ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - ThaiFranchise

หน้า: 1 ... 6 7 8 9 10 [11] 12 13 14 15 16 ... 25
501
งาน    มหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 5 จ.นครราชสีมา

วันที่ 19-21 สิงหาคม 2554 ณ ห้อง MCC Hall ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ โคราช

โดยแบ่งพื้นที่จัดงาน ออกเป็น 3 โซนหลัก ดังนี้


โซนตลาดเงิน เป็นโซนที่ให้บริการทางการ เงินทุกรูปแบบ จากธนาคาร, สถาบันการเงิน, บริษัทการเงิน (Non Bank), บริษัทลิสซิ่ง, บริษัทประกันชีวิต, บริษัทประกันภัย และบริษัทประกันสุขภาพ ได้แก่ สินเชื่อที่อยู่อาศัย, สินเชื่อบุคคล, สินเชื่อรถยนต์, สินเชื่อเพื่อการศึกษา, เปิดบัญชีเงินฝาก, บัตรเครดิต, บัตรเงินสด, ประกันชีวิต, ประกันวินาศภัย, ประกันรถยนต์,ประกันอุบัติเหตุ, ประกันสุขภาพ


โซนตลาดทุน เป็นโซนที่ให้บริการทางการลงทุนอย่างครบวงจร จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและบริษัทในเครือ รวมทั้งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.), บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.), บริษัทผู้ค้าทองคำและโกลด์ฟิวเจอร์ ได้แก่ การเปิดบัญชีเพื่อการลงทุนในหุ้น, การลงทุนในกองทุนรวมทุกประเภท ทั้ง กองทุนตราสารหนี้, กองทุนหุ้น, กองทุนอสังหาริมทรัพย์, กองทุนทองคำ, กองทุนน้ำมัน, กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF), กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) รวมทั้งการลงทุนในทองคำและโกลด์ฟิวเจอร์ส


โซน SMEs เป็นโซนที่ให้บริการสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือธุรกิจ SMEs จากธนาคารและสถาบันการเงินเพื่อธุรกิจ SMEs และบริการ “คลินิก SMEs” ที่ให้คำปรึกษาเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและสร้างช่องทางในการทำธุรกิจ ให้แก่ ผู้ประกอบการ SMEs และบริษัทแฟรนไชส์ (Franchise) รวมทั้งยังมีการจำหน่ายสินค้าคุณภาพจากผู้ผลิตสินค้า OTOP 5 ดาว ซึ่งเป็นลูกค้าและร้านค้าพันธมิตรของธนาคารมาจำหน่ายในราคาพิเศษอีกด้วย

502
งาน  Kids Learning Expo 2011

วันที่ 22 กรกฎาคม 2554 - 24 กรกฎาคม 2554
เตรียมพร้อมสำหรับอนาคตของลูกน้อย กับงาน “Kids Learning Expo 2011” มหกรรมการเรียนรู้ สำหรับคุณหนูๆ ครั้งที่ 4 ภายใต้แนวคิด

“ช้อปปิ้งอนาคตลูก” จัดโดย บริษัท รักลูกกรุ๊ป จำกัด งานที่รวบรวมโรงเรียนอนุบาลและประถมศึกษาไว้มากที่สุดในประเทศ


พบกับกิจกรรมพิเศษ Learning Mall มหัศจรรย์การเรียนรู้ด้วยการแสวงหา เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้เด็กอยู่รอดในศตวรรษที่ 21 และกิจกรรมเสริมทักษะการเรียนรู้แบบใหม่ด้วยตนเอง พร้อมด้วยการจำหน่ายสินค้าสำหรับเด็กในราคาพิเศษ


contact : +66 (0) 2 831 8400 ต่อ 3511

503
งาน  แสดงสินค้าเมดอินไทยแลนด์ 2554

วันที่ 2 กรกฎาคม 2554 - 11 กรกฎาคม 2554
สถานที่  :  ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
ผู้จัดงาน : กระทรวงพาณิชย์


วัตถุประสงค์

1. เพื่อเป็นศูนย์รวมสินค้าทุกชนิด และเป็นการพัฒนาสินค้าไทยภายใต้ Brand “MADE IN THAILAND” และสร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยเป็น “One Stop Shopping in Asia”

2. เพื่อสร้างโอกาสในการขยายการค้าและการลงทุน ตลอดจนเปิดโอกาสให้การเจรจาธุรกิจระหว่างกัน ในงาน เพื่อส่งเสริมนโยบาย Internationalization และ Trading Nation โดยให้ผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชียและประเทศเพื่อนบ้าน เข้าถึงแหล่งผลิตและผู้ค้าโดยตรง โดยให้ ความสำคัญกับประเทศเพื่อนบ้าน ตะวันออกกลาง จีน แอฟริกา และยุโรปตะวันออก

3. เพื่อเป็นงานแสดงสินค้าระดับใหญ่ ที่แสดงให้เห็นศักยภาพโดยรวมของสินค้าอุตสาหกรรมธุรกิจบริการ และเพื่อผู้ประกอบการไทยในการนำเสนอสู่ตลาดโลก และให้ทราบถึงศักยภาพในการผลิตสินค้า/ บริการที่มีคุณภาพระดับส่งออกของไทย


ประเภทสินค้าที่จัดแสดง

กลุ่มสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด
กลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม
กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน
กลุ่มสินค้าแฟชั่น
กลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม
กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมหนัก
กลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น
กลุ่มสินค้าธุรกิจบริการการท่องเที่ยวและเฟรนไชส์
ผู้เข้าร่วมงาน : ผู้ผลิต ผู้ส่งออก ผู้ค้าส่งและผู้ประกอบการของอุตสาหกรรมในประเทศไทย จำนวนกว่า 2,000 บริษัท 4,699 คูหา

ผู้เข้าชมงาน : ประชาชนทั่วไป ผู้ซื้อในและต่างประเทศ กลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อ Cash & Carry จากประเทศต่างๆ

กิจกรรมพิเศษ

สินค้าอุปโภค และบริโภคคุณภาพส่งออก ราคาต่ำกว่าตลาด
กิจกรรมส่งเสริมการขาย
นาทีทอง การแจกรางวัล
การแสดงและบันเทิงในงาน เช่น การแสดงคอนเสิร์ตต่างๆ

504
งาน มหกรรม ชี้ช่องรวย 2011

วันที่ 30 มิถุนายน 2554 - 3 กรกฎาคม 2554

คุณสามารถมองหาธุรกิจที่เหมาะกับคุณในการจับคู่ธุรกิจ โดยในงานจะมีธุรกิจหลากหลายให้คุณเลือก รวมทั้งความรู้ต่างๆในการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการอบรม สัมนาย่อย เวริค์ช็อป เป็นต้น รวมทั้งมีสถาบันการเงินต่างๆมาให้คำปรึกษากับคุณ งานจะจัดขึ้นวันที่ 30 มิ.ย. – 3 ก.ค. 2554 ที่ห้อง MCC HALL ชั้น 4 เดอะมอลล์ บางกะปิ


ทางผู้จัดงานจึงโคร่ขอความร่วมมือจากผู้สนใจไปร่วมงานช่วยตอบแบบสอบถามนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ในการที่จะจัดหาธุรกิจและความรู้ที่ตรงกับความต้องการของ คุณ

นอกจากนี้ทางผู้จัดงานได้เตรียมของชำร่วยให้กับคุณ เพียงคุณลงทะเบียนหน้างานตามชื่อที่ตรงกับแบบสอบถามที่คุณส่งกลับนี้

505
งาน  แอสเซมบลี เทคโนโลยี 2011

วันที่ 23 มิถุนายน 2554 - 26 มิถุนายน 2554


เพื่อเป็นกุญแจสำคัญเปิดประตูสู่โอกาสทางการค้าและผลกำไรทางธุรกิจที่มากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวงการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ พลาสติกและชิ้นส่วนอุตสาหกรรมต่างๆ

งาน “แอสเซมบลี เทคโนโลยี 2011” เปรียบเสมือนเวทีเทคโนโลยีการผลิตอันทันสมัย ที่บรรดาผู้คิดค้นนวัตกรรมสามารถพบปะกลุ่มนักอุตสาหกรรมเป้าหมาย และขยายเครือข่ายธุรกิจกับกลุ่มผู้ซื้อทั้งในประเทศไทย และทั่วภูมิภาคเอเซียนได้อย่างแท้จริง


แทนคำขอบคุณจากใจ
เชื่อมคุณให้ได้มากกว่าความสำเร็จด้านอุตสาหกรรม


  คณะผู้จัดงาน “แอสเซมบลี เทคโนโลยี 2009” พร้อมด้วยอีก 3 งานแสดงเทคโนโลยีแถวหน้า ได้แก่ งาน “อินเตอร์พลาส ไทยแลนด์” เพื่อการผลิตพลาสติกและยาง งาน “อินเตอร์โมลด์ ไทยแลนด์” เพื่อการผลิตแม่พิมพ์และการขึ้นรูป และงาน “ออโตโมทีฟ แมนูแฟกเจอริ่ง” เพื่อการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วน ทั้งหมดนี้ภายใต้มหกรรม “แมนูแฟกเจอริ่ง เอ็กซ์โป 2009” ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีการผลิตที่ครบวงจรและใหญ่ที่สุดในอาเซียน ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแรงร่วมใจสร้างสรรค์ความสำเร็จให้กับทุกฝ่าย ในการสร้างบทพิสูจน์ความสำเร็จหน้าใหม่ในธุรกิจและอุตสาหกรรมการผลิตของไทยอย่างยั่งยืน


เพื่อชมรายงานสรุปการจัดงาน
เพื่อสำรองพื้นที่ส่วนแสดง
เพื่อลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้า

ผู้ร่วมแสดงสินค้าพอใจ ธุรกิจบรรลุเป้าหมาย
ยอดเซ็นสัญญาร่วมงานปีหน้ากว่า 70%

ภายในงานครั้งล่าสุด งาน “แอสเซมบลี เทคโนโลยี” ได้ร่วมยกระดับความก้าวหน้าสำหรับอุตสาหกรรมการผลิต ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติและการประกอบที่ทันสมัย องค์ความรู้ใหม่ๆ และกิจกรรมที่เป็นประโยชน์มากมาย เพื่อส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมของไทย


นอกจากนี้ บรรดาผู้ประกอบการได้แสดงความพึงพอใจในการเข้าชมงาน ขณะที่ผู้ร่วมแสดงสินค้าต่างยืนยันเข้าร่วมงาน “แอสเซมบลี เทคโนโลยี 2011” ด้วยยอดเซ็นสัญญาทันทีภายในงานกว่า 70 เปอร์เซนต์ นี่นับเป็นสัญญาณที่ดีที่บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นและบทพิสูจน์ต่องานนี้ว่า เปรียบเสมือนเวทีการค้าสำหรับวงการผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมทั้งในประเทศไทยและทั่วภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง



ต้องการสำรองพื้นที่แสดงสินค้า
หรือคลิกที่ปุ่ม “สำรองพื้นที่แสดงสินค้า” ด้านบน

ยินดีต้อนรับสู่สังคมนักการผลิตอัตโนมัติ
และการประกอบ หนึ่งเดียวในไทย


ในครั้งนี้ งาน “แอสเซมบลี เทคโนโลยี 2011” ในฐานะงานแสดงเทคโนโลยีระบบควบคุมอัตโนมัติและการประกอบ งานเดียวในเมืองไทย พร้อมนำเสนอกองทัพเทคโนโลยีและโซลูชั่นการผลิตที่ทันสมัย อาทิ ระบบการผลิตอัตโนมัติ ระบบส่งกำลัง ระบบขนส่งและลำเลียง ระบบไฮดรอลิก รวมถึงระบบการประกอบต่างๆ โดยกว่า 350 แบรนด์ดังจาก 25 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ บรรดาผู้แสดงสินค้าต่างเตรียมเผยรายการนวัตกรรมล่าสุดสู่สายตานักอุตสาหกรรมชั้นนำกว่า 38,000 รายจากทั่วภูมิภาคอาเซียน ที่กำลังมองหาโซลูชั่นใหม่ๆ ในการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตและประสิทธิผลทางธุรกิจ


ในขณะเดียวกัน ผู้เข้าชมงาน จะได้ร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ด้านการผลิต ผ่านการสาธิตแขนกลรุ่นล่าสุด ใน “แอสเซมบลี อาร์มส์ แอท ออโตเมชั่น เวิลด์” พร้อมเต็มอิ่มกับองค์ความรู้ทันสมัยในเวทีการประชุมประจำปี “แอสเซมบลี เทคโนโลยี ฟอรั่ม” และสัมมนาหลากหัวข้อ ตลอดจนร่วมต่อยอดโอกาสในการสร้างเครือข่ายทางการค้าในกิจกรรมห้ามพลาดภายในงานมากมาย เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพทางธุรกิจของคุณ


ต้องการลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อเข้าชมงาน
หรือคลิกที่ปุ่ม “ลงทะเบียนเข้าชมงาน” ด้านบน

506
งาน  Secutech Thailand 2011

วันที่ 30 มิถุนายน 2554 - 2 กรกฎาคม 2554

รัฐบาลไทยและหน่วยงานภาครัฐ อาทิ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน ส านักงานต ารวจแห่งชาติ ส านักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) รวมถึงสมาคมอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ สมาคมผู้ประกอบการรักษาความปลอดภัยแห่งเอเชีย (APSA), ASIS International, สมาคมผู้บริหารงานรักษาความปลอดภัยแห่งประเทศไทย (ESSAT), International Security Industry Organisation (ISIO) และสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมถ์ ต่างแสดงความเชื่อมั่นและสนับสนุนการจัดงานดังกล่าว



ผู้จัดงานคาดว่างาน Secutech Thailand 2011 จะมีบริษัทในแวดวงความปลอดภัยกว่า 120 รายเข้าร่วมแสดงสินค้าและบริการ และสามารถดึงดูดผู้จัดซื้อมืออาชีพราว 6,000 คนจากทั่วโลกมาร่วมชมสินค้า บริการ และเทคโนโลยีต่างๆที่รวบรวมไว้อย่างครบครัน ทั้งในด้าน การรักษาความปลอดภัยเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัย อัคคีภัยและการป้องกันอุบัติภัย การป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติ การป้องกันประเทศ ความปลอดภัยด้านสาธารณะ การรักษาความปลอดภัยด้านระบบสารสนเทศ รวมทั้งความปลอดภัยในการท างานและความปลอดภัยส่วนบุคคล บนพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร



กิจกรรมให้ความรู้มากมายและโอกาสในการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ
ในงานนี้ยังมีกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลตลาดล่าสุด การพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเป็นโอกาสครั้งส าคัญในการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจอีกด้วย พร้อมกันนี้ยังมีการประชุมหารือว่าด้วยระบบเฝ้าระวังภัยแบบดิจิตอลระดับโลก Global Digital Surveillance Forum Thailand (GDSF Thailand) ซึ่งจะมีการน าเสนอโซลูชั่นด้านระบบป้องกันภัยอันทันสมัยโดยผู้ผลิตซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ชั้นน า



Secutech Thailand ยังมีการจัดเสวนาเกี่ยวกับอัคคีภัยและการป้องกันอุบัติภัย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจะมาแนะน าเทคโนโลยีล่าสุด รวมถึงกฎระเบียบ มาตรฐาน และข้อมูลด้านต่างๆ ของตลาด เพื่อสนองความต้องการผลิตภัณฑ์ป้องกันอัคคีภัยที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน



นอกจากนี้ ภายในงานยังจัดให้มีเวทีกลางเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แสดงสินค้าได้น าสินค้าและบริการล่าสุดของตนเองมาสาธิตและอธิบายให้กับผู้ชมงานโดยละเอียดอีกด้วย

ชี้ช่องธุรกิจด้านความปลอดภัยในเมืองไทย
ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2553 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีของไทยเติบโตถึง 12% สูงสุดในรอบ 15 ปี ความพร้อมด้านโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน เศรษฐกิจแบบเสรี นโยบายที่เอื้อต่อการลงทุน และภาคการส่งออกที่เข้มแข็ง ท าให้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นถึง 140% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 53,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจไทย



ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการรักษาความปลอดภัยและป้องกันภัยให้ความเห็นว่า ไทยเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส าหรับสินค้าและบริการในอุตสาหกรรมนี้ โดยมีการประมาณการว่ารัฐบาลไทยจะใช้จ่ายงบประมาณด้านความมั่นคงถึงราวปีละ 2,130 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นอีก 5-10% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า



นอกจากนี้ การลงทุนมหาศาลด้านระบบสาธารณูปโภคในไทยยังกระตุ้นให้เกิดความต้องการโซลูชั่นด้านการรักษาความปลอดภัยมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลจะใช้งบประมาณถึง 1.43 ล้านล้านบาทในโครงการไทยเข้มแข็งที่มีกรอบระยะเวลา 3 ปี โดยจะเน้นหนักในด้านการพัฒนาสาธารณูปโภค



นิตยสาร A&S Asia ระบุว่า ยอดขายซอฟต์แวร์ที่ท างานบนระบบอินเทอร์เน็ต (IP-based) ในไทยเพิ่มขึ้น 20% ในปี 2552 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนตลาดส าหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ด้านความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงกล้องวงจรปิด ระบบควบคุมการเข้าออกสถานที่ ระบบป้องกันการบุกรุก และระบบรั้วประเภทต่างๆ น่าจะมีมูลค่าสูงถึง 9.5 ล้านล้านบาทในปีนี้



ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน Secutech Thailand ได้ที่เว็บไซต์ www.secutechthailand.com

507
งาน    Automotive Manufacturing Expo 2011

วันที่ 23 มิถุนายน 2554 - 26 มิถุนายน 2554

อาทิ ผู้รับช่วงการผลิต อู่ซ่อมรถ โรงงานประกอบ และตัวแทนจำหน่าย นอกจากนี้ ยังเป็นงานประจำปีของวงการที่ผู้ผลิตยานยนต์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความสำเร็จผ่านกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การประชุมสำหรับผู้บริหารระดับสูง นอกจากนี้ งานดังกล่าวยังจัดพร้อมกับอีก 3 งานเฉพาะทางด้านพลาสติกและยาง แม่พิมพ์และการขึ้นณุป และเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดให้กับทุกฝ่ายอีกด้วย


