ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


เซฟไลฟ์ เผยธุรกิจ ที่ภาคตะวันออกรุ่ง ยังคงครองแชมป์ เพราะจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร

ออฟไลน์ ThaiFranchise

  • รวมธุรกิจไทย!
  • *****
  • 1237
  • จุดนัดพบของคนทำธุรกิจแฟรนไชส์
    • ดูรายละเอียด
    • ศูนย์รวมข้อมูลแฟรนไชส์ใหญ่สุดในไทย
นางสุดา ดุษฎีวุฒิกุล กรรมการผู้จัดการ  บริษัท เซฟไลฟ์ อาร์.โอ.เทค (1999) จำกัด เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจตู้น้ำหยอดเหรียญในปัจุบันว่า "ในเรื่องของตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญน่าจะสดใสนะคะ เราได้เลือกตั้งกันไปแล้วและได้รัฐบาลกันแล้ว บรรยากาศทางเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น กระแสเงินก็คงจะสะพัดมากขึ้น การตัดสินใจลงทุนในธุรกิจตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญก็คงจะมีมากขึ้น ฟันธง ถ้าเศรษฐกิจดีตู้น้ำน่าจะกลับมาได้อย่างรวดเร็ว"

สำหรับผลดำเนินการของปีที่ผ่านมา เซฟไลฟ์ของเรายังคงครองตำแหน่งแชมป์ตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ ในภาคตะวันออกอย่างเหนียวแน่น เนื่องจากมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร จึงทำให้ครองแชมป์ได้ ซึ่งจุดเด่นก็คือสินค้ารูปทรงสวยงาม คุณภาพสูง บริการรวดเร็ว ซื่อสัตย์ดูแลลูกค้า แจ้งเหตุได้ 24 ชั่วโมง และคาดว่าปีนี้ก็น่าจะสดใส เพราะได้รัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้งแล้ว"

สถานการณ์ ธุรกิจ ตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญในปัจจุบัน ขอแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ ผู้ซึ่ง ซื้อตู้น้ำดื่ม จาก ผู้ผลิต มาตั้งเพื่อจำหน่ายน้ำดื่มจากตู้ในราคาเพียงลิตรละ 1 บาท ให้กับผู้คน ซึ่งถือว่าเป็นราคาจำหน่ายที่ถูกมากๆ ดังนั้นในแง่ของผู้เป็นเจ้าของตู้น้ำซึ่งตั้งจำหน่าย และมีการรักษาคุณภาพน้ำดื่มภายในตู้อย่างดีและบำรุงรักษาตู้ให้สะอาดอยู่สม่ำเสมอก้อจะมีลูกค้ามากดประจำมากขึ้นเรื่อยๆ และจะส่งผลให้มีผลประกอบการที่ดีขึ้น ไม่ว่าเศรษฐกิจจะขาขึ้นหรือขาลงก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับธุรกิจนี้ เพราะน้ำดื่มมีคุณภาพ จำหน่ายในราคาถูก เป็นสิ่งจูงใจลูกค้าอยู่แล้วนะคะ และถ้าเศรษฐกิจเป็นขาลง ผู้คนก็น่าจะมาใช้บริการ จากตู้กันมากขึ้น เพราะทุกคนก็ต้องการประหยัดและรัดเข็มขัดมากขึ้น

          สรุป กลุ่มผู้จำหน่ายน้ำจากตู้ ไม่น่าจะมีปัญหาทำให้ผลประกอบการลดลงนะคะ คิดว่าผลประกอบการน่าจะดีขึ้นด้วยซ้ำไป



กลุ่มที่สอง      คือผู้ผลิตตู้ไว้จำหน่ายให้กับกลุ่มที่ 1 และลงทุนในธุรกิจจำหน่ายน้ำผ่านตู้จำหน่ายน้ำดื่มด้วย คือเป็นแบบกลุ่มแรกด้วยในตัว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการหลักในตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ ผลประกอบการในส่วนการจำหน่ายตู้อาจจะกระทบบ้างแต่ก็น่าจะชดเชยได้จากผลประกอบการ และ จำหน่ายน้ำดื่มผ่านตู้น้ำดื่มในราคาเพียงลิตรละ 1 บาท

กลุ่มที่สองคือผู้ประกอบการหลัก เนื่องจากธุรกิจตู้น้ำเป็นธุรกิจที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับสังคมและชุมชนให้ได้รับน้ำดื่มสะอาดในราคาประหยัดพร้อมความสะดวกสบาย เพราะตู้น้ำมาตั้งในชุมชนเลย ผลประกอบการไม่น่าจะลดลง น่าจะไปได้ดี



กลุ่มที่สาม      คือกลุ่มผู้ผลิตตู้น้ำเพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มที่ 1 ซึ่งมีอยู่มาก และไม่ใช่ผู้ประกอบการหลักมักจะเป็นตู้ราคาถูกๆ คุณภาพตามราคาคะ มีการเปลี่ยนยี่ห้อไปทุกปีและเมื่อปี 50 เศรษฐกิจซบเซา ก็ด้ำราคากันสุดๆ คุณภาพสินค้าก็ตามราคาสินค้า  คิดว่าลูกค้าที่ใช้บริการตู้น้ำ กลุ่มนี้ ก็คงจะเข้าใจดี กับคำที่ว่า "ของดี มีต้นทุน" ของดีก็ไม่สามารถทำราคาถูกได้ เพราะจะทำให้ผู้ประกอบการต้องขาดทุนในธุรกิจ กลุ่มนี้น่าจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ ผลประกอบการน่าจะลดลงเองในที่สุด

