กรดไหลย้อนโรคยอดเป็นที่นิยมของคนสมัยใหม่ที่มีความตึงเครียดสูงและไม่ในสุขภาพในตัวเองเท่ากับการโห

[สุทัตตาแสงวัน]

 ได้มาก พร้อมทั้งในมื้อเย็นเพราะว่าปกติคนไทในสมัยก่อนจะนิยมรับประทานแห่งไม่มันและลงคะแนนทาผักมากขึ้น เนื่องจากจะไปโปรดมอบกระเพาะทำงานได้ดีขึ้นในขณะหลับใหล ยังทานเร็วกว่าคนในนี้อีกด้วย เพราะคนในยุคนั้นทานอาหารหนาวตอนประมาณหกโมงค่ำและจะทานเสร็จตอนประมาณหนึ่งทุ่มตรง ไม่ใช่ว่าเพราะไม่มีไฟฟ้าพร้อมทั้งกลัวจะดูกับข้าวไม่เห็นเค้ามีความเชื่อว่าการทานข้าวรวดเร็วทันใจจะทำให้ ดีต่อกระเพาะมากกว่าทั้งยังฉลุยพุงมากกระทั่งยุคสมัยนอนด้วย เพราะกว่าจะนอนก็ประมาณซึ่งจากสุดๆท้ายประมาณสี่เดนนรกโมง ซึ่งคือช่วงที่โครงตัวได้แยกย่อยอาหารการกินส่วนบนไปบางส่วนทำให้อาหารนอนท้องพร้อมด้วยมิโรค กรดไหลย้อน
 ตามสมัยอีกตัวอย่างเช่นกัน แม้เทียบกับคนในยุคก่อนแล้ว ถึงแม้ว่าเค้าจะอยู่ในกาลสมัยข้าวยากหมากมีราคามีสงครามกับเมืองต่างๆมากมาย คนยุคนั้นก็ไม่เคยได้ยินว่ามีใครที่จะเป็นโรค กรดไหลย้อน
 ของคนในเข้ากับคนในยุคนี้จึงมีจำนวนต่างกันมากเพราะว่าคนในก่อนทานอาหารที่ถูกต้องตามหลัก และสมสมในแต่ละมื้ออาหาร เช่นในช่วงเช้าจะทานอาหารอ่อนเน้นพืชผักผลไม้ เพราะกระเพาะยังคงว่างไม่เบาอยู่อีกต่างหากเปล่าเสร็จย่อยของหนักอึ้งๆ ข้อความย่อยมัธยมวัน ก็จะกินหนักขึ้นเน้นเนื้อไม่มันและ คืออาหารเกือบเต็มอยู่พุงอาจจะคือกะทิก็ได้เพราะแยะคนอาจจะเข้ามาใจผิดว่าแกงกะทิไม่ดีเพราะสนุกทำให้อ้วนและอาจจะทำสละโรค กรดไหลย้อน
  ซึ่งวัตถุปัจจัยงานใช้ชีวิตอย่างถูกต้องตรงนี้ทำให้คนในสมัยมีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขที่ดีกว่าคนในสมัยตรงนี้อื้อซ่า แต่ก็เป็นเรื่องน่าแปลกที่คนในสมัยก่อนนั้นไม่ได้มีความรู้และได้มาเรียนทราบมาตงค์สาระได้รับอย่างง่ายดายเหมือนกับคนในปัจจุบัน ทั้งๆที่ในยุคนี้เสพพาหะหรือไม่หาข้อมูลนั้นง่ายแสนง่ายๆที่ทำนองอยู่แค่บนฝ่ามือ อย่างไรก็ตามกลับมีการใช้ชีวิตที่ไม่ดีคนในยุคก่อนที่ไม่มีการสื่อสารดี และเปล่ามีเทคโนโลยีด้วยมากรุณาให้ความรู้เลย บางคนจะอ่านตำราไม่ออกด้วยอย่างไรก็ดีเค้าก็สามารถใช้ชีวิตได้ดีพร้อมทั้งมีคุณภาพมากกว่าคนในยุคมากจริงๆ นี้จึงเป็นเรื่องน่าคิดว่าแห่งคนในกาลสมัยเป็นกรดไหลย้อน กรดไหลย้อน
 กันค่อนด้านไม่เบาเพราะโรคเป็นโรคของคนรีบไม่ใส่ใจตัวเองให้ดี เนื่องจาก ในยุคนี้คนไม่นิยมทานข้าวเช้า ทั้งๆที่เป็นมื้อหลักทิวาแต่จะจับเอามื้อเพรางายมื้อกลางวันเอาไว้ด้วยซ้ำกันแต่จะทานกาแฟสนองอาหารการกินเช้า ซึ่งกาแฟตรงนั้นหมายถึงของที่ส่งผลร้ายแด่กระเพาะที่ว้างเวิ้งอาหารเป็นอย่างไม่เบา แล้วข้างหลังตื่นร่างกายเรานั้นท้องจะว่างมากสามารถหรือสูบคาเฟอีนจำนวนมากเอาไว้ได้อย่างแน่ อย่างไรก็ดีสมัยนิยมทำให้เราถองกาแฟเป็นหลักกับขนมปังที่มีน้ำดื่มอุจทำให้กายไม่ได้รับสสารที่เพียงพอเพื่อมื้อเช้าที่จำเป็น แต่กลับไปทำร้ายด้วยกาแฟและแม่น้ำลำคลองตาลแทนอาหารการกินดี จึงทำให้กลายเป็น กรดไหลย้อน

