เลือกก่อนฉีด! ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? รวมแบรนด์ดังที่หมอแนะนำ พร้อมวิธีเช็กของแท้ ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? เป็นคำถามสำคัญเพราะมีฟิลเลอร์หลายยี่ห้อให้เลือก ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นเฉพาะตัวและเหมาะกับปัญหาต่างกัน การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมช่วยให้ได้ผลลัพธ์ตรงใจและปลอดภัยสูงสุด
บทความนี้จะแนะนำ 3 แบรนด์ยอดนิยมที่ได้รับการรับรองจาก อย. ได้แก่ Juvederm จากอเมริกา, Restylane จากสวีเดน และ Belotero จากสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมคำแนะนำในการเช็กฟิลเลอร์ของแท้แต่ละยี่ห้อ
ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? แนะนำ 3 แบรนด์ดังที่แพทย์ไว้วางใจ เมื่อพูดถึงฟิลเลอร์ หลายคนอาจสงสัยว่าควรเลือก
ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? ในหัวข้อนี้เรามี 3 แบรนด์ฟิลเลอร์ดังที่แพทย์แนะนำ มาฝากค่ะ ไปดูกันเลยว่าแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นอย่างไร และมีรุ่นไหนบ้างที่นิยมใช้กันค่ะ
1. Juvederm – ฟิลเลอร์อเมริกา ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm จากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นคำตอบแรก ๆ เมื่อถามว่าฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ด้วยการผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยทั้ง Hylacross Technology และ Vycross Technology ในการผลิต ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องการยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทนต่อการขยับของใบหน้าได้ดีเยี่ยม และคงอยู่ได้ยาวนาน
โดย Juvederm จะมีหลากหลายรุ่น ที่ออกแบบมาให้แพทย์เลือกใช้เหมาะสมกับจุดฉีดที่แตกต่างกัน ได้แก่
1.
Juvederm Ultra Plus XC ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความฟูมาก อยู่ได้นาน 12 เดือน
2.
Juvederm Voluma ฟิลเลอร์เนื้อทน ฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง อยู่ได้นาน 18 เดือน
3.
Juvederm Volbella ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด โมเลกุลมีความละเอียดมากที่สุด อยู่ได้นาน 12 เดือน
4.
Juvederm Volift ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม โมเลกุลมีความละเอียดมากกว่ารุ่น ultra plus เหมาะกับคนที่ผิวบาง อยู่ได้นาน 12 เดือน
5.
Juvederm Volite ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
6.
Juvederm Volux ฟิลเลอร์เนื้อทน มีความยืดหยุ่นสูง คงรูปได้ดีที่สุด ปั้นทรงได้สวย อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
2. Restylane – ฟิลเลอร์สวีเดน ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane ถือเป็นแบรนด์สำหรับผู้ที่กำลังมองหาฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีที่มีประวัติการใช้งานยาวนานที่สุดในโลก ผลิตจากประเทศสวีเดน โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ ทั้ง NASHA Technology และ OBT Technology ซึ่งทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง สามารถเคลื่อนไหวไปตามการขยับของใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมทั้งคงรูปได้ยาวนาน
โดย Restylane มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากถึง 8 รุ่น เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ได้แก่
1.
Restylane Perlane lyft ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ไม่ฟู มีความคงตัวสูง คงรูปได้ดี อยู่ได้นาน 12 เดือน
2.
Restylane Vital Light ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ เนื้อเจลอนุภาคเล็ก มีความละเอียดที่สุด อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
3.
Restylane Vital ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย ให้ผลลัพธ์เรียบเนียน เป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 12 เดือน
4.
Restylane Volyme ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ใช้เติมเต็มผิวส่วนที่โหลลึกหรือตอบให้อิ่มฟูขึ้น อยู่ได้นาน 18 เดือน
5.
Restylane Defyne ฟิลเลอร์เนื้อทน มีความนิ่มปานกลางและยืดหยุ่นสูง ใช้ฉีดแทนกระดูกที่ยุบตัวในผิวชั้นลึก อยู่ได้นาน 18 เดือน
6.
Restylane Refyne ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีความยืดหยุ่น ใช้เติมริ้วรอยร่องลึกที่เกิดจากการยิ้ม อยู่ได้นาน 12 เดือน
7.
Restylane Classic ฟิลเลอร์เนื้อแน่น เนื้อเจลอนุภาคใหญ่ ใช้แก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลาง-มาก อยู่ได้นาน 12 เดือน
8.
