ความสำคัญมากแค่ไหน ? เจ้าของธุรกิจต้องห้ามพลาด!

หนังสือรับรองบริษัท คืออะไร เรียนรู้เพิ่มเติมได้ในบทความนี้

หนังสือรับรองบริษัท คือ อะไร?


หนังสือรับรองบริษัท คือเอกสารที่ ใช้ยืนยันข้อมูลของบริษัท ซึ่งจะถูกออกโดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) เอกสารดังกล่าวจะประกอบไปด้วย

  • ชื่อบริษัท
  • ที่อยู่
  • ทุนจดทะเบียน
  • ผู้ถือหุ้น และผู้มีอำนาจลงนามในบริษัท
  • วัตถุประสงค์บริษัท

หนังสือรับรองบริษัทสำคัญอย่างไร?


การขอหนังสือรับรองบริษัท สามารถทำได้โดยการยื่นคำร้องต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือผ่านระบบออนไลน์ของกรมพัฒน์ อีกทั้งยังสามารถคัดหนังสือรับรอง ผ่านธนาคารที่ให้บริการ และรอรับได้ไม่เกิน 30 นาที

หนังสือรับรองบริษัทมีการอายุการใช้งานนานไหม


อันที่จริงแล้วการทำหนังสือรับรองบริษัท ไม่มีการกำหนดอายุการใช้งาน แต่แนะนำว่าควรใช้ประมาณ 6 ถึง 12 เดือน เพราะหนังสือรับรองบริษัทที่จะเป็นหนังสือที่มีความสมบูรณ์ และเป็นปัจจุบันมากที่สุด ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่เราไปดำเนินการ บางที่อาจจะขอ หนังสือรับรองบริษัท ที่คัดมาไม่เกิน 3 เดือน

อยากรู้รายละเอียดการทำ หนังสือรับรองบริษัท เพิ่มเติม อ่านบทความเต็มได้ที่นี่


สรุป

การมีหนังสือรับรองบริษัท ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณเท่านั้น แต่ยังเป็นเอกสารที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจในหลายๆ ด้าน เพราะฉะนั้นถ้า หากคุณกำลังวางแผนทำธุรกิจ และต้องผู้ช่วยทางด้านการทำบัญชีและภาษี ขอแนะนำให้รู้จักกับ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด สำนักงาน รับทำบัญชี ทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตและมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี

  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้

  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท

  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

36


การ ปิด งบ การเงิน คือ อะไร? เชื่อว่าเป็นคำถามที่เจ้าของกิจการมือใหม่หลายๆ ท่าน มักจะเกิดข้อสงสัย ซึ่งก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า การปิดงบการเงิน มีความสำคัญต่อธุรกิจทุกรูปแบบ รวมถึงธุรกิจที่เพิ่งจัดตั้งปีแรก (ยังไม่มีรายได้) ก็จำเป็นต้องปิดงบการเงิน ซึ่งในบทความนี้ ทาง นรินทร์ทอง ก็ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ "การปิดงบการเงิน" มาให้ทุกท่านได้ทำความเข้าใจกันแบบละเอียด เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการจดปิดงบการเงินในธุรกิจ

ทำความเข้าใจความหมายของคำว่า “ปิดงบการเงิน” เพิ่มเติมคลิก!

การ ปิด งบ การเงิน คือ อะไร
การปิดงบการเงิน หมายถึง การจัดการงบการเงินเมื่อถึงกำหนดสิ้นรอบบัญชี ที่จำเป็นต้องดำเนินการปิดงบการเงิน และนำส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสรรพากรตามที่กฎหมายกำหนด โดยผู้ที่มีหน้าที่ปิดงบการเงินคือ กิจการที่จดทะเบียนนิติบุคคล ซึ่งนิติบุคคลอย่างบริษัทจำกัด หรือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จะต้องปิดงบการเงินตามที่กฎหมายกำหนดปีละ 1 ครั้ง ที่สำคัญต้องจัดหาผู้ทำบัญชีและผู้ตรวจสอบบัญชี เพื่อจัดส่งงบการเงินตามกำหนด ถ้าหากไม่มีการส่งงบการเงินจะมีโทษปรับตามกฎหมาย

มีประโยชน์อย่างไร


ประโยชน์ของการปิดงบการเงิน ไม่ใช่เพื่อทำจัดส่งงบการเงินให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่ยังสามารถทำประโยชน์ให้กิจการได้ในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น

1. รู้ผลกำไร-ขาดทุน ที่แท้จริง
2. บริหารสภาพคล่องทางการเงิน
3. รายงานที่ง่ายต่อการวิเคราะห์
4. กำหนดการจ่ายเงินปันผลได้

เรียนรู้ประโยชน์ของการ ปิดงบการเงิน เพิ่มเติมคลิก!!

ขั้นตอนการ ปิด งบ การเงิน คือ มีอะไรบ้าง


การปิดงบการเงิน เป็นข้อมูลการจัดทำบัญชีแสดงรายรับ-รายจ่าย ของกิจการตลอดทั้งปี โดยจะใช้บันทึกข้อมูลบัญชีภาษีต่างๆ เป็นรายเดือน แยกรายละเอียดรายรับ-รายจ่ายอย่างชัดเจน รวมไปถึงการจัดเก็บเอกสารการจัดซื้อ และใบเสร็จต่างๆ แยกไว้เป็นหมวดหมู่ เพื่อให้ง่ายต่อการปิดงบการเงินในแต่ละรอบบัญชี โดยมีขั้นตอนการปิดงบการเงินดังนี้

1. จัดเก็บรายละเอียดเอกสารรายการค้า
2. ทำบัญชีแยกประเภท
3. ทำงบทดลอง
4. ปรับปรุงบัญชีค้างรับ ค้างจ่าย และค่าเสื่อมราคา
5. ปิดบัญชีสินค้าคงเหลือเข้าบัญชีต้นทุนสินค้าขาย
6. ปิดบัญชีรายได้ ค่าใช้จ่าย ต้นทุนสินค้าขาย เข้างบกำไร-ขาดทุน
7. งบแสดงฐานะการเงิน


งบ การเงิน ต้องปิดในช่วงไหน

  • ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด

สำหรับห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด ต้องยื่นงบการเงินภายใน 5 เดือน นับตั้งแต่วันปิดบัญชี ดังนั้นงบการเงินที่มีรอบปีบัญชีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม จะต้องยื่นงบการเงินภายในเดือนพฤษภาคมของปีถัดไป

  • บริษัทจำกัดและบริษัทมหาชนจำกัด

สำหรับบริษัทจำกัด และบริษัทมหาชนจำกัด จะต้องจัดทำงบการเงินเพื่อให้ผู้สอบบัญชี รับอนุญาตตรวจสอบรับรองก่อน แล้วจึงนำเสนอเพื่ออนุมัติในที่ประชุมใหญ่ โดยจะต้องจัดให้มีการประชุมเพื่ออนุมัติงบการเงิน ภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่วันปิดบัญชี และนำส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5) ภายใน 14 วัน นับจากวันประชุมใหญ่สามัญประจำปี
หมายเหตุ: หากเป็นบริษัทที่เพิ่งทำการจดทะเบียนบริษัท จะต้องมีการปิดงบการเงินครั้งแรกภายใน 12 เดือน และต้องปิดงบการเงินต่อไปเรื่อยๆ ทุกปี ในเดือนเดิม ถ้าหากมีการนำส่งงบการเงินล่าช้า หรือตั้งใจที่จะไม่ส่งงบการเงิน จะมีความผิดตามกฎหมายกำหนด โดยมีโทษระหว่างปรับไปจนถึงจำคุก
 
ก่อนทำการปิดงบการเงิน แนะนำให้อ่านข้อมูล เพิ่มเติมที่นี่!!


อยาก ปิดงบการเงิน กับสำนักงานบัญชีที่มีความเชี่ยวชาญ เลือก นรินทร์ทอง

การปิดงบการเงิน เป็นเรื่องที่ต้องให้นักบัญชี หรือสำนักงานบัญชี ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำบัญชีโดยเฉพาะเป็นผู้จัดทำ เพราะเป็นงานที่ต้องใช้ประสบการณ์ และความรู้ในการทำบัญชี ดังนั้นสำหรับผู้ประกอบการท่านใด ที่ได้อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการปิดงบการเงินแล้ว อยากทำการปิด งบ การเงิน ของบริษัทตนเอง แต่ยังไม่มีนักบัญชีประจำบริษัท ขอแนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตและมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี

  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้

  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท

  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : ]narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339



37


การบริหารเงิน นับว่าเป็นหนึ่งปัญหาที่ผู้ประกอบการมักจะต้องเจอ เพราะการทำกิจการส่วนใหญ่ ผู้ประกอบการมักจะให้ความสำคัญเกี่ยวกับการตลาด จุดแข็ง-จุดอ่อนของผลิตภัณฑ์ และการให้บริการมากกว่า บทความนี้ นรินทร์ทอง จึงได้นำข้อมูลเกี่ยวกับ "งบการเงิน" มาให้ทุกท่านได้ทำความเข้าใจกันแบบละเอียด พร้อมแนะนำวิธีการจัดทำงบการเงินที่ดี ด้วย นักบัญชี ที่เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี

ถ้าคุณอยากรู้เรื่องงบการเงินมากขึ้นอ่านต่อที่นี่!

การทำ งบ การเงิน มี กี่ ประเภท



  • งบการเงินคืออะไร

1. กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน (Operating Activities)
2. กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุน (Investing Activities)
3. กระแสเงินสดจากกิจกรรมการจัดหา (Financing Activities)

อ่านรายละเอียด งบการเงิน แต่ละประเภทเพิ่มเติมคลิกที่นี่

  • วัตถุประสงค์ของงบการเงิน


การจัดทำงบการเงินในธุรกิจ มีเป้าหมายเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ฐานะทางการเงิน ผลการดำเนินงาน และการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินของกิจการ

  • ประโยชน์ของการทำ งบ การเงิน มี อะไร บ้าง


1. งบแสดงฐานะการเงิน - แสดงให้เห็นถึงภาพรวมของธุรกิจ ฐานะการเงิน สภาพคล่องของกิจการ ความสามารถในการชำระหนี้ และประสิทธิภาพในการบริหารสินทรัพย์ของกิจการ
2. งบกำไรขาดทุน - แสดงผลประกอบการ ความสามารถในการทำกำไร รวมทั้งโครงสร้างรายได้ และค่าใช้จ่ายของกิจการ
3. งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น - แสดงให้เห็นถึงมูลค่าของกิจการ ในการประเมินมูลค่าหุ้นของกิจการ
4. งบกระแสเงินสด - ช่วยผู้ประกอบการในการวางแผนการใช้เงิน ทำให้ทราบถึงสภาพคล่องในการดำเนินงาน และใช้วางแผนการใช้จ่ายของกิจการ โดยไม่จำเป็นต้องจัดทำตามรูปแบบที่เป็นทางการ


อยากทราบข้อมูลการจัดทำ งบการเงิน เพิ่มเติมคลิกอ่านรายละเอียดได้ที่นี่


อยากจัดทำ งบการเงิน พร้อมที่ปรึกษาส่วนตัวด้านบัญชี นรินทร์ทอง พร้อมให้บริการ

หากผู้ประกอบการท่านใดที่กำลังมองหา บริษัทรับทำบัญชี จัดทำงบการเงิน ขอแนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัดสำนักงาน รับทำบัญชี ทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตและมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี

  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้

  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท

  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : ]narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339


38


ถ้าหากคุณกำลังวางแผนอยากเปิดบริษัท สิ่งสำคัญที่คุณจำเป็นต้องทำคือ "การจดทะเบียนบริษัท" ซึ่งในปัจจุบันมีการจดทะเบียนบริษัทรูปแบบออนไลน์ หรือ e-Registration เกิดขึ้น ทำให้มีความสะดวกอย่างมาก และถ้าหากคุณอยากรู้ว่า วิธี จดทะเบียน บริษัท ออนไลน์ มีขั้นตอนอย่างไร นรินทร์ทอง ได้รวบรวมข้อมูลเอาไว้ให้คุณแล้วในบทความนี้ !