 มากแค่คนในยุคนี้เลย เพราะคนในสมัยนั้นใส่ใจกับของกินในทั่วๆมีและเลือกทานแต่ขอสดสะอาดและมีคุณค่า เช่น ในตอนเช้าก็จะหาอะไรรับประทานง่ายๆ และมักจะเป็นอาหารอ่อนๆอาทิเช่น โจ้ก เกาเหลา ต้มและพืชผักผลไม้ต่างๆ โดยหลีดเลี่ยงอาหารแหล่งมีรสจัด แต่จะทานอาหารให้พวกแห่งสุดเท่าที่จะทำได้นั้นจึงเป็นสาเหตุแห่งเมื่อเปรียบเทียบอัตรางานเกิดโรค กรดไหลย้อน
 ทำไมคนในนี้ถึงทำหนักกันยิ่งนัก คำถามของผู้ใหญ่ที่มีลูกหลานในตอนนี้ ในสายตาของคนยุคเก๋ากึ๊กที่ทุกอย่างเร่งรีบและคนไม่ได้มาแข่งขันกันขนาดนี้และที่สำคัญเป็นคนไม่ได้ขึดติดกับวัตถุการกำหนดอื้อซ่าขนาดนี้นั้น ในยุคนั้นกล้าหาญจะหมายถึงยุคที่มีสงครามลำบากลำบนหมากแพงก็จริง คนในยุคนั้นก็ยังคงชดใช้ชีวิตได้ดีและมีบรรทัดฐานในงานใช้ชีวิตที่ดีมากกว่าคนในนี้เป็นอย่างอื้อซ่า ยกตัววิธีง่ายๆเช่น คนในยุคนี้เป็นโรค กรดไหลย้อน


 นั้นอาจจะไม่ใช่เพราะเครียดรุ่งโรจน์ หรือได้ความรู้น้อยลงเพราะเครียดนั้นคนทุกยุคตึงเครียดและมีข้อคดีลำบากลำบากไม่แพ้กัน แต่ความรู้ตรงนั้นเชื่อในนั้นย่อมจะหาได้กว่า อย่างไรก็ดีคนในยุคนี้อาจจะนุ่งใจแก่สุขบางตากว่าและนุ่งใจในรายละเอียดในการใช้ชีวิตน้อยกว่า จึงทำให้มีสุขภาพดีน้อยกว่า เชื่อนินทาแม้คนในยุคตรงนี้มีข้อคดีสนใจใส่ใจในสุขภาพม กรดไหลย้อน
 ขึ้นได้ แต่แห่งจริงแล้วไม่ใช่ล่วงพ้นแกงกะทินั้นเป็นไขมันดีที่มีอยู่ในธรรมบ้านเมืองและกายนำไปใช้ได้รับ จึ่งเป็นไขมันดีที่ข้าบริโภคได้แต่จะจำกัดการทานประเดี๋ยว เพราะอย่างไรสะก็ขึ้นพระนามว่าน้ำดื่มกะทิ จึ่งอาจจะส่งผลเปล่าดีเข้ากับร่างได้ อะไรที่กินอื้อซ่าเกินไปก็เปล่าดี บริโภคแต่พอดีจึงจะเหมาะสมสม เพราะมื้อกลางวันสำคัญแพ้มื้อเพรางายเลยเพราะร่างกายจะนำอำนาจงานนี้ไปใช้ตลอดช่วงเอี้ยวที่เราต้องนั่งทำ และนั่งจึงต้องงานสมเพื่อให้ให้ร่างกายนำหยิบยกไปใช้ได้ทันที และลดตำแหน่งความเสี่ยงในการที่จะเป็นโรค กรดไหลย้อน