ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ขับรถชนสัตว์เลี้ยง ใครผิด ใครจ่าย เคลมประกันภัยรถยนต์ได้ไหม

ชนบนถนน เจ้าของสัตว์เลี้ยงรับผิดไปเต็มๆ
ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 111 เส้นทางบนถนน ทุกเส้นทางไม่ว่าจะเป็นถนนของหมู่บ้าน หรือถนนหน้าบ้าน ที่อนุญาตให้ใช้เป็นทางเดินรถ ยกเว้นที่ส่วนบุคคล หากเกิดเหตุชน เจ้าของสุนัขหรือแมวเป็นผู้ผิด โดยระบุไว้ว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดขี่จูงไล่ตอนหรือปล่อยสัตว์ไปบนทาง ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจรและไม่มีผู้ควบคุมเพียงพอ”

และ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 433 “ถ้าความเสียหายเกิดขึ้นเพราะสัตว์ เจ้าของสัตว์หรือบุคคลผู้รับเลี้ยงรับรักษาไว้แทนเจ้าของจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ฝ่ายที่ต้องเสียหายเพื่อความเสียหายอย่างใดๆ อันเกิดแก่สัตว์นั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังอันสมควรแก่การเลี้ยงการรักษาตามชนิดและวิสัยของสัตว์ หรือตามพฤติการณ์อย่างอื่น หรือพิสูจน์ได้ว่าความเสียหายนั้นย่อมจะต้องเกิดมีขึ้นทั้งที่ได้ใช้ความระมัดระวังถึงเพียงนั้น”

จะเห็นได้ว่ากฎหมายทั้งสองมาตรานี้ ระบุไว้ค่อนข้างชัดเจนว่า หากเราปล่อยน้องหมา น้องแมว หรือสัตว์เลี้ยงของเราออกไปเดินเล่นบนถนนโดยไม่มีการดูแลให้ดี จนเกิดอุบัติเหตุรถชนสัตว์เลี้ยงของเราเกิดขึ้น แบบนี้ ผู้เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น โดยเจ้าของรถสามารถเรียกร้องค่าเสียหายกับเจ้าของสัตว์เลี้ยงได้ หรือ ถ้ารถทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ไว้ ก็สามารถเรียกประกันฯ มาดำเนินการแทนได้

ดังนั้น ถนนจึงไม่ใช่ที่ทางสำหรับสัตว์ เจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องรับผิดชอบ ป้องกันไม่ให้สุนัข แมว หรือสัตว์เลี้ยงใดๆ ของตนอยู่บนถนน ไม่ควรปล่อยให้ออกมาเพ่นพ่านตามที่สาธารณะโดยไม่ควบคุมหรือควบคุมไม่ได้

หากเกิดอุบัติเหตุ “เจ้าของสัตว์เลี้ยง” ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายของรถคู่กรณีทั้งหมดที่เกิดจากเหตุรถชนน้องหมาน้องแมวของคุณบนถนน

ชนบนฟุตบาท เขตส่วนบุคคล เจ้าของรถผิดเต็มๆ
กรณีที่เราขับรถเข้าไปในบ้านที่เลี้ยงหมาหรือแมว ซึ่งถือเป็นที่ส่วนบุคคลหรือทางเท้า รถยนต์เป็นฝ่ายผิด เช่น แอบลักไก่ถอยรถเพื่อจะกลับรถในเขตบ้านคนอื่น ขับบนฟุตบาท แล้วบังเอิญชนหมาแมวของเขาบาดเจ็บหรือตายและรถเราเสียหาย กรณีนี้ชี้ชัดได้ว่าเจ้าของรถเป็นฝ่ายผิด เนื่องจากสัตว์เลี้ยงถือเป็นทรัพย์สินของบุคคลภายนอก คุณต้องจ่ายค่ารักษา ค่าทำศพหรือค่าทำขวัญตามแต่จะตกลงกับเจ้าของสัตว์ ส่วนรถที่ทำ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 สามารถแจ้งเคลมความเสียหายของรถได้ ถือว่าอยู่ในเรื่องของการชนกับสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่รถยนต์ ประกันฯ จะดูแลการซ่อมรถให้เราทั้งหมด เมื่อเกิดเหตุแล้วให้โทรแจ้งกับบริษัทประกันทันที (เคลมสด) ไม่ต้องจ่ายค่า Excess เพิ่ม

