ทำไม “ปี 2568” คือจังหวะต้องคิดเรื่องรีไฟแนนซ์และแหล่งเงินทุนให้จริงจังปี 2568 เป็นปีที่ผู้ประกอบการจำนวนมากต้อง “จัดระเบียบโครงสร้างหนี้” ใหม่ เพราะแม้คณะกรรมการนโยบายการเงินปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ 1.50% เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2568 แต่ธนาคารยังคงคัดกรอง
สินเชื่อsme เข้มเพื่อบริหารความเสี่ยง นั่นแปลว่าการย้ายหนี้
รีไฟแนนซ์สินเชื่อธุรกิจ จะ “คุ้ม” ต่อเมื่อแฟ้มข้อมูลของเราทำให้ผู้ให้กู้ “อ่านรอบเดียวเชื่อ” ว่าธุรกิจผ่อนไหวจริง มีรายได้ตรวจสอบได้ และใช้เงินกู้ถูกงาน ไม่ใช่แค่หวัง “ดอกต่ำ” อย่างเดียวเท่านั้น
ด้านคุณภาพพอร์ตสินเชื่อ ภาพรวมไตรมาส 2/2568 ของระบบธนาคารไทยยังสะท้อนว่า สินเชื่อ SME และรายย่อยหดตัว ขณะที่กลุ่มบริษัทใหญ่ยังขยายตัว นั่นยิ่งย้ำว่ากุญแจอยู่ที่ “วินัยบัญชี + หลักฐานดีมานด์ + โครงสร้างหนี้ที่อ่านง่าย” ก่อนยื่นขอรีไฟแนนซ์หรือวงเงินใหม่ใด ๆ, ไม่เช่นนั้นดีลจะไม่ลงล็อกแม้อัตรานโยบายจะลดลงก็ตาม.
Case ที่เคยมาปรึกษา: จาก “หนี้แพงหลายก้อน” สู่พอร์ตใหม่ที่เบากว่าและคุมได้เคสโรงงานรับจ้างผลิต ยอดขายเฉลี่ย 1.3–1.5 ล้านบาท/เดือน แต่พอร์ตหนี้ “หลายก้อนเล็ก” ทั้งบัตร/สินเชื่อบุคคล/OD ที่ถูกลากยาว ทำให้ ค่างวดรวม ~150,000 บาท/เดือน และกระแสเงินสดตึงทุกครั้งที่ลูกค้าจ่าย T+60
ทีมเราเริ่มจาก 3 ขั้น:
ทำ “สุขภาพหนี้” (Debt Health Check) แยกหนี้แพง–หนี้ลาก–หนี้ที่ดอกแท้จริงสูง (EIR)
ออกแบบโครงสร้างใหม่: ย้ายหนี้แพงไปเป็น เทอมโลนดอกต่ำ + งวดยาวขึ้น และกำหนดวินัยใช้ OD เฉพาะช่วงเงินขาดระยะ พร้อมเปิดทางเลือก แฟคตอริ่งเฉพาะบิลลูกค้าองค์กรที่คุ้ม
จัดแฟ้มยื่นแบบ “อ่านรอบเดียวเชื่อ”: งบ/Statement 12 เดือน, PO/สัญญาลูกค้าหลัก, แผนเงินเข้า–เงินออก และ DSCR ก่อน/หลังปรับ
ผลลัพธ์ 90 วัน: ค่างวดเฉลี่ยต่อเดือนลดลง ~30–35% เงินกันชนรายเดือนเพิ่ม และไลน์ผลิตไม่สะดุดช่วงรอรับชำระ ทำให้สามารถรับออเดอร์ใหม่โดยไม่ต้องลาก OD เต็มเพดาน
บทเรียน: ปี 2568 ไม่ใช่ปีของการ “ล่าดอกต่ำ” อย่างเดียว แต่คือปีของการ “รีไฟแนนซ์ + จัดพอร์ตแหล่งเงินทุน” ให้สอดคล้องลักษณะรายได้ของกิจการ และส่งสัญญาณความน่าเชื่อถือแก่ผู้ให้กู้ในสภาวะคัดกรองเข้ม (ตามรายงาน Credit Conditions Report และสรุปภาคธนาคารไตรมาส 2/2568 ของ ธปท.).
