ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


โพสต์สลิปโอนเงินได้ไหม? พร้อมวิธีป้องกันมิจฉาชีพในโลกออนไลน์

ตอนนี้การซื้อขายสินค้าไม่ว่าจะข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้า หรือของอื่น ๆ ล้วนแล้วแต่นิยมขายทางออนไลน์ ร้านค้าส่วนมากมักเปิดเพจบน Facebook บางครั้งก็ต้องมีการโพสต์สลิปโอนเงินเพื่อยืนยันการโอน แต่ด้วยกฎการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ที่เข้มงวดมากขึ้น และนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องทำให้รัดกุม ทำให้ข้อมูลบางอย่างอาจจะผิดกฎของ Facebook

พ่อค้าแม่ค้าหลายรายที่เพจปลิว หรืออยู่ดี ๆ ก็โดนปิดเพจ ซึ่งส่วนมากมักเกิดจากความไม่รู้ว่าโพสต์อะไรได้หรือไม่ได้ มาดูกันว่าจริง ๆ แล้ว โพสต์สลิปโอนเงินได้ไหม? Facebook ห้ามโพสสลิปจริงหรือ ! แล้วอะไรบ้างที่ห้ามโพสต์หน้าเพจ รับรองว่าขายของสะดวก ไม่โดนปิดเพจอย่างแน่นอน

จริงหรือไม่ ! Facebook ห้ามโพสต์สลิป
ข้อมูลที่ห้ามโพสต์ใน Facebook (เสี่ยงโดนแบน)
1. ข้อมูลระบุตัวตน
2. ข้อมูลติดต่อส่วนบุคคล
3. ข้อมูลทางการเงิน
4. รายละเอียดอยู่อาศัย
5. ข้อมูลทางการแพทย์
6. ข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งข้อมูลที่ถูกแฮ็ก
สลิปโอนเงินจำเป็นต้องปิดชื่อผู้โอนหรือไม่ ?
5 วิธีป้องกันพร้อมรับมือมิจฉาชีพในโลกออนไลน์
1. ไม่หลงเชื่อข้อความเชิญชวน
2. ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลลงพื้นที่สาธารณะ
3. สมัครบริการแจ้งเตือนเงินเข้า-ออก
4. จำกัดวงเงินการถอนเงินในแต่ละวัน
5. ตั้งค่าความปลอดภัยในบัญชีออนไลน์
จริงหรือไม่ ! Facebook ห้ามโพสต์สลิป
หลาย ๆ คนคงจะเห็นผ่านตาจากการแชร์ตามแหล่งโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ว่า Facebook มีการเพิ่มกฎระเบียบในการโพสต์ข้อมูล เพื่อที่จะรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน และป้องกันความเสี่ยงที่ผู้ใช้งานจะโดนโจรกรรมข้อมูล ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอัตรายจากการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ให้สังคมในนั้นมีความปลอดภัย จึงมีการออกกฎระเบียบใหม่ ๆ ที่ดูเหมือนจะเข้มงวดมากขึ้นเรื่อย ๆ เข้ามาอยู่เสมอ รวมไปถึงมีข่าวออกมาเตือนว่า Facebook ห้ามโพสต์สลิป

โพสต์สลิปโอนเงินได้ไหม
Facebook โพสต์สลิปโอนเงินได้ไหม ? หากอ้างอิงจากนโยบายมาตรฐานชุมชนที่อัปเดตล่าสุดในปี 2023 มีข้อหนึ่งได้ระบุว่า ผู้ใช้งานห้ามโพสต์ข้อมูลที่เอื้อต่อการขโมยข้อมูลที่ระบุตัวตน โดยการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินส่วนบุคคลทั้งของตนเองและข้อผู้อื่น สลิปโอนเงินที่เป็นการโอนเงินส่วนบุคคล ย่อมเข้าข่ายที่จะผิดกฎของ Facebook ได้ เพราะมีข้อมูลของทั้งผู้โอนและผู้รับเงินปรากฎอยู่บนสลิป ดังนั้น พ่อค้าแม่ค้าที่มีการขายของหน้าเพจก็ต้องระมัดระวังในการโพสต์มากยิ่งขึ้น หากต้องการส่งหลักฐานการโอนเงิน แนะนำว่าให้ส่งในแชทข้อความส่วนตัว ปลอดภัยแน่นอน