สนใจจองพื้นที่

สนใจลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้า


นอกจากส่วนแสดงสินค้าแล้ว งาน Automotive Manufacturing Expo 2011 ยังจะจัดให้มีการประชุมทางวิชาการและการสัมมนา ซึ่งท่านจะได้รับความรู้และวิสัยทัศน์ใหม่จากผู้เชี่ยวชาญในวงการ พร้อมขยายเครือข่ายทางธุรกิจ เพื่อนำไปต่อยอดพัฒนาธุรกิจต่อไป



หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม และกรอกรายละเอียดในฐานข้อมูลของเรา หรือ ติดต่อ conference@reedtradex.co.th

508
งาน   InterMold Thailand 2011

วันที่ 23 มิถุนายน 2554 - 26 มิถุนายน 2554 นักอุตสาหกรรมแม่พิมพ์บรรลุเป้าหมายธุรกิจมากมาย
พร้อมกันภายในงาน

งาน InterMold Thailand 2011 เป็นงานมหกรรมเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตแม่พิมพ์และการขึ้นรูปที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 19 จะเป็นเวทีเดียวในประเทศไทยสำหรับนักอุตสาหกรรมทุกท่านที่จะสาธิตศักยภาพสินค้า ซึ่งจะดึงดูดผู้ซื้อจากในประเทศและเขตภูมิภาคกว่า 38,000 รายซึ่งจะเดินทางเข้ามาซื้อสินค้าภายในงานโดยตรงในวันที่ 23-26 มิถุนายน 2554
 

InterMold Thailand: แม่พิมพ์ความสำเร็จเพียงหนึ่งเดียว

ภายในวันที่ 23-26 มิถุนายน 2554 ณ ไบเทค บางนา งาน InterMold Thailand 2011 งานมหกรรมเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตแม่พิมพ์และการขึ้นรูปที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 19 จะเป็นเวทีเดียวที่ผู้แสดงสินค้าจะสามารถนำเสนอสินค้าใหม่ พบปะลูกค้า ขยายเครือข่ายธุรกิจ สำรวจการแข่งขันในตลาด เพิ่มยอดขาย และสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ได้พร้อมกัน

InterMold Thailand เป็นงานเดียวเดียวที่จะดึงดูดกว่า 370 บริษัทนานาชาติซึ่งประกอบไปด้วยผู้ผลิตและผู้จำหน่ายเครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือ อุปกรณ์เสริมและชื้นส่วน ผู้รับจ้างผลิตรายสัญญา ผู้รับจ้างผลิต และ OEM เป็นต้น อีกทั้งจะดึงดูดผู้ซื้อกว่า 38,000 รายจากทั่วภูมิภาคอาเซียนที่จะเดินทางเข้ามาในงานโดยตรงเพื่อซื้อสินค้าของท่าน ดังนั้นงานนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่นักอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องไม่อาจพลาดได้

สำรองพื้นที่แสดงสินค้าวันนี้โดยคลิกที่ปุ่ม “Reserve Space”
และขยายธุรกิจของท่านอย่างยั่งยืน





ขอต้อนรับสู่งานแสดงแม่พิมพ์
และการขึ้นรูปที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน

InterMold Thailand งานมหกรรมเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตแม่พิมพ์และการขึ้นรูปงานเดียวในไทย ซึ่งเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน จะเป็นเวทีสำคัญในการจัดแสดงเทคโนโลยีล้ำสมัยด้วยกว่า 370 แบรนด์ชั้นนำจาก 16 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งจะจัดหลากหลายกิจกรรมส่งเสริมธุรกิจและหัวข้อสัมมนาล่าสุด ภายในงาน ผู้เข้าชมงานจะสามารถสัมผัสการสาธิตเครื่องจักรและเทคโนโลยีได้โดยตรง, ปรึกษาวิศวกร, พบปะพูดคุยกับผู้มีอำนาจตัดสินใจธุรกิจ, สำรวจการตลาด, สร้างเครือข่ายกับนักอุตสาหกรรม, เรียนรู้โนว์ฮาวและกระแสอุตสาหกรรมใหม่, และนำเทคโนโลยีภายในงานไปต่อยอดกำลังการผลิตของธุรกิจตน

งานนี้เป็นโอกาสเดียวที่ท่านจะขยายการเติบโตธุรกิจของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลงทะเบียนล่วงหน้าวันนี้ คว้าโอกาสนี้ไว้และลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้าวันนี้


คลิกที่นี่เพื่อลงทะเบียนล่วงหน้า หรือคลิกที่ “Register to Visit”ด้านบน



การประชุมวิชาการ

เพื่อเป็นการต่อยอดประสิทธิภาพการผลิตของธุรกิจของท่าน งาน InterMold Thailand จะจัดงานสัมมนา “Mold & Die Forum” อย่างหลากหลายหัวข้อ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญที่ได้คัดสรรค์เป็นพิเศษจากองค์กรที่มีชื่อเสียงจะมาร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ด้านโนว์ฮาวและกระแสอุตสาหกรรมล่าสุด

สนใจข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า รี้ด เทรดเด็กซ์ โทร: 0 2686 7299 แฟกซ์: 0 2686 7288 อีเมลล์: intermold@reedtradex.co.th

 

การแข่งขันทักษะฝีมือช่างขัดผิวแม่พิมพ์ (Mold Polishing Contest)

ด้วยเสียงตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามจากความสำเร็จที่ผ่านมา การแข่งขันฝีมือช่างขัดผิวแม่พิมพ์จะกลับมาอีกเป็นครั้งที่ 3 เพื่อเฟ้นหาช่างขัดผิวที่เก่งที่สุดในประเทศ ผู้จะได้รับเงินรางวัล ใบประกาศนียบัตร และชื่อเสียง

509
งาน  InterPlas Thailand 2011
วันที่ 23 มิถุนายน 2554 - 26 มิถุนายน 2554
InterPlas Thailand งานมหกรรมเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตพลาสติกและยางงานเดียวในไทย จะเปิดเป็นครั้งที่ 20 ในวันที่ 23-26 มิถุนายน 2554 ณ ไบเทค บางนา


งานนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของงาน Manufacturing Expo งานมหกรรมเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตอันดับ 1 ในอาเซียน ที่จัดขึ้นเพื่อผนึกกำลัง 6 ภาคอุตสาหกรรมการผลิตหลักได้แก่ พลาสติกและยาง, แม่พิมพ์และการขึ้นรูป, ชิ้นส่วนยานยนต์, ระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีการประกอบ, ชิ้นส่วนอุตสาหกรรมและผู้รับเหมาช่วงการผลิต, และ พลังงานทดแทนและการจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่ออุตสาหกรรมการผลิต


งานนี้จึงนับเป็นโอกาสที่หายากที่นักอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องทุกท่านจะเพิ่มยอดขาย พบลูกค้า ตอบคำถามลูกค้า สำรวจการแข่งขันทางการตลาด เรียนรู้กระแสอุตสาหกรรมล่าสุด สร้างเครือข่ายนักอุตสาหกรรม และเติบโต


อย่าพลาดโอกาสนี้! คลิกที่นี่เพื่อสำรองพื้นที่จัดแสดงสินค้า

InterPlas Thailand 2011 ผนึกกำลัง 5 อุตสาหกรรม
การผลิตหลักสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน


งาน InterPlas Thailand งานมหกรรมเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตพลาสสติกและยางงานเดียวในไทย จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 20 ในวันที่ 23-26 มิถุนายน 2554 ณ ไบเทค บางนา เพื่อจัดแสดงเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดจากผู้จัดแสดงกว่า 370 ราย และจะผนึกกำลังร่วมกับ 5 อุตสาหกรรมการผลิตหลัก ซึ่งจะดึงดูดผู้ซื้อจากภูมิภาคอาเซียนกว่า 38,000 ราย เพื่อยกระดับการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่ทุกท่านที่เข้าร่วมงาน นอกเหนือจากนี้ ภายในงานจะจัดหลากหลายหัวข้อสัมมนาโนว์ฮาวร่วมสมัยและกิจกรรมส่งเสริมธุรกิจเพื่อขยายผลประโยชน์ให้แก่ผู้เข้าร่วมงานทุกท่าน

ยินดีต้อนรับสู่งานแสดงเทคโนโลยี
เพื่ออุตสาหกรรมพลาสติก
และยางที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน

InterPlas Thailand งานมหกรรมเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตพลาสติกและยางงานเดียวในประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน Manufacturing Expo งานมหกรรมอันดับ 1 ในเอเชียเพื่อเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตสำหรับ 6 อุตสาหกรรมหลัก จะเปิดเป็นครั้งที่ 20 ในวันที่ 23-26 มิถุนายน 2554 ณ ไบเทค บางนา เพื่อมอบโอกาสแก่ผู้เข้าร่วมงานด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยภายใต้ 370 แบรนด์ชั้นนำจาก 15 ประเทศ


นอกเหนือจากการจัดแสดงเทคโนโลยีแล้ว ภายในงานจะจัดหลากหลายกิจกรรมส่งเสริมธุรกิจและการสัมมนาอุตสาหกรรมที่เน้นเรื่องโนว์ฮาวและกระแสที่ทันสมัยที่สุด เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานทุกท่านเปิดวิสัยทัศน์และผนึกกำลังร่วมกับเครื่อข่ายอุตสาหกรรม


อย่าพลาดโอกาสนี้เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน คลิกที่นี่เพื่อลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้า

InterPlas Thailand 2010 “Business Delegation Service”
สิทธิพิเศษเพื่อผู้เข้าชมงานจากต่างประเทศ

“Business Delegation Service” คือ อีกหนึ่งความมุ่งมั่นจาก รี้ด เทรดเด็กซ์ ในรูปแบบกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์งานผ่านสถานทูต สมาคมและองค์กรต่างประเทศ สู่กลุ่มนักธุรกิจและนักลงทุนเป้าหมายจากนานาประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะ เพื่อยืนยันการเข้าร่วมงาน และส่งเสริมการสร้างเครือข่ายทางการค้า และมหกรรมธุรกรรมภายในงานมูลค่ามหาศาล


(หมายเหตุ: สำหรับการประชาสัมพันธ์สู่กลุ่มผู้ชมงานจากต่างประเทศของท่าน) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ delegation@reedtradex.co.th หรือ คุณสุทธิพรรณ โทร. 0 2686 7305

งานสัมมนา Plastics & Rubber Forum ขยายความรู้โนว์ฮาว

งานสัมมนา Plastics & Rubber Forum เป็นหนึ่งในหลากหลายกิจกรรมภายในงาน InterPlas Thailand ซึ่งจะจัดรวบรวมหลากหลายหัวข้อที่ทันสมัยที่สุดและฮอทที่สุดในด้านกระแสอุตสาหกรรมและโนว์ฮาว โดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญซึ่งคัดเป็นพิเศษจากองค์กรที่มีชื่อเสียง เพื่อขยายองค์ความรู้ให้แก่นักอุตสาหกรรมทุกท่านที่เข้าร่วม

Composites International 2011 (Co-located Show)
งานแสดงเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตวัสดุคอมโพสิทส์ที่ล้ำสมัยที่สุดที่จัดร่วมภายในงานเพื่อให้นักอุตสาหกรรมที่เข้าร่วมทุกท่านนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปเพิ่มกำลังการผลิตและผลกำไร

Composites Showcase
กิจกรรมพิเศษนี้จะจัดแสดงหลากหลายผลิตภัณฑ์จากวัสดุคอมโพสิทส์เพื่อให้นักอุตสาหกรรมทุกท่านที่เข้าร่วมงานได้เสาะหาศักยภาพและโอกาสทางอุตสาหกรรมใหม่ๆจากวัสดุที่เล็กแต่ทนทานชนิดนี้

510
งาน  NEPCON Thailand

วันที่ 23 มิถุนายน 2554 - 26 มิถุนายน 2554
สถานที่ ไบเทค
เวลา 10.00 - 19.00 น.


•  งานแสดงอันดับหนึ่งเพื่อการผลิตชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์
•  400 แบรนด์ระดับโลก จาก 22 ประเทศ
•  10,000 ผู้ซื้อจากทั่วอาเซียน
•  การประชุม Automotive & Electronics Summit และ Electronics Forum
•  ส่วนหนึ่งของซีรี่ส์งาน NEPCON ที่โด่งดังไปทั่วโลก

511
งาน Entech Pollutec Asia 2011

วันที่ 1 มิถุนายน 2554 - 4 มิถุนายน 2554

ไฮไลท์ สำคัญ

- ASEAN Countrles Presentation
- การจับคู่ธุรกิจ
- One Stop Clinic การอนุรักษ์พลังงาน และพลังงานหมุนเวียน
- Renewable Energy Conference:โอกาสทางธุรกิจในการลด CO2
- CEO Energy Talk
- สัมมนาการประหยัดพลังงานสำหรับหลากหลายอุตสาหกรรม
- สัมมนาเรื่องการใช้หม้อน้ำให้ปลอดภัย ประหยัด ไร้มลภาวะ และไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
- สัมมนาสำหรับ อบต./อบจ. ทั่วประเทศ เรื่องพลังงานจาก แสงแดด ลม และขยะ
- และอีกหลายอย่างหัวข้อสัมมนาที่น่าสนใจ

512
งาน  7th Asia Pacific Conference on Clinical Nutrition

วันที่ 3 มิถุนายน 2554 - 6 มิถุนายน 2554

Date: 3 - 6 June, 2011
Owner: Kenes Asia
Kenes Asia
Tel : +66 (0) 6 292 4710
Website : http://www.kenes.com

513
งาน  FAMILY & CHILD FAIR

วันที่ 14 พฤษภาคม 2554 - 22 พฤษภาคม 2554
ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี
10.30 am - 09.00 pm

515
งาน  Sheet Metal Asia 2011

วันที่ 12 พฤษภาคม 2554 - 15 พฤษภาคม 2554

ปัจจุบันมีการพัฒนาทางด้านการผลิตอย่างมากจนทุกวันนี้สิ่ง ที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เมื่อไม่นานมานี้ได้กลายเป็นความจริงไปเรียบร้อย แล้ว ดังนั้น ผู้ประกอบการยุคใหม่ต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับภาวะการแข่งขันในปัจจุบัน เทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติรวมถึงระบบซอฟต์แวร์ล่าสุดได้เข้ามามีบทบาทในการ บริหารจัดการในการผลิตชิ้นงานให้มีความยืดหยุ่นและง่ายมากขึ้น ซึ่งเครื่องจักรกลระบบอัตโนมัติต่างๆได้ช่วยในการปฏิวัติ และยกระดับการผลิตในอุตสาหกรรมโลหะแผ่น

* เลเซอร์ วอเตอร์เจ็ต ทีทีพี
* เทคโนโลยีการผลิตโลหะแผ่นอื่นๆ
* การสาธิตและการให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

516
งาน  Intermach 2011

คุณสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้อำนวยโครงการ ระบุว่าภายในงานอินเตอร์แมคมีการนำเสนอเครื่องจักรกว่า 3,500 รายการโดยบริษัททั้งในประเทศบริษัทระดับภูมิภาคและบริษัทระดับโลกกว่า 1,000 ราย “เราได้รับผลตอบรับที่ดีในทุกด้านจากทั้งผู้เข้าชมงานและผู้แสดงงาน นอกจากนี้มูลค่า ของธุรกรรมที่เกิดขึ้นระหว่างช่วงเวลาสี่วันของการจัดงานคาดว่าทะลุ 1 พันล้านบาท และจะมีธุรกรรมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในภายหลังอีก 500 ล้านบาทด้วย”


ซับคอนไทยแลนด์และชีทเมทัล เอเชียตอกย้ำคุณภาพ

อินเตอร์แมคยังเสริมคุณภาพด้วยพันธมิตรอีกสองงานคือ ซับคอนไทยแลนด์และชีทเมทัล เอเชียซึ่งจะเข้ามาเสริมทัพในการมุ่งสู่การเติบโตทางธุรกิจ ในครั้งนี้ คุณชนินทร์ ขาวจันทร์ ผู้อำนวยการหน่วยพัฒนาการเชื่อมโยงอุตสาหกรรม (BUILD) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ผู้ร่วมจัดงานซับคอนไทยแลนด์ 2010 กล่าวว่า งานประสบความสำเร็จในการจับคู่ทางธุรกิจ มากถึง 2,537 คู่ในช่วงเวลาสามวันของการจัดงาน ทั้งนี้คาดว่าธุรกรรม ที่จะเกิดจากการจับคู่ในครั้งนี้จะมีมูลรวมถึงราว 4.531 แสนล้านบาท

ชีทเมทัล เอเชียเป็นอีกหนึ่งงานคุณภาพงานหนึ่งที่เรียกความสนใจได้เป็นอย่างมาก ด้วยปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในระดับสูงตลอดมาไม่ว่าจะเป็นเครื่องตัดด้วยเลเซอร์ เครื่องตัดพลังน้ำ และเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกมากมายที่ถูกนำมาจัดแสดง หลายรายการเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยอีกด้วย



คุณภาพเป็นองค์ประกอบสำคัญอันสื่อถึงความเป็นอินเตอร์แมคมาตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปีของการจัดงานและคุณภาพนี้เองคือสิ่งที่คุณจะสัมผัสได้ในทุกแง่มุมของงานทั้งคุณภาพของการนำเสนอ คุณภาพของอุปกรณ์ที่จัดแสดง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณภาพของผู้เข้าชมงานจากภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

เตรียมพบกับลูกค้าใหม่ๆและโอกาสทางธุรกิจมากมายได้ที่งานอินเตอร์แมค 2011 หากคุณเป็นผู้ประกอบการหรือนักการตลาดจะได้มีโอกาสชั้นเลิศในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และแนะนำสินค้าและเทคโนโลยีใหม่ เข้าสู่ตลาดที่มีคุณภาพดีเยี่ยมที่สุด พลาดไม่ได้กับงานสำคัญในครั้งนี้


