ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


อาการไข้หวัดใหญ่ เป็นอย่างไร สามารถรักษาไข้หวัดใหญ่ด้วยตัวเองได้ไหม

อาการไข้หวัดใหญ่

เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง หลายคนคงเริ่มกังวลกับโรคยอดฮิตอย่าง "ไข้หวัดใหญ่" โรคที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากป่วย เพราะนอกจากจะทำให้รู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัวแล้ว ยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันและอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้ แล้วอาการไข้หวัดใหญ่มีอะไรบ้าง แตกต่างจากไข้หวัดธรรมดาอย่างไร บทความนี้ จะพาไปรู้จักกับโรคไข้หวัดใหญ่ เพื่อเตรียมตัวป้องกันและดูแลตนเองได้อย่างถูกวิธี เพื่อให้ทุกคนสามารถรักษาไข้หวัดใหญ่ด้วยตัวเอง

อาการไข้หวัดใหญ่ เป็นอย่างไรบ้าง
โรคไข้หวัดใหญ่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งอาการของไข้หวัดใหญ่จะคล้ายคลึงกับไข้หวัดธรรมดา แต่จะรุนแรงกว่าและเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน โดยทั่วไป ผู้ป่วยจะมีอาการไข้หวัดใหญ่ ดังต่อไปนี้

1.อาการไข้หวัดใหญ่ทั่วไป
  • ไข้สูง 39-40 องศาเซลเซียส
  • หนาวสั่น เหงื่อออก
  • ปวดศีรษะ
  • อ่อนเพลียอย่างมาก
  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
  • เบื่ออาหาร คลื่นไส้

2.อาการไข้หวัดใหญ่ทางระบบทางเดินหายใจ
  • เจ็บคอ
  • คอแดง
  • ไอแห้ง ๆ
  • มีน้ำมูกใส ๆ

3.อาการไข้หวัดใหญ่อื่น ๆ เช่น ตาแดง หรือในเด็กเล็กอาจมีอาการท้องเสีย คลื่นไส้อาเจียน

สำหรับอาการไข้หวัดใหญ่นี้ จะมีระยะฟักตัวไข้หวัดใหญ่อยู่ที่ 1 - 4 วัน โดยเฉลี่ยประมาณ 2 วัน ซึ่งอาการจะรุนแรงที่สุดในช่วง 2 - 3 วันแรก และสามารถหายจากโรคภายใน 5 - 7 วัน ทั้งนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ หากมีอาการของไข้หวัดใหญ่รุนแรงมากขึ้น ดังต่อไปนี้

  • มีไข้เกิน 24-48 ชั่วโมง
  • หายใจหอบ หรือหายใจลำบาก
  • เจ็บหรือแน่นหน้าอก
  • หน้ามืด เป็นลม สับสน หน้ามืด
  • อาเจียน รับประทานอาหารไม่ได้
  • เด็กเล็กมีอาการชัก
  • ผู้สูงอายุมีอาการซึมลง สับสน

อาการไข้หวัดใหญ่ VS อาการไข้หวัด แตกต่างกันอย่างไร?
ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) และไข้หวัด (Common cold) เกิดจากเชื้อไวรัสต่างชนิดกัน แม้ว่า อาการจะมีความคล้ายคลึงกัน แต่อาการไข้หวัดใหญ่จะรุนแรงกว่าและเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน โดยสามารถเปรียบเทียบได้ ดังนี้

1.อาการไข้หวัดใหญ่ ได้แก่
  • ไข้ สูง 39 - 40 องศาเซลเซียส
  • มีอาการหนาวสั่นและปวดศีรษะ
  • อ่อนเพลียและปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมาก
  • มีอาการเจ็บคอ ไอแห้ง ๆ
  • น้ำมูกมีลักษณะใส
  • เด็กเล็กอาจมีอาการท้องเสีย
  • ระยะเวลาของอาการไข้หวัดใหญ่ประมาณ 5 - 7 วัน

2.อาการไข้หวัด ได้แก่
  • ไข้ ต่ำ ๆ 37 - 38 องศาเซลเซียส
  • มักไม่มีอาการหนาวสั่นและปวดศีรษะ
  • อ่อนเพลียและปวดเมื่อยกล้ามเนื้อน้อย
  • มีอาการเจ็บคอ ไอมีเสมหะ
  • น้ำมูกมีลักษณะใส หรือข้น เหลือง เขียว
  • มักไม่มีอาการท้องเสีย
  • ระยะเวลาของอาการไข้หวัดประมาณ 3 - 4 วัน

กลุ่มเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนไข้หวัดใหญ่

ไข้หวัดใหญ่ อาการ

อาการไข้หวัดใหญ่ค่อนข้างรุนแรง จึงจำเป็นต้องระมัดระวังตนเองให้ดี โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ ที่เมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่แล้ว อาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น

  • เด็กเล็ก ซึ่งอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี รวมถึงเด็กที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด โรคปอด โรคหัวใจ
  • ผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป หรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคปอด โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไต
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอดเรื้อรัง เช่น โรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคเบาหวาน, โรคไต, โรคตับ, โรคระบบ
    ภูมิคุ้มกันบกพร่อง, มะเร็ง, ผู้ที่ได้รับยาเคมีบำบัด หรือผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี
  • หญิงตั้งครรภ์ทุกระยะ
  • ผู้ที่มีภาวะอ้วน พิจารณาจากผู้ที่มีดัชนีมวลกาย (BMI) 35 ขึ้นไป
  • ผู้ที่ทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วย ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์, ผู้ดูแลเด็กเล็ก, ผู้ดูแลผู้สูงอายุ

