เทียบความคุ้มครอง ประกันภัยรถยนต์ชั้นไหนเหมาะกับใครบ้าง?

[DigitalK]

   ซื้อรถยนต์คันหนึ่ง นอกจากจะเลือกยี่ห้อที่ใช่ รุ่นที่ชอบ และฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์แล้ว อย่าลืมเพิ่มความอุ่นใจด้วยการซื้อประกันภัยรถยนต์เพื่อช่วยเป็นหลักประกันว่าหากเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน อย่างน้อยคุณจะมีบริษัทประกันช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาลทั้งของตัวเองและคู่กรณี ซึ่งถือเป็นความคุ้มครองเพิ่มเติมที่ครอบคลุมกว่าการทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจหรือพ.ร.บ.นั่นเอง

   ส่องเหตุผล ทำไมรถทุกคันควรมีประกันภัยรถยนต์?
   บางคนอาจมองว่าการทำประกันภัยรถยนต์ถือเป็นเรื่องสิ้นเปลือง นอกจากค่างวดรถ ค่าบำรุงรักษา ค่าน้ำมัน และค่าทางด่วนที่ต้องจ่ายกันอยู่แทบทุกวันแล้ว ยังต้องมีค่าเบี้ยประกันรถมาให้จ่ายเพิ่มอีก ทำให้หลายคนตัดสินใจไม่ทำประกันประเภทนี้ แต่บอกเลยว่าเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ เพราะประกันรถมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมและคุ้มค่ากว่าที่คิด และนี่คือเหตุผลที่รถยนต์ทุกคันควรทำประกันไว้ เพื่อเพิ่มความอุ่นใจ
1. ช่วยคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุ ช่วยผ่อนหนักให้กลายเป็นเบาได้ ทั้งค่าซ่อมแซมและค่ารักษาพยาบาล
2. คุ้มครองและดูแลค่าซ่อมรถให้กรณีเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม พายุ ลูกเห็บ หรือกิ่งไม้หล่นใส่
3. คุ้มครองกรณีรถยนต์ถูกโจรกรรมและสูญหาย
4. ช่วยประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญาตามทุนประกัน
   เห็นความสำคัญของการทำประกันภัยรถยนต์กันแล้ว เชื่อว่าหลายคนต้องอยากทำประกันให้รถคันโปรดแล้วแน่นอน เราจึงมาเปรียบเทียบความคุ้มครองให้ดูกันชัด ๆ ว่าประกันรถชั้น 1 ชั้น 2 และชั้น 3 ที่มักได้ยินกันนั้น มีความแตกต่างกันอย่างไร แล้วแต่ละชั้น เหมาะกับใครบ้าง

   ประกันรถยนต์ชั้น 1
   ประกันรถชั้น 1 เป็นประกันรถที่มีความคุ้มครองครอบคลุมที่สุด รับผิดชอบทั้งคนในรถ คู่กรณี และบุคคลภายนอก รวมทั้งเงินค่าประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา เหมาะกับรถป้ายแดง มือใหม่หัดขับ คนที่ต้องขับรถทางไกล และต้องขับรถบ่อย ๆ อาจมีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุมากกว่าคนที่ไม่ค่อยได้ใช้รถ

   ประกันรถยนต์ชั้น 2
   ประกันรถชั้น 2 จะคุ้มครองรถเราในกรณีรถหายหรือไฟไหม้เท่านั้น หากเป็นอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี จะซ่อมให้เฉพาะคู่กรณีแทน ส่วนความคุ้มครองบุคคลภายนอกและภายในรถ จะได้รับความคุ้มครองและค่าชดเชยตามเงื่อนไข เหมาะกับรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปี และผู้ที่มีประสบการณ์การขับรถคล่องแล้ว

   ประกันรถยนต์ชั้น 3
   ประกันรถชั้น 3 คุ้มครองเฉพาะกรณีเกิดอุบัติเหตุ ไม่คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้ และโดนขโมย และซ่อมให้เฉพาะคู่กรณีเท่านั้น จึงเหมาะกับรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป และผู้ขับขี่มีความเชี่ยวชาญในการขับรถเท่านั้น

   และนี่คือข้อมูลที่ควรรู้ในการทำประกันภัยรถยนต์ทั้ง 3 รูปแบบ สามารถเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับรถยนต์และผู้ขับจากบริษัทประกันที่ใช่เพื่อเพิ่มความอุ่นใจในการขับขี่ได้เลย