อินเตอร์แมค
12-15 พฤษภาคม 2554
ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ



สำรองพื้นที่ติดต่อคุณธีรนันท์ กาญจนจงกล
ที่หมายเลข 02 642 6911 ต่อ 212, 220
โทรสาร 02 640 7433
หรือเว็ปไซด์ www.intermachshow.com

517
งาน   SUBCON THAILAND 2011

กิจกรรมพิเศษระหว่างงาน

1.Subcontracting Exhibition นิทรรศการอุตสาหกรรมสนับสนุนของไทย และภูมิภาคเอเชีย โดยมีกลุ่มเป้าหมาย เป็นผู้ประกอบการรับ

2.Business Matchmaking Program กิจกรรมการจับคู่ทางธุรกิจและเชื่อมโยงอุตสาหกรรม เพื่อเปิดโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการรับช่วงการผลิตโดยเฉพาะผู้ผลิตชิ้นส่วน SMEs ไทย ในการแสวงหาพันธมิตรทางการค้า (Business Partners) การสร้างความร่วมมือทางธุรกิจ (Business Collaboration) ตลอดจนขยายช่องทางการตลาด(Market Channels) ใหม่ที่มีศักยภาพ ทั้งนี้รูปแบบกิกรรมจะเป็นการประชุมเจรจาธุรกิจ แบบเข้มข้นในลักษณะรายบริษัท โดยมีการนัดหมายล่วงหน้าผ่านโปรแกรมนัดหมายเจรจาธุรกิจ ( Pre Arrange One-on-One Meeting) ซึ่งเปิดโอกาสให้สำหรับทั้งผู้ซื้อและผู้ขายลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เพื่อ ขอจำดทำนัดหมายได้ทั้งสองฝ่าย

3.Buyers’ Village คูหาสำหรับการจัดแสดงชิ้นส่วนที่ผู้ซื้อต้องการจัดซื้อจัดหาผู้รับช่วงการ ผลิตโดยประกอบด้วยบริษัทผู้ซื้อชั้นนำรวมทั้งหน่วยงาน IPOs (International Procurement Offices) ทั้งในและต่างประเทศ

4.Buyers’ Presentation การนำเสนอข้อมูลความต้องการชิ้นส่วนและความร่วมมือทางธุรกิจของบริษัทผู้ ซื้อ ซึ่งผู้ประกอบการจะได้รับทราบถึงข้อมูลรายละเอียดของชิ้นส่วนที่มีความต้อง การจัดซื้อ นโยบายการจัดซื้อ ตลอดจนขั้นตอนและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือกผู้ผลิตของบริษัทผู้ซื้อแต่ ละราย

5.Industrial Clinic คลินิกให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยงข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมให้บริการและแนะนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาธุรกิจและการลง ทุน

6.Academic to Business (A2B) กิจกรรมเชื่อมโยงภาคสถาบันการศึกษาและหน่วยงานวิจัยกับภาคอุตสาหกรรมการผลิต เพื่อส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร ที่มีความรู้และทักษะตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนการสร้างสรรค์ผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆสู่เชิงพาณิชย์

7.Seminar การสัมมนาเชิงวิชาการ เพื่อให้ความรู้และเสริมสร้างวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจ และผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ภายใต้หัวข้อต่างๆที่น่าสนใจ อาทิ การวิเคราะห์โอกาสในการลงทุน การแนะนำกลยุทธิ์การประกอบธุรกิจ การบริหารจัดการ การพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

518
งาน    มหกรรมการเงิน ครั้งที่ 11 กรุงเทพฯ

วันที่ 12 พฤษภาคม 2554 - 15 พฤษภาคม 2554
ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี


โดยแบ่งพื้นที่จัดงาน ออกเป็น 3 โซนหลัก ดังนี้

โซนตลาดเงิน เป็นโซนที่ให้บริการทางการเงินทุกรูปแบบ จากธนาคาร, สถาบันการเงิน, บริษัทการเงิน (Non Bank), บริษัทลิสซิ่ง, บริษัทประกันชีวิต, บริษัทประกันภัย และบริษัทประกันสุขภาพ ได้แก่ สินเชื่อที่อยู่อาศัย, สินเชื่อบุคคล, สินเชื่อรถยนต์, สินเชื่อเพื่อการศึกษา, เปิดบัญชีเงินฝาก, บัตรเครดิต, บัตรเงินสด, ประกันชีวิต, ประกันวินาศภัย, ประกันรถยนต์,ประกันอุบัติเหตุ, ประกันสุขภาพ


โซนตลาดทุน เป็นโซนที่ให้บริการทางการลง ทุนอย่างครบวงจร จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและบริษัทในเครือ รวมทั้งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.), บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.), บริษัทผู้ค้าทองคำและโกลด์ฟิวเจอร์ ได้แก่ การเปิดบัญชีเพื่อการลงทุนในหุ้น, การลงทุนในกองทุนรวมทุกประเภท ทั้ง กองทุนตราสารหนี้, กองทุนหุ้น, กองทุนอสังหาริมทรัพย์, กองทุนทองคำ, กองทุนน้ำมัน, กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF), กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) รวมทั้งการลงทุนในทองคำและโกลด์ฟิวเจอร์ส


โซน SMEs เป็นโซนที่ให้บริการสินเชื่อ เพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือธุรกิจ SMEs จากธนาคารและสถาบันการเงินเพื่อธุรกิจ SMEs และบริการ “คลินิก SMEs” ที่ให้คำปรึกษาเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและสร้างช่องทางในการทำธุรกิจ ให้แก่ ผู้ประกอบการ SMEs และบริษัทแฟรนไชส์ (Franchise) รวมทั้งยังมีการจำหน่ายสินค้าคุณภาพจากผู้ผลิตสินค้า OTOP 5 ดาว ซึ่งเป็นลูกค้าและร้านค้าพันธมิตรของธนาคารมาจำหน่ายในราคาพิเศษอีกด้วย

519
งาน  วิศวกรรมแห่งชาติ 54
Exhibitor List
วันที่จัดแสดง        : 24 -26 มีนาคม 2554  
เวลา                  :  10.00 - 20.00 น.
สถานที่              :  ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ, อาคาร 103-104
จัดโดย                : บริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด



โทร                    : 0-2717-2477  แฟกซ์ 0-2717-2466
อีเมล์                  : info@TTFIntl.com
เว็บไซต์              : NationalEngineeringExpo.com


National Engineering 2011: Energy Saving - Construction ’11
The National Engineering Conference and Thailand  Energy Saving & Construction Exposition

DATE                :  March 24-26, 2011
Opening hour    :  10.00 AM – 08.00 PM
Venue                :  BITEC Bangkok, Hall 103-104
Organized by    :  TTF International Co.,Ltd.

Tel : +66 2717 2477  Fax : +66 2717 2466
E-mail : info@TTTIntl.com
URL : NationalEngineeringExpo.com

520
งาน Career Exhibition 2011
วันที่ :11-13 มีนาคม 2011เวลา :10.00-19.00 น.สถานที่ : ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

รวบ รวมตำแหน่งงานคุณภาพกว่า 10,000 ตำแหน่ง จากบริษัทชั้นนำกว่า 100 บริษัท จัดโดยบริษัทจัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด (JobsDB.com)


ด้วย เทคโนโลยีบาร์โค้ดล้ำสมัยให้คุณสมัครงานง่ายและรวดเร็ว ไม่ต้องใช้เอกสารสมัครงาน ฝากประวัติการทำงานครั้งเดียวรวมถึงสมัครงานล่วงหน้าได้ที่ www.jobsdb.co.th/ce พบกับตำแหน่งงานจากบริษัทชั้นนำทั่วประเทศที่มารวมกันที่นี่ที่เดียว และกิจกรรมที่สามารถนำไปใช้ในการสมัครงาน อาทิ ตอบบทสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษแบบมืออาชีพ โดย คริสโตเฟอร์ ไรท์ แนวคิดสีขาวกับการหางานได้ตรงใจคุณ โดย คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย สบายใจ...ชนะทุกสิ่ง โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก และอื่นๆ อีกมากมาย

521
งานแสดงสินค้าเมดอินไทยแลนด์ 2554 (ครั้งที่ 23)
สถานที่/ พื้นที่จัดงาน : อาคาร Challenger 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
พื้นที่ 20,000 ตารางเมตร


ผู้จัดงาน : กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์

วัตถุประสงค์

    * ส่งเสริมและสนับสนุน ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของไทยให้มีศักยภาพ

ในการพัฒนาตนเอง เพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ

    * ยกระดับงานแสดงสินค้า Made in Thailand 2011 ให้เป็นงานแสดงสินค้าที่มีมาตรฐานเน้นการจับคู่

ทางธุรกิจ เพื่อเจรจาการค้าสำหรับกลุ่ม SME Exporter มากขึ้น

    * ประชาสัมพันธ์สินค้าและธุรกิจบริการที่ผลิตโดยฝีมือคนไทยที่เป็นที่ยอมรับและมีคุณภาพระดับส่งออก

เป็นการสร้างภาพลักษณ์สินค้าและธุรกิจบริการของไทยในตลาดโลกรวมทั้งในตลาดอาเซียนด้วย

    * เพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออกรายย่อย(SMEs) ที่ได้รับผลกระทบค่าเงินบาทแข็ง

ประเภทสินค้าจัดแสดง : - กลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม

    * กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน
    * กลุ่มสินค้าแฟชั่น
    * กลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม
    * กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์
    * กลุ่มสินค้าธุรกิจบริการ สปา นวดแผนไทย และแฟรนไชส์กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์

ผู้เข้าร่วมงาน : ผู้ผลิต ผู้ส่งออก ผู้ค้าส่งและผู้ประกอบการระดับ SMEs จำนวนกว่า 1,000 คูหา
ผู้ เข้าชมงาน : ประชาชนทั่วไป ผู้ซื้อในและต่างประเทศ กลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อCash & Carry,Hypermarket และ Supermarket จากประเทศต่างๆ

กิจกรรมพิเศษ
  การจัดนิทรรศการ
- Product Show Case ตามอุตสาหกรรม
- Thailand’s Brand
- Design & Innovation
  การจัดคูหา Business Matching
  การจัดสาธิตการผลิตสินค้าต่างๆ

ติดต่อสอบถามได้ที่ คุณสุวรรณา คุณอรภา คุณอรวรรณ และคุณรุ่งฤดี
กลุ่มงานสินค้า 5 สินค้าทั่วไป สำนักกิจกรรมส่งเสริมการส่งออก กรมส่งเสริมการส่งออก
โทรศัพท์ 02 5078380-84 โทรสาร 02 547 4284
หรือสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้จากเว็บไซต์ของกรมส่งเสริมการส่งออก www.depthai.go.th หรือ www.thaitradefair.com


หลักเกณฑ์การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าเมดอินไทยแลนด์ 2554 Made in Thailand 2011 : Export Opportunity for SMEs (MIT 2011)

คุณสมบัติของผู้สมัคร มีดังนี้

    * เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนการค้าในประเทศไทย
    * เป็นสมาชิกของกรมส่งเสริมการส่งออก/ สมาชิกของหน่วยงาน/สมาคมการค้าต่าง ๆ
    * เป็นผู้ผลิต/ ผู้ส่งออกสินค้า/บริการของไทย หรือเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า/บริการที่ผลิตในประเทศไทย
    * เป็นผู้ผลิตสินค้า Brand Name ที่มีฐานการผลิตในประเทศไทย
    * เป็นผู้ประกอบการ SMEs

อัตราการเข้าร่วมงาน

    * ค่าพื้นที่เปล่า (ก่อสร้างเอง ) 12,000 บาท ต่อ 1 คูหา (1 คูหา = 9 ตารางเมตร : 3 x 3 เมตร)
    * คูหามาตรฐาน 20,000 บาท ต่อ 1 คูหา (1 คูหา = 9 ตารางเมตร : 3 x 3 เมตร)
     

หมายเหตุ

1. การจองพื้นที่เปล่าต้องจองตั้งแต่ 2 คูหาขึ้นไป โดยต้องออกแบบก่อสร้างคูหาเองให้สวยงาม
และต้องส่งแบบให้ผู้จัดงานพิจารณา
2. ผู้เข้าร่วมงานที่จอง 1 คูหา ผู้จัดงานขอสงวนสิทธิ์ให้ใช้คูหามาตรฐานตามแบบที่กรมฯ
กำหนดให้เท่านั้น
3. เอกสารประกอบการสมัคร มีดังนี้
3.1 ใบสมัครฉบับจริง
3.2 สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล หรือสำเนาหนังสือจดทะเบียนพาณิชย์
3.3 ใบอนุญาตประกอบโรงงาน (กรณีเป็นผู้ผลิต)
3.4 แคตตาล็อก โบร์ชัวร์ หรือรูปถ่ายสินค้า
4. การคัดเลือกผู้เข้าร่วมงาน ฯ
4.1 ส่งใบสมัครพร้อมเอกสารหลักฐานครบถ้วน
4.2 คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกผู้เข้าร่วมงาน
4..3 ผู้จัดงานจะแจ้งให้ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกชำระเงินภายในกำหนดเวลา หากพ้นกำหนดจะถือว่าสละสิทธิ์


***************************

522
งาน RakLuke Festival 2011

วันที่ 18 มีนาคม 2554 - 20 มีนาคม 2554 อาคาร 2-3เวลา 10.00-20.00 น.

รักลูกเฟสติวัลงานแสดงนวัตกรรมการเรียนรู้สำหรับครอบครัวอันดับ 1 ของประเทศไทย

งานเดียวที่จะพบนวัตกรรมที่ทำให้เกิดสมดุล เพื่อลูกคุณและครอบครัว

และการตกผลึกความรู้จากประสบการณ์กว่า 12 ปี ภายใต้แนวคิด Balanced Life…Balanced Family ชีวิตสมดุล...ครอบครัวสมดุล สนุกและเรียนรู้ผ่านลานกิจกรรม Balanced Living, Balanced Mind และBalanced Soul

พร้อมเลือกซื้อสินค้ามีคุณภาพ หลากหลาย กว่า 1,000 รายการ

พบคำตอบ Balanced Life…Balanced Family ชีวิตสมดุล...ครอบครัวสมดุล ในแบบฉบับของคุณเอง ได้ที่งาน “Rakluke Festival 2011”

บริหารงานโดย  บริษัท รักลูก กรุ๊ป จำกัด

จัดโดย รักลูก ออแกนไนซ์เซอร์ แอนด์ แมเนจเม้นท์

โทร. 0 2831 8400

โทรสาร 0 2831 8433

เว็บไซต์ : http://www.raklukegroup.com

523
งาน  Thailand SME Expo 2011



สำหรับในปี 2554 สสว. จะจัดงาน Thailand SME Expo 2011 เป็นครั้งที่ 2 ในระหว่างวันที่ 10-13 มีนาคม 2554 ณ บริเวณฮอลล์ 2 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายในงานจะมีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อ SMEs ไม่ว่าจะเป็นการสร้างฐานข้อมูลและองค์ความรู้ในด้านต่างๆ การเจรจาทางธุรกิจของผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ การให้บริการปรึกษาแนะนำ การออกร้านจำหน่ายสินค้า และการแสดงผลงานสุดยอด SMEs ของผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล SMEs National Awards ซึ่งการจัดงานได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐ และองค์กรเอกชน ร่วมจัดกิจกรรมซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อ SMEs ในการนำไปปรับใช้ในการประกอบธุรกิจได้อย่างครบวงจร

วัตถุประสงค์

2.1 เพื่อต่อยอดในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ SMEs  รวมทั้ง เป็นช่องทางในการสร้างและขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ SMEs

2.2  เพื่อต่อยอดให้ผู้ประกอบการ SMEs ให้มีโอกาสได้เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาธุรกิจ  ทั้งข้อมูลนโยบายจากหน่วยงานภาครัฐ องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจทั้งในระดับประเทศ และระหว่างประเทศ

2.3 เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนากิจการเพื่อยกระดับให้เป็นที่ยอมรับทั้ง ตลาดในประเทศและต่างประเทศ

2.4 เพื่อเป็นเวทีแสดงนโยบาย บทบาท และทิศทางการส่งเสริม SMEs ของรัฐบาล รวมทั้งการแสดงผลการดำเนินงานในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนา SMEs  ที่ผ่านมา



กลุ่มเป้าหมาย

3.1 ผู้ประกอบการ SMEs  ทั้งผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจอยู่เดิมและผู้ประกอบการใหม่ รวมถึงผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน และกลุ่ม OTOP จากทั่วประเทศ

3.2 หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและพัฒนา SMEs

3.3 นักศึกษา  ประชาชน และผู้ที่สนใจจะประกอบธุรกิจ

รูปแบบการจัดงาน จะประกอบด้วย 7 โซนหลัก ดังนี้

ส่วนที่ 1 โซนแสดงผลงานของ สสว. (OSMEP Pavilion) กำหนดให้เป็นส่วน Hi-light ของงาน โดยจัดพื้นที่ขนาดไม่น้อยกว่า 200 ตร.ม. เพื่อเป็นพื้นที่เผยแพร่และแสดงผลงานของ สสว. และพื้นที่แสดงถึงผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับรางวัลสุดยอด SMEs (SMEs National Award) เพื่อสื่อให้เห็นถึงความพร้อมในการก้าวสู่ปี 2554-2555


ส่วนที่ 2 โซนอบรมสัมมนาวิชาการ (Symposium & Seminars) เป็นพื้นที่สำหรับการจัดสัมมนาวิชาการ จำนวนไม่น้อยกว่า 50 หัวข้อ ที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจ รวมถึงกิจกรรมการฝึกอาชีพให้กับผู้สนใจจะเป็นผู้ประกอบการใหม่


ส่วนที่ 3 โซนเจรจาและจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) เป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ รวมทั้งพื้นที่แสดงสินค้าตัวอย่างของผู้ประกอบการ SMEs เพื่อเปิดโอกาสให้นักธุรกิจทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้เลือกชมสินค้า ตัวอย่างซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการเจรจาธุรกิจ


ส่วนที่ 4 โซนบริการให้คำปรึกษาทางธุรกิจ  (SMEs Consulting Clinic) เป็นพื้นที่สำหรับให้ผู้ประกอบการ SMEs ผู้ที่สนใจจะเป็นผู้ประกอบการใหม่ และประชาชนทั่วไป สามารถเข้ารับบริการปรึกษาทางธุรกิจ กับที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญ และความชำนาญในด้านต่างๆ จำนวน 10 ด้าน ได้แก่ ด้านการเริ่มต้นธุรกิจทั่วไป ด้านการเงิน/บัญชี ด้านการลงทุน/การเพิ่มทุน ด้านการตลาดในประเทศ/ ตลาดต่างประเทศ ด้านการสร้างแบรนด์สินค้า ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล ด้านเทคโนโลยีการผลิต  ด้าน IT และ E-Commerce ด้านกฎหมาย ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์


ส่วนที่ 5 โซนส่งเสริมธุรกิจการค้า (Business Village) เป็นพื้นที่สำหรับหน่วยงาน ภาครัฐ องค์กรเอกชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริม สนับสนุน SMEs รวมถึงธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินต่างๆ ได้ร่วมออกร้านแสดงนิทรรศการ และให้บริการด้านต่างๆ กับผู้ประกอบการ SMEs และผู้เข้าชมงาน


ส่วนที่ 6 โซนแสดงและจำหน่ายสินค้า SMEs (Shopping SMEs) เป็นพื้นที่เพื่อการแสดงและจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมงานจำนวนไม่น้อยกว่า 400 บูธ โดยจะจัดแบ่งดังนี้
โซนที่ 1 Cook & Culinary (เกษตรแปรรูปและอาหารเครื่องดื่ม)
โซนที่ 2 Craft & Culture (เสื้อผ้า เครื่องประดับ สินค้าหัตถกรรม ของใช้ของตกแต่งบ้านและของที่ระลึก)
โซนที่ 3 Creative & Chic (สินค้าเทคโนโลยีและนวัตกรรม ของใช้ของตกแต่งบ้านและของที่ระลึกแบบ Modern ตลอดจนสินค้าในด้านดีไซน์ต่างๆ )
โซนที่ 4 Chill & Chain (ธุรกิจารค้า ขนส่ง และธุรกิจบริการต่างๆ อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร สปา รวมถึงผลิตภัณฑ์สปา เป็นต้น)

ส่วนที่ 7 โซนเวทีการแสดง เป็นเวทีแสดงกิจกรรมทั้งในด้านความบันเทิง กิจกรรมร่วมสนุก อาทิ สินค้านาทีทองจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงาน รวมถึงกิจกรรมเสวนาเกร็ดความรู้ในการประกอบธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการ SMEs
ผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
- มีผู้ประกอบการ SMEs และผู้สนใจเข้าร่วมงานนี้ไม่น้อยกว่า 60,000 คน
- ผู้ประกอบการได้รับความรู้จากการสัมมนาและเข้ารับคำปรึกษาแนะนำทางธุรกิจ ไม่น้อยกว่า 1,500 คน
- ผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้าร่วมออกร้านจำหน่ายสินค้ามีรายได้จากการขายสินค้าภายในงานไม่น้อยกว่า 20,000 บาท / ราย
- เกิดการจับคู่ธุรกิจภายในงานไม่น้อยกว่า 700 คู่ คิดเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท
วัน/เวลา /สถานที่จัดงาน
ระหว่างวันที่ 10-13 มีนาคม พ.ศ.2554 เวลา 10.00 – 20.00 น.
ณ บริเวณฮอลล์ 2 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

524
งานแสดงสินค้า “เมดอินไทยแลนด์ 2554”



จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-13 มีนาคม 2554 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

โดยระหว่างวันที่ 9-11 มีนาคม ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. จะเป็นวันเจรจาธุรกิจ และระหว่างวันที่ 12-13 มีนาคม ตั้งแต่เวลา 10.00 — 21.00 น. จะเป็นวันจำหน่ายปลีก ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กรมส่งเสริมการส่งออก โทร.0-2507-8380-84 หรือ DEP Call Center 1169 หรือ www.depthai.go.th

สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมฟังการเสวนา สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0 22546891-5


525
งานโอกาสธุรกิจแฟรนไชส์ ครั้งที่16



นิตยสารโอกาสธุรกิจ แฟรนไชส์  ขอเชิญผู้สนใจการทำธุรกิจ เจ้าของกิจการ ผู้ที่มีธุรกิจค้าปลีก เจ้าของพื้นที่ร้านค้า ห้างสรรพสินค้าต่างๆ   หรือผู้ที่กำลังจะเริ่มทำธกิจการ  เข้าร่วมงานโอกาสธุรกิจแฟรนไชส์  ซึ่งเป็นงานแสดงบูท  ธุรกิจกว่า 300 ประเภท  เช่น แฟรนไชส์ ,  ไล่เซ่นส์ ,อุปกรณ์  สำหรับเปิดร้านกาแฟ,ร้านอาหาร,งานพิมพ์,สินค้าบริการสำหรับร้านค้าปลีก,สินค้าจากในประเทศ และจากต่างประเทศที่ต้องการตัวแทนจำหน่าย,สินค้าจำหน่ายส่ง เป็นต้น  

งานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 กุมภาพันธ์ 2011 ที่กำลังจะถึงนี้ ที่ฮออล์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี  

ผู้ที่ลงทะเบียนเพื่อเข้าชมงานล่วงหน้า จำนวน 2,000 ท่านแรก จะได้รับ ฟรี ซีดีรายชื่อ และรายการสินค้า รวมทั้งข้อมูลแนะนำการทำธุรกิจ  ณ.จุดลงทะเบียนก่อนเข้าชมงาน  

ผู้สนใจสามารถขอใบลงทะเบียนได้ที่ E-mail : fcfocus@gmail.com  หรือโทรสอบถามที่  02-321-7701-4






Pre-register get free CD list

Business opportunity Magazine and Thai Franchise Association cordially invite you visit the exhibition Business Opportunity 2011 held during 25 to 27 February 2011 , Hall 3, IMPACT Muang Thong Thani. If you are foreigners, owners, retailers, buyers, department store , owners, developers, dealers , distributors, franchisors, franchisees, or who are  to start doing business. Business Opportunity  2011.

There are more than 300 business categories, such as franchises, licenses, equipment for coffee shop, restaurant, printing services, product for retail, etc. Attendees who are pre-registered will receive a free CD Catalog list and Guide to doing business at counter register of the event hall. Attendees can request form at the E-mail: fcfocus@gmail.com.  

Or call at 02-321-7701-4. The first 2000 people Only.

526
ธนาคารกรุงเทพจัดงานสนทนา "เถ้าแก่เอสเอ็มอีกับนวัตกรรม"

      ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ ชมรมบัวหลวงเอสเอ็มอี กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และสถาบันยานยนต์ จัดการสนทนาเรื่อง "เถ้าแก่เอสเอ็มอีกับนวัตกรรม" ในวันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 6.30-12.15 น. ณ ห้องประชุมชั้น 30 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ ถนนสีลม โดยผู้บริหารระดับสูง ผู้ประกอบการ และตัวแทนของแต่ละสถาบัน อาทิ นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร และนายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารกรุงเทพ
       
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0-2230-2709, 0-2353-5350


527
ทุนจีนซื้อที่ตระกูลเก่า700ล้าน ผุดศูนย์ส่งออกไชน่าซิตี้บางนา

ตระกูลเก่าแก่ขายที่มรดก 70 ไร่ 700 ล้านบาท ข้างศูนย์วัสดุบุญถาวร บางนา-ตราด กม. 9 สร้างศูนย์ค้าส่งออกสินค้า ภายใต้โครงการ China City Complex ต้นตำรับอี้อู โมเดล ของกลุ่มทุนจีน Yunan-based Ashima Group





นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการก่อสร้างศูนย์ค้าส่งออกสินค้า ภายใต้โครงการ Thai-China International City หรือ China City Complex ว่า โครงการนี้จะเป็นการร่วมทุนระหว่างนักธุรกิจไทยกับกลุ่มทุนจีนรายใหญ่ นำโดยบริษัท Yunan-based Ashima Cultural Industry Group Investment.Co.Ltd ซึ่งเปิดตัว

นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการก่อสร้างศูนย์ค้าส่งออกสินค้า ภายใต้โครงการ Thai-China International City หรือ China City Complex ว่า โครงการนี้จะเป็นการร่วมทุนระหว่างนักธุรกิจไทยกับกลุ่มทุนจีนรายใหญ่ นำโดยบริษัท Yunan-based Ashima Cultural Industry Group Investment.Co.Ltd ซึ่งเปิดตัวโครงการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่ตำบลอี้อู เมืองจินหัว มณฑลเจ้อเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน

โครงการดังกล่าวจะเป็นการพัฒนา ที่ดินบนถนนบางนา-ตราด ก.ม.ที่ 8-9 ในพื้นที่ประมาณ 64 ไร่ มูลค่าการลงทุนประมาณ 6,200 ล้านหยวน เพื่อจัดทำเป็นศูนย์ค้าส่งออกสินค้าแห่งที่ 2 ภายใต้ "อี้อู โมเดล" (Yi Wu Model) ซึ่งมีเทคโนโลยีโนว์ฮาวทางการค้าส่งเชื่อมโยงกับทั่วโลกที่ประสบความสำเร็จเป็นแห่งแรกในประเทศจีน

ทั้งนี้แผนพัฒนาการลงทุน China City Complex จะแบ่งโครงการออกเป็น 2 เฟส โดยเฟสที่ 1 ใช้เงินลงทุนประมาณ 1,500 ล้านหยวน นำร่องก่อสร้างศูนย์ค้าส่งออกสินค้าพื้นที่ขนาด 500,000-700,000 ตารางเมตร เริ่มก่อสร้างเดือนมีนาคม 2554 แล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการไม่เกินไตรมาส 2 ปี 2555 โดยจะเปิดให้ร้านค้าเข้ามาเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์รวมกว่า 10,000 ร้านค้า แบ่งสัดส่วนร้านสินค้าไทย 30% และจีน 70%

มีการคัดเลือกสินค้าหลักพร้อมส่งออกเข้ามาวางขาย 7 หมวด ได้แก่ เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม, เครื่องไฟฟ้า, อัญมณีและเครื่องประดับ, อะไหล่รถยนต์, ของตกแต่งบ้าน, ของเล่นและสินค้าไลฟ์สไตล์, อาหารและสินค้าแปรรูป





ส่วนเฟสที่ 2 จะเริ่มขยายก็ต่อเมื่อผลการดำเนินงานเฟสแรกประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย จากนั้นกลุ่มทุนใหญ่ในจีน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัทธุรกิจภาคเอกชนจีน ภายใต้สมาคม ASEAN-CHINA Economic and Trade Promotion Association เตรียมจะย้ายฐานโรงงานผลิตค้าหมวดต่าง ๆ เข้ามาอยู่ใน China City Complex ในประเทศไทยต่อไป

ส่วนสิ่งที่เป็นข้อสงสัยในขณะนี้ก็คือ กลุ่มนักลงทุนไทยที่จะเข้าร่วมโครงการ China City Complex บางนา-ตราด เป็นใคร

ในประเด็นนี้ ได้สอบถามไปยังผู้ประกอบการ อสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่เป็น Land Load ในช่วงบางนา-ตราด หลายรายให้ข้อมูลตรงกันว่า เบื้องหลังโครงการ China City Complex เกิดมาจากไอเดียของกลุ่มพ่อค้าคนจีน นำโดย มิสเตอร์ตงฟู่ นายกสมาคมพ่อค้าเมืองอู้หยี-จิงเจีย ที่ต้องการจะมาปักธงสร้างธุรกิจในประเทศไทย เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยกลุ่มผู้ลงทุนกลุ่มนี้เป็นนักธุรกิจคนจีนล้วน ๆ ยังไม่มีรายชื่อคนไทยเข้าร่วมทุนแต่อย่างใด

"จากการสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้อง เขาไม่กังวลเรื่องกลุ่มคนไทยที่จะเข้ามาร่วมทุนสักเท่าไหร่ เพราะกลุ่มทุนจีนยุคนี้มีความพร้อมทั้งเรื่องเงินและคอนเน็กชั่นอยู่แล้ว" แหล่งข่าวกล่าว





โดยก่อนหน้านี้ ผู้แทนกลุ่มทุนนำโดย มิสเตอร์ตงฟู่ ได้เข้าหารือและแลกเปลี่ยนไอเดียของโครงการนี้กับ นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผลการหารือปรากฏเป็นที่พอใจด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายจีนได้รับการเปิดทางให้เข้ามาลงทุนในไทย ขณะที่นายอลงกรณ์เองมีเป้าหมายที่จะแสดงบทบาทเป็น "ผู้นำ" โครงการนี้ในนามรัฐบาลไทยเช่นกัน

ล่าสุดมีรายงานข่าวเข้ามาว่า กลุ่มทุนจีนได้ทำความตกลงในการจัดหาซื้อที่ดินเกือบ 70 ไร่ มูลค่า 700 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างศูนย์ค้าส่งออกสินค้าในโครงการนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่ดินแปลงนี้เป็นมรดกจากตระกูลเก่าแก่ตระกูลหนึ่ง ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 9 ข้าง ๆ ศูนย์วัสดุบุญถาวร "เป็นไปได้ว่าการซื้อขายที่ดินจะออกมาในลักษณะสัญญาการเช่าซื้อ ระยะเวลาอยู่ที่ความเหมาะสม เท่าที่ทราบรัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่" แหล่งข่าวกล่าว

สำหรับความเคลื่อนไหวในจีนต่อโครงการ China City Complex ทาง นสพ.ไชน่า เดลี่ รายงานว่า นายดง ฮองจี ประธานบริษัท Yunan-based Ashima Cultural Industry Group Investment.Co.Ltd ผู้ร่วมทุนรายใหญ่ กล่าวว่า ในฐานะผู้บุกเบิกอี้อู โมเดล ในเมืองเจ้อเจียง จนกลายเป็นศูนย์ค้าส่งออกสินค้ารายใหญ่ของโลกสำเร็จแล้ว ก็พร้อมที่จะพัฒนาศูนย์แห่งที่ 2 ในกรุงเทพฯ เพื่อเปิดประตูการค้าเป็นวงแหวนเศรษฐกิจระหว่างจีน-ไทย-อาเซียน ด้วยการนำร่องลงทุนเปิดพื้นที่เชิงพาณิชย์เฟสแรก

ส่วนนายหยาง ฟางซู ประธานสมาคม ASEAN-CHINA Economic and Trade Promotion Association กล่าวว่า นักลงทุนจีนยินดีร่วมมือกับไทย ซึ่งเป็นประเทศที่แทบจะมีกำแพงภาษีต่ำ เปิดประตูรับการค้าเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศได้ดีกว่าหลายประเทศ โดยโครงการ China City Complex จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งไทย อาเซียน และจีน โดยหลังจากที่รัฐบาลจีนทำข้อตกลงเปิดเสรี (FTA) กับกลุ่มอาเซียนเพียงปีเดียว ปรากฏช่วง 7 เดือนแรกของปี 2553 มีมูลค่าการค้าหมุนเวียนในภูมิภาคนี้สูงถึง 161,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในอนาคตเมื่ออาเซียนรวมกันเป็น ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะทำให้ได้มูลค่าการค้าระหว่างกันสูงถึงปีละ 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐ








ไชน่า ซิตี้ คอมเพล็กซ์ ชะตากรรมผู้บริโภค-แม่ค้าไทย ในวันสินค้าจีนบุก

บนพื้นที่กว่า 2 ล้านตารางเมตร ย่านบางนา กำลังเกิดอภิโครงการอย่าง ไชน่า ซิตี้ คอมเพล็กซ์ ที่มีมูลค่ากว่า 4.5 หมื่นล้านบาท โดยความร่วมมือระหว่างไทย-จีน ที่ดูจะเป็นความภาคภูมิใจของ อลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพราะเชื่อว่าสามารถดึงเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศอย่างมหาศาล

ทว่า การเข้ามาของอี้อูโมเดลหรือรูปแบบธุรกิจค้าส่งของจีนครั้งนี้กลับถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นไปในทำนองเดียวกันกับที่ดูไบ สเปน หรือรัสเซีย ที่ต่างก็ได้รับผลกระทบมากบ้างน้อยบ้าง ตามแต่รัฐบาลของประเทศนั้นๆ จะตั้งรับอย่างไร แต่สำหรับไทยซึ่งรู้กันอยู่ว่ามาตรการรับมือมักเป็นเรื่องท้ายๆ ที่ถูกนึกถึง จึงสร้างความวิตกกังวลแก่ผู้ประกอบการขนาดเล็ก และกลาง หรือเอสเอ็มอีของไทย บางรายถึงกับเชื่อว่านี่จะเป็นการทำลายตลาดในเมืองไทยเลยทีเดียว

วิทยายุทธ์กังฟู กำลังจะคร่ามวยไทย

จากบทเรียนเอฟทีเอหรือเขตการค้าเสรีไทย-จีน ที่เปิดประตูให้สินค้าเกษตรของจีนเข้ามาสร้างความเสียหายแก่เกษตรกรไทยถ้วนหน้า ก่อให้เกิดความวิตกกับผู้ประกอบการหลายฝ่ายที่นำเข้าสินค้าจากประเทศจีน หรือผู้ประกอบการที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์คล้ายคลึงกับสินค้าของประเทศจีน เพราะด้านราคาและคุณภาพที่ประเทศไทยอาจสูงกว่า จะทำให้ผู้บริโภคเดินหน้าสู่ ไชน่า ซิตี้ คอมเพล็กซ์ ที่มีกำหนดสร้างเสร็จในปี 2556 อย่างไม่มองกลับหลัง

ด้านข้อมูลของ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม สรุปได้ว่า การเข้ามาของสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ จากประเทศจีนมีทั้งเข้าสู่ประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ส่วนที่ลักลอบเข้าประเทศก็มีอัตราและปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จุดนี้เป็นเหตุที่แย่งส่วนแบ่งทางการตลาดของสินค้าไทย ถือเป็นการคุกคามที่ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อประเทศ

ปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ทำให้สินค้าจีนได้รับความนิยมคงหนีไม่พ้นราคาที่ถูกอย่างล่อเป้า ไชน่า ซิตี้ คอมเพล็กซ์ จึงเป็นแหล่งร่วมสินค้าจีนถู๊ก...ถูก ส่วนคุณภาพจะถูกหรือแพงคงเป็นเรื่องที่คนไทยต้องพิจารณาดู

แต่อีกประการสำคัญที่ต้องใส่ใจ คือจีนอาจกำลังใช้ไทยเป็นศูนย์กลางเพื่อกระจายสินค้าไปยังยุโรป และสหรัฐฯ เพราะสินค้าจีนมีชื่อเสียงด้านลบ ทั้งเรื่องคุณภาพ และการปนเปื้อน จึงทำให้สินค้าเข้าสู่ตลาดทั้งสองแหล่งได้ยาก แต่หากไปจากไทย และติดตราว่าผลิตในไทยทั้งที่ไม่ใช่ ก็จะทำให้การส่งออกง่ายกว่า แต่อาจสร้างผลเสียต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ไทยได้ในอนาคต...

สินค้า ʻจีน’ มั่นใจว่าปลอดภัยแค่ไหนกัน?

เป็นสิ่งที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดอีกประการหนึ่ง ด้านความปลอดภัยในตัวสินค้าจีนที่ผ่านมามีกรณีสารปนเปื้อนในสินค้าโดยสื่อทุกแขนงประโคมข่าวโด่งดังไปทั่วโลก อย่างกรณีนมผงปนเปื้อนเมลามีนเกือบ 200 ตัน, กรณีเครื่องสำอางปนเปื้อนสารตะกั่วในระดับอันตราย, กรณีแบตเตอรี่ปลอมคุณพต่ำที่ก่ออันตรายต่อระบบประสาท, ทางเดินหายใจ รวมถึงสินค้าคุณต่ำอื่นๆ เช่น เสื้อผ้า รองเท้า ขนม ฯลฯ ที่จะก่ออันตรายแก่ผู้บริโภค ฉะนั้น ไชน่า ซิตี้ คอมเพล็กซ์ ย่อมหมายความว่าอาจทำให้สินค้าปนเปื้อนจำนวนมากเล็ดลอดเข้าสู่ตลาดและกระจายออกไปอย่างกว้างขวาง

เมื่อนำข้อกังวลนี้ไปสอบถาม สารี อ๋องสมหวัง ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เธออธิบายในภาพใหญ่ก่อนว่า ทิศทาง ณ ขณะนี้ บ้านเราดูจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของอาหารที่ส่งออกมากกว่าอาหารที่คนภายในประเทศต้องบริโภค ดังนั้น การทะลักเข้ามาของสินค้าจีนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหากไม่มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดอาจก่อปัญหา

“พอดีเราทำโครงการอาหารปลอดภัย เป็นการพัฒนากลไกการเฝ้าระวังด้านอาหารของผู้บริโภค ซึ่งเราพบว่า อาหารที่เราตรวจ ส่วนหนึ่งเป็นอาหารที่นำเข้ามา โดยเฉพาะอาหารที่เข้ามาจากจีนก็มีปัญหา เช่น เห็ดหอมมันมีพวกยาฆ่าแมลงเป็นสารพิษตกค้างอยู่ หรือพวกส้ม เห็ดหูหนูขาว มีสารฟอกขาว แม้กระทั่งผัก ข้อมูลขององค์การอาหารและยาเองก็พบว่า ผักที่เข้ามาก็มีปัญหา”

หรือในกรณีของเครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีน ทางมูลนิธิฯ ก็เคยได้รับการร้องเรียนว่าชำรุดหลังจากซื้อมาใช้เพียงไม่กี่วัน ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบว่า ผลกระทบจากสินค้าด้อยคุณภาพเหล่านี้มีมากน้อยเพียงใด

อย่างไรก็ตาม สารี เสนอว่ารัฐจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนทิศทางการอุดหนุน และให้ความสำคัญในการปกป้องผู้บริโภคภายในประเทศมากกว่านี้ ขณะเดียวกัน จะต้องมีการควบคุมมาตรฐานคุณภาพสินค้าอย่างเข้มงวด รัดกุม และบังคับใช้อย่างเคร่งครัด เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ทางด้านผู้บริโภคเองก็คงต้องอาศัยข้อมูลในการซื้อหาให้มากขึ้น แทนที่จะเน้นแต่ของราคาถูกเท่านั้น เพื่อรับมือกับคลื่นสินค้าจากแดนมังกร

ประตูน้ำ สำเพ็ง และโบ๊เบ๊ ระส่ำ!

รมช.พาณิชย์ คงรู้สึกว่านี่เป็นผลงานชิ้นโบแดง แต่มุมมองของผู้ประกอบการธุรกิจไทยตัวเล็กๆ หลายสาขากลับรู้สึกว่าน่าจะเป็นผลงานชิ้นโบดำมากกว่า เมื่อพิจารณาจากผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการไหลทะลักเข้ามาของสินค้าจีนที่มีราคาถูกกว่า ทั้งภาคเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องหนัง เครื่องสำอาง ชิ้นส่วนรถยนต์ ของเล่น ฯลฯ ทำเอาย่านธุรกิจอย่างประตูน้ำ สำเพ็ง และโบ๊เบ๊ผวา เพราะอาจถูกทุนจีนกวาดออกจากตลาด เนื่องจากไม่สามารถสู้ในเรื่องราคาที่ถูกกว่าของจีนได้





เพียงใจ แซ่จิว เจ้าของร้านค้าขนมขบเคี้ยว ย่านพาหุรัด แสดงออกถึงความกังวลกับการเข้ามาของศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง ไชน่า ซิตี้ คอมเพล็กซ์ ประการแรกน่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคประเภทเดียวกัน แต่มั่นใจว่าผู้บริโภคจะดำเนินชีวิตด้วยความคุ้นเคย เลือกซื้อสินค้าจากแหล่งเดิม

“ผลกระทบมันต้องมีแน่นอนอยู่แล้วแหละ แต่ว่าเราคงต้องดูสินค้าที่เขาจะเอามาลงว่ามีอะไรบ้าง แต่ว่าถ้าเป็นเสื้อผ้าคงไม่มีปัญหาเท่าไหร่ เพราะเสื้อผ้าที่นี่ส่วนใหญ่ก็เป็นของไทยอยู่แล้ว ถ้าเกิดมีเกิดขึ้นจริงๆ คนเขาอาจจะไม่ไปก็ได้เพราะมันไกลนะ แล้วคนไทยเขาคงคุ้นเคยกับที่นี่มากกว่า อีกอย่างถ้ามีมาเปิดก็อาจอยากให้เปิดไปที่เดียวเลยที่นั่น ไม่อยากให้ขยายสาขาเยอะแยะ เดี๋ยวมันจะไปเหมือนพวกโลตัส คาร์ฟูรไง พวกโชว์ห่วยตายหมด เพราะเขาขายไม่ได้”





สินค้าหลายประเภทผู้ประกอบการของไทยก็นำเข้ามาจากประเทศจีนโดยตรง ด้านผู้ประกอบการรายย่อยอย่าง สมศรี แซ่วุ่น เจ้าของร้านเซรามิก ย่านสำเพ็ง มองว่า ไชน่า ซิตี้ คอมเพล็กซ์ จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของตนและพื้นที่ค้าขายย่านสำเพ็งอย่างหนักเช่นกัน แต่เห็นช่องทางที่โครงการนี้เสนอต่อผู้ประกอบการรายย่อยโดยคำเชื้อเชิญให้ไปจำหน่ายสินค้าที่ ไชน่า ซิตี้ คอมเพล็กซ์

“ขายที่สำเพ็งมา 10 ปีแล้ว ได้ข่าวเหมือนกันว่าเขาจะมีมาเปิดที่นี่ เพราะมีโบว์ชัวมาแจกให้ไปลงจองพื้นที่ แต่คงไม่ไปหรอก ยังอยากขายที่นี่มากกว่า มันมีผลกระทบทั้งหมดแหละ เพราะร้านแถวนี้ก็ไปรับจากจีนมาขายเหมือนๆกัน ขนาดแค่ยังไม่เปิดที่ผ่านมาก็ขายไม่ค่อยดี ถ้าเขามาเปิดคนก็คงไปซื้อตรงที่นู้นเพราะมันถูกกว่าแน่นอน”





ซึ่งช่องทางหนึ่งที่ผู้ประกอบการรายย่อยจะอยู่ได้ อาจต้องสละทำเลร้านจากที่เดิมๆ แล้วมุ่งหน้าเข้าสู่ไชน่า ซิตี้ คอมเพล็กซ์ สมศรี กล่าวว่า การไหลเข้ามาของคนเชื้อสายจีนเพิ่มขึ้น ด้านคู่ค้าในบริเวณเดียวกันก็เป็นชาวจีนเสียส่วนใหญ่ และจำหน่ายสินค้าในราคาที่ต่ำกว่า แต่มองเห็นต่างว่าสินค้าจากจีนมีคุณภาพและราคาถูก

“ตอนนี้ย่านนี้คนจีนเข้ามาขายเองเยอะมาก และเขาจะขายถูกกว่า เห็นเขาว่ารัฐบาลที่จีนให้เงินกู้ เพื่อมาขายของที่นี่ ถึงเวลาเขาก็เอาเงินไปคืน แต่ถ้าเขาไม่อยากขายก็แค่ขายเอาแค่ทุนคืนพอ อย่างที่ร้านตอนแรกเป็นสินค้าที่สั่งทำจากไทย แต่มันไม่ดี เหมือนของมันคุณภาพไม่ดี เทียบกับของจีนไม่ได้เลย ก็เลยบินไปสั่งทำที่นู้น ไปเลือกสินค้าว่าจะเอาไรมาขายบ้าง แล้วบินเอากลับมา อีกอย่างของที่นู้นถูกกว่า และสวยกว่าที่ไทยด้วย”





อย่างไรก็ตาม การเข้ามาของอภิโครงการอย่าง ‘ไชน่า ซิตี้ คอมเพล็กซ์’ น่าจะทำให้หลายฝ่ายกังวลมากกว่าโล่งใจ แต่ถ้าจะปิดกั้นคงลำบาก เพราะมีข้อตกลงด้านการค้าเสรีร่วมกันระหว่างไทย-จีน คราวนี้คงเป็นโจทย์ให้ผู้ประกอบการไทยพิจารณาถึงคุณภาพสินค้า ราคา และบริการของตน เพื่อความอยู่รอดของภาคธุรกิจสืบไป...

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว จากประชาชาติธุรกิจ และผู้จัดการออนไลน์




ขอเชิญผู้ประกอบการ SMEs ชาวไทย ร่วมให้ความคิดเห็น เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
ว่าท่านมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง?



528
Date 9/2/2554 หนังสือมาใหม่ จากสำนักพิมพ์ Infopress | Think Beyond 5 เล่ม ได้แก่


       





สนใจเข้าชมและเลือกซื้อหนังสือสำหรับผู้ประกอบการ SMEs และแฟรนไชส์
เชิญชมได้ที่นี่ครับ
Infopress | Think Beyond


529
นิด้าจัดอบรมโครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ 2554 (ฟรี ตลอดหลักสูตร)    
 

ก้าวสู่ปีที่ 9 อย่างมั่นใจ ด้วยประสบการณ์สร้างผู้ประกอบการใหม่โดยทีมอาจารย์คณะบริหารธุรกิจ และศิษย์เก่า นิด้า

คณะบริหารธุรกิจ นิด้า ร่วมกับ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม จัด โครงการฝึกอบรม “เสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่”      (New Entrepreneurs Creation: NEC) สำหรับประชาชนทั่วไป (โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ) ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือ SMEs โดยตรงและสอดรับกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม

โดยติดต่อได้ที่ โทร. 02-7273947, 02-7273984 หรือ http://mba.nida.ac.th

รุ่นที่ 2/54 รับสมัครตั้งแต่บัดนี้ – 31 มกราคม 2554
                เริ่มอบรม 10 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2554
รุ่นที่ 3/54 รับสมัครตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ -10 มีนาคม 2554
               เริ่มอบรม 15 มีนาคม -1 เมษายน 2554


530
งาน Amazing Thai Product Fair 2011


4 – 13 กุมภาพันธ์ 2554 อาคารแสดงสินค้ากรมส่งเสริมการส่งออก ถนนรัชดาภิเษก

กรมส่งเสริมการส่งออก ร่วมกับบริษัท ไมซ์ แมนเนจเม้นท์ จำกัด จัดงานแสดงสินค้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทยอีกงาน ภายใต้ชื่องาน “Amazing Thai Product Fair 2011” วันที่ 4-13 กุมภาพันธ์ 2554 ณ อาคารแสดงสินค้ากรมส่งเสริมการส่งออก ถนนรัชดาภิเษก โดยงานนี้ทางผู้จัดได้มุ่งเน้นสินค้าแบรนด์ไทย ทั้งส่งออกและขายในประเทศ เพื่อเป็นการผลักดันและสนับสนุนสินค้าไทยให้มีศักยภาพและมาตรฐานที่ดีและยั่งยืน

Amazing Thai Product Fair 2011 เป็นงานที่รวบรวมเอาสินค้า แบรนด์ไทยที่ทางคณะผู้จัดเน้นที่คุณภาพของสินค้า ตลอดจนราคาพิเศษลดกว่ามากกว่า 50% ให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานได้เลือกซื้อมากมาย อาทิ เสื้อผ้าฝ้าย ผ้าไหมทอมือ สินค้าตกแต่งบ้าน เครื่องประดับ ตลอดจนเครื่องใช้ในครัวเรือน และอื่นๆ เต็มพื้นที่ทั้งสามอาคาร
โดยมีผู้ประกอบการตบเท้าเข้าร่วมงานมากกว่า 200 คูหา

อาทิ ร้านขายเสื้อผ้าไทย ได้แก่ ริชไหมไทย, ไหมแก้ว, ฝ้ายแก้ว, กรผ้าไทย, ประเภทเครื่องประดับอัญมณี ได้แก่ ร้านเจมส์ แอนด์ จิลเวอร์รี่, ร้านเจมส์วาไรตี้,  ประเภทเครื่องหนัง ได้แก่ วีเอสเทรดดิ้ง, แอ็คล่า, ประเภทเครื่องนุ่มห่มชุดกันหนาว ได้แก่ บิ๊กแจ็ค, แองเจิ้ล, สินค้าประเภทอื่น ได้แก่ ร้านแวนตาไก่ออฟติก,น้ำมันหอมละเหย ทรอปิคาน่าออย, อาหารเวียดนาม แดงแหนมเนือง, ของกินของฝาก อาหารดีมีคุณ  บัวลอยบ้านยะลา ยำสี่ภาค ฯลฯ

โดยคณะผู้จัดงาน คาดหวังว่าจะเกิดการหมุนเวียนและการซื้อขายสินค้ามากกว่า 5 ล้านบาท

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 089-674-2530, 088-339-9545



531
สัมมนา แนวโน้มธุรกิจแฟรนไชส์ ปี54


ร่วมรับฟังแนวคิดการพัฒนาบุคลากรด้านแฟรนไชส์ สถานการณ์แฟรนไชส์ ปี 53 และแนวโน้ม ปี 54 สรุปงานวิจัย“ปัจจัยในการเลือกซื้อธุรกิจแฟรนไชส์”

ศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 13.00 – 17.00 น.โรงแรม บางกอก แมริออท รีสอร์ทแอนด์ สปา ถนนเจริญนคร


(ใครคือผู้ลงทุนแฟรนไชส์) งานสัมมนาครั้งนี้ มุ่งเน้นการสร้างแนวความคิดในการพัฒนาธุรกิจ และองค์กร ด้วยองค์ความรู้ อันจะนำไปสู่การประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดกับองค์กรต่อไป

พิเศษ
นอกจากนั้นยังเน้นกิจกรรมเพื่อพัฒนาบุคลากรของท่าน บาทต่อท่าน 1,500 ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม “กลยุทธ์ของธุรกิจจะประสบความสำเร็จได้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของบุคลากร”

โดย อาจารย์พีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์ CFE




กำหนดการ
ลงทะเบียน 13.00
สถานการณ์แฟรนไชส์ ปี 2554 13.30

พักรับประทานอาหารว่าง 15.00
15.15 ใครคือผู้ลงทุนแฟรนไชส์ตัวจริงและปัจจัยที่มีผล
ต่อการตัดสินใจลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์
16.00 การพัฒนาบุคลากรด้านแฟรนไชส์
ชี้แจงรายละเอียดหลักสูตร สถาบันโค้ช


สมัครเข้าร่วมสัมมนา หรือข้อมูลเพิ่มเติม Tel: 02-4264700-1 Fax: 02-4263238
www.coachandconsulting.com

Email:coachandconsulting@gmail.com

Register หลักสูตร FRANCHISE EXECUTIVE PROGRAM
มุ่งเน้นหลักการบริหารธุรกิจแฟรนไชส์สำหรับผู้บริหารด้านแฟรนไชส์ โดยสร้างความเข้าใจระบบธุรกิจ การจัดการและการบริหารภาพรวม ส่งเสริมให้สามารถขยายสาขา ด้วยเทคนิคเชิงลึก

1.การบริหารธุรกิจแฟรนไชส์
2.ธุรกิจเติบโต ธุรกิจแฟรนไชส์
3.รู้ลึกเรื่องแฟรนไชส์
4.แฟรนไชส์กับการขยายธุรกิจ
5.โครงสร้างการบริหารธุรกิจแบบแฟรนไชส์
6.ตรวจสอบความพร้อมธุรกิจ
7.องค์ประกอบที่สร้างให้แฟรนไชส์ประสบความสำเร็จ
8.ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์
9.การพัฒนาการตลาดให้ธุรกิจแฟรนไชส์
10.การวางรูปแบบการปฏิบัติงาน
11.การสร้างคู่มือปฏิบัติการในระบบแฟรนไชส์ การสร้างความสัมพันธ์ในองค์กรรูปแบบแฟรนไชส์
12. STORE MANAGER PROGRAM มุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจในการสร้างกำไรให้กับสาขา ด้วยการสร้างแนวคิดบริหารจัดการ
และเสริมสร้างเทคนิคด้านการตลาด

การสร้างยอดขายให้กับสาขา ธุรกิจค้าปลีกในทศวรรษใหม่ 1.
2.การบริหารระบบงานร้านค้าและร้านสาขา
3.การจัดวางสินค้าในร้านค้า
4.การจัดระบบปฏิบัติการร้านค้า
5.การออกแบบผังร้านค้า
6.เทคโนโลยีกับการบริหารหน้าร้าน
7.การบริหารการตลาดระดับสาขา
8.การบริหารบุคลากรฝ่ายปฏิบัติการ
9.การส่งเสริมการขายและการออกแบบตกแต่งร้านสาขา
10.การวิเคราะห์ธุรกิจและการจัดทำแผนธุรกิจ
11.การประเมินผลประกอบการและการแก้ไขปัญหาธุรกิจ
12.การสัมมนาเชิงปฏิบัติการ


532
สัมมนาฟรี "บริหารร้านแฟรนไชส์อย่างไรให้ขายดี" การทำธุรกิจแฟรนไชส์รวยได้จริง หรือ?