ทั้งนี้ ภาวะแทรกซ้อนของอาการไข้หวัดใหญ่ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

1.ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อย เช่น หูชั้นกลางอักเสบ, ไซนัสอักเสบ, หลอดลมอักเสบ, ปอดอักเสบ
2.ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้น้อย เช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ, เยื่อหุ้มสมองอักเสบ, สมองอักเสบ, ภาวะหัวใจล้มเหลว, ภาวะไตวาย

ควรดูแลรักษาอาการไข้หวัดใหญ่อย่างไร
เมื่อตรวจไข้หวัดใหญ่แล้ว ควรเข้ารับการรักษาอาการ ไข้หวัดใหญ่ทันที โดยทั่วไปแล้ว สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ, ดื่มน้ำให้มาก, ทานยาแก้ปวด ยาลดไข้ หรือยาต้านไวรัส แต่มีข้อควรระวัง คือ ไม่ควรใช้ยาแอสไพรินในเด็ก เพราะอาจทำให้เด็กเกิดภาวะเรย์ (Reye's syndrome) ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรง รวมถึงไม่ควรใช้ยาปฏิชีวนะ เพราะยาปฏิชีวนะไม่สามารถรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ที่เกิดจากเชื้อไวรัสได้

โดยแพทย์อาจสั่งยาต้านไวรัส เช่น โอลเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) เพื่อบรรเทาอาการไข้หวัดใหญ่ ลดระยะเวลาการป่วย และป้องกันภาวะแทรกซ้อน ซึ่งจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดหากเริ่มใช้ภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากเริ่มมีอาการ นอกจากนี้ อาจจะใช้ยาต้านไวรัสในบางกรณี เช่น ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อภาวะแทรกซ้อน ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง หรือผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการไข้หวัดใหญ่ไม่เกิน 48 ชั่วโมง

อาการไข้หวัดใหญ่ สามารถรักษาให้หายเองได้หรือไม่
โรคไข้หวัดใหญ่สามารถรักษาไข้หวัดใหญ่ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องใช้ยาต้านไวรัส แต่ต้องอาศัยเวลาพักผ่อนและดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ดี ยังมีกลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากอาการไข้หวัดใหญ่ได้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส นอกจากนี้ สามารถป้องกันอาการของไข้หวัดใหญ่ได้ด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้

  • การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรค
  • ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ
  • สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีคนหนาแน่น
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่
  • ปิดปากและจมูกด้วยกระดาษทิชชู่เมื่อไอหรือจาม และทิ้งกระดาษทิชชู่ที่ใช้แล้วลงในถังขยะที่มีฝาปิด

เมื่อมีอาการไข้หวัดใหญ่ ควรดูแลตัวเองอย่างไร

วิธี รักษา ไข้หวัดใหญ่ ให้ หาย เร็ว

เมื่อมีอาการไข้หวัดใหญ่ ควรดูแลตัวเองเป็นอย่างดี โดยสามารถปฏิบัติตัว ดังต่อไปนี้

  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 - 10 ชั่วโมงต่อวัน ร่างกายจะได้มีเวลาซ่อมแซมตัวเองและต่อสู้กับเชื้อไวรัส
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ 2 - 3 ลิตรต่อวัน เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ น้ำช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายและช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้น
  • รับประทานอาหารอ่อน ๆ ย่อยง่าย เน้นผักผลไม้ ธัญพืช และโปรตีน หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของทอด ของมัน และอาหารหมักดอง
  • ทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล เพื่อบรรเทาอาการปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และลดไข้
  • เช็ดตัวเพื่อลดไข้หวัดใหญ่ด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น ไม่ควรใช้น้ำเย็น
  • กลั้วคอด้วยน้ำเกลืออุ่นวันละ 3 - 4 ครั้ง เพื่อบรรเทาอาการเจ็บคอ
  • สระผมด้วยยาสระผมแห้ง หรือใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดผม เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากการสระผม
  • ดื่มน้ำอุ่นหรือชาสมุนไพร เพื่อบรรเทาอาการเจ็บคอและไอ
  • ใช้เครื่องทำความชื้นในอากาศ เพื่อบรรเทาอาการไอและคัดจมูก
  • นอนหนุนหมอนสูง เพื่อลดอาการคัดจมูก
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่จะระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้อาการไอและเจ็บคอแย่ลง
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น งดการไปทำงาน เรียน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
  • ควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการไข้หวัดใหญ่รุนแรง เช่น หายใจหอบ หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก หน้ามืด หรือมีภาวะแทรกซ้อน

โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการไข้หวัดใหญ่ เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีภาวะอ้วน

สรุปเกี่ยวกับอาการไข้หวัดใหญ่
โรคไข้หวัดใหญ่จะคล้ายคลึงกับไข้หวัดธรรมดา แต่จะรุนแรงกว่าและเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน โดยทั่วไป ผู้ป่วยจะมีอาการไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ ไข้สูง 39-40 องศาเซลเซียส, หนาวสั่น, เหงื่อออก, ปวดศีรษะ, อ่อนเพลียอย่างมาก, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ, เบื่ออาหาร คลื่นไส้ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงควรเข้าพบแพทย์ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ทั้งนี้ สามารถรักษาไข้หวัดใหญ่ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องใช้ยาต้านไวรัส แต่ต้องอาศัยเวลาพักผ่อนและดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม