การเลือกเทคนิคเติมเต็มใบหน้าในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับกระบวนการและผลลัพธ์คือกุญแจสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อมีตัวเลือกอย่าง Sculptra ที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้ที่ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวในระยะยาว เพราะเป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ไม่ได้แค่เติมเต็มชั่วคราว แต่ให้ผลลัพธ์ที่แนบเนียนและยาวนาน อย่างไรก็ตาม ในกระบวนการเสริมความงามใดๆ ย่อมมีข้อควรระวัง และจุดที่หลายคนมองข้ามคือ
sculptra ผลข้างเคียงซึ่งอาจไม่ได้ปรากฏชัดเจนทันที แต่ส่งผลระยะยาวต่อผิวหนังหากไม่ได้รับการประเมินอย่างเหมาะสม
ทำไมผลข้างเคียงจาก Sculptra จึงแตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไป
Sculptra แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่ใช่สารเติมเต็มที่ฉีดแล้วเห็นผลทันที แต่เป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากภายในผิว จึงมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่ลึกกว่าและไม่แสดงอาการในช่วงแรก เช่น การเกิดก้อนแข็งใต้ผิวหรือรอยนูนที่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งโดยมากเกิดจากการฉีดในชั้นผิวที่ไม่เหมาะสม หรือเทคนิคที่ไม่สอดคล้องกับโครงสร้างใบหน้าแต่ละบุคคล ผู้ที่ตัดสินใจใช้ Sculptra ควรได้รับการประเมินเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจกลไกการกระตุ้นคอลลาเจนอย่างแท้จริง เพื่อให้มั่นใจว่าโอกาสเกิดผลข้างเคียงจะลดน้อยที่สุด และผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติอย่างที่คาดหวัง
จุดเสี่ยงที่มักถูกมองข้ามเมื่อตัดสินใจใช้ Sculptra
ในขณะที่หลายคนให้ความสำคัญกับผลลัพธ์หลังการฉีด แต่สิ่งที่ควรโฟกัสจริงๆ คือการเตรียมผิวก่อนการรักษาและการดูแลหลังฉีดอย่างถูกต้อง เพราะผลข้างเคียงจาก Sculptra หลายกรณีเกิดจากการดูแลที่ไม่เหมาะสมหลังการรักษา เช่น การนวดผิวผิดวิธี ทำให้สารไม่กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ หรือการออกกำลังกายหนักภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีด ส่งผลให้ผิวเกิดอาการอักเสบซ่อนเร้น การละเลยขั้นตอนเล็กๆ เหล่านี้อาจทำให้เกิดรอยนูนหรือก้อนใต้ผิวซึ่งต้องใช้เวลาหลายเดือนในการสลายและฟื้นฟู ดังนั้น การเข้าใจในรายละเอียดของกระบวนการฟื้นฟูผิวหลังการฉีด Sculptra จึงเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่าการเลือกผลิตภัณฑ์หรือคลินิก