นิตยสารโอกาสธุรกิจและแฟรนไชส์ เชิญฟังสัมมนาฟรี "บริหารร้านแฟรนไชส์อย่างไรให้ขายดี" การทำธุรกิจแฟรนไชส์รวยได้จริง หรือ? และทำอย่างไร จึงจะรวย ในงานโอกาสธุรกิจ 2011 ครั้งที่ 16 จากผู้มีประสบการณ์จริง

ในวันที่ 26 ก.พ. เวลา 13.00-14.00 น. ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 3

สำรองที่นั่งที่ นิตยสารโอกาสธุรกิจและแฟรนไชส์ โทร.0-2321-7701-4 ภายในวันที่ 30 ม.ค.
สอบถามเพิ่มเติม ที่คุณดรุณี 0-2321-7701-4 หรือ 08-9535-8265

533
พาเที่ยว งานมหกรรมแฟรนไชส์สร้างอาชีพ ครั้งที่5
โดยทีมงาน ThaiFranchiseCenter.com





งานที่จะช่วยให้คุณ เป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวได้ง่ายกว่าที่คิด ตกงานอยากมีอาชีพเสริม อยากเริ่มธุรกิจ ส่วนตัว ห้ามพลาด!!  พบแฟรนไชส์และธุรกิจหลากหลายให้คุณเปิดโลกทัศน์ด้านการประกอบอาชีพพร้อม โปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะงานนี้เท่านั้น


วันที่ 13-19 มกราคม 2554ชั้น G (ลานน้ำตก) เดอะมอลล์ บางกระปิ ร่วมงานฟรีทุกวัน เวลา 10.00-21.00น.

คลิกเพื่อชมรูปภาพบรรยากาศของงานทั้งหมด ที่นี่

534
สสว. เปิดรับ SMEs เข้าร่วมงาน Thailand SME Expo 2011





สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดรับสมัครผู้ประกอบการ SMEs เข้าร่วมแสดงและจำหน่ายสินค้าภายในงาน Thailand SME Expo 2011

ซึ่งจะจัดระหว่างวันที่ 10-13 มีนาคม 2554 ณ ฮอลล์ 2 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ผู้สนใจสามารถตรวจสอบหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือก และ Download แบบฟอร์มการสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ด้านล่าง

เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ – 4 กุมภาพันธ์ 2554 ด่วน ! รับจำนวนจำกัด

SMEs และแฟรนไชส์ ท่านใด สนใจออกบูธ คลิกได้เลยจ้า!
http://www.thaifranchisecenter.com/download_file/index.php?group=91





535
เปิดจองแล้วจ้า!!! ตลาดน้ำมหานครสุวรรณภูมิ อาณาจักรแห่งการค้า ทำเลทองใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ




ตลาดน้ำมหานครสุวรรณภูมิ รับผู้สนใจลงพื้นที่เช่า ด่วน!


พ่อค้าแม่ค้า อย่าลังเลใจ รีบโทรไปถามก่อนว่า ล๊อกเต็มแล้วหรือยังนะครับ เพราะมีผู้ค้ารายเดิม จับจองพื้นที่บ้างแล้ว อนาคตเป็นทำเลที่ชาวต่างชาติ รถทัวร์ ลงเยอะแน่นอน รับประกันได้ครับผม

สินค้าที่ลงขายจะแยกเป็นโซน ได้แก่

สินค้าชุมชนจากเขตต่างๆ ของดี 50 เขตกรุงเทพฯ และงานบริการต่างๆ, OTOPS ทั่วประเทศ, แฟชั่น/ของที่ระลึก, ประเภทงานศิลปะแขนงต่างๆ, สินค้าไอเดียแปลกๆใหม่ๆ, อาหาร-เครื่องดื่ม, ของกินของใช้ท้องถิ่น



ภาพจำลอง บรรยากาศตลาดน้ำ


ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจเหล่านี้ ลองโทรสอบถามพื้นที่เช่าดูนะครับ วางจองสิทธิ์ เพื่อสัมมนาแนวทางอาชีพ และจองทำเล พร้อมรับสิทธิพิเศษจากโครงการ และสถาบันการเงิน เพื่อบริการด้ารสินเชื่อธุรกิจ

ด่วน! จองสิทธิ์ เพียง 5,000 บาท
(เจ้าของโครงการ ขายเอง รับประกันได้จ้า..)



ภาพจำลอง บรรยากาศตลาดน้ำ

ด้วยภาพลักษณ์การออกแบบสถาปัตยกรรมที่ดึงดูดคนซื้อ theme พระราชวังถูกหยิบยกมาเล่าสู่กันฟัง อีกครั้งหนึ่ง พื้นที่ภายในตลาดน้ำ จัดแบ่งเป็นโซน ได้แก่ พระราชวังบางปะอิน (จำลอง), พระราชวังพญาไท (จำลอง), พระราชวังสนามจันทร์ (จำลอง), พระราชวังบ้านปืน (จำลอง), พระราชวังไกลกังวล (จำลอง)



ภาพจำลอง บรรยากาศตลาดน้ำ


กิจกรรม : HOT WEEKEND SHOW

โชว์พิเศษ : ทุกเสาร์-อาทิตย์-วันหยุดราชการ ณ อาคารการแสดงความจุผู้ชมมากกว่า 1,500 คน อาทิ
การแสดงช้างแสนรู้ คอนเสิร์ตศิลปินดังขากลูกทุ่งมหานคร ละครเวที (มหานครย้อนวันวาน) ฯลฯ

1 MONTH 1 PROVINCE : โชว์พิเศษที่เดินทางมาจากแหล่งศิลปวัฒนธรรมต้นฉบับ ที่จะหมุนเวียน มาทำการแสดง พร้อมกับงานแสดงสินค้าของดีทั้ง 76 จังหวัด จาก 76 เจ้าเมืองทั่วประเทศ

บริการพิเศษ : เรือนำเที่ยวคลองประเวศบุรีรมย์ไปบางปะกง ทุกๆ วัน วันละ 12 รอบ เรือโดยสารจากโครงการ ไปพระโขนงและจากโครงการไปบางปะกง

ตลาดน้ำมหานครสุวรรณภูมิ เปิดบริการทุกวัน 9.00น.-24.00น.  
OPEN 9.00 AM. -CLOSE 12.00PM.EVERY DAY
081-492-4075 , 086-661-9494 , 084-700-8883 , 086-335-1091 , 083-243-2711


SALE OFFICE : บริษัท ตลาดน้ำมหานครสุวรรณภูมิ จำกัด
4/85 หมู่ 9 แขวงตลาดบางเขน เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230
4/85 Moo 9 Ladprao district Bangkok Thailand 10230  
   
สนใจจองพื้นที่เช่า ติดต่อ สำนักงานฝ่ายบริการร้านค้า  
081-492-4075 , 086-661-9494 , 084-700-8883 , 086-335-1091 , 083-243-2711

 
E-mail: Mahanakorn_09@gmail.com

เว็บไซต์ คลิกเข้าชมรูปภาพโครงการเพิ่มเติมได้เลยครับ http://www.mahanakornfloatingmarket.com




Download โบร์ชัวร์โครงการตลาดน้ำมหานครสุวรรณภูมิ


คลิกที่รูปภาพ ขยายใหญ่


คลิกที่รูปภาพ ขยายใหญ่

536
Date 14/1/2554 หนังสือมาใหม่ จากสำนักพิมพ์ Infopress | Think Beyond 2 เล่ม ได้แก่


 





สนใจเข้าชมและเลือกซื้อหนังสือสำหรับผู้ประกอบการ SMEs และแฟรนไชส์
เชิญชมได้ที่นี่ครับ
Infopress | Think Beyond


537
ฟรี! ฟัง “ฮวงจุ้ย SMEs ค้าขายดี ปีกระต่ายทอง”



       สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (สสว.) กำหนดจัดงานแถลงข่าวโครงการพัฒนาบุคลากรเพื่อ SMEs ปี 2554 (Train the Trainer) พร้อมจัดให้มีการบรรยายพิเศษ เรื่อง “2011 ทิศทาง SMEs ปีกระต่ายทอง” โดย นางสาววิมลกานต์ โกสุมาศ รองผู้อำนวยการ สสว.
       
       “Train the Trainer บริการเพื่อ SMEs” โดย นายวีระยุทธ เชื้อไทย รองผู้อำนวยการสำนักบริการผู้ประกอบการ สสว. และ “ฮวงจุ้ย SMEs ค้าขายดี ปีกระต่ายทอง” โดย ซินแสภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล สถาบันศาสตร์แห่งชีวิตแห่งประเทศไทย และทีมงานนักพยากรณ์จากสถาบันฯ ในวันจันทร์ที่ 17 มกราคม 2554 ระหว่างเวลา 08.30 - 16.30 น. ณ ห้องบอลรูม 1 โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก
       
       ผู้ประกอบการ SMEs และผู้สนใจทั่วไป สามารถสอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งได้ที่ สำนักบริการผู้ประกอบการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) โทร. 0-2278-8800 ต่อ 158, 159, 305 หรือที่ www.sme.go.th (ฟรี! รับจำนวนจำกัด)

538
งาน "นัดพบงานและอาชีพเชิงบูรณาการจังหวัดปทุมธานี"

ศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต ร่วมกับ สำนักงานจัดหางานจังหวัดปทุมธานี จัดงาน "นัดพบงานและอาชีพเชิงบูรณาการจังหวัดปทุมธานี" ในวันที่ 12 ม.ค. เวลา 09.00-16.00 น. ที่ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต มีสถานประกอบการและโรงงานมาเปิดรับสมัครงานโดยตรงกว่า 140 บริษัท

นอกจากนี้ยังเปิดสอนวิชาชีพอิสระให้เรียนฟรี สอบถามโทร.0-2567-0630-2

539
รายการ SME ตีแตก / SME ตีแตก กับ Fries Me To The Moon
« เมื่อ: มกราคม 11, 2011, 04:29:56 AM »
SME ตีแตก กับ Fries Me To The Moon



บอกได้คำเดียวว่า หากแฟนรายการ SMEตีแตก ได้ชมธุรกิจในสัปดาห์นี้ เป็นอันต้องเกิดอาการหิวก่อนเข้านอน เพราะศุกร์นี้จะได้พบธุรกิจมันฝรั่งทอดหลากหลายรูปแบบจากสถานที่ท่องเที่ยว ที่กำลังได้รับความนิยม กับ Fries me to the moon ร้านขายมันฝรั่งทอดหลากหลายรูปแบบที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ และเพื่อแฟนรายการ SME ตีแตกโดยเฉพาะ งานนี้เจ้าของธุรกิจเลยขอจำลองร้าน มาตั้งกันให้ได้ลิ้มลองรสชาติกันอย่างเห็นๆ

ร้านขายมันฝรั่งทอดหลากหลายรูปแบบที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ  
ติดต่อ 089-9872777, 081-8303900


ชมรายการย้อนหลังได้ที่นี่..

540
แฟรนไชส์ เอ็กซ์โป ปารีส: งานมหกรรมแฟรนไชส์นานาชาติ


เตรียมตัวพบกับความยิ่งใหญ่ในงานมหกรรมแฟรนไชส์นานาชาติซึ่งนักลงทุนที่สนใจในการสร้างธุรกิจเครือข่าย
มิควรพลาดงาน “แฟรนไชส์ เอ็กซ์โป ปารีส”(FRANCHISE EXPO PARIS) ครั้งที่ 30 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23มีนาคม 2554 ณ ศูนย์แสดงนิทรรศการ Porte de Versailles Exhibition Centreกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส(พาวิลเลียน 3)

โดยในงานท่านจะได้พบกับแบรนด์ดังต่างๆ กว่า 450 แบรนด์จากกลุ่มธุรกิจกว่า 75 สาขา และพบกับผู้แสดงสินค้าต่างชาติมากกว่า 100 รายจาก 22 ประเทศ นอกจากนี้ ยังจัดให้มีการนัดพบ Master Franchise Datingsสำหรับนักลงทุนธุรกิจ

แฟรนไชส์ในอนาคต ที่ประสงค์จะนำเสนอโครงการและแลกเปลี่ยนกับทางแบรนด์  “แฟรนไชส์ เอ็กซ์โป ปารีส” ถือ เป็นเวทีทางการค้าที่สมบูรณ์แบบ เพื่อการค้นหาไอเดียใหม่ๆ อย่างฉับไว และเพื่อการค้นหาเทรนด์ซึ่งเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบันทั้งหมดในตลาดโลก

นับเป็นปีที่สองแล้วที่งานจัดเริ่มขึ้นในวันอาทิตย์ ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อพบปะกันระหว่างแบรนด์สินค้ากับผู้มาเยี่ยมชม โดยในปี 2553 มีผู้เยี่ยมชมงานถึง 30,981 คน รวมตลอด 4 วัน หรือเพิ่มขึ้น 15.14%เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว


โปรแกรมของงานปี 2554 นี้ จะเต็มไปด้วยกิจกรรมต่างๆ มากมาย พร้อมกับการจัดการประชุมตามกลุ่ม
ธีมของธุรกิจต่างๆ เพื่อสนับสนุนบรรดาผู้มุ่งหวังที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ในอนาคต
และ เพื่อตอบโจทย์แก่บรรดาผู้สร้างธุรกิจแฟรนไชส์ในอนาคต เหล่าผู้จัดงานจึงได้จัดตั้งโปรแกรมขึ้น ซึ่งประกอบด้วยการประชุมและการสัมมนาเชิงปฏิบัติการขั้นสูงที่เต็มไปด้วย ความคิดสร้างสรรค์ โดยการประชุมและการสัมมนาเชิงปฏิบัติการในครั้ง นี้ จะจัดยิ่งใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มผู้สนใจสร้างธุรกิจในอนาคตในระ หว่างงานแฟรนไชส์ เอ็กซ์โปครั้งที่ผ่านมา ซึ่งจุดประสงค์ในการจัดประชุมนี้คือ เพื่อช่วยให้บรรดาผู้เข้าเยี่ยมชมงานบรรลุเป้าหมายในโครงการที่วาดฝันไว้ นั่นก็คือ การสร้างธุรกิจให้กับตนเอง

และนอกจากนี้แล้ว บรรดาบุคคลสำคัญชั้นนำในธุรกิจแฟรนไชส์ต่างๆ ยังจะจัดการประชุมขึ้นในงานครั้งนี้ เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน อีกทั้งยังได้จัดให้มีการประชุมเพื่อการฝึกอบรมฟรีทุกวัน ซึ่งจัดโดยสถาบัน Ecole de la Franchise (การประชุมจัดขึ้นเป็นภาษาฝรั่งเศส) และโดย Master Franchise School (การประชุมจัดขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ)


ประเทศแคนาดา แขกรับเชิญพิเศษ

ประเทศที่ได้รับเกียรติเป็นแขกรับเชิญพิเศษประจำงานแฟรนไชส์ เอ็กซ์โป ปารีส 2554 ได้แก่ประเทศแคนาดา ซึ่งจะประจำการอยู่ที่พาวิลเลียนพิเศษตลอดงาน โดยแคนาดาเป็นประเทศที่มีธุรกิจแฟรนไชส์จากฝรั่งเศสจำนวนมาก อาทิ
แบรนด์ Yves Rocher, Maisons Mikit, La Boîte à Pizza ฯลฯ ที่ได้เข้าไปตั้งกิจการในแคนาดา ซึ่งทางผู้ประกอบการด้านแฟรนไชส์ของแคนาดาเองก็วางเป้าที่จะขยายธุรกิจทั่วฝรั่งเศสเช่นกัน

ข้อมูลเกี่ยวกับงานมหกรรมแฟรนไชส์ เอ็กซ์โป ปารีส

ตลอด สามทศวรรษที่ผ่านมา “งานแฟรนไชส์ เอ็กซ์โป ปารีส” เป็นงานที่ส่งเสริมการเติบโตของเครือข่ายต่างๆ ในฝรั่งเศสและของหลายประเทศทั่วโลก โดยได้ช่วยให้บรรดาผู้ประกอบการนับพันๆ ราย สามารถสานฝันในการสร้างธุรกิจให้กลายเป็นจริงขึ้นมาได้ โดยเป็นเวทีการประชุมที่มีอิทธิพลเป็นอย่างมากในการผลักดันให้เหล่าผู้สร้าง ธุรกิจและบรรดาผู้ค้าปลีกได้มีโอกาสในการพบปะกับแบรนด์ของฝรั่งเศสและจากทั่วโลกมากกว่า 400 แบรนด์

