เมื่อกล่าวถึง “ยางรถยนต์” ผู้ใช้รถส่วนใหญ่จะนึกถึงยางประเภทนุ่มเงียบหรือไม่ก็ยางประหยัดน้ำมัน ซึ่งถือเป็นยางที่พบเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนน แต่สำหรับนักขับสายลุยตัวจริงย่อมจะต้องนึกถึง
ยางออฟโรด ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการออกทริปขึ้นเขาลงห้วยลุยน้ำลุยโคลน แต่ถึงอย่างนั้นยางประเภทนี้ก็มีข้อมูลทางเทคนิคที่ค่อนข้างมาก ทำให้นักขับมือใหม่อาจจะยังไม่คุ้นเคยดีพอ ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับยางประเภทออฟโรด ว่าต่างจาก
ยางรถเก๋ง ยังไง พร้อมแนะนำวิธีดูแลรักษายางให้ใช้งานได้ยาวนาน
ยางแบบออฟโรดทำหน้าที่อะไรบ้าง? สำหรับยางรถยนต์แบบออฟโรดหรือบางคนอาจจะเรียกว่า ยาง suv เป็นยางที่ถูกออกแบบมาสำหรับการขับขี่แบบสมบุกสมบันโดยเฉพาะ รถยนต์ที่ใช้ยางประเภทนี้มักจะเป็นรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือรถ SUV ซึ่งเป็นรถที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากกว่ารถเก๋งทั่วไป โครงสร้างของยางจึงถูกออกแบบให้มีความแข็งแรงกว่ายางแบบนุ่มเงียบที่ใช้กับรถเก๋งส่วนใหญ่ โดยดอกยางของยางชนิดนี้จะมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ร่องดอกยางมีความลึกและกว้างมากกว่าปกติ เพื่อใช้ตะกุยดินโคลนหรือพื้นทรายได้ รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ใช้ยางประเภทนี้ ได้แก่ Toyota Fortuner, Ford Ranger, Jeep Cherokee, Toyota Revo Rocco, Isuzu D-Max V-Cross, Nissan Navara, Chrysler Cherokee เป็นต้น
รู้จักตัวอักษร “lt” สำหรับตัวอักษร “lt” ย่อมาจาก “light truck” ซึ่งก็คือรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือรถกระบะขนาดเล็ก โดยยางที่มีตัวอักษรนี้จะสามารถสูบลมได้ไม่น้อยกว่า 60 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ช่วยให้รับน้ำหนักบรรทุกได้มากเป็นพิเศษ แถมยังขับขี่ได้ระยะทางไกลอีกด้วย ดังนั้นหากยางรถเส้นใดที่มีตัวอักษร lt กำกับอยู่นั่นหมายความว่ายางดังกล่าวได้มาตรฐาน “light truck” สำหรับรถขับเคลื่อน 4 ล้อหรือรถ SUV บางรุ่นจะมีการติดตั้งยางมาตรฐาน lt มาให้ตั้งแต่โรงงานแล้ว
ตัวเลขขนาดยางของยางออฟโรด นอกจากมีตัวอักษร lt กำกับอยู่บนยางแล้ว ยังมีกลุ่มตัวเลขและตัวอักษรภาษาอังกฤษซึ่งเป็นการระบุให้ทราบถึงข้อมูลเกี่ยวกับขนาดของยางออฟโรดเส้นนั้น ๆ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้รถเลือกยางได้เหมาะกับการใช้งาน เช่น 265/60R18 หมายถึง ยางเส้นนี้มีหน้ายางกว้าง 265 มิลลิเมตร, อัตราความสูงแก้มยางอยู่ที่ 60%, ตัว R หมายถึงยางเรเดียล (Radial) และมีเส้นผ่านศูนย์กลางกระทะล้อ 18 นิ้ว เป็นต้น
วิธีดูแลรักษายางออฟโรดที่สายลุยไม่ควรมองข้าม ขึ้นชื่อว่า “ยางรถยนต์” ไม่ว่าจะเป็นยางประเภทไหนก็ย่อมต้องการการดูแลรักษาเพื่อให้ใช้งานได้อย่างยาวนานด้วยกันทั้งนั้น แต่สำหรับ ยาง ออฟ โร ด นั้นอาจจะต้องเพิ่มความละเอียดรอบคอบมากเป็นพิเศษ เพราะหากไม่ระวังแล้วยางเกิดมีปัญหาขณะออกทริปอยู่กลางป่ากลางเขาก็คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่ออกทริปเสร็จควรกลับมาตรวจเช็กตะกั่วถ่วงล้อว่ามีหลุดหายไประหว่างทางหรือไม่ และหากเป็นไปได้ควรนำยางไปทำการ “ล้างขอบ” ซึ่งเป็นการถอดยางออกจากล้อเพื่อทำความสะอาดเอาเศษดิน เศษโคลน เศษทราย ที่มักจะอัดรวมกันอยู่ระหว่างล้อกับยางออกไปเพื่อป้องกันไม่ให้ลมยางรั่วซึม
ส่วนการเติมลมยางให้ใช้หลักเติมลมยางในช่วงที่ยางยังเย็น จากนั้นให้ลองวิ่งไปสัก 1 ชั่วโมง แล้วลองวัดแรงดันลมยางอีกครั้ง หากลมยางเพิ่มขึ้น 4 ปอนด์ ถือว่าลมยางใช้ได้ แต่หากน้อยกว่านั้นแสดงว่าเราเติมลมมากไปหรือหากเกินกว่านั้นแปลว่าลมยางน้อยไป
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับยางออฟโรดที่ผู้ใช้รถสายลุยทุกคนควรนำไปศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการออกทริปครั้งต่อไป แต่สำหรับใครที่กำลังมองหายางแบบออฟโรด ยาง suv รวมถึงคนที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ ยาง รถยนต์ ขอบ 18 ยี่ห้อ ไหน ดี วันนี้เราก็มียาง DUELER ALL TERRAIN 697 ของ Bridgestone มาแนะนำกัน โดยยางรุ่นนี้เป็นยางแบบ All Terrain ระดับพรีเมียม เพิ่มประสิทธิภาพการรีดน้ำเหนือกว่ายางแบบออฟโรดทั่วไป ยึดเกาะได้ดีทุกสภาพถนน ทั้งยังรักษาความนุ่มสบายในการขับขี่ ลดเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยม ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่บนถนนในเมืองและถนนขรุขระตามต่างจังหวัด