รถเสีย เป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่คนใช้รถไม่อยากเจอ โดยเฉพาะเมื่อเกิดปัญหา รถเสียระหว่างทาง หรือในขณะที่กำลังเดินทางอยู่เพียงลำพัง หรือขณะที่กำลังเดินทางในช่วงกลางคืน เพราะจะเพิ่มความยุ่งยากอีกมากในการจัดการกับปัญหา
ความจริงแล้วมีเทคนิคที่น่ารู้สำหรับคนใช้รถที่จะสามารถรับมือกับเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ได้อย่างไม่ต้องกังวล ซึ่งได้แก่
ตรวจสอบสัญญาณความผิดปกติของเครื่องยนต์ เพื่อจัดการให้เรียบร้อยก่อนที่จะเกิดปัญหาระหว่างเดินทาง โดยผู้ใช้รถสามารถตรวจสอบสัญญาณเบื้องต้นเหล่านี้อย่างง่าย ๆ นั่นก็คือ
รถสตาร์ทติดยาก ถือเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนว่าการทำงานของเครื่องยนต์ไม่ปกติหรือเริ่มเกิดปัญหาขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากแบตเตอรี่เสื่อม, ขั้วแบตเตอรี่สกปรก, อะไหล่บางตัวมีความผิดปกติ และมีปัญหาที่ระบบไฟเป็นต้น หากพบปัญหารถสตาร์ทติดยากและปล่อยทิ้งไว้โดยไม่หาสาเหตุและจัดการแก้ไข ก็อาจทำให้เกิดปัญหา รถเสียระหว่างทาง ขึ้นได้
แอร์ไม่เย็น เป็นอีกสัญญาณที่บ่งบอกความไม่ปกติของเครื่องยนต์ได้เช่นกัน มีทั้งแบบที่แอร์มีแต่ลมเป่าแต่ไม่มีความเย็น หรือแอร์เย็นบ้าง ไม่เย็นบ้าง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสัญญาณแจ้งเตือนว่าต้องนำรถไปเช็กหาสาเหตุและแก้ไขโดยเร็ว หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดปัญหา รถเสีย ในขณะเดินทางได้
หากเกิดปัญหารถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นขณะเดินทาง หรือระหว่างใช้ทางด่วน, มอเตอร์เวย์ หรือทางพิเศษอื่น ๆ นั้น ควรค่อย ๆ นำรถเข้าไหล่ทางด้านซ้ายแล้วเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อเป็นสัญญาณให้รถที่ตามหลังทราบว่าเกิดปัญหาขึ้น
ถ้าในรถมีอุปกรณ์จราจรสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมสะท้อนแสง หรือที่เรียกว่า ไม้สามเหลี่ยมฉุกเฉิน ให้นำมาวางไว้บริเวณด้านท้ายรถ โดยเว้นระยะให้ห่างจากรถประมาณ 30-50 เมตร เพื่อแจ้งเตือนรถที่ตามมา หากไม่มีสัญลักษณ์ดังกล่าว ก็สามารถใช้ยางอะไหล่ในรถมาวางเพื่อป้องกันอันตรายจากรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง
หาก
รถเสียบนทางด่วนโทร ติดต่อหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือ อาทิ ตำรวจทางหลวง ที่หมายเลขโทรฉุกเฉิน 1193, ทางหลวงชนบท หมายเลขโทรฉุกเฉิน 1146 หรือ สายด่วนจราจร หมายเลข 1197 เพื่อขอรับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว
ระหว่างรอเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ ควรนั่งรอในรถ และคาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อยเพื่อความปลอดภัย
หากเป็นเหตุขัดข้องจากกรณีเกิดอุบัติเหตุ ก็จะต้องเรียกตัวแทนจากบริษัทประกันภัย เพื่อให้มายังจุดเกิดเหตุให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้หากยังไม่มีประกันภัยที่จะให้ความคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุ ผู้ใช้รถก็ควรสร้างความอุ่นใจด้วยการเลือกประกันภัยแบบที่ให้ความคุ้มครองตรงกับความต้องการ อาทิ ประกันภัย “กรุงไทย อัลตร้าแคร์” ที่มีความคุ้มครองทั้งกรณีได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ซึ่งจะมีค่ารักษาพยาบาลให้สูงสุดถึง 20,000 บาท และยังมีความคุ้มครองอื่น ๆ ในกรณีรถเกิดปัญหาระหว่างการเดินทาง เช่น น้ำมันหมด, แบตเตอรี่หมดหรือยางแบน ก็จะได้รับความคุ้มครองด้วยเช่นเดียวกัน โดยสามารถสมัครใช้บริการ บัตรกรุงไทยอัลตร้าแคร์ ได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาหรือ สมัครใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT
เทคนิคต่าง ๆ เหล่านี้ทั้งการตรวจเช็กรถยนต์สม่ำเสมอและก่อนการเดินทาง เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินไว้ให้พร้อม รวมถึงการทำประกันภัยเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ ก็จะช่วยให้คนใช้รถอุ่นใจได้ทุกครั้งที่เดินทาง