ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


รู้จัก 5 ขั้นตอนทำ ใบขับขี่สาธารณะ ที่ใครก็สามารถทำได้

         ปัจจุบันการมีอาชีพที่สองเพื่อหารายได้เสริมจากอาชีพหลัก ถือเป็นเรื่องปกติที่พบเห็นได้ทั่วไป โดยหนึ่งในอาชีพที่ได้รับความนิยมมากที่สุดดูจะหนีไม่พ้นการขับรถรับ-ส่งผู้โดยสารผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งสิ่งที่ผู้ขับขี่รถรับจ้างทุกคนจะต้องมีก็คือ ใบขับขี่สาธารณะ ซึ่งแตกต่างจากใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล หากไม่มีถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าใบขับขี่ประเภทนี้มีขั้นตอนการทำอย่างไร วันนี้เราก็มีสาระความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับการทำใบขับขี่รถยนต์สาธารณะมาฝากกัน

คุณสมบัติของผู้ทำใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ
ใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ ถือเป็นเอกสารสำคัญที่ผู้ขับรถรับ-ส่งผู้โดยสารทุกประเภท ไม่ว่าจะ  ขับแท็กซี่ รถสามล้อ หรือแม้แต่รถมอเตอร์ไซค์ จะต้องมีติดตัวทุกครั้งที่ออกไปขับรถรับ-ส่งผู้โดยสาร เพื่อยืนยันว่ามีความสามารถในการขับขี่ตามที่กฎหมายกำหนด โดยคุณสมบัติของผู้ที่สามารถขอทำใบขับขี่ประเภทนี้ได้มีดังต่อไปนี้
- สัญชาติไทย
- อายุ 22 ปีขึ้นไป
- มีใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 1 ปี
- ไม่เคยถูกตัดสินจำคุกเกี่ยวกับพฤติกรรมการขับขี่
- ไม่อยู่ระหว่างถูกยึดหรือเพิกถอนใบขับขี่
- ไม่เป็นโรคติดตัวร้ายแรงหรือเป็นผู้ที่ร่างกายพิการจนขับรถยนต์ไม่ได้
- ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต

เอกสารที่ใช้ขอทำใบขับขี่
สำหรับเอกสารจำเป็นที่ต้องใช้ในการทำ ใบขับขี่สาธารณะ มีดังต่อไปนี้
- ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล
- บัตรประชาชนตัวจริง
- ใบรับรองแพทย์
- รูปถ่ายขนาด 5 x 6.5 ซม. 3 รูป และขนาด 3 x 4 ซม. 2 รูป

รู้จัก 5 ขั้นตอนทำใบขับขี่รถสาธารณะ
สำหรับใครที่ต้องการหาอาชีพเสริมเป็นการขับรถรับ-ส่งผู้โดยสารอย่างการ ขับแท็กซี่ สามารถยื่นขอทำใบขับขี่รถสาธารณะด้วย 5 ขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. จองคิวทำใบขับขี่: สามารถจองคิวขอทำใบขับขี่ล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก
2. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย: เช่น ทดสอบสายตา การมองสีสัน รวมทั้งทดสอบปฏิกิริยาในการเหยียบเบรก
3. อบรม: ผู้ขอใบขับขี่รถยนต์สาธารณะต้องเข้าอบรม 5 ชั่วโมง ส่วนรถจักรยานยนต์สาธารณะอบรม 3 ชั่วโมง
4. สอบข้อเขียน: เป็นการทดสอบภาคทฤษฎี เกณฑ์ผ่านคือต้องได้ 28 คะแนนขึ้นไป จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน
5. สอบภาคปฏิบัติ: เป็นการทดสอบขับรถ รวมทั้งตรวจสอบความประพฤติ หรือประวัติอาชญากร

ทั้งหมดนี้คือ 5 ขั้นตอนในการทำ ใบขับขี่สาธารณะ หลังจากที่รู้แล้วว่าจะทำอาชีพเสริม ขับแท็กซี่ ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณทั้งหลาย สำหรับใครที่อยากหางานเสริมที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าแล้วละก็ GrabTaxi ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะว่าทำง่าย สามารถเลือกเวลาทำงานเองได้อย่างอิสระ เหมาะสำหรับเป็นงานเสริมหลังเลิกงานหรือในช่วงวันหยุดก็ทำได้