ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ประวัติการขับขี่ส่งผลต่อเบี้ยประกันจริงหรือ?

ประวัติการขับขี่มีผลต่อเบี้ยประกันจริงหรือ?

การซื้อประกันรถยนต์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับบริษัทหรือประเภทความคุ้มครองเพียงอย่างเดียว ประวัติการขับขี่ของผู้เอาประกัน ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดเบี้ยประกันเช่นกัน แต่จริงหรือที่ประวัติการขับขี่มีผลต่อเบี้ยประกัน? บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียด

ประวัติการขับขี่คืออะไร?
ประวัติการขับขี่หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้รถและอุบัติเหตุของผู้ขับขี่ เช่น
- จำนวนครั้งที่เคยเคลมประกันรถยนต์
- ประวัติการชนหรืออุบัติเหตุ
- การถูกจับปรับหรือพฤติกรรมเสี่ยงบนถนน เช่น เมาแล้วขับ
บริษัทประกันใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อประเมินความเสี่ยง หากผู้ขับขี่มีประวัติที่ดี เบี้ยประกันจะถูกกว่า แต่ถ้ามีประวัติไม่ดี เบี้ยประกันจะสูงขึ้น
ประวัติการขับขี่กับเบี้ยประกันเชื่อมโยงกันอย่างไร

บริษัทประกันใช้ ระบบประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) เพื่อกำหนดเบี้ยประกัน โดยประวัติการขับขี่เป็นตัวบ่งชี้ความเสี่ยงสำคัญ

No Claim Bonus คืออะไร?
No Claim Bonus (NCB) คือ ส่วนลดเบี้ยประกันสำหรับผู้ที่ไม่มีการเคลม ยิ่งไม่เคลมต่อเนื่องหลายปี ส่วนลดก็สูงขึ้น แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ประวัติการขับขี่ดี = เบี้ยประกันถูกลง

วิธีดูแลประวัติการขับขี่ให้ดี
- ขับรถอย่างระมัดระวัง ลดความเสี่ยงอุบัติเหตุ
- ไม่ขับรถขณะมึนเมาหรือหลับใน
- เข้าคอร์สขับรถปลอดภัย เพื่อเพิ่มเครดิตความปลอดภัย
- พิจารณาการเคลมอย่างรอบคอบ เลือกซ่อมเองหากเสียหายเล็กน้อย

สรุป
ประวัติการขับขี่ ส่งผลต่อเบี้ยประกันรถยนต์จริง การรักษาประวัติการขับขี่ดีต่อเนื่องช่วยลดเบี้ยและสะท้อนถึงความปลอดภัยบนถนน ขับรถระมัดระวังและวางแผนการเคลมให้เหมาะสม จะทำให้ทั้งคุณและบริษัทประกันได้ประโยชน์สูงสุด ยิ่งคุณมีประวัติขับขี่ดี ไม่เคลมบ่อย ก็ยิ่งได้ส่วนลดพิเศษจากบริษัทประกัน เช่น No Claim Bonus สูงสุดถึง 20% เลยทีเดียว! ตรงกันข้าม… ถ้าเคลมบ่อย หรือขับเสี่ยง เบี้ยก็จะพุ่งขึ้นทันที เคล็ดลับง่าย ๆ ที่ช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่าย คือเลือกทำประกันรถยนต์กับบริษัทที่ให้สิทธิพิเศษและส่วนลดตามพฤติกรรมการขับขี่จริง เพราะการมี ประวัติขับขี่ที่ดี + ประกันรถยนต์ที่คุ้มค่า = ทั้งความอุ่นใจและประหยัดเงินในกระเป๋า

ประกันรถยนต์