วิเคราะห์เชิงลึก: รีไฟแนนซ์อย่างไรให้ “คุ้มจริง” ในปี 2568 (Framework 3 มุม)(1) มุมต้นทุน: ลด EIR ของพอร์ต ไม่ใช่ดูแค่ “ดอกประกาศ”
ย้ายหนี้ดอกแพง/มีค่าธรรมเนียมซ่อน ไปสู่
รีไฟแนนซ์สินเชื่อธุรกิจ แบบเทอมโลนดอกต่ำ–ค่างวดเหมาะสม
เลิกลาก OD ยาว ๆ ให้กลายเป็น “เครื่องมือช่วงสั้น” เท่านั้น และใช้ แฟคตอริ่ง กับบิลลูกค้าองค์กรที่เครดิตดี–วันจ่ายชัด (คำนวณให้คุ้มกว่า OD)
ปัจจัยแวดล้อมปี 2568: ดอกนโยบายลดลง แต่ธนาคารยังพิจารณาความเสี่ยงเข้ม—ดีลที่ได้ดอกแข่งขันได้ จะเกิดเมื่อเราพิสูจน์ รายได้ตรวจสอบได้–วินัยทางการเงิน–หลักประกัน/ธุรกรรมที่จับต้องได้ ตามบรรยากาศในรายงานสินเชื่อของ ธปท.
Bot
(2) มุมสภาพคล่อง: ตั้งเป้า DSCR ≥ 1.2 ในฉากทัศน์ฐาน–แย่
จำลองงบกระแสเงินสด “ฐาน/แย่” (ยอดขายลดลง 10–20%) ให้ DSCR ≥ 1.2 เพื่อกันความผันผวนจากรอบจ่ายลูกค้า/วัตถุดิบขึ้นราคา
หาก DSCR ต่ำกว่าเป้า: เพิ่มเงินดาวน์, ยืดงวด, หรือปรับลำดับลงทุน/รับรู้งานก่อนเริ่มภาระงวด
เคล็ดลับ: ถ้าธุรกิจ B2B ที่รับเงินแบบ T+30/60/90 ให้ “จับคู่เงินกู้กับงาน” เช่น เทอมโลน = ทรัพย์ยืนยาว (เครื่องจักร) / OD+แฟคตอริ่ง = ช่องว่างเงินสดระหว่างรอเก็บ เพื่อไม่ให้งบดอกเบี้ยบาน
(3) มุมความเสี่ยง: ทำ “แฟ้มอ่านรอบเดียวเชื่อ” + เคารพหลัก Responsible Lending
แนบ PO/LOA/สัญญา ของลูกค้าหลัก + ประวัติรับชำระย้อนหลัง เพื่อให้ผู้ให้กู้ประเมินความเสี่ยงได้จริง
สรุปผู้บริหาร 1 หน้า: วัตถุประสงค์รีไฟแนนซ์, งวดเดิม/ใหม่, DSCR ก่อน/หลัง, แผนลด OD, ไทม์ไลน์เงินเข้า
ทำความเข้าใจหลักเกณฑ์ “Responsible Lending” ล่าสุดของ ธปท. (ปรับปรุงปี 2568) ซึ่งกำหนดมาตรฐานการเปิดเผยเงื่อนไขและแนวการช่วยเหลือลูกหนี้—สิ่งนี้ช่วยให้เราเทียบดีลได้แบบ apples-to-apples และป้องกันความเข้าใจคลาดเคลื่อนในระยะยาว.
ขั้นตอนลงมือ (เช็กลิสต์ 1–2 สัปดาห์แรก)1) ทำ “ผังหนี้” ให้ครบถ้วน
รวบยอด: วงเงินคงเหลือ, ดอกแท้จริง (EIR), ค่างวด/เดือน, หลักประกัน, ค่าปรับ/ค่าปิดก่อนกำหนด
2) ออกแบบพอร์ตใหม่ (Target Structure)
ก้อนลงทุน (เครื่องจักร/รีโนเวท): เทอมโลน (ค่างวดเสถียร)
ก้อนหมุนเวียน (ช่องว่างรอ T+30/60/90): OD ขนาดพอดี + แฟคตอริ่งเฉพาะบิลที่คุ้ม
จำลอง DSCR/DSR ฐาน–แย่ ให้ผ่านเกณฑ์ก่อนเปิดดีล
3) ทำ Mandate Sheet ที่ “ต้องการจริง”
เพดานดอกเฉลี่ย, งวด, ค่าธรรมเนียมทั้งหมด, เงื่อนไขสำคัญ (covenant, cross default, grace/step-up) เพื่อใช้เทียบหลายสถาบัน
4) จัดแฟ้มยื่นแบบมืออาชีพ
Statement 6–12 เดือน, งบการเงินล่าสุด, ภาพไลน์ผลิต/ใบอนุญาต
หลักฐานดีมานด์ (PO/สัญญา) + ตารางเงินสด 12 เดือน + แผนลด OD
อธิบาย “ประโยชน์ทางการแข่งขัน” หลังรีไฟแนนซ์ (lead time, defect, capacity, margin)
5) ยื่นและเทียบข้อเสนอ “อย่างน้อย 2–3 แหล่งเงินทุน”
ธนาคาร/นอนแบงก์/สถาบันเฉพาะกิจ—ดูทั้ง “ดอก+ค่าธรรมเนียมรวม” และ สิทธิในสัญญา ไม่ใช่ดูแต่ดอกประกาศ
บริบทช่วยตัดสินใจ: นโยบายดอกเบี้ยที่ 1.50% เป็น tailwind ต่อการเจรจา แต่อำนาจต่อรองจริงอยู่ที่ “คุณภาพเคส” เพราะฝั่งผู้ให้กู้ยังอ่านความเสี่ยง SME อย่างระมัดระวังในปีนี้.
