ThaiFranchiseCenter Webboard

ThaiFranchiseCenter Webboard - Info Center

* สมัครสมาชิกเว็บบอร์ด ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ฟรี! *
หน้าแรก | เปิดร้านค้าฟรี! | โปรโมชั่นแฟรนไชส์ | ร้านหนังสือออนไลน์ | สนใจลงโฆษณา

ทางเว็บไซต์ ThaiFranchiseCenter.com ไม่มีส่วนรับผิดชอบกับข้อความต่างๆในเว็บบอร์ดแต่อย่างใด
    ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า-เซ้ง หรือ อื่นๆ (ผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย กรุณาใช้วิจารณญาณในการติดต่อทางธุรกิจ)


รู้จักรากฟันเทียม! ตัวช่วยตอบโจทย์ แก้ปัญหาฟันที่สูญเสีย

   ‘ฟัน’ นับเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการใช้ชีวิต ที่หากสูญเสียไปก็อาจส่งผลกระทบไม่น้อยต่อทั้งการกิน การพูด รวมถึงบุคลิกภาพที่อาจเปลี่ยนไปเมื่อไม่มีฟัน ซึ่งหากเป็นเมื่อก่อนเราอาจจะคุ้นเคยกับการทำฟันปลอม หรือใส่ฟันครอบ แต่ทั้งสองอย่างนั้นอาจไม่ตอบโจทย์ในความสมจริงและความรู้สึกที่เหมือนฟันเดิม ปัจจุบันจึงได้มีการใช้รากฟันเทียมที่ช่วยเข้ามาแก้ปัญหาตอบโจทย์ในด้านนี้ได้มากขึ้น


รากฟันเทียม คือการใช้วัสดุที่ทำจากไททาเนียมที่มีรูปร่างคล้ายรากฟัน มาทดแทนฟันที่หายไปในผู้ป่วย ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีทางด้านรากเทียมมีการพัฒนาไปมากจนสามารถย่นระยะเวลาการรักษาได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งรากฟันเทียมในปัจจุบันยังมีการยึดติดกับกระดูกได้เร็วและมีเทคนิคในการฝังและใส่ฟัน ที่เอื้อให้ผู้ป่วยสามารถได้รับการรักษาได้เร็วและมีประสิทธิภาพ ในบางรายผู้รักษาสามารถกลับมามีฟันได้ใน 1 วัน หรือภายใน 1 อาทิตย์

รากฟันเทียมมีรูปแบบใดบ้าง?

1.รากฟันเทียมแบบดั้งเดิม
เป็นการทำรากฟันเทียมหลังจากถอนฟันซี่ที่มีปัญหาออก จากนั้นรอให้กระดูกและแผลหายสนิท โดยใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือนตามสภาพช่องปากและขากรรไกรของแต่ละคน และเมื่อแผลหายสนิทแล้วจึงทำการผ่าตัดใส่รากเทียม จากนั้นรอจนกว่ากระดูกจะยึดติดกับรากฟันเทียมอย่างสมบูรณ์ จึงค่อยใส่ครอบฟันหรือทำสะพานฟันบนรากเทียม ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ได้ฐานฟันที่มั่นคง แข็งแรง แต่มีข้อจำกัดคือใช้ระยะเวลาในการรักษาค่อนข้างนาน

2.รากฟันเทียมหลังจากถอนฟันทันที
เป็นการใส่รากฟันเทียมทันทีหลังจากถอนฟันเสร็จเลย จากนั้นรอประมาณ 3-6 เดือน เพื่อให้รากฟันเทียมยึดกับกระดูก แล้วจึงครอบฟันหรือทำสะพาน ซึ่งวิธีนี้จะประหยัดเวลามากกว่า แต่ต้องให้ทันตแพทย์เฉพาะทางประเมินสภาพช่องปาก และกระดูกขากรรไกรร่วมด้วย

3.รากฟันเทียมพร้อมฟันปลอม
การทำรากฟันเทียมพร้อมฟันปลอม คือการใส่รากฟันเทียมที่ร่วมกับการครอบฟันในครั้งเดียว ซึ่งเป็นวิธีที่รวดเร็วที่สามารถลดขั้นตอนและเวลารักษาได้มาก แต่ก็มีข้อจำกัดมากเพราะเหมาะกับตำแหน่งฟันหน้าหรือฟันกรามน้อยเท่านั้น และต้องให้ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประเมินอย่างละเอียดว่ามี สภาพกระดูกขากรรไกรต้องสมบูรณ์ มีกระดูกเพียงพอในการฝังรากเทียม ลักษณะการสบของฟันเหมาะสมหรือไม่

   ซึ่งการทำรากฟันเทียมนับว่าต้องมีความละเอียดและรัดกุม และในหนึ่งเคสอาจต้องมีแพทย์พิจารณาร่วมกันมากกว่าหนึ่งคนขึ้นไป เช่น ทันตแพทย์ผู้ทำการออกแบบฟันปลอม ทันตแพทย์เฉพาะทางด้านการรักษาโรคในช่องปาก ศัลยแพทย์ช่องปาก เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่และสภาพช่องปากแต่ละบุคคล