ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


กรณีติดเครดิตบูโร ยื่นสินเชื่อได้ไหม?



ในโลกของธุรกิจ SME วันนี้ คำถามที่ได้ยินบ่อยที่สุดคือ “ถ้าติดเครดิตบูโร จะกู้ได้ไหม?” ความจริงก็คือ เครดิตบูโรไม่ใช่ประตูปิดตาย แต่เป็น “สัญญาณเตือน” ที่สถาบันการเงินใช้ดูความเสี่ยงของผู้กู้ และในปี 2568 ซึ่งสภาพเศรษฐกิจไทยยังโตไม่แรง (NESDC คาดการณ์ 1.8–2.3%) ธนาคารยิ่งต้องรอบคอบมากขึ้นในการปล่อยกู้ ทำให้ผู้ประกอบการที่อยากขอสินเชื่อsme ต้องวางกลยุทธ์และเตรียมตัวดีกว่าเดิม.

Insight ที่ SME ต้องรู้: บทบาทของเครดิตบูโรในสินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์

สินเชื่อธุรกิจ SME ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (Unsecured SME Loan) คือเครื่องมือทางการเงินที่เน้น “ความน่าเชื่อถือ” มากกว่าทรัพย์สินค้ำ ดังนั้น เครดิตบูโร และ กระแสเงินสด จึงเป็นปัจจัยหลักในการอนุมัติ

 emo55 กรณีเคยล่าช้า แต่เคลียร์หนี้หมดแล้ว: โอกาสยังมี โดยเฉพาะถ้าประวัติ 12–24 เดือนล่าสุดสะอาด ธนาคารอาจเลือกมองพฤติกรรมล่าสุดมากกว่าบาดแผลในอดีต

กรณียังมีหนี้ค้าง: ความเสี่ยงสูง โอกาสกู้ผ่านยากมาก เพราะถูกมองว่าอาจซ้ำรอยในอนาคต

NPL เกิน 90 วัน: เข้าข่ายสินเชื่อด้อยคุณภาพ โอกาสกู้ยาก แม้แต่ Non-Bank ก็มักปฏิเสธ เว้นแต่เลือกสินเชื่อฟื้นฟูเฉพาะกลุ่ม

มุมมองเชิงกลยุทธ์: การล่าช้าไม่ได้เหมือนกันทุกกรณี

 emo42 ในฐานะที่ปรึกษาด้านสินเชื่อ ผมมักบอกลูกค้าเสมอว่า “หนี้มีเรื่องเล่า” เพราะระยะเวลาและความถี่ในการล่าช้า ส่งผลต่างกันอย่างมากต่อการอนุมัติ

ล่าช้าไม่เกิน 30 วัน (ครั้งคราว) → ยังพออธิบายได้หากมีเหตุผล เช่น ปัญหาเอกสารหรือการโอนเงิน

ล่าช้า 60–90 วัน → เริ่มถูกจัดกลุ่มเสี่ยง ต้องมีแผนธุรกิจและการเงินที่แข็งแรงมาโน้มน้าว

เกิน 90 วัน (NPL) → ธนาคารแทบปิดประตู ยกเว้นมีการฟื้นฟูหรือค้ำประกันจากโครงการรัฐ

กลยุทธ์สำคัญคือ เปลี่ยน “เรื่องราวหนี้” ให้เป็น “บทเรียน” พร้อมแสดงให้สถาบันการเงินเห็นว่าคุณได้แก้ไขแล้วจริง ๆ เช่น การมี statement ที่สม่ำเสมอ การปิดหนี้ทั้งหมด และการควบคุม DSR (Debt Service Ratio) ให้ต่ำกว่า 50%

ปัจจัยที่สถาบันการเงินใช้ตัดสินใจ

1. รายได้และกระแสเงินสด
รายได้มั่นคงและเพียงพอคือกุญแจ แม้เครดิตมีรอย แต่ถ้า cash flow สวยงาม โอกาสอนุมัติก็สูงขึ้น สถาบันการเงินปี 2568 ให้ความสำคัญกับกระแสเงินสดย้อนหลัง 6–12 เดือน เพราะเศรษฐกิจยังชะลอตัว ธนาคารจึงเลือกผู้กู้ที่มีการหมุนเงินดี.

