ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้าน

ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้าน
« เมื่อ: ตุลาคม 04, 2023, 11:23:53 AM »
ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้าน
ใครที่ผ่อนบ้านมาแล้ว 3 ปี หรือพึ่งจะผ่อนบ้านต้องรู้ว่าปกติแล้วดอกเบี้ยบ้านใน 3 ปีแรกจะเป็นดอกเบี้ยแบบคงที่ก็คือ ดอกเบี้ยจะเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าดอกเบี้ยนโยบายจะเพิ่มหรือลด แต่พอเข้าปีที่ 4 ดอกเบี้ยจะเปลี่ยนเป็นแบบลอยตัวในทันที เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแรกเลยก็คือ ดอกเบี้ยแพงขึ้น อย่างที่ 2 ดอกเบี้ยบ้านจะถูกเพิ่มหรือลดตามประกาศดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย

นี่จึงเป็นสาเหตุที่หลายคนหันมาสนใจหรือเริ่มต้นรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อให้ดอกเบี้ยถูกลง และดอกเบี้ยกลับมาคงที่

แต่การรีไฟแนนซ์บ้านก็ต้องมีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่าย ดังนั้นบทความนี้เราจะมาดูค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการรีไฟแนนซ์บ้าน และมาเข้าใจการรีไฟแนนซ์บ้านกัน

ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้าน กับรีเทนชั่นต่างกันไหม
ก่อนอื่นเรามาลองปรียบเทียบค่าใช้จ่ายระหว่าง 2 วิธียอดฮิตในการลดดอกเบี้ยบ้านกันก่อนดีกว่านั่นก็คือ รีเทนชั่น และ รีไฟแนนซ์บ้าน ซึ่งค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันระหว่างการรีไฟแนนซ์บ้าน และการรีเทนชั่นบ้าน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยดังต่อไปนี้

วัตถุประสงค์หลัก:

  • การรีไฟแนนซ์บ้าน: วัตถุประสงค์หลักของการรีไฟแนนซ์บ้านคือ การลดอัตราดอกเบี้ย โดยใน 3 ปีแรกธนาคารจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยต่ำและคงที่ แต่พอเข้าปีที่ 4 ดอกเบี้ยจะถูกเปลี่ยนเป็นดอกเบี้ยแบบลอยตัว และอัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้น การรีไฟแนนซ์จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยให้ถูกลงและทำให้ดอกเบี้ยกลับมาเป็นแบบคงที่
  • การรีเทนชั่นบ้าน: วัตถุประสงค์หลักของการรีเทนชั่นบ้านก็เหมือนกับการรีไฟแนนซ์บ้านตรงที่ทำเพื่อลดดอกเบี้ย เพียงแต่ดอกเบี้ยที่ลดจะไม่เยอะเท่ากับการรีไฟแนนซ์บ้าน

รูปแบบการกู้ยืม:

  • การรีไฟแนนซ์บ้าน: จะเป็นการขอสินเชื่อกับธนาคารใหม่ เป็นการกู้หนี้จากธนาคารใหม่เพื่อมาปิดหนี้บ้านที่ธนาคารเก่า โดยย้ายไปเป็นหนี้กับธนาคารใหม่แทน
  • การรีเทนชั่นบ้าน: เป็นการขอลดดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารเดิม ยังเป็นลูกหนี้กับธนาคารเดิม
ค่าใช้จ่าย:

  • การรีไฟแนนซ์บ้าน:ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้านจะแบ่งเป็น 2 แบบคือ แบบบังคับ เช่น ค่าประเมินบ้าน, ค่าอากรณ์แสตมป์, ค่าจดจำนอง, ค่าประกันอัคคีภัย ซึ่งในบางธนาคารก็จะมีโปรโมชันฟรีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เหล่านี้ส่วนค่าใช้จ่ายแบบไม่บังคับก็เช่น ค่าประกัน MRTA เป็นต้น
  • การรีเทนชั่นบ้าน: สำหรับการรีเทนชั่นจะมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าการรีไฟแนนซ์บ้านโดยจะมีแค่ค่าธรรมเนียม 1-2% ของยอดหนี้เดิม หรือ ยอดหนี้บ้านคงเหลือแล้วแต่ธนาคารจะกำหนด

