ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


เทคนิคการทำ SEO ให้ติดหน้าแรกของ Google

เทคนิคการทำ SEO ให้ติดหน้าแรกของ Google
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2024, 11:02:03 AM »
การทำ SEO

ในยุคดิจิทัลที่เว็บไซต์เปรียบเสมือนบ้านหรือร้านค้าที่เปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงธุรกิจ แบรนด์ หรือข้อมูลของเราได้ ท่ามกลางเว็บไซต์มากมายในกลุ่มธุรกิจเดียวกันสิ่งที่จะทำให้เว็บไซต์ของเราโดดเด่นจากแบรนด์อื่น ๆ ได้นั่นคือการทำ SEO (Search Engine Optimization) ให้กับเว็บไซต์นั่นเอง

บทความนี้เปรียบเสมือนเข็มทิศที่จะนำพาคุณไปรู้จักกับการทำ SEO ตั้งแต่การทำความเข้าใจว่า SEO คืออะไร มีความสำคัญอย่างไรบ้าง พร้อมเทคนิคในการทำ SEO ให้ติดในหน้าแรกของ Google เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานและนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จบนโลกออนไลน์

SEO คืออะไร

SEO หรือ Search Engine Optimization คือ กลยุทธ์ในการปรับแต่งหน้าเว็บไซต์และเนื้อหาให้สอดคล้องกับอัลกอริทึมของ Search Engine อย่าง Google ซึ่งการทำให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาของเว็บไซต์ได้ง่ายยิ่งขึ้น จะส่งผลให้อัลกอริทึมมองว่าเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์นั้นมีคุณภาพและทำให้มีอันดับเว็บไซต์ที่ดียิ่งขึ้นบนหน้าผลการค้นหา (SERPs)

โดยหลักการทำงานของ Search Engine ของ Google จะใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า "Spider" หรือ "Crawler" ในการดัชนีเว็บไซต์จากทั่วโลก ซึ่ง Spider จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหา โครงสร้างเว็บไซต์ และความเกี่ยวข้องของเว็บไซต์ โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในการจัดอันดับเว็บไซต์บนหน้าผลการค้นหา

การทำ SEO สำคัญอย่างไร

การทำ SEO นอกจากจะทำให้เว็บไซต์ของเราสามารถติดอันดับดี ๆ ในหน้าผลลัพธ์การค้นหาแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้คุณภาพเว็บไซต์ในด้านอื่น ๆ ดีขึ้นอีกด้วย โดยผลลัพธ์จากการทำ SEO จะให้ผลดีดังนี้

เพิ่ม Traffic ให้กับเว็ปไซต์

โดยปกติแล้วเวลาที่เรารู้สึกสนใจสินค้าหรือบริการบางอย่าง เราจะเริ่มหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการนั้น ๆ บน Search Engine อย่าง Google ซึ่งการทำ SEO จะช่วยดึงดูดผู้ใช้งานที่สนใจเนื้อหาของสินค้าหรือบริการของธุรกิจเรา เป็นการเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บไซต์และสามารถเก็บข้อมูลผู้ใช้งานบนหน้าเว็บไซต์เพื่อสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดเพิ่มเติมได้อีก

สร้าง Brand Awareness

อีกหนึ่งสิ่งที่จะได้จากการทำ SEO โดยเฉพาะการทำ SEO จนเว็บไซต์ติดอันดับแรก ๆ ของหน้าผลลัพธ์การค้นหาคือการสร้าง Brand Awareness ให้ได้เป็นที่รู้จักโดยเฉพาะการติดใน Feature Snippet หรือการติดอันดับ 0 ที่จะยิ่งช่วยให้เนื้อหาของเว็บไซต์เราถูกมองเห็นได้ง่ายยิ่งขึ้น แถมยังเพิ่มโอกาสที่จะมี Traffic เข้ามายังเว็บไซต์เพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งยิ่งมีหน้าเว็บไซต์ที่ติดในอันดับแรก ๆ ในหลาย ๆ คีย์เวิร์ดจะยิ่งเป็นการเพิ่มการจดจำแบรนด์และการสร้างภาพลักษณ์ที่ให้กับธุรกิจ

เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ

สำหรับการทำ SEO ให้เว็บไซต์มีคุณภาพที่ดีนั้น จะต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างของเว็บไซต์รวมไปถึงการผลิตบทความที่มีคุณภาพและมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์กับผู้อ่านอยู่แล้ว ซึ่งการทำ SEO โดยการเขียนเนื้อหาบทความที่มีประโยชน์ดูน่าเชื่อถือจะเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจว่ามีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับธุรกิจนั้นจริง ๆ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการปิดการขายหรือการเกิด Conversion บนเว็บไซต์ของเราได้มากยิ่งขึ้น

เทคนิคการทำ SEO มีขั้นตอนอย่างไร

หลังจากที่ได้ทราบถึงความสำคัญของการทำ SEO กันไปแล้ว ถัดมาเราจะมาเจาะลึกรายละเอียดของการทำ SEO ให้มากยิ่งขึ้นกัน โดยเทคนิคในการทำ SEO จะถูกแบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอนดังนี้

1. การทำ Keyword Research

ในขั้นตอนแรกของการทำ SEO เลยคือการหา Keyword ที่เหมาะสมกับเว็บไซต์หรือการทำ Keyword Research โดยจะเป็นการวิเคราะห์และค้นหา Keyword ที่ผู้ใช้งานนิยมค้นหาบน Google ซึ่งเป้าหมายคือการเลือก Keyword ที่มี Search Volume สูงและมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจ แบรนด์หรือเว็บไซต์ของเรา