ข้อมูลที่ห้ามโพสต์ใน Facebook (เสี่ยงโดนแบน)
นอกจาก Facebook ห้ามโพสต์สลิปแล้ว ยังมีข้อมูลอื่น ๆ ที่ไม่สามารถโพสต์ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นบัญชีส่วนตัวหรือเพจร้านค้า หากเข้าข่ายผิดกฎ ก็มีสิทธิโดนปิดเพจ หรือโดนแบนไม่ให้ใช้แพลตฟอร์มไปเลย โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าอาจจะต้องระวังเป็นพิเศษในเรื่องการโพสต์ ที่บางครั้งอาจจะมีรูปภาพที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าปรากฎอยู่ ไปดูกันเลยว่ามีข้อมูลอะไรบ้างที่ห้ามโพสต์

โพสต์สลิปโอนเงินได้ไหม
1. ข้อมูลระบุตัวตน
ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของตัวเองหรือผู้อื่นได้ โดยสามารถระบุได้ผ่านชื่อ และหมายเลขที่ออกโดยทางการ เช่น

หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง
ข้อมูลทะเบียนพลเมือง เช่น เอกสารการสมรส ใบสูจิบัตร ใบมรณะบัตร เอกสารเปลี่ยนชื่อ ยกเว้นบัตรประตัวนักเรียน นักศึกษา สามารถเปิดเผยได้
เอกสารสถานะการพำนักและการเดินทาง เช่น วีซ่า ใบอนุญาติทำงาน
ใบขับขี่หรือป้ายทะเบียน ยกเว้นการแชร์เพื่อตามหาเจ้าของ
ข้อมูลระบุตัวตนทางดิจิทัล เช่น รหัส PIN รหัสผ่านโซเชียลมีเดีย
2. ข้อมูลติดต่อส่วนบุคคล
สำหรับข้อมูลติดต่อส่วนบุคคลจะรวมทั้งแต่หมายเลขโทรศัพท์มือถือ อีเมลส่วนบุคคล โดยส่วนนี้จะมีข้อยกเว้นเมื่อเป็นการแชร์ที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูล หรือเจ้าของข้อมูลมีการเปิดเผยต่อสาธารณะ

ข้อยกเว้น

แชร์เพื่อสนับสนุนโครงการการกุศล
การตามหาผู้คน สัตว์ หรือวัตถุที่สูญหาย
การติดต่อธุรกิจหรือผู้ให้บริการ
3. ข้อมูลทางการเงิน
รายการที่แสดงข้อมูลทางการเงินต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หมายเลขบัญชีธนาคาร รหัส PIN สลิปโอนเงิน รวมไปถึงข้อมูลที่ปรากฎในบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตทั้งหมด

4. รายละเอียดอยู่อาศัย
พ่อค้าแม่ค้าต้องระวังข้อนี้ให้ดี ! เพราะหากมีการโพสต์ที่อยู่ลูกค้า หรือรูปภาพพัสดุที่ถ่ายติดที่อยู่ในการจัดส่ง จะถือว่าผิดกฎของ Facebook โดยทันที ยิ่งไปกว่านั้น เลขพัสดุ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่สามารถนำไปค้นหารายละเอียดที่อยู่อาศัยได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นร้านค้าจึงควรปิดเลขพัสดุก่อนนำไปโพสต์ลงโซเชียล

5. ข้อมูลทางการแพทย์
เอกสารทางการแพทย์ถือเป็นสิ่งต้องห้ามในการโพสต์ ทั้งเอกสารทางด้านจิตวิทยา โรคทางพันธุกรรม หรือเอกสารที่ออกโดยเวชระเบียนโรงพยาบาล

6. ข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งข้อมูลที่ถูกแฮ็ก
แน่นอนว่าหากไปแฮ็กข้อมูลคนอื่นแล้วนำมาเปิดเผย ไม่เพียงแต่ถือว่าผิดกฎการใช้งาน Facebook เท่านั้น แต่ยังอาจเข้าข่ายการกระทำที่ผิดกฎหมายอีกด้วย ยกเว้นแต่ว่าเป็นการรายงานข่าว โดยตัดเพียงเนื้อหาสาระสำคัญ ก็สามารถที่จะแชร์ได้