Restylane Kysse ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีความคงตัวสูง ออกแบบมาสำหรับเติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ อยู่ได้นาน 12 เดือน
3. Belotero – ฟิลเลอร์สวิตเซอร์แลนด์ Belotero หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Colorful Filler" จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเมื่อถามหาฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ด้วยเทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ซึ่งเป็นนวัตกรรมเฉพาะที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความแน่นและยืดหยุ่นในระดับที่เหมาะสม ส่งผลให้เมื่อฉีดแล้วสามารถคงรูปได้ดี และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
ซึ่งมีรุ่นฟิลเลอร์ Belotero ที่นิยมใช้ ได้แก่
1.
Belotero Intense ฟิลเลอร์เนื้อทน มีความยืดหยุ่นสูง ใช้แก้ปัญหาร่องลึกจากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนัง อยู่ได้นาน 18 เดือน
2.
Belotero Volume ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความยืดหยุ่นและคงตัวสูง อยู่ได้นาน 18 เดือน
3.
Belotero Soft ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีโมเลกุลเล็ก อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
4.
Belotero Revive ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ มีส่วนประกอบของกลีเซอรอล เพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื้น บำรุงผิวอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว และลดริ้วรอยเล็ก ๆ อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
ทั้งนี้ นอกจาก 3 แบรนด์หลักแล้ว ยังมีฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้อย่างปลอดภัย เช่น ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Definisse (อิตาลี), Teoxane (สวิตเซอร์แลนด์), Flore และ Neuramis (เกาหลี)
วิธีเช็กฟิลเลอร์ของแท้แต่ละยี่ห้อ การเลือกฟิลเลอร์ที่ปลอดภัย ควรตรวจสอบว่าฟิลเลอร์ที่ใช้นั้นเป็นของแท้ทุกครั้ง เนื่องจากปัจจุบันในตลาดมีทั้งฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว ที่ฉีดแล้วอาจทำให้เกิดอันตรายอย่างไม่คาดคิด อีกทั้งยังแก้ไขได้ยาก ดังนั้น ก่อนจะไปฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี เรามาดูวิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์ของแท้แต่ละยี่ห้อกันค่ะ
วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ Juvederm - ตรวจสอบว่ามี เลขทะเบียน อย. และเอกสารภาษาไทยอยู่ภายในกล่องขนาด 2 cc
- เลข lot ต้องตรงกัน ใน 4 จุดสำคัญ ได้แก่ เลข lot ที่กล่อง ซอง สติกเกอร์ และหลอด
- สอบถามเลข lot หรือตรวจสอบคลินิกที่ได้รับการรับรองได้ที่ บริษัท Allergan (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-640-4999 ต่อ 1
วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ Restylane 1. กล่องต้องมี รอยปรุเปิดง่าย พร้อม เลขทะเบียน อย. และเอกสารภาษาไทยในกล่อง
2. มาพร้อม สติกเกอร์โมโนแกรม "VOID" เพื่อป้องกันการปลอมแปลง
3. ตรวจสอบ เลข lot ให้ตรงกัน 2 จุด ได้แก่ ข้างกล่องและหลอด
4. สามารถ สแกน QR CODE ด้วยแอป Eztracker เพื่อตรวจสอบความแท้ของผลิตภัณฑ์
5. หากต้องการยืนยันเพิ่มเติม โทรสอบถามที่ บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) เบอร์ 02-023-1800 ต่อ 402
วิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ Belotero 1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามี เลขทะเบียน อย. และเอกสารภาษาไทยอยู่ในกล่อง ซึ่งมีขนาด 2 cc
2. เลข lot ต้องตรงกัน 3 จุด ได้แก่ เลข lot บนกล่อง สติกเกอร์ และหลอด
3. หากต้องการตรวจสอบเพิ่มเติม สามารถโทรสอบถามข้อมูลเลข lot และยืนยันคลินิกที่บริษัท Merz Healthcare โทร. 02-229-9696
สรุป เลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีให้เหมาะกับใบหน้า หากต้องการคำตอบว่าควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีนั้น ฟิลเลอร์แบรนด์ดังอย่าง Juvederm, Restylane และ Belotero ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษากับแพทย์มากประสบการณ์ก่อนฉีดทุกครั้ง เพื่อให้แพทย์แนะนำรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว ปัญหาที่ต้องการแก้ไข และงบประมาณ รวมถึงอย่าลืมเช็กฟิลเลอร์ที่ฉีดกับคลินิกให้แน่ใจก่อนว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ เพื่อความปลอดภัยและการเห็นผลลัพธ์ที่ดี