
ผมชื่อภีมครับ ตอนนี้ก็เรียนไปด้วย เทรดคริปโตไปด้วย ใช้ชีวิตวัยรุ่นแบบไม่ค่อยเหมือนเพื่อนเท่าไหร่ เพราะเพื่อนผมหลายคนยังติดเกม ติดแฟน หรือไม่ก็นั่งดูซีรีส์วนไปวันๆ แต่ผมเลือกจะหาวิธีหาเงินตั้งแต่ตอนนี้ เพราะไม่อยากเป็นคนที่ต้องรอให้จบแล้วค่อยเริ่มทำงาน ผมเชื่อว่าโอกาสไม่เคยมารอใคร และโลกมันหมุนเร็วกว่าเดิมทุกวัน โดยเฉพาะเรื่องเงินและเทคโนโลยี ผมเริ่มรู้จักคริปโตตอนช่วงโควิดใหม่ๆ เพราะเห็นรุ่นพี่ใน
Blockdit แชร์แนวคิดหลายอย่างเกี่ยวกับการเทรด ผมเลยลองศึกษาจริงจัง และนี่คือ “ข้อดีของการเทรดคริปโตที่ผมได้เรียนรู้มาจาก Blockdit” พร้อมมุมมองของผมในฐานะเด็กอายุ 20 ที่อยากรวยไว แต่ไม่อยากรวยโง่
สิ่งแรกที่ผมชอบที่สุดในโลกของคริปโตคือ “อิสระในการจัดการเงินของตัวเอง” ผมไม่ต้องรอให้แบงก์อนุมัติ ไม่ต้องมีสลิปเงินเดือน ไม่ต้องง้อเจ้านายให้ขึ้นเงินเดือน เพราะผมสามารถควบคุมพอร์ตของตัวเองได้ 100% จะซื้อจะขายจะถอนก็แค่ปลายนิ้วจิ้ม ผมเรียนรู้จาก Blockdit ว่าแนวคิดแบบ Decentralized Finance หรือ DeFi มันไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่มันคือแนวคิดใหม่ที่เปลี่ยนระบบการเงินโลก ให้คนธรรมดาอย่างผมเข้าถึงโอกาสที่เมื่อก่อนมีแค่คนรวยเท่านั้นถึงจะได้เล่น ผมไม่ได้มองว่าคริปโตคือทางลัดไปสู่ความรวย แต่ผมมองว่ามันคือ “สนามซ้อม” ที่ทำให้ผมได้ลองเล่นเกมของคนรวย ด้วยเงินเล็กๆที่ผมมี
จากการอ่านหลายโพสต์ใน Blockdit ผมได้เข้าใจว่า คนที่เล่นคริปโตแล้วรอดไม่ใช่คนที่เก่งเทคนิคที่สุด แต่คือคนที่เข้าใจความเสี่ยง รู้จักบริหารอารมณ์ และรู้ว่าต้องเทรดด้วยเป้าหมายแบบไหน ซึ่งผมพยายามซึมซับแนวคิดนี้ทุกวัน ทุกครั้งที่ผมเทรดแล้วขาดทุน ผมจะไม่โทษตลาด แต่จะถามตัวเองก่อนว่า "กูเทรดตามแผนไหม? หรือเทรดตามอารมณ์?" แล้วผมก็ได้เรียนรู้ว่าวัยรุ่นไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะคนรุ่นผม มักจะมองว่าคริปโตคือทางลัดสู่ Lamborghini แต่ไม่เคยสนใจเรื่อง “พื้นฐานเหรียญ” หรือเรื่อง “ภาพรวมเศรษฐกิจ” เลย ผมไม่อยากเป็นแบบนั้น ผมอยากใช้คริปโตเป็นเครื่องมือ ไม่ใช่เครื่องล่อ
อีกอย่างที่ผมเรียนรู้จาก Blockdit คือ “ความรู้ทางการเงินไม่ใช่แค่เรื่องของคนแก่หรือคนเรียนบัญชี” มันคือทักษะชีวิตของคนยุคใหม่ ผมเคยคิดว่าเรื่องพวกนี้มันน่าเบื่อ พอๆกับวิชาพลเมือง แต่พอมาเจอกับบทความที่เล่าด้วยภาษาวัยรุ่น อิงชีวิตจริง มีกราฟ มีรูปสรุป มีอินโฟแบบเข้าใจง่าย มันทำให้ผมรู้สึกว่า “เฮ้ย ความรู้มันไม่ไกลตัวขนาดนั้นนี่หว่า” และผมก็เริ่มเข้าใจว่า คนรวยเขาไม่ได้รวยเพราะโชคช่วย แต่เพราะเขามี “ข้อมูล” และรู้ว่าเมื่อไหร่ควรซื้อ เมื่อไหร่ควรขาย