อ้างอิงจาก: นโยบายมาตรฐานชุมชน

สลิปโอนเงินจำเป็นต้องปิดชื่อผู้โอนหรือไม่ ?
โพสต์สลิปโอนเงินได้ไหม
ถึงแม้จะไม่สามารถโพสต์สลิปโอนเงินลงหน้าเพจ Facebook ได้แล้ว แต่บางครั้งเมื่อจำเป็นจะต้องส่งหลักฐานการโอนเงินไปให้ผู้รับเงิน หรือแนบหลักฐานเป็นไฟล์ภาพบนเว็บไซต์อื่น ๆ จึงเกิดคำถามว่าโอนเงิน ปิดชื่อผู้โอนหรือไม่ ?

ในความเป็นจริงแล้ว อาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องปิดชื่อผู้โอน เพราะผู้รับเงินก็ต้องการที่จะตรวจสอบข้อมูลว่าเราเป็นผู้โอนหรือไม่ แต่เรื่องที่ควรจะต้องระวังเป็นพิเศษคือ ไม่ควรส่งเลขบัญชีธนาคารให้กับคนแปลกหน้า หรือโพสต์ในที่สาธารณะ เพราะในปัจจุบัน มิจฉาชีพมีวิธีการมากมายที่คอยแฮ็กบัญชี การเปิดเผยเลขบัญชีธนาคารอาจนำไปสู่การปลอมแปลงตัวบุคคลแล้วไปทำธุกรรมการเงินให้เกิดความเสียหายแก่เราได้

5 วิธีป้องกันพร้อมรับมือมิจฉาชีพในโลกออนไลน์
วิธีป้องกันมิจฉาชีพในโลกออนไลน์
1. ไม่หลงเชื่อข้อความเชิญชวน
เมื่อเจอคำเชิญชวนหรือคำโปรยโฆษณาต่าง ๆ แล้วให้กดลิงก์เข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ให้ระวังทันทีว่าจะเป็นลิงก์ปลอม ลิงก์ใด ๆ ก็แล้วแต่ควรมาจากเว็บไซต์ทางการ และเว็บไซต์ควรขึ้นต้นด้วย https:// พร้อมสัญลักษณ์กุญแจทางด้านหน้า

2. ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลลงพื้นที่สาธารณะ
ไม่โพสต์ข้อมูลส่วนตัว หรือกรอกข้อมูลส่วนตัวลงในลิงก์หรือแพลตฟอร์มที่เราไม่รู้ที่มาที่ไป ถือเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่มิจฉาชีพนิยมในการหลอกแฮ็กข้อมูล

3. สมัครบริการแจ้งเตือนเงินเข้า-ออก
เงินจะเข้าจะออกก็ต้องรู้ทันที ผ่านบริการจ้งเตือนจากทางธนาคาร หากพบว่ามีเงินถอนออกโดยที่เราไม่ได้เป็นผู้กระทำธุรกรรมนั้น ๆ ต้องรีบอายัดบัตรหรือบัญชีนั้นทันที

4. จำกัดวงเงินการถอนเงินในแต่ละวัน
ยิ่งเงินในบัญชีเยอะยิ่งมีหวั่น ! หากถูกมิฉาชีพถอนเงินแบบไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นอยากแนะนำให้ทุกคนตั้งค่าเพื่อจำกัดวงเงินในการถอนออก ว่าวันนึงสามารถถอนได้กี่บาท โดยอาจจะคำนวณจากรายจ่ายต่อวัน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยไม่ให้เงินถูกถอนไปเสียหมด

5. ตั้งค่าความปลอดภัยในบัญชีออนไลน์
บัญชีออนไลน์ ทั้งอีเมล บัญชีโซเชียลมีเดีย หรือบัญชีบนแอปชอปปิ้งออน์ไลน์ล้วนมีความเสี่ยงในการที่คนอื่นสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ เช่นการไปล็อกอินในคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น คอมพิวเตอร์สาธารณะ ควรจะมีการตั้งค่ารหัสผ่านสองชั้น หรือตั้งค่าให้มีการยืนยันตัวตนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในบัญชีให้มากขึ้น