สรุปสั้นๆ ได้ว่า

หากอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนถนน ฝ่ายผิดคือ สัตว์เลี้ยงและเจ้าของ
หากอุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นในที่ส่วนบุคคลหรือบนทางเท้า ฝ่ายผิดคือ รถยนต์ที่ชน
มีอีกหนึ่งคำถามยอดฮิตก็คือ ถ้าเราขับรถถอยชนสุนัขตนเองในบ้านจนรถเสียหาย เราสามารถเคลมประกันได้ไหม คำตอบคือไม่ได้ กรณีขับรถชนน้องหมาเราเองภายในบ้านจนรถเสียหาย ประกันฯ มีสิทธิ์ไม่จ่าย เนื่องจากสามารถพิจารณาได้ว่าเรา “จงใจทำให้รถตัวเองเสียหาย” นั่นเพราะน้องหมาถือเป็นทรัพย์สินของเรา แล้วเราไม่จัดการดูแลให้ดีพอ จึงเกิดเหตุนี้ขึ้น

จงใจขับรถชนสัตว์ มีความผิดตามกฎหมาย
เพื่อป้องกันไม่ให้คนทารุณสัตว์โดยไม่มีสาเหตุ หากเกิดอุบัติเหตุโดยมีหลักฐานยืนยันจากกล้องวงจรปิด หรือพยานบุคคล พิสูจน์ได้ว่าเจ้าของรถส่อ “เจตนา” จงใจที่จะขับรถชนหรือทับสัตว์เลี้ยงของผู้ใดเพื่อให้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เจ้าของรถมีความผิดตาม พ.ร.บ. ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ที่ระบุโทษจำคุกไว้ 2 ปี หรือปรับ 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีความผิดตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 เนื่องจากทำให้เจ้าของเสียทรัพย์เพิ่มด้วยมีค่าปรับ 1,000 บาท

ขับชนหมาแมวจรจัด เราเคลมประกันฯ ได้หรือไม่?
ในกรณีที่พิสูจน์ได้ว่าหมาหรือแมวที่ถูกชนเป็นสัตว์จรจัดหรือไม่สามารถตามหาเจ้าของได้ เจ้าของรถอาจกังวลว่าจะสามารถเคลมความเสียหายจากบริษัทประกันภัยได้หรือไม่

โดยทั่วไปเจ้าของรถยนต์ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายเอง เว้นแต่หากเจ้าของรถมีการทำ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ไว้ ก็จะได้รับความคุ้มครองและดูแลความเสียหายเกี่ยวกับรถยนต์และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมทั้งค่ารักษาพยาบาล ถือว่าเป็นการชนแบบไม่มีคู่กรณี ตามที่ระบุไว้ตามกรมธรรม์

ส่วนประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+, 3+ และ ชั้น 3 ไม่ให้ความคุ้มครอง ไม่ว่ารถยนต์ของคุณจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิดก็ตาม ในกรณีที่คุณขับชนสัตว์เลี้ยง สัตว์จรจัด หรือสัตว์มีเจ้าของแต่ไม่สามารถตามเจ้าของได้ คุณจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

ศึกษาและทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างประกันรถยนต์ชั้น 1, 2+, 3+ และ 3 ก่อนทำประกันทุกครั้งดีที่สุด

เจ้าของสัตว์เลี้ยงกับความรับผิดชอบต่อชีวิตและต่อสังคม
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 377 “ผู้ใดควบคุมสัตว์ดุหรือสัตว์ร้าย ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นเที่ยวไป “โดยลำพัง” ในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าได้ใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่แล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 433

ถ้าสมมติแมวของคุณไปวิ่งบนถนนตัดหน้ารถ จนรถต้องหักหลบตกข้างทาง เจ้าของรถสามารถฟ้องร้องเพื่อเอาค่าซ่อมรถ และค่ารักษาพยาบาลจากคุณได้

ทางที่ดีและถูกต้องเพื่อความสุขปลอดภัยของทุกฝ่าย คนที่เลี้ยงหมาแมว “ต้องรู้” ว่า ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงออกนอกบ้านไปเพ่นพ่านอยู่บนถนน หรือถ้าจะพาออกเดินควรมีสายจูงดูแลควบคุมตลอดเวลา มิฉะนั้น นอกจากคุณจะเสียสัตว์เลี้ยงแสนรักแล้ว ยังต้องชดเชยค่าเสียหายต่อคู่กรณีอีกด้วย

เช็คเบี้ยประกันได้วันนี้ ที่ https://www.easycompare.co.th/