เช่น ปฏิทินและสมุดโน้ต ปฏิทินกับปากกาเป็นต้น
หรือแบบ 13 แผ่นแบบนี้ก็จะใส่ภาพได้มากใส่เนื้อหาได้เยอะเพราะแต่ละเดือ
ถ้าฐานที่เป็นสีจะมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเพราะว่าต้องพิมพ์สีใส่กระดาษแล้วเอามาห่อกระดาษเทาแข็งที่เราเรียกกันว่าจั่วปังอีกที
ปฏิทินเป็นงานสิ่งพิมพ์ที่มีความต้องการในการผลิตอย่างมากในช่วงท้ายปีจนถึงต้นปีเพราะเป็นที่นิยมที่บริษัท
อย่างแรกชนิดของปฏิทิน
ฐานปฏิทินส่วนใหญ่นิยมใช้สีขาวแต่ในกรณีที่บริษัทนั้นมีสัญลักษณ์ของสีประจำบริษัทชัดเจนก็จะสั่งทำฐานให้เป็นสีเดียวกับบริษัท เช่น ธนาคารกรุงศรีอยุธยาก็จะใช้สีเหลือง บริษัททรูส์ก็จะใช้สีแดง ฯลฯ
โดยปกติมักจะเอาไปแจกพร้อมกับสินค้าพรีเมี่ยมที่บริษัทจัดเตรียมไว้ให้
หรือเหมือนอย่างที่บอกตอนต้นว่าเราอาจจะดีไซน์ให้ฐานปฏิทินสีเดียวกับสินค้าพรีเมี่ยมก็ได้
แบบแขวนจะได้รับความนิยมน้อยกว่าแบบตั้งโต๊ะเพราะต้องหาที่แขวนและหาพื้นที่ซึ่งส่วนใหญ่จะค่อนข้างกว้างเพราะว่าต้องมองเห็นระยะไกลทำให้นิยมน้อยกว่าแต่ต้นทุนถูกกว่า
แต่นอกจากสินค้าพรีเมี่ยมที่จะเอาไปแจกแล้ว (อย่าง ปากกา กระดาษโน้ต เสื้อยืด กระเป๋า พวงกุญแจฯลฯ)
หรือถ้าบางบริษัทมีงบประมาณจำกัดก็อาจจะไม่ทำสินค้าพรีเมี่ยมแจกแต่เลือกแจกปฏิทินแทน
ส่วนใหญ่บริษัทจะเป็นฝ่ายออกแบบแล้วค่อยว่าจ้างโรงพิมพ์ผลิตซึ่งการออกแบบนั้นก็รวมทั้งเลือกสี่ของฐานปฏิทิน
ส่วนแบบตั้งโต๊ะนิยมมากกว่าเพราะสวยใช้ง่าย แข็งแรง ไม่กินเนื้อที่และที่สำคัญวางอยู่บนโต๊ะตลอดเวลา
เนื่องด้วยปฏิทินเป็นเหมือนเครื่องหมายการค้าของ
เพราะคนส่วนมากยังชอบดูอะไรจากกระดาษและง่ายๆกันอยู่เพียงแค่นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะและอยากจะดูวันที่
[youtube]youtube.com/watch?v=vvBmsgN0e80[/youtube]
ก็แค่ชำเลืองมองไม่ยุ่งยากอะไร อีกทั้งปฏิทินสมัยนี้แข่งกันออกแบบดีไซน์ทั้งรูปลักษณ์ทั้งสีสันเพื่อเชื้อเชิญให้คนใช้เลือกใช้ และยิ่งถ้าออกแบบให้เขากับ
สินค้าพรีเมี่ยมที่บริษัทแจกด้วยก็ยิ่งดี ลองนึกถึงสินค้าพรีเมี่ยมบางอย่างเช่นสมุดโน้ตไดอารี่ที่วางคู่เข้ากับปฏิทินเป็นสีโทนเดียวกันและมีดีไซน์ไปในทิศทางเดียวกันดูครับ อย่างที่บอกข้างต้นครับว่ามีหลายบริษัทที่ผลิตปฏิทินมาแจกจึงเป็นไปได้ว่าคนหนึ่งคนอาจจะได้รับปฏิทินซ้ำแบบกันและอาจจะต้องเลือกอันเดียวที่จะวางบนโต๊ะ การออกแบบจึงค่อนข้างสำคัญให้ดูดีสวยงามใช้งานสะดวก ถ้าเราจะผลิตปฏิทินแจกลูกค้ามีอะไรที่เราต้องพิจารณาบ้างลองมาดูทีละข้อนะครับ สินค้าพรีเมี่ยม
