
เวลาเริ่มหัดอบขนมใหม่ ๆ นี่มีงงกันทุกคนค่ะ ว่า
เตาอบขนม แบบไหนใช้ดี? รุ่นไหนคุ้ม? กลัวซื้อผิดแล้วอบเค้กยุบ อบคุกกี้ไหม้กันไปอีก! วันนี้เราเลยรวม 10 วิธีเลือกซื้อเตาอบขนมสำหรับมือใหม่ แบบเข้าใจง่าย ไม่ต้องเป็นสายเบเกอรี่ก็เลือกได้ ถูกใจทั้งคนอยากอบเล่นในบ้าน หรือเริ่มทำขายเล็ก ๆ ก็มีครบ ไปดูกันเลยค่ะ
1. เลือกขนาดให้เหมาะกับการใช้งานเริ่มจากดูปริมาณที่เราจะอบบ่อย ๆ ถ้าทำขายเล็ก ๆ น้อย ๆ แนะนำ 30–40 ลิตรขึ้นไป แต่ถ้าใช้ในบ้านทั่วไป 20–25 ลิตรก็เพียงพอ ไม่ใหญ่เกินไปแต่รองรับสูตรส่วนใหญ่ได้สบาย
2. เช็กชนิดของเตาอบ: ไฟฟ้าหรือแก๊สมือใหม่แนะนำเตาอบไฟฟ้าเพราะคุมอุณหภูมิง่ายและแม่นกว่า เตาแก๊สประหยัดกว่าแต่ต้องมีทักษะในการควบคุมไฟมากขึ้น
3. เลือกระบบทำความร้อนบน–ล่างควรเลือกเตาที่มีฮีตเตอร์ทั้งด้านบนและด้านล่าง จะได้กระจายความร้อนดี อบเค้ก คุกกี้ ขนมปัง ได้ครบในเครื่องเดียว
4. มีฟังก์ชันลมร้อน (Convection) ยิ่งดีพัดลมช่วยให้ความร้อนกระจายทั่วถึง อบเร็วขึ้น สีสวยเท่ากันทั้งถาด เหมาะมากสำหรับคุกกี้ มัฟฟิน หรือขนมที่ต้องการความสม่ำเสมอ
5. ดูการควบคุมอุณหภูมิควรปรับอุณหภูมิได้ละเอียด เช่น ทีละ 5°C หรือ 10°C และดูรีวิวว่าค่าที่ตั้งไว้ “ตรง” กับอุณหภูมิจริงมากแค่ไหน เพราะเตาบางรุ่นร้อนเกินหรือร้อนไม่ถึง
6. เลือกเตาที่มีไล่ความร้อนดีวัสดุด้านในควรเป็นสเตนเลสหรือโลหะที่เก็บความร้อนได้ดี ช่วยให้ใช้พลังงานคุ้มค่า อบรอบต่อไปรวดเร็วขึ้น
7. กระจกหน้าเตาควรเป็นแบบสองชั้นช่วยเก็บความร้อนและปลอดภัยกว่า โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็ก ทำให้หน้าเตาไม่ร้อนจนเกินไปและลดการสูญเสียความร้อนเวลาอบขนม
8. ถาดและอุปกรณ์ที่ให้มาควรได้คุณภาพถาดต้องไม่บิดงอง่าย และควรมีตะแกรงสำหรับวางถาดด้วย มือใหม่จะใช้บ่อยมาก โดยเฉพาะตอนอบคุกกี้หรือขนมปัง
9. เช็กเสียงของพัดลมและการใช้งานจริงบางรุ่นเสียงดังมากจนรบกวน ควรดูรีวิวจากยูทูบหรือผู้ใช้งานจริง เพื่อให้รู้ว่าเวลาทำงานอยู่เสียงเป็นอย่างไร ใช้งานลื่นไหม
10. ตั้งงบและเลือกแบรนด์ที่ไว้ใจได้มือใหม่ควรเลือกแบรนด์ที่มีศูนย์บริการและอะไหล่ชัดเจน ราคาไม่ได้ต้องแพงที่สุด แต่ขอให้ “เสถียร–ทน–ควบคุมไฟดี” จะคุ้มที่สุดในระยะยาว