ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


Marketing Automation การตลาดแบบอัตโนมัติช่วยทุ่นแรงด้วยเทคโนโลยี

Marketing Automation

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน การตลาดอัตโนมัติ (Marketing Automation) กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพผลลัพธ์ทางการตลาด ช่วยให้นักการตลาดสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพประหยัดเวลา และช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น

ในบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักเพิ่มเติมกันว่า Marketing Automation คืออะไร? มีขั้นตอนการทำงานอย่างไรบ้าง มีวิธีในการดูอย่างไรว่าธุรกิจของเราเหมาะกับ Marketing Automation หรือไม่ พร้อมตัวอย่างการนำ Marketing Automation ไปใช้งานจริงในการทำธุรกิจ

ทำความรู้จัก Marketing Automation หนึ่งในตัวเลือกของธุรกิจยุคใหม่ที่น่าจับตามอง

การตลาดอัตโนมัติ หรือ Marketing Automation คือ การใช้ซอฟต์แวร์หรือเครื่องมือต่าง ๆ ในการลดการทำงานแบบแมนนวลลงและแทนที่ด้วยระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ ซึ่งการใช้งานเทคโนโลยีในการทำงานแทนมนุษย์ช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดจาก Human Error ได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยประหยัดเวลาในการทำงานที่มีรูปแบบการทำงานซ้ำ ๆ อีกด้วย

โดยในธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีการทำงานเป็นระบบอย่างชัดเจนจะมีการวาง Marketing Automation ในส่วนต่าง ๆ เพื่อใช้ในการเก็บข้อมูล การโพสต์สื่อบนช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ หรือการส่งอีเมลที่มีจำนวนมหาศาล เป็นต้น ซึ่งงานเหล่านี้ถ้าหากต้องใช้บุคลากรในการทำงานจะต้องใช้แรงงานและงบประมาณที่ค่อนข้างสูงในการจัดการ

จะรู้ได้อย่างไรว่าธุรกิจของเราเหมาะกับ Marketing Automation หรือไม่?

สำหรับการใช้งาน Marketing Automation ในธุรกิจหรือองค์กรนั้น ถึงแม้ว่าจะมีประโยชน์ในหลายด้านแต่การใช้ Marketing Automation จะเหมาะกับธุรกิจที่เริ่มมีกระบวนการทำงานที่ชัดเจน มีฐานลูกค้าในระดับหนึ่ง ที่อยากจะประหยัดเวลาจากการทำงานที่มีกระบวนการซ้ำ ๆ และใช้บุคลากรในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ถึงแม้ว่าการใช้ Marketing Automation จะสามารถช่วยประหยัดเวลาและลดการทำงานลงได้ แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายจากการใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพิ่มเติมขึ้นมาเช่นกัน ดังนั้นหากเป็นธุรกิจที่ยังมีฐานลูกค้าไม่มากหรือมีปริมาณ Traffic น้อยอยู่ การเลือกใช้ Marketing Automation อาจจะยังไม่ตอบโจทย์สักเท่าไรนักเพราะค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียนั้นยังไม่คุ้มค่ากับการลงทุนกับเครื่องมือเหล่านี้

ขั้นตอนการทำงานของ Marketing Automation

การเลือกใช้เครื่องมือ Marketing Automation จะมีขั้นตอนในการตั้งค่าและการวางกระบวนการการทำงานที่คล้ายคลึงกันในแต่ละชนิดของเครื่องมือ โดยขั้นตอนการทำงานของ Marketing Automation จะมีขั้นตอนในการทำงานหลัก ๆ ดังนี้

  • กำหนดเป้าหมาย: ระบุเป้าหมายทางการตลาดให้ชัดเจนเช่น การเพิ่มยอดขาย เพิ่ม Traffic หรือการสร้างแบรนด์
  • ระบุกลุ่มเป้าหมาย: เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย พฤติกรรม ความต้องการ และความสนใจของลูกค้า
  • การเลือกเครื่องมือ: เลือกใช้เครื่องมือ Marketing Automation ที่เหมาะสมกับธุรกิจและงบประมาณ โดยต้องตอบโจทย์กับเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้
  • เก็บข้อมูล: เมื่อเลือกเครื่องมือในการใช้งานเรียบร้อยแล้ว ถัดมาจะเป็นการเลือกเก็บข้อมูลที่ต้องการเช่น ข้อมูลติดต่อ พฤติกรรมการซื้อ หรือความสนใจของลูกค้า เป็นต้น
  • แบ่งกลุ่มลูกค้า: ตามเกณฑ์ต่าง ๆ เช่น พฤติกรรม ความสนใจ ข้อมูลประชากร
  • ออกแบบกระบวนการทำงาน: ออกแบบ Workflow สำหรับลูกค้าในแต่ละกลุ่ม และเริ่มดำเนินการ Automation
  • วิเคราะห์ผลลัพธ์: นำผลลัพธ์ที่ได้มาวิเคราะห์และวัดผลแคมเปญ
  • ปรับปรุงกลยุทธ์: ปรับปรุงแผน Marketing Automation ตามผลลัพธ์ที่ได้

