คุณแม่สายสตรอง รับมืออย่างไร เมื่อ ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ

[อัญณา]

คุณแม่สายสตรอง รับมืออย่างไร เมื่อ ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ

   คุณแม่มือใหม่ที่เจอปัญหา ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ หรือเจอสถานการณ์ ลูกร้องไม่หยุด ชนิดปลอบอย่างไร กล่อมอย่างไร ก็ยังร้องลั่นบ้านอยู่อย่างนั้น หากคุณไม่ “สตรอง” พอ ก็พาลจะ “สติ” แตก เอาได้ง่าย ๆ หากคุณต้องอยู่กับ ทารกร้องไห้ แบบ non-stop คุณจำเป็นต้องดูแลตัวเองให้เข้มแข็งทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตด้วย

   อาการ เด็กร้องไห้ แบบไม่หยุดและไม่มีสาเหตุนั้น หากลองสังเกตลูกคุณให้ดี ๆ ลูกของคุณก็อาจเป็นอาการแบบหนึ่งที่เรียกว่า อาการโคลิค ก็เป็นได้ โดยการสังเกตนั้น ในทางการแพทย์แนะนำให้ทำดังนี้ คือ หาก ทารกร้องไห้ ต่อเนื่องกันมากกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน มากกว่า 3 วันต่อสัปดาห์ และติดต่อกันนานเกิน 1 สัปดาห์แล้ว แสดงว่าลูกน้อยของคุณน่าจะเป็น อาการโคลิค

   จากการศึกษาในต่างประเทศ โดยปกติ เวลาที่ เด็กร้องไห้ ต่อเนื่องแบบนี้ มักอยู่ในช่วง 6 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน ซึ่งอาการเหล่านี้มันจะค่อย ๆ ดีขึ้นในระยะเวลาไม่นาน เพราะโดยทั่วไป อาการ ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ ต่อเนื่องกัน 3 ชั่วโมง จะมีอาการมากที่สุดในช่วง 6 สัปดาห์แรก แล้วค่อย ๆ ลดลงเหลือ 1-2 ชั่วโมง ต่อวัน หรือหายไปได้ เมื่อลูกมีอายุ 3-4 เดือน

   อาการ Colic หรือ ลูกร้องไห้แบบไร้สาเหตุ เกิดจากอะไร ในทางการแพทย์ ก็ยังไม่พบสาเหตุที่แท้จริงเหมือนกัน อาจเป็นไปได้ว่า ลูกของคุณมีสัมผัสไวต่อการถูกกระตุ้นต่าง ๆ หรือเจ้าอารมณ์ หรือระบบประสาทยังไม่พัฒนาพอก็เป็นได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาการที่ว่าก็จะดีขึ้นได้เอง แต่กระนั้น ก็อย่าเพิ่งวางใจ เพราะหลายครั้ง ที่ลูกร้องไห้หนักมาก อาจเป็นอาการเจ็บป่วยบางอย่าง ถ้าไม่มั่นใจแล้ว คุณควรไปพบแพทย์ เพราะการที่เด็กร้องไห้นาน ๆ มีผลเสียต่อสุขภาพตัวเด็กเอง และยังทำให้คุณพ่อคุณแม่เครียดตามไปด้วย

         ถ้าคุณเป็นคุณแม่สายสตรอง ไม่หยุดยั้งหาวิธีดูแลลูกน้อยให้สบายตัวและหยุดร้อง เรามีหลายวิธีมาฝากคุณ

1.ปรึกษาแพทย์ เพื่อทราบว่า ที่ลูกร้องไห้ไม่หยุดนั้น แท้จริงเกิดจากโรคภัยบางอย่างหรือเปล่า หรือเป็นเพียงอาการ Colic
2.ถ้าคุณให้ลูกกินนมมารดา ควรงดเว้นอาหารบางอย่างที่คุณรับประทาน เช่น ผลิตภัณฑ์จากนม, เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน, หัวหอม, กะหล่ำปลี หรืออาหารอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ในเด็ก
3.ถ้าคุณให้ลูกดื่มนมขวด ลองปรึกษาแพทย์ดู อาการ ลูกร้องไม่หยุด อาจดีขึ้นได้เมื่อเปลี่ยนนม แต่ในเด็กหลายคน อาจจะไม่ง่ายนัก เพราะไม่คุ้นเคยในรสชาติหรือหรือสูตรนมใหม่ที่เปลี่ยน
4.อย่าให้นมลูกจนอิ่มและบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ลูกน้อยไม่สบายตัว ทางที่ดีควรเว้นช่วงสักประมาณ 2 ถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง
5.หมั่นอุ้มลูกเคลื่อนไหวบ่อย ๆ เช่น เขย่าเบา ๆ หรือเดินไปมา เพราะการเคลื่อนไหวและสัมผัสทางกาย จะทำให้ลูกสบายตัวขึ้นได้
6.อาศัยเสียงเป็นตัวช่วย ไม่ว่าจะเป็นเสียงกล่อม หรือเสียงธรรมชาติเบาสบาย เช่น เสียงคลื่น เสียงน้ำตก เพราะเสียงเหล่านี้สามารถช่วยให้ลูกน้อยง่วงและหลับได้
7.นวดให้ลูกน้อย เช่น จับลูกน้อยคว่ำลงบนเข่า แล้วนวดถูหลังเบา ๆ จะช่วยให้เจ้าตัวน้อยผ่อนคลายสบายตัว
8.ห่อตัวลูกด้วยผ้าผืนใหญ่ เพื่อให้ความอบอุ่น สบาย เหมือนตอนยังอยู่ในท้อง

          เมื่อดูแลลูกน้อยแล้ว อีกสิ่งที่ต้องไม่ลืมคือ ดูแลตัวคุณเองด้วยทั้งกายและใจ คุณจึงจะเป็นคุณแม่สายสตรอง รับมือกับปัญหาได้อย่างมีสติครบถ้วน ขอให้ระลึกไว้ว่า ที่ลูกร้องไห้ไม่หยุด หรือ มีอาการ Colic นั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นคุณแม่ที่ไม่เอาไหน และมิใช่คุณคนเดียวที่พบปัญหานี้ แต่เป็นคุณเป็นคุณแม่ทั่วโลก ซึ่งท้ายที่สุด ปัญหานี้จะผ่านไปได้เองเมื่อลูกมีอายุ 3-4 เดือนที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่ต้องพักผ่อนให้พอ ดังนั้นจึงควรมีพี่เลี้ยงหรือคนอื่นในครอบครัวมาช่วยเลี้ยงดูเจ้าตัวน้อยด้วยจะดีมาก และหากคุณโกรธหรือหงุดหงิด นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดา อย่าลงโทษตัวเอง เพียงแต่อย่านำความโกรธไปลงกับลูกน้อย ด้วยการจับตัวเขย่าแรง ๆ หรือกระทำผิดวิธีเพื่อให้เด็กหยุดร้องไห้ เพราะนั่นจะเกิดอันตรายกับเจ้าตัวน้อยได้