สัญญาณเตือน: สายไฟ CV มีปัญหา (ร้อนเกิน, ฉนวนแตก) เกิดจากสาเหตุใด แก้ไขอย่างไร

[กมลชนก]

ปัญหาด้านระบบไฟฟ้ามักเกิดขึ้นโดยไม่ทันสังเกต โดยเฉพาะในอาคาร โรงงาน หรือสถานที่ที่มีการใช้งานไฟฟ้าต่อเนื่องเป็นเวลานาน ความผิดปกติอย่างหนึ่งที่พบบ่อยคือ สายไฟ CV เริ่มร้อนกว่าปกติหรือมีรอยฉนวนแตกร้าว ซึ่งอาจดูเหมือนเรื่องเล็ก แต่แท้จริงแล้วเป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกถึงปัญหาภายในระบบ หากปล่อยทิ้งไว้อาจนำไปสู่การลัดวงจรหรือเกิดเพลิงไหม้ได้

ทำความเข้าใจกับสายCV และคุณสมบัติพื้นฐาน
สายไฟชนิดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับแรงดันไฟฟ้าระดับกลางถึงสูง และมักใช้ในงานระบบไฟฟ้าอุตสาหกรรมหรืออาคารขนาดใหญ่ จุดเด่นคือมีฉนวน XLPE ที่ช่วยทนความร้อนและแรงดันได้ดี อีกทั้งยังมีความสามารถในการป้องกันการรั่วของกระแสไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม แม้สายไฟชนิดนี้จะมีคุณสมบัติทนทาน แต่หากใช้งานผิดวิธีหรือติดตั้งไม่ถูกต้องก็ยังเสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพได้



ลักษณะของปัญหาที่พบบ่อย
เมื่อสายไฟเกิดความร้อนสูงเกินไปหรือฉนวนเริ่มแตก มักจะมีสัญญาณเตือนให้สังเกต เช่น มีกลิ่นไหม้เล็กน้อยจากบริเวณท่อเดินสาย ฉนวนเริ่มกรอบเมื่อสัมผัส หรือมีสีของสายเปลี่ยนไปจากเดิม ปัญหาเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นตัวบ่งบอกถึงการเสื่อมสภาพจากภายในของสายไฟ

สาเหตุที่ทำให้สายCV ร้อนเกินปกติ
สาเหตุหลักมักเกิดจากการเดินสายที่ไม่เหมาะสม เช่น ใช้ขนาดสายเล็กเกินไปสำหรับกระแสที่ต้องรับ หรือมีการรวมสายไฟหลายเส้นในท่อเดียวจนระบายความร้อนไม่ได้เพียงพอ อีกสาเหตุหนึ่งคือการเชื่อมต่อสายไฟไม่แน่น ทำให้เกิดจุดร้อนสะสม การใช้งานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงอย่างต่อเนื่องก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้สายไฟเสื่อมเร็วกว่าปกติ

ฉนวนสายไฟแตกหรือกรอบ เกิดจากอะไร
ฉนวนที่หุ้มสายไฟทำหน้าที่ป้องกันการรั่วของกระแสและการสัมผัสของผู้ใช้งาน หากฉนวนแตก อาจเกิดจากการโดนแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน การดัดงอมากเกินไป หรือการติดตั้งที่ขาดการเว้นระยะห่างจากแหล่งความร้อน นอกจากนี้ ความชื้นก็มีผลต่อการเสื่อมของฉนวน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการรั่วของน้ำหรือไอร้อนจากเครื่องจักร

วิธีแก้ไขและแนวทางป้องกันสายไฟ CV มีปัญหา
การแก้ปัญหาควรเริ่มจากการตรวจสอบระบบไฟฟ้าโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ เพราะการแก้ไขโดยไม่มีความรู้เฉพาะทางอาจทำให้ปัญหาลุกลามมากขึ้น หากพบว่าสายไฟมีอาการร้อนหรือฉนวนเสียหาย ควรเปลี่ยนสายใหม่ทันที ไม่ควรซ่อมเฉพาะจุดด้วยเทปพันสายไฟ เพราะอาจทำให้เกิดการรั่วของกระแสในภายหลัง

การเลือกขนาดและการติดตั้งที่ถูกต้อง
การคำนวณขนาดสายไฟให้เหมาะกับโหลดไฟฟ้าที่ใช้งานเป็นขั้นตอนสำคัญ หากใช้ขนาดเล็กเกินไป สายไฟจะต้องรับกระแสเกินขีดจำกัด ทำให้เกิดความร้อนสูงเกิน การเดินสายควรเว้นช่องระบายอากาศให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการรวมสายจำนวนมากในท่อเดียว และไม่ควรเดินสายใกล้แหล่งความร้อน เช่น เตาอบหรือหม้อแปลงไฟฟ้า