แบบ 7 แผ่นคือมีปกหน้าและเดือนปฏิทิน 12 เดือนหน้าหลังรวมอีก 6 แผ่น
แบบตั้งโต๊ะมีทั้งแบบแนวตั้งและแนวนอนแล้วแต่ความชอบ
แต่แนวนอนจะนิยมกว่า เพราะการวางเลย์เอาท์ออกแบบเอาภาพประกอบใส่จัดวางตัวหนังสือทำได้ง่ายและออกมาสวยกว่าเพราะภาพถ่ายส่วนใหญ่มักจะถ่ายมาแนวนอน ไม่ได้มีขนาดมาตรฐานแต่มีขนาดที่นิยมใช้กันคือ 6x8 นิ้วกับ 7x9 นิ้ว ส่วนของปฏิทินนั้นมีส่วนประกอบ3 ส่วนคือขาตั้งสามเหลี่ยมปฏิทินแผ่นปฏิทินและลวดห่วงกระดูกงู
จะเอาไปแจกให้ลูกค้าวางบนโต๊ะหรือแขวนกับข้างผนังก็ได้แล้วแต่รูปลักษณ์ที่ออกแบบมา
เนื่องจากปฏิทินเป็นของที่จะได้ใช้ตลอดทั้งปี แม้ความจริงแล้วในยุคสมัยปัจจุบันเราจะมี calendar กันในคอมพิวเตอร์หรือมือถือแล้วก็ตามแต่ปฏิทินก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ดี
เราสามารถเลือกได้ว่าอยากได้จั่วปังเบอร์อะไรหากไม่ทราบก็คุยกับทางโรงพิมพ์ว่าอยากได้ความหนาของฐานเท่าไหร่
สินค้าพรีเมี่ยมที่แจกให้ไปลูกค้าอาจจะเก็บไว้เป็นที่เป็นทางแต่ปฏิทินจะโชว์รูปภาพบริษัท ชื่อบริษัท โลโก้สินค้าอยู่บนนั้นและมันจะอยู่ในสายตาของลูกค้าเรื่อยๆอันนี้เป็นสิ่งสำคัญ
แต่กระนั้นปฏิทินแบบแขวนมีแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมในบริษัทบางกลุ่มคือปฏิทินฉีกแบบที่มีภาษาจีน จะเหมาะกับลูกค้าที่เป็นบริษัทจีนมากๆเพราะมีฤกษ์วันเกี่ยวข้องในการดูฮวงจุ้ยด้วย
เนื้อหาในปฏิทินคือส่วนสำคัญที่สุด
ลวดห่วงกระดูกงูสำหรับร้อยเพื่อยึดเนื้อปฏิทินกับฐานนั้นควรเลือกสีและชนิดให้เหมาะสมกับดีไซน์ของปฏิทิน
องค์กร แจกง่ายคนภายในก็ใช้ ลูกค้าก็เอาไปใช้ได้และช่วยพีอาร์ภาพลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์และบริษัทได้ด้วย ดังนั้นแทบจะทุกบริษัทใหญ่ๆมักจะผลิตปฏิทินแจกกันทั้งนั้น บางบริษัทผลิตปีละหลายแสนฉบับและส่งแจกจ่ายทั่วประเทศจนเป็นแบบแผนประจำไปแล้วไม่ทำไม่ได้
ปฏิทินที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่จะมีอยู่สองแบบคือแบบตั้งโต๊ะและแบบแขวนครับ
ส่วนใหญ่แล้วมักจะพิมพ์จำนวนแผ่นอยู่สองแบบ
ก็มีอยู่สิ่งหนึ่งที่นิยมทำกันคือปฏิทิน
ห่วงส่วนใหญ่จะไปในทางเดียวกันกับฐาน เช่น ถ้าสีขาวก็ห่วงขาว สีดำก็ห่วงดำ บางทีอาจจะมีสีพิเศษเช่นเงินหรือทองซึ่งราคาก็จะแพงขึ้นไปอีกขึ้นกับความต้องการว่าเราอยากให้ปฏิทินเราออกมาในระดับไหน