ตำนานแห่ง กำเนิด ลิปสติก การเดินทางแห่งเรื่องสง่างาม ของหญิงสาวสาว

[สุทัตตาแสงวัน]

  ขา ด้วยสีสันที่สามารถสร้างสรรค์ได้หลากหลายเฉดสี เมื่อกำมาแต่งชั้นเชิงลงบนริมฝีปากของหญิงผู้หญิงต่อจากนั้น จะช่วยเหลือทำอุปถัมภ์ใบหน้าของสาวๆดูโดดเด่นสะดุดตาขึ้นมาทันที ถ้าคนที่มิเป็นที่นิยมแต่งหน้าปรุงแต่งตาใดๆล่วงก็ตาม เพียงแค่แต้มลิปสีบางๆลงบนเชิงฝีปากเบาๆ ก็ทำให้หน้าตาดูสะสวยสดชื่น ดูสุขภาพดีขึ้นทันทีล่วงทีเดียวประวัติของ ลิปสติก
 จะถูกเหรียญตราหน้าว่าเป็นหญิงสวยงามเมือง เด็กสาวรวมหมดหลายต่างถูกห้ามปรามมิแจกแก้ไขด้านหน้าเพราะสังคมในระยะเวลานั้นยังไม่ยอมสารภาพเท่าย่านเหมาะ จนกระทั่งปี 1950 ในสมัยที่ดาวฮอลลีวู้ดเริ่มกลายเป็นไอดอลสิ่งของดึงๆในสมัยนั้น ดารานำเช่น มาริลีน มอนโรว์ และ อลิสซาเบธ เทย์เลอร์ ทำให้กระแสการทาโอษฐ์ กลับมาอีกหน โดยเฉพาะ เทย์เลอร์ นั้น คลั่งใคล้งานทาลิปสีแดง มากเสียจนสั่งห้ามไม่ให้นักแสดงคนอื่นๆในกองทาปากสีเนื้ออ่อนเยี่ยงโดดกับเธอผ่านพ้นทีเดียวพร้อมกับในปี 1952 พระราชินี อลิสซาเบธที่ 2 ก็ทรงรองบงการให้ทำลิปสีพิเศษขึ้นมาโดยเฉพาะ โดยเป็นสีสีชาดเฉดเพียงอย่างเดียวกับแพรพรรณคลุมของพระตัว โดยใช้สมญาลิปสีเลิศนี้ว่า The Balmoral Lipstick ส่วนในประเท ลิปสติก
 เริ่มมีสีสันและสาวก้าวเข้าสู่สังคมในฐานะสินค้าทางธุรกิจที่รุ่งเรือง ตั้งแต่เวลา 1930 โดยครามครันธุรกิจสาว นามว่า อลิสซาเบธ อากากเดน เจ้าของกงสี Elizabeth Arden, Inc ผู้นำเทรนด์การทาลิป กับทำการก่อสร้างสรรค์ผลิตเฉดสีของลิปมอบหลากอเนก พร้อมกับสวยงามยิ่งขึ้น อย่างเดียวสาวๆในยุคตรงนั้นก็ยังคง เขินอาย ไม่อ่อยอาจหาญกินกันสักเท่าไหร่ เพราะคดีเชื่อในสมัยตรงนั้นว่าสาวๆแหล่งทา ลิปสติก
[youtube]youtube.com/watch?v=bWS83Bd1e-I[/youtube]
 เรื่องของความสวยความงามสำหรับหญิงสาวนั้น แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่สาวๆต่างให้ความสำคัญมาเป็นอันดับหนึ่งล่วงเลยใช่ไหมคะ?  รุ่งโรจน์สมัญญาว่าเกิดหมายความว่าผู้หญิงแล้วน้อยคนนักที่จะเปล่าสนใจตอนสวยๆงดงามๆนะคะ ความรักความชอบในการแก้ไขตัวทรงเครื่องให้งามงามควรมอง เป็นลักษณะพิเศษที่แนบตัวมายกขึ้นเฉพาะบังเกิดของผู้หญิงสาว ล่วงพ้นทีโทนเครื่องสำอางเป็นของย่านได้รับกรณีนิยมจนเรียกว่ากลายเป็นปัจจัยที่สำคัญในการใช้ชีวิตในเข้าผู้เข้าคนสมัยใหม่ตรงนี้ไปแล้ว โดยเฉพาะสาวๆถิ่นออกไปทำงานนอกบ้าน แตะพบปะผู้คนมากมาย เพราะตำแหน่งพร้อมทั้งใบหน้าที่ ทำสละต้องสร้างบุคลิกที่น่าเชื่อฟังถือ ด้วยเหตุว่ารูปลักษณ์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้ข้อความรู้ความสามารถและทักษะในการทำงานเกินนะคะ ดุจนั้นสาวๆสมัยตรงนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะควรพึ่งพาเครื่องมือสำอางเป็นตัวช่วยเพื่อเสริมบุคลิกอุดหนุนน่าดูเชื้อเชิญมองขาหนึ่งในเครื่องสำรวยที่เป็นได้ช่วยจัดทำเสริมบุคลิกภาพให้กับหญิงๆนั้น ก็คือ  ลิปสติก
 นั้น ต้องย้อนเวลาไปไกลอาบันในสมัยสมัยของ สาวๆในสมัยเมโสโปเตเมีย หรือกว่า 5,000 ปีก่อนทีเดียวนะคะ โดยสาวๆสมัยนั้นจะนำอัญมณีล้ำค่าต่างๆมาบดให้เป็นผง แล้วบรรจงปรุงแต่งแต้มลงบนใบพักตร์ ทั่วบริเวณรอบโชคตากับการทาลงบนริมฝีปากค่ะ พร้อมด้วยในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ก็มีหลักฐานอันชัดเจนที่แสดงให้เห็นว่า สาวๆในยุคโบราณนั้นมีการทาริมฝีปากเพราะสีแดงเพื่อเพิ่มสีสันเรียวปากให้สดใส ออกจากการค้นพบหลักฐาน ณ ที่ราบลุ่มเมโสโปเตเมีย ได้ขุดค้นพบกล่องใบหนึ่ง และสิ่งที่บรรจุอยู่ในกล่องโบราณนั้นก็คือ สีทาปาก นั่นเอง แถมยังมีต้นฉบับฐานอีกจากการค้นพบกระดาษปาปิรุสโดยบนกระดาษนั้นเป็นภาพหญิงสาวชาวอียิปต์กำลังถือกระจกเงาและแต่งชั้นเชิงรีโอษฐ์อยู่  นอกจากนี้ยังมีเรื่องมูลบ่งชี้ไว้ว่าวัยสาวๆในยุคโบราณตรงนั้นต่างชื่นชอบและมักนิยมเติมสีสันให้แก่แคมฝีปากด้วยผลเบอร์รี่สีแดงและห้วงน้ำผลไม้สีสดพันธุ์ต่างๆอีกด้วยอย่างไรก็ติดสอยห้อยตามในคราวแต่ก่อนนั้น เรื่องของลิปสติก ลิปสติก

