รีโนเวทบ้านเก่าต้องใช้งบเท่าไหร่? เปิดวิธีคุมงบไม่ให้บานปลาย

[กมลชนก]

เมื่อบ้านที่เราอยู่มานานเริ่มทรุดโทรม หรือพื้นที่ใช้สอยไม่ตอบโจทย์ การรีโนเวทบ้านจึงกลายเป็นทางเลือกที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะสามารถปรับฟังก์ชันให้ทันสมัยขึ้นโดยไม่ต้องย้ายที่อยู่ แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนลังเลคือเรื่องงบประมาณ ซึ่งหากไม่วางแผนให้ดี การต่อเติมบ้านหรือปรับปรุงในจุดเล็ก ๆ ก็อาจกลายเป็นภาระใหญ่โดยไม่รู้ตัว



งบประมาณรีโนเวทบ้าน แบ่งตามช่วงราคา
การกำหนดงบให้ชัดเจนตั้งแต่แรกเป็นขั้นตอนสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้ค่าใช้จ่ายเกินจริง โดยงบรีโนเวทสามารถแบ่งออกได้เป็นช่วง ๆ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของการปรับปรุง
งบหลักหมื่น: แก้จุดเล็ก เปลี่ยนบรรยากาศ
สำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศโดยไม่แตะโครงสร้าง การทาสีใหม่ เปลี่ยนพื้น ซ่อมผนัง หรือเพิ่มแสงไฟที่เหมาะสมสามารถทำได้ภายในงบประมาณนี้ การรีโนเวทบ้านในลักษณะนี้เหมาะกับผู้ที่อยู่คอนโดหรือบ้านขนาดเล็ก
งบหลักแสน: ขยายพื้นที่ เปลี่ยนฟังก์ชัน
หากต้องการต่อเติมบ้านเพื่อเพิ่มห้องใหม่ ย้ายห้องน้ำ หรือขยายครัว งบในระดับหลักแสนอาจเหมาะสมมากกว่า ค่าใช้จ่ายจะครอบคลุมถึงงานโครงสร้าง ระบบไฟฟ้า-ประปา และงานตกแต่งเบื้องต้น ซึ่งจำเป็นต้องมีวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยประเมิน

คุมงบไม่ให้บานปลาย ต้องเริ่มจากอะไร?
การควบคุมงบประมาณเริ่มต้นจากการทำแปลนหรือร่างแบบที่ชัดเจน จากนั้นเปรียบเทียบราคาจากช่างหรือผู้รับเหมาหลายเจ้า อย่ารีบตัดสินใจเพียงเพราะราคาถูก หากยังไม่เคยเห็นผลงานมาก่อน ควรมีการทำสัญญาที่ระบุขอบเขตงานและระยะเวลาให้ชัดเจน รวมถึงกันงบสำรองเผื่อค่าใช้จ่ายไม่คาดคิดอย่างน้อย 10-15% ของงบทั้งหมด

ไอเดียรีโนเวทบ้านให้ตรงงบที่มี
การมีงบจำกัดไม่ได้แปลว่าผลลัพธ์จะธรรมดา หากรู้จักเลือกวัสดุทดแทน เช่น ใช้ไม้เทียมแทนไม้จริง หรือกระเบื้องลายไม้แทนพื้นไม้แท้ ก็สามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้มาก ควรเลือกปรับปรุงเฉพาะจุดที่ใช้งานบ่อยก่อน เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือพื้นที่รวมของบ้าน การค่อย ๆ ทำทีละส่วนยังช่วยกระจายงบและลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจผิดพลาด

สรุปก่อนเริ่มรีโนเวท
แม้การรีโนเวทบ้านจะดูเป็นเรื่องใหญ่ แต่หากวางแผนอย่างรอบคอบและเข้าใจข้อจำกัดของตัวเอง ก็สามารถสร้างบ้านหลังเดิมให้กลายเป็นพื้นที่ใหม่ที่ตอบโจทย์ชีวิตได้โดยไม่ต้องจ่ายเกินจำเป็น สิ่งสำคัญคือการประเมินเป้าหมายให้ชัด และเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนที่เคยทำมาก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดซ้ำ