ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ทำความสะอาดที่นอน ให้ปราศจากกลิ่นปัสสาวะของบุตรได้ด้วยวิธีการง่ายๆ มองหาวัสดุอุปกรณ์ได้ในบ้าน

 ถูกเฉยเมย ไม่ได้รับการป้องกันเอาใจใส่ ทำให้คราบยิ่งฝังลึก กลิ่นก็เหมือนกัน สิ่งสกปรก ฝุ่นละออง และคราบปัสสาวะของลูกก็สะสมอยู่ตามเนื้อผ้าจนเป็นเหตุให้เตียงนอนและผ้าปูต่างๆที่เคยใหม่สีสันสดใสเริ่มค่อยๆที่จะหมองและเหลือง มีกลิ่นอับและรอยด่างชัดมากขึ้น และอาจกลายเป็นแหล่งเชื้อโรคในไม่ช้า แม่ลูกอ่อนบางคน พยามที่จะทำจัดการกับกลิ่นปัสสาวะของเด็กด้วยการทำความสะอาดที่นอน ทำความสะอาดที่นอน
 อยู่ ทดลองนำเคล็ดลับนี้ไปใช้กันนะคะ ยืนยันว่าคุณจะกำจัดตัวปัญหานี้ได้ดีกว่าเดิมทีเดียว ทำความสะอาดที่นอน
 สิ่งของที่ต้องก็หาไม่ยากหยิบในบ้านท่านนั่นแหละ สิ่งที่ต้องมีได้แก่ ผ้าขนหนูหนาๆ น้ำส้มสายชู เบกกิ้งโซดา และแป้งฝุ่นสำหรับเด็ก เมื่อเตรียมของครบก็ได้เวลาเริ่ม ทำความสะอาดที่นอน

 ค่อนข้างยุ่งยาก เพราะถ้าทำผิดวิธีอาจจะทำให้ที่นอนของคุณยิ่งเป็นแหล่งรวบรวมของเชื้อโรค ถ้าหากเป็นไปได้นำออกไปผึ่งแดดฆ่าเชื้อได้จะยิ่งได้ผลดีกว่าการปล่อยให้แห้งในที่ร่ม ทำความสะอาดที่นอน
 นอกจากนี้เรายังมีเคล็ดลับดีๆในการป้องกันที่นอนให้ถูกวิธีและช่วยทะนุถนอมยืดอายุการใช้งานของเตียงให้ยาวนานขึ้นมาฝากด้วย เนื่องจากเตียงนอนราคาก็ไม่ใช่ถูกๆเลยใช่ไหมคะ เราก็ต้องการใช้ให้ได้นานที่สุด ดังนั้นการหลีกเลี่ยงให้มันเป็นแหล่งหมักหมมสิ่งโสโครกมักจะดีที่สุด วันนี้เราจึงมาแชร์เทคนิคให้คุณแม่และทุกคนที่อยากรักษาเตียงนอนนำไปใช้ค่ะ ทำความสะอาดที่นอน
 อย่าลืมถอดพลาสติกหุ้มที่นอนออก บางคนชอบที่จะปล่อยพลาสติกที่หุ้มที่นอนทิ้งไว้โดยไม่ถอดออก แล้วก็ปูผ้าปูที่นอนทับเลย เข้าใจแหละค่ะว่าอยากให้มันดูใหม่อยู่เสมอ กลัวเลอะรอยอะไรต่างๆมากมาย แต่ว่าการใช้งานของที่นอนจะลดประสิทธิภาพลงไป 50% เลยทีเดียวนะคะ เพราะว่าความยืดหยุ่นของที่นอนก็จะน้อยลงทำให้นอนไม่สบายมากกว่าเตียงที่แกะพลาสติกออกยิ่งกว่านั้นยังทำให้ที่นอนระบายอากาศได้ยากเป็นที่มาของความอับชื้นนั่นเอง และในที่สุดเมื่อเราใช้ที่นอนของเราหลังจากนั้นอีกไม่นานพลาสติกก็จะเริ่มหมดสภาพ กรอบแห้งและจะค่อยๆฉีกออกมา นั่นหมายถึงอย่างไรก็ตามในวันนึงเราก็ต้องแกะพลาสติกออกอยู่ดี ถึงแม้มันจะช่วยปกป้องรักษาฝุ่นและรอยได้บ้างแต่ถ้าเทียบกับประสิทธิภาพที่ลดลงก็ไม่คุ้มค่าอย่างแน่นอน แนะนำให้แปลงมาใช้เป็นผ้าปูรองพื้นอีกชั้นก่อนที่จะหุ้มผ้าปูที่นอน เป็นการกันเปื้อนที่ทำให้เตียงนอนยังได้ประสิทธิภาพเหมือนเดิมมิหนำซ้ำอาจจะนุ่มยืดหยุ่นได้กว่าเดิมด้วย และเมื่อเกิดมีคราบเหงื่อ ทำความสะอาดที่นอน
 ห้องนอนหลับคือบริเวณผ่อนคลายที่ดีสุดของที่พักอาศัย แน่นอนว่าห้องหับที่เราใช้สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจนั้นต้องมีบรรยากาศที่ดี สะอาดถูกสุขลักษณะ และที่สำคัญต้องปลอดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ บรรยากาศที่ดีจะช่วยเหลือทำให้เราหย่อนใจ แม่หลายๆคน อาจมีอุปสรรคที่ว่า รักษาห้องนอนอย่างดี พยายามทำให้หมดจดไม่ให้ฝุ่นจับ แต่กลายเป็นเป็นว่าบุตรน้อย ดั๊นมาปัสสาวะใส่เตียงทำให้ทั้งห้องนอนเหม็นตลบอบอวนไปได้กลิ่นฉี่ หรือกระทั่งเฟอร์นิเจอร์ด้านในบ้าน กลิ่นมันก็จะตลบอบอวนวนเวียนกันอยู่ในบ้านเรือน ทำให้แขกไปใครมาก็ทราบเลยว่าที่อยู่อาศัยนี้มีลูกแน่แท้ เมื่อการ ทำความสะอาดที่นอน