ประโยชน์ของการทำ Keyword Research จะมีดังนี้

• เพิ่มโอกาสในการเข้าผู้ใช้งานที่มีความสนใจในสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา
• ช่วยเพิ่ม Brand Awareness
• ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำ SEO ของเว็บไซต์
• เพิ่มโอกาสในการปิดการขาย
• เพิ่ม Traffic ในการเข้าชมเว็บไซต์

2. วาง Website Structure

ขั้นตอนถัดมาของการทำ SEO จะเป็นการวาง Website Structure ซึ่งจะเปรียบเสมือนผังที่แสดงลำดับชั้นและความสัมพันธ์ของหน้าเว็บต่าง ๆ บนเว็บไซต์ ถ้าหากมีโครงสร้างของเว็บไซต์ที่ดีก็จะช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจเว็บไซต์ สามารถค้นหาข้อมูลได้ง่าย และยังช่วยให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาบนเว็บไซต์อีกด้วย

โดยหลักการวาง Website Structure ในการทำ SEO จะมีดังนี้

• เรียบง่าย: โครงสร้างควรมีความเรียบง่าย เข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อน
• มีลำดับชั้น: หน้าเว็บควรจัดเรียงตามลำดับชั้นและมีการแสดงความสัมพันธ์ของเนื้อหา
• ใช้งานง่าย: ผู้ใช้งานควรค้นหาเนื้อหาหรือข้อมูลต่าง ๆ ที่ต้องการบนเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องคลิกหลายครั้ง
• เหมาะกับ Search Engine: โครงสร้างเว็บไซต์ควรถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาบนเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้น

3. การทำ On-Page SEO

อีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญเป็นอย่างมากในการทำ SEO นั่นคือการทำ On-Page SEO ซึ่งจะเป็นการปรับแต่งองค์ประกอบต่าง ๆ บนหน้าเว็บไซต์ เพื่อให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาของเว็บไซต์และสามารถจัดอันดับบนหน้าผลลัพธ์การค้นหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยเทคนิคการการทำ On-Page SEO จะมีดังนี้

• การเลือก Keyword ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
• ปรับแต่ง Title และ Meta Description
• เขียนเนื้อหาที่มีคุณภาพสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้
• มีการใส่ Internal link, Alt Text และ Head Tag
• มีการปรับปรุงประสิทธิภาพของ Website Speed

4. การทำ Off-Page SEO

นอกจากการทำ On-Page SEO แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ควรทำควบคู่กันเพื่อประสิทธิภาพในการทำ SEO ที่ดียิ่งขึ้นนั่นคือการทำ Off-Pageg SEO ซึ่งจะเป็นกลยุทธ์การทำ SEO ที่เน้นการสร้าง Backlinks จากเว็บไซต์อื่นมายังเว็บไซต์ของเรา เปรียบเสมือนการให้เครดิตกับเว็บไซต์เราให้ดูมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

โดยเทคนิคการทำ Off-Page SEO จะมีดังนี้

• Guest Blogging: เขียนบทความและเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่น โดยจะมีการใส่ External link เพื่อเชื่อมมายัง On-Page
• Infographic: สร้าง Infographic และเผยแพร่บนเว็บไซต์อื่น และมีการลิงก์กลับมายังหน้า On-Page
• Broken Link Building: ค้นหา Broken Link บนเว็บไซต์อื่น และติดต่อเพื่อขอแลก Backlink

5. การทำ Technical SEO

ขั้นตอนสุดท้ายของการทำ SEO คือการทำ Technical SEO โดยจะเป็นการปรับแต่งโครงสร้างพื้นฐานของเว็บไซต์ให้ Search Engine สามารถเข้าใจเนื้อหาของเว็บไซต์ ค้นหา จัดอันดับ และแสดงผลบนหน้าผลลัพธ์การค้นหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยเทคนิคการทำ Technical SEO จะมีดังนี้

• ตรวจสอบความเร็วในการโหลดเว็บไซต์และปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพ
• ตรวจสอบว่าหน้าเว็บไซต์มีการทำ Responsive เป็น Mobile-Friendly
• ส่ง Sitemap ไปยัง Search Engine
• ใช้ Robots.txt
• ใช้ Canonical URL
• มีการ Optimize รูปภาพ

สรุปการทำ SEO ให้ติดหน้าแรก Google

สำหรับการทำ SEO นั้นเปรียบเสมือนการลงมือปลูกต้นไม้ ตั้งแต่การเพาะเมล็ด เลี้ยงต้นกล้า ต้องคอยใส่ปุ๋ย พรวนดิน คอยดูแลจนกระทั่งต้นไม้เติบโตและสามารถให้ผลผลิตได้ ซึ่งการทำ SEO เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาในช่วงแรกเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

โดยการทำ SEO ในสมัยนี้ได้มีบริษัทรับทำ SEO มากมายที่ให้บริการจ้างทำ SEO คอยดูแลเว็บไซต์ของธุรกิจตั้งแต่การวาง Website Structure รวมไปถึงการทำ Research Keyword สำหรับทำ On-page และ Off-page SEO ที่ทางแบรนด์ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในด้าน SEO ก็สามารถทำ SEO ให้กับแบรนด์ของตัวเองได้ ซึ่ง Agency SEO จะคอยให้คำแนะนำการปรับปรุงเว็บไซต์ตั้งแต่การวาง Structure ไปจนถึงการผลิตบทความที่มีคุณภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับ Search Engine และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน