ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ดูดไขมัน พักฟื้นกี่วัน? ทุกสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจ

การดูดไขมันเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างให้สวยงามและกระชับขึ้น แต่คำถามที่มักเกิดขึ้นคือ “ดูดไขมัน พักฟื้นกี่วัน?” ซึ่งคำตอบนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณไขมันที่ดูดออก ตำแหน่งที่ทำการดูดไขมัน และวิธีการที่ใช้ โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่เข้ารับการดูดไขมันสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันเบา ๆ ได้ภายใน 1-3 วันหลังการผ่าตัด แต่การฟื้นตัวเต็มที่อาจใช้เวลานานกว่านั้น

ระยะเวลาพักฟื้นตามประเภทการดูดไขมัน
1. ดูดไขมันทั่วไป
หลังจากการดูดไขมันทั่วไป ผู้ป่วยมักจะมีอาการบวมและช้ำในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ซึ่งจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำงานหรือกิจกรรมเบา ๆ ได้ภายใน 5-7 วันหลังการผ่าตัด แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากในช่วง 2-4 สัปดาห์แรก
2. ดูดไขมันเฉพาะจุด
การดูดไขมันเฉพาะจุด เช่น ต้นแขน หน้าท้อง หรือเหนียง อาจมีระยะเวลาพักฟื้นที่สั้นกว่าการดูดไขมันทั่วไป เนื่องจากปริมาณไขมันที่ดูดออกมีน้อยกว่า โดยผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกิจกรรมเบา ๆ ได้ภายใน 2-5 วัน แต่ยังคงต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก

การดูแลตัวเองหลังการดูดไขมันเพื่อการฟื้นตัวที่รวดเร็ว
1. การสวมชุดกระชับสัดส่วน
การสวมชุดกระชับสัดส่วน (Compression Garment) เป็นสิ่งสำคัญหลังการดูดไขมัน เนื่องจากช่วยลดอาการบวม ช่วยให้ผิวหนังหดตัวกลับเข้าที่ และช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความเรียบเนียน โดยควรสวมชุดกระชับสัดส่วนตลอด 24 ชั่วโมงในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก และสามารถสวมเฉพาะตอนกลางวันในช่วง 3-4 สัปดาห์ถัดไป
2. การหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก
ควรงดกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก เช่น การยกของหนัก การออกกำลังกายหนัก ๆ ในช่วง 2-4 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
3. การรับประทานอาหารที่เหมาะสม
ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ โปรตีน และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น อาหารแปรรูป ของหมักดอง ซึ่งอาจทำให้อาการบวมเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ เพราะส่งผลต่อกระบวนการหายของแผล

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 19, 2025, 08:38:21 AM โดย กมลชนก »