2. ลักษณะธุรกิจและอายุธุรกิจ
กิจการที่อยู่มามากกว่า 2–3 ปี ได้เปรียบเพราะมีประวัติชัดเจน ธุรกิจตามฤดูกาลอาจต้องแสดงเอกสารเสริม เช่น คำสั่งซื้อล่วงหน้า หรือสัญญาเช่าระยะยาว

3. ประเภทสถาบันการเงิน

ธนาคารพาณิชย์ → เงื่อนไขเข้ม แต่ดอกเบี้ยถูก

Non-Bank → ผ่อนปรนกว่า แต่ดอกเบี้ยสูงขึ้น

โครงการรัฐ/บสย. → ค้ำบางส่วน ช่วย SMEs ที่เครดิตไม่สมบูรณ์

แพลตฟอร์มดิจิทัล → ใช้ Alternative Credit Scoring เช่น พฤติกรรมการซื้อขายออนไลน์

วิธีเพิ่มโอกาสอนุมัติ แม้ติดเครดิตบูโร

1. เคลียร์หนี้ค้าง ปรับเครดิตให้สะอาดที่สุด
ปิดบัญชีหนี้ค้างทั้งหมด ขอหนังสือรับรองหนี้ และตรวจสอบรายงานเครดิตทุก 6 เดือน

2. สร้างประวัติการชำระใหม่
ชำระหนี้ที่มีอยู่ให้ตรงเวลา 6–12 เดือน เพื่อสร้าง track record ที่ดี

3. เลือกสถาบันที่เหมาะกับสถานะของคุณ
บาง Non-Bank และแพลตฟอร์มออนไลน์มองนอกกรอบเครดิตบูโร ลองเจรจาและเปรียบเทียบเงื่อนไข

4. ขอวงเงินเหมาะสม
อย่าขอเกินจริง เริ่มวงเงินเล็ก ๆ ที่สมเหตุสมผล สร้างเครดิตใหม่ ค่อยขยายภายหลัง

5. เตรียมเอกสารให้ครบ
งบการเงินย้อนหลัง 2–3 ปี, แผนธุรกิจ, statement ล่าสุด, สัญญาซื้อขายหรือ PO ระยะยาว

Insight เพิ่มเติม (ปี 2568)

อัตราดอกเบี้ยนโยบายไทย: ลดลงเหลือ 1.50% (ส.ค. 2568) ทำให้ต้นทุนกู้ยืมโดยรวมผ่อนลงเล็กน้อย แต่ยังขึ้นกับเครดิตและโปรไฟล์ธุรกิจ

การค้ำประกันสินเชื่อ บสย.: ปี 2568 บสย.ขยายโครงการค้ำประกันเพิ่ม เน้นช่วย SME ที่มีปัญหาเครดิตและไม่สามารถหาหลักทรัพย์ได้

Digital Lending: แพลตฟอร์มใหม่ ๆ เริ่มใช้ข้อมูลพฤติกรรม เช่น การจ่ายค่าน้ำไฟ/ค่าโทรศัพท์ มาเป็นตัวช่วยประเมินเครดิต (Alternative Scoring)

กลยุทธ์เชิงลึก: ถอดรหัสโอกาสกู้ในปีนี้

“ทำบัญชีให้โปร่งใส” → งบการเงินสะอาดคือเครื่องมือโน้มน้าวอันดับหนึ่ง

“เล่าเรื่องธุรกิจด้วยตัวเลข” → Projection 12 เดือนล่วงหน้า + KPI การเติบโต

“ใช้พันธมิตรช่วย” → หากมีสัญญาซื้อขายกับบริษัทใหญ่ ใช้เป็น leverage ต่อรองธนาคาร

“อย่ามองแค่ธนาคาร” → ปี 2568 ตลาด Non-Bank และ Digital Lending โตขึ้นกว่า 15% ให้โอกาสกลุ่มที่เคยถูกปฏิเสธ

สรุปใจความสำคัญ

การมีประวัติเครดิตไม่ดี ไม่ได้แปลว่า “กู้ไม่ได้” แต่หมายความว่าคุณต้อง วางกลยุทธ์และเตรียมเอกสารมากกว่าเดิม ปี 2568 เป็นปีที่ SME ต้องจัดการหนี้เก่า สร้างกระแสเงินสดให้มั่นคง และเลือกสถาบันการเงินที่เหมาะกับตัวเอง หากทำได้ครบ โอกาสกู้ผ่านยังมี แม้จะไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน

Call to Action
ถ้าคุณกำลังเจอสถานการณ์ติดเครดิตบูโร แต่ต้องการขอสินเชื่อsmeเพื่อเดินหน้าธุรกิจ ทีม EasyCashFlows สามารถช่วยคุณวางแผน ปรับโครงสร้างหนี้ และเตรียมเอกสารยื่นกู้ได้จริง


ที่มาสินเชื่อธุรกิจsmeไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน กรณีติดเครดิตบูโร