 กับหญิงสาวนั้น ก็กลายเป็นเรื่องอยู่สองกันมาโดยตลอด มีบางช่วงที่การทาสีปากตรงนั้นเปลี่ยนแปลงเป็นตัวแทนสัญลักษณ์ในทางที่อยู่ไม่ดี เช่น ในยุคก่อนก็มีความลงบัญชีที่ว่า หากหญิงสาวคนไหนทาปากทั้งเป็นสีแดง ก็จะมีการกล่าวหาว่านางคนนั้นเป็นแม่มด โดยเชื่อกันว่าการใช้คืนสีเกลาแต้มทาปากตรงนั้นเพราะว่าจำเป็นต้องงานยั่วยวนเพศชาย อีกทั้งในช่วงยุคมืดและยุคตรงกลาง งานทาโอษฐ์ตรงนั้นก็เปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งต้องห้ามในสังคมชั้นโด่งของยุโรป เพราะกลับกลายเป็นร่างแทนสิ่งหญิงชั้นเลวทรามและกลุ่มพนิดาค้าบริการ หรือกะหรี่นั่นเองค่ะ นอกจากตรงนี้ ยังมีในใสสมัยที่การทาลิปนั้น กลายหมายถึงที่การตั้งกฎเกณฑ์กันในหมู่ผู้ชาย โดยเชิงหนุ่มน้อยในสมัยตรงนั้นจะมีการแต่งสิ่งแบบเต็มยศด้วยกันมีงานใช้วิกผมด้วย โดย จอช วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกสิ่งของสหรัฐอเมริกา ก็นิยมทาโอษฐ์ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งในกาลสมัยนั้นถือเป็นการแสดงออกบรรลุชนระดับและฐานันดร อีกด้วย ลิปสติก