ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


กู้เงินด่วนถูกกฎหมายแบบไหนดี ที่เหมาะกับเรา ไปเช็กกันหน่อย!

เมื่อเกิดเหตุการณ์จำเป็นต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วน การมองหาแหล่งกู้เงินด่วนถูกกฎหมายเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณสามารถแก้ปัญหาชีวิตได้อย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น แต่สำหรับคนที่เพิ่งเคยประสบปัญหาด้านการเงิน อาจจะยังไม่รู้ว่า ปัจจุบันรูปแบบการกู้เงินมีอะไรบ้าง และเพื่อช่วยให้คุณมีไอเดียในการนำไปแก้ปัญหาเงินขาดมือ วันนี้เรามีข้อแนะนำถึงรูปแบบการกู้เงินด่วนถูกกฎหมายมาฝากกัน พร้อมรายละเอียดที่คุณควรรู้เพื่อนำไปวางแผนชีวิต เพื่อช่วยให้การใช้จ่ายคล่องตัวยิ่งขึ้น


รูปแบบการกู้เงินด่วนถูกกฎหมาย
โดยทั่วไป สินเชื่อเงินด่วนถูกกฎหมายที่ธนาคารและสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-Bank) ให้บริการมักจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan) และ สินเชื่อเงินด่วนในรูปแบบบัตรกดเงินสด (Cash Card)

1. สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan)
สินเชื่อประเภทนี้เป็นการอนุมัติวงเงินก้อนใหญ่ครั้งเดียว และผู้กู้จะได้รับเงินโอนเข้าบัญชีโดยตรงในครั้งเดียว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินไปใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินหรือใช้จ่ายก้อนใหญ่ เช่น ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน ค่าซ่อมแซมบ้าน หรือค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา

วงเงินที่ได้รับ: หากต้องการกู้เงินด่วนถูกกฎหมายในรูปแบบนี้ สิ่งที่ควรรู้ก็คือ วงเงินจะขึ้นอยู่กับรายได้ของผู้กู้และนโยบายของสถาบันการเงินนั้นๆ โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 2-5 เท่าของรายได้ต่อเดือน หรือสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท ทั้งนี้ วงเงินและระยะเวลาผ่อนชำระจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้เป็นหลัก

อัตราดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยจะถูกกำหนดไว้เป็นอัตราคงที่ (Flat Rate) หรืออัตราลดต้นลดดอก (Effective Rate) โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 10-25% ต่อปี และมักจะมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดไว้ตามที่กฎหมายกำหนด

ระยะเวลาผ่อนชำระ: ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 12-60 เดือน ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่กู้และนโยบายของสถาบันการเงินนั้นๆ

เอกสารที่ใช้ประกอบการขอสินเชื่อ
-สำเนาบัตรประชาชน
-เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน หรือบัญชีธนาคารย้อนหลัง 3-6 เดือน
-สำเนาทะเบียนบ้าน (บางแห่งอาจไม่ใช้)

2. สินเชื่อเงินด่วนในรูปแบบบัตรกดเงินสด (Cash Card)
หากพูดถึงบริการกู้เงินด่วนถูกกฎหมายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน คงจะหนีไม่พ้นบัตรกดเงินสด เนื่องจากเป็นหนึ่งในทางเลือกที่สะดวกและรวดเร็วสำหรับผู้ที่ต้องการเงินด่วน โดยผู้กู้จะได้รับบัตรมาหนึ่งใบและสามารถนำไปกดเงินสดจากตู้ ATM ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติ ซึ่งข้อดีคือสามารถกดเงินสดได้ตามที่ต้องการและชำระคืนได้ตามความสามารถในการชำระหนี้ของตนเอง

วงเงินที่ได้รับ: วงเงินจะแตกต่างกันไปในแต่ละสถาบันการเงิน แต่ส่วนใหญ่จะให้วงเงินสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 5 เท่าของรายได้ต่อเดือน

อัตราดอกเบี้ย: โดยส่วนใหญ่แล้วจะคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate) และจะเริ่มคำนวณดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ทำการกดเงินสด ดอกเบี้ยสูงสุดอยู่ที่ 25% ต่อปี ตามที่กฎหมายกำหนด

การชำระคืน: การชำระคืนจะเป็นไปตามยอดที่ใช้ไป โดยสถาบันการเงินจะเรียกเก็บยอดชำระขั้นต่ำในแต่ละเดือน หากผู้กู้ชำระคืนมากกว่ายอดขั้นต่ำที่กำหนด เงินส่วนที่เกินจะนำไปตัดยอดเงินต้น ทำให้ดอกเบี้ยลดลง

เอกสารที่ใช้ประกอบการขอสินเชื่อ:
สำเนาบัตรประชาชน
เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน หรือบัญชีธนาคารย้อนหลัง 3-6 เดือน
สิ่งที่ควรรู้ก่อนการกู้เงินด่วน

ควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม: เพราะการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของแต่ละสถาบันการเงิน รวมถึงค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ค่าอากรแสตมป์ จะทำให้เราได้รับประโยชน์สูงสุดในการกู้เงิน

ความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงิน: ควรเลือกกู้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ได้รับใบอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจว่าจะไม่ถูกเอาเปรียบ

ความสามารถในการชำระหนี้: ก่อนตัดสินใจกู้เงิน ควรพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของตนเองอย่างถี่ถ้วน และไม่ควรสร้างภาระหนี้สินเกินตัว เพราะหากไม่สามารถชำระคืนได้ตามกำหนด อาจส่งผลเสียต่อประวัติเครดิตบูโร และอาจถูกดำเนินการทางกฎหมายได้ในที่สุด