ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


เครื่องฟอกอากาศในห้องนอน จำเป็นไหม? นี่คือคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญ

ในยุคที่อากาศเต็มไปด้วยฝุ่น PM2.5 และสารก่อภูมิแพ้ การมี “เครื่องฟอกอากาศในห้องนอน” กลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับใครหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการคุณภาพการนอนที่ดีขึ้น และลดปัญหาสุขภาพระยะยาว วันนี้เรามาเจาะลึกกันว่าเครื่องฟอกอากาศที่ใช้ในห้องนอนควรเป็นแบบไหน เลือกอย่างไรให้คุ้มค่า และตอบโจทย์การใช้งานจริง
ทำไมห้องนอนถึงควรมีเครื่องฟอกอากาศ?
เพราะร่างกายซ่อมแซมตัวเองตอนนอน
 เวลากลางคืนเป็นช่วงที่ร่างกายฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเอง การนอนในอากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่น ละอองเกสร หรือสาร VOC อาจส่งผลเสียโดยไม่รู้ตัว เช่น การจามตอนกลางคืน ตื่นมาด้วยอาการคัดจมูก หรือหลับไม่สนิท เมื่อคุณหายใจเอาอากาศไม่สะอาดเข้าไปตลอดคืน ย่อมมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันในระยะยาว


ห้องนอนคือพื้นที่ปิด
 โดยทั่วไป ห้องนอนมักไม่มีระบบถ่ายเทอากาศที่ดี ทำให้ฝุ่น กลิ่น และมลภาวะสะสมได้ง่ายกว่าพื้นที่อื่น การใช้เครื่องฟอกอากาศจะช่วยให้อากาศในห้องไหลเวียนและสะอาดขึ้น ช่วยลดโอกาสสะสมของเชื้อโรคและกลิ่นอับที่อาจส่งผลเสียต่อการนอนหลับ

เลือกเครื่องฟอกอากาศสำหรับห้องนอน ต้องดูอะไรบ้าง
เริ่มจากขนาดของห้อง ถ้าคุณพักอาศัยในห้องที่มีพื้นที่ 15–25 ตารางเมตร ควรเลือกเครื่องที่มีค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) ประมาณ 150–250 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง เพื่อให้สามารถฟอกอากาศได้ทั่วถึง
ระดับเสียงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ เครื่องที่เหมาะกับห้องนอนควรมีระดับเสียงต่ำ ไม่เกิน 30 เดซิเบลในโหมดกลางคืน ซึ่งเทียบเท่ากับเสียงกระซิบ โดยเฉพาะสำหรับคนที่หลับยาก หรือแพ้ง่าย เสียงพัดลมที่เบาจะไม่รบกวนการนอน และไม่ทำให้คุณตื่นกลางดึกโดยไม่จำเป็น
ระบบกรองก็สำคัญไม่แพ้กัน เครื่องที่มีแผ่นกรอง HEPA ประสิทธิภาพสูงสามารถกรองฝุ่น PM2.5 ละอองเกสร สารก่อภูมิแพ้ หรือเชื้อราในอากาศได้ถึง 99.97% หากมีแผ่นกรองคาร์บอนด้วย จะยิ่งช่วยกำจัดกลิ่นอับ กลิ่นสัตว์เลี้ยง หรือกลิ่นบุหรี่ในห้องได้ดีขึ้น
ฟังก์ชันเสริมอย่าง Sleep Mode หรือการตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติ ก็เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับการใช้งานกลางคืน เพราะช่วยให้คุณประหยัดพลังงาน ลดแสงรบกวนจากหน้าจอ และไม่ต้องลุกขึ้นมากดปิดเครื่องตอนดึก

ใครบ้างที่ควรใช้เครื่องฟอกอากาศในห้องนอน
ไม่ใช่แค่คนที่เป็นภูมิแพ้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่พักอาศัยในคอนโดใกล้ถนนใหญ่ พื้นที่การจราจรหนาแน่น หรือบริเวณที่มีฝุ่นสะสม เครื่องฟอกอากาศสามารถช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากโรคระบบทางเดินหายใจ และทำให้คุณภาพการนอนดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เครื่องฟอกอากาศในห้องนอนคือการลงทุนเพื่อสุขภาพระยะยาว
ห้องนอนเป็นพื้นที่ที่เราใช้เวลาอย่างน้อยวันละ 6–8 ชั่วโมง อากาศที่สะอาดและปลอดฝุ่นในห้องจึงมีผลต่อสุขภาพมากกว่าที่หลายคนคิด การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมกับขนาดห้อง เสียงเบา กรองอากาศได้ดี และใช้งานง่าย จะช่วยให้คุณหลับสบายขึ้นทุกคืน และตื่นมาพร้อมความสดชื่นในทุกเช้า