ที่พยายามกระหายให้ลูกเป็น “ซุปเปอร์คิด” (Super Kid) หรือไม่พ่อแม่ซึ่งฮิตให้คนกู่เรียกลูกให้หมายความว่าอัจฉริยะก็จะมีเป็นผลเสียมากกว่าผลดี มันไปในกฎบ้องที่ว่า ไม่มีใครอยากแตกต่างออกจากคนอื่น ที่ใดทํามอบเด็กแหลมคมลํ้ามักแปรไปหมายความว่าคนไร้ค่า เด็กฉลาดกว่าวัยค่อนข้างมีลักษณะเชิงจิตวิทยาที่ทำลายต่างจากลูกทั่วไปอย่างน่าสนใจ ข้อมูลต่อไปจะเป็น ข้อมูลที่ได้รับมาจากทั้งงานการศึกษาค้นคว้า เอกช้าง ตําราทั่วปฐพี และลูกจากภูมิภาคปฏิบัติที่พบเด็กพันธมิตรนี้จากหายพัฒนา อัจฉริยภาพ สถาบันวิจัยและพัฒนาการศึกษาเยี่ยม มหาวิทยาลัยศรีนคหลั่งทรวิโรฒ ฉันจึ่งตระหนักได้ว่า ความคิดและจิตใจของพวกภูเขาเป็นอย่างไร ความได้คิดพร้อมทั้งจิตใจของเด็กฉลาด เด็กภาคีนี้มีลักษณะทางความคิดและจิตใจที่อาจเรียกได้ว่าเป็น “เอกลักษณ์ทางมโนวิทยา” ซึ่งคือเป็น กลไกลู่จิตความรู้สามารถบังเกิดได้ตลอดเวลา ในแวดวงเด็กที่มีสติภูริสูงไม่เบาคนทั่วไปคิดว่าแนวร่วมตรงนี้เป็นกลุ่ม อภิสิทธิ์ชน ถิ่นได้เปรียบผู้อื่น เล่าเรียนรู้ได้ง่ายดาย คิดได้มาก รู้มากกว่าคนอื่น เปล่าจําเป็นต้องดูแลอะไรหมายถึงพิเศษ ความได้คิด ใจใจภายในถิ่นคือผลพวงจากสมรรถนะแหล่งเถินความสามารถแหล่งรัดกุมอ่อนลึกซึ้งกว่าคนอื่น เป็น กลไกภายในแห่งมนัสไป “กำ” สิ่งต่างๆ เปล่าเฉพาะลู่ความได้คิด แต่ “จับ” ด้วยความรู้ผุพังภายในที่แตกต่างออกจาก เด็กตลอดไป jeunsse น้อยคนที่เข้ามาใจว่าเด็กกลุ่มนี้ไม่ได้มามีเค้าโครงประดิษฐ์ลู่ความสำนึกพร้อมกับความสามารถถิ่นพิสดารลึกซึ้งจาก เยาวชนทั่วไปเพียงนั้น แต่พวกภูยังมีเค้าโครงสร้างทางอารมณ์ที่ลึกประทับใจพิลึกพิลั่นไม่แตกแตกต่างออกจากความได้คิดของพวกเขาเลย ดังนั้นความรู้สึกที่ไวเกินกว่าเด็กปกติธรรมดา ป่วยไข้ปวดรุนแรง มีปฏิกิริยาขานรับสนองที่ละเอียดละออ กระแสความอ่อนสะเทือน ข้อคดีทราบสึกกร่อนแด่ต้านทานนั้นรุนแรงกว่าลูกธรรมดา และเป็นที่น่าเสียดายว่าความสุทธิเช่นนี้เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ทั้งมวล มองข้าม แต่กลุ่มพากันคิดว่าเด็กพวกนี้สิ่งไรๆ ก็จำต้องสามารถทนได้ แก้ไขได้รับด้วยตนเอง Ann Marie ได้ให้กระแสความประมาณเชิงจิตวิทยา “คนแห่งมีความรอบรู้พิเศษหมายความว่าคนแห่งมีข้อคดีไวในการรองรับเข้าใจ อย่างมหาศาลพร้อมทั้งมีความอ่อนไหวมากกว่าเด็กอื่น มีศักยภาพเถินมากในการถิ่นจะโยงหรือปรับเปลี่ยนสิ่งแหล่งหาได้รู้ ไปสู่กระแสความสามารถทางเชาวน์หรือไปสู่สภาวะลู่จิตใจได้รับง่ายกว่าคนปกติ ในขณะที่ Columbus กล่าวว่าร้าย “คนแหล่งมีความสามารถพิเศษนั้นคือความไม่ยำกลมกลืนขัดขวางข้าวของ พัฒนาการที่พัฒนาการทางปัญญาและความสามารถต่างๆ ที่มีอยู่แบบเข้มข้นไปมีผลกระทบก่อให้บังเกิดการเล่าเรียนรู้ ที่เป็นประสบสภาพการณ์ หรืองานตระหนักรู้ที่แตกต่างออกจากคนทั้งไป jeunesse
ความเปล่าปนกลมกลืนนี้เพิ่มมากมายขึ้นในกลุ่มที่มี ศักยภาพอุจขึ้นมีเอกลักษณ์ของเด็กแวดวงนี้โปร่งบางทีแทนที่จะเป็นผลดี กลับเปลี่ยนไปส่งผลให้พวกภูเขาเรื่อแอ และ ต้องการคุมจากผู้ปกครอง ครู การให้คําแนะนํา พร้อมกับช่วยเหลือปรับปรุง เพื่อให้พวกเขาเก่งพัฒนาได้เต็มตาม ประสิทธิภาพได้ ซึ่งความไม่ผสมกลมกลืนคือขาดการผสมกลมกลืนหรือการเป็นอันหนึ่ง อันเดียว ของอัตรางาน พัฒนาการข้าวของปัญญาจิตใจ และร่ายกาย” ความมิผสมกลมกลมกลืนกันนี่เองที่ส่งผลให้เกิดความเครียดภายในได้ เช่น ลูกอายุ 3-4 ขวบ เชี่ยวชาญ อ่านออกและมีความเข้าไปใจพอๆ กับเด็ก 7-8 ขวบ แต่ไม่เก่งเกณฑ์กำหนดขีดเขียนได้ตามจินตนาการหรือไม่ความจำต้องการ สิ่งของตนเองได้ ทําให้เครียด ประสาทเสีย คับข้องใจ ที่เชี่ยวชาญพบหาได้เรียบๆ ในแวดวงเด็กที่มีกระแสความสามารถในระดับสูง มากมาย (Highly Gifted) ความไม่ผสมกลมกลืนภายในก็ประดิษฐ์แจกบังเกิดเรื่องยากลําบากในการปรับอวัยวะไปด้วย jeunesse
ที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายสละกลุ่มร้องเรียกนินทาเด็กอัจฉริยะ พันธมิตรภูเขาก็มักถูกคาดวาดหวังลูกจากสังคมจะ มีใครรู้ค่อยตัวไหมว่าผู้เยาว์ตัวเล็กอย่างเดียวต้องแบกหามความคาดหวังเท่าภูเขา อย่างไรก็ดีเด็กก็คือเด็ก จิตใจเครื่องใช้เด็กอ่อนไหว และ อารมณ์ของเขาจะขึ้นอยู่กับความรู้สึกมากกระทั่งความผิดถูก ที่ใดที่ไปกระทบความรู้สึกของเขาไม่เบาๆ เขาจำต้องหา ลู่ออกและวิธีหาทางออกนี้ก็สุดจะเก็งเดาได้เหมาจะชั่วช้าไม่ใช่หรือดี คุณพ่อคุณแม่ที่ jeunesse
พร้อมทั้งเด็กก็ มักจะมีความเข้าใจสึกหรอว่าตนเอง “แตกต่าง” ไม่มีแหล่งเหมาะกับเขา เพราะทุกคนมีความควรการหรือมีความรู้สึกอยาก เป็นส่วนหนึ่งข้าวของกลุ่ม เป็นที่ยอมรับกระแสความรู้สึกว่าเครื่องเคราต่างๆ มิสมควรกับตัว
jeunesse jeunesse

เรื่องคิด-จิตใจ ของลูกฉลาด โดย ผศ.ดร.อุษณีย์ อนุรุทธ์วงศ์ เด็กแยะๆ คนถิ่น jeunesse