เลนส์โปรเกสซีฟ progressive lens คืออะไร? เข้าใจง่ายแม้ไม่เคยใส่แว่นมาก่อน

[กมลชนก]

การเปลี่ยนแปลงของสายตาเมื่ออายุมากขึ้นอาจเป็นเรื่องที่หลายคนไม่ทันได้สังเกต โดยเฉพาะเมื่อเริ่มรู้สึกว่า การมองใกล้ไม่ชัดเท่าเดิม หรือการเพ่งสายตาอ่านหนังสือทำให้รู้สึกล้าและปวดหัว นี่คือช่วงเวลาที่หลายคนได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญให้ลองใช้ progressive lens หรือที่เรียกกันว่า "เลนส์โปรเกสซีฟ" ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์การมองเห็นแบบครบระยะในเลนส์เดียว และไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผู้สูงอายุเท่านั้น

progressive lens ต่างจากแว่นอ่านหนังสือทั่วไปอย่างไร?

แม้เลนส์ทั้งสองประเภทจะช่วยในการมองเห็นในระยะใกล้เหมือนกัน แต่ความแตกต่างหลักของ progressive lens คือ "ความลื่นไหลในการเปลี่ยนระยะ" ที่เกิดขึ้นโดยไม่มีเส้นแบ่งระหว่างโซนต่าง ๆ ในเลนส์เลย
เลนส์โปรเกสซีฟสามารถรวมการมองระยะใกล้ ระยะกลาง และระยะไกลไว้ในชิ้นเดียว โดยการเปลี่ยนโฟกัสเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติผ่านการปรับองศาการมองของผู้ใส่ ไม่ว่าจะมองไกล ดูคอมพิวเตอร์ หรืออ่านข้อความบนมือถือ ก็สามารถใช้แว่นเพียงอันเดียวได้โดยไม่ต้องถอดสลับไปมาเหมือนกับการใช้แว่นอ่านหนังสือทั่วไป

โครงสร้างของ progressive lens ทำงานอย่างไร?

แบ่งโซนแบบไร้รอยต่อหนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญของ progressive lens คือการออกแบบที่เน้นความต่อเนื่องระหว่างแต่ละระยะการมอง ไม่ว่าจะเป็นโซนมองไกล มองกลาง หรือมองใกล้ โซนเหล่านี้ค่อย ๆ เปลี่ยนความโค้งของเลนส์อย่างเนียนตา ซึ่งต่างจากเลนส์สองชั้นหรือสามชั้นที่มักมีเส้นขอบให้เห็นชัดเจนใช้การมองด้วย “องศาศีรษะ” แทนการเลื่อนแว่น

ในชีวิตจริง เราไม่ได้หันศีรษะตลอดเวลาเพื่อปรับการมอง แต่เลนส์โปรเกสซีฟถูกออกแบบมาเพื่อให้สายตาเลื่อนผ่านโซนต่าง ๆ ตามองศาการก้มเงยของศีรษะ เช่น มองตรงไปข้างหน้าเพื่อมองไกล ก้มลงเล็กน้อยเพื่อดูคอมพิวเตอร์ หรือก้มมากขึ้นเพื่ออ่านข้อความใกล้ตัว

มีข้อควรรู้หรือความท้าทายอะไรบ้างก่อนเริ่มใช้?
แม้ว่า progressive lens จะมีข้อดีหลายด้าน แต่การใช้งานในช่วงแรกอาจต้องมี "ระยะปรับตัว" โดยเฉพาะการหามุมการมองที่เหมาะสมในแต่ละระยะ ผู้ใช้บางคนอาจรู้สึกเวียนหัวหรือมองภาพเบี้ยวในช่วงวันแรก ๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของการปรับสายตา
การเลือกเลนส์ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ เช่น การใช้ระยะมองกลางมากหรือใกล้มาก จะช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานราบรื่นขึ้น ดังนั้นการวัดสายตาและประกอบแว่นกับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จึงสำคัญมาก