ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 101 ต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโด



   การซื้อคอนโดมิเนียมเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะในด้านการเงินและการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย บทความนี้จะแนะนำข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสินเชื่อเพื่อ
การซื้อคอนโดที่ทุกคนควรรู้ก่อนตัดสินใจ

เข้าใจสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย

สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือที่เรียกว่า "เงินกู้ซื้อบ้านหรือคอนโด" เป็นเงินกู้ระยะยาวที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินให้แก่ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย โดยทรัพย์สินที่ซื้อจะถูกใช้เป็นหลักประกันเงินกู้ ระยะเวลาผ่อนชำระมักอยู่ที่ 20-30 ปี ขึ้นอยู่กับความสามารถในการผ่อนชำระและนโยบายของแต่ละสถาบันการเงิน

ตรวจสอบความพร้อมก่อนขอสินเชื่อซื้อคอนโด

การขอสินเชื่อเพื่อซื้อคอนโดเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความรอบคอบในการเตรียมตัว เพื่อให้การอนุมัติผ่านได้อย่างราบรื่น และเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาหลังจากการกู้เงิน มาเริ่มต้นกันที่การตรวจสอบความพร้อมก่อนการขอสินเชื่อกันดีกว่า

  • เงินดาวน์: โดยทั่วไปธนาคารจะกำหนดให้มีเงินดาวน์ประมาณ 10-20% ของราคาคอนโด ดังนั้นควรเตรียมเงินส่วนนี้ให้พร้อม
  • ความสามารถในการผ่อนชำระ: ควรคำนวณค่าใช้จ่ายรายเดือนทั้งหมดว่าสามารถรับภาระค่าผ่อนได้หรือไม่ โดยทั่วไปค่าผ่อนไม่ควรเกิน 30-40% ของรายได้สุทธิต่อเดือน
  • ประวัติเครดิต: ตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโรของตนเองก่อนยื่นขอสินเชื่อ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีประวัติติดค้างชำระหนี้

ประเภทของอัตราดอกเบี้ย

ผู้ขอสินเชื่อเพื่อซื้อคอนโดหรือบ้าน ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่มีให้เลือกอย่างชัดเจน เพื่อการตัดสินใจรับหน้าที่ผ่อนชำระได้อย่างปลอดภัย ดังนี้

  • อัตราดอกเบี้ยคงที่: อัตราดอกเบี้ยจะไม่เปลี่ยนแปลงในช่วงระยะเวลาหนึ่ง มักเป็น 1-3 ปีแรก ทำให้สามารถวางแผนการเงินได้แน่นอน
  • อัตราดอกเบี้ยลอยตัว: อัตราดอกเบี้ยจะปรับเปลี่ยนตามอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของตลาด เช่น MLR (Minimum Loan Rate) ซึ่งอาจทำให้ค่างวดเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้
  • อัตราดอกเบี้ยแบบผสม: เป็นการผสมผสานระหว่างอัตราดอกเบี้ยคงที่ในช่วงแรกและปรับเป็นอัตราลอยตัวในช่วงหลัง

ค่าใช้จ่ายแฝงที่ต้องคำนึงถึง

  • ค่าธรรมเนียมการจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้ (อาจมีโปรโมชั่นยกเว้น)
  • ค่าประเมินหลักทรัพย์ ประมาณ 3,000-5,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ 2% ของราคาประเมิน (บางโครงการอาจรับผิดชอบให้บางส่วน)
  • ค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของวงเงินกู้
  • ค่าประกันอัคคีภัยและประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ

เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายธนาคาร

  • อัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาโปรโมชั่น
  • วงเงินกู้สูงสุดที่อนุมัติได้ (LTV - Loan to Value)
  • ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด
  • ค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • เงื่อนไขการชำระเงินคืนก่อนกำหนด

การซื้อคอนโดเป็นการตัดสินใจสำคัญที่ต้องพิจารณาปัจจัยด้านการเงินอย่างรอบคอบ การเข้าใจเรื่องสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด และสามารถเลือกข้อเสนอที่เหมาะสมกับความสามารถทางการเงินของตนเองมากที่สุด อย่าลืมว่าการซื้อคอนโดไม่ใช่เพียงแค่การหาที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นการลงทุนระยะยาวที่จะส่งผลต่อสถานะทางการเงินของคุณในอนาคตอีกด้วย