5 เหตุผลที่เลือกทำ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ แทนฝากเงินธนาคาร

[อธิติยา]

ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ คือ ประกันชีวิตรูปแบบการออมเงินพร้อมรับความคุ้มครองดูแลไปด้วยกัน นั่นคือการออมเงินไปจนครบตามสัญญาแล้วรับทุนประกันคือพร้อมดอกเบี้ย จะเลือกรับก้อนเดียวเมื่อครบสัญญาหรือรับแบบเงินปันผลระหว่างส่งเบี้ยประกันก็ได้ คำจำกัดความสั้น ๆ นี้พอจะเห็นว่าทำไมประกันสะสมทรัพย์จึงเป็นที่นิยมกันมาก

   ข้อดีของ ประกันสะสมทรัพย์
   1.สร้างวินัยในการออมเงิน เมื่อมีรายได้ หลายคนเก็บออมเงินอย่างสม่ำเสมอ แต่หลายคนทำไม่ได้ การทำประกันเป็นการสร้างวินัยการออมอย่างหนึ่ง ทั้งยังถอนออกมาใช้ไม่ได้ด้วยจนกว่าจะส่งเงินครบตามสัญญา

        2.เป็นการวางแผนการเงินเพื่อส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกหลานในอนาคต อาจกล่าวได้ว่า ประกันออมทรัพย์ คือการออมเงินที่มีผลตอบแทนคุ้มค่ากว่าการฝากธนาคารทั่วไป เพราะมีทั้งประกันที่คุ้มครองชีวิตยาวนานหลายปี และเป็นตัวช่วยลดหย่อนภาษีได้ด้วย เรียกว่าได้ทั้งการออมเงินและได้รับความคุ้มครองชีวิตไปพร้อมกัน

        3.เริ่มทำทีละนิดและทำอย่างต่อเนื่อง เพียงเท่านี้เราก็จะมีเงินออมได้ไม่ยาก เริ่มจัดการเงินออมตั้งแต่รายได้น้อย ๆ และเมื่อมีรายได้มากขึ้น ก็จัดการออมเงินพร้อมกับดูแลให้มีใช้ไปตลอดได้เหมือนกัน
 
        4.สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไข เช่น การทำประกันออมทรัพย์ PRU Saving Plus สำหรับคนที่มีอายุ 20-55 ปี ระยะเวลาความคุ้มครอง 12 ปี จ่ายเบี้ยเริ่มต้น 29,000 บาท/ปี ลดหย่อนภาษีได้และได้รับเงินคืน 2% ทุก ๆ 2 ปีกรมธรรม์ โดยทำประกันระยะเวลา 12 ปี นำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท

   5.หากเสียชีวิตระหว่างปีกรมธรรม์ ทายาทจะได้รับผลประโยชน์ตามที่กรมธรรม์ได้ระบุไว้
ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจทั่วโลกไม่ราบรื่นมากนัก การเก็บออมเป็นเรื่องยากยิ่ง แต่ถ้าเลือกที่จะเก็บออมด้วยการทำประกันชีวิตและใช้จ่ายด้วยเงินที่เหลือจากนั้น ถือเป็นการออมเงินที่มีประสิทธิภาพมากและใช้เป็นหลักประกันทางการเงินในเวลาฉุกเฉินได้ โดยทั่วไป ประกันสะสมทรัพย์ลดหย่อนภาษี (เพิ่มเติม: https://www.add-digital.co.th/article/saving-insurance1) เป็นทั้งการเก็บออมเงินควบคู่ไปกับความคุ้มครองสุขภาพและคุ้มครองชีวิต มีเงินชดเชยรายวันให้หากเจ็บป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล  เมื่อครบกำหนดจะได้รับเงินครบกำหนดสัญญา

 ประกันสะสมทรัพย์ (เพิ่มเติม: https://www.add-digital.co.th/life/dsupersaving101) มีให้เลือกหลายแบบ แต่ละแบบจะมีลักษณะความคุ้มครอง และผลประโยชน์แตกต่างกัน เมื่อส่งเบี้ยครบตามอายุสัญญาก็มีเงินก้อนไว้ใช้ในอนาคต ในกรณีที่คุณเพิ่งเริ่มทำงาน เพิ่งเริ่มมีรายได้ ควรให้ความสำคัญกับการออมเงิน แน่นอนว่าการเก็บเงินในรูปแบบของประกันชีวิตนั้นสะสมทรัพย์เน้นการออมเงิน และให้ความคุ้มครองชีวิตด้วย เช่น ประกันแบบ 5 ปี นับเป็นประกันเริ่มต้นสำหรับผู้ที่ต้องการบริหารเงินให้เกิดประโยชน์ อย่างน้อยก็ได้เก็บเงินก้อนเล็ก ๆ เป็นเวลา 5 ปี ในระหว่างนั้นเกิดเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บขึ้นมาก็บริษัทจะจ่ายเงินให้โดยเราจะได้เงินคืนเมื่อครบกำหนดสัญญาด้วย

ในช่วงวัยเริ่มต้นทำงานเป็นช่วงที่ค่าเบี้ยประกันชีวิตจะถูกกว่าช่วงวัยอื่น ๆ ด้วย บางคนเริ่มด้วยประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ที่ให้ความคุ้มครองนาน ๆ ไปจนถึงวัยเกษียณเลยก็มี ไม่ต้องกังวลด้วยว่าเจ็บป่วยเมื่อไรก็มีประกันจ่ายให้อย่างคุ้มค่า จนกว่าจะหมดอายุความคุ้มครองของประกันนั่นเอง

ที่มาข้อมูล:
-https://www.add-digital.co.th/life/pruclicksaving
-https://www.add-digital.co.th/life/dsupersaving101
-https://aommoney.com/สรุป-5-ข้อควรรู้ทุกเรื่องของ-ประกันสะสมทรัพย์/
-https://www.moneybuffalo.in.th/insurance/what-types-of-insurance-do-you-need