อัตราดอกเบี้ย:

  • การรีไฟแนนซ์บ้าน: สำหรับดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านจะถูกกว่าดอกเบี้ยของการรีเทนชั่น โดยในปัจจุบันจะเฉลี่ย 3 ปีถูกสุด 3.27% แต่จากที่ได้ลองเข้าไปใช้บริการเปรียบเทียบรีไฟแนนซ์บ้านจาก Refinn ดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 3.25%
  • การรีเทนชั่นบ้าน: ส่วนดอกเบี้ยจากการรีเทนชั่นจะไม่แน่นอน แตกต่างกันไปในแต่ละธนาคารซึ่งจะน้อยกว่าดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน เช่น อาจจะลดลงจากเดิม 1-2%

การรีไฟแนนซ์บ้านและการรีเทนชั่นบ้านต่างมีข้อแตกต่างให้พิจารณาไม่ว่าจะเป็นเรื่องดอกเบี้ยที่ลดต่างกัน หรือ ค่าใช้จ่ายที่ต่างกัน ดังนั้นเรามาสรุปข้อดีข้อเสียของการรีไฟแนนซ์บ้านและการรีเทนชั่นกันดีกว่า

รีเทนชั่น (Retention)

ข้อดี:
   • ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า: การรีเทนชั่น มักมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการรีไฟแนนซ์เนื่องจากคุณไม่ต้องจ่ายค่าประเมินทรัพย์สินใหม่หรือค่าธรรมเนียมการจัดสัญญาใหม่
   • ไม่ต้องเปลี่ยนธนาคาร: คุณยังคงใช้ธนาคารหรือสถาบันการเงินเดิมและไม่ต้องเปลี่ยนแปลงสัญญากู้ยืมเงินที่มีอยู่ ซึ่งลดความซับซ้อนและเรื่องราวในกระบวนการ
   • ระยะเวลาที่รวดเร็ว: การรีเทนชั่น อาจใช้เวลาน้อยกว่าในการพิจารณาอนุมัติเมื่อเทียบกับกระบวนการรีไฟแนนซ์

ข้อพิจารณา:

   • อัตราดอกเบี้ยไม่ใช่ที่ต่ำสุด: คุณอาจไม่ได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดในตลาด เนื่องจากการ รีเทนชั่น จะขึ้นอยู่กับการต่อรองกับธนาคารเดิม

รีไฟแนนซ์ (Refinance)

ข้อดี:
   • อัตราดอกเบี้ยต่ำ: การรีไฟแนนซ์ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าซึ่งในระยะยาวจะทำให้สามารถประหยัดเงินได้มากกว่าการรีเทนชั่นเป็นหลักแสน
   • มีโอกาสขอเงินสดเพิ่ม: ถ้าหากธนาคารใหม่ประเมินราคาบ้านสูงกว่าหนี้บ้านคงเหลือของคุณ จะสามารถขอกู้เพื่อปิดหนี้ และกู้เพิ่มเพื่อใช้เอนกประสงค์ได้อีกด้วย

ข้อพิจารณา:

   • ค่าใช้จ่ายมากกว่า: การรีไฟแนนซ์มักมีค่าใช้จ่ายมากกว่า เช่น ค่าประเมินทรัพย์สินใหม่, ค่าธรรมเนียมการจัดสัญญา, และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสัญญาใหม่ แต่ทั้งนี้บางธนาคารก็มีโปรโมชันฟรีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้

การเลือกระหว่างรีเทนชั่นและรีไฟแนนซ์บ้าน ควรพิจารณาวัตถุประสงค์และสถานการณ์การเงินของคุณ รวมถึงค่าใช้จ่ายและอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมกับคุณ เพื่อตัดสินใจให้เหมาะสมสำหรับความต้องการและเป้าหมายการเงินของคุณในระยะยาวและระยะสั้น

ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้าน มีอะไรบ้าง
สำหรับค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้านมีหลายรายการที่คุณควรพิจารณาเมื่อคุณตัดสินใจที่จะทำการรีไฟแนนซ์บ้าน ค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปตามธนาคารหรือสถาบันการเงินที่คุณเลือก และสถานการณ์การเงินของคุณ ต่อไปนี้คือค่าใช้จ่ายที่มักปรากฏในกระบวนการรีไฟแนนซ์บ้าน:

   • ค่าประเมินบ้าน : จะอยู่ที่ประมาณ 2-3 พันบาท ซึ่งจะขึ้นอยู่กับหลักประกันด้วย
   • ค่าจดจำนอง : สำหรับค่าจดจำนองจะอยู่ที่ 1% ของวงเงินกู้ โดยจะต้องจ่ายตอนจดจำนองใหม่ ณ กรมที่ดิน
   • ค่าประกันอัคคีภัย : จะขึ้นอยู่กับมูลค่าบ้าน แต่ทั้งนี้ประกันอัคคีภัยจะมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงนักโดยจะอยู่ที่ 1-3 พันบาท
   • ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ : เช่น ค่าอากรแสตมป์ ซึ่งจะคิดเป็น 0.05% ของวงเงิน

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ควรถูกพิจารณาในการคำนวณว่าการรีไฟแนนซ์บ้านนั้นคุ้มค่าหรือไม่ และอาจมีการต่อรองเพื่อลดค่าใช้จ่ายบางรายการกับธนาคารหรือสถาบันการเงินของคุณ ทั้งนี้การใช้บริการผู้เชี่ยวชาญทางการเงินเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้านก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเมื่อต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน

ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้าน แต่ละที่ต่างกันไหม
เป็นเรื่องที่สำคัญในการเลือกธนาคารที่เหมาะกับความต้องการของคุณ เพราะค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจมีความแตกต่างไปตามนโยบายของแต่ละธนาคารและสถานะทางการเงินของคุณ นี่คือตัวอย่าง 8 ธนาคารที่มีดอกเบี้ยและโปรโมชันในการช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้านที่น่าสนใจ:

  1. ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB)
  • มีสองกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก คือ

 ◦สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ทีทีบีสำหรับลูกค้าที่รับเงินเดือนผ่านบัญชี TTB Payroll ที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยใน 3 ปีแรกต่ำสุดที่ 3.25% โดยมีวงเงินขั้นต่ำที่ 500,000 บาทและสูงสุดไม่เกิน 50,000,000 บาท

 ◦สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ทีทีบีสำหรับลูกค้าทั่วไป ที่ไม่มีบัญชีเงินเดือนผ่าน ทีทีบี ที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยใน 3 ปีแรกต่ำสุดที่ 3.35% ในกรณีลูกค้าทั่วไปที่สมัครพร้อมผลิตภัณฑ์เสริม 3 ประเภท โดยมีอัตราดอกเบี้ยในปีแรกที่ 2.75% และในปีที่ 2-3 คือ MRR-3.93% หรือตัวเลื่อย 1-3 คือ MRR-4.23%
 • สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านพร้อมที่ดินหรือห้องชุดคอนโดมิเนียมราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท ธนาคารจะให้วงเงินเท่ากับยอดหนี้เดิมหรือสูงสุดไม่เกิน 95% ของราคาประเมินที่ธนาคารกำหนด
 • ในกรณีการรีไฟแนนซ์บ้านพร้อมที่ดินหรือห้องชุดคอนโดมิเนียมราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ธนาคารจะให้วงเงินเท่ากับยอดหนี้เดิมหรือสูงสุดไม่เกิน 90% ของราคาประเมินที่ธนาคารกำหนด โดยเลือกตัวไหนต่ำกว่า และยังให้ระยะเวลากู้สูงสุดถึง 35 ปี โดยคำนึงถึงอายุของผู้กู้ซึ่งต้องไม่เกิน 65 ปี ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยฐานของธนาคารเป็น MRR = 7.580%