เพื่อช่วยให้บรรดาผู้ที่ต้องการทำธุรกิจแฟรนไชส์ในอนาคตทั้งหลายได้บรรลุผลสำเร็จในการปั้นโครงการของตน "แฟรนไชส์ เอ็กซ์โป ปารีส” จึงได้รวบรวมเอาบรรดาผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดมาไว้ในงาน เพื่อคอยช่วยเหลือกลุ่มผู้ต้องการทำธุรกิจเหล่านี้ ด้วยการให้การสนับสนุน คำแนะนำและข้อมูล ตลอดจนคอยให้ความช่วยเหลือในการค้นหาแหล่งเงินทุนที่จำเป็น

ด้วย การนำเสนอที่ไม่เหมือนใครจากแบรนด์ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกัน อย่างกว้างขวาง รวมทั้งแนวคิดในการลงทุนในตลาดใหม่ๆ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถทำการเปรียบเทียบได้ และวางแผนงานให้กับตนเองในการเสาะแสวงหาลู่ทางเพื่อลงทุนในแบรนด์ที่มีอยู่ หลากหลาย และการเข้าร่วมในเครือข่ายแฟรนไชส์ก็คือหนทางที่ดีที่สุดที่ตรงกับเจตนารมย์ ของผู้ประกอบการเหล่านี้

www.franchiseparis.com


สนใจข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ
Reed Expositions France
France Delaporte, International Communication and Exhibitor Relations Manager
โทรศัพท์: +33 (0)1 47 56 50 96
อีเมล: France.delaporte@reedexpo.fr


ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ :
ฝ่ายการพาณิชย์ - UBIFRANCE สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส
แผนกข่าวและการสื่อสาร
โทร 0 2352 4119, 089 780 0518
อีเมลratchaneekorn.mekchai@ubifrance.fr

541
สัมมนาฟรี! วิเคราะห์เศรษฐกิจปี 54...ทิศทาง SMEs ไทย




เนื่องด้วยทางศูนย์บริหารเครือข่าย SMEs สำนักบริหารเครือข่ายทางธุรกิจ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ร่วมกันจัดงานใหญ่ประจำปี "CP ALL SMEs Forum 2011" โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดงานก็เพื่อเป็นการให้ความรู้และความเข้าใจกับผู้ประกอบการ เกี่ยวกับทิศทาง SMEs ในปี 2554 อีกทั้งยังเป็นการแบ่งปันประสบการณ์จริงจากผู้ที่ยังทำธุรกิจกับร้าน7-Eleven และ 7-Catalog โดยภายในงานท่านจะได้ เข้าร่วมฟังการเสวนา 2 เรื่อง 2 รสจากผู้บริหารมืออาชีพที่มากด้วยความรู้และประสบการณ์มากมาย

ในหัวข้อ "วิเคราะห์เศรษฐกิจปี 54...ทิศทาง SMEs ไทย" และ "เส้นทางสู่เป้าหมาย เส้นชัย SMEs : (กรณีศึกษา 7-Eleven)"  พร้อมทั้งเลือกซื้อสินค้ามากมายจากผู้ประกอบการ





ดังนั้น ทางศูนย์ฯ จึงใคร่ขอเรียนเชิญท่านเข้าร่วมงานดังกล่าว ในวันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม 2554 เวลา 12.30 - 17.00 น. ณ ห้อง Convention Hall ชั้น 3 สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ โดยงานนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

หากท่านใดที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการเข้าร่วมงานดังกล่าว กรุณาแฟ็กซ์ใบตอบรับหรืออีเมลล์เพื่อสำรองที่นั่งตามไฟล์ ที่แนบมาหรือโทรติดต่อกลับมาที่ คุณพิมพ์ภัทรา จีระมนตรานนท์ โทร. 02-677-1023 หรือโทรสาร 02-677-9059 Email: pimpattrajee@cpall.co.th

ภายในวันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2554 นี้ ด่วน!!!ที่นั่งมีจำนวนจำกัด

Download ใบตอบรับงานสัมมนา ได้ที่นี่ค่ะ

542
สัปดาห์ให้คำปรึกษาธุรกิจ 2554


วันที่ 13, 19, 27 มกราคม 2554 ณ ศูนย์ปรึกษาธุรกิจ ชั้น 12 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
มีผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐ ภาคเอกชน แนะนำการทำธุรกิจแก่ท่าน
อาทิ ด้านการตลาด  การเงิน  การลงทุน  และการเริ่มต้นธุรกิจทุกรูปแบบ




แบบแจ้งความประสงค์ปรึกษาธุรกิจ

1.  ชื่อ – นามสกุล  ...
     ที่อยู่...
     ........................................................................................... โทรศัพท์......................................................................
2.  ห้างหุ้นส่วน/บริษัท...
     ประเภทธุรกิจ...
     E – mail..............................................................................  ส่งใบสมัคร  วันที่  ................./................./.................
      ประเด็นที่ต้องการปรึกษา...
  มีความประสงค์เข้าร่วมขอคำปรึกษาธุรกิจ  
 โปรดกรอกเครื่องหมาย   ในหัวข้อที่ท่านต้องการเข้าร่วมขอคำปรึกษาธุรกิจ




เริ่มเวลา  08.30 – 16.30 น.   
เดือนธันวาคม 2553  
วันที่ 21 ธันวาคม 2553   การเริ่มต้นธุรกิจ   อ.สนิท  จังมงคลกาล
วันที่ 22 ธันวาคม 2553   การตลาด   อ.สุรพงษ์  วงศ์พลับ
วันที่ 23 ธันวาคม 2553   การพัฒนาผลิตภัณฑ์   อ.ขวัญหทัย  ตัณฑ์เกยูร



เดือนมกราคม 2554
วันที่ 13 มกราคม 2554   การตลาด, การจัดทำแผนธุรกิจ   ดร.พัชราภรณ์  จีนะวิจารณะ
อ.วันทนา  ปทุมอนันต์
วันที่ 19 มกราคม 2554   การตลาด, การเริ่มต้นธุรกิจ   อ.สุรพงษ์  วงศ์พลับ
อ.เพิ่มพันธ์  เนียวกุล
วันที่ 27 มกราคม 2554   การพัฒนาผลิตภัณฑ์   อ.ขวัญหทัย  ตัณฑ์เกยูร

เดือนกุมภาพันธ์ 2554
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2554   การจัดทำแผนธุรกิจ   ดร.พัชราภรณ์  จีนะวิจารณะ
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554   การตลาด, การบริหารจัดการ   ดร.นิเวศน์  ธรรมะ
ดร.อาทิตา  ชูตระกูล
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554   E-Marketing   คุณภาวุธ  พงษ์วิทยภานุ

เดือนมีนาคม 2554
วันที่ 9 มีนาคม 2554   การจัดการ Logistics และพิธีการศุลกากร
วันที่ 16 มีนาคม 2554   การพัฒนาผลิตภัณฑ์
วันที่ 23 มีนาคม 2554   การตลาดและการส่งออก

เดือนเมษายน 2554
วันที่ 19 เมษายน 2554   การตลาดสร้างสรรค์
วันที่ 21 เมษายน 2554   การเงิน,การลงทุน
วันที่ 26 เมษายน 2554   E-Marketing

เดือนพฤษภาคม 2554
วันที่ 10 พฤษภาคม 2554   การเริ่มต้นธุรกิจ
วันที่ 19 พฤษภาคม 2554   การตลาด
วันที่ 25 พฤษภาคม 2554   การเงิน,การลงทุน

เดือนมิถุนายน 2554
วันที่ 8 มิถุนายน 2554   การสร้างตราสินค้า
วันที่ 15 มิถุนายน 2554   การพัฒนาบรรจุภัณฑ์
วันที่ 22 มิถุนายน 2554   การตลาดสร้างสรรค์

เดือนกรกฎาคม 2554
วันที่ 6 กรกฎาคม 2554   การตลาดและการส่งออก
วันที่ 13 กรกฎาคม 2554   E-Marketing
วันที่ 20 กรกฎาคม 2554   การเงิน,การลงทุน

เดือนสิงหาคม 2554
วันที่ 2 สิงหาคม 2554   การพัฒนาผลิตภัณฑ์
วันที่ 9 สิงหาคม 2554   E-Marketing
วันที่ 16 สิงหาคม 2554   การตลาด

เดือนกันยายน 2554
วันที่ 1 กันยายน 2554   การเริ่มต้นธุรกิจ
วันที่ 6 กันยายน 2554   การตลาด
วันที่ 13 กันยายน 2554   การเงิน,การลงทุน


จัดที่สำนักพัฒนาผู้ประกอบธุรกิจ ชั้น 12   กรมพัฒนาธุรกิจการค้า  กระทรวงพาณิชย์
สนใจติดต่อที่  สำนักพัฒนาผู้ประกอบธุรกิจ โทร. 02-5475964 , 02-5475158
โทรสาร. 02-5475963    และ Email:   businessclinic@dbd.go.th   (ไม่เสียค่าใช้จ่าย)


543
สวัสดีปีใหม่ 2554 จากใจ ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ นะจ๊ะ..





ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่นี้ ทาง ThaiFranchiseCenter.com ขออวยพรให้ท่านเจ้าของแฟรนไชส์, ผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs, เจ้าของธุรกิจ, ห้างร้าน และผู้สนใจแฟรนไชส์ทุกท่าน จงประสบแต่ความสุข ความเจริญ มุ่งหวังสิ่งใด ปรารถนาการงานอันใด สำเร็จลุล่วงโดยดี ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง นะครับ พร้อมกันนี้ ขอให้ปีกระต่ายปีนี้ 2554 เป็นปีกระต่ายทองของนักลงทุนทุกท่าน เลือกซื้อแฟรนไชส์ได้ตรงกับความต้องการของตัวเอง

ทาง ThaiFranchiseCenter.com มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเว็บไซต์ เพื่อรองรับความต้องการและเพิ่ม Feature ใหม่ๆ ให้ท่านค้นหาธุรกิจที่สนใจ และเตรียมที่จะเปิดตัวโครงการดีๆอีกมากมาย อาทิเช่น โครงการ Update แฟรนไชส์ 2011 ที่ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว (เป็นโครงการอัพเดทข้อมูลแฟรนไชส์ ให้ "สด-ใหม่-เสมอ" โดยลบข้อมูลแฟรนไชส์ที่เลิกกิจการ, ไม่ได้ขายแฟรนไชส์แล้ว หรือ เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ ออกจากเว็บไซต์) เป็นต้น

แทนคำขอบพระคุณ ทาง ThaiFranchiseCenter.com ยินดีมอบการ์ดอวยพรปีใหม่ 2554 แด่แฟนานุแฟน แฟรนไชส์ทุกท่านนะครับ และ ขอขอบพระคุณทุกท่าน ที่ได้ให้การสนับสนุน เยี่ยมชมเว็บไซต์ และเราหวังว่าจะได้ความกรุณาเข้าชมเว็บไซต์อย่างต่อเนื่องจากท่าน ตลอดไป

รับประกัน มีแฟรนไชส์ดีๆ น่าสนใจ และที่สำคัญมีคุณภาพ เชื่อถือได้ มาเสริฟ์ให้ท่านถึงหน้าจออย่างแน่นอน!

จากใจ.. ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์


544
งานสัมมนาฟรีๆ “ไขความลับ…จับอำนาจการซื้อสาวโสด”


ขอเชิญร่วมงานสัมมนา เรื่อง “ไขความลับ…จับอำนาจการซื้อสาวโสด” Her Purchasing Power Secret เมื่อ “เธอ” คืออำนาจใหม่แห่งการจับจ่าย มัดใจสาวโสดอย่างไรให้อยู่หมัด



นักศึกษาปริญญาโท สาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ขอเชิญผู้ประกอบการธุรกิจ นักการตลาด นักศึกษา สื่อมวลชนและผู้สนใจทั่วไป เข้าร่วมงานสัมมนาเรื่อง “ ไขความลับ…จับอำนาจการซื้อสาวโสด ” Her Purchasing Power Secret ในวันพุธที่ 12 มกราคม 2554 เวลา 13.00 น. – 16.30 น.   ณ ชั้น 6 ห้อง 605 วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ถนนวิภาวดีรังสิต

งานสัมมนาที่จะทำให้ท่านรู้ใจ เพื่อเอาใจ สาวโสดยุคใหม่ อีกหนึ่งเป้าหมายที่น่าลงทุน โดยภายในงานสัมมนาท่านจะได้พบกับผลการวิจัยอย่างเจาะลึกถึงมุมมองด้านพฤติกรรมการซื้อสินค้าและรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้หญิงโสดสมัยใหม่ ที่ทีมนักศึกษาได้เข้าไปศึกษาอย่างลึกซึ้งทั้งในเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ จากกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงโสดสมัยใหม่ อายุระหว่าง 22- 50 ปี



ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดดในประเทศไทยและด้วยความที่พวกเธอ เก่ง ฉลาด มีหน้าที่การงานดี มีรายได้เป็นของตนเอง ส่งผลให้เธอมีอิสระทางการเงิน จึงมีอำนาจการตัดสินใจและมีกำลังซื้อสูง ทำให้สาวโสดกลุ่มนี้กลายเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่เนื้อหอมและน่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจและนักการตลาดในยุคนี้



นอกจากจะไขความลับจากพวกเธอแล้ว ยังจะได้ร่วมเรียนรู้กลเม็ดเคล็ดลับแห่งความสำเร็จผ่านปากนักการตลาดที่เชี่ยวชาญเรื่องตลาดสาวโสดโดยเฉพาะ ที่จะมาร่วมเสวนาเพื่อชี้ช่องทาง โอกาสในการทำธุรกิจ รวมถึงการวางกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายสาวโสดสมัยใหม่ และพบกับกรณีศึกษาของธุรกิจที่ตอบโจทย์ลูกค้าชั้นดีอย่างพวกเธออีกมากมาย

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานสัมมนาและสำรองที่นั่งเพื่อเข้าร่วมงาน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตลอดงาน  
                                     

กรุณาติดต่อ คุณพิมพ์ โทร. 087-808-6000 และ http://www.facebook.com/HerPurchasingPower  
หรือลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่ http://goo.gl/FJ08e  

รับจำกัดเพียง 80 ที่นั่งเท่านั้น!
แผนที่การเดินทาง : วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ถ.วิภาวดีรังสิต




แขกรับเชิญร่วมเสวนาพิเศษ :

คุณพิมลพรรณ ติยะประเสริฐกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานธุรกิจ ธนาคาร UOB จำกัด มหาชน (บัตรเครดิต UOB Lady)
คุณ รชต ธรรมรัตน์ (Dr.Date) กรรมการผู้จัดการ
บริษัท โกลบอล อีคอมมูนิตี้ จำกัด (I like date)
ผู้ชนะในรายการ SME ตีแตก

545
“การตลาดปากดีออนไลน์” สัมมนาการตลาด ที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง!



กลุ่มนักศึกษาปริญญาโท (Part Time) สาขาการตลาด รุ่น 12A วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ขอเชิญผู้ประกอบการธุรกิจ นักการตลาด นักศึกษาและผู้สนใจทั่วไป เข้าร่วมงานสัมมนาในประเด็นสุดอินเทรนด์ เรื่อง “การตลาดปากดีออนไลน์” ใน วันพุธที่ 12 มกราคม 2554 เวลา 13.00 น. – 16.30 น. ณ ชั้น 2 วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ถนนวิภาวดีรังสิต

งานสัมมนาเกี่ยวกับ “การตลาดแบบปากต่อปาก” (Word of Mouth) กลยุทธ์การตลาดที่ทุกท่านรู้จักดี แม้จะมีมานานแต่ยังคงความเก๋าอยู่เสมอ และทรงพลังมากขึ้นด้วยการสร้างผ่านออนไลน์มีเดีย เพราะนอกจากปากแล้ว ปัจจุบันผู้คนเริ่มเม้าท์กระจายเพียงปลายนิ้ว นั่นยิ่งทำให้พลังของการบอกต่อผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กทั้งเร็ว แรง และกระจายได้ไวแบบไม่จำกัด ที่สำคัญต้นทุนต่ำ และเหมาะกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคที่ใครๆ ก็ใช้สมาร์ทโฟนอย่างที่สุด มาร่วมสังเกตการณ์ วิเคราะห์ ทำความเข้าใจ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ถึงการใช้กลยุทธ์ปากต่อปาก และทางลัดกระจายไวโดยการใช้สื่อออนไลน์ในการทำการตลาด


เนื้อหาของงานสัมมนาฯ แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ในช่วงแรกท่านจะได้เห็นถึงที่มาและความสำคัญ หัวใจและเคล็ดลับในการสร้างให้เกิดการบอกต่อ และพลังของ Social Media ในโลกออนไลน์ ที่สามารถนำมาใช้เพิ่มพลังให้กลยุทธ์การตลาดแบบปากต่อปาก รวมถึงข้อควรระวังที่ต้องรู้ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้ธุรกิจและองค์กรของท่านใช้กลยุทธ์นี้อย่างประสบความสำเร็จ ในช่วงที่สองของงานสัมมนาฯ

พบวิทยากรรับเชิญที่มีประสบการณ์จริงในการทำการตลาดโดยการสร้างกระแสปากต่อปากให้ประสบความสำเร็จมาแล้ว ร่วมเจาะลึกเกี่ยวกับ รูปแบบ วิธีการ และประสบการณ์พร้อมกัน อยากรู้ว่าธุรกิจ SME ของคุณหรือองค์กรของคุณจะประยุกต์ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบปากต่อปากบนสื่อออนไลน์ได้อย่างไร สัมมนานี้มีคำตอบให้คุณ



ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสัมมนาและสำรองที่นั่งเพื่อเข้าร่วมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
จำกัดเพียง 80 ที่นั่งเท่านั้น กรุณาติดต่อ คุณใหม่ โทร 088-872-5648
e.pakdee@gmail.com หรือ ลงทะเบียนแบบออนไลน์ที่ http://pakdee.cjb.net




กำหนดการสัมมนา
“การตลาดปากดีออนไลน์”

วันพุธที่ 12 มกราคม 2554 เวลา 13.00 น. – 16.30 น.
ณ ชั้น 2 วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ถนนวิภาวดีรังสิต