พูดถึงคนรวย ผมเคยรู้สึกหมั่นไส้นะ เห็นพวกไฮโซลงรูปกับรถหรู ลงรูปพอร์ตเขียวๆ แล้วเขียนแคปชั่นว่า “ตื่นมาก็มีเงินเข้า” ตอนนั้นผมคิดว่าเขาอวดเกินไป แต่พอผมเริ่มเรียนรู้จริงๆ ผมกลับรู้สึกเคารพเขานะ เพราะเขา “ทำการบ้าน” มากกว่าคนทั่วไปเยอะมาก เขาไม่ใช่แค่เทรดเก่ง แต่เขามีวินัย และรู้จักวางแผนชีวิต ผมเลยเปลี่ยนความหมั่นไส้ให้กลายเป็นแรงบันดาลใจ แล้วผมก็บอกตัวเองว่า “กูไม่ต้องอวดก็ได้ แต่อย่าจนไปตลอดชีวิตก็พอ”
ในขณะที่เพื่อนรุ่นเดียวกันกับผมบางคน ยังคิดว่าเงินคือเรื่องไกลตัว ผมกลับรู้สึกว่าเงินคืออาวุธที่ผมต้องใช้ตั้งแต่ตอนนี้ ไม่ใช่แค่เพื่อใช้จ่าย แต่เพื่อ “เอาตัวรอด” จากโลกที่แข่งขันกันทุกวัน ผมไม่ได้จะบอกว่าทุกคนควรเทรดคริปโต แต่ผมอยากให้คนรุ่นผมลองเปิดใจดูว่า ความรู้เรื่องการเงินมันเปลี่ยนชีวิตได้จริงๆ ไม่ใช่แค่หาเงินให้เยอะ แต่ทำยังไงให้เงินมันทำงานแทนเรา ผมเคยอ่านใน Blockdit เขาว่า “การเทรดคือการฝึกใจให้เย็นในวันที่คนอื่นกลัว” และผมเห็นด้วยมาก เพราะมีวันที่เหรียญร่วงหนักจนเพื่อนผมขายขาดทุน แต่ผมกลับเลือกจะ “ถือต่อ” เพราะผมเชื่อในข้อมูลที่ผมอ่าน ไม่ใช่แค่เชื่อลมปากในกลุ่ม Telegram
หลายครั้งที่ผมโดนคนรอบตัวแซวว่า “เด็กเทรดคริปโต เดี๋ยวก็เจ๊ง” ผมไม่โกรธนะ แต่ผมแค่ยิ้ม แล้วก็กลับไปเปิดกราฟต่อ เพราะผมรู้ดีว่า ผมไม่ได้เทรดเพื่อโชว์ใคร ผมเทรดเพื่อพิสูจน์ให้ตัวเองเห็นว่า ผมไม่ต้องรอให้เรียนจบ ไม่ต้องรออายุ 30 ผมก็สามารถสร้างฐานะได้ตั้งแต่วันนี้ ถ้าผมมีความรู้พอ และไม่ลืมควบคุมความโลภของตัวเอง
สุดท้าย ผมอยากบอกเพื่อนวัย 20 ทุกคนว่า โลกนี้มันไม่ยุติธรรม แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตแบบยอมแพ้ ผมไม่สนว่าใครจะมองว่าผม “เร่งรีบเกินไป” หรือ “คิดถึงเงินเกินไป” เพราะผมรู้ว่า การเป็นวัยรุ่นไม่ได้แปลว่าต้องโง่เรื่องเงิน และการโตไวไม่ได้แปลว่าโตผิดทาง ถ้าผมใช้ความรู้จาก Blockdit และจากการลงสนามจริงไปเรื่อยๆ ผมเชื่อว่า อีกไม่กี่ปีข้างหน้า ผมจะไม่ได้แค่รอด แต่จะ “รุ่ง” อย่างที่ผมวางแผนไว้
นี่แหละครับ ข้อดีของการเทรดคริปโตที่ผมได้เรียนรู้จาก Blockdit — ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่คือเรื่อง “วิธีคิด” ที่เปลี่ยนให้ผมกลายเป็นผู้ใหญ่ที่เข้าใจโลกเร็วกว่าเดิม
แล้วคุณล่ะ พร้อมจะโตแบบเข้าใจเงินแล้วหรือยัง?