สินเชื่อบ้านมือสอง ทางเลือกประหยัดที่ควรพิจารณา

[กมลชนก]

สำหรับผู้ที่ต้องการมีบ้านเป็นของตนเอง บ้านมือสอง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในยุคที่ราคาบ้านใหม่ยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเลือกซื้อบ้านมือสอง ไม่เพียงช่วยประหยัดงบประมาณ แต่ยังเปิดโอกาสให้ได้บ้านทำเลดีและมีศักยภาพสูง ซึ่งสามารถยื่นขอสินเชื่อบ้าน ได้ไม่ต่างจากบ้านใหม่ เพียงต้องมีการเตรียมตัวที่เหมาะสมและตรวจสอบทรัพย์สินอย่างรอบคอบก่อนการตัดสินใจ

ข้อแตกต่างระหว่างบ้านมือหนึ่งและมือสอง
บ้านมือหนึ่ง คือบ้านที่ยังไม่เคยมีเจ้าของมาก่อน มักเป็นบ้านจากโครงการใหม่ที่มีสภาพพร้อมอยู่ ส่วนใหญ่จะได้มาตรฐานเดียวกัน มีการรับประกันจากผู้พัฒนาโครงการ และมักสามารถขอสินเชื่อร่วมกับธนาคารที่มีความร่วมมือกับโครงการได้ทันที
ในขณะที่ บ้านมือสอง คือบ้านที่เคยมีเจ้าของหรือมีการอยู่อาศัยมาก่อน ราคามักจะต่ำกว่าบ้านใหม่ในพื้นที่ใกล้เคียง และสามารถเจรจาต่อรองราคาได้ การเลือกบ้านมือสองจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นในงบจำกัด หรือผู้ที่มองหาบ้านในทำเลที่โครงการใหม่อาจไม่มีแล้ว

ขั้นตอนการขอกู้ซื้อบ้านมือสอง
การยื่นขอ สินเชื่อบ้าน สำหรับบ้านมือสองไม่แตกต่างจากบ้านใหม่มากนัก แต่มีรายละเอียดเพิ่มเติมที่ควรใส่ใจ ดังนี้
ค้นหาทรัพย์ที่สนใจ โดยอาจเริ่มจากเว็บไซต์ขายบ้านมือสอง ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ หรือเครือข่ายคนรู้จัก
ตรวจสอบสถานะบ้านและเจ้าของ ว่าเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์โดยชอบ และไม่มีภาระผูกพัน เช่น จำนองหรือหนี้ค้างธนาคาร
ประเมินราคาบ้านและเตรียมเอกสาร เพื่อใช้ประกอบการยื่นกู้ เช่น สำเนาโฉนดบ้าน สัญญาจะซื้อจะขาย สลิปเงินเดือน เอกสารรายได้
ยื่นขอสินเชื่อกับธนาคาร โดยธนาคารจะส่งเจ้าหน้าที่ประเมินมูลค่าทรัพย์ พร้อมตรวจสอบประวัติทางการเงินของผู้กู้
โอนกรรมสิทธิ์และจดจำนอง เมื่อธนาคารอนุมัติสินเชื่อและผู้ซื้อวางเงินดาวน์ครบตามข้อตกลง

การประเมินราคาและสภาพทรัพย์
บ้านมือสองมีความหลากหลายด้านอายุการใช้งานและสภาพโครงสร้าง จึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้ครบถ้วนเพื่อให้ได้มูลค่าที่เหมาะสมกับราคาขาย และสอดคล้องกับวงเงินสินเชื่อที่ต้องการ

ตรวจสอบกรรมสิทธิ์
การตรวจสอบกรรมสิทธิ์ในบ้านที่กำลังจะซื้อควรทำที่สำนักงานที่ดิน โดยตรวจสอบว่า:
ชื่อเจ้าของปัจจุบันตรงกับผู้ขาย
ไม่มีข้อจำกัดหรือภาระจำกัด เช่น การจำนอง คดีความ หรือสิทธิบุคคลอื่นในที่ดิน
โฉนดเป็นประเภทที่สามารถซื้อขายและจดจำนองได้
หากมีข้อผิดพลาด อาจส่งผลต่อการยื่นขอสินเชื่อหรือทำให้ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้

ตรวจสภาพอาคารก่อนยื่นกู้
ควรตรวจสอบทั้งโครงสร้างภายนอกและระบบภายใน เช่น:
สภาพหลังคา พื้น ผนัง ประตู หน้าต่าง ว่ามีร่องรอยทรุดร้าวหรือไม่
ระบบไฟฟ้า ประปา และสุขาภิบาล ยังใช้งานได้ดีหรือควรปรับปรุง
สภาพแวดล้อมรอบบ้าน รวมถึงความสะดวกในการเดินทาง
ข้อมูลเหล่านี้ไม่เพียงช่วยในการตัดสินใจ แต่ยังมีผลต่อการประเมินมูลค่าทรัพย์ของธนาคาร