 ให้ลูกท่านแล้ว โดยเริ่มต้นที่นำเอาผ้าขนหนูที่ไม่ใช่แล้วมารองซ้อนไว้ที่รอยนั้นแล้วก็นำทิชชู่แบบหนามารองไว้อีก1ชั้นด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ที่นอนเปียกแล้วเกิดปัญหาอับชื้นตามมา เคล็ดลับคือต้องเริ่มลงมือทำทันทีหลังจากที่คุณพบว่าลูกของคุณฉี่รดที่นอน เพื่อไม่ให้มันซึมซาบลึกไปถึงชั้นใยที่นอนและเมื่อใช้วิธีที่กล่าวมาข้างต้นเราจะสามารถซึมซับฉี่ออกไปได้บ้างเล็กน้อย หลังจากนั้นก็นำผ้าเช็ดตัวหรือไม่ก็ผ้าขนหนูอีกผืนมาซับน้ำหมาดๆแล้ววางลงไปที่รอยคราบฉี่ ค่อยๆนำน้ำเปล่าสะอาดลงมาเทตามลงไปทีละน้อย ห้าม!!เทเยอะเด็ดขาด และทางทีดีควรใช้เป็นน้ำอุ่นค่อนไปทางร้อน เพื่อที่จะเป็นการช่วยฆ่าเชื้อไปอีกทาง นำผ้าขนหนูกดซับไปทีละนิดๆเพื่อซับรอยสกปรกเหลืองออกไป เสร็จสิ้นแล้วก็ใช้ฟ็อกกี้ฉีดพ่นน้ำส้มสายชูผสมน้ำเปล่าเล็กน้อยพรมลงไปบนรอยคราบให้ทั่ว ทิ้งเอาไว้สักครูแล้วใช้แป้งฝุ่นทาตัวของเด็กที่มีกลิ่นหอมและมีคุณสมบัติช่วยกำจัดกลิ่น หรือใช้เบกกิ้งโซดาก็ได้ เพราะมีสรรพคุณในการช่วยขจัดกลิ่นและลดความอับชื้น อีกทั้งยังช่วยทำลายเชื้อได้ด้วย ขบวนการนี้จะเป็นการช่วยซึมซับน้ำด้วยอีกทางนึง หลังจากทำขั้นตอนทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็ให้ทิ้งเอาไว้ให้แห้ง อาจจะใช้ไดร์เป่าช่วยได้เพราะถ้าทิ้งให้เปียกนานๆอาจจะทำให้อับชื้นได้ การ ทำความสะอาดที่นอน
 ก็แล้ว เปลี่ยนแปลงผ้าปูก็แล้ว แต่กลิ่นก็ยังฝังลึกไม่หายสักที ครั้นจะจ้างเอาก็กลัวเสียเงินเยอะ เพราะลูกยังเด็กก็มั่นใจได้เลยว่าเรื่องการฉี่รดที่นอนเป็นเรื่องราวที่ต้องเจออีกบ่อยๆแน่นอน วันนี้เรานำเคล็ดลับดีๆมาฝากสำหรับแม่ที่กำลังปวดหัวกับการ ทำความสะอาดที่นอน