อ่านรายละเอียดการ จดทะเบียนบริษัทออนไลน์ เพิ่มเติมคลิกที่นี่

ทำความเข้าใจภาพรวมของการจดบริษัท




สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่ทำธุรกิจประเภท SME มีเจ้าของกิจการ 2 คนขึ้นไป การจดทะเบียนบริษัทถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยทำให้ธุรกิจของคุณมีตัวตนอย่างเป็นทางการ แต่ถึงอย่างไรนั้นทางบริษัทก็ยังคงต้องจัดทำบัญชี งบการเงิน งบรายได้, เสียภาษี และประกันสังคมของพนักงาน ฯลฯ

ผู้ประกอบการที่ต้องการทำความเข้าใจ การจดทะเบียนบริษัท เพิ่มเติมคลิกที่นี่

วิธี จดทะเบียน บริษัท ออนไลน์ แต่ละขั้นตอน Step By Step


เอกสารที่ต้องเตรียม

  • สำเนาบัตรประชาชนของผู้ขอจดทะเบียน
  • สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขอจดทะเบียน
  • หนังสือรับรองการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (หากมี)
  • หนังสือบริคณห์สนธิ หรือ บอจ.2 (ข้อมูลที่ใช้ในการจดทะเบียน)
  • รายการจดทะเบียนจัดตั้ง หรือ บอจ.3 (ข้อมูลที่ใช้ในการจดทะเบียน)
  • สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หรือ บอจ.5 (ข้อมูลที่ใช้ในการจดทะเบียน)
  • หนังสือมอบอำนาจ (หากมีผู้รับมอบอำนาจ)



ขั้นตอนจดทะเบียนบริษัทออนไลน์



ขั้นตอนที่ 1

  • เข้าไปที่เว็บไซต์ DBD e-Registration - กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
  • เมื่อคลิกเข้าไปแล้วให้เลือก “ลงทะเบียนผู้ใช้งานระบบ” ในกรณีที่จดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเอง ไม่มีผู้แทน ให้เลือก "ลงทะเบียนผู้ใช้งานทั่วไป" จากนั้นจะต้องกรอกข้อมูลเบื้องต้น และยืนยันตัวตนผ่านระบบ e-KYC
  • หลังจากที่ได้ User Name และ Password แล้ว ก็ทำการ Log-in เพื่อเข้าสู่ระบบและสร้างคำขอการจดทะเบียนจดทะเบียนนิติบุคคล

ขั้นตอนที่ 2

  • กรณีที่จดทะเบียนด้วยตนเอง ให้เลือกที่ “ผู้เริ่มก่อการ/กรรมการ/หุ้นส่วน/ผู้ชำระบัญชี”
  • จากนั้นเลือกรูปแบบนิติบุคคลในการทำธุรกิจ ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบ ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน และบริษัทจำกัด
  • กรอกข้อมูลเกี่ยวกับการจดทะเบียนบริษัท และ Upload file ตราประทับ และแผนที่ตั้งสำนักงาน
  • ส่งคำขอเพื่อให้นายทะเบียนตรวจสอบ

ขั้นตอนที่ 3
  • ผู้ประกอบการจะได้รับ Email แจ้งกลับมา
  • จากนั้นให้ทำการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์


ขั้นตอนที่ 4

  • ยื่นคำขอจดทะเบียนบริษัท และชำระค่าธรรมเนียม

เพียงทำตามขั้นตอนเหล่านี้ การจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ ผ่านระบบ DBD e-Registration ของคุณ ก็ถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้น

ขั้นตอนที่ 5

  • ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัท (เอกสารฉบับนี้จะถูกจัดส่งมาทางไปรษณีย์)
  • หนังสือรับรองบริษัท สามารถดาวน์โหลดในรูปแบบ PDF file ได้จากระบบ โดยเลือกเมนู จดทะเบียนนิติบุคคล เลือก “พิมพ์ใบเสร็จรับเงิน/ดาวน์โหลดไฟล์หนังสือรับรอง”


อ่านขั้นตอน การจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ แบบละเอียดคลิกที่นี่



วิธีจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ สรุป

ถ้าธุรกิจของคุณเริ่มมีรายได้มากขึ้น ผู้ประกอบการควรศึกษาขั้นตอนการจดทะเบียนให้ดี และเตรียมเอกสารสำคัญที่ต้องใช้ยื่นให้พร้อม ดังนั้นสำหรับใครที่เป็นผู้ประกอบการมือใหม่ อย่าละเลยที่จะจ้างสำนักงานบัญชี ให้เป็นผู้ช่วยดูแลบัญชีและภาษีของบริษัท เพราะการมีนักบัญชีที่ดี ก็เหมือนมีคู่คิดที่คอยช่วยเหลือผู้ประกอบการในด้านการประกอบธุรกิจ ซึ่งถ้าหากคุณกำลังมองหาสำนักงานบัญชี ขอแนะนำ บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น


  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี

  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้

  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท

  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
 


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : ]narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339



39


ปัจจุบันนวัตกรรมในงานก่อสร้างโรงงาน ได้ถูกพัฒนาจนกลายเป็น “โรงงานสำเร็จรูป” ที่ช่วยลดขั้นตอนของการก่อสร้างให้เร็วมากยิ่งขึ้น วันนี้ V.K.B จะมาเปรียบเทียบระหว่าง ‘โรงงานสำเร็จรูปหรือสร้างโรงงาน’ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร และแบบไหนคุ้มค่าต่อการลงทุนมากกว่ากัน
 

โรงงานสำเร็จรูปคืออะไร ?


การก่อสร้างโรงงานสำเร็จรูป ต้องออกแบบโครงสร้างหลัก ตั้งแต่คาน, เสา และโครงหลังคา จากนั้นบริษัทที่รับก่อสร้างโรงงานสำเร็จรูป ก็จะเริ่มทำการผลิตโครงสร้าง และนำวัสดุไปติดตั้งหน้างาน ซึ่งลักษณะของโรงงานจะมีความโปร่งและค่อนข้างกว้าง

ข้อดี
  • ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ราคาของโรงงานสำเร็จรูปถือว่าประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะถูกกำหนดเงื่อนไขการก่อสร้างในหลายด้าน
  • ก่อสร้างเสร็จเร็วมากขึ้น มีการก่อสร้างที่สะดวกและรวดเร็ว เนื่องจากมีรายละเอียดของอาคารน้อยกว่ารูปแบบของโรงงานที่ก่อสร้างตามปกติ

ข้อเสีย
  • ข้อจำกัดของการออกแบบ การออกแบบให้ตอบโจทย์กับการใช้งาน ค่อนข้างมีข้อจำกัด เพราะโรงงานสำเร็จรูปมักจะมีการออกแบบที่เรียบง่ายต่อการก่อสร้าง
  • ผู้ติดตั้งต้องมีความเชี่ยวชาญ ต้องมีการขึ้นโครงสร้างในรูปแบบ PEB ที่มีการติดตั้งโครงสร้างหลักก่อน ซึ่งขั้นตอนค่อนข้างละเอียดอ่อน จำเป็นต้องใช้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ

ความแตกต่างระหว่าง โรงงานสำเร็จรูป กับ สร้างโรงงาน
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง “โรงงานสำเร็จรูป กับ สร้างโรงงาน” โรงงานรูปแบบใดจะตอบโจทย์การใช้งานสำหรับคุณมากที่สุด

โครงสร้างของโรงงาน


โครงสร้างมีหน้าที่ในการรองรับน้ำหนักทั้งหมดของตัวอาคาร จึงทำให้โครงต้องมีความแข็งแรง ซึ่งวิธีในการทำโครงสร้างของโรงงานทั้ง 2 แบบ มีดังนี้

โรงงานสำเร็จรูป
นิยมใช้วิธี PEB (Pre-Engineered Building) เป็นโครงสร้างที่มีความละเอียดในการออกแบบ เพราะการนำไปประกอบจะต้องมีรอยต่อที่ลงตัว เพื่อช่วยลดระยะเวลาในการทำงาน แต่วิธีในการติดตั้งโครงสร้างเหล็กสำเร็จรูปจะต้องมีมาตรฐาน และต้องคอยดูแลข้อต่อที่ยึดสกรูไม่ให้เกิดการกัดกร่อน ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับใครที่มีงบประมาณจำกัด และอยากให้การก่อสร้างเสร็จไวที่สุด
สร้างโรงงาน
การสร้างโรงงานจะมีความยืดหยุ่นในการออกแบบ โดยเราสามารถทำการจัดสรรพื้นที่ได้ตามความต้องการ การเลือกใช้โครงสร้างจะขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบ ว่าจะเลือกใช้โครงสร้างใดระหว่าง PEB (Pre-Engineered Building) การเชื่อมต่อโครงเหล็กด้วยวิธียิงสกูล หรือ Conventional Steel Building การเชื่อมต่อโครงเหล็กด้วยความร้อน
 
งบประมาณ


  • โรงงานสำเร็จรูป มีการคิดราคาแบบเบื้องต้น คือ ราคาต่อตารางเมตร การติดตั้งโครงสร้าง ทำฐานราก และวางระบบไฟฟ้า ซึ่งจะมีการคิดแยกกันในแต่ละส่วน หลังจากนั้นก็นำราคาทั้งหมดมารวมกันเป็นราคาสุทธิ
  • สร้างโรงงาน จะมีขั้นตอนที่ละเอียดอ่อนกว่า สามารถพูดคุยกับทางผู้รับเหมาได้ เพื่อทำการประเมินราคาแบบเบื้องต้น

การออกแบบ


โรงงานแต่ละประเภท จะมีวัตถุประสงค์ของการทำงานแตกต่างกัน ซึ่งแต่ละโรงงานก็จะมีการจัดวางพื้นที่ให้เหมาะสมกับเครื่องจักร และคนงาน แต่ถ้าหากเป็นโรงงานจัดเก็บสินค้า หรือ โกดังสินค้า การออกแบบภายในจะเน้นให้มีพื้นที่โล่ง

ซึ่งเบื้องหลังการออกแบบโรงงานสำเร็จรูป มีรายละเอียดมากกว่าการก่อสร้างโรงงานปกติ เพราะสถาปนิกและวิศวกรต้องใช้เวลาในการจัดวางชิ้นส่วนต่างๆ ให้ลงตัวกับโครงสร้าง เพื่อการนำไปติดตั้งหน้างานได้อย่างสะดวก แต่ทั้งนี้ก็มีข้อจำกัดในการออกแบบ เพราะไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้าง ให้เป็นไปตามแบบที่คุณต้องการได้ทั้งหมด

ส่วนการออกแบบสร้างโรงงานแบบปกติ สถาปนิกสามารถออกแบบให้ตอบโจทย์กับความต้องการของคุณได้ แต่ก็ต้องใช้เวลาในการออกแบบเพื่อให้ถูกต้องตามมาตรฐาน และกฎหมาย จากนั้นจึงนำแบบแปลนไปปรึกษารู้รับเหมาเพื่อประเมินราคา
 
การก่อสร้าง



การก่อสร้างโรงงานสำเร็จรูป

หากมีการยินยอมในการก่อสร้าง ทางบริษัทรับเหมาก่อสร้างจะเริ่มดำเนินการทันที โดยใช้ระยะเวลาในการสร้างเพียงแค่ไม่กี่เดือน เพราะบางกระบวนการ ช่วยลดระยะเวลาของการทำงานได้ อย่างเช่น เริ่มเตรียมโครงสร้างก่อนนำไปติดตั้งที่หน้างาน ซึ่งระหว่างนั้นต้องมีวิศวกรช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัย
การก่อสร้างโรงงาน
การก่อสร้างโรงงานในลักษณะที่ขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน  ส่งผลให้ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างนานกว่า แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบของอาคาร แต่ถ้าเทียบกับระยะเวลาที่รอคอยก็ถือว่าคุ้มค่า
 

โรงงานแบบไหนคุ้มค่ากับคุณมากที่สุด?
ความคุ้มค่าของการสร้างโรงงานขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น งบประมาณ หรือระยะเวลาในการก่อสร้าง ถ้าต้องการโรงงานที่ประหยัดงบ ควรเลือก ‘โรงงานสำเร็จรูป’
แต่ถ้าผู้ประกอบการไม่มีข้อจำกัดเรื่องของงบประมาณ อยากเน้นการออกแบบให้ตรงกับการใช้งาน  ‘การสร้างโรงงาน’ ตอบโจทย์สำหรับคุณ ถึงแม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายมากกว่า แต่ก็ทำให้คุณสามารถระบุสิ่งที่ต้องการได้
 
 
สร้างโรงงานให้ได้คุณภาพ ต้องที่ V.K.B

V.K.B  เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่ให้บริการมายาวนานกว่า 30 ปี มีการออกแบบ ก่อสร้าง และให้คำแนะนำ หรือบริหารโครงการ จากทีมที่เชี่ยวชาญ และ มีประสบการณ์ ทำให้คุณมั่นใจได้เลยว่างานที่ออกมาจะเป็นไปอย่างที่คุณต้องการ และ มีคุณภาพ
งานก่อสร้าง สามารถไว้ใจได้ด้วยทีมงาน บุคลากร และ Outsource ที่มีคุณภาพ พร้อมให้บริการคุณได้อย่างเต็มที่

  • งานก่อสร้าง สามารถไว้ใจได้ด้วยทีมงาน บุคลากร และ Outsource ที่มีคุณภาพ พร้อมให้บริการคุณได้อย่างเต็มที่
  • งานออกแบบ มีผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ รวมทั้งนักออกแบบรุ่นใหม่ ที่จะช่วยให้การออกแบบได้ตอบโจทย์ตามสไตล์ที่ทันสมัยของคุณ
  • ให้คำปรึกษา และบริหารโครงการ นอกจากการก่อสร้างแล้ว เรายังให้คำแนะนำ ปรึกษา และช่วยเหลือปัญหาที่เกิดจากการก่อสร้างทุกรูปแบบได้อีกด้วย

 

สามารถสอบถาม V.K.B และ ดูข้อมูลเพิ่มเติมช่องทางอื่นๆ
Facebook : VKB Contracting
Line : @vkbth
Tel : 081-735-6625 , 097-445-4146 , 02-377-6591 , 02-735-1636 , 02-735-1637
Email : vkb.cont@gmail.com

40


สำหรับใครที่อยากจะสร้างโรงงานขนาดเล็ก แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มอย่างไร วันนี้ V.K.B จะพาคุณมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ความสำคัญของโรงงานที่ได้มาตรฐาน เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ประกอบการที่เริ่มต้นสร้างโรงงาน
 
สามารถอ่านบทความเต็มๆ ได้ที่นี่ อยาก ออกแบบโรงงานขนาดเล็ก ต้องเริ่มอย่างไร?