  2.ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์จำกัด (มหาชน) (LH Bank)
 • อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ยในระยะ 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 3.30% โดยใช้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวเป็นเกณฑ์ในการคำนวณ ตลอด 3 ปีแรก = MRR-5.25%
 • วงเงินกู้มีอัตราส่วน 100% ของภาระหนี้คงเหลือจากสถาบันการเงินเดิม แต่ไม่เกินราคาประเมินหลักประกัน
 • เงื่อนไขผู้กู้คือต้องมีรายได้ตั้งแต่ 75,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป

  3.ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
 • อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ยในระยะ 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 3.35%
 • ในกรณีที่หลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยในกลุ่มโครงการที่มีข้อตกลงกับธนาคาร วงเงินกู้สูงสุดเท่ากับ 100% ของภาระหนี้คงเหลือ แต่มีเงื่อนไขให้อนุมัติวงเงินตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป และอยู่ในกรณีของการทำประกันคุ้มครองสินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัยทั่วไปที่ไม่มีข้อตกลงกับธนาคาร อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์เฉลี่ยในระยะ 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 3.55% โดยให้วงเงินกู้สูงสุดเท่ากับ 100% ของภาระหนี้คงเหลือ แต่มีเงื่อนไขให้อนุมัติวงเงินตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป และอยู่ในกรณีของการทำประกันคุ้มครองสินเชื่อ

  4.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY)
 • อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ยในระยะ 3 ปีอยู่ที่ 3.50%
 • แบ่งเป็น อัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอด 3 ปี คือ ปีที่ 1 = 2.50% ปีที่ 2 = 3.50% และปีที่ 3 = 4.50%
 • วงเงินกู้สูงสุดที่ 95% ของราคาประเมินหลักประกัน
 • ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดถึง 30 ปี (รวมระยะเวลาผ่อนชำระและอายุของผู้กู้ต้องไม่เกิน 65 ปี)
 • เงื่อนไขผู้กู้คือต้องมีรายได้ตั้งแต่ 75,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป

  5.ธนาคารกรุงไทย (KTB)
 • อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยในระยะ 3 ปีอยู่ที่ 3.62%
 • สำหรับสินเชื่อรีไฟแนนซ์แบบทำประกัน มีอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 = MRR-3.70%
 • สำหรับสินเชื่อรีไฟแนนซ์แบบไม่ทำประกัน มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีอยู่ที่ 3.72%
 • วงเงินกู้สูงสุดที่ 100% ของภาระหนี้คงเหลือจากสถาบันการเงินเดิม
 •ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดถึง 40 ปี

  6.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (G H Bank)
 • อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านสุขสันต์สำหรับกลุ่มลูกค้าสวัสดิการอยู่ที่ 3.75%
 • วงเงินกู้สูงสุดตามเกณฑ์หลักประกันและรายได้ตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อของธนาคาร
 • สำหรับลูกค้าทั่วไปหรือกลุ่มลูกค้ารายย่อย อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีอยู่ที่ 3.85%
 • วงเงินสูงสุดตามเกณฑ์หลักประกันและรายได้ตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อของธนาคาร
 • ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดถึง 40 ปี

  7.ธนาคารกสิกรไทย (Kbank)
 • สำหรับบ้านในโครงการของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นพันธมิตรของธนาคาร
  ◦ อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน MRR = 3.15% ตลอด 3 ปีแรก
  ◦ อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีเท่ากับ 3.90%
  ◦ วงเงินกู้ไม่เกิน 100% ของราคาประเมินหลักประกัน
 
 • สำหรับโครงการทั่วไปที่ต้องการลดดอกเบี้ย:
  ◦ อัตราดอกเบี้ยตามอัตราสินเชื่อเงินให้ธนาคารที่ MRR = 7.050% ในช่วง 3 ปีแรก
  ◦ วงเงินกู้สูงสุด 90% ของมูลค่าหลักประกัน
  ◦ ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 30 ปี (อายุผู้กู้ไม่เกิน 70 ปี)