ตัวอย่างการนำ Marketing Automation ไปใช้งานในธุรกิจ

roi marketing automation

หลังจากที่ได้ทราบการทำงานของเครื่องมือ Marketing Automation กันไปแล้ว ถัดมาเราจะมาดูตัวอย่างการใช้งานกันบ้างว่า Marketing Automation สามารถนำไปใช้งานยังไงได้บ้าง

1. ส่งข้อเสนอให้กลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การทำ Email Marketing อย่างการส่ง Welcome Email เพื่อเป็นการสร้างความประทับใจแรกให้กับลูกค้าใหม่ ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่การทำ Marketing Automation สามารถเข้ามาช่วยจัดการส่ง Email แบบอัตโนมัติได้ในทันที

2. ทำระบบ Scroing เพื่อจัดหมวดหมู่ลูกค้าที่ใช้บริการธุรกิจ

การทำระบบ Scroing เป็นวิธีที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถแบ่งหมวดหมู่ของลูกค้าได้ เพื่อการบริการและนำเสนอบริการหรือสินค้าได้อย่างถูกจุดกับกลุ่มลูกค้าในแต่ละหมวดหมู่ ซึ่งการนำระบบ Automate มาใช้คือวิธีที่จะช่วยให้การจัดการหมวดหมู่ลูกค้าสามารถทำได้อย่างเป็นระบบ

3. ส่งอีเมลหรือโฆษณาให้ลูกค้าเพื่อเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์

อีกหนึ่งวิธีที่เป็นที่นิยมในการใช้ระบบ Automatic คือการส่งอีเมลหรือโฆษณาให้แก่ลูกค้าเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้าง Conversion หรือการปิดการขายได้มากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างกลยุทธ์ในธุรกิจ E-commerce Marketing คือการส่งคูปองส่วนลดหรือโปรโมชันพิเศษไปทางอีเมล เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ามีความสนใจอยากซื้อสินค้าหรือบริการมากยิ่งขึ้น

4. การเก็บข้อมูลสำหรับธุรกิจแบบ B2B

สำหรับธุรกิจแบบ B2B แล้ว การทำ Automation Marketing (B2B) จะมีขั้นตอนที่แตกต่างจากธุรกิจแบบ B2C โดยจะมีการใช้เครื่องมือ Marketing Automation ในการเก็บข้อมูลผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อติดต่อกลับหรือส่งข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นให้เกิด Conversion หลังจากนั้นอาจจะมีการทำ Account-Based Marketing เพิ่มเติมโดยระบบจะส่งข้อความที่มีเนื้อหาแบบ Personalize ให้กับลูกค้าแต่ละราย ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลเพื่อกระตุ้นให้เกิดการ Conversion แบบเฉพาะเจาะจงตามพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าแต่ละรายที่มีความแตกต่างกัน

Human VS. Automation อะไรส่งผลดีต่อธุรกิจมากกว่ากัน?

automation marketing b2b

หากเปรียบเทียบระหว่างการทำงานโดยมนุษย์กับการใช้เครื่องมือ Marketing Automation แล้ว ในการทำงานแต่ละแบบก็จะมีข้อดีแตกต่างกันออกไปดังนี้

ข้อดีของการทำงานโดยมนุษย์

  • มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถคิดนอกกรอบ หาวิธีในการแก้ไขปัญหาใหม่ ๆ ได้
  • มีการสื่อสารที่ดี มีความเข้าใจอารมณ์ความรู้สึก และภาษากายของผู้อื่น
  • มนุษย์สามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดโดยพิจารณาจากสถานการณ์และข้อมูลที่มี

ข้อดีของการทำงานโดยใช้เครื่องมือ Marketing Automation

  • สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยลดภาระการทำงานที่ซ้ำซ้อน ประหยัดค่าใช้จ่ายและช่วยลดต้นทุนในการผลิตได้
  • การใช้ระบบ Automation สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องหยุดพัก

ทั้งการทำงานโดยมนุษย์และการใช้เครื่องมือ Marketing Automation ต่างก็มีข้อดีที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้การใช้การทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อความสำเร็จของธุรกิจ ดังนั้นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือการเลือกใช้งานทั้งมนุษย์และเครื่องมือ Marketing Automation ร่วมกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด

สรุปการใช้งาน Marketing Automation

Marketing Automation หรือการตลาดแบบอัตโนมัติคือ การใช้เทคโนโลยีหรือโปรแกรมต่าง ๆ ที่เป็นเครื่องมือทางการตลาดเข้ามาช่วยเพิ่มให้การทำงานสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการใช้ Marketing Automation ยังสามารถช่วยลดภาระการทำงานซ้ำซ้อนหรือช่วยในการทำงานขนาดใหญ่ที่มีรูปแบบชัดเจนได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาอีกทั้งยังทำให้ลดการใช้ทรัพยากรบุคคลในบางกระบวนการได้อีกด้วย

โดยการใช้ Marketing Automation จะเข้ามามีส่วนช่วยในการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า ทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้า และยังสามารถช่วยเหลือการทำงานทางด้านการตลาดอื่น ๆ ที่หลากหลายได้อีกไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมล การสร้างแคมเปญ หรือการจัดการบนโซเชียลมีเดียตามช่องทางต่าง ๆ ซึ่งการใช้ระบบ Automation ร่วมงานกับการทำงานของมนุษย์จะยิ่งช่วยลดโอกาสการเกิดข้อผิดพลาด และทำให้การทำงานสามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย