สอบ SAT กับการเตรียมตัวด้านภาษาอังกฤษอย่างได้ผลทำไมทักษะภาษาอังกฤษจึงเป็นหัวใจของการสอบหลายคนเมื่อได้ยินคำว่า
สอบ SAT มักนึกถึงคณิตศาสตร์เป็นอันดับแรก แต่ในความเป็นจริง ส่วนของ Reading and Writing มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน การทำคะแนนในพาร์ตนี้ได้ดีไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากคำศัพท์ที่ใช้จะมีความซับซ้อนแล้ว ยังต้องเข้าใจโครงสร้างภาษาและวิเคราะห์เนื้อหาเชิงลึกภายใต้เวลาที่จำกัด
ส่วน Reading และ Writing วัดอะไรบ้างReading: ทดสอบการตีความ
บทความในพาร์ตนี้มีความหลากหลาย ทั้งเชิงวิชาการ ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสังคมศาสตร์ ผู้สอบต้องจับใจความ วิเคราะห์เจตนาของผู้เขียน และตีความข้อมูลจากกราฟหรือตารางร่วมด้วย
Writing and Language: วัดความรู้ไวยากรณ์
ข้อสอบส่วนนี้เน้นการตรวจสอบและแก้ไขประโยค โดยให้ผู้สอบเลือกคำหรือโครงสร้างที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง tense, punctuation หรือการจัดวางประโยคให้ลื่นไหล
ความเร็วคืออีกหนึ่งความท้าทาย
แม้จะเป็นคำถามแบบปรนัย แต่ข้อสอบถูกออกแบบให้มีเวลาต่อข้อน้อย ผู้สอบจึงต้องฝึกอ่านเร็วแบบมีประสิทธิภาพ และเลือกคำตอบได้อย่างมั่นใจ
เทคนิคพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสอบอ่านบทความภาษาอังกฤษทุกวัน
การอ่านนิวยอร์กไทมส์, The Economist หรือบทความจาก College Board ช่วยให้คุ้นชินกับภาษาระดับสูง สำนวนทางวิชาการ และแนวทางการเขียนที่มักปรากฏในการสอบ
เพิ่มคลังคำศัพท์
ควรเน้นคำศัพท์ที่ใช้บ่อยในบริบทเชิงวิชาการ เช่น analyze, indicate, imply, assert รวมถึงคำเชื่อมที่ช่วยจับโครงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประโยค เช่น however, therefore, despite
ฝึกทำข้อสอบจำลอง
การทำแบบฝึกหัดที่ออกแบบตามแนวจริงจะช่วยให้สามารถประเมินความเร็ว ความแม่นยำ และจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุง ทั้งนี้ควรจับเวลาเสมือนสอบจริงเพื่อฝึกสมาธิและความทนต่อแรงกดดัน
สรุปการเตรียมสอบ SAT ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การฝึกคำนวณ แต่ต้องให้ความสำคัญกับทักษะภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง เพราะส่วน Reading และ Writing มีน้ำหนักคะแนนรวมถึงครึ่งหนึ่งของข้อสอบทั้งหมด หากมีพื้นฐานภาษาแน่น พร้อมกลยุทธ์ในการอ่านและเข้าใจบทความได้อย่างรวดเร็ว โอกาสทำคะแนนดีในสนามสอบก็จะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และยังเป็นการปูทางไปสู่ความสำเร็จในการเรียนระดับมหาวิทยาลัยอีกด้วย
