ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


อาการโคลิค จากการกินนม สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงและวิธีแก้ปัญหา

สำหรับพ่อแม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ ระยะ 3 เดือนเป็นช่วงเวลาที่น่ากังวลใจที่สุด แม้แต่การเรอนมด้วยตัวเองลูกน้อยก็ยังทำไม่ได้ พ่อแม่ต้องยื่นมือเข้าช่วยทุกอย่าง หากทำดีที่สุดแล้ว เจ้าตัวเล็กยังคงร้องไห้เสียงดังไม่หยุดหย่อน สันนิษฐานว่าอาจมีสาเหตุจากอาการ โคลิค ซึ่งยังไม่รู้สาเหตุแน่ชัด แต่อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย แม้แต่การกินนมก็ยังเป็นปัญหาได้ พ่อแม่ควรเริ่มต้นเรียนรู้ตั้งแต่วันที่ลูกเกิดเพื่อดูแลปกป้องและมอบสิ่งดีที่สุดให้กับเจ้าตัวน้อย




แม่ทุกคนเข้าใจว่านมแม่ดีที่สุด แต่หลายคนไม่ทราบว่าอาการโคลิคเกิดจากการกินนมแม่ได้เหมือนกัน ลูกดูดนมจากเต้าแม่แล้วมีอาการท้องอืด แน่นท้อง ทารกร้องไห้ คุณแม่ลองตรวจเช็คว่าสาเหตุเกิดจากอาหารที่แม่รับประทานหรือเปล่า

สิ่งที่คุณแม่มือใหม่ควรหลีกเลี่ยงมีดังนี้
-ควรงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมคาเฟอีน ชา ช็อกโกแลต น้ำอัดลม
-ลดอาหารบางชนิดทั้งอาหารจำพวกแป้ง ไข่ ถั่ว กระเทียม หัวหอม อาหารรสเผ็ดร้อน
-หลีกเลี่ยงผลไม้บางชนิด เช่น กล้วยหอม ส้ม องุ่น สตรอเบอร์รี่

ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ ทุกครั้งหลังกินนม อาจมีสาเหตุจากนมผงโดยตรง ลูกน้อยอาจไม่ถูกกับนมวัวบางยี่ห้อ ท้องอืดบ่อย เนื่องจากนมผงมีส่วนผสมของโปรตีน เมื่อเด็กกินนมมากและระบบย่อยอาหารยังเติบโตไม่สมบูรณ์ แนะนำว่าควรพยายามให้กินนมแม่เป็นหลักแล้วเสริมด้วยนมผง

หากลูกมีอาการแพ้นมอาจเกิดปัญหาท้องผูกหรือท้องเสีย เนื่องจากเด็กวัยที่มีภาวะอาการโคลิคยังอายุน้อยมากระหว่าง 2 สัปดาห์ ถึง 4 เดือน ระบบย่อยอาหารไม่สมบูรณ์จึงเกิดอาการปวดท้อง ทำให้ ทารกร้องไห้ ได้ง่าย ถ้าไม่ระวังอาจทำให้อาการโคลิคเป็นหนักขึ้นอีกด้วย วิธีแก้ปัญหาคือคุณแม่ควรเลือกนมสูตรย่อยง่ายปราศจากแลคโตสหรือแลคโตสต่ำ เนื่องจากระบบทางเดินอาหารของทารกบางคนย่อยแลคโตสไม่ได้ หรือเลือกนมสูตรแบคทีเรียพรีไบโอติกเพื่อกระตุ้นระบบลำไส้ให้ทำงานเต็มประสิทธิภาพ

   เมื่อรู้วิธีหลีกเลี่ยงและการแก้ปัญหาแล้วพ่อแม่คงรับมือกับอาการ ลูกร้องไม่หยุด ได้ดีขึ้น หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่สร้างภาวะให้เกิดลมแล้วและทำตามข้อแนะนำข้างต้น แต่อาการโคลิคของลูกยังไม่บรรเทาลง ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติของร่างกาย อย่าปล่อยให้การร้องไห้นานเป็นเรื่องธรรมดาเพราะส่งผลกระทบในระยะยาวหลายด้าน เด็กอาจมีพัฒนาด้านต่าง ๆ ช้าลง อารมณ์ร้าย หงุดหงิดง่าย มีด้านปัญหาพฤติกรรมการเข้าสังคม รวมไปถึงส่งผลต่อสุขภาพ

แม้ว่าจะไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของ อาการโคลิค แต่ก็มีหลายปัจจัยที่มีผลต่อการเลี้ยงลูก ยิ่งเรียนรู้และระมัดระวังมากเท่าไรก็จะปลอดภัยต่อลูกน้อยมากเท่านั้น หลายปัจจัยเป็นเรื่องที่พ่อแม่ดูแลเองไม่ได้ ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาอาการบางอย่าง เช่น ภาวะความไม่สมดุลของแบคทีเรียดีในทางเดินอาหาร จะช่วยแก้ปัญหาได้ดีขึ้น ไม่ต้องกังวลถึงผลกระทบระยะยาวอีกต่อไป