ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


เปิดข้อดีของ กองทุนรวม เหมาะกับใคร ทำไมจึงควรลงทุน

ปัจจุบันมีการลงทุนหลากหลายแบบให้เลือก หนึ่งในประเภทการลงทุนที่กำลังได้รับความนิยมคือ กองทุนรวม เนื่องจากการ ลงทุนกองทุนรวม มีข้อดีหลายอย่าง และสามารถเข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมากได้ดี แต่ก่อนจะเปิดเผยข้อดีต่าง ๆ ของการลงทุนใน กองทุน เราจะพาไปทำความรู้จักกับการลงทุนประเภทนี้ให้มากขึ้นอีกสักหน่อย

กองทุนรวม คือ การรวบรวมเงินลงทุนจากนักลงทุนรายย่อยจำนวนมาก เพื่อนำมาลงทุนตามนโยบายที่ กองทุน นั้น ๆ กำหนดไว้ เช่น นโยบายกำหนดให้ลงทุนในตราสารหนี้ 50% ตราสารทุน 50% ผู้จัดการกองทุนซึ่งเป็นมืออาชีพด้านนี้จะมีหน้าที่บริหารจัดการกองทุนตามนโยบายดังกล่าว โดยนักลงทุนหนึ่งรายสามารถ  ลงทุนกองทุนรวม ได้หลายกองในเวลาเดียวกัน และยังสามารถแบ่งสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนได้อย่างอิสระ
 
ข้อดีของการ ซื้อกองทุน
1.   ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก
เงินลงทุนขั้นต่ำของหลายกองเริ่มต้นหลักร้อยหลักพันเท่านั้น หมายความว่าผู้สนใจลงทุนไม่จำเป็นต้องรวบรวมเงินหลักหมื่นหลักแสนหรือหลักล้านมาลงทุน การเริ่มต้นลงทุนในกองทุนเหล่านี้จึงกลายเป็นเรื่องง่าย หากตั้งใจจะเริ่มต้นก็สามารถเริ่มต้นลงทุนได้ทันที
2.   เลือกนโยบายการลงทุนได้หลากหลาย
สไตล์การลงทุนของแต่ละคนแตกต่างกัน บางคนอาจรับความเสี่ยงได้สูงเพื่อแลกกับผลตอบแทนที่มีโอกาสจะได้รับกลับมาสูงกว่า บางคนอาจรับความเสี่ยงได้ต่ำ-ปานกลาง เน้นรักษาเงินต้น ต้องการผลตอบแทนในระดับชนะเงินเฟ้อหรือได้รับผลตอบแทนกองทุนรวมมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ซึ่งกองทุนต่าง ๆ ที่มีอยู่ในท้องตลาดสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างหลากหลาย นักลงทุนสามารถเลือกให้เหมาะกับสไตล์การลงทุนของตัวเองได้อย่างอิสระ
3.   ได้รับประโยชน์ทางภาษี
จะมีกองทุนรวมอยู่ 2 ประเภทที่ให้ผลประโยชน์ด้านภาษี นั่นคือ SSF และ RMF โดยผู้ลงทุนในกองทุนประเภทใดประเภทหนึ่งหรือทั้งสองประเภทจะสามารถนำเงินลงทุนไปบันทึกลดหย่อนภาษีได้ แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทุนนั้น ๆ เช่น ต้องถือครอง SSF ครบ 10 ปี ถือ กองทุนrmf จนอายุครบ 55 ปี แล้วจึงขายหน่วยลงทุนออกไป หากถือครองไม่ครบระยะเวลาผลประโยชน์ด้านภาษีก็จะถือเป็นโมฆะไป ผู้ลงทุนจึงควรศึกษาข้อกำหนดและเงื่อนไขของกองทุนทั้ง 2 ประเภทให้ดีก่อนตัดสินใจ
4.   สภาพคล่องดี ใช้เวลาขายหน่วยลงทุนไม่นาน
แต่ละกองทุนจะมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการซื้อ-ขายหน่วยลงทุนระบุไว้ หากผู้ลงทุน ซื้อกองทุน ไปแล้วต้องการขายหน่วยลงทุนเพื่อรับเงินคืนคล้ายกับการฝากเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์แล้วต้องการถอนเงินออกก็สามารถทำได้ ในอดีตอาจใช้เวลาหลายวันทำการกว่าจะได้รับเงินโอนกลับเข้าบัญชี แต่ปัจจุบันระยะเวลาที่ใช้ลดลง บางกองทุนใช้เวลาเพียง 1 วันทำการเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนที่มีสภาพคล่องสูงทีเดียว
5.   เหมาะกับการลงทุนแบบ DCA
การลงทุนแบบ DCA หรือ Dollar Cost Average คือการทยอยลงทุนอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่สนใจว่าตลาดในขณะนั้นจะขึ้นหรือลง เป็นวิธีการลงทุนที่ง่ายแต่มีประสิทธิภาพเนื่องจากผู้ลงทุนในลักษณะนี้จะได้รับผลตอบแทนอยู่ในระดับกลาง ๆ แม้จะไม่ได้กำไรแบบหวือหวา แต่เมื่อตลาดเป็นขาลงก็จะไม่ขาดทุนหนัก เหมาะกับผู้ลงทุนที่ไม่มีเวลาติดตามตลาดมากนัก และต้องการลงทุนเพื่อผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

ผู้สนใจลงทุนในกองทุนรวมสามารถทดลองซื้อผ่านแอปธนาคารที่ตนเองมีบัญชีอยู่ หรือจะนำบัตรประชาชนและสำเนาสมุดบัญชีธนาคารที่ต้องการให้โอนเงินเข้าไปเปิดบัญชีกองทุนรวมที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ หรือบริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุนที่ตนเองสะดวกได้เลย ถือว่าสะดวกมาก ๆ