  8.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
 • สินเชื่อทั่วไปที่รีไฟแนนซ์จากสถาบันการเงินอื่นมาขอลดดอกเบี้ยบ้าน มี 2 รูปแบบของอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน: แบบทำประกัน และแบบไม่ทำประกัน
 • เงื่อนไขการทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อคือต้องมากกว่า 70%
 • วงเงินกู้สูงสุดต้องไม่เกินวงเงินสินเชื่อเคหะเท่ายอดหนี้เดิมของวงเงินกู้
สำหรับลูกค้าทั่วไป ลูกค้าโครงการ / ลูกค้าองค์กร:อัตราดอกเบี้ยพิเศษขึ้นอยู่กับประเภทโครงการหรือประเภทองค์กร

รีไฟแนนซ์บ้านที่ไหนดี
อ่านมาจนถึงตรงนี้หลายคนก็คงอยากรีไฟแนนซ์บ้านกันแล้วใช่ไหมครับ แต่ธนาคารที่มีบริการรีไฟแนนซ์บ้านก็มีเต็มไปหมด และแต่ละธนาคารก็มีโปรโมชันไม่เหมือนกัน ลำพังจะให้ไปนั่งหาโปรโมชันทีละธนาคารมาเปรียบเทียบเองก็เสียเวลาอีก พอเลือกได้แล้วก็ต้องเข้าไปคุยทีละธนาคารอีก

ดังนั้นผมขอแนะนำแพลตฟอร์มที่จะเข้ามาช่วยให้การรีไฟแนนซ์บ้านของคุณสะดวกและง่ายยิ่งขึ้นอย่าง Refinn ซึ่งทาง Refinn เขาได้รวบรวมโปรโมชันรีไฟแนนซ์บ้านจากธนาคารชั้นนำมาไว้ในที่เดียว ให้คุณได้เปรียบเทียบและเลือกสมัครได้ตามที่ต้องการโดยทาง Refinn และที่สำคัญเขายังมีเจ้าหน้าที่คอยติดตามและดำเนินเรื่องให้ตั้งแต่ต้นจนเสร็จสิ้นกระบวนการ

เรียกได้ว่าถ้าเข้าไปใช้บริการรีไฟแนนซ์บ้านกับ Refinn คุณจะแทบไม่ได้ยุ่งยากทำอะไรเลยแค่กรอกข้อมูลและรอเจ้าหน้าที่ประสานงานให้ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถรีไฟแนนซ์บ้านได้แล้ว

สรุป
สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านนั้นแน่นอนว่าสามารถลดดอกเบี้ยได้มากกว่าการรีเทนชั่นแต่ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายบ้างเล็กน้อย แต่ระยะยาวแน่นอนว่าการรีไฟแนนซ์บ้านประหยัดดอกเบี้ยได้มากกว่าเป็นหลักแสน ซึ่งจริง ๆ แล้วหลายคนที่บอกว่ารีไฟแนนซ์บ้านแพงเพราะไปเลือกทำประกัน MRTA เพราะคิดว่าถ้าทำแล้วจะได้ดอกเบี้ยถูกกว่า หรือ ถ้าไม่ทำแล้วจะส่งผลให้การรีไฟแนนซ์บ้านไม่ผ่านการอนุมัติ ต้องบอกว่าไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน เพราะประกัน MRTA เป็นประกันภาคบังคับ จะทำหรือไม่ทำก็ได้

โดยประกัน MRTA มีข้อดีตรงที่ว่าถ้าผู้ทำประกันเสียชีวิตในขณะที่ยังผ่อนชำระหนี้บ้านไม่หมด หนี้จะถูกยกเว้นในทันทีและบ้านก็จะตกไปเป็นมรดกของผู้ที่สืบต่อทางสายเลือดตามกฎหมาย

ดังนั้นใครที่กำลังจะรีไฟแนนซ์บ้านและเข้าใจเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้วก็ขอแนะนำอีกครั้งให้เข้าไปใช้บริการรีไฟแนนซ์บ้านกับทาง Refinn เพื่อความสะดวกและรวมเร็ว รวมถึงยังสามารถปรึกษากับผู้เชียวชาญทางการเงินได้อีกด้วย