โรงงานที่มีประสิทธิภาพควรให้ความสำคัญเรื่องใดบ้าง?


ภายในโรงงานนอกจากจะต้องมีการออกแบบที่ตรงตามมาตรฐานแล้ว ยังต้องมีการวางแผนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อช่วยสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจ ดังนี้

  • ผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐาน โรงงานที่ได้รับมาตรฐาน ต้องมีการจัดวางเครื่องจักรให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เพราะจะช่วยอำนวยความสะดวกในการผลิตสินค้า
  • ลดต้นทุนของสินค้า ช่วยให้คุณสามารถควบคุมวัตถุดิบ และลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นระหว่างการผลิต ไม่ทำให้ต้นทุนของสินค้าเพิ่มขึ้น
  • ทำงานสะดวกมากขึ้น การออกแบบเพื่อจัดแบ่งพื้นที่ภายใน ให้เหมาะสมกับขั้นตอนการผลิต จะช่วยให้การทำงานผ่านไปได้อย่างราบรื่น

การ ออกแบบโรงงานขนาดเล็ก ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
ผู้ประกอบการต้องทำตามกฎหมาย พ.ร.บ โรงงาน ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้าง เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมไม่ให้พนักงาน, บุคคลที่อยู่พื้นที่ใกล้เคียง และสิ่งแวดล้อมได้รับผลกระทบ
 
รู้จักกับประเภทของโรงงานที่แบ่งตามกฎหมาย


โรงงานแต่ละขนาดจะมีการจัดประเภท เพื่อกำหนดว่าโรงงานของคุณจัดอยู่ในขั้นตอนที่ต้องดำเนินเรื่องขอใบอนุญาตหรือไม่ โดยจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ

  • ประเภทที่1 เป็นโรงงานที่มีเครื่องจักรไม่เกิน 20 แรงม้า และมีพนักงานไม่ถึง 20 คน ถือว่าไม่ได้เป็นโรงงานตามที่กฎหมายได้กำหนดเอาไว้
  • ประเภทที่2 เมื่อไหร่ที่เริ่มดำเนินการก่อสร้างไม่ต้องขอใบอนุญาต แต่ต้องทำการจ่ายค่าธรรมเนียมรายปี โดยมีเครื่องจักรเกิน 75 แรงม้า และมีพนักงานไม่เกิน 75 คน ซึ่งโรงงานจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
  • ประเภทที่3 เป็นประเภทที่ต้องมีการขอใบอนุญาตก่อสร้างโรงงาน (ร.ง.3) และยื่นเอกสารในการประกอบกิจการ (ร.ง.4 ) เพราะต้องมีการควบคุมมลพิษที่จะเกิดขึ้น


จัดสรรเงินทุนที่ใช้ในการก่อสร้าง


  • ที่ดิน ควรศึกษาว่าพื้นที่ตั้งโรงงานเป็นแบบเช่าหรือซื้อ เพื่อจะได้คำนวณหาค่าใช้จ่ายว่าคุ้มค่าต่อการลงทุนหรือไม่
  • จ้างผู้ออกแบบ ผู้ออกแบบจะมีใบวิชาชีพเฉพาะ เพื่อเอาไว้รับรองในกรณีที่ขออนุญาตและทำให้คุณได้รับแบบที่ถูกต้องตามมาตรฐาน
  • จ้างผู้รับเหมา จะเข้าสู่ขั้นตอนในการสร้างโรงงานที่ผู้รับเหมาเป็นฝ่ายรับผิดชอบ มีการประเมินค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าวัสดุกับค่าแรง

การจัดวางระบบที่ไม่ควรลืม


เมื่อรู้วิธีการจัดสรรพื้นที่ของโรงงานแล้ว สิ่งต่อมาคือ การจัดวางระบบไฟฟ้า, ระบบน้ำ และระบบระบายอากาศ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องจักร และพนักงานให้ดียิ่งขึ้น 
 
การวางผังโรงงาน

การวางผังโรงงาน (Plant Layout) มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการ “ออกแบบโรงงานขนาดเล็ก” เพราะการจัดวางพื้นที่ต่างๆ ให้ลงตัวกับการทำงาน จะส่งผลให้การผลิตมีความปลอดภัย ได้มาตรฐาน และเกิดประโยชน์สูงสุด

  • มีสภาพแวดล้อมที่ดี การวางผังที่ดีจะช่วยจัดการกับสิ่งรบกวน แถมยังถูกสุขลักษณะกับพนักงาน
  • ใช้พื้นที่ให้เกิดความคุ้มค่า การจัดวางพื้นที่ทั้งหมดให้มีความลงตัว จะช่วยให้การทำงานสะดวกและราบรื่น
  • ทำงานได้มีประสิทธิภาพ การทำงานของพนักงานจะสามารถทำได้อย่างดีเยี่ยม และลดระยะเวลาในการทำงาน จากการจัดพื้นที่ให้มีความลงตัว
  • ลดอุบัติเหตุ หากมีการจัดวางเครื่องจักรให้อยู่ในระยะห่างที่เหมาะสม จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงได้

 
 
ออกแบบโรงงานที่ได้มาตรฐาน ต้องที่ V.K.B.!!
V.K.B เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ที่ให้บริการมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี มีทีมผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ สามารถให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการก่อสร้างทุกรูปแบบ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ให้บริการตั้งแต่การก่อสร้าง ออกแบบ ให้คำปรึกษาในการบริหารโครงการ โดยที่ดูแลคุณตั้งแต่ต้น จนถึงวันที่ส่งมอบงาน จึงทำให้เป็นบริษัทที่ได้รับความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจจากลูกค้า ควบคู่กับหนังสือรับรองผลงานจากผู้ว่าจ้าง ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า ผลงานที่สร้างออกมาเป็นไปตามความต้องการของลูกค้าอย่างแน่นอน
 
 
 
สามารถสอบถาม V.K.B และ ดูข้อมูลเพิ่มเติมช่องทางอื่นๆ
Facebook : VKB Contracting
Line : @vkbth
Tel : 081-735-6625 , 097-445-4146 , 02-377-6591 , 02-735-1636 , 02-735-1637
Email : vkb.cont@gmail.com

41


“สร้างบ้านต้องตอกเสาเข็มไหม?” เป็นอีกหนึ่งคำถามสำหรับคนที่กำลังจะสร้างบ้านใหม่เกิดข้อสงสัยกัน วันนี้ V.K.B จึงอยากจะพาคุณมาทำความรู้จักกับเสาเข็มให้มากยิ่งขึ้นว่า เสาเข็มมีทั้งหมดกี่แบบ และพื้นที่แบบใดไม่ต้องติดตั้งเสาเข็มก็ได้ ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านบทความนี้กันเลย!
 

อยากสร้างบ้านต้องเริ่มอย่างไร?


สำหรับใครที่อยากจะสร้างบ้าน เพื่อให้ตอบโจทย์กับการอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น สามารถเริ่มต้นได้ด้วยวิธีดังนี้

  • ตั้งงบประมาณในการก่อสร้าง การตั้งงบประมาณจะเป็นการป้องกัน ไม่ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงเกินไป จนสร้างความเดือดร้อนให้กับเราในอนาคต
  • ระบุความต้องการ บ้านจะต้องตอบโจทย์กับผู้อยู่อาศัย เช่น จำนวนสมาชิกมีกี่คน, ห้องครัว, ห้องรับประทานอาหาร กับ ห้องรับแขกควรใหญ่ขนาดไหน และห้องนอนกับห้องน้ำควรมีจำนวนกี่ห้อง เป็นต้น
  • หาข้อมูลเกี่ยวกับแบบบ้านที่ต้องการ คุณสามารถค้นหาแบบบ้านทางอินเทอร์เน็ตได้ ว่าต้องการให้ดีไซน์เป็นไปในทิศทางใด แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นไปปรึกษากับสถาปนิก ทำให้ฟังก์ชันการใช้งานของตัวบ้าน ตอบโจทย์การอยู่อาศัยมากที่สุด
  • ติดต่อผู้รับเหมาก่อสร้าง ต้องทำเรื่องติดต่อผู้รับเหมาให้ทำการประเมินพื้นที่หน้างาน ว่าควรใช้เสาเข็มแบบใด เพื่อให้บ้านตรงตามแบบที่ต้องการ โดยที่บ้านของเรามีความแข็งแรงและปลอดภัย

สร้างบ้านต้องตอกเสาเข็มไหม และต้องใช้แบบไหน?


เสาเข็ม คือ วัสดุก่อสร้างที่มีความสำคัญในการช่วยรองรับน้ำหนักของตัวบ้าน และกระจายน้ำหนักเหล่านั้นลงสู่พื้นดิน เพื่อทำให้โครงสร้างมีความแข็งแรง ซึ่งเสาเข็มมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ คือ

  • เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง (Prestressed Concrete Pile) เป็นเสาเข็มคอนกรีตสำเร็จรูป โดยทำจากปูนซีเมนต์ที่สามารถแข็งตัวได้อย่างรวดเร็ว ควบคู่กับโครงเหล็กอัดแรงสูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับน้ำหนัก
  • เสาเข็มเจาะ (Bored Pile) ใช้กับสิ่งปลูกสร้างหรืออาคารที่มีพื้นที่อย่างจำกัด เพราะไม่ต้องการให้เกิดแรงสั่นสะเทือนต่อพื้นที่ใกล้เคียงมากที่สุด
  • เสาเข็มกลมแรงเหวี่ยงอัดแรง (Prestressed Concrete Spun Pile) ใช้กับประเภทอาคารที่มีความสูง เพราะคอนกรีตอัดแรงมีความหนาแน่นสูงมากกว่าคอนกรีตหล่อทั่วไป ทำให้ช่วยรองรับน้ำหนักได้อย่างดีเยี่ยม

>>อ่านบทความ เสาเข็ม มีกี่ประเภท? เพิ่มเติมได้ที่นี่<<

พื้นที่แบบใดที่ไม่ต้องใช้เสาเข็มมารองรับ


‘ฐานราก’ มีหน้าที่ในการรองรับน้ำหนักทั้งหมดของสิ่งปลูกสร้าง โดยลักษณะฐานรากจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ

  • ฐานรากตื้น (Shallow Foundation) เป็นรากฐานที่ไม่ต้องมีเสาเข็มมาช่วยรองรับน้ำหนัก เพราะเนื้อดินในบริเวณที่ก่อสร้างมีความหนาแน่น และแข็งแรงเพียงพอต่อการรองรับน้ำหนัก
  • ฐานรากลึก (Deep Foundation) ต้องมีการตอกเสาเข็ม เพราะเนื้อดินมีความหนาแน่นต่ำ ทำให้มีโอกาสที่ดินจะเคลื่อนตัวได้ง่าย การตอกเสาเข็มจะช่วยให้ฐานรากถ่ายน้ำหนักลงดินได้ง่ายมากขึ้น

ราคาของเสาเข็ม


การติดตั้งเสาเข็มเป็นงานที่ละเอียดอ่อน เพราะเกี่ยวกับความแข็งแรงของสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งการลงเสาเข็มจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบคือ

  • เสาเข็มแบบตอก นำเสาเข็มสำเร็จรูปมาตอกลงไปในดิน โดยกระบวนการในการลงเสาเข็มไม่ได้มีขั้นตอนยุ่งยาก จึงทำให้มีราคาที่ถูกกว่าแบบเจาะ
  • เสาเข็มแบบเจาะ มีกระบวนการลงเสาเข็มที่ซับซ้อนมากกว่า เพราะจะต้องเริ่มจากการเจาะดินก่อนแล้วถึงจะหล่อเสาขึ้นมา ทำให้มีราคาที่สูงมากกว่าแบบตอก
สรุปแล้วการสร้างบ้านจำเป็นต้องตอกเสาเข็มหรือไม่?
เสาเข็มเป็นสิ่งสำคัญกับโครงสร้างบ้าน ซึ่งการเลือกใช้เสาเข็มจะขึ้นอยู่กับสภาพของดินในพื้นที่ โดยอาคารที่มีการใช้เสาเข็มจะช่วยป้องกันการทรุดตัวของโครงสร้างบ้าน ไม่ให้เกิดการพังถล่มลงมา
 
 
อยากจะสร้างบ้านที่ได้มาตรฐาน ต้องที่ V.K.B

V.K.B  เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่ให้บริการมายาวนานกว่า 30 ปี มีการออกแบบ ก่อสร้าง และให้คำแนะนำ หรือบริหารโครงการ จากทีมที่เชี่ยวชาญ และ มีประสบการณ์ ทำให้คุณมั่นใจได้เลยว่างานที่ออกมาจะเป็นไปอย่างที่คุณต้องการ และ มีคุณภาพ

  • งานก่อสร้าง สามารถไว้ใจได้ด้วยทีมงาน บุคลากร และ Outsource ที่มีคุณภาพ พร้อมให้บริการคุณได้อย่างเต็มที่
  • งานออกแบบ มีผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ รวมทั้งนักออกแบบรุ่นใหม่ ที่จะช่วยให้การออกแบบได้ตอบโจทย์ตามสไตล์ที่ทันสมัยของคุณ
  • ให้คำปรึกษา และบริหารโครงการ นอกจากการก่อสร้างแล้ว เรายังให้คำแนะนำ ปรึกษา และช่วยเหลือปัญหาที่เกิดจากการก่อสร้างทุกรูปแบบได้อีกด้วย

 

สามารถสอบถาม V.K.B และ ดูข้อมูลเพิ่มเติมช่องทางอื่นๆ
Facebook : VKB Contracting
Line : @vkbth
Tel : 081-735-6625 , 097-445-4146 , 02-377-6591 , 02-735-1636 , 02-735-1637
Email : vkb.cont@gmail.com

42







อลูมิเนียมคอมโพสิตยี่ห้อไหนดี คำถามที่เชื่อว่าช่างมือใหม่หลายคน ก็คงอดสงสัยไม่ได้ว่าก่อนที่เราจะลงทุนตกแต่งอาคารหรือโรงงานสักหลัง ควรมีจุดสังเกตหรือข้อแตกต่างอะไรบ้างในการเลือก อลูมิเนียมคอมโพสิตที่ดีควรมีลักษณะเป็นแบบไหน? แล้วเราจะมีวิธีการเลือกอลูมิเนียมคอมโพสิต อย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน

นิยามจุดเด่นของแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิต (Aluminum Composite) หรือแคลดดิ้ง (Cladding) คือ ความแข็งแรงและความสวยงาม ที่มาควบคู่กับ น้ำหนักเบา คือ นวัตกรรมการออกแบบโครงสร้าง และสถาปัตยกรรมที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ทั้งภายในและภายนอกอาคาร แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับอลูมิเนียมคอมโพสิต เพิ่มเติมกันก่อนดีกว่า
 
สามารถอ่านบทความเพิ่มเติม ได้ที่นี่ อลูมิเนียมคอมโพสิตยี่ห้อไหนดี ที่คุณไม่ควรพลาด

อลูมิเนียมคอมโพสิต คืออะไร? ทำไมอาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่นิยมใช้


อลูมิเนียมคอมโพสิต เป็นวัสดุโครงสร้างผนังเบา ส่วนมากการผลิตอลูมิเนียมคอมโพสิต จะมีลักษณะภายนอกเคลือบด้วยวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน แต่ไส้ในจะมีความยืดหยุ่น สามารถออกแบบได้ง่าย วิธีการเลือกต้องคำนึงถึงรูปแบบของวัสดุแกนกลาง

โดยแบ่งไส้กลางตามการใช้งานได้ 2 ประเภท คือ ไส้กลางแบบ Polyethylene (PE) หรือไส้กลางแบบ Fire Resistant (Fr)

อลูมิเนียมคอมโพสิต แบบไส้กลาง PE

นิยมใช้กับงานภายนอกอาคารที่ต้องการความสวยงาม เนื่องจาก Polyethylene เป็นสารที่มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับงานแสดงสินค้านอกอาคาร หรือป้ายโฆษณาต่างๆ เป็นต้น

อลูมิเนียมคอมโพสิต แบบไส้กลาง FR

นิยมใช้กับงานภายในอาคาร มีคุณสมบัติพิเศษ คือ ป้องกันการติดไฟ มีความยืดหยุ่นและแข็งแรงกว่า แต่ก็ต้องแลกมากับราคาที่สูงกว่าเล็กน้อย เหมาะสำหรับงานตกแต่งภายในอาคาร ที่ต้องการความแข็งแรง และปลอดภัยมากเป็นพิเศษ เช่น โกดังเก็บสินค้า หรือโรงงาน เป็นต้น
 

อลูมิเนียมคอมโพสิตยี่ห้อไหนดี กว่ากัน แค่ความแข็งแรงอย่างเดียวจะพอไหม

แผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตที่ได้มาตรฐาน จะมีคุณสมบัติทนต่อแรงเสียดทาน และการโค้งงอ จึงไม่แปลกที่วัสดุชนิดนี้ กลายมาเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยคุณสมบัติพิเศษต่อไปนี้

1.มีความแข็งแรง มีอายุการใช้งานที่ยาวนานหลาย 10 ปี
2.ราคาไม่สูง และใช้เวลาติดตั้งที่ไม่นาน
3.มีน้ำหนักเบา ช่วยลดภาระในการรับน้ำหนักของโครงสร้าง ได้เป็นอย่างดี
4.ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ  พร้อมตอบโจทย์การใช้งานทั้งภายนอกและภายใน
5.มีการวัสดุเคลือบสารชนิดพิเศษ ป้องกันการเกิดสนิม และเชื้อราได้เป็นอย่างดี
6.เป็นวัสดุที่มีความสวยงาม มีสีให้เลือกใช้งานที่หลากหลาย
7.อลูมิเนียมคอมโพสิต มีความยืดหยุ่นสูง สามารถนำไปใช้กับงานได้หลายประเภท
8.มีส่วนผสมของสาร ที่มีคุณสมบัติป้องกันความร้อน และไม่ติดไฟ
9.ป้องกันเสียง และรองรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี
 
ควรตรวจสอบมาตรฐานและคุณภาพก่อนคิดว่าจะเลือกซื้ออลูมิเนียมคอมโพสิตยี่ห้อไหนดี
1. เลือกใช้เกรด Aluminum Series ที่ทนทาน เช่น 3105 H16
2. ขอตรวจสอบใบ Certificate ของสินค้าที่ได้รับการรับประกันคุณภาพสากล ISO-9002
3. ทดสอบความแข็งแรง ด้วยการเจาะร่องหน้าพื้นผิวสินค้า
4. มาตรฐานความหนาของอลูมิเนียมคอมโพสิต นิยมใช้ที่ 4 มม.
5.สามารถใช้สารบิวทาโนน ในการตรวจสอบพื้นผิวชั้นในของอลูมิเนียมคอมโพสิตได้ เทคนิคดูแลรักษา อลูมิเนียมคอมโพสิต ให้เหมือนใหม่อยู่เสมอ


ข้อแนะนำในการดูแลรักษา
1. ควรใช้ผ้าสะอาดชุดน้ำเช็ดเบาๆ ไปในทิศทางเดียวกัน
2. ทำความสะอาดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อคงความสวยงามของแผ่นอลูมิเนียม
3. ควรใช้น้ำเย็นในการกำจัดคราบสิ่งสกปรก

ข้อควรระมัดระวังในการดูแลรักษา
1. ไม่ควรใช้น้ำยาหรือสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เพราะอาจจะทำให้เกิดความเสียหายกันพื้นผิว และสีของแผ่นอลูมิเนียมได้
2. หลีกเลี่ยงการใช้วัสดุที่ มีความคมหรือแข็งในการขัดพื้นผิวโดยตรง
 
อลูมิเนียมคอมโพสิตยี่ห้อที่ดี ควรมีทีมผู้เชียวชาญคอยให้คำปรึกษาตั้งแต่ก่อนการติดตั้ง

นอกจากสินค้าต้องผ่านหลักเกณฑ์มาตรฐานสากลแล้ว ความเชี่ยวชาญของทีมงานก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญ ที่ช่วยเราตัดสินใจในการเลือกติดตั้งอลูมิเนียมคอมโพสิตได้

ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกรวบรวมมาให้คุณแล้วที่ Bitec Enterprise ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุก่อสร้าง มีประสบการณ์การติดตั้งอลูมิเนียมคอมโพสิตทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Alutech Aluminium Composites, Aluminium Cieling & Sunscreen เรามีให้ครบ จบในที่เดียว และเมื่อติดตั้งเสร็จแล้วเรายินดีให้คำปรึกษา ด้านการดูแลและการรักษาอลูมิเนียมคอมโพสิต ให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุดอีกด้วย



ติดต่อสอบถามข้อมูล และข้อสงสัยต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ เพิ่มเติมได้ที่นี่
Facebook: BITEC Enterprise Ltd.
E-mail: info@bitecenterprise.com
Line: @Bitecenterprise
Tel: 02-717-1155

43


อลูมิเนียมคอมโพสิต นวัตกรรมใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยม เพราะมีคุณสมบัติที่สามารถใช้งาน ทั้งภายนอกและภายใน วันนี้ Bitec Enterprise จะมาไขข้อข้องใจ พร้อมคำแนะนำดีๆ เพื่อให้คุณเข้าใจวัสดุชนิดนี้มากขึ้น



อลูมิเนียมคอมโพสิต คือ
อลูมิเนียมคอมโพสิต (Aluminum Composite) คือ วัสดุก่อสร้างที่จัดอยู่ในกลุ่มโครงสร้างผนังเบา มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า แคลดดิ้ง (Cladding) วัสดุชนิดนี้ได้พัฒนาจากการนำวัสดุต่างชนิดมาประกอบกัน จนทำให้เกิดเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง และทนทานมากยิ่งขึ้น หากคุณกำลังมองหาวัสดุคุณภาพดี มีประโยชน์รอบด้านก็ปักหมุดวัสดุชนิดนี้ เอาไว้ในลิสต์ของคุณได้เลย!
 
อลูมิเนียมคอมโพสิต มีกี่ชนิด
สำหรับ อลูมิเนียมคอมโพสิต คือ จะแบ่งตามชนิดของ ไส้แกนกลาง คือ ไส้กลางวัสดุ PE และ ไส้กลางทนไฟ (FR) ส่วน การเคลือบสี มี 6 ชนิดด้วยกัน

1. อลูมิเนียมคอมโพสิตเคลือบ PVDF
มีไส้แกนกลางเป็น Polyethylene (PE) และเคลือบสีแบบ PVDF เป็นสารที่มีความทนทาน มีอายุการใช้งานยาวนาน นิยมนำไปใช้กับงานตกแต่งภายนอก โดยการเคลือบ PVDF มี 2 แบบหลักๆ ได้แก่

  • Traditional PVDF (พีวีดีเอฟ มาตรฐาน) ทนทานต่อกรด และ ด่าง
  • Nanometer PVDF (นาโน พีวีดีเอฟ) ป้องกันพื้นผิวจากสภาพแวดล้อมเป็นพิษ ทนต่อกรด และ ด่าง

2. อลูมิเนียมคอมโพสิตเคลือบ Polyester (PE)
มีไส้แกนกลางเป็น Polyethylene (PE) ความหนา 3 มม. ผลิตได้ทั้งสีแบบเงา และ แบบด้าน ทนทานสารเคมี และรังสี UV นิยมใช้งานเกี่ยวกับป้ายโฆษณา รวมถึงการตกแต่งภายใน

3. อลูมิเนียมคอมโพสิต FEVE
เป็นการเคลือบ – อบด้วย สีโพลียูรีเทน มากกว่า 1 ครั้งขึ้นไป ทำให้มีสีสันสวยงาม ให้ความเงางามถึง 80% มีคุณสมบัติทนต่อสารเคมี สามารถใช้งานในสภาพอากาศต่างๆ ได้ยาวนานถึง 10 ปี

4. อลูมิเนียมคอมโพสิต SPECTRA COLOR COATING
เป็นการเคลือบสีแบบ PVDF ผสมกับ ผงมุก มีจุดเด่นทำให้มองเห็นได้ตั้งแต่ 2 สีขึ้นไป ผ่านการสะท้อนแสง นิยมนำไปใช้กับงานที่ต้องการความหรูหรา เช่น โรงแรม หรือ ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

5. อลูมิเนียมคอมโพสิต SPECIAL COLOR COATING
สามารถเลือกความหนาของชั้นอลูมิเนียมได้ ตั้งเเต่ 0.3 – 0.50 มม. สามารถเลือกชนิดของไส้แกนกลาง และสั่งทำสีพิเศษได้ตามต้องการ ดังนี้

  • ลายขนแมว (Brushed Panels) เกิดขึ้นจากผิวอลูมินัม ที่ผ่านกระบวนการผลิตเฉพาะ
  • ลายหินแกรนิต (Granite Panels) เป็นการเคลือบผิวอลูมินัม ด้วยฟิล์มที่มีลวดลาย
  • ลายกระจก (Mirror Finished Panels) เป็นการเคลือบผิวแบบขัดเงา ผ่านกระบวนการ Anodize Oxidation ทำให้พื้นผิวมีความเงาสะท้อน คล้ายกระจก
  • ลาย 2 สีบนแผ่นเดียว (Two Colors in One Sheet) เป็นการเคลือบผิวอลูมินัม ที่สามารถสร้างสีที่ต่างกัน 2 สี ให้อยู่บนพื้นผิวเดียวกัน
  • ลายไม้ (Wooden Color) เป็นการเคลือบสี และออกแบบลวดลายเลียนแบบผิวไม้ธรรมชาติ
  • ลายเมทัลลิก (Metalic Color) เป็นการเคลือบเงาให้เหมือนพื้นผิวโลหะ
  • ลายโซลิด (Solid Color) เป็นการเคลือบสีแบบด้าน และเคลือบเงาแต่ไม่ผสม Metalic มีเฉดสีให้เลือกหลากหลาย


 
คุณสมบัติของ อลูมิเนียมคอมโพสิต คือ
อลูมิเนียมคอมโพสิต เป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษหลายด้าน ทั้งในด้านความสวยงามจากพื้นผิว ความแข็งแรง และความทนทานต่อสภาพแวดล้อม นอกเหนือจากนี้ยังมีคุณสมบัติในด้านอื่นๆ อีกมากมาย ที่ทำให้อลูมิเนียมคอมโพสิต กลายมาเป็นหนึ่งในวัสดุก่อสร้างที่

  • มีประสิทธิภาพสูง
  • มีน้ำหนักเบา
  • ใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ปี
  • กันความร้อนและรังสี UV
  • มีความยืดหยุ่นสูง
  • ติดตั้งง่าย ราคาไม่สูง
  • เก็บเสียงได้ดี
  • มีหลายสีให้เลือก

 

 
เหมาะกับการใช้งานแบบไหน

อลูมิเนียมคอมโพสิต เป็นวัสดุก่อสร้างรูปแบบใหม่ ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ มาดูกันว่างานก่อสร้างส่วนใหญ่ มักเลือกวัสดุนี้ไปใช้งานอะไรกันบ้าง

  • นิยมใช้หุ้มปิดผิวทั้งอาคารสูง สามารถใช้ติดสลับกับกระจก เพิ่มลูกเล่นที่ทันสมัย
  • นำไปทำเป็นผนัง, ฉาก, กำแพง ทั้งภายนอก และภายใน
  • ปิดพื้นผิวต่างๆ เช่น เสากลม เสาเหลี่ยม ปิดบริเวณฝ้าเพดาน และ Facade อาคารได้
  • ปรับแต่ง งานแสดงสินค้า งานป้ายโฆษณา และตกแต่งโชว์รูม ให้ดูน่าสนใจมากขึ้น
  • ใช้งานผสมกับผนังอิฐมวลเบา ทำผนังกั้นห้อง กั้นระเบียง และงานตกแต่งภายใน
  • นำไปผลิตเฟอร์นิเจอร์ เช่น ชั้นวางสินค้า ตู้วางเอกสาร เคาน์เตอร์ โต๊ะ เป็นต้น
 
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อว่าหลายท่านน่าจะเข้าใจวัสดุชนิดมากยิ่งขึ้น ทั้งการแบ่งชนิดต่างๆ คุณสมบัติพิเศษ รวมถึงลักษณะการใช้งาน หวังว่าบทความนี้จะเป็นโยชน์ สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับ อลูมิเนียมคอมโพสิต และสามารถเป็นแนวทางให้คุณได้เลือกใช้งานอย่างเหมาะสม
 


ติดต่อสอบถามข้อมูล และข้อสงสัยต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ เพิ่มเติมได้ที่นี่
Facebook: BITEC Enterprise Ltd.
E-mail: info@bitecenterprise.com
Line: @Bitecenterprise
Tel: 02-717-1155

44


สำหรับใครที่อยากจะจัดบ้านให้เป็นระเบียบ “ชั้นวางของ” ถือเป็นอีกหนึ่งในไอเทมที่ควรมี แต่ ชั้นวางของ ก็มีหลายรูปแบบ แล้วจะเลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับการใช้งาน วันนี้ โกลบอลเฮ้าส์ จะมาแนะนำ ชั้นวางของ แต่ละแบบ ว่าแบบไหนเหมาะกับการใช้งานอย่างไร อย่ารอช้าไปอ่านบทความกันเลย!!

สามารถอ่านบทความเพิ่มเติม ได้ที่นี่ ลักษณะของ ชั้นวางของ มีแบบไหนบ้าง ? แบบไหนเหมาะกับคุณ

ทำไมต้องใช้ชั้นวางของ?


"ชั้นวางของ" หรือชั้นเก็บของ นอกจากจะช่วยในการจัดระเบียบสิ่งของให้ง่ายต่อการหยิบใช้งานแล้ว ยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กับบ้านอีกด้วย เพราะว่าสามารถประยุกต์ และประกอบเข้ากับเฟอร์นิเจอร์ หรือพื้นที่ต่างๆภายในบ้านได้

ชั้นวางของ มีกี่แบบกันนะ?


ชั้นวางของ นั้นมีกันหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป
  • แบบโต๊ะ - มีลักษณะเหมือนโต๊ะทั่วไป แต่จะมี ชั้นวางของ เพิ่มเข้ามาที่ด้านล่าง ทำให้สามารถวางของได้หลายช่อง
  • แบบเข้ามุม - ชั้นวางของจะเข้ากับมุมห้อง หรือ มุมโต๊ะได้พอดี ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ในการวาง เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัด
  • แบบมีล้อเลื่อน - ชั้นวางของรูปแบบนี้ ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย และการทำความสะอาด
  • แบบชั้นลอย - ชั้นวางของแบบลอย ติดตั้งโดยใช้สกรูในการยึด เหมาะสำหรับการวางของที่เน้นโชว์ มีน้ำหนักเบา
  • แบบตู้ - มีให้เลือกหลายขนาด เหมาะสำหรับใช้เก็บของอเนกประสงค์ ช่วยเพิ่มความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการจัดเก็บสิ่งของ

จะเลือก ชั้นวางของ อย่างไรให้เหมาะสม?


การเลือกชั้นวางของ หรือ ชั้นเก็บของ ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของสถานที่ ที่จะนำไปใช้งาน รวมถึงลักษณะการใช้งาน โดยส่วนใหญ่มีด้วยกัน 3 ประเภทหลักๆ คือ
  • ชั้นวางของทั่วไป รับน้ำหนักได้ปานกลาง และมีขนาดกะทัดรัด นิยมนำไปใช้งานในบ้าน หอพัก หรือคอนโด เพราะมีหลายรูปแบบให้เลือก
  • ชั้นวางของสำนักงาน นิยมเลือกชั้นวางของ ที่สามารถวางของได้หลายชั้น เพื่อสะดวกต่อการใช้งาน เช่น ชั้นวางของ ที่มีล้อเลื่อน 3 ชั้น หรือ ชั้นวางล้อเลื่อน 4 ชั้น
  • ชั้นวางของอุตสาหกรรม ชั้นวางรูปแบบนี้จะต้องมีความแข็งแรง ทนทาน รับน้ำหนักได้มาก ส่วนใหญ่จะเลือกวัสดุทำด้วยเหล็ก หรือสแตนเลส และมักจะเป็นชั้นวางแบบยึดติดผนัง

เลือกชั้นวางของอย่างไร ให้ตอบโจทย์การใช้งาน


  • เลือกจากของที่จะนำมาวาง เพราะสิ่งของแต่ละชนิดมีขนาด รูปทรง น้ำหนักที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงต้องเลือกชั้นวางของที่สามารถรับน้ำหนัก และเหมาะในการวางสิ่งของเหล่านั้น
  • เลือกจากตำแหน่งการวาง ต้องดูว่าตำแหน่งที่จะวางชั้นวางของอยู่ส่วนไหนของบ้าน และมีพื้นที่ขนาดไหนในการวาง เช่น หากมีพื้นที่จำกัด เลือกชั้นวางเข้ามุมก็จะตอบโจทย์การใช้งาน
  • เลือกจากลักษณะการใช้งาน ต้องดูว่าชั้นวางของที่คุณต้องการ เน้นใช้งานแบบไหน เช่น หากใช้สำหรับตั้งโชว์ ก็อาจจะเลือก ชั้นวางแบบตู้ ที่สามารถมองเห็นของด้านในได้ หรือหากเคลื่อนย้ายบ่อยๆ ก็อาจจะเลือกชั้นวางของแบบมีล้อเลื่อน

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับชั้นวางของ โกลบอลเฮ้าส์ ช่วยคุณได้

เลือก ชั้นวางของ ให้ตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ ได้ที่ โกลบอลเฮ้าส์ หรือเข้าไปเลือกดูสินค้าเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ Global House และถ้าใครอยากจะเข้าไปดูสินค้าจริง ไปลองสัมผัส ลองเลือก ก็สามารถไปที่ Global House ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้เลย ซึ่งจะมีพนักงานที่พร้อมให้บริการตอบคำถาม และช่วยแนะนำสินค้า

นอกจากนั้นยังมี บริการติดตั้ง และบริการทำความสะอาด ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณ และถ้าใครที่ไม่อยากออกมาช้อปเอง ก็สามารถช้อปออนไลน์ได้ง่ายๆ แถมยังมาพร้อมกับโปรโมชันสุดคุ้ม และ สิทธิพิเศษในการผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) นอกจากสินค้านี้แล้ว โกลบอลเฮ้าส์ ก็ยังมีสินค้าเกี่ยวกับบ้านอีกมากมายที่ขนมาให้คุณได้เลือกแบบครบครัน!!!
 
Global House จัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้าน ให้คุณครบจบในที่เดียว

เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่
Facebook: Global House โกลบอลเฮ้าส์
Line@: @globalhouse
Instagram: globalhouse_official
YouTube: Global House โกลบอลเฮ้าส์
TikTok: globalhouseofficial
Twitter: @globalhouseth

45


ตู้เย็นถือว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทุกบ้านควรมี ถ้าหากไม่มีตู้เย็นก็อาจทำให้อาหารเสียง่ายขึ้น แต่ในบางครั้งของในตู้เย็นก็เยอะจนเต็มตู้เย็น ส่งผลให้ของในตู้เย็นเสียง่ายขึ้น ดังนั้นเพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งาน วันนี้ โกลบอลเฮ้าส์ จะมาแนะนำ ตู้เย็น 2 ประตู ที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณ สำหรับใครที่ชอบตู้เย็นคุ้มๆ บอกเลยว่าไม่ควรพลาดบทความนี้!!
 

จุดเด่นของตู้เย็น 2 ประตู


ตู้เย็น 2 ประตูค่อนข้างแตกต่างจากตู้เย็นประตูเดียว โดยตู้เย็นแบบสองประตูจะมีจุดเด่นตรงที่
  • แบ่งสัดส่วนชัดเจน ตู้เย็นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ "ส่วนบน" ที่เป็นช่องแช่แข็ง และ "ส่วนล่าง" ที่เป็นช่องแช่เย็น
  • สามารถใส่ของได้จำนวนมาก เพราะว่าส่วนของช่องแช่แข็งแยกออกจากกัน ทำให้มีพื้นที่ในการแช่ของ และสามารถจัดของภายในตู้เย็นให้เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น
  • ช่องแช่แข็งเย็นไว มีระบบที่ช่วยละลายน้ำแข็งแบบอัตโนมัติ
  • กระจายความเย็นได้ทั่วถึง เนื่องจากสามารถวางของได้เยอะ จึงทำให้ความเย็นกระจายได้ทั่วถึง มีระบบการทำงานเงียบมากขึ้น และ ประหยัดไฟยิ่งขึ้น

วิธีการเลือกซื้อ ตู้เย็น 2 ประตู ต้องเลือกอย่างไร?
ตู้เย็นแบบสองประตู ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยขนาดที่กำลังพอดี และมีราคาไม่สูงมาก จึงเหมาะมากสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกประมาณ 4 - 5 คน และ สำหรับใครที่ลังเล ไม่รู้จะเลือกซื้อตู้เย็นอย่างไรดี โกลบอลเฮ้าส์ จะมาแนะนำวิธีเลือกซื้อตู้เย็นให้ตอบโจทย์การใช้งาน

เลือกขนาดความจุของตู้เย็นให้เหมาะสม


การเลือกขนาดของตู้เย็น ต้องเลือกให้เหมาะกับจำนวนสมาชิกในบ้าน ไม่เช่นนั้นอาจทำให้เก็บของในตู้เย็นได้ไม่เพียงพอ ดังนั้นขนาดของตู้เย็นที่เหมาะสมจึงควรเลือกดังต่อไปนี้
  • ตู้เย็นขนาดเล็ก 7 - 13 คิว : เหมาะสำหรับบ้านที่มีสมาชิก 1 - 2 คน สามารถจุของในตู้เย็นได้ประมาณ 200 - 380 ลิตร
  • ตู้เย็นขนาดกลาง 12 - 18 คิว : เหมาะสำหรับบ้านที่มีสมาชิก 3 - 4 คน สามารถจุของในตู้เย็นได้ 350 - 530 ลิตร
  • ตู้เย็นขนาดใหญ่ ไม่ต่ำกว่า 15 คิว : จะเหมาะสำหรับบ้านที่มีสมาชิกจำนวน 5 คนขึ้นไป ซึ่งสามารถจุของในตู้เย็นได้ประมาณ 440 ลิตรขึ้นไป

เลือกประเภทของตู้เย็นที่ต้องการ


ตู้เย็นในปัจจุบันจะมีระบบในการทำความเย็นด้วยกัน 2 แบบ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับประเภทของคอมเพรสเซอร์
  • Compressor Normal จะใช้ระบบในการหมุนเพื่อทำรอบความเย็น ซึ่งตู้เย็นที่ใช้คอมเพรสเซอร์แบบนี้ จะหมุนด้วยความเร็วเท่าเดิมตลอด สามารถทำความเย็นได้ค่อนข้างดี แต่อาจจะกินไฟมาก
  • Compressor Inverter จะลดรอบหมุนลงเมื่อตู้เย็นทำความเย็นถึงระดับที่กำหนด และจะกลับมาทำรอบการหมุนเหมือนเดิมเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้อุณหภูมิคงที่ และช่วยประหยัดพลังงานได้ดีกว่า

เลือกตู้เย็นที่มีฉลากประหยัดไฟ และการรับประกัน


เพื่อเป็นการประหยัดค่าไฟ ควรจะเลือกตู้เย็นที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 และการเลือกตู้เย็นระบบอินเวอร์เตอร์ ก็จะยิ่งช่วยประหยัดไฟได้มากขึ้น สิ่งสำคัญ คือ ต้องเลือกตู้เย็นที่มีการรับประกัน เพื่อป้องกันความเสียหายและง่ายต่อการซ่อมแซม
 
ตู้เย็น 2 ประตู รุ่นไหนดีรุ่นไหนปัง!!


ใครที่ไม่รู้จะเลือกตู้เย็นรุ่นไหนดี โกลบอลเฮ้าส์ จะมาแนะนำตู้เย็นสองประตูรุ่นฮิต รุ่นไหนมีอะไรดีมาดูกันเลย
  • SAMSUNG รุ่น RT20HAR1DSA/ST - ตู้เย็นขนาด 7.4 คิว ที่มาพร้อมกับระบบอินเวอร์เตอร์แบบดิจิตอล สามารถปรับความเร็วได้ถึง 7 ระดับ และมาพร้อมกับระบบ All-Around Cooling ส่งความเย็นได้อย่างทั่วถึง
  • LG รุ่น GN-C702SGGU - ตู้เย็นขนาด 18.1 คิว มาพร้อมกับระบบ LGE Linear Cooling ช่วยคงความสดของอาหารได้ยาวนานขึ้น มี Door Cooling ช่วยกระจายความเย็นสม่ำเสมอ
  • HITACHI รุ่น RVG550PDX GBK - ตู้เย็นขนาด 19.4 คิว มาพร้อมกับระบบการทำงานแบบ Inverter รวมถึง Dual Fan Cooling สามารถทำความเย็นแยกกัน ระหว่างช่องแช่เย็น และช่องแช่แข็ง


หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับตู้เย็น 2 ประตู โกลบอลเฮ้าส์ ช่วยคุณได้

นอกจาก ตู้เย็น 2 ประตู รุ่นที่ได้แนะนำไปแล้ว คุณยังสามารถเลือกซื้อได้ที่ โกลบอลเฮ้าส์ หรือเข้าไปเลือกดูสินค้าเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ Global House และถ้าใครอยากจะเข้าไปดูสินค้าจริง ไปลองสัมผัส ลองเลือก ก็สามารถไปที่ Global House ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้เลย ซึ่งจะมีพนักงานที่พร้อมให้บริการตอบคำถาม และช่วยแนะนำสินค้า

นอกจากนั้นยังมี บริการติดตั้ง และบริการทำความสะอาด ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณ และถ้าใครที่ไม่อยากออกมาช้อปเอง ก็สามารถช้อปออนไลน์ได้ง่ายๆ แถมยังมาพร้อมกับโปรโมชันสุดคุ้ม และ สิทธิพิเศษในการผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) นอกจากสินค้านี้แล้ว โกลบอลเฮ้าส์ ก็ยังมีสินค้าเกี่ยวกับบ้านอีกมากมายที่ขนมาให้คุณได้เลือกแบบครบครัน!!!
 
Global House จัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้าน ให้คุณครบจบในที่เดียว




เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่
Facebook: Global House โกลบอลเฮ้าส์
Line@: @globalhouse
Instagram: globalhouse_official
YouTube: Global House โกลบอลเฮ้าส์
TikTok: globalhouseofficial
Twitter: @globalhouseth


46


แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์เป็นที่นิยมกันมาก ในเรื่องการประหยัดไฟ แต่ถ้าเป็นเรื่องของความเย็น หลายคนมักจะบอกว่าแอร์ธรรมดาเย็นฉ่ำกว่า เลยทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นว่า ควรซื้อแอร์แบบไหนดี ? วันนี้ โกลบอลเฮ้าส์ จะมาไขข้อสงสัยว่าทำไม แอร์อินเวอร์เตอร์ไม่เย็น หรือ เย็นช้ากว่าแอร์ธรรมดา พร้อมบอกทริคการทำให้แอร์เย็นฉ่ำ และประหยัดค่าไฟมากกว่าเดิม
 

มาทำความรู้จัก “แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์” กันดีกว่า


ระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) เป็นระบบที่จะทำงานโดยอาศัยรอบการหมุนของคอมเพรสเซอร์ เพื่อแลกเปลี่ยนกระแสไฟฟ้า กับ มอเตอร์ของเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนั้นๆ ทำให้การทำงานคงที่

ส่วน “แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์” คอมเพรสเซอร์จะปรับอุณหภูมิในห้องให้ค่อยๆ ลดลง แล้วตัดการทำงาน เมื่ออุณหภูมิของห้องถึงจุดที่ตั้งค่าไว้ และจะกลับมาทำงานอีกครั้ง เพื่อรักษาอุณหภูมิของห้องให้คงที่
 
ทำไม? แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ไม่เย็น เหมือนกับแอร์ระบบธรรมดา


นั่นก็เพราะรอบการหมุนของคอมเพรสเซอร์แอร์ลดลง เพื่อปรับอุณหภูมิให้คงที่ หากอุณหภูมิภายในห้องเพิ่มสูงขึ้น แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์จะทำการปรับรอบการหมุน จึงทำความเย็นได้เย็นเร็วกว่าแอร์แบบปกติ แต่จะไม่เย็นฉ่ำเหมือนกับแอร์แบบธรรมดา เนื่องจากแอร์แบบปกติ จะทำความเย็นต่ำกว่าอุณหภูมิที่ตั้งเอาไว้ จึงทำให้รู้สึกเย็นฉ่ำกว่านั่นเอง
 
ทริคการเปิดแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์อย่างไร ให้แอร์เย็นฉ่ำ!!
ให้ปรับอุณหภูมิของแอร์ลดลงกว่าอุณหภูมิที่ต้องการ เช่น ถ้าปกติเปิดแอร์ 25 องศา ก็อาจจะลดให้เหลือประมาณ 23 องศา เวลาที่คอมเพรสเซอร์ลดรอบการทำงานลง ก็จะทำให้ห้องรักษาอุณหภูมิอยู่ที่ 23 องศา
 
อยากเปิดแอร์นานๆ แต่อยากประหยัดไฟ ต้องทำอย่างไร?


วันนี้ โกลบอลเฮ้าส์ เลยจะมาแนะนำทริคที่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟได้มากยิ่งขึ้น แม้จะใช้แอร์เป็นเวลานานตลอดทั้งวัน
  • ระบายความร้อนก่อนเปิดแอร์
  • เพิ่มอุณหภูมิขึ้นเล็กน้อย ประมาณ 1 – 2 องศา
  • เปิดพัดลมช่วยได้
  • เลือกขนาด BTU ของแอร์ให้เหมาะกับขนาดของห้อง
  • งดการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ
  • ล้างแอร์ช่วยได้

หมดปัญหา แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ไม่เย็น ต้องเลือกแอร์ให้ดี!!


อีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยให้ประหยัดไฟนั่นก็คือ การเลือกแอร์ที่ดี และมีคุณภาพ ดังนั้นจึงอยากจะมาแนะนำแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์รุ่นฮิต ที่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟได้มากยิ่งขึ้น จะมีแอร์รุ่นไหนบ้างไปดูกันเลย

  • MITSUBISHI HEAVY DUTY รุ่น BTU SRK10YVS-W1 (9,000 BTU) เป็นรุ่นที่มีเทคโนโลยี Jet Flow ช่วยเรื่องการกระจายความเย็น มาพร้อม 3D Auto มีมอเตอร์ในการปรับทิศทางถึง 3 ตัว
  • HITACHI รุ่น RAS-PH13CMT (12,000 BTU) แอร์รุ่นนี้มาพร้อมกับโหมด Air Sleep Timer แอร์จะทำการเพิ่มอุณหภูมิขณะหลับ ประมาณ 2 องศา
  • SAMSUNG รุ่น AR15TYHZCWKNST (15,000 BTU) มีเทคโนโลยี Digital Inverter Boost ทำความเย็นได้เร็วขึ้นถึง 43%

 
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ โกลบอลเฮ้าส์ ช่วยคุณได้

ใครที่กำลังสนใจจะเลือกซื้อ แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ สามารถเลือกซื้อได้ที่ โกลบอลเฮ้าส์ หรือเข้าไปเลือกดูสินค้าเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ Global House และถ้าใครอยากจะเข้าไปดูสินค้าจริง ไปลองสัมผัส ลองเลือก ก็สามารถไปที่ Global House ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้เลย ซึ่งจะมีพนักงานที่พร้อมให้บริการตอบคำถาม และช่วยแนะนำสินค้า

นอกจากนั้นยังมี บริการติดตั้ง ล้าง รื้อถอน เครื่องปรับอากาศ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณ และถ้าใครที่ไม่อยากออกมาช้อปเอง ก็สามารถช้อปออนไลน์ได้ง่ายๆ แถมยังมาพร้อมกับโปรโมชันสุดคุ้ม และ สิทธิพิเศษในการผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) นอกจากสินค้านี้แล้ว โกลบอลเฮ้าส์ ก็ยังมีสินค้าเกี่ยวกับบ้านอีกมากมายที่ขนมาให้คุณได้เลือกแบบครบครัน!!!
 
Global House จัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้าน ให้คุณครบจบในที่เดียว



เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่
Facebook: Global House โกลบอลเฮ้าส์
Line@: @globalhouse
Instagram: globalhouse_official
YouTube: Global House โกลบอลเฮ้าส์
TikTok: globalhouseofficial
Twitter: @globalhouseth

47


แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ เป็นระบบของแอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานมากกว่าแอร์ระบบธรรมดา ในเรื่องของการทำงาน โดยเฉพาะเรื่องของ "การประหยัดไฟ" แต่บางคนอาจจะเคยได้ยินว่า แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ มีค่าใช้จ่ายในการล้างแอร์แพงกว่า ใครที่กำลังสงสัยเรื่องนี้อยู่ วันนี้ โกลบอลเฮ้าส์ จะมาตอบข้อสงสัยเรื่องนี้ให้กับคุณ
 

แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ คืออะไร?


แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ ระบบการทำงานจะใช้กระแสไฟฟ้าแบบสลับ ในการปรับแรงดันของวงจรภายใน หากอุณหภูมิเย็นเกินกว่าอุณหภูมิที่คุณตั้งค่าไว้ คอมเพรสเซอร์จะลดความเร็วในการหมุนลง  ทำให้การใช้ไฟฟ้าลดลงประมาณ 30 - 40 % จึงทำให้ประหยัดไฟมากกว่าแอร์ระบบธรรมดา
 
การทำงานของแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ และแอร์ระบบธรรมดา


การทำงานของแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ ถือได้ว่าตอบโจทย์เรื่องการประหยัดไฟมากกว่า รวมถึงเมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ ก็มีความแตกต่างกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ

  • การใช้งานไฟฟ้าลดลง เนื่องจากเป็นกระแสไฟแบบสลับ ต่างจากแอร์ระบบธรรมดาที่เป็นกระแสตรง
  • ทำความเย็นได้ยาวนานกว่า ระบบแอร์อินเวอร์เตอร์ จะลดรอบการทำงานของคอมเพรสเซอร์ เพื่อรักษาอุณหภูมิ แต่แอร์ระบบธรรมดาจะ
  • ทำงานด้วยความเย็นคงที่ หากปิดแอร์ตัวเครื่องก็จะหยุดทำงานทันที
  • การควบคุมอุณหภูมิ จะสม่ำเสมอมากกว่า อุณหภูมิไม่สวิงเหมือนแอร์ระบบธรรมดา
  • ทำงานได้เงียบกว่า ไม่เหมือนแอร์ระบบธรรมดา ที่เสียงของคอมเพรสเซอร์จะดังขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่แอร์ทำงานหนักๆ
  • ห้องเย็นไวขึ้น เพราะแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์จะทำรอบได้เร็วมากขึ้น ทำให้ห้องเย็นได้ไวกว่าแอร์ระบบธรรมดา

จุดเด่นของแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์กับแอร์ระบบธรรมดา
  • จุดเด่นของแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ ช่วยประหยัดค่าไฟ และทำความเย็นได้รวดเร็วมากกว่าแอร์ระบบธรรมดา
  • จุดเด่นของแอร์ระบบธรรมดา ทำความเย็นที่เย็นฉ่ำมากกว่า เพราะอุณหภูมิจะค่อยๆ ลดลงต่ำกว่าระดับที่ตั้งไว้ประมาณ 1-2 องศา และมีราคาถูก

การล้างแอร์ระบบแอร์อินเวอร์เตอร์ และแอร์ระบบธรรมดา แพงกว่ากันจริงหรือไม่?


เพราะแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ มีแผงวงจร PCB (แผงวงจรพิมพ์) มากกว่าแอร์ระบบธรรมดา โดยจะมีแผงวงจรตรงด้านนอกเพิ่มเข้ามา จึงทำให้การล้างแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ มีขั้นตอนที่ยากกว่า ซึ่งหากล้างไม่ดีอาจทำให้แผงวงจรด้านนอกเสีย จนต้องเปลี่ยนบอร์ดใหม่ได้
 
แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์รุ่นที่แนะนำ


  • HITACHI รุ่น RAS-PH10CNT แอร์ขนาด 9,000 BTU แอร์ระบบ Inverter ที่มาพร้อมกับระบบ 2-Stage Filtration System Plus Stainless Pre Filter X Anti Virus Plus Filter ที่ช่วยในการยับยั้งแบคทีเรีย และไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้มากถึง 99%
  • MITSUBISHI HEAVY DUTY รุ่น DXK13YW-W1 แอร์ขนาด 12,000 BTU มาพร้อมกับโหมด Jet Flow ที่ช่วยทำให้แอร์ทำความเย็นได้รวดเร็ว
  • SAMSUNG รุ่น AR18AYECBWKNST แอร์ขนาด 18,000 BTU มีระบบ Wind-Free TM Cooling ทำให้ใช้พลังงานน้อยกว่าโหมด Fast Cooling ถึง 77%

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอร์อินเวอร์เตอร์ โกลบอลเฮ้าส์ ช่วยคุณได้

ใครที่กำลังสนใจจะเลือกซื้อ แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ สามารถเลือกซื้อได้ที่ โกลบอลเฮ้าส์ หรือเข้าไปเลือกดูสินค้าเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ Global House และถ้าใครอยากจะเข้าไปดูสินค้าจริง ไปลองสัมผัส ลองเลือก ก็สามารถไปที่ Global House ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้เลย ซึ่งจะมีพนักงานที่พร้อมให้บริการตอบคำถาม และช่วยแนะนำสินค้า

นอกจากนั้นยังมี บริการติดตั้ง ล้าง รื้อถอน เครื่องปรับอากาศ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณ และถ้าใครที่ไม่อยากออกมาช้อปเอง ก็สามารถช้อปออนไลน์ได้ง่ายๆ แถมยังมาพร้อมกับโปรโมชันสุดคุ้ม และ สิทธิพิเศษในการผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) นอกจากสินค้านี้แล้ว โกลบอลเฮ้าส์ ก็ยังมีสินค้าเกี่ยวกับบ้านอีกมากมายที่ขนมาให้คุณได้เลือกแบบครบครัน!!!
 
Global House จัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้าน ให้คุณครบจบในที่เดียว

เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่
Facebook: Global House โกลบอลเฮ้าส์
Line@: @globalhouse
Instagram: globalhouse_official
YouTube: Global House โกลบอลเฮ้าส์
TikTok: globalhouseofficial
Twitter: @globalhouseth

48

ใครที่มีพื้นที่สนามหญ้าหน้าบ้านแล้วไม่ได้ใช้งาน วันนี้ โกลบอลเฮ้าส์ นำเอาวิธีการ แต่งสนามหญ้าหน้าบ้าน มาฝากกัน!! ซึ่งการตกแต่งสนามหญ้าให้สวยงาม และจัดสรรพื้นที่ดีๆ อาจจะทำให้สนามหญ้าที่ไม่ค่อยได้ใช้งานกลายเป็นอีกหนึ่งมุมโปรด ที่คุณสามารถใช้พักผ่อน ใช้ทำงาน หรือใช้ทำกิจกรรมได้มากยิ่งขึ้น
 

ข้อควรรู้ก่อน แต่งสนามหญ้าหน้าบ้าน?


การแต่งสนามหญ้าหน้าบ้าน ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบหลายๆ ด้าน เพื่อให้การตกแต่งนั้น ออกมาตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด

  • วัตถุประสงค์การใช้งาน ก่อนอื่นควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์การใช้งาน เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และทำให้คุณสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมได้อีกด้วย
  • ดูแบบแปลน และขนาดของพื้นที่ การคำนึงถึงแปลนของสนามหญ้า และขนาดของพื้นที่โดยรวมก่อนทำการตกแต่ง จะช่วยให้คุณเลือกเฟอร์นิเจอร์ได้ง่ายยิ่งขึ้น
  • เลือกเฟอร์นิเจอร์ ให้เข้ากับบรรยากาศ การจะเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เข้ากับสถานที่ ขึ้นอยู่กับ Mood & Tone เช่น ถ้าต้องการบรรยากาศชิลๆ ก็ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์เป็นสีเอิร์ธโทน อย่าง โต๊ะไม้ แล้วอาจจะตกแต่งด้วยของประดับเล็กๆ เพื่อเพิ่มลูกเล่นให้กับมุมทำงาน
  • การจัดวางให้เป็นสัดส่วน ควรที่จะแบ่งพื้นที่ใช้ชัดเจนว่ามุมไหนจะวางเฟอร์นิเจอร์ หรือมุมไหนจะวางของตกแต่ง จะทำให้ง่ายต่อการใช้งาน และง่ายต่อการดูแลรักษามากยิ่งขึ้น
  • เลือกผู้ออกแบบให้เหมาะสมกับสไตล์ที่ชอบ หากคุณอยากจะรีโนเวทสนามหญ้าให้สวยงาม อาจจะหานักออกแบบสวนมาออกแบบมุมที่ต้องการ หรือถ้าอยากประหยัดงบประมาณ อาจลองหาภาพตัวอย่าง แล้วปรับแต่งให้เป็นแบบในที่คุณชอบก็ได้เช่นกัน
  • เลือกเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งสนามหญ้าหน้าบ้าน ให้ตอบโจทย์การใช้งาน
    การเลือกเฟอร์นิเจอร์ และ ของตกแต่งสนามหญ้าหน้าบ้าน ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน วันนี้ โกลบอลเฮ้าส์ ขอมาแนะนำ เฟอร์นิเจอร์สนาม เพื่อช่วยทำให้สนามหน้าบ้าน กลายมาเป็นมุมสำหรับพักผ่อน สามารถใช้ประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้น

โต๊ะสนาม และเก้าอี้สนาม


สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศห้องทำงาน การหาโต๊ะเล็กๆ สักตัวจะทำให้มุมหน้าบ้านดูมีลูกเล่นมากยิ่งขึ้น ไม่ควรเลือกโต๊ะที่มีขนาดใหญ่ แต่ควรเลือกโต๊ะที่มีความแข็งแรงอย่าง โต๊ะเหล็ก

เมื่อมีโต๊ะแล้วก็ต้องมีเก้าอี้ด้วย อาจจะเลือกเป็น เก้าอี้เหล็ก ให้เข้ากับโต๊ะก็จะทำให้ Mood & Tone ไปในทิศทางเดียวกัน สำหรับใครที่มีพื้นที่จำกัด อาจจะเลือกเป็น เก้าอี้ยาว หรือ ม้านั่งสนาม ก็ได้ เพราะช่วยประหยัดพื้นที่ และสามารถนั่งได้หลายคน

ชุดโต๊ะสนาม


สำหรับใครที่อยากจะได้โต๊ะกับเก้าอี้เหมือนกันทั้งเซต ก็อาจจะเลือกเป็น ชุดโต๊ะสนาม ไปเลย เพราะในชุดโต๊ะสนามมีครบทั้งโต๊ะ และเก้าอี้ โดยชุดโต๊ะสนามส่วนใหญ่จะเป็น 2 ที่นั่ง หรือ 4 ที่นั่ง ถือเป็นจำนวนที่เหมาะกับการนำมาจัดแต่ง บริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านได้เป็นอย่างดี

ชิงช้าสนาม


หากต้องการตกแต่งสนามหญ้า ให้กลายเป็นมุมพักผ่อน อาจเลือกใช้ ชิงช้าสนาม ก็ได้ มีให้เลือกทั้งแบบ ชิงช้าสนามที่มีหลังคา และแบบที่เป็น ชิงช้าทรงรังนก การตกแต่งด้วยชิงช้าจะทำให้การแต่งสนามหญ้าหน้าบ้านมีลูกเล่นมากยิ่งขึ้น

ร่มสนาม และของตกแต่งสวน


ถ้าต้องการจัดมุมสำหรับนั่งเล่น หรือไม่อยากให้มุมหน้าบ้านดูร้อนจนเกินไป ก็อาจจะหา ร่มสนาม มาใช้ เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันแสงแดดได้แล้ว ก็ยังสามารถใช้งานในช่วงหน้าฝนได้อีกด้วย

เพิ่มความน่าสนใจให้สนามหญ้าของคุณด้วยการหา ของตกแต่งสวนเล็กๆ มาประดับเพิ่มเติม หรือเลือก น้ำพุแต่งสวน เพื่อเพิ่มความร่มรื่น โดยติดตั้งเข้ากับ ปั๊มน้ำพุ หรือ ปั๊มน้ำตู้ปลา ส่วนใครที่มีพื้นที่จำกัด ก็อาจจะหา หญ้าเทียม มาตกแต่งได้ เช่น นำ ดอกไม้ต้นไม้ปลอม มาวางประดับไว้บนโต๊ะสนาม ก็จะทำให้สวนดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

นอกจากนี้เรื่องของแสงสว่างก็เป็นสิ่งสำคัญ สร้างบรรยากาศยามค่ำคืน ด้วยการติดตั้ง ไฟตกแต่งสวน หรือ โคมไฟใช้ภายนอก นอกจากนี้แสงสว่างยังช่วยในเรื่องของความปลอดภัยได้อีกด้วย


หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับของแต่งสวน โกลบอลเฮ้าส์ ช่วยคุณได้

นอกจากเฟอร์นิเจอร์ที่ได้แนะนำไปเบื้องต้นแล้วยังมี เฟอร์นิเจอร์สนาม อีกหลายชิ้นที่คุณสามารถเลือกไปแต่งบ้านได้ ซึ่งสามารถเลือกซื้อได้ที่ โกลบอลเฮ้าส์ หรือเข้าไปเลือกดูสินค้าเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ Global House และถ้าใครอยากจะเข้าไปดูสินค้าจริง ไปลองสัมผัส ลองเลือก ก็สามารถไปที่ Global House ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้เลย ซึ่งจะมีพนักงานที่พร้อมให้บริการตอบคำถาม และช่วยแนะนำสินค้า

นอกจากนั้นยังมี บริการติดตั้ง และบริการทำความสะอาด ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณ และถ้าใครที่ไม่อยากออกมาช้อปเอง ก็สามารถช้อปออนไลน์ได้ง่ายๆ แถมยังมาพร้อมกับโปรโมชันสุดคุ้ม และ สิทธิพิเศษในการผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) นอกจากสินค้านี้แล้ว โกลบอลเฮ้าส์ ก็ยังมีสินค้าเกี่ยวกับบ้านอีกมากมายที่ขนมาให้คุณได้เลือกแบบครบครัน!!!



เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่
Facebook: Global House โกลบอลเฮ้าส์
Line@: @globalhouse
Instagram: globalhouse_official
YouTube: Global House โกลบอลเฮ้าส์
TikTok: globalhouseofficial
Twitter: @globalhouseth

49


สำหรับใครที่กำลังมีแพลนจะติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น หนึ่งในสิ่งที่ทำให้หลายๆ คนเกิดความสงสัย คือ เครื่องทำน้ำอุ่น หม้อต้มแบบไหนดี และแต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนที่คุ้มค่ามากกว่ากัน? วันนี้ โกลบอลเฮ้าส์ จะมาแนะนำหม้อต้มแต่ละแบบในเครื่องทำน้ำอุ่น ที่ทำให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อที่ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด
 

หม้อต้มของเครื่องทําน้ำอุ่น มีกี่ประเภท และเลือกแบบไหนดี?


ในปัจจุบันหม้อต้มจะมีด้วยกัน 3 แบบหลักๆ ได้แก่ หม้อต้ม Grilon, หม้อต้มทองแดง และหม้อต้มขดลวดทองแดง ซึ่งแต่ละแบบจะมีลักษณะที่แตกต่างกันไป ดังนี้

1. หม้อต้ม Grilon
เป็นหม้อต้มที่สามารถทนความร้อนได้ถึง 260 องศาเซลเซียส เมื่อเกิดการอุดตันจากสิ่งสกปรก  สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหม้อต้มใหม่ แต่ควรระวังหากความร้อนสูง เพราะอาจจะทำให้หม้อต้มละลายได้

2.หม้อต้มทองแดง
เป็นหม้อต้มที่สามารถทำความร้อนได้ดี และรวดเร็ว มีความทนทานสูง ถึงแม้ว่าจะต้มน้ำด้วยอุณหภูมิที่สูงก็ไม่ทำให้หม้อต้มละลาย แต่อาจเกิดตะกรันขึ้นได้ง่าย

3.หม้อต้มขดลวดทองแดง
เป็นหม้อต้มที่ทำความร้อนโดยการใช้ขดลวดทองแดง สามารถทำความร้อนได้ในระยะเวลาสั้น แต่ไม่สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้ เหมือนกับหม้อต้มพลาสติก
 
วิธีเลือกประเภทหม้อต้มของเครื่องทำน้ำอุ่น


การเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นให้เหมาะสมกับการใช้งาน มีปัจจัยหลายที่ช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
  • ลักษณะในการใช้งาน หากคุณเป็นคนที่ชอบอาบน้ำอุ่น หรือต้องการเครื่องทำน้ำอุ่นที่ร้อนไว แนะนำให้เลือกหม้อต้มทองแดง หรือหม้อต้มขดลวดทองแดง
  • ความประหยัดไฟ เครื่องทำน้ำอุ่นแต่ละรุ่นจะมีกำลังไฟแตกต่างกัน ดังนั้นควรเลือกที่มีฉลากประหยัดไฟ ก็จะช่วยประหยัดค่าไฟได้มากกว่า
  • ความทนทาน และความปลอดภัย หากต้องการเครื่องทำน้ำอุ่นที่สามารถใช้งานได้ยาวนาน ก็อาจจะเลือกหม้อต้มทองแดง เพราะมีคุณสมบัติในการใช้งานที่ทนทานมากกว่าหม้อต้มประเภทอื่น
  • ราคา และการรับประกัน คุณควรตั้งงบประมาณ และพิจารณาถึงการรับประกันของเครื่องทำน้ำอุ่นยี่ห้อนั้นๆ