ตัวอย่างคำนวณ ตัวอย่าง A – ร้านอาหาร (ลดดอกเฉลี่ย):
เดิม: สินเชื่อ SME 2 ล้านบาท ดอก 8% → ดอกต่อปี ~160,000 บาท
ดีลใหม่: ดอก 5% → ดอกต่อปี ~100,000 บาท ประหยัด ~60,000 บาท/ปี (ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมย้าย)
ถ้าค่าย้ายรวม ~20,000 บาท จุดคุ้มทุน ~4 เดือนแรก จากนั้นคือกำไรสุทธิด้านดอก
ตัวอย่าง B – โรงงานชิ้นส่วน (ลดค่างวดเพื่อ DSCR):
เดิม: ค่างวด ~150,000 บาท/เดือน (DSCR ฐาน ~1.1)
หลังรีไฟแนนซ์ + ยืดงวด: ค่างวด ~100,000 บาท/เดือน (DSCR ฐาน ~1.6)
ผล: เงินกันชนเพิ่ม ~50,000 บาท/เดือน รองรับรอบจ่าย T+60 โดยไม่ต้องลาก OD เต็ม
ตัวอย่าง C – ร้านค้าออนไลน์ (เพิ่มวงเงินหมุนทันฤดูกาล):
เดิม: วงเงิน 1.0 ล้าน หมุนไม่ทันฤดูกาลพีก
ใหม่: รีไฟแนนซ์ + วงเงินเพิ่ม 1.5 ล้าน โดย DSCR ยัง ≥ 1.2 เพราะออกแบบงวดไม่ให้บีบสภาพคล่องเกินไป
หมายเหตุ: ตัวเลขเป็นตัวอย่างเพื่อการอธิบาย หลักคือดู ประโยชน์สุทธิหลังค่าธรรมเนียม และคุม DSCR/สภาพคล่อง ให้ปลอดภัย
แหล่งเงินทุนที่ “ผสมให้ถูกงาน” (เพื่อชนะทั้งต้นทุนและวินัย)เทอมโลน (ระยะกลาง–ยาว): ใช้กับทรัพย์ยืนยาว (เครื่องจักร/รีโนเวท) – ค่างวดเสถียร, มองเห็น DSCR ชัด
OD (เบิกเกินบัญชี): ปิด/ลดเป็นรอบ ๆ ไม่ลากยาว เพื่อกันดอกบาน
แฟคตอริ่ง: เร่งเงินเข้าจากใบแจ้งหนี้ลูกค้าองค์กรที่เครดิตดี–วันจ่ายชัด (เลือกเฉพาะใบที่ EIR คุ้มกว่า OD)
วงเงินโครงการ (Project-based): เมื่อมี PO/สัญญาระยะกลาง–ยาว จับคู่กับเทอมโลนเพื่อลดดอกเฉลี่ย
แนวโน้มปี 2568 จากรายงานเครดิตของ ธปท. ชี้ว่าเมื่อผู้กู้โชว์ “รายได้ตรวจสอบได้ + วินัยบัญชี + การจับคู่เครื่องมือถูกงาน” ธนาคารพร้อมเปิดโต๊ะเจรจาเงื่อนไขที่เหมาะสมมากกว่าการดู “ดอกต่ำ” แบบทั่วไป.
Bot
สรุป รีไฟแนนซ์สินเชื่อธุรกิจ ในปี 2568 คือการ “ออกแบบพอร์ตหนี้ใหม่ทั้งระบบ” ไม่ใช่แค่ย้ายสถาบัน เพื่อให้ต้นทุนลดจริง สภาพคล่องดีขึ้น และความเสี่ยงอ่านง่ายในสายตาผู้ให้กู้ ใช้กรอบ 3 มุม (ต้นทุน–สภาพคล่อง–ความเสี่ยง), จัดแฟ้ม “อ่านรอบเดียวเชื่อ”, และผสม แหล่งเงินทุน ให้ถูกงาน (เทอมโลน/OD/แฟคตอริ่ง/วงเงินโครงการ)
หากต้องการทีมมืออาชีพช่วยวิเคราะห์ DSCR/DSR, ทำ Mandate Sheet เทียบข้อเสนอหลายสถาบัน และจัดพอร์ตแหล่งเงินทุนให้เหมาะกับธุรกิจคุณ—
ติดต่อ/ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่
www.easycashflows.com