“แฟรนไชส์ที่ดีไม่เน้นขาย...แต่มุ่งขยายธุรกิจ” ผู้ขายแฟรนไชส์ไม่ควรหลงไปกับการขาย ซึ่งเน้นไปที่ตัวเงิน หรือความสำเร็จระยะสั้น แทนที่จะให้ความสำคัญกับรายละเอียดธุรกิจเพื่อผลสำเร็จในระยะยาว ผู้ขายแฟรนไชส์ ที่ดีควรคิดว่า เราไม่ขายแฟรนไชส์ แต่เราต้องขยายแฟรนไชส์ต่างหาก
ด้วยเหตุที่แฟรนไชส์เองก็เป็นธุรกิจ และธุรกิจก็ล้วนต้องการการเติบโต ที่เรามักเรียกว่า “ขยายธุรกิจ” ดังนั้นการจะทำให้ธุรกิจเติบโตและประสบความสำเร็จได้นั้น ผู้ประกอบการจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมาย ทั้งด้านกำลังทรัพย์ และกำลังความสามารถ รวมถึงจังหวะ และ สถานการณ์ที่เหมาะสมในการขยายธุรกิจ ขณะที่การขาย ผู้ประกอบการจะ คิดแต่เพียงว่า ให้ขายได้ เท่านั้น
ลองคิดดู หากแฟรนไชส์ซอร์ต้องขยาย ธุรกิจด้วยเงินของตนเองแล้วล่ะก็ จะขยายมากกว่า 1 สาขา ในเวลาเดียวกันหรือไม่ แต่ถ้าเป็นการขายแฟรนไชส์ ที่ขายได้มากกว่า 1 สาขา ในเวลาเดียวกันล่ะ จะขายเพื่อให้เปิดพร้อมกันไหม เรื่องแบบนี้ผู้ที่มีประสบการณ์ หรือผู้ที่ประสบความสำเร็จ ล้วนแต่ทราบดีว่า ยิ่งเปิดมากก็ยิ่งเสี่ยง ฉะนั้น การจะทำให้ธุรกิจยั่งยืน ผู้ประกอบการต้องเน้นที่คุณภาพของงาน ไม่ใช่เน้นที่ปริมาณงาน ถ้าเน้นไปกับการขายแฟรนไชส์ มาก กว่าการพัฒนาธุรกิจให้มีคุณภาพ ทำให้รู้สึกเป็นห่วงว่า แฟรนไชส์
หากมุ่งเน้นเอาแต่ขาย ผลลัพธ์แม้อาจจะดูดีในตอนแรก แต่ท้ายที่สุดแล้วธุรกิจอาจขยายไปได้ไม่นาน หรือไม่ยั่งยืนนั่นเอง
แฟรนไชส์ต่างประเทศที่มีชื่อเสียงและเข้ามาเปิดสาขาในบ้านเรานั้น กลับไม่ขายแฟรนไชส์ ทั้ง ๆ ที่เขาก็ทำแฟรนไชส์ แสดงว่าการทำแฟรนไชส์นั้นควรต้องพิจารณาให้ดีก่อนว่า เหมาะกับธุรกิจและสภาพการณ์หรือไม่ ทั้งนี้ก็เพราะแฟรนไชส์มีข้อเสียค่อนข้างมากเมื่อต้องประสบกับทัศนคติที่ผิด ๆ ของผู้ประกอบการ ทั้งฝ่ายผู้ซื้อและผู้ขาย ด้านผู้ซื้อซึ่งเป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ ส่วนใหญ่จะหวังรวยเร็ว ไม่อดทน ทำงานฉาบฉวย ต่างกับเถ้าแก่ในอดีตที่ต้องบากบั่น ต่อสู้ เอาการเอางาน กว่าจะประสบความสำเร็จ ส่วนด้านผู้ขายเองก็มักหลงติดกับการขายแฟรนไชส์ เพราะหวังรวยเร็ว จนขยายเกินกำลัง เมื่อทั้งสองฝ่ายมาพบกัน ปัญหาที่ตามมาจึงมากมาย