หม้อต้มของเครื่องทำน้ำอุ่นแบบไหนดี แบบไหนเหมาะกับคุณ

1.หม้อต้ม Grilon


  • เครื่องทำน้ำอุ่นกำลังไฟ 4,500 วัตต์ เป็นหม้อต้ม Grilon สามารถทำความร้อนได้ดี และมีความแข็งแรง
  • ในตัวเครื่องมีฮีตเตอร์ 2 ชุด ทำให้น้ำมีอุณหภูมิสม่ำเสมอ
  • มาพร้อมระบบที่ช่วยตัดไฟอัตโนมัติ เมื่ออุณหภูมิสูงเกินกว่า 55 องศา

2.หม้อต้มทองแดง


  • เครื่องทำน้ำอุ่นหม้อต้มทองแดง กำลังไฟ 4,500 วัตต์
  • สามารถทนความร้อนได้สูงถึง 65 องศา
  • มาพร้อมระบบ Flow & Reed Switch ควบคุมการไหลของน้ำ
  • มีระบบ linear Temperature Control ตัวช่วยควบคุมอุณหภูมิ
  • มีระบบตัดไฟรั่วภายใน 0.1 วินาที
  • มีชุดเทอร์โมสตัท ช่วยตัดการทำงานหากอุณหภูมิสูงเกินไป

3.หม้อต้มขดลวดทองแดง


  • เครื่องทำน้ำอุ่นหม้อต้มขดลวดทองแดง กำลังไฟ 3,800 วัตต์
  • มีระบบ Whirl Water Flow ช่วยให้การหมุนเวียนของน้ำทำงานได้ดียิ่งขึ้น
  • สามารถปรับอุณหภูมิได้หลายระดับ มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ตรวจจับแรงดันน้ำ
  • มีระบบ ELCB ช่วยป้องกันไฟฟ้ารั่ว และน้ำเข้าตัวเครื่อง รวมถึงยังมีระบบ Safeguard ที่จะช่วยตรวจเช็คสายดินอัตโนมัติ
  • การเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นให้ดี ควรเลือกให้เหมาะกัการใช้งาน และคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย เพื่อการใช้งานที่ยาวนาน


หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องทำน้ำอุ่น และหม้อต้ม โกลบอลเฮ้าส์ ช่วยคุณได้

นอกจาก เครื่องทำน้ำอุ่น ที่เราได้แนะนำไปเบื้องต้นไปแล้ว ก็ยังมีรุ่นอื่นๆ อีกมากมายให้คุณได้เลือกซื้อได้ที่ โกลบอลเฮ้าส์ คุณสามารถเข้าไปเลือกดูสินค้าเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ Global House และถ้าใครอยากจะเข้าไปดูสินค้าจริง ไปลองสัมผัส ลองเลือก ก็สามารถไปที่ Global House ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้เลย ซึ่งจะมีพนักงานที่พร้อมให้บริการตอบคำถาม และช่วยแนะนำสินค้า

นอกจากนั้นยังมี บริการติดตั้งเครื่องน้ำอุ่น-น้ำร้อน ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณ และถ้าใครที่ไม่อยากออกมาช้อปเอง ก็สามารถช้อปออนไลน์ได้ง่ายๆ แถมยังมาพร้อมกับโปรโมชันสุดคุ้ม และ สิทธิพิเศษในการผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) นอกจากสินค้านี้แล้ว โกลบอลเฮ้าส์ ก็ยังมีสินค้าเกี่ยวกับบ้านอีกมากมายที่ขนมาให้คุณได้เลือกแบบครบครัน!!!
 
Global House จัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้าน ให้คุณครบจบในที่เดียว



เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่
Facebook: Global House โกลบอลเฮ้าส์
Line@: @globalhouse
Instagram: globalhouse_official
YouTube: Global House โกลบอลเฮ้าส์
TikTok: globalhouseofficial
Twitter: @globalhouseth


50


ในสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว แอร์ หรือเครื่องปรับอากาศ นับว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ายอดนิยมที่ขาดไม่ได้เลย แต่การเลือกแอร์ในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายประเภท เช่น แอร์แขวนกับแอร์ติดผนัง เพื่อที่คุณจะได้สามารถเลือกซื้อแอร์ให้เหมาะกับการใช้งาน โกลบอลเฮ้าส์ จะมาบอกความแตกต่างของแอร์ทั้งสองประเภทนี้ และให้คำแนะนำในการเลือกซื้อ ทั้งสำหรับนำไปใช้งานที่บ้าน หรือใช้งานที่ออฟฟิศ


แอร์แขวนกับแอร์ติดผนัง ต่างกันอย่างไร?
แอร์แบบติดผนัง เป็นแอร์ที่คนนิยมนำไปใช้งานตามบ้านเรือนทั่วไป ส่วน แอร์แบบแขวน ก็เป็นแอร์ที่นิยมนำมาใช้งานตามห้องที่มีคนจำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้า หรือห้องประชุมขนาดใหญ่ เป็นต้น


แอร์แขวน
แอร์แขวน (Ceiling Type) ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ และมีขนาด BTU มากกว่าแอร์ติดผนัง ทำให้สามารถกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึง เหมาะกับห้องที่มีขนาดใหญ่
  • จุดเด่น คือ สามารถกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึง เนื่องจากมี BTU ขนาดใหญ่
  • จุดด้อย คือ เนื่องจากมีมอเตอร์ในการทำงานขนาดใหญ่ เลยทำให้เกิดเสียงดังเวลาแอร์ทำงาน นอกจากนี้ยังมีราคาแพงกว่าแอร์ติดผนังด้วย

แอร์ติดผนัง
แอร์ติดผนัง (Wall Type) มักจะมีขนาดของ BTU ไม่เกิน 24,000 BTU โดยจะติดตั้งเข้ากับผนัง เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง
  • จุดเด่น คือ มีตัวเลือกที่หลากหลายมากกว่าทั้ง ขนาด BTU รูปลักษณ์ของแอร์ และฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ
  • จุดด้อย คือ หากใช้งานในห้องขนาดใหญ่ อาจทำให้ความเย็นส่งไปได้ไม่ทั่วถึง

 
เทคนิคการเลือกซื้อแอร์แขวน และแอร์ติดผนัง


เมื่อรู้วิธีการติดตั้งของแอร์แขวน กับ แอร์ติดผนัง และขนาดของแอร์เบื้องต้นแล้ว อย่าลืมศึกษาวิธีในการเลือกซื้อ เพราะเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้คุณสามารถเลือกซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้น
  • ห้องที่จะทำการติดตั้งแอร์เป็นห้องลักษณะอย่างไร ถ้าเป็นห้องที่มีขนาดเล็กไปจนถึงห้องขนาดกลาง แนะนำให้เลือกแอร์แบบติดผนัง แต่ถ้าคุณต้องการนำไปใช้งานในห้องขนาดใหญ่ แนะนำให้เลือกแอร์แบบแขวนจะตอบโจทย์มากกว่า
  • ขนาดของห้องในการติดตั้งแอร์ ถ้าขนาดของห้องมีขนาดเล็ก (9 - 24 ตร.ม.) ก็อาจจะเลือกแอร์ขนาด 9,000 BTU - 18,000 BTU แต่ถ้าเป็นห้องขนาดใหญ่ (24 ตร.ม. ขึ้นไป) แนะนำให้เลือกแอร์ที่มี BTU สูงๆ อย่างเช่น 24,000 BTU ขึ้นไป ก็จะกระจายความเย็นได้ดีกว่า
  • เวลาในการใช้งาน และฟังก์ชันต่างๆ หากคุณใช้งานแอร์ตลอดทั้งวัน แนะนำให้เลือกแอร์ที่มีขนาด BTU สูงๆ เพราะมีมอเตอร์ในการทำงานใหญ่กว่า ทำให้เหมาะกับการใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานาน

แนะนำ แอร์แขวนกับแอร์ติดผนัง รุ่นไหนดี!!
วันนี้เราจะมาแนะนำแอร์รุ่นฮิต ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายมากขึ้น พร้อมแนะนำรุ่นที่เหมาะกับคุณ จะมีแอร์รุ่นไหนบ้างมาดูกันเลย

แอร์แขวน 2


  • มีขนาด 36,061 BTU เหมาะกับห้องขนาดใหญ่ ออฟฟิศ หรือห้างสรรพสินค้า
  • สามารถกระจายความเย็นได้ 4 ทิศทาง
  • คอมเพรสเซอร์เป็นแบบ Inverter ทำงานเงียบ และกระจายความเย็นได้ดี
  • แผงฟิลเตอร์มีคุณภาพสูง และมีระบบที่ช่วยทำงานได้ต่อเนื่อง



  • มีขนาด 36,301 BTU เป็นเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่
  • ให้ความเย็นกระจายได้อย่างรวดเร็ว และทั่วถึง
  • มาพร้อมกับน้ำยาแอร์ R - 410 และฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
  • วัสดุทำด้วยโลหะ พลาสติก ที่มีความแข็งแรง และมีประกัน 5 ปี

แอร์ติดผนัง 2


  • มีขนาด 9,000 BTU ซึ่งเหมาะกับห้องขนาดเล็ก
  • มีฟังก์ชัน Digital Inverter Boost ช่วยทำความเย็นได้เร็วขึ้นถึง 43%
  • มาพร้อมกับใบพัดขนาดใหญ่ และช่องลมที่กว้างขึ้น สามารถกระจายความเย็นได้ถึง 15 เมตร
  • มีระบบการทำงานเงียบ แถมยังลดการใช้พลังงานถึง 73%
  • มีโหมด Auto Clean เป็น แอร์ที่สามารถล้างตัวเอง ได้ ทำให้สะดวกต่อการทำความสะอาด
  • มีโหมด Good Sleep ช่วยควบคุมอุณหภูมิขณะหลับได้ดี


  • มีขนาด 12,000 BTU เหมาะกับห้องขนาดเล็กไปจนถึงห้องขนาดกลาง
  • มีแผ่นกรองแบบ Cold Catalyst Filter ที่ช่วยในการฆ่าเชื้อโรคในอากาศ
  • มีการปรับทิศทางลมแบบ 3D Air Flow
  • มีระบบ Self - Cleaning ซึ่งเป็น ระบบทำความสะอาดตัวเอง (แอร์ล้างตัวเอง) ที่จะช่วยป้องกันกลิ่นอันไม่พึงประสงค์

การเลือกซื้อแอร์ควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขนาด BTU ของแอร์ รวมถึงขนาดของห้องนอกจากนี้ควรเลือกแอร์ที่ดี มีมาตรฐาน มีการรับประกัน และบริการหลังการขาย เพื่อได้แอร์ที่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
 
 
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอร์ โกลบอลเฮ้าส์ ช่วยคุณได้

นอกจาก แอร์ รุ่นที่เราได้แนะนำไปแล้ว โกลบอลเฮ้าส์ก็ยังมีแอร์รุ่นอื่นๆ อีกมากมายให้คุณได้เลือก ซึ่งเรามีดีไซน์ และขนาดของแอร์ให้คุณได้เลือกหลากหลายรุ่น หลากหลายแบรนด์ จะแบบไหนก็สามารถเลือกซื้อได้ที่ โกลบอลเฮ้าส์

คุณสามารถเข้าไปเลือกดูสินค้าเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ Global House และถ้าใครอยากจะเข้าไปดูสินค้าจริง ไปลองสัมผัส ลองเลือก ก็สามารถไปที่ Global House ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้เลย ซึ่งจะมีพนักงานที่พร้อมให้บริการตอบคำถาม และช่วยแนะนำสินค้า

นอกจากนั้นยังมี บริการติดตั้ง ล้าง รื้อถอน เครื่องปรับอากาศ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณ และถ้าใครที่ไม่อยากออกมาช้อปเอง ก็สามารถช้อปออนไลน์ได้ง่ายๆ แถมยังมาพร้อมกับโปรโมชันสุดคุ้ม และ สิทธิพิเศษในการผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด) นอกจากสินค้านี้แล้ว โกลบอลเฮ้าส์ ก็ยังมีสินค้าเกี่ยวกับบ้านอีกมากมายที่ขนมาให้คุณได้เลือกแบบครบครัน!!!
 
Global House จัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้าน ให้คุณครบจบในที่เดียว



เพื่อไม่ให้พลาดทุกโปรโมชันใหม่ๆ ทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าตกแต่งบ้าน สามารถติดตามและสั่งซื้อสินค้า Global House ได้หลากหลายช่องทางที่
Facebook: Global House โกลบอลเฮ้าส์
Line@: @globalhouse
Instagram: globalhouse_official
YouTube: Global House โกลบอลเฮ้าส์
TikTok: globalhouseofficial
Twitter: @globalhouseth

หน้า: [1] 2