13.00 น. – 13.30 น. ลงทะเบียน
13.30 น. – 13.35 น. พิธีกรกล่าวต้อนรับ และเชิญวิทยากรช่วงที่ 1 บรรยาย
13.35 น. – 14.45 น. บรรยาย เจาะลึกหัวใจและเคล็ดลับในการทำการตลาดแบบปากต่อปาก และ เพิ่มติดเทอร์โบด้วยโซเชียลเน็ตเวิร์ก พร้อมกรณีศึกษา
14.45 น. – 14.50 น. พักเบรก – รับประทานอาหารว่าง
14.50 น. – 15.55 น. พิธีกรนำเข้าสู่งานสัมมนาช่วงที่ 2 และเชิญวิทยากรรับเชิญสู่เวทีการเสวนา
15.55 น. – 16.00 น. เสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์จริง เกี่ยวกับวิธีการทำการตลาด แบบปากต่อปากให้ประสบความสำเร็จจากวิทยากรรับเชิญ เผยเคล็ดลับ และ ข้อควร ระวังเพื่อการทำตลาดและสร้างโอกาสให้ธุรกิจสำหรับองค์กรและ SME
15.45 0 น. – 16.30 น. ถาม-ตอบ สรุปปิดงาน

ดำเนินการเสวนาโดย: นักศึกษาปริญญาโท (Part Time) สาขาการตลาด รุ่น 12A
วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU)



546
โครงการ “จับคู่ทางธุรกิจ จังหวัดเชียงใหม่”


TCDC ร่วมกับ ฝ้ายแกมไหม เปิดรับสมัครผู้ประกอบการในกลุ่มสิ่งทอ เข้าร่วมกิจกรรมในโครงการ “จับคู่ทางธุรกิจ จังหวัดเชียงใหม่”

     ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ร่วมกับ ศูนย์วิชาการและเทคโนโลยีสิ่งทอพื้นบ้าน (ฝ้ายแกมไหม) เปิดรับสมัครผู้ประกอบการใน กลุ่มสิ่งทอ เข้าร่วมกิจกรรมในโครงการ “จับคู่ทางธุรกิจ จังหวัดเชียงใหม่” โอกาส ในการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เพื่อเป็นสะพานเชื่อมเครือข่ายทางธุรกิจที่แข็งแกร่งให้กับบุคลากรในกลุ่ม อุตสาหกรรมสิ่งทอ ทั้งกลุ่มทอผ้าในท้องถิ่น ผู้ประกอบการ และเหล่านักออกแบบในเขตพื้นที่ภาคเหนือและจังหวัดใกล้เคียง กับครั้งแรกของการเปิดพื้นที่ในการเจรจาแลกเปลี่ยนมุมมองทางธุรกิจ

เพื่อร่วมกันแสวงหาแนวทางในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ความ ต้องการของตลาด ควบคู่กับการขยายเครือข่ายความร่วมมือด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถให้กับธุรกิจในกลุ่มสิ่งทอให้สามารถยืน หยัดได้อย่างยั่งยืน

     ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถดาวน์โหลดใบสมัครพร้อมดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tcdcconnect.com หรือขอรับใบสมัครได้ที่ศูนย์วิชาการและเทคโนโลยีสิ่งทอพื้นบ้าน (ฝ้ายแกมไหม)

และสามารถส่งใบสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านทางโทรสาร.02-664-7670 หรือส่งใบสมัครพร้อมแนบไฟล์เอกสารผ่านทางอีเมล tcdcconnect.matching@gmail.com (สำหรับนักออกแบบ ส่งเอกสารพร้อมแนบประวัติและภาพผลงานอย่างน้อย 3 ชิ้น) ภายในวันศุกร์ที่ 21 มกราคม 2554 สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-664-7667 ต่อ 118




TCDCCONNECT.COM โดย ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ร่วมกับศูนย์วิชาการและเทคโนโลยีพื้นบ้าน (ฝ้ายแกมไหม) จัดทำโครงการ จับคู่ทางธุรกิจ จังหวัดเชียงใหม่ ให้กับกลุ่มสิ่งทอ โดยมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรในกลุ่มดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มทอผ้า ผู้ประกอบการ หรือนักออกแบบ ได้มีโอกาสทำงานร่วมกัน ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า กิจกรรมนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย และจะนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจตลาด ตอบโจทย์การผลิต และเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า

“จับคู่ทางธุรกิจ” – เราสร้างสรรค์กันอย่างไร?
ในวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2554 ณ ห้องประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กลุ่มทอผ้า ผู้ประกอบการ และนักออกแบบจะได้มีโอกาสพบปะพูดคุย และแลกทัศนะคติ รวมถึงการตกลงร่วมงานกันในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์

กำหนดการ ของโครงการ
1 พฤศจิกายน 2553  – 21 มกราคม 2554 *ขยายเวลาเพิ่มเติม*
รับสมัครนักออกแบบที่มีประสบการณ์ตรงกับลักษณะผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการที่ได้รับคัดเลือก

30 มกราคม 2554 (งานสัมมนาและจับคู่ทางธุรกิจ)
- กลุ่มสิ่งทอและผู้ประกอบการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น นักออกแบบเสนอผลงานแก่ผู้ประกอบการคนละ 5 นาที
- 15.30-17.30 กลุ่มสิ่งทอ ผู้ประกอบการและนักออกแบบจับคู่ทางธุรกิจ

31 มกราคม – 18 กุมภาพันธ์ 2554
กลุ่มทอผ้า ผู้ประกอบการ และนักออกแบบทำงานร่วมกัน

19 กุมภาพันธ์ –  17 มีนาคม 2554
กลุ่มทอผ้า ผู้ประกอบการ และนักออกแบบจัดทำตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบใหม่

18 มีนาคม – 31 มีนาคม 2554
แสดงผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ที่จังหวัดเชียงใหม่

547
โครงการคลองถมบายพาส พื้นที่เช่าดีๆมานำเสนอจ้า..

พื้นที่เช่ากลางใจเมือง ศูนย์รวมค้าส่ง -  ปลีกในคลองถม ทำเลทอง
รีบจับจองด่วน มีจำนวนจำกัดนะคะ







โครงการคลองถมบายพาส เชื่อมต่อ คลองถมช็อปปิ้งมอลล์ อาคารชิบูญ่าทาวเวอร์
(หลังตึกคลองถมเซ็นเตอร์  ใกล้กับร้านชิบูญ่า และโรงพยาบาลกลาง แยกวรจักร )

สถานที่คลองถม เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย







โทร.02-2266606, 085-9026586 (รีบจับจองได้ทุกวัน)

รีบติดต่อเข้ามานะคะ เพราะทำเลย่านนั้นมีคนจีนอยู่เยอะ เลยขอลงเป็นภาษาจีน เผื่อพ่อค้าแม่ขาย ที่เป็นคนจีนด้วยนะคะ




สำหรับพ่อค้า แม่ขาย ที่เป็นคนจีน (กรุณาอ่านภาษาจีนด้านล่างได้เลยค่ะ..)

租用空间在城市的心脏。中央批发市场- 零售管充填迅速占领总理Express是有限的。

Khlong托姆充满绕道工程连接运河购物中心。涩谷塔楼大。 (至Klong托姆中心后,塔。涩谷店附近的普拉亚。而总医院分离Worachak)。

0.02至2266606电话085-9026586(很快占领的所有天)。

广场运河填补。 Pomprab。




548
ศูนย์อาหารสวนซุ้มสุวินทวงศ์ เปิดทำเลทองดีๆ ให้เช่าจ้า..




ทำเลทองดีๆ  ให้เช่า  มีผู้ถามหามานาน  เราเปิดให้แล้วตามคำเรียกร้อง  พร้อมเงื่อนไขเริ่มต้นดีๆให้ลอง  ค่าเช่าเริ่มต้นเพียง  350 บาท/สัปดาห์เท่านั้น  (พิเศษกว่านั้นมัดจำปั๊บ ขายฟรีกันถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2554 กันไปเลย  ชำระเฉพาะค่าน้ำ + ค่าไฟ + ส่วนกลางต่อเดือน)




ศูนย์อาหารสวนซุ้มสุวินทวงศ์
ทำเลยอดเยี่ยมในการทำธุรกิจจำหน่ายอาหาร, ขนม, เครื่องดื่ม, ผลไม้, ของฝาก, เสื้อผ้า, เครื่องประดับ, ของใช้, เครื่องเขียน, ของเล่น, ต้นไม้, และอื่นๆ อีกมากมาย

- พื้นที่กว้างขวาง ที่จอดรถครบครัน
- ห้องน้ำพอเพียงสะอาด
- ตกแต่งในบรรยากาศสวนต้นไม้ร่มรื่น เย็นสบาย
- โซนการพักผ่อนกับบุตรหลานด้วยสนามเด็กเล่น
- มีโต๊ะ - เก้าอี้จัดให้พร้อมสำหรับการนั่งเล่นเย็นๆใจ





ถ้าข้างบนนี้คือสิ่งที่ท่านต้องการ เรามีให้แล้วในศูนย์อาหารสวนซุ้มสุวินทวงศ์ โทร. 083-139-1383
มัดจำภายใน 31 ธ.ค.53  พื้นที่แบบซุ้ม รับฟรีผ้ากันเปื้อน 1 ผืน, แบบล็อครับฟรีร่มสนาม 1 คัน




สถานที่ ศูนย์อาหารสวนซุ้มสุวินทวงศ์ ตั้งอยู่บนถนนสุวินทวงศ์ กม. 61 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพติดกับตลาดสุวินทวงศ์พลาซ่า ตลาดฉิน ตลาดใหญ่ที่มีผู้คนมากมาย

ติดต่อจองด่วนวันนี้ จำกัดจำนวน เฟส 1 มีซุ้มเหลือเพียง 11 ที่ เฟส 2 แบบล็อคเปิดให้จองแล้ว

- บริเวณหน้าศูนย์อาหารสวนซุ้มสุวินทวงศ์ คุณเอ จันทร์ - เสาร์ 13.00 - 18.00 น.
- ติดต่อฝ่ายขาย โทร 083-139-1383  02-559-4004 ทุกวัน 7.00 -21.00 น.




สนใจจอดขายรายวัน 60 บาท/วัน ติดต่อด่วน หมดแล้วหมดเลยจ้า...
โทร. 083-139-1383


549
งานThailand ESCO Fair 2010

งาน Thailand Esco Fair 2010  เป็นงานนิทรรศการ การอนุรักษ์พลังงาน ที่จัดขึ้นโดย สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน โดยมีวัตถุประสงค์การจัดงานเพื่อส่งเสริมเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ธุรกิจบริษัทจัดการพลังงาน การอนุรักษ์พลังงาน

โดยมีกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าชมงาน ได้แก่ ผู้ประกอบการ วิศวกร นักลงทุน นิสิต นักศึกษา ในภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์ หรือคณะที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจและผู้สนใจเรื่องการอนุรักษ์พลังงานทดแทน รวมทั้งเทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงานใหม่ๆ  โดยใน บริเวณงานสามารถเยี่ยมชมนิทรรศการด้านพลังงาน “ESCO Fair” ได้ตลอดเวลา  


(ร่าง) กำหนดการ  Thailand ESCO Fair 2010
"Low Risk & Green Investment with ESCO"
โดย สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
     สนับสนุนโดย กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน
ในวันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม 2553  เวลา 08.30 น. – 16.30 น.        

ณ ห้องบอลรูม โซน A ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

       08.30 - 09.00 น.      ลงทะเบียน /รับเอกสารประกอบการสัมมนาและเยี่ยมชมบูธ
09.00 - 09.10 น.     กล่าวต้อนรับ
   โดย  คุณพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล  ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
09.10 - 09.20 น.     กล่าวสรุปที่มาและความสำคัญของงาน
   โดย  คุณไกรฤทธิ์ นิลคูหา  อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.)
09.20 - 09.40 น.     กล่าวเปิดโครงการ
                       โดย  นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
09.40 - 09.50 น.     พิธีเปิดโครงการ
09.50 - 10.10 น.     พิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ  โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
          * ESCO Project Award 2010 ให้กับ สถานประกอบการที่ประสบผลสำเร็จจากการใช้ระบบ ESCO
  และ  * Excellent ESCO Award 2010 ให้กับ บริษัทจัดการพลังงานดีเด่น  

10.10 - 10.25 น.      รับประทานอาหารว่าง

10.25 - 12.00 น.     เสวนา “Low Risk & Green Investment with ESCO”     โดย  
<พพ.>                 ผู้แทนจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
        คุณหิน นววงศ์  ประธานคณะทำงานโครงการส่งเสริมธุรกิจบริษัทจัดการพลังงาน
          ดร. วัชรี จรจำรัส  ที่ปรึกษาด้านเทคนิค กองทุน ESCO FUND มูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม
               คุณพ้อง เหลืองแสงทอง  กรรมการบริหาร บ. บี.ที.เอ็ม. เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
     <ศูนย์การค้า>      คุณพิทักษ์ สมนึก  กรรมการบริหาร บ. แกรนด์โอเชี่ยน จำกัด(ศูนย์การค้าเดอะฟอรั่ม พลาซ่า ชลบุรี)
     <โรงแรม>            คุณพีระ คำเอี่ยม  ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม รร.โซฟิเทล เซ็นทารา แกรนด์ กรุงเทพ

12.00 - 13.00 น.    พักรับประทานอาหารกลางวัน

** ช่วงบ่าย ห้องบรรยาย แบ่งเป็น 2 ห้อง ดังนี้ **


ห้องบรรยาย 1 : ห้องบอลรูม (ห้องเดิม)  

13.00 - 16.00 น.      “Success Cases of ESCO Project”  และ“การลงทุนเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน”
13.00 - 13.35 น.   :   Intelligent System Management Controller
     <โรงงาน>          โดย บ. คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค (ประเทศไทย) จำกัด (คุณอุดม ชะชัย Area Engineer)
               และ บ. จัดการอากาศอัด จำกัด (คุณกรัณย์ รักษ์เจริญ ผู้จัดการ)



13.35 - 14.10 น.   :  การใช้อุปกรณ์ควบคุมความเร็วรอบมอเตอร (VSD ) เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ในโรงงาน
     <โรงงาน>        โดย บ. ไทยโตชิบาอุตสาหกรรม จำกัด (คุณสมบุญ สังข์ธีรธิติ ผู้ช่วยผู้จัดการอาวุโส)
               และ บ. เอ็นเนอร์ยี ดีไซน์ คอนเซปท์ จำกัด (คุณอุทัย กองชนะ วิศวกรโครงการ)


14.10 - 14.45 น.   :  การใช้อุปกรณ์ควบคุมความเร็วรอบมอเตอร (VSD ) เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ในอาคาร
     <อาคาร>        โดย นิติบุคคลอาคารชุดทาวเวอร์ 1 ออฟฟิศ (คุณสมชาย วัฒนกิจ ผู้จัดการอาคาร)
              และ บ. เครสโก้ คอร์ปอเรชั่น (คุณรุจ บุญญฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายขายและวิศวกรรม )

**บทบาทของ ESCO Fund กับ การลงทุนเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน**

14.45 - 15.20 น.   :   Biomass
         โดย มูลนิธิอนุรักษ์พลังงานแห่งประเทศไทย (คุณอนันต์ ตปนียสร ผู้จัดการกองทุน ESCO FUND)
     <โรงงาน>         โดย บ. กุยบุรีผลไม้กระป๋อง จำกัด (คุณวินัย วารัญญานนท์ ที่ปรึกษาด้านพลังงานสะอาด บ. กุยบุรีฯ
                             และกลุ่มบ. ดัชมิลล์ฯ)
                   และ บ. เอ็นเนอร์ยี่ คอนเซอร์เวชั่น ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด (คุณชาญชัย กฤตพรตพิศุทธ์
                              Marketing Director)

15.20 - 16.00 น.   :   High Efficiency Motor
        โดย มูลนิธิอนุรักษ์พลังงานแห่งประเทศไทย (คุณอนันต์ ตปนียสร ผู้จัดการกองทุน ESCO FUND)
    <โรงงาน>          โดย บ. ยูเนี่ยนโฟรเซนโปรดักซ์ จำกัด (ดร. ธงชัย ธาวนพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร)
               และ บ. แอสเทน เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (คุณอรรถพร โรจนารักษ์ กรรมการผู้จัดการ)

ห้องบรรยาย 2 : ห้อง Meeting Room 2
13.00 - 16.00 น.      บรรยายพิเศษ “Role of Measurement & Verification (M&V) in Promoting ESCO
                                  Market and in Enhancing Property Values of  Industrial sector, Commercial and
                                  Public Buildings”
       โดย Dr. Satish Kumar ผู้แทนจาก EVO (Efficiency Valuation Organization)

16.00 - 16.30 น.        รับประทานอาหารว่าง และเดินเยี่ยมชมบูธ   



   หมายเหตุ :    -    ดำเนินการโดยพิธีกรมืออาชีพ คุณนรากร ติยายน
                        -   บริเวณงานสามารถเยี่ยมชมนิทรรศการด้านพลังงาน “ESCO Fair” ได้ตลอดเวลา  
                        -   กำหนดการอาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม

550
การสัมมนา“ทำธุรกิจให้รุ่ง...มุ่งนวัตกรรม”


วันพุธที่ 12 มกราคม 2554 เวลา 13.00 – 16.00 น ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 7  กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

**ไม่เสียค่าใช้จ่าย**

โดยในการสัมมนา ท่านจะได้รับฟังการบรรยาย ที่เป็นที่สุดของความรู้ด้านนวัตกรรมธุรกิจ จาก รศ. ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ อดีตคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่จะมาเปิดมุมมองและให้ความรู้เรื่องการสร้างนวัตกรรมธุรกิจสำหรับ SMEs ไทย การประเมินระดับนวัตกรรม SMEs ไทย และแนวทางการพัฒนานวัตกรรมธุรกิจ เพื่อหาคำตอบด้านนวัตกรรมสำหรับธุรกิจของท่าน  

รับจำนวนจำกัด เพียง 70 ท่าน  สนใจติดต่อสำรองที่นั่งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 547 5950  หรือทาง  e-mail: research@dbd.go.th    โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย  


หน้า: 1 ... 6 7 8 9 10 [11] 12 13 14 15 16 ... 25