ในโลกของการแพทย์ยุคใหม่ ผู้คนเริ่มให้ความสำคัญกับการรักษาที่ปลอดภัย มีผลข้างเคียงน้อย และหลีกเลี่ยงการใช้ยาให้มากที่สุด หนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ คือ
การรักษาด้วยคลื่นกระแทก หรือที่เรียกว่า Shock Wave Therapy ซึ่งถูกนำมาใช้แพร่หลายทั้งในวงการแพทย์แผนปัจจุบันและกายภาพบำบัด เทคโนโลยีนี้ไม่ได้เพิ่งถูกค้นพบ แต่เดิมเริ่มต้นจากการใช้ในการสลายนิ่วในไต และต่อมาได้รับการพัฒนาให้สามารถใช้กับระบบกล้ามเนื้อ เอ็น ข้อต่อ และโครงสร้างของร่างกายส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันจึงเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการปวดเรื้อรัง นักกีฬาที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายอย่างรวดเร็ว หรือแม้แต่ผู้สูงอายุที่ต้องการเลี่ยงการผ่าตัด
Shock Wave Therapy คือเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงส่งผ่านเข้าสู่ร่างกายผ่านผิวหนังโดยไม่ต้องเจาะหรือผ่าตัด คลื่นเหล่านี้จะส่งพลังงานเข้าสู่เนื้อเยื่อที่ได้รับบาดเจ็บหรืออักเสบเพื่อกระตุ้นให้เกิดกระบวนการฟื้นฟูตามธรรมชาติของร่างกาย โดยเฉพาะในบริเวณที่มีปัญหาเลือดไหลเวียนไม่ดี หรือเกิดการอักเสบเรื้อรัง คลื่นกระแทกจะช่วยกระตุ้นให้มีการสร้างหลอดเลือดใหม่ เพิ่มการไหลเวียนของเลือดเข้าสู่จุดที่บาดเจ็บ ส่งผลให้กระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หลักการนี้ทำให้ Shock Wave Therapy กลายเป็นหนึ่งในวิธีรักษาที่ทรงพลังแต่ไม่รุกราน

ผลลัพธ์ที่ได้รับจากการทำ Shock Wave Therapy นั้นมีความน่าประทับใจในหลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นอาการรองช้ำที่ทำให้ปวดส้นเท้าในทุกย่างก้าว เอ็นอักเสบที่ข้อศอกหรือหัวไหล่ อาการไหล่ติดที่ขยับแขนได้ไม่สุด หรือแม้กระทั่งอาการปวดเรื้อรังที่หลังและคอที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยยาเพียงอย่างเดียว ล้วนสามารถดีขึ้นได้โดยไม่ต้องพักฟื้นนานหรือเสี่ยงต่อผลข้างเคียงจากการใช้ยาในระยะยาว หลายคนที่เคยต้องพึ่งยาแก้ปวดทุกวันเริ่มมีทางเลือกใหม่ที่ปลอดภัยและยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งช่วยให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติอีกครั้ง