5 สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ที่สายธรรมชาติไม่ควรพลาด

[สุขฤดี]

ใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง แต่ไม่แน่ใจว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีไม่ควรพลาดกับ 5 สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นเหล่านี้

1.ภูเขาไฟฟูจิ
เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองกับสถานที่ท่องเที่ยวสวยตะลึงแห่งแรกที่จะแนะนำกันคือ ภูเขาไฟฟูจิที่มีความสูงอันดับหนึ่ง แม้ไม่คิดจะปีนป่าย แค่ได้ถ่ายรูปสวยๆ ซักครั้งก็คุ้มแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าจะไปถ่ายวิวภูเขาไฟอย่างเดียว รอบๆ ก็มีจุดชมวิวบริเวณทะเลสาบคาวากูชิโกะที่มีความงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล อีกจุดชมวิวที่สวยมากๆ เป็นสถานที่ถ่ายรูปภูเขาไฟโดยทัศนียภาพหน้าภูเขาไฟนั้นเรียงรายไปด้วยทุ่งดอกชิบะซากุระสีชมพูละลานตา หรือพิงค์มอส ใครอยากเข้าชมแนะนำให้ไปเที่ยวช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมของทุกปี (เขาเปิดให้เข้าช่วงนี้) จุดชมวิวที่สวนสาธารณะโออิชิ ไปถ่ายรูปเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังเห็นทุ่งดอกลาเวนเดอร์สีม่วงสวยสุดๆ โดยเฉพาะช่วงเดือนกรกฎาคม ซึ่งที่นี่ก็ไม่ได้มีแค่ความสวยม่วงๆของลาเวนเดอร์เท่านั้น แต่ยังมีแถบที่เป็นสีชมพูของต้นฟลอกมอส หรือหากใครชอบสีเหลืองก็สามารถเลือกจุดทุ่งดอกมัสตาร์ดถ่ายรูปคู่กับภูเขาไฟฟูจิสวยๆๆได้เลย จุดฮ็อตอีกที่คือโกเทมบะ พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท (Gotemba Premium Outlets) เป็นย่านช้อปปิ้งที่สนุกเพลิดเพลินและเห็นวิวภูเขาไฟด้านหลังด้วย อีกจุดที่มีชื่อเสียงคือเนินเขานิฮอนไดระ (Nihondaira) ซึ่งเป็นแหล่งปลูกชาเขียวชื่อดังของญี่ปุ่น ไปเที่ยวกันในช่วงกลางเดือนเมษายน-ตุลาคม เห็นแล้วสดชื่นมาก

2.น้ำตกนาจิ (Nachi Falls)
น้ำตกสูงและใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น อยู่ที่เมืองนาชิคัตสึอุระ จังหวัดวากายามะ น้ำตกชั้นเดียวไหลลงมาจากหน้าผาสูง 133 เมตร เชื่อกันว่าน้ำตกโบราณนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ ดื่มแล้วเป็นยาอายุวัฒนะ เพราะมีความเชื่อว่าเทพเจ้าสถิตอยู่ในน้ำทำให้มีชีวิตยืนยาว  ใกล้ๆ กันมีเจดีย์สามชั้นสีแดงที่ดูมีความขลัง ฉากหลังเป็นวิวธรรมชาติ ภูเขาเขียวขจีสวยงามมาก หากเดินไปด้านบนเนินเขาก็จะพบวัดนาจิซัง เซกันโทจิ (Nachisan Seigantoji Temple) ที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เคียงคู่กันเป็นศาลเจ้าคุมาโนะ นาจิ ( Kumano Nachi Grand Shrine) ให้เข้าสักการะต้นการบูรศักดิ์สิทธิ์ อายุกว่า 800 ปี และเขียนคำอธิษฐานบนแผ่นไม้โกมากิลอดผ่านโพรงต้นการบูรแล้วแขวนไว้บนแผงที่ทางวัดจัดให้เป็นอันสำเร็จ

3.ทะเลสาบยามานากาโกะ (Lake Yamanakako)
เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่สุด หนึ่งใน 5 ทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย รอบๆ ทะเลสาบมีโรงแรม โฮมสเตย์ จุดแคมปิ้ง และร้านอาหารเอร็ดอร่อยท่ามกลางบรรยากาศที่ฟินเป็นพิเศษ มองเห็นทัศนียภาพทิวทัศน์สุดอลังการและอยู่ใกล้ภูเขาไฟฟูจิมากที่สุด สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น มีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น ล่องเรือนำเที่ยวรูปหงส์สวอนเลค (Swan Lake) ชมวิวอย่างผ่อนคลาย หรือขึ้นรถบัสสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกเที่ยวล่องลงไปในทะเลสาบ ไปเที่ยวชมหมู่บ้านนินจา โอชิโนะ ชิโนบิ โนะ ซาโตะ (Ohshino Shinobi no Sato) ชมการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจ

4.หุบเขาคามิโคจิ (Kamikochi)
เป็น สถานที่ท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ในจังหวัดนากาโนะ ที่มักจะเรียกกันว่า เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น ทั้งเป็นส่วนหนึ่งอุทยานแห่งชาติจูบุซังกะคุ (Chubu Sangaku) ที่สวยงามมาก จุดแวะแรกที่แนะนำคือ บึงไทโช (Taisho Pond) ที่กำเนิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ในหน้าร้อนมีเรือพายให้เช่าออกไปเที่ยวเล่นในบึงได้ แลนด์มาร์คสำคัญคือ สะพานคัปปะ (Kappa Bridge) ที่มีภูเขาไฟยาเกะเป็นฉากหลังงดงามมาก อีกจุดที่ถ่ายรูปสวยงามคือ บึงทะชิโระ (Tashiro Marshland) สวยมากช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง ไฮไลต์อีกแห่งคือ แม่น้ำอะซุสะ (Azusa River) ที่น้ำเป็นสีฟ้าใสแจ๋วราวกับกระจก ใครไปเที่ยวหุบเขานี้มีบริเวณที่ตั้งแคมป์ให้ด้วย ห่างจากสะพานคัปปะเพียงแค่ 5 นาที เงียบสงบน่าปลีกวิเวกมาก

5.เนินทรายทตโตริ (Tottori Sand Dunes)
เป็นเนินทรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น มีความสูง50 เมตร ความยาว 16 กิโลเมตร และมีความกว้างถึง 2 กิโลเมตร ถือเป็นไฮไลท์ของจังหวัดทตโตริเลยก็ว่าได้ อยู่ในเขตของอุทยานธรณีซันอินไคกัง (Sanin Kaigan National Park) ไปเที่ยวได้ตลอดปี มีกิจกรรมน่าสนุกมากมาย ทั้งการขี่อูฐบนเนินทราย หรือนั่งเกวียนที่ลากด้วยม้า การเล่นแซนบอร์ด หรือกระดานทราย เล่นร่มร่อนพาราไกลดิ้ง ได้ชมวิวจากมุมสูงชมทิวทัศน์กว้างไกลฟินไม่แพ้กิจกรรมผาดโผนอื่นๆ

หรือสายโรแมนติกชอบดื่มด่ำกับบรรยากาศก็ไม่ควรพลาดกับเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น https://www.krungsricard.com/th/article/สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น