ด้านแผนดำเนินการในปีนี้และปีต่อไป นางสุดา กล่าวต่อว่า "จะยังคงดำเนินตาม สโลแกน เซฟไลฟ์เพื่อชีวิต หรือ "Savelife for Life" คือการเผยแพร่ น้ำดื่มเซฟไลฟ์ให้กับสังคมไทย และคนไทยได้ดื่มน้ำเซฟไลฟ์ทั่วถึงมากขึ้นพร้อมกับการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับน้ำระบบ R.O. ไปในเวลาเดียวกัน เราจะรณรงค์ให้ผู้คนในสังคมดื่มน้ำ R.O. กันมากๆ เพราะน้ำคือโครงสร้าง 70-80% ของร่างกายมนุษย์ ดั่งพระราชดำรัส  "น้ำคือชีวิต"

          ดังนั้นปีนี้จะมีการปรับแผนการตลาดเพิ่มให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อที่จะได้กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายเพื่อเพิ่มยอดขาย และเพื่อเป้าหมายในการรณรงค์ให้สังคม และชุมชน ได้ดี่มน้ำสะอาดเพื่อสุขภาพ มากขึ้น เพื่อชีวิตที่ปลอดสารพิษที่ตกค้างในน้ำดื่ม ดังนั้นการดื่ม น้ำดื่มเซฟไลฟ์เป็นประจำก็จะทำให้ร่างกายแข็งแรงเนื่องจากไม่ได้รับพิษที่ตกค้างในน้ำดื่ม ดังนั้นน้ำดื่มเซฟไลฟ์จิงเป็นน้ำดื่ม"เพื่อชีวิตและสุขภาพค่ะ"

รวมถึงได้วางแนวทางในการเพิ่มช่องทางในการเพิ่มลูกค้าในกลุ่มเครื่องผลิตน้ำดื่ม ที่ใช้ในครัวเรือน สำนักงาน อาคารสูง และนิคมอุตสาหกรรมโดย การเปิดให้ลูกค้ากลุ่มนี้ มีทางเลือกมากกว่าเดิมซึ่งจากปกติที่ต้องซื้อสินค้าไปใช้ดื่มทานที่บ้าน ในปีนี้เราจะเพิ่มช่องทางตัวเลือก เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เพราะไม่ซื้อก้อสามารถ มีน้ำดื่ม เซฟไลฟ์ ไว้ดื่มทานได้ นั่นคือ การให้เช่าเครื่องผลิตน้ำดื่มเซฟไลฟ์ ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องรับภาระจ่ายค่าบำรุงรักษา และยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ไม่บานปลาย คือให้เช่าเครื่องผลิตน้ำดื่ม ทั้งแบบตั้งโต๊ะ อุณหภูมิปกติ และแบบตั้งพื้น ผลิตได้ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็นในเวลาเดียวกัน ด้วยราคาต่อวันที่ 25 ถึง 35 บาท ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกใช้ได้ คามความเหมาะสมค่ะ การเช่าเครื่องผลิตน้ำดื่มมาใช้ในครัวเรือนหรือสำนักงานจะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการซื้อน้ำบรรจุขวดมาดี่มเสียอีกค่ะ และยังช่วยลดการนำเข้าเม็ดพลาสติก ทำให้สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ เกิดสภาวะโลกร้อนด้วย เป็นการช่วยสังคมรณรงค์เรื่องภาวะโลกร้อนไปในตัว เราคิดว่า แผนงานการตลาดให้เช่าเครื่องผลิตน้ำดื่มนี้ ถ้าเราทำการตลาดอย่างจิงจัง ถึงลูกถึงคน ให้ข้อมูลและลายละเอียดถึงตัวลูกค้าก้อน่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเพื่อ  "เซฟไลฟ์ เพื่อชีวิต"

ด้านโอกาสการลงทุนทำธุรกิจในปีนี้กับเซฟไลฟ์ จะเน้นเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมลงทุนในธุรกิจ ในรูปแบบตัวแทนจำหน่าย โดยมุ่งเน้นในเขตภาคตะวันออกและจะขยายไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือปีหน้า เซฟไลฟ์ต้องการให้ น้ำดื่มสะอาด ปราศจากเชื้อโรคที่ตกค้างในน้ำให้ทุกคนได้ดื่ม แต่ในพื้นที่หลายพื้นที่ เราไม่สามารถไปตั้งสาขาเองได้ เราจะเปิดรับตัวแทนจำหน่ายในเขตพื้นที่ ที่ไม่มีสาขาของเซฟไลฟ์อยู่ ดังนั้นขอเชิญชวนนักลงทุนและผู้สนใจเข้าร่วมทำธุรกิจน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ ร่วมอุดมการเผยแพร่น้ำเพื่อชีวิต สนใจติดต่อเข้ามาได้ ที่เบอร์ 02-287-3562-9 และ  081-375-2505 หรือใน Website ที่ www.saveliferotech.com



ติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ ได้ที่
พีอาร์โฟกัส (สุดารัตน์  : 02 720 4821-4 , 086 341 2973)
ThaiFranchiseCenter.com